เที่ยงคืน - เที่ยงคืน นิยาย เที่ยงคืน : Dek-D.com - Writer

    เที่ยงคืน

    ผู้เข้าชมรวม

    115

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    115

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 เม.ย. 64 / 00:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เที่ยงคืน



    เอี๊ยดดดด

    ปี๊น ๆ

    รถเก๋งสีขาวที่ขับมาจอดหน้าบ้านสองชั้นหลังคาสีน้ำเงินตอนเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม

    ก่อนที่ กอล์ฟ ชายหนุ่มวัยทำงานวิ่งออกมาจากบ้านเพื่อไขกุญแจเปิดประตูรั้วให้

    "มาถึงเร็วเหมือนกันนี่หว่า" กอล์ฟเอ่ยถาม

    "รถไม่ค่อยติดอะ" ตั้มเอ่ยออกมาขณะที่กำลังเดินอ้อมไปหยิบสัมภาระด้านหลังรถ

    ...

    "พอดีรีบออกมาบ้านสวยดีนี่หว่า" ตั้มเอ่ยออกมาขณะก้าวมายืนตรงหน้า

    ...

    "รอบบ้านก็มีพื้นที่ แถมเจ้าของก็ปลูกต้นไม้จัดสวนไว้ดูดีเชียว" ตั้มตอบกลับพลางมองไปรอบ ๆ บ้าน


    ที่มุมมืดสลัวข้างบ้าน ตั้มมองเห็นเหมือนมีเงาหญิงสาวตัวผอม ๆ ยืนมองอยู่ แต่แว้บเดียวก็เหมือนจะวิ่งหายไปทางหลังบ้าน

     "มึงอยู่กับใครอะกอล์ฟ เมื่อกี้ เหมือนกูเห็นผู้หญิงยืนอยู่ตรงมุมข้างบ้านตรงนั้นอะ"

    ...

    "แต่ตอนนี้วิ่งหลบไปทางหลังบ้านแล้ว" ตั้มหันกลับมากระซิบบอกกอล์ฟ

    " ไอ้ตั้ม! คนโบราณเขาบอกว่า กลางค่ำกลางคืนเวลาเห็นอะไร เขาห้ามทัก"

    "กูผิดอะไรว่ะ"

    "กูอยู่คนเดียว ไม่งั้นกูจะชวนมึงมาอยู่ด้วยเพื่อหารค่าเช่าหรือวะ ไม่มีใครทั้งนั้นแหละ ไปๆ เข้าบ้านกัน" กอล์ฟตอบด้วยท่าทางจริงจัง แต่ดวงตาของเขานั้น ล่อกแล่กไปมาดูมีพิรุธ แถมยังรีบดึงแขนให้ตั้มเข้าบ้านไปไวไวอีกด้วย


    ตั้ม วางกระเป๋านั่งลงที่โซฟา ห้องรับแขก ที่มีเบียร์ 3 ขวด กระติกน้ำแข็ง และแก้ว 2 ใบวางรอเอาไว้อยู่แล้ว ถัดไปไม่ไกล มีซองขนมกินเล่นวางอยู่ 2-3 ห่อ 

    "แหม พร้อมเลยนะมึง ดีๆ กำลังเหนื่อยเลย" ตั้มว่า

    "เต็มที่เลยเพื่อน ในตู้เย็นมีอีกเพียบ ถือว่าเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้านก็แล้วกัน"

    "กูไม่เกรงใจแล้วนะ"

    "แต่มีเรื่องหนึ่ง ที่กูต้องบอกมึง" กอล์ฟทำเสียงจริงจัง

    "อะไรวะ" ตั้มยื่นหน้าเข้าหากอล์ฟ ท่าทางอยากรู้

    "ช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง ไม่ว่ามึงจะได้ยินเสียงอะไร ห้าม! ทัก ห้าม! ออกจากห้องหรือบ้านไปดูเด็ดขาด เข้าใจมั้ย!?!" กอล์ฟว่า

    "ฮ่าๆ ปกติกูไม่ใช่คนนอนดึก ถ้ามึงจะพาสาวมาทำไรเสียงดังที่นี่ ก็ตามสบายเลย ดึกขนาดนั้นกูไม่ออกมาวุ่นวายหรอก" ตั้มพูดไปหัวเราะไป

    "มึงนี่ก็ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย"

    ...

    "เออ ๆ เข้าใจก็ดีแล้ว กูไปเอาของข้างบนแป๊บนึงเดี๋ยวลงมา" กอล์ฟพูดจบก็เดินส่ายหัวขึ้นบันได ชั้นสอง ไป


    ปล่อยให้ตั้มนั่งเล่นโทรศัพท์ จับแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอยู่คนเดียว ในขณะที่ตั้มกำลังนั่งดูรูปในโทรศัพท์อยู่นั้น

    จู่ๆ ต้นคอของเขาที่อยู่ติดกับหน้าต่างมุ้งลวด ก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา

    ลมเย็นยะเยือกพาดผ่านต้นคอของเขา ขนอ่อนบริเวณนั้นลุกชันขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ตั้มรีบหันไปดู ก็ไม่เห็นมีอะไร ต้นไม้ใบไม้ที่สวนหน้าบ้านก็นิ่งสนิท ดูเหมือนไม่มีลมพัดผ่านมาเลยแม้แต่วูบเดียว เขาจึงไม่ได้สนใจอะไร หันกลับมาดูรูปต่อ

    ซึ่งในตอนนี้นั้น ที่บานหน้าต่างมุ้งลวดด้านหลังของตั้ม มีผู้หญิงผมยาว กระเซอะกระเซิง ไม่สวมเสื้อผ้า ยืนนิ่งมองตรงเข้ามายังตั้มโดยที่เขาไม่รู้ตัว

    กอล์ฟเดินลงมาจากชั้นบนพอดี ร่างของหญิงสาวจึงค่อยๆ จางหายไป

    เพื่อนซี้ทั้งสอง นั่งดื่มนั่งคุยกันจนล่วงเลยมาถึงเวลาประมาณห้าทุ่มกว่า ก็แยกย้ายกันขึ้นไปนอนบนห้อง

    ซึ่งตั้มเมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็กระโดดขึ้นไปเล่นโทรศัพท์ต่อบนเตียงนอน 



    ติ๊ด ๆ ... ติ๊ด ๆ ... ติ๊ด ๆ

    เสียงสัญญาณที่ดังบอกเวลาทุกชั่วโมงของนาฬิกาตั้งโต๊ะ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี

    ตั้มรู้สึกหิวน้ำ จึงเดินลงมาจากชั้นสอง ก่อนเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำขึ้นดื่ม

    ฟุ้บ! เสียงบางอย่างดังมาจากทางต้นมะม่วงต้นใหญ่หน้าบ้าน ตั้มนึกถึงคำที่กอล์ฟเตือนไว้ จึงรีบปิดตู้เย็น ปิดไฟห้องครัวและเดินขึ้นบันไดไป

    แต่ยังไม่ทันที่สายตาของเขาจะมองผ่านบันไดชั้นล่างไป

    ตุ้บ! เสียงนั้น ดังมาจากบริเวณที่เขาจอดรถอยู่ไม่ผิดแน่ ด้วยความที่ตั้มเป็นคนรักรถมาก จึงรีบวิ่งมาดูจนลืมคำเตือนที่กอล์ฟบอกไว้ เขาวิ่งมาดูบริเวณข้างหน้าต่างมุ้งลวดที่ห้องรับแขก โดยไม่เปิดไฟ เพราะถ้าหากเป็นขโมย มันอาจจะรู้ตัวได้ แต่ภาพที่ตั้มกำลังมองอยู่ตอนนี้ ทำให้เขาลืมคำว่าขโมยไปเสียสนิทใจ


    หญิงสาวผมยาวกระเซอะกระเซิง รูปร่างผ่ายผอม ไม่สวมเสื้อผ้ากำลังกระโดดเล่นอยู่บนหลังคารถของเขา เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ผู้หญิงคนนี้คือใครกัน ทำไมถึงไม่สวมเสื้อผ้าแล้วมากระโดดอะไรอยู่บนรถของเขา ไม่นาน หญิงสาวร่างเปลือยผู้นั้น ก็กระโดดลงจากหลังคารถ วิ่งผ่านไปทางข้างบ้าน

    เมื่อตั้มเห็นหญิงสาวคนนั้นวิ่งผ่านหน้าต่างข้างบ้านไปแล้ว จึงตั้งใจจะเดินขึ้นไปชวนกอล์ฟลงมาดู

    แต่ทว่า หญิงสาวคนนั้น ถอยกลับมาตรงหน้าต่างข้างบ้านอีกครั้ง เธอยืนแสยะยิ้มจ้องมองตั้มอย่างไม่วางตาก่อนจะเอามือสองข้างขึ้นมากุมหน้า แล้วส่งเสียงร้องไห้ ไปพร้อมๆ กับเสียงสุนัขในซอยที่กรูกันมาหอนอยู่บริเวณหน้าบ้านของกอล์ฟ

    ตั้มตัดสินใจวิ่งขึ้นบันไดไปเคาะประตูเรียกกอล์ฟ ไม่นาน กอล์ฟก็เดินออกมาเปิดประตูด้วยอาการงัวเงีย

    " ไอ้กอล์ฟ เมื่อกี้นี้ กูเห็นผู้หญิงไม่สวมเสื้อผ้ามากระโดดอยู่บนหลังคารถกู ขโมยหรือเปล่าวะ ไปดูกันมั้ย" ตั้มพูดออกมาพร้อมกับอาการหอบ และใบหน้าที่ตื่นตระหนก


    คำพูดของตั้ม ทำเอากอล์ฟที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที 

     "ไม่ใช่ขโมยหรอก มึงเชื่อกู ไปนอนซะ เดี๋ยวผ่านตี 1 ไป ก็เงียบไปเองล่ะ นอนๆๆ กูง่วงแล้ว" กอล์ฟสะบัดมือส่งสัญญาณว่าไม่พร้อมจะพูดคุยอะไรกับเขาตอนนี้ ตั้ม จึงเดินกลับมาที่ห้องที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน เปิดม่านหน้าต่างออกส่องดูไปที่ด้านล่าง ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใครกัน



    เขากลับไปนอนบนเตียงอีกครั้ง ด้วยความเหนื่อยล้า ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาผล็อยหลับไปจนถึงเช้า

    เวลาเกือบเก้าโมง ตั้มเดินงัวเงียลงมาจากชั้นบน ในขณะที่กอล์ฟตื่นนานแล้ว และกำลังนั่งดูซีรีส์ที่เขาดูเป็นประจำทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตั้มพยักหน้าทักทายกอล์ฟ ก่อนจะเปิดเอาขวดน้ำดื่มในตู้เย็นออกมาดื่มและเดินถือออกไปที่หน้าบ้าน เพื่อออกไปตรวจดูสภาพรถ แต่ทว่า รอบตัวรถไม่มีสิ่งใดผิดปกติ มีเพียงบนหลังคารถเท่านั้น ที่ปรากฎรอยเท้าเปื้อนดินนับสิบรอย กระจายอยู่ทั่วหลังคา 

    "กอล์ฟ มึงมาดูนี่ดิ" ตั้มเดินไปเรียกกอล์ฟทางหน้าต่าง

    กอล์ฟเดินออกมาที่หน้าบ้านเลิกคิ้วขึ้นแทนการเอ่ยถามว่าต้องการให้เขามาดูอะไร แต่พอตั้มชี้ไปบนหลังคารถ เขาก็สะดุ้งโหยง

    "กูว่า บ้านนี้มันมีอะไรแปลกๆ ว่ะกอล์ฟ เรื่องผู้หญิงเมื่อคืน เรื่องเที่ยงคืนจนถึงตีหนึ่งอะไรของมึงนั่นอีก มันมีอะไรหรือเปล่าวะ" ตั้มคะยั้นคะยอถาม 

    "เรื่องรอยเท้านี่ กูก็อธิบายไม่ได้หรอกว่ะ แต่ตั้งแต่กูมาอยู่ที่นี่ คนแถวนี้เขาบอกกับกูว่า ดึกๆ ช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งถ้าเกิดอะไร หรือได้ยินเสียงอะไร ก็อย่าออกไปดูมันอันตราย เพราะแถวนี้มันเปลี่ยว อาจจะเป็นโจรขโมยก็ได้ แต่ถ้ามึงไม่สบายใจ เดี๋ยวกูหากล้องวงจรปิดมาติดก็ได้" กอล์ฟเสนอ

    แต่ตั้มก็ปฏิเสธ เพราะเห็นใจกอล์ฟ ที่อุตส่าห์ชวนเขามาหารค่าเช่าบ้าน แล้วยังจะต้องเสียเงิน  ไปหากล้องวงจรปิดมาติดอีก 

    "เป็นไรหรอก ลองดูไปก่อนก็ได้ กูอาจจะระแวงไปเอง ไปหาไรกินกันเหอะ" ตั้มเอ่ยเสียงอ่อยก่อนพากันเดินเข้าบ้านไปอาบน้ำอาบท่า

    สั่งอาหารเดลิเวอรี่ ออกมาช่วยกันล้างรถ และนอนหลับพักผ่อนกันในช่วงบ่ายเพราะฝนตกลงมาอย่างหนัก จนกระทั่งตะวันตกดิน



    กอล์ฟออกไปสังสรรค์กับเพื่อนนอกบ้านและเขาไม่มีประวัติกลับดึก แต่มักจะกลับมาตอนเช้าของวันถัดไปเสมอ

    คืนนี้จึงเป็นคืนที่ตั้ม ต้องอยู่ในบ้านเพียงลำพัง

                


    ตั้มเดินออกไปล็อคประตูรั้วหน้าบ้าน ตอนเวลาประมาณเกือบสามทุ่ม และกลับมารีบอาบน้ำอาบท่า นั่งเล่นโทรศัพท์ที่โซฟาตามปกติ จนเผลอหลับไปและสะดุ้งตื่นมาอีกทีตอนเกือบจะเที่ยงคืน เขาแหงะมองนาฬิกาบนผนัง และหันมองออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าห้องรับแขก ทุกอย่างว่างเปล่ามีเพียงเสียงใบไม้ที่พัดปลิวไปเพราะสายลมเท่านั้น ที่พอจะทำให้บรรยากาศไม่เงียบจนเกินไป ตั้มรู้สึกว่าชั้นล่างอากศถ่ายเทได้ดีกว่าห้องของเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งรับแดดหลายชั่วโมงในช่วงบ่าย เขาจึงตัดสินใจว่า คืนนี้จะลองนอนที่ห้องรับแขกดู อย่างน้อย รถอันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ก็ยังอยู่ในสายตาของเขา

    ตั้มเดินขึ้นไปหยิบหมอนและผ้าห่มผืนบาง ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาและหลับไปอีกครั้ง

    จนกระทั่ง สามสหายบนหน้าปัดนาฬิกาโคจรมารวมตัวกันที่เลข 12


    ฟุ้บ! เสียงบางอย่างดังมาจากทางต้นมะม่วงต้นใหญ่หน้าบ้านอีกครั้ง ตั้มลืมตาตื่นขึ้นมาในทันที

    ไม่นานสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อคืน ก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าตั้มอีกครั้ง หญิงสาวร่างเปลือยเปล่าคนเดิมได้ขึ้นไปกระโดดอยู่บนหลังคารถของตั้ม พร้อมกับเสียงหัวเราะ สลับกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น

    ตั้มตัดสินใจคว้ากระบอกไฟฉายส่องออกไปยังหลังคารถ แต่หญิงสาวคนนั้นก็กระโดดหลบ ใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจหนึ่งก็โมโหกับสิ่งที่หญิงสาวคนนี้ทำกับรถของเขา

    เขาจึงลุกเดินเปิดประตูออกไปที่หน้าบ้าน เดินดุ่มๆ ส่องไฟฉายไปรอบรถ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงแต่ก็ไม่พบใคร  เขาสงสัยว่า หญิงสาวคนเมื่อครู่อาจจะวิ่งหนีออกไปทางด้านหลังบ้าน ก็เป็นได้ เขาจึงได้เดินเลี้ยวผ่านความมืดไปตามทางที่เขาเชื่อว่า ผู้หญิงคนนั้นจะวิ่งผ่านไป

    ไม่นาน เสียงประหลาดก็ดังขึ้น ตึก..ตึก..ตึก เสียงเหมือนใครเอาของแข็งทุบกับอะไรสักอย่าง ดังมาจากทางหลังบ้าน ตั้มรีบวิ่งตามไปดูปรากฎว่า

    ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่มุมกำแพง หญิงสาวร่างเปลือยเปล่าคนนั้น กำลังนั่งเอาศีรษะของตัวเอง ฟาดเข้ากับลำต้นของต้นไม้ใหญ่ เลือดสีแดงไหลอาบลงมาตามคอและร่างการของเธอ ตั้มได้แต่ยืนตะลึงงันกับภาพที่เห็น หญิงสาวคนนี้เป็นใครกัน ทันใดนั้น ร่างของหญิงสาวก็มาปรากฎตัวอยู่ด้านหลังของตั้ม ลมหายใจแผ่วเบาของเธอ ปลิวผ่านใบหูของเขาไป ตั้มพยายามจะขยับตัวเพื่อวิ่งหนี แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ร่างเย็นเฉียบประกบเข้ากับแผ่นหลังของเขา ทำเอาขนทั้งตัวลุกซู่ขึ้นมาอย่างไร้การควบคุม

    "ช่วย...ด้วย... ฮือออออออ" เสียงแหบพร่าที่ดูไร้เรี่ยวแรงดังขึ้นข้างใบหูของตั้ม

    "อย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมเพิ่งมาอยู่ใหม่ อยากให้ช่วยอะไรก็บอกกันดี ๆ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย" ตั้มนึก

    แต่เหมือนหญิงสาวจะได้ยินเสียงที่เขาพูดภายในใจ ร่างของเธอไปปรากฎที่ใต้ต้นไม้ต้นนั้นอีกครั้ง

    เธอนั่งเอาศีรษะฟาดเข้ากับต้นไม้อีกรอบ ตึก..ตึก..ตึก เสียงศีรษะกระแทก ดังระคนกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาว



    ปื๊นๆ เสียงแตรของรถเก๋งคันหนึ่ง ดังขึ้นที่หน้าบ้าน นั่นเป็นดั่งเสียงระฆังช่วยชีวิตตั้มก็ว่าได้

    คืนนี้กอล์ฟกลับมานอนบ้าน ไม่ได้ไปค้างที่ไหน ตั้มที่ได้สติแล้ว ก็วิ่งหูตาตื่นมาจากทางหลังบ้าน ทำเอากอล์ฟร้องลั่นด้วยความตกใจ

    "เฮ้ย! ไอ้ตั้ม นี่เที่ยงคืนกว่าแล้ว มึงออกมาทำไมนอกบ้าน" กอล์ฟเอ่ยถาม

    "เข้าบ้านกันก่อน เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง" ตั้มพูดพลางลากกอล์ฟเข้าไปข้างใน ท่ามกลางการจ้องมองของหญิงสาวที่ยืนหลบอยู่ตรงมุมข้างบ้าน

    "พรุ่งนี้ มึงต้องไปดูที่ต้นไม้ใหญ่มุมกำแพงนั้นกับกู ที่นี่มี" ตั้มชะงักไป

    "หยุดเลยไอ้ตั้ม ดึกๆ ดื่นๆ มึงไม่ต้องพูดเลย" กอล์ฟปราม

    "เออๆ คืนนี้ กูนอนห้องมึงนะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน" ตั้มเอ่ย ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปบนห้องของกอล์ฟ 



    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อตะวันสาดแสง ตั้มลุกตื่นและปลุกกอล์ฟทันที ทั้งคู่เดินไปล้างหน้าล้างตาและตรงไปยังต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน

    ซึ่งที่ตรงนี้ กอล์ฟไม่เคยได้เดินมาดูเลย ครั้งสุดท้ายที่มาตรงนี้ ก็น่าจะเป็นตอนที่เจ้าของบ้านพาเดินชมรอบบ้าน 

     ที่ตรงนั้น เป็นต้นไม้ใหญ่ขนาดลำต้นประมาณ 1 คนโอบ ที่โคนต้นเต็มไปด้วยกองใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมา แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น บริเวณลำต้นฝั่งซ้าย มีรอยสีดำเป็นวงและดูเหมือนว่ามันคือของเหลวบางอย่างที่แห้งกรังกลืนเข้ากับเนื้อไม้ไปแล้ว

    "เฮ้ย!" ตุ้บ! กอล์ฟล้มลงขณะเดินสำรวจรอบๆ โคนต้น ตั้มรีบวิ่งมาประคองและปัดใบไม้ออกให้กับกอล์ฟ

    จนเหลือบไปเห็นบางอย่างที่อยู่ใต้กองใบไม้ เขาค่อย ๆ เดิน พร้อมกับเอาขาเขี่ยใบไม้ออก 



    ...มือคน! โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินแค่ส่วนของนิ้ว...



    กอล์ฟผละถอยออกมายืนชิดกับตั้ม ก่อนที่ตั้มจะรีบโทรหาตำรวจเพื่อเข้ามาตรวจสอบพื้นที่

    ทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ และเพื่อนบ้าน ต่างเข้ามาดูเหตุการณ์กันอย่างใกล้ชิด



    ...ร่างของหญิงสาวที่ผิวหนังเริ่มแห้งกรังติดกระดูก ไร้อาภรณ์ห่อกาย ถูกยกขึ้นมาวางบนผืนผ้าดิบ ตั้มเชื่อว่า นี่เป็นร่างของหญิงสาวที่เขาได้เจอเมื่อ 2 คืนที่ผ่านมาแน่นอน



    เพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกันทางด้านหลังให้การกับตำรวจว่า เมื่อเดือนก่อน เจ้าของบ้านมีการจ้างช่างมาปรับปรุงบ้านใหม่ ช่วงที่ช่างส่งมอบงานจนเสร็จ เขาเคยได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมา แต่ไม่กี่วันกลิ่นก็หายไป ซึ่งหลังจากช่างส่งมอบงานเสร็จ บ้านหลังนี้ก็ยังไม่มีใครมาเช่าอยู่ จึงไม่ได้เอะใจอะไร

    เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามมักเห็นผู้หญิงเปลือยกาย กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงหน้าบ้าน และเดินวนไปมาอยู่ภายในสวน ตอนช่วงเที่ยงคืนของทุกวัน บ้างก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากบ้านหลังนี้ แต่ทุกเหตุการณ์กลับเกิดขึ้นเฉพาะช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหลายคนเดาว่า นั่นอาจเป็นช่วงเวลาที่เธอถูกทำร้ายจนเสียชีวิตก็เป็นได้ แต่ด้วยเจ้าของบ้านเช่าเป็นที่รักของคนแถวนี้ เพื่อนบ้านจึงได้แค่เอ่ยเตือนกอล์ฟ ว่าช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งอย่าออกมาข้างนอก เพราะอาจมีโจรหรือขโมยออกตระเวนหากินอยู่

    แต่กอล์ฟเองก็เคยเจอเรื่องแปลกๆ ในช่วงเวลานั้นอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เขาเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมาก หากไม่ได้มาทำร้ายกัน เขาก็ไม่ใส่ใจ จนมีตั้มเข้ามาพักอยู่ด้วย เรื่องทั้งหมดจึงถูกเปิดเผยออกมา

    ตำรวจได้สอบปากคำตั้มและกอล์ฟกว่า 20 นาที จนกระทั่ง เจ้าของบ้านเช่าเดินทางมาถึงและรับช่วงการสอบปากคำต่อจากพวกเขาไป ร่างไร้วิญญาณถูกนำไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการพิสูจน์พลิกศพ ไม่นานก็รู้ผล

    หญิงสาวคนนี้ เป็นคนงานก่อสร้างชาวต่างด้าว ที่ถูกกลุ่มช่างปูนรุมข่มขืน ก่อนจะช่วยกันฝังศพเอาไว้ใต้ต้นไม้ต้นนี้ ญาติของหญิงสาวได้มาแจ้งความเอาไว้แล้ว ทางตำรวจก็กำลังพยายามหาเบาะแสอยู่ จนกระทั่ง ตั้มและกอล์ฟโทรเข้ามาแจ้งเหตุ ซึ่งทางตำรวจ สามารถจับคนร้ายได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเขายังมีชีวิตอยู่

    ส่วนอีก 2 คน ได้ผูกคอตายไปอย่างไร้สาเหตุ โดยที่ทางญาติ ก็ไม่ทราบแรงจูงใจในการฆ่าตัวตายเช่นเดียวกัน ส่วนคนร้าย ที่ถูกจับกุมมานั้น ก็เอาแต่เพ้อ พูดคนเดียว บ้างก็เอาศีรษะตัวเองฟาดเข้ากับผนังห้องขัง

    จนตำรวจต้องนำออกมาทำแผลหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งญาติเชื่อว่า คนร้ายทุกคน ถูกวิญญาณของหญิงสาวตามไปหลอกหลอนเอาชีวิต และไม่กี่วันต่อมา คนร้ายคนสุดท้ายก็ลาจากโลกนี้ไป ด้วยคำพูดก่อนตายบนเตียงผู้ป่วยที่ว่า 



    ... ผู้หญิงคนนั้น ที่ไม่สวมเสื้อผ้า เขานั่งอยู่บนหน้าอกผม ...



    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ตั้มกับกอล์ฟ ก็ไม่เคยเจอเรื่องราวแปลก ๆ อีกเลย ตั้มและกอล์ฟ คอยใส่บาตร ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้หญิงสาวผู้นั้นอยู่เสมอ เขาหวังเพียงว่า เกิดชาติหน้าฉันใด เธอคงไม่ต้องเกิดมาพบกับวิบากกรรมที่โหดร้ายเหมือนเช่นในชาตินี

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×