PUPPY STORY ♡
TWO PUPPY MAKE ONE LOVE. THIS IS A PUPPY STORY :)
ผู้เข้าชมรวม
165
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
BUS STOP.
รถเมล์คันใหญ่ แล่นไปบนถนน
รถเมล์คันใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน แล่นไปบนถนน แล่นไป แล่นไป J
มันเป็นเช้าที่น่าเบื่อเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ท่ามกลางความแออัดยิ่งกว่าปลากระป๋องและอากาศร้อนอบอ้าวราวกับว่าอยู่ในตู้อบ มือเล็กๆ ที่ข้างหนึ่งยืดราวจับเอาไว้แน่น มืออีกข้างกอดกระเป๋าสัมภาระที่หนักจนไหล่ล้า เบียดเสียดกับผู้คนไปมาในรถเมล์คันเก่าแต่วิ่งเร็วราวกับคนขับจะรีบกลับไปทำธุระในห้องน้ำ แบคฮยอน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยายามทรงตัวให้ได้ ในหัวคิดถึงน้ำเย็นๆ สักแก้ว หรือไม่ก็ลมเย็นๆ สักวูบ ไม่ใช่ความเหนียวเหนอะหนะน่าหงุดหงิดแบบนี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะแปดโมงครึ่งแท้ๆ แต่อากาศกลับไม่เคยเป็นใจ บางทีแบคฮยอนก็นึกสงสัย เขามาทำอะไรที่นี่(วะ)
หลังจากก้าวขาลงจากรถ แบคฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะโดนคนข้างหลังที่ลงรถตามเขามาชนเข้าอีกโครม พยายามท่องลมหายใจเข้า ลมหายใจออกดั่งดอกไม้บานเพื่อไม่ให้มันเป็นเช้าที่น่าทรมานใจไปมากว่านี้ แต่ก็อดทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ได้ โดนเบียดบนรถเมล์ก็แย่พอแล้ว ทำไมยังจะต้องมาโดนชนอีก(วะ)เนี่ย
“ขอโทษครับ”
เออ .. ขอถอนทำพูด(ก็ได้) อย่างน้อยก็ยังได้เจอคนมีมารยาทบ้าง ไม่ใช่มนุษย์ป้าที่บางครั้งวิ่งแซงหน้าแล้วชนเขาจนเก็บล้มก็ยังทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ได้ แบคฮยอนกำลังจะอ้าปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่คนที่ชนก็เดินลิ่วๆ ไปโน่นแล้ว เออ .. บายๆ ชนแล้วขอโทษไม่ได้ชนแล้วหนี ยกโทษให้ก็ได้ (เว้ย)
มันเป็นเย็นที่น่าเบื่อเหมือนทุกวัน .. โอเค เช้าก็น่าเบื่อ เย็นก็น่าเบื่อ คนเราไม่ควรคิดคำว่า เบื่อ บ่อยๆ ใช่ไหม แต่ให้ทำไงได้ ก็มันน่าเบื่อจริงๆ ตอนเช้าก่อนไปทำงานก็โดนเบียด ตอนเย็นกลับจากทำงานก็โดนเบียดจนแทบจะจูบกับคนข้างหน้า ไม่ว่าจะขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้า เวลาทำงานกับเวลาเลิกงานมันก็สถานการณ์คล้ายกันตลอดนั่นแหละ ฮื่อ ตอนเย็นมันแย่กว่าตรงที่บางคนก็มีกลิ่นที่ชวนเวียนหัวแถมมาด้วย แบคฮยอนไม่ได้อยากจะดูถูกใคร แต่บางครั้งการโดนเบียด ไม่มีอากาศบวกกับกลิ่นพวกนั้นก็ทำให้เขานึกอยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็นั่นแหละ แบคฮยอนไม่เคยเป็นลม เลยไม่รู้จะเป็นลมยังไง ก็เลยต้องทนดมไปบนรถเมล์คันใหญ่ที่แล่นไปบนถนน แล่นไป แล่นไป แล่นไปปปปปปปปปปปป
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงล้อบดกับถนนจนเกิดเสียงบาดแก้วหู คนบนรถเมล์ที่ยืนเกาะราวอยู่แทบจะไหลไปรวมกันเป็นก้อนเดียวตรงด้านหน้า แบคฮยอนไม่ทันได้ตั้งสติแต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้ไหลไปรวมกับใครๆ เพราะมีมือใหญ่ๆ จากด้านหลังมาจับแขนเขาเอาไว้ ถึงจะตกใจแต่ก็อดนึกขอบคุณคนที่ช่วยจับเขาเอาไว้ไม่ได้ พนักงานออฟฟิศไขมันย้วยที่แบกข้าวของพะรุงพะรังไปทำงานน่ะ พอเลิกงานก็ไม่เหลือแรงให้ทรงตัวแล้ว อย่าถามถึงเรื่องออกกำลังกายเลย เดินไปขึ้นลงรถเมล์กับห้อยโหนนี่ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายแล้ว ไอ้เรื่องจะยืนตรงทรงตัวอยู่ตอนรถเมล์ขับกระชากไตก็ลืมไปได้เลย ถ้าไม่มีคนจับแบคฮยอนก็พร้อมจะล้มกลิ้งไปรวมกับอาจุมม่าข้างหน้านั่นแหละ
“ข .. ขอบคุณครับ”
แบคฮยอนพึมพำขอบคุณคนที่จับแขนเขาเอาไว้ รถเมล์คันใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากไฟแดงแล้ว เหล่าอาจุมม่าข้างหน้าค่อยๆ กลับมาทรงตัวเหมือนเดิม แบคฮยอนถอนหายใจแล้วจับราวรถเมล์ให้แน่นอีกครั้ง เบียดเสียดไปกับผู้มากมายในรถเมล์คันเดิม
รถเมล์คันใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน แล่นไปบนถนน แล่นไป แล่นไป J
หลังจากลงรถเมล์ แบคฮยอนถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ รถเมล์บอกลาเขาด้วยควันดำๆ กลุ่มใหญ่ให้สำลักเล่น ก่อนจะแล่นเฟี้ยวฟ้าวลับตาไป
จบแล้วหนึ่งวันของแบคฮยอน วันที่ตื่นเช้ามาขึ้นรถเมล์ไปทำงาน และจบลงตรงที่นั่งรถเมล์กลับมานอน แล้วก็วนกลับมาใหม่เป็น เช้าที่ตื่นขึ้นมาเพื่อขึ้นรถเมล์ไปทำงานและจบวันด้วยการนั่งรถเมล์กลับมานอน
น่าเบื่อ ... แต่ก็ต้องทำ
น่าเบื่อ ... แต่ก็ทน
เกิดเป็นคน ต้องอดทน แม้จะโดนรถเมล์สูบพลังไปก็ตาม สวัสดี
รถเมล์คันใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน แล่นไปบนถนน แล่นไป แล่นไป J
ทันทีที่รถเมล์คันใหญ่แล่นมา แบคฮยอนก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจเพราะเขาเล็งเห็นแล้วว่ารถเมล์คันใหญ่วันนี้ไม่ได้มีผู้คนมากมายเหมือนในทุกวัน เบาะว่างยังรอให้ก้นย้วยๆ ของเขาไปนั่ง ที่นั่งติดริมหน้าต่างก็มี หรือจะที่ที่โดนพัดลมก็ยังได้ ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ ดีใจจนแบคฮยอนลืมเตรียมเหรียญให้กระเป๋ารถเมล์ที่เดินเคาะที่เก็บเงินดังแก๊บๆ ไปเลย
แบคฮยอนกำเหรียญเอาไว้ในมือก่อนจะเขี่ยๆ จนได้จำนวนที่พอดีกับค่าโดยสาร และในทันทีที่เขาจ่ายเงินเสร็จแต่ยังเก็บเหรียญที่เหลือลงกระเป๋ากางเกงไม่เสร็จ รถเมล์คันใหญ่ก็เบรกเอี๊ยดจนหัวเขาทิ่ม โขกกับเก้าอี้หนังข้างหน้าเต็มๆ นอกจากจะมึนเพราะหัวโขกแล้ว เสียงเหรียญที่หล่นกระจัดกระจายก็ทำให้แบคฮยอนหน้าหงิกได้ในทันที
วันดีบ้าอะไร(วะ) หัวโขกแล้วยังต้องตามเก็บเหรียญอีก !
รถเมล์คันใหญ่เคลื่อนตัวออกจากไฟแดงแล้ว พร้อมๆ กับแบคฮยอนคนเดิมเพิ่มเติมคือเจ็บหัวและอาย เพราะไม่ทันจะได้เก็บเหรียญ ผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่แสนจะน่ารักก็ช่วยเก็บเหรียญที่กลิ้งไปมาคืนให้เขาจนครบ ปิดท้ายด้วยผู้ชายตัวสูงที่ยื่นเหรียญพร้อมพลาสเตอร์ยาแผ่นเล็กๆ มาให้ แถมยังชี้มาตรงหน้าผากอีก
ฮื่อ .. จุดนี้อายมากกว่าเจ็บอะเข้าใจม๊ายยยยยย
แบคฮยอนรับทั้งเหรียญทั้งพลาสเตอร์มาอย่างเก้อๆ ลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ แล้วพยายามตีหน้านิ่ง ไม่รู้ไม่สนไม่เจ็บไม่อายอะไรทั้งนั้น ฮื่อ
รถเมล์คันใหญ่ แล่นไป แล่นไป แล่นไปปปปปปปปปปปปป
แล่นไปไหนก็ไปไป๊ ไม่อยากขึ้นรถเมล์แล้ววววว !!!!!!!
โอเค .. โอกาสที่เราจะเจอคนที่เคยขึ้นรถเมล์คันเดียวกับเราอีกครั้งมันมีอยู่ 1 ใน 100 นั่นหมายความว่า ถ้าเราขึ้นรถเมล์ 100 ครั้ง เราอาจจะได้เดินทางไปพร้อมกับคนคนเดิมที่เคยขึ้นรถเมล์พร้อมเรา 1 ครั้งก็ได้ แต่มันก็น่าจะเป็นไปได้ยาก ถ้าหากคนนั้นไม่ใช่เพื่อนที่เลิกงานพร้อมแล้วเราก็พากันโหนรถเมล์มาด้วยกัน
และถึงแบคฮยอนจะเป็นพวกไม่ค่อนสนใจมนุษย์รอบข้าง แต่ไอ้เรื่องเมื่อเช้าที่ตัวเองตัวโขกเพราะรถเบรกนั่นมันก็ยังตราตรึงใจ ทั้งรถไม่มีใครเสล่อเหมือนเขา และทั้งรถก็ไม่ได้มีใครยื่นพลาสเตอร์มาให้ด้วย ยกเว้น ... คนข้างๆ ที่กำลังยืนอมยิ้มอยู่
ฮือ .. อาย ฮื่อ .. ก้มหน้า (แม่.ง)
ไม่รู้ทำไมต้องอาย แต่มันก็อายไปแล้ว ใครจะขึ้นรถเมล์ก็ขึ้นไปก่อนเลย ไอ่คนข้างๆ นี่ด้วย ก้าวขาขึ้นไปเลยเซ่ จะขยับเข้ามาทำไม ไปสายไหน สายแปดมาแล้ว ไปดิ นี่ขึ้นสายอื่น ไม่ต้องมายุ่ง เราไม่รู้จักกันนะ (เว้ย)
รถเมล์มาแล้ว ..
แบคฮยอนได้ยินเขาพูดแบบนั้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะจับแขนแล้วลากให้แบคฮยอนเดินตามไปขึ้นรถเมล์ด้วย .. แบคฮยอนขืนตัวเล็กน้อย ก่อนจะต้องยอมเงยหน้าขึ้นมองคนที่จับแขนเขาเอาไว้
โอ๊ยแม่.ง สูงอะ อิจฉา แล้วนี่มันเป็นใคร มาลากแขนได้ไง รู้จักกันเหรอออออออออออ
แบคฮยอนคร่ำครวญอยู่ในใจแต่ก็ยอมเดินขึ้นรถเมล์ รถเมล์มันโล่งหรอกน่า เดี๋ยวพอได้ที่นั่งแล้วก็คงแยกย้าย จบๆ กันไป ไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกันอีก ...
ซะเมื่อไหร่ !
มือใหญ่ๆ ที่จับข้อมือเขาให้ขึ้นรถเมล์ไม่ยอมปล่อยให้เขาไปหาที่นั่งตรงอื่น แต่กึ่งบังคับให้เขานั่งเบาะคู่ จะสะบัดสะบิ้งก็กลัวจะเป็นที่จดจำไปอีก เออ ไม่มีอะไรจะเสีย นั่งก็นั่ง ป้ายหน้าคงจะลงแล้วใช่ไหม เออ คงใช่เนอะ ...
เนอะ .. ซะที่ไหน !
นอกจากจะบังคับให้นั่งเบาะคู่แล้วยังไม่ลงป้ายหน้า ค่ารถเมล์ก็เป็นคนออกให้ไปอีก พอรถเมล์เบรกแรงๆ ก็หันมาจ้องหน้า จะขับซ้ายขยับขวาก็จ้อง โอ๊ย ... นี่กุเจอโรคจิตป่ะวะเนี่ยยยยยยยยยยยย ฮื่อ หลับแม่.ง
หึ ..
หัวเราะหึอีก ฮื่อ แม่จ๋า แบคฮยอนเจอโรคจิต จะทำยังไงดี แบคฮยอนไม่สู้คน แบคฮยอนกลัวววววววว
“ตลกเหรอ .. ขำอะไร รู้จักกันเหรอ”
ครับแม่ .. แบคฮยอนกลัวมาก
นั่นไง ตาแม่.งตาเลย โอ๊ย เพิ่งสังเกต ตาโตไม่พอ หูกางด้วยอะ แต่รวมๆ แล้วหล่อมาก ดูท่าไม่น่าจะเป็นโรคจิต แต่อยู่เมืองหลวงอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ คนหน้าตาดีเป็นโจรเยอะแยะไป
“ตลกไงเลยขำ ไม่รู้จักหรอก แต่คิดว่าเดี๋ยวก็คงได้รู้จักแหละ”
โอ้โห .. ต่อไม่ถูกเลย ไม่คุยด้วยแล้วก็ได้ มือแม่.งใหญ่ ตัวก็ใหญ่กว่า เดี๋ยวเผลอปากหมาไปแล้วจะโดนต่อย
สู้ไม่ได้ก็เงียบแล้วสะบัดหน้าหนีดีกว่า แมนๆ คุยกันครับ
รถติดแทบไม่ขยับ แบคฮยอนนั่งเหม่อๆ เมินๆ จนเผลอหลับ แต่สะดุ้งตื่นเพราะรถเบรกแบบหัมทิ่ม (อีกแล้ว) กำลังสะลึมสะลือก็รู้สึกได้ว่ามีคนเอามากั้นหัวกับเบาะข้างหน้าให้ สะลึมสะลือคิดอีกที
เห้ย ! ใครวะ .. อ๋อ .. ไอ่ตาโตหูกาง
...
เห้ยยยยยยยยยย ยังไม่ลงอีกเหรอ(วะ)
“ข .. ขอบใจ”
ครับ ไม่มีทางเลือก แบคฮยอนผู้นี้ที่เผลอหลับไปและตื่นเพราะเกือบจะหัวโขกเบาะหน้าซ้ำอีกรอบกล่าวขอบคุณคนข้างๆ อย่างเสียไม่ได้ ขนาดนี้แล้วคงไม่ใช่โรคจิตหรอก (มั้ง)
แบคฮยอนขยับตัวก่อนจะทำท่าลุกขึ้น ป้ายหน้าก็จะลงแล้ว คงไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว ให้ครั้งนี้มันเป็นแค่ครั้งแรกและครั้งเดียวเถอะ ...
เถอะนะคนข้างๆ .. นี่จะขยับตัวเหมือนจะลงรถตามตูทำไมมมมมมมมมมมมมม
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงกริ่งดังก่อนรถเมล์จะตีโค้งแล้วจอดเอี๊ยดตรงป้าย กระเป๋ารถเมล์ตะโกนมาจากข้างหน้าว่า ก้าวเลยเพ่ ก้าวเลยยย .. แล้วรถเมล์ก็แล่นออกไป
ก้าวเลยอัลไล นี่แทบจะกระโดดลงรถแล้วเว้ย ยังไม่ทันจะลงครบสองขาก็ทำท่าจะออกตัวแล้วเนี่ย ..
รถเมล์คันใหญ่ แล่นไปบนถนน ทิ้งแบคฮยอนและคนอีกคนไว้ที่ป้ายรถเมล์
รถเมล์คันใหญ่ควันดำทำแบคฮยอนสำลัก
รถเมล์คันใหญ่ ทำไมไม่ให้ไอ่คนข้างๆ หูกางตาโตนี่ขึ้นรถไปด้วยครับบบบบบบบบบบบบบบบ !
ไม่รู้ว่าเมาควันรถหรืออะไร แบคฮยอนก็ยังไม่ปริปากปฏิเสธความช่วยเหลือ(ที่ดูยัดเยียด) ไอ่คนที่ลากเขาขึ้นรถเมล์ ไอ่คนที่บังคับให้นั่ง ไอ่คนที่เอามือมากั้นหัวให้ ไอ่คนที่ลากลงรถ แล้วก็ไอ่คนที่กำลังพาข้ามถนน นี่สักที
จริงๆ แล้ววันนี้มันก็เหมือนทุกวัน แบคฮยอนขึ้นรถเมล์ไปทำงาน แล้วก็กลับบ้านด้วยรถเมล์ แค่ตอนเช้าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย และตอนเย็นบังเอิญได้ขึ้นรถพร้อมคนที่ขึ้นรถเมล์คันเมื่อเช้า มันก็เท่านั้นเอง
มันก็เท่านั้นเองถ้าไอ่คนนั้นมันจะไม่มาเดินลากเขาอยู่แบบนี้ ...
“ขอโทษที่ลากไปลากมานะ แต่เห็นคุณหัวโขกตอนเช้าแล้วกลัวว่าตอนเย็นจะโดนเบียดจนล้มอีก เลยลากคุณขึ้นมาพร้อมๆ กันดีกว่า อย่างน้อยก็น่าจะช่วยจับไว้ได้บ้าง”
เอ่อ ... มาเป็นชุด ที่สาปแช่งอยู่ในใจนี่หุบปากเงียบไปเลย
“หวังว่าพรุ่งนี้คุณจะจับรถเมล์แน่นพอตอนที่รถเบรก หรือไม่ก็เตรียมเหรียญไว้พอดีไม่ทำเหรียญหล่นจนต้องก้มลงเก็บอีก J”
“ถ้าหากโชคดีมากพอ .. หวังว่าเราจะได้ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันอีกนะ พยอน แบคฮยอน”
แบคฮยอนได้แต่ยืนทำตาปริบๆ หลังจากฟังคำพูดยาวๆ ของคนไม่รู้จัก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ให้ ไม่บอกลา ไม่กล่าวคำใด ก่อนจะเดินแยกกันไปคนละทาง หน้าผากที่ชนเบาะเมื่อเช้าไม่เจ็บแล้ว และวันนี้เขาก็ไม่ได้โดนแรงเหวี่ยงเพราะรถเมล์เบรกจนต้องไปกองรวมกับอาจุมม่าข้างหน้า แบคฮยอนไม่ได้ชอบรถเมล์มากขึ้นเพียงเพราะว่ามีคนช่วยให้เขาไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำสอง และถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแล้วก็ไม่ได้รู้จักกัน แบคฮยอนก็แอบอยากให้คำพูดที่ว่า หวังว่าเราจะได้ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันอีกนะ เป็นจริงขึ้นมา
เออน่า .. ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากจ่ายค่ารถเมล์คืนหรอก
เชื่อเถอะ
รถเมล์คันใหญ่ แล่นไปบนถนน
รถเมล์คันใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน แล่นไปบนถนน แล่นไป แล่นไป
J
w i s h y o u e n j o y.
(theme form: S H A L U N L A T H E M E )
ผลงานอื่นๆ ของ Lionkeyy ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Lionkeyy
ความคิดเห็น