Krabi cool กระบี่ ร่มเย็น วันนั้น
ผู้เข้าชมรวม
107
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
อยากให้คนทั้งหลาย ทั้งไทยทั้งเทศ รักกระบี่ รักและรักษากระบี่จริงๆ อนุรักษ์กระบี่ไว้ รักษาความสะอาดให้กระบี่ เก็บกระบี่ที่เขียวขจี เป็นเมืองกระบี่น่ารัก สุขสงบ ปลอดภัย ผู้คนกระบี่ใจดี จะได้อยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือน ไปตราบ.. นานเท่านาน....
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Krabi cool กระบี่ ร่มเย็น วันนั้น
และแล้วก่อนถึงวันแม่ 1 สัปดาห์ ผมก็พาแม่คุณทูนหัวเที่ยวกระบี่ได้อย่างสมใจเธอ เราเลือกการบินไทยไปกระบี่เช้าวันศุกร์ แลกไมล์มาได้ครับ บินอย่างเรียบๆแล้วก็ถึงสนามบินกระบี่ หาบริษัทรถเช่าที่เพื่อนของแม่คุณทูนหัวสมนาคุณคูปองรถเช่ามาให้ 2 วัน ปรากฏว่าเป็นบริษัทรถเช่าแห่งเดียวที่ไม่มีสำนักงานที่สนามบิน ก็โทรหากัน จนเจอ เป็นการเช่ารถครั้งแรกในชีวิต ก็ตื่นเต้นหลายอย่าง สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี พอได้ขึ้นรถ ขับออกตัวแล้ว รถดี ติดฟิล์มด้วย แอร์เย็นฉ่ำ เรามุ่งหน้าอำเภอเหนือคลอง อุดหนุนก๋วยจั๊บก่อน แล้ววางกำหนดว่า จะกลับมาทานขนมจีนมีชื่อตอนบ่าย วันแรกไปสระมรกต น้ำตกร้อน แวะดูลูกปัดโบราณที่คลองท่อม กลับมาทานขนมจีน แล้วไปวัดถ้ำเสือ ก่อนเข้าเมือง เดินเล่นซื้อของที่เอาท์เล็ท วิลเลจ เข้านอนที่โรงแรมริมแม่น้ำชื่อแบบไทยๆ ว่าโรงแรมเคียงทะเล แล้วเดินถนนคนเดินในเมืองกระบี่ ทานโรตีมีชื่อ กินอาหารกลางคืนแล้วนอน วันเสาร์เราขับรถมาคืน ก่อนมีรถมารับ ไปทัวร์ 4 เกาะ บ่าย 2 กลับมาเอารถแล้วแวะไปเที่ยวท่าปอม คลองสองน้ำ กลับมาในเมืองไปจนสุดปากน้ำกระบี่ กินอาหารเย็นที่อารีย์ ซีฟูดส์ แล้วมาเดินเล่นชมเมือง แวะทานโรตีมะตะบะ ก่อนเข้านอนพักที่โรงแรมเดิม วันสุดท้าย เราอิ่มอร่อยอาหารเช้าแบบติ่มซ้ำที่เฌอมา ตาแวว แล้วขับรถอย่างไกล ไปอุทยานธารโบกขรณี กลับมาดูสุสานหอย 75 ล้านปี ดูปลานีโม่ แล้วกินอาหารกลางวันที่โกส้วง ก่อนบินเรียบๆ กลับมาเปียกฝนที่กรุงเทพ โดยที่ไม่ได้เจอฝนซักเม็ดเลยที่กระบี่
ขับรถออกจากสนามบินกระบี่ เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าอำเภอเหนือคลอง เราหมายตาร้านโกจ้อย แต่ทว่าจะเปิดตอนบ่าย 2 โมงครับ นี่เพิ่ง10 โมงกว่าๆเองจึงอุดหนุนก๋วยจั๊บ ข้าวมันไก่ ร้านข้างเคียง ก็กินได้ครับ แล้วเราก็มาอยู่บนเส้นทางมุ่งหน้าสระมรกต ที่เป็น Unseen in Thailand สระน้ำสีเขียวมรกต ใจกลางป่า เป็นไปแล้วจริงๆด้วย เป็นสระว่ายน้ำกลางป่าครับ สระไม่ใหญ่เลย น้ำเป็นสีเขียวแบบกระบี่เขียวขจี ป่าเขียวร่มรื่นใจนัก พอนักเรียนมาทัศนศึกษา 3 รถบัสคันใหญ่เท่านั้น สระสีเขียวก็เต็มไปด้วยเด็กๆเล่นน้ำเสียงดังไปก้องกลางป่า เส้นทางเดินที่ปูไม้กระดานไว้ ผุพังอย่างขาดการดูแล น่าเศร้าใจยิ่งแล้วเราก็ขับรถต่อไปยัง น้ำตกร้อนคลองท่อม เค้าว่าเป็นน้ำตกร้อนน้ำเค็มนะครับที่นี่ น้ำร้อนเอาเรื่องทีเดียว เป็นสระที่บรรจงสร้างให้นักท่องเที่ยวลงไปแช่น้ำร้อน แหม่มสาวๆหลายคนสนุกไม่น้อยกับน้ำร้อนๆราว 40- 50 องศา กลางป่าธรรมชาติ แล้วผมก็ได้ลงแช่ด้วยเพื่อสุขภาพ เธอถามแต่ว่าไข่สุกหรือยัง ไม่ได้ร้อนปานนั้นครับ บริเวณโดยรอบเป็นป่า มีต้นไม้ปกคลุมร่มรื่น น้ำตกร้อนไหลลงสู่คลอง น้ำในคลองเป็นน้ำเย็น มีบางผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้แช่สลับร้อน สลับเย็นด้วย แต่ผมแช่น้ำร้อนเพียงไม่นานก็เดินทางต่อ เธออยากแวะชม ลูกปัดโบราณ เป็นพิพิธภัณฑ์อยู่ที่วัดคลองท่อมนี่เองครับ
ออกจากทางแยกไปสระมรกตแล้ว เลี้ยวซ้ายเหมือนจะไปจังหวัดตรัง ไม่ไกลเลยก็เห็นวัดคลองท่อม เข้าไปในวัด เราเป็นนักท่องเที่ยวเพียง 2 คนเท่านั้น เราเคยมานอนที่เชอราตันกระบี่หลายปีก่อน เธออยากมาชมลูกปัดโบราณที่นี่มาก ครั้งนี้คงสมใจนึก บางลำพู ก็เป็นของเก่าๆที่พระเจ้าอาวาสได้พบแล้ว สะสมไว้ นำออกมาจัดแสดงแบบของพื้นบ้าน แล้วเราก็ย้อนกลับมาทานขนมจีนโกจ้อยที่เหนือคลอง อาหารใต้กับขนมจีนเป็นของคู่กัน แต่ที่กระบี่ต้องมีไก่ทอดด้วย แปลกดี ไก่อร่อยดีแต่ขนมจีนเรารู้สึกเฉยๆ แล้วการขับรถก็ดีตรงที่อยากไปไหนก็ไปได้ เราแวะมาที่วัดถ้ำเสือ เค้ามีจุดเด่นมากที่ชวนให้เดินขึ้นไปบนเขา สูงกว่า 1200 ขั้นบันได ประมาณการดูตัวเอง เอาว่า ไหว้พระ ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ไหว้พระธาตุก็พอ เธอตาไวแบบหมอเอกซเรย์ว่าเราแวะช็อบที่เอาท์เล็ทวิลเลจกันก่อนนะ ห้างใหญ่ทันสมัยแบบเมืองท่องเที่ยวแบบนี้ กระจายไปทั่วเมืองไทย กระบี่ก็มีด้วย ก็ได้ทั้งกางเกง รองเท้า สบายใจไป ในที่สุดก็วิ่งเข้าเมืองกระบี่ หลงทางนิดหน่อย ถามทางเค้านิดนึง เราก็ถึงโรงแรมเคียงทะเล
กระบี่ พ.ศ.2554 นั้น ยังมีถนนสายหลัก 3 สาย ที่ถึงก่อนเพื่อนหากเดินทางมาจากสนามบิน ก็คือ ถนนอุตรกิจ โรงพยาบาลกระบี่ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ อยู่ริมแม่น้ำกระบี่ มีร้านอาหารอร่อยมากมายบนถนนสายนี้ สายที่ 2 สายที่อยู่ตรงกลางก็คือถนนมหาราช มีเทศบาลตั้งอยู่ ส่วนสายที่ 3 อยู่ริมออกไปทางตะวันตกที่สุดเป็นเส้นทางหลักที่จะเดินทางไปอ่าวนาง ทางตรงก็จะเชื่อมต่อกับเพชรเกษมไปพังงา เดินทางไปท่าปอมแบบนั้น เราเข้ามาทางถนนอุตรกิจ เลยไปจนถึงสวนสาธารณะธารา แล้วเลี้ยวกลับมาถนนคงคาก็มาถึง โรงแรมเคียงทะเล ชื่อเป็นทางการว่ากระบี่ซิตี้ซีวิว แต่มีวิวเป็นแม่น้ำ ที่น่าจะเป็นปากน้ำ จะต่อกับทะเลแล้วนั่นเอง โรงแรมสงบมาก นอนห้องซีวิว เห็นสวนสาธารณะสบายตา เพียงแต่เป็นโรงแรมเก่าไปหน่อยเท่านั้น เราพักผ่อนจนได้เวลาอาหารเย็น ก็ออกเดินเท้าแบบคนกระบี่เรียบริมแม่น้ำ มาจนถึงลานปูดำ ชมประติมากรรมปูดำ 4 ตัว ตัวใหญ่ตัวแม่มีกระดองกว้างถึง 2 เมตร มีตัวเล็กตัวลูก 3 ตัว ทุกตัวต่างชูก้ามน่าเกรงขาม ถ้าใครถูกมันหนีบเข้าคงดูไม่จืด ลานปูดำ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงบุญคุณปูดำ ที่เป็นสัตว์มีบุณคุญ ให้ชาวกระบี่จับกินและเลี้ยงส่งขายไปทั่ว เราชื่ื่นชมกับวิวเขาขนาบน้ำ ที่เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ ถ่ายรูปกับ“อนุสาวรีย์นกออก” บนเสาหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ นกออกหรืออินทรีย์ทะเลเป็นนกประจำถิ่นคู่บ้านคู่เมืองกระบี่ เค้าว่า พบได้ทั่วไปแถวเขาขนาบน้ำ
เราเดินจากถนนอุตรกิจ มุ่งไปถนนมหาราช แล้วเราก็พบแยกไฟแดงบนถนนมหาราช มี“มนุษย์โบราณ”ท่าทางเอาเรื่อง ยืนเด่นถือกล่องไฟเขียว-เหลือง-แดงอยู่บนหัวเสาไฟจราจร เค้าว่า “มนุษย์โบราณ” นี้เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์เรา มีหลักฐานการค้นพบว่า กระบี่เป็นเมืองโบราณ มีการขุดพบประวัติศาสตร์ของสายพันธุ์มนุษย์ เป็นโครงกระดูกมนุษย์อายุ 43,000 ปี ที่เพิงผาหลังโรงเรียนทับปริก แล้วยังมีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุ 25,000 ปี ที่ถ้ำหมอเขียว ยังไม่หมดนะ ยังมีการขุดพบซากฟอสซิลกรามบนด้านขวาพร้อมฟัน 5 ซี่ และกรามด้านล่างขวาพร้อมฟัน 2 ซี่ อายุประมาณ 37 ล้านปีที่เหมืองลิกไนท์ สันนิษฐานว่าเป็นต้นกำเนิดของสายพันธ์มนุษย์ มีชื่อเรียกภายหลังว่า “สยามโมพิเทคัส อีโอซีนัส” ขนาดนั้นทีเดียว นอกจากนี้ ตามแยกอื่นๆยังมีการสร้างประติมากรรมช้างเผือก(อนุสาวรีย์ช้างพระเศวตฯ)เป็นทั้งอนุสาวรีย์และเสาไฟจราจร เพื่อรำลึกถึงอดีตเมืองกระบี่ ที่เคยเป็นเมืองช้าง ประติมากรรมเป็นรูปช้างเผือกชูกระบี่(ดาบ) ยังเป็นตราสัญลักษณ์เทศบาลเมืองกระบี่ด้วย น่าเสียดายว่าทุกวันนี้ไม่มีรายงานการค้นพบช้างป่าที่กระบี่อีกเลย
เราแวะอุดหนุน โรตีข้างโว้ค มีชื่อเสียงก็อร่อยแบบโรตีน้ำปั่นครับ แล้วแวะมาเดินถนนคนเดินที่มีเฉพาะวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ คนเดินเยอะไปหมด ของขายมากมายหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า อาหาร งานศิลปะ คนนคร มาขายผ้าเชียงใหม่ที่กระบี่ รักกระบี่มาก แนะนำให้เราไปทานโรตีอร่อยที่หน้าธนาคารกรุงไทยให้ได้ เธอว่าอร่อยมาก เราเดินหลง หาไม่เจอ แต่ไม่ไกลจากโรงแรมที่ร้านอาหารริมแม่น้ำ เป็นตลาดกลางคืนที่เค้าเรียกกันว่า ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือ Krabi Night market เราจึงได้สุกี้ทะเล หมูสะเต๊ะอร่อย อิ่มมาก ก่อนจะหลับไป ตื่นไป ในโรงแรมเก่านิดหน่อยของเราคืนนี้
เช้าวันเสาร์ เราเลือกนอนโรงแรมนี้เพราะไม่มีอาหารเช้าบริการ จะเข้าไปอุดหนุนอาหารเช้าในเมือง เราเลือกร้านต้มเลือดหมู โกเล็ก ยุคหมูแพงมากที่ต้องควบคุมราคายามนี้ ต้มเลือดหมูจึงขายชามละ 45 บาท หาร้านไม่ยาก อยู่หลังโรงแรมเวียงไทย ชิมกันคนละชามแล้วเราก็ขับรถมุ่งหน้าไปอ่าวนาง เพื่อหาร้านรถเช่าตามที่เค้าบอกว่าอยู่ที่สามแยกอ่าวนาง ไปถึงแล้วร้านยังไม่เปิดบริการ รอจนเปิด รอบริษัททัวร์ที่จะมารับไปลงเรือเร็วเที่ยว 4 เกาะ แล้ว 9 โมงเช้านิดๆ เรือแล่นเร็วมาก พานักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่าที่ข้างเรือกำหนด ไม่ต้องสวมเสื้อชูชีพ เรือก็แล่นอย่างเร็วไปรับฝรั่งอีก 2 คนที่อ่าวไร่เลย์ แล้วติดๆกันนั้น เราก็แวะเที่ยวที่แรกกันเลย ก็คือที่หาดถ้ำพระนาง
โรงแรมรายาวาดีอยุ่ที่หาดนี้ ก็สวยดี โรงแรมรักษาหน้าหาด ไว้ได้อย่างสะอาดสวยงาม ทะเลกระบี่เขียวอีกแล้ว แบบกระบี่สวย น้ำใส ทรายละเอียด เขาหินปูนสูงใหญ่ ชูตัวเด่นเป็นสง่ากลางท้องทะเล ได้เวลาเค้าพาเราไปเกาะทับ ทะเลแหวก ไม่มีทะเลแหวก วันนี้ที่เราไปเยือน เพราะน้ำขึ้นเสียแล้ว แต่พอจะจินตนาการตามทะเลแหวกได้ เราเดินแหวกทะเลเพื่อไปเข้าห้องน้ำฟรีบนเกาะทับได้ ทั้งที่ไกด์คนพาเรามาบอกว่าไม่มีห้องน้ำที่นี่ ฟ้ายังสวยใส ไร้แววฝน อากาศดีมาก เดินลุยสันทรายทะเลแหวกยามน้ำขึ้น แบบว่าเธอบ่นเมื่อยขา ปวดหลังเล็กน้อยเสียแล้ว ได้เวลาเค้าพาไปผ่านไปชมเกาะไก่แบบใกล้ๆ แล้วให้นักท่องเที่ยวลงไปลอยตัวชมปลาการ์ตูน สวยมากครับ น้ำทะเลใส แบบไม่ลงน้ำก็ยังสวยได้ แล้วแวะทานข้าวกลางวันแบบปิกนิกบนเกาะปอดะ เกาะปอดะปีนี้สกปรก มีกลิ่นเหม็นของขยะ ฟุ้งไปทั่ว เค้าว่ายังมีการฟ้องร้องกันไม่จบ เกาะจึงอยู่ในการดูแลของเอกชน กล่องโฟมจำนวนมากมาย ของกิน ขยะ ผู้คน หากไม่ได้ แดดสวย ฟ้าใส ทะเลไทยใสกระจ่าง ลมแรง แสงแดดจัดมาช่วยแล้ว ปอดะ น่าจะเน่าไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
บ่าย 2 โมงครึ่ง เรือเร็วมากแล่นมาส่งคนลงที่หาดนพรัตน์ธารา ทั้งที่ตอนออกเรือ เราออกจากที่อ่าวนาง แล้วรถ 2 แถวก็วิ่งส่งผู้โดยสารที่เป็นลูกค้าลงเรือเที่ยวไปทั่ว ไม่ว่าคุณจะมาจากโรงแรมที่พักที่ไหนก็ตาม แต่เรา 2 คนขึ้นจากร้านให้เช่ารถ เค้าก็ยังมาส่งเป็น 2 คนสุดท้าย รับรถใหม่อีกครั้ง แบบว่าคิดแล้วหากเช่ารถ 2 วันต่อเนื่องเลย เราต้องคืนรถเค้า 10 โมงเช้าวันอาทิตย์ คืนรถแล้วไปไหนก็ลำบาก เราจึงวางแผนเช่าทีละวัน วันแรกคืน 8 โมงเช้า ไปเที่ยวทะเล แล้วมาเช่าใหม่ บ่าย 2 โมง คืนรถพรุ่งนี้ บ่าย 2 โมง ก่อนเครื่องบินออกตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง เราขับรถออกจากอ่าวนาง กลับมากระบี่แล้วเดินทางต่อราว ครึ่งชั่วโมง เราก็ถึงท่าปอม คลองสองน้ำ
บ่าย 3 โมงกว่าๆแล้วก็ไปถึง นักท่องเที่ยวไม่มาก ที่นี่ท่าปอม คลองสองน้ำสวยกว่าที่เราคาดหมายไว้
ป่าพรุ ท่าปอมคลองสองน้ำ ตั้งอยุ่ที่ ต.เขาคราม อยุ่ในความดูแลของ อบต.เขาคราม ออกจากกระบี่แบบจะไปพังงา ผ่านบ้านทุ่งแล้วดูป้ายให้ดีๆ เลี้ยวซ้ายถึงบ้านหนองจิก แล้วก็ถึงท่าปอม ที่นี่ เป็นแหล่งศึกษาเชิงนิเวศวิทยา เพื่อเรียนรู้ ธรรมชาติทั้งในแง่ของทางน้ำใต้ดิน และพืชพรรณที่สามารถเติบโตได้ทั้งในน้ำและบนดิน คลองสองน้ำมีลักษณะพิเศษ อยู่ที่ ลำคลองมีทั้งช่วงที่น้ำจืดสนิท และช่วงที่มีน้ำกร่อย เมื่อน้ำทะเลลด น้ำในคลองจืดสนิท ยามน้ำทะเลขึ้นก็เปลี่ยนเป็นคลองน้ำเค็ม มาถึงที่นี่ เดินทางตามทางเดินที่ทำไว้อย่างดี เป็นไม้ปลอมๆมีรูอยู่ข้างในไม้ แต่ก็ไม่หลอกตา ทางเดินดีกว่าที่ไปสระมรกตมาก เดินไปจนสุดทางก็จะพบ ธารน้ำใส ใสมาก ใสสะอาดราวกระจก ธารน้ำอุดมไปด้วยหญ้าทะเลเขียวสดงอกงามจำนวนมาก ที่สำคัญอยู่ที่รากไม้ป่าชายเลนที่เลี่ยเลื้อยแทงลึกยึดโยงต้นไม้ชายป่ากับพื้นแผ่นดินเอาไว้ มันยึดกันแบบไม่มีวันผละจาก น้ำใสไหลเย็น แบบน่าลงเล่น แต่ที่นี่ไม่ให้เล่นน้ำ เราเลียนแบบนักท่องเที่ยวคนอื่นโดยนั่งจุ่มเท้าลงบนสายน้ำเย็น หย่อนใจอย่างประหลาด ธรรมชาติสวยงาม งดงามเกินกว่าบรรยาย ทันใดนั้นเอง ฝูงเข็มก็เข้าเล่นงาน ปลาเล็กปักปากเข็มลงบนผิวหนังหลังเท้า เธอต้องทำการแคะเสี้ยนของปากปลาเข็มออกให้ สนุกดีครับที่นี่ เราเดินไปตามทางเดิน ชมธรรมชาติ ผ่านป่าพรุน้ำจืดและรอยต่อป่าสองถิ่น ตลอดแนวลำคลอง เป็นความยาวประมาณ 700 เมตร สัมผัสได้ กับยามเย็นแบบนี้ มีทั้งสายน้ำไหล ผืนน้ำนิ่ง เรือจอดสนิท ความงามของพืชวงศ์ปาล์มแบบ มะพร้าว ตาล อ้อ หมากชนิดต่างๆ และต้นไม้อื่นๆอีกมากมาย ได้เวลาก็เดินทางกลับกระบี่ ขับรถเข้าถนนกระบี่แล้ว หลงทางเล็กน้อย แต่แล้วในที่สุดก็เข้าเส้นในสุด เดินทางไปถึงปากน้ำ อารีย์ซีฟูดส์ รอเราอยู่เป็นร้านขายอาหารทะเลสด ที่ว่าอยู่ลึกที่สุดของถนนเส้นนี้
หอยชักตีน ยังไงก็ต้องมาทานหอยชักตีนที่กระบี่ หอยเอาไปนึ่งสุก สำคัญที่น้ำจิ้มต้องเป็นน้ำจิ้มอาหารทะเลที่อร่อยถึงใจ ตัวหอยหยุ่นๆคล้ายเอ็น ส่วนอาหารจานอื่นๆก็ใช้ได้แบบปลา ปูแบบนั้น แล้วเราก็ขับรถกลับมาไม่หลงทางแล้ว ผ่านโรงแรมที่พัก ผ่านร้านอาหารยามค่ำคืน แล้ววิ่งไปบนถนนอุตรกิจ กลับรถมาหมายตาร้านอาหารเช้าวันรุ่งขึ้นของเราไว้ พอดีมีที่จอดรถว่างตรงก.ม.ที่ 0 จอดรถแล้วออกเดินยามเย็นย่อยอาหาร มุ่งหน้าถนนมหาราชเราก็พบวัดสวยของเมืองกระบี่คือวัดแก้วโกรวาราม วัดสำคัญที่เป็นโรงเรียนนักธรรมของพระที่นี่ เค้าว่าวัดนี้สร้างล้อวัดในเืมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย เดินตามถนนมหาราช ถึงสี่แยกมนุษย์โบราณ แล้วมาถึงตลาดสด ชมตลาดนิดหน่อย ก่อนกลับมาถนนอุตรกิจ เราก็พบร้านโรตี หน้าธนาคารกรุงไทย เราอุดหนุน มะตะบะ เนื้อแป้งโรตีบางกรอบ ทานกับ น้ำมะนาวปั่น น้ำส้มปั่น นั่งริมถนน ชมคนกระบี่ ชมบรรยากาศกระบี่ เมืองเล็กๆ สุขสงบ แล้วกลับเข้าที่พัก อร่อยมากวันนี้
เช้าวันอาทิตย์ วันกลับบ้านคิดถึงบ้านไม่น้อย เมื่อคืนหลับได้ดีกว่าวันวาน แสบผิวหนัง แสบตัวกับแดดแรงเมื่อวาน เก็บของเสร็จ ออกจากโรงแรม เราก็มาทานติ่มซ้ำ เฌอมา ตาแววที่อยู่หน้าโรงพยาบาลกระบี่ ร้านดูดี อร่อยมาก กับทุกอย่าง ผมได้ชิมบะกุดเต๋ เธอชิมข้าวต้มปลา อร่อยเด็ดกับติ่มซ้ำ นานาชนิด กาแฟอร่อย แล้วเราก็ออกเดินทางไกลกว่าทุกวัน ทางสะดวก ขับรถไม่ยากนัก ในที่สุดเราก็ไปถึงอำเภออ่าวลึก ได้เข้าชมก่อนใคร ด้วยเป็นนักท่องเที่ยว 2 คนแรกวันนี้ ที่ถึงอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชีงนิเวศ ที่มีสภาพป่าสมบูรณ์มาก
ขนาดที่เธอว่าให้เพชรพระอุมามามาถ่ายทำที่นี่ยังได้เลย ที่นี่มีภูเขาหินปูนใหญ่ สวยแปลกตา ป่าดิบ ป่าชายเลน มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าชายเลน รวมถึงสังคมพืชน้ำใต้ท้องทะเล เราเที่ยวชมน้ำตกธารโบกขรณี เดินตามเส้นทาง ภายในอุทยานระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ไปชมพระพุทธบาทจำลอง ที่นี่เป็นอุทยานเมืองกระบี่ จึงเขียว สวย สว่าง เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ น้ำตกไหลแรงต่อเนื่องแม้จะไม่ใช่น้ำตกจากที่สูง หน้าผาสูงชัน แต่เป็นน้ำตกลดหลั่น ชั้นๆ แบบมีสระน้ำรองรับไว้เป็นชั้นเป็นเชิงไป สระโบกขรณีจึงสวยสงบแบบกระบี่ สระมีน้ำสีเขียวอีกแล้ว แม้ไม่ใสราวกระจก แต่ก็สุขสงบแบบป่าธรรมชาติที่ควรค่ามาเยี่ยมชม ที่สระโบกขรณ๊ ให้นึกถึงสระอโนดาตที่นางมโนราห์มาเล่นน้ำ พรานบูรณ์มาขโมยปีกไป จึงเกิดเป็นเรื่องพระสุธน มโนราห์ ในที่สุด
ที่นี่เป็นที่เที่ยวสุดท้าย เราไม่ลงเรือไปชมถ้ำลอด ถ้าผีหัวโต ด้วยว่าต้องเดินทางลำบากไม่น้อย เวลาก็มีจำกัด จึงตัดสินใจย้อนกลับมากระบี่เข้าไปชมสุสานหอย 75 ล้านปีที่ใช้บัตรเข้าชมที่ได้มาจากอุทยานธารโบกขรณีได้ด้วย สุสานหอยก็สวยดีครับ แม้ว่าจะไม่ให้เดินเข้าไปจึงชายทะเล เพราะเคยมีอุบัติเหตุเด็กตกลงไปเสียชีวิตมาแล้ว มองไปด้านซ้ายมือของสุสานหอย ก็จะเป็นปากน้ำกระบี่ ดูเหมือนไม่ไกลนักเลย เราเดินชมอุทยาน จนมาถึงบริเวณชมวิว อากาศดีมาก แดดสวย วิวงามตาเป็นพิเศษ จึงมองไกลออกไปในทะเล พบทั้งเกาะปอดะ เกาะไก่ ชัดเจน ออกจากสุสานหอยยังมีเวลาจึงแวะเข้าไปชมปลาการ์ตูน ให้น่าผิดหวังเพราะการจัดแสดงปลาทะเล ที่มีจำนวนน้อยมาก ไม่น่าสนใจเลย แล้วก็อากาศร้อน ร้อนจริงๆวันนั้น
ขับรถกลับมาเมืองกระบี่จะเข้าร้านอาหารร้านใหญ่ เธอว่าอยากทานอะไรสบายๆท้อง เลยได้ชิมร้านอาหารโกส้วง บนถนนอุตรกิจ ร้านอาหารตั้งอยู่ใกล้เมือง อยู่ก่อนถึงโรงพยาบาลกระบี่หากออกจากเมืองกระบี่มา เนื้อเป็ดที่นี่เด็ดมาก น้ำปรุงของเย็นโตโฟก็เด็ด อร่อยอิ่มมาก ก่อนขับรถมาสนามบิน ส่งรถคืนบริษัท ขึ้นเครื่องการบินไทย บินเรียบร้อยมาก บ่ายห้าโมงเย็น ก็กลับมาเจอฝนที่กรุงเทพแล้ว
ทะเลกระบี่สวยจริงๆ ป่าพรุแบบกระบี่ยังเขียว สวย ใส ป่าพรุ ป่าชายเลน ป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ น้ำตกยังสวยเป็นอมตะ รอผู้คนมาเยือน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังคงชอบกระบี่มาก เครื่องบินบรรจุผู้โดยสารเต็มลำทั้งขาไปขากลับ คนต่างชาติก็มีไม่น้อย อยากให้คนทั้งหลาย ทั้งไทยทั้งเทศ รักกระบี่ รักและรักษากระบี่จริงๆ อนุรักษ์กระบี่ไว้ รักษาความสะอาดให้กระบี่ เก็บกระบี่ที่เขียวขจี เป็นเมืองกระบี่น่ารัก สุขสงบ ปลอดภัย ผู้คนกระบี่ใจดี จะได้อยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือน ไปตราบ.. นานเท่านาน....
กระบี่ร่มเย็น Krabi cool
น้ำ ทราย ทะเล กระบี่
ผลงานอื่นๆ ของ Jack1960 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Jack1960
ความคิดเห็น