ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ณ ห้วงภวันดร

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.76K
      201
      15 มิ.ย. 64

    รูปนี้คือกำไลของที่บ้านไรต์เองค่ะ 

    บริเวณริมน้ำข้างวัดกรวลัยยืนให้อาหารปลาเงียบๆ อย่างคนใช้ความคิด

    “นิ่งเชียว มีอะไรรึเปล่าแก” ซันช่ายเพื่อนซี้ถามขึ้นหลังจากสังเกตเห็นกำไลดูเหม่อลอยผิดปกติ

    “ไม่รู้สิแก ฉันแค่รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้”

    “ความฝันเมื่อคืนนั่นหรอ”

    “ไม่หรอก แต่แค่สงสัยที่หลวงพ่อบอกให้ใช้สติเยอะๆ ฉันว่าหลวงพ่อพูดแปลกๆ อ่ะ”

    “ไม่น่าจะมีอะไรมั้งแก ถ้ามีหลวงพ่อคงบอกแล้วล่ะ อย่าคิดมากเลย ฉันหิวแล้วอ่ะไปหาก๋วยเตี๋ยวกินกันไหม เสร็จไปเที่ยวเกาะเกร็ดกันดีกว่า อุตส่าห์มาแถวนี้แล้วต้องไปถ่ายรูปเช็คอินอัพเตตัสเกร๋ๆ อวดแฟนคลับหน่อย”

    พูดจบก็จูงมือเพื่อนฉุดให้เดินไปด้วยกัน ไปได้ไม่ไกลก็ต้องหยุดแวะดูร้านเช่าพระที่ตั้งแผงอยู่ในบริเวณวัด

    “เดี๋ยวนังไล ฉันดูเครื่องรางแปปหนึ่งสิ”

    กรวลัยเบ้ปากเบื่อใส่ จะไม่ให้ทำหน้าอย่างนี้ได้อย่างไร เพื่อนเธอน่ะเป็นพวกชอบเครื่องรางของขลังสุดๆ อันไหนใครว่าดี ใครว่าให้โชคมีหมด

    “พี่มีไอ้ไข่ไหมคะ” เจ้าของร้านมองเพื่อนเธอด้วยแววตาฉงนในคำลงท้าย แต่เพียงแว็บเดียวก็แปลเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างต้อนรับ

    “มีสิน้อง ของวัดเจดีย์เลยนะ นี่น้องดูสิ”

    ระหว่างที่ซันช่ายกำลังง่วนอยู่กับการเลือกไอ้ไข่ ซึ่งเธอไม่รู้หร็อกว่าทำไมเพื่อนต้องเลือกในเมื่อทุกตนที่เห็นก็เหมือนๆ กัน ซึ่งเธอดูท่าทางจับกล้องสองพระเก้ๆ กังๆ และทำทีเป็นหมุนซ้ายหุนขวานั่น ก็พอจะเดาไดว่าเพื่อนเธอทำตัวเป็นเซียนเหมือนเรียนมาจากป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังแน่นอน ทำไมซันช่ายต้องเลียนแบบน่ะเหรอ ก็เพราะเขาเคยบอกว่าวงการนี้ถ้าเราดูพระเป็นก็จะไม่ถูกหลอก ซึ่งเธอมองว่าคนจะหลอกยืนเฉยๆ เขาก็หลอก แล้วแม่เพื่อนตัวดีก็คงไม่รู้ว่าท่าทางงมโข่งหมุนกล้องนั่นน่ะตลกมากขนาดไหน ขนาดเธอไม่ใช่คนดูพระเป็นยังมองออกว่าท่านั้นน่ะมั่วชัดๆ ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ ก็กวาดตามองดูในตู้โชว์ของร้านไปด้วย

    “พี่ขายกำไลด้วยหรือคะ” กำไลรู้สึกสงสัยที่ร้านพระเครื่องมีกำไลโบราณวางบนลายครามเก่าๆ ตั้งไว้อย่างโดดเด่น

    เจ้าของร้านมองกำไลในตู้โชว์ แล้วยกพานนั้นมาตรงหน้าเธอ

    “นี่น่ะหรอ มีคนให้พี่มาเห็นว่าได้มาตอนงมหาของที่ท่าน้ำน่ะ เราสนใจหรอ”

    “แปลกดี ดูเหมือนจะเก่ามากเลยนะคะพี่” กำไลพิจารณากำไลตรงหน้าอย่างสนใจ

    “เก่าสิ มีคนเคยดูแล้วบอกพี่ว่าสมัยอยุธยาด้วยนะ แล้วก็ขอบูชาไป แต่วันต่อมาก็เอามาคืน ไม่รู้เจ้าของไปตามทวงหรือเปล่า น้องสนใจไหมล่ะ พี่ปล่อยให้ไม่แพงเลย แต่เอาไปแล้วระวังเจ้าของกำไลนะ ฮ่า ฮ่า”

    “แกจะเอาหรอ ฟังจากประวัติน่ากลัวออก” ซันช่ายแย้งขึ้น ก่อนจะทำท่าขนลุกขนชันเหมือนหนาวเสียเต็มประดา

    “ฉันว่าแปลกดี หนูขอจับดูใกล้ๆ ได้ไหมคะ”

    “ได้สิ” พูดจบก็หยิบกำไลส่งให้

    กรวลัยยื่นมือไปรับกำไลเก่าคร่ำคร่าวงนั้น ก่อนจะโดนเพื่อนข้างตัวฉุดแขนอย่างแรง

    “แก”

    “จะกลัวอะไร ทำไม หรือว่าแกกลัวฉันว้าบไปโผล่อยุธยาหรือไง ประสาท ดูละครมากไปนะ”

    กรวลัยไม่สนใจคำทันทานนั้นหยิบกำไลมาพิจารณาเงียบๆ ซึ่งเอาจริงๆ เธอก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงสนใจกำไลวงนี้นักหนา ทั้งที่ตนเองเป็นคนไม่ชอบของโบราณ จะว่าความสวยก็ไม่ใช่เนื่องจากกำไลสัมฤทธิ์วงนี้มีสนิมเขียวจับเป็นก้อนหลายจุด มองหาลวดลายแทบจะไม่มีให้เห็น ดูๆ แล้วก็เหมือนเหล็กมีสนิทติดซะมากกว่า กรวลัยเพ่งมองกำไลสัมฤทธิ์ เพียงครู่เดียวจู่ๆ น้ำตาเจ้ากรรมก็เอ่อคลอ ลำคอตีบตันขึ้นมาเสียอย่างนั้น ความรู้สึกนี้เธอไม่รู้จะอธิบายอย่างไร มันเหมือนจะเศร้าก็ไม่ใช่ จะดีใจก็ไม่เชิง เสียงภายในใจบอกแต่ว่าเธอต้องเอามันกลับไปด้วย

    “พี่ขายให้หนูเถอะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×