ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Fairy Tail] Attraction เสน่ห์ร้าย ยัยจอมเวท

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter >> 3 :: เรื่องวุ่นวายที่เหมือนจะคลี่คลายลง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.59K
      34
      14 ต.ค. 56







    Chapter > 3 เรื่องวุ่นวายที่เหมือนจะคลี่คลายลง

     

     

     

    คงเพราะเจอเรื่องราวมาหนักหนาสาหัส(?)พอสมควร  ทำให้ลูซี่เพลียทั้งร่างกายและจิตใจเสียจนหมดแรงแทบตาย  สุดท้ายร่างบางก็เข้าสู่ห้วงนิทราไป..

     

    เช้าวันใหม่ที่สดใส...ที่ลูซี่แน่ใจว่าน่าจะสดใสมาเยือนแล้ว  ร่างบางลืมตาขึ้นมารับกับแสงยามเช้าช้าๆ  แล้วลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจเล็กน้อย  ก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไปทันที 

     

    แต่เช้าที่ดูจะสดใสวันนี้กลับไม่เป็นอย่างที่ใจคิดเสียแล้ว  เมื่ออาบน้ำยังไม่ทันจะเสร็จดี  ลูซี่ก็ดันได้ยินเสียงกุกกักๆ ดังขึ้นมา  และไม่ต้องสืบหาที่มาของเสียงให้เหนื่อยเปล่าเลย  เพราะเสียงนั้นมันดังมาจากหน้าห้องน้ำแน่ๆ

     

    ร่างบางไม่รอช้า  รีบลุกขึ้นจากอ่างน้ำ คว้าผ้าเช็ดตัวสีสะอาดมาพันรอบกายเอาไว้ให้กระชับตัว  ก่อนจะค่อยๆ ย่องมาที่ประตูห้องน้ำเบาๆ  หวังจะส่องดูว่าสิ่งใดคือต้นเหตุของเสียงประหลาดที่เธอได้ยิน

     

    ..หรือจะเป็นพวกบ้านั่น..

     

    คิดได้แค่นั้นก็ขนลุกขึ้นมาทันที  เพราะถ้าเป็นพวกบ้านั่นจริงล่ะก็..เธอก็ไม่รอดล่ะจ้า

     

    ลูซี่ยืนแอบอยู่ที่ประตูห้องน้ำ  สายตาก็พยายามสอดส่องหาที่มาของเสียงกุกกักๆ ที่ตนได้ยิน  แต่หาเท่าไรก็ไม่เห็นจะพบอะไรก็ตามที่เป็นที่มาของเสียงเลยสักนิด  เธอจึงได้แต่ถอนใจ พลางคิดว่าตัวเองคงจะหูฝาดเป็นแน่

     

    “เฮ้อ ฉันเนี่ยนะ ยังไม่ทันจะแก่เลยด้วยซ้ำ  หูเหอไปหมดแล้ว” บ่นให้ตัวเองเล็กน้อยพอเป็นพิธี  แล้วก็เดินออกมาหวังจะหาเสื้อผ้าใส่เลย...ก็นะ หมดอารมณ์แช่น้ำต่อแล้วล่ะ

     

    คงเพราะมัวแต่ปล่อยอารมณ์กับการต่อว่าตัวเองอยู่  ทำให้ลูซี่ไม่ทันได้สังเกตเลยว่า...ใครบางคนกำลังย่องเข้ามาทางด้านหลังของตนเองช้าๆ และ..

     

    หมับ!!

     

    คว้าตัวเธอไปกอดจากด้านหลัง!

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ลูซี่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ  ก่อนจะสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อให้อ้อมแขนของใครก็ไม่อาจทราบได้หลุดพ้นจากตัวเธอ  แต่ดูจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย

     

    “อย่าเสียงดังสิ  เดี๋ยวคนอื่นก็วิ่งเข้ามาเห็นเธอในสภาพนี้กันพอดี”

     

    ใครคนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ออกจะติดตลกหน่อยๆ  ทำให้ลูซี่รีบหันกลับไปมองหน้าเขาทันที

     

    “โลกิ!!

     

    “ไงครับที่รัก J” โลกิยิ้มหวานพร้อมปล่อยลูซี่ออกจากอ้อมแขนของตน  แต่สาวเจ้ากลับยิ้มไม่ออก  ได้แต่มองเขาตาค้างด้วยความตกใจ...หรือบางที...อาจจะกลัวด้วยก็เป็นได้

     

    “นายออกมาทำไมกัน?”

     

    “ก็ฉันคิดถึงเธอนี่ลูซี่” โลกิพูดพร้อมๆ กับสาวเท้าเข้ามาใกล้ลูซี่อย่างช้าๆ  เช่นกันกับเธอที่ค่อยๆ ถอยห่างจากเขาอย่างช้าๆ

     

    ..ถ้าถามว่าหนีทำไม? นี่มันเทพแห่งดวงดาวของเธอเองนะ  ก็คงตอบได้เลยว่า ..ไม่หนีก็บ้าแล้ว!  เพราะสายตาของโลกิที่มองมายังเธอ..ดูไงๆ ก็สายตาของนักล่าชัดๆ !!!

     

    ใช่...ราวกับสิงโตที่กำลังจ้องจะขย้ำเหยื่อสาวแสนสวยที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนบาง

     

    ..ตาย! ตายแน่ๆ !! งานนี้ฉันไม่รอดแล้วแน่ๆ  ฮือๆ ความสาวสวยสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องงดงามของฉันจะต้องมาจบลงที่ตรงนี้แล้วหรือ?  ฉันยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะ T^T

     

    อันที่จริงในเวลาปกติแล้ว ลูซี่ไม่เคยคิดที่จะมีความรู้สึกหวาดกลัวโลกิเลยแม้แต่น้อย  แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันทำให้เธอ...กลัวเขา

     

    คิดไปก็ยิ่งพาให้ตัวเองกลัวจนต้องเข่าอ่อนทรุดลงไปนั่งกับพื้นช้าๆ  น้ำตาก็พาลจะไหลแหล่มิไหลแหล่ออกมา “อย่านะโลกิ  ฉันขอล่ะ”

     

    งานนี้มีหวังสิงโตล่ากระต่ายแน่ๆ

     

    “ลูซี่ร้องไห้ทำไมกัน?” โลกิถามเสียงอ่อน  ก่อนจะนั่งลงจ้องหน้าสบตากับเธอ

     

    “เอ๋???”

     

    “อย่าร้องไห้สิที่รัก” ไม่ว่าเปล่า  มือเรียวยื่นมา...เกลี่ยเอาหยาดน้ำตาออกจากใบหน้าสวยหวานของผู้เป็นเจ้านายอย่างแผ่วเบา

     

    “เอ๊!!!!!!!!!!!” ลูซี่ร้องลั่นด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นน่ะโลกิ  ทำไมนายกลายเป็นแบบนี้ไปแล้วล่ะ  เมื่อวานนายยังดูน่ากลัวอยู่เลยนะ  ไม่ใช่ว่าโดนยาเสน่ห์เข้าไปหรอกเหรอ?”

     

    โลกิยิ้มน้อยๆ กับใบหน้าสวยที่ตอนนี้ออกอาการเหวอย่างเห็นได้ชัด  ก่อนจะตอบคำถามให้ลูซี่  “อื้อ โดนสิ”

     

    “แล้วทำไม....?”

     

    “ลูซี่ลืมไปแล้วงั้นเหรอ? ผมเป็นเทพแห่งดวงดาวนะ  กะอีแค่ยาเสน่ห์ของโลกมนุษย์นี้น่ะ  ทำอะไรเทพแห่งดวงดาวอย่างผมไม่ได้หรอก”

     

    คนฟังคิดตามเล็กน้อย  ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นมึนตึงขึ้นมาทันที

     

    “แล้วเมื่อวานนายพุ่งใส่ฉันทำไม?”

     

    “ก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก แค่อยากล้อเล่นเฉยๆ J

     

    “ตาบ้า” ว่าแล้วก็ฟาดแขนโลกิเสียยกใหญ่  เล่นบ้าอะไรไม่เข้าท่า ดูสิ..ทำเอาเธอกลัวจนขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย  ดีนะไม่โดนเทพแห่งดวงดาวของตัวเองข่มขืนเข้าให้

     

    “ฮะๆ ขอโทษนะที่รัก  เอาเป็นว่าเลิกกลัวผมได้แล้วนะ  แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้ลูซี่ต้องรู้สึกกลัว”

     

    “อะ อื้อ” ลูซี่พยักหน้ารับคำขอโทษของโลกิ

     

    “ดีแล้ว งั้นก็ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วนะ  นั่งอยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ” เขาว่าพลางเบนสายตาไปทางอื่นแทน “แล้วก็..วันนี้ออกไปทำภารกิจด้วยกันนะ”

     

    “นายออกมาเพื่อชวนฉันไปทำภารกิจเนี่ยนะ?”

     

    “ไม่เชิงซะทีเดียว  ก็ตอนนี้ลูซี่โดนหมายปองอยู่  อัศวินอย่างผมก็ต้องช่วยปกป้องเจ้าหญิงอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นก็เลยออกมาเพื่อคอยปกป้องลูซี่จากพวกนั้นต่างหาก แล้วก็...ช่วงที่ต้องหลีกเลี่ยงพวกนั้น ลูซี่ก็ต้องหาเงินค่าเช่าบ้านด้วย ก็เลยกะว่าจะเป็นเพื่อนทำภารกิจไปก่อนจนกว่าจะหาทางแก้เรื่องยาเสน่ห์นั่นได้น่ะ”

     

    ร่างบางยิ้มรับกับคำพูดของอีกฝ่าย 

     

    “โลกิใจดีที่สุดเลย”

     

    “คร้าบๆ เจ้านายของผม”

     

    แล้วก็ทำการไล่เจ้าเทพแห่งดาวสิงโตออกไปรอข้างนอกก่อน  เพื่อที่เธอจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างสะดวกใจ

     

     

    ณ กิลด์แฟรี่เทล

     

    “อืม งั้นเอาภารกิจนี้ก็แล้วกัน” สิ้นเสียงลูซี่  โลกิก็ยิ้มรับ  ก่อนที่เขาจะดึงกระดาษใบภารกิจออกมาแล้วเดินเอาไปยื่นให้มิร่าเจนที่เคาท์เตอร์  ทุกอย่างเหมือนจะไปได้อย่างราบเรียบ...

     

    ...จนกระทั่งลางซวยเดินเข้ามา

     

    “เฮ้อ  น่าเบื่อชะมัด  อยากไปทำภารกิจกับลูซี่จริงๆ”  

     

    เสียงของเกรย์ดังขึ้นมา  พร้อมกับร่างของเจ้าตัวที่เดินอาดๆ เข้ามาในกิลด์ด้วยสีหน้าเซ็งๆ 

     

    แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้เขากำลังทำให้ใบหน้าของใครบางคนตกใจสุดขีดไปแล้ว..

     

    เมื่อเห็นท่าไม่ดี  โลกิก็ไม่รอช้า ถอดเสื้อสูทสีเข้มของตนออกมาคลุมศีรษะไว้ให้ลูซี่  เพื่อหวังจะปกบังผมสีบลอนด์เด่นของเธอไม่ให้เกรย์ได้เห็น  ก่อนจะดันตัวเธอมาหลบอยู่ด้านหลังของตน

     

    “อ๊ะ โลกิ?” ฝ่ายคนถูกคลุมหัวมองเขาด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย

     

    “คลุมเอาไว้ก่อนลูซี่..”

     

    ยังไม่ทันจะทำหน้าหล่อให้สาวเจ้าชื่นชม  เจ้าตัวปัญหาที่เพิ่งเดินเข้ามาในกิลด์เมื่อครู่ก็สังเกตเห็นเขาเข้า  ก่อนจะเดินเข้ามาทักทายด้วยน้ำเสียงที่ดูจะอารมณ์ดีขึ้นกว่าตอนแรกเล็กน้อย

     

    “อ้าว โลกิ  นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง  งั้นก็แสดงว่าลูซี่...”

     

    “เปล่า ฉันแอบออกมาโดยพลการเองน่ะ” โลกิกล่าวตอบทันทีโดยไม่รอให้เกรย์พูดจบประโยคเลยด้วยซ้ำ

     

    “เห..?” เกรย์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อย  ก่อนจะเหลือบเห็นอะไรแวบๆ ที่ด้านหลังของโลกิ

     

    ฝ่ายเทพแห่งดวงดาวเองก็พอจะสังเกตสายตาสงสัยใคร่รู้ของอีกฝ่ายได้  จึงชวนเปลี่ยนเรื่องคุยเสีย

     

    “ไม่ได้เจอกันนานนะเกรย์  ไปทำภารกิจด้วยกันดีไหม?”

     

    “พูดบ้าอะไรของนาย  ก็เพิ่งจะเจอกันเมื่อวานไงฟระ” เกรย์ว่า

     

    โลกิหน้าอึนไปเล็กน้อย ..เออจริงด้วย..เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี่เอง..

     

    “แต่ก็ได้  ไงๆ ก็ไม่ได้ทำภารกิจด้วยกันนานแล้ว  ไปก็ได้ฟระ” สุดท้ายเกรย์ก็ยอมรับคำอยู่ดี  ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มหันหน้าจะเดินไปทางบอร์ดทีแปะใบรีเควสต์ภารกิจไว้  หากแต่โลกิกลับรีบเอ่ยเรียกเสียก่อน

     

    “ฉันเลือกภารกิจไว้แล้ว  ถ้ายังไงก็ไปกันเลยนะ” 

     

    ว่าแล้วก็ไม่รอช้า  รีบคว้าคอเกรย์แล้วพากันเดินออกไปจากกิลด์อย่างรวดเร็วทันที  ปล่อยให้ลูซี่ได้แต่มองตามอย่างขอบคุณในความช่วยเหลือของโลกิ  ก่อนที่ดวงตาซึ่งแฝงไว้ด้วยแววความขอบคุณนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นโมโหขึ้นมาในทันที

     

    ..นั่นภารกิจที่จะทำกับฉันไม่ใช่เหรอยะ? แถมยังได้เงินเยอะด้วยนะภารกิจนั้นน่ะ !!!!..

     

    กร๊าซซซซซ ลูซี่อยากพ่นไฟจริงๆ

     

    “อ้าว ลูซี่จริงๆ สินะนั่น  ถึงว่าสิว่าทำไมโลกิคุงถึงได้มายื่นใบขอทำภารกิจ  ที่แท้ก็มากับเธอนี่เอง” เสียงมิร่าที่ดูเหมือนว่าจะเพิ่งสังเกตเห็นลูซี่เอ่ยทักขึ้นมา

     

    ลูซี่สะดุ้งสุดขีด  ก่อนจะหันใบหน้าซีดเซียวไปมองมิร่าเจน

     

    ..เมื่อวานคุณมิร่าเองก็โดนยาเสน่ห์เข้าไปเหมือนกัน.. เธอคิด  พลางสมองก็รีบคิดหาวิธีที่จะหลบหนีจากมิร่าไปให้ได้อย่างรวดเร็ว  ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้าใส่เธอเหมือนดังที่ทำเมื่อวาน

     

    ...หากแต่คนตรงหน้ากลับยังยืนยิ้มระรื่นให้กับเธออยู่ที่เคาท์เตอร์เช่นเดิม

     

    “เอ๋??????” รอบที่สองของวันที่ลูซี่เกิดอาการงงเข้าให้อีกครั้ง

     

    “รับเครื่องดื่มอะไรก่อนดีไหมจ๊ะ?” มิร่าเอ่ยถามลูซี่  ซึ่งหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ที่ยังงงๆ อยู่ก็ได้แต่พยักหน้ารับ  ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเคาท์เตอร์ด้วยอาการกล้าๆ กลัวๆ เล็กน้อย  ก่อนจะดึงเอาเสื้อสูทของโลกิออกจากหัวของตัวเอง

     

    ..ทำไมคุณมิร่ายังยืนยิ้มเฉยอยู่ล่ะ?  ก็เมื่อวานเธอโดนยาเสน่ห์เข้าไปนี่นา  หรือว่าเพราะผ่านไปหนึ่งคืน  ยาก็เลยหมดฤทธิ์แล้ว..?

     

    “ลูซี่จ้ะ  วันนี้เราไปห้องสมุดกันสองคนดีไหม?”  เพราะมัวแต่กำลังใช้สมองขบคิดเรื่องของมิร่าอยู่  ทำให้ลูซี่ไม่ทันได้ตั้งตัวกับคำถามที่อีกฝ่ายยิงมา  ทำให้เธอค่อนข้างจะตกใจกับคำถามนั้นมากจนแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้เข้าให้

     

    ..ตกลงว่ามันยังไงกันแน่เนี่ย??.. ร่างบางผู้ใช้เวทอัญเชิญเทพแห่งดวงดาวมองใบหน้ายิ้มแย้มของมิร่าด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “อะ เอ่อ...ทำไมต้องไปกันแค่สองคนด้วยล่ะคะ? คุณมิร่า” ลูซี่เอ่ยถามกลับไป

     

    “ก็ตอนนี้ไม่มีใครสนใจจะไปช่วยฉันจัดหนังสือที่ห้องสมุดของกิลด์สักคนเลยนี่นา  ก็เลยคิดว่าถ้าเป็นลูซี่ล่ะก็..น่าจะสนใจไปช่วยฉันจัดหนังสือหน่อย” มิร่าว่าพร้อมกับมือทาบใบหน้าตัวเองพร้อมรอยยิ้มเขินอาย

     

    ..เขินอายทำไม?

     

    “เอ่อ  คือฉัน....” ด้วยยังไม่แน่ใจว่าหากไปกันแค่สองคนตามที่มิร่าชวนแล้วล่ะก็  เธอจะโดนสาวสวยเจ้าของเวทเทคโอเวอร์กระทำชำเลาอะไรบ้าง..

     

    “คุณลูซี่คะ!

     

    เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นมา  ทำให้ทั้งลูซี่และมิร่าเจนหันหน้าไปมองทันที  ก็พบกับร่างเล็กเจ้าของเรือนผมสีน้ำรีบวิ่งจ้ำเข้ามาด้วยใบหน้าร้อนรน  พร้อมๆ กับแมวสีขาวที่รีบบินตามเด็กสาวเข้ามา

     

    “เวนดี้  มีอะไรรึเปล่า??” ลูซี่เอ่ยถามเวนดี้ไปทันที

     

    แต่ร่างเล็กไม่ตอบคำถามของเธอ  เวนดี้รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับจะลากลูซี่ให้ออกห่างจากมิร่าเจน  ด้วยไม่ไว้ใจกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานขึ้นมาได้  ..เธอจะต้องปกป้องคุณลูซี่เอาไว้ให้ได้  เพราะออกปากบอกไปเองว่าจะช่วยเหลือลูซี่ไม่ให้ต้องเจอกับพวกที่โดนยาเสน่ห์เข้าไป

     

    “หืมม์?” ทั้งลูซี่และมิร่าเจนต่างก็มองเวนดี้ด้วยสายตาประหลาดใจ

     

    “รีบไปสิคะคุณลูซี่” เวนดี้ออกแรงลากแขนลูซี่

     

    “ดะ เดี๋ยวนะ เวนดี้  ไปไหนงั้นเหรอ?” คนถูกลากเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง 

     

    “ก็ไปให้ไกลจากคุณมิร่าไงคะ” เวนดี้ตอบด้วยสีหน้าเป็นห่วง

     

    ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว  ว่าที่เวนดี้เข้ามาลากแขนเธอแบบนี้ก็คงเพราะเป็นห่วงเป็นแน่  แต่เธอก็รีบห้ามการกระทำของเวนดี้เอาไว้เสียก่อน  “ไม่เป็นไรแล้วล่ะเวนดี้ ดูเหมือนคุณมิร่าจะไม่มีอาการหน้ามืดตามัวเหมือนเมื่อวานแล้วล่ะ”

     

    “เอ๊ะ?” เวนดี้มีสีหน้างงทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของลูซี่ “ทำไมล่ะคะ?”

     

    “ก็ไม่รู้เหมือนกันสิ  แต่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะผ่านมาหนึ่งคืน  ยาเสน่ห์มันก็เลยหมดฤทธิ์ลงน่ะ” ลูซี่ว่า

     

    “แต่มันจะจริงเหรอคะคุณลูซี่?”

     

    “คิดว่าน่าจะใช่นะ  เพราะเท่าที่เคยอ่านหนังสือ(นิยาย)มา  พวกที่โดนยาเสน่ห์น่ะ พอปล่อยไว้หนึ่งคืน  ฤทธิ์ของยามันก็จะหมดลงทันทีเลย”

     

    ดราก้อนสเลเยอร์แห่งนภาหันไปมองใบหน้ายิ้มแย้มปนงงงวยของมิร่าเจนแล้วจึงยอมเชื่อในคำพูดของลูซี่  เพราะมิร่าไม่มีอาการอย่างที่เธอเป็นห่วงไว้จริงๆ

     

    เด็กสาวจึงปล่อยลูซี่  พร้อมกับเดินเข้าไปหามิร่าแทน “สวัสดีค่ะคุณมิร่า  แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อกี้หนูทำตัวเสียมารยาท”

     

    “ไม่เป็นไรจ้ะ” มิร่ายิ้มหวานให้ “จริงสิ เวนดี้มาพอดีเลย  พวกเราสามคนไปจัดหนังสือที่ห้องสมุดของกิลด์กันนะ”

     

    “ดะ  ได้ค่ะ” เวนดี้เองก็ยิ้มและตอบรับคำชวนของมิร่า

     

    เมื่อเห็นว่าไม่ได้ไปกันแค่สองคนแล้ว  ลูซี่เองก็ตอบตกลงที่จะไปด้วยเช่นกัน

     

    แล้วทั้งสามสาวก็ไปยังห้องสมุดทันที  เพื่อช่วยกันจัดหนังสือให้เข้าที่เข้าทาง  พร้อมกันนั้นก็ยังพูดคุยหยอกล้อเล่นกันเหมือนปกติเช่นเคย

     

    ..และนั่นมันก็ทำให้ลูซี่รู้สึกดีใจเป็นที่สุด!  ก็จะไม่ดีใจได้อย่างไร  ในเมื่อยามันหมดฤทธิ์ลงแล้ว  ทีนี้เธอก็จะได้ไม่ต้องหลบหน้าผู้คน  และยังสามารถมาที่กิลด์ได้อย่างสบายใจได้แล้วด้วย

     

    ..จริงสิ  เดี๋ยวเสร็จจากนี้แล้วชวนนัตสึไปทำภารกิจดีกว่า..

     

    คิดอย่างอารมณ์ดี  จนทำให้สองสาวที่อยู่ด้วยมองลูซี่ด้วยแววตาสงสัย

     

    “มีอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” มิร่าเอ่ยถามขึ้นมา

     

    “อ๋อ เปล่าค่ะคุณมิร่า  แค่รู้สึกว่าอยากจะไปทำภารกิจแล้วน่ะค่ะ”

     

    “จริงสิ  ตอนแรกฉันนึกว่าเธอจะออกไปทำภารกิจกับโลกิคุงซะอีกนะลูซี่” เจ้าของเรือนผมสีขาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

     

    “เอ๋?  จริงเหรอคะคุณลูซี่??” เวนดี้ที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบถามลูซี่ด้วยแววตาเป็นประกาย

     

    ..เอ่อ ทำไมทำตาแบบนั้นล่ะเวนดี้  คงไม่ใช่ว่าเธอจิ้นฉันกับโลกิอยู่หรอกนะ -___-; ..

     

    “เอ่อ  พอดีว่าโลกิเค้าเป็นห่วงน่ะ ก็เลยออกมา  แล้วก็ชวนไปทำภารกิจด้วยกัน  แต่พอดีว่าเกรย์เดินเข้ามาก่อน...หมอนั่นก็เลยลากเกรย์ออกไปแทนน่ะ” ลูซี่ว่าพร้อมทำหน้าเอือมระอากับสายตาของเวนดี้

     

    “ว้าว คุณโลกิช่วยปกป้องคุณลูซี่เอาไว้ด้วย  หวานกันจังเลยนะคะ” เวนดี้เอ่ยชม

     

    “เอ่อ...ไม่ใช่หรอกเวนดี้ -*-

     

    “เอ~ แต่ฉันว่าหวานจริงๆ นะ  เพราะก่อนที่โลกิคุงจะออกไป  เค้ายังถอดเสื้อสูทเอามาคลุมหัวลูซี่ไว้เลยนี่นา  สงสัยกลัวว่าเกรย์จะเห็นลูซี่เข้าสินะ” มิร่าเองก็เอ่ยแซวอีกคน

     

    “เอ๋  งั้นเสื้อสูทที่คุณลูซี่เอาคล้องแขนไว้นั่นก็ของคุณโลกิสินะคะ??”

     

    “น่ารักเนอะเวนดี้จัง”  แล้วทั้งมิร่าและเวนดี้ก็หันไปหัวเราะคิกคักกัน 

     

    เล่นเจอสองสาวรุมแซวแบบนี้  ลูซี่ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันล่ะจ้ะ

     

    “กลายเป็นเรื่องสนุกปากซะได้นะ” ชาร์ลที่นั่งเงียบมานานเอ่ยกับลูซี่  พร้อมมองเวนดี้ด้วยสายตาเอือมระอา  แต่กระนั้นแล้วสายตาของชาร์ลก็ยังคงแฝงไว้ซึ่งความเอ็นดู

     

    “เฮ้อ ทำไงได้ล่ะ” ลูซี่ถอนหายใจ  ก่อนจะหันหน้าไปจัดหนังสือต่อ

     

    “แล้วนี่เธอได้เจอกับเจ้าแมวตัวผู้บ้างรึเปล่าน่ะ?” เจ้าแมวตัวสีขาวถามขึ้นมา  ซึ่งลูซี่ก็ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไปมา  ก่อนจะตอบกลับไป

     

    “ไม่เลย  แต่เดี๋ยวว่าจะไปชวนพวกนั้นไปทำภารกิจกันอยู่น่ะ”

     

    แล้วทั้งชาร์ลและลูซี่ก็รีบช่วยกันจัดหนังสือต่อ  ปล่อยให้สองสาวต่างวัยอย่างเวนดี้กับมิร่าหัวเราะคิกคักกันต่อไป

     

     

    ไม่นานหลังจากนั้น  ลูซี่ก็ขอตัวลาพวกมิร่าเจนและเวนดี้  เพื่อที่ตัวเองจะได้ไปตามหานัตสึกับแฮปปี้ แล้วชวนออกไปทำภารกิจด้วยกัน

     

    “ไปแล้วนะคะ”

     

    ร่างบางเจ้าของเรือนร่างอันสมบูรณ์เดินออกมานอกกิลด์ด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี  พลางคิดไปว่าตัวเองจะชวนพวกนัตสึไปทำภารกิจอะไรดีไปเรื่อย

     

    ..จนไม่ทันได้ระวังตัวเอาเสียเลย

     

    อ้อมแขนของใครบางคนก็เข้าจู่โจมกอดลูซี่จากด้านหลังของเธอทันที  เหตุการณ์เหมือนที่เธอเจอโลกิแกล้งเมื่อเช้าแทบจะไม่ผิด  หากแต่คนที่กอดเธออยู่ตอนนี้จะเป็นโลกิไปไม่ได้  เพราะหนุ่มเทพแห่งดวงดาวนั้นออกไปทำภารกิจกับเกรย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    ..เอ๊ะ? หรือว่าโลกิจะหนีเกรย์กลับมาก่อน???.. ลูซี่คิด..แม้จะไม่รู้ว่าจะมาเสียเวลาคิดทำไมก็ตาม ในเมื่อตอนนี้เธอควรจะสะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ก่อนแท้ๆ

     

    คิดได้ดังนั้น  ร่างบางก็สะบัดตัวออก แต่เรี่ยวแรงกลับสู้ร่างปริศนานั้นไม่ได้เอาเสียเลย

     

    “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!

     

    หากแต่คำพูดของลูซี่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูร่างนั้นเลยแม้แต่น้อย  เพราะร่างที่สูงกว่าเธอกลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น   แล้วค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูลูซี่...ด้วยน้ำเสียงที่พาให้เธอต้องใจสั่น

     

    “ไปทำภารกิจด้วยกันนะ   








     

    -TBC-









    Writer Talk ;
             
    14/10/2013
               
                เห็นวันอัพตอนก่อนหน้านี้แล้วตกใจ -*-  รู้สึกไม่ได้อัพนานมาก~ #แหม่
                ก็นะคะ..พอดีว่าสอบเสร็จและได้ขนของกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว ก็เลยเอามันซะหน่อย อัพซะหน่อยเหอะ 55.  แล้วก็ด้วยความที่ว่าช่วงนี้ติดอ่านมากกว่าติดอัพด้วยล่ะมั้ง T^T 

                 ใครอ่านแฟรี่เทลเล่ม 36 แล้วบ้าง ???  เห็นหน้าปกไหม ?  3 หนุ่มสุดหล่อน่ารักบนหน้าปกนั่นคือที่รัก (โลกิ) แฟน (นัตสึ) และคู่หมั้น (เกรย์) ของไรต์เองจ้า ^o^ //โดนรีดฯ รุม

                 นี่รู้สึกไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับฟิคตอนนี้เลยนะเนี่ย -*-  #แหม่
                 สำหรับตอนนี้นะคะ  เรียบดีเนอะ? 55.   และไอ้คนที่โผล่มาในตอนสุดท้ายนี่  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครอื่นไปได้  นอกจากเจ้า 8 คนที่โดนยาเสน่ห์เข้าไปนั่นแหละ  แต่ปัญหาคือ..เขาจะเป็นใครกัน  (โลกิกับเกรย์ไปทำภารกิจแล้ว มิร่าก็ยังอยู่ข้างใน  ก็เหลืออยู่แค่ 4 คนกับอีก 1 ตัว 55.)

                 ไรต์พูดมากเนอะ? TwT  ไปดีกว่า.. แล้วจะขยันอัพนะคะ :D


     
              
              

     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×