ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Fairy Tail] Attraction เสน่ห์ร้าย ยัยจอมเวท

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter >> 2 :: มันคือยาเสน่ห์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.01K
      43
      20 พ.ค. 56

    Chapter > 2 :: มันคือยาเสน่ห์

     

     

    สายตาของทั้งแปดหันมองลูซี่ช้าๆ  ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่แสนรักใคร่.. “ลูซี่ 

     

    “ขา....?”

     

    .

     

    .

     

    ร่างบางเจ้าของหน้าอกอิ่มตอบรับด้วยความตกใจ  ก่อนจะต้องหน้าซีดขึ้นมาทันทีเมื่อบุคคลทั้งแปดที่เอ่ยเรียกชื่อเธอเมื่อครู่พร้อมใจกันพุ่งเข้ามาหาเธอด้วยท่าทีประหลาดและใบหน้าที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็น่าขนลุกเกินไป

     

    “กรี๊ดดดดด” พาให้ลูซี่ต้องเผลอกรีดร้องออกมาด้วยอารามตกใจ

     

    ใบหน้าของแปดคนที่พุ่งเข้ามาหาเธอนั้นแลดูมืดมนสุดๆ  รอบข้างของพวกเขาทั้งแปดคล้ายกับมีบรรยากาศน่าหวาดกลัวห่อหุ้มเอาไว้  อีกทั้งดวงตาที่จับจ้องมายังเธอนั้นช่างดูเสน่หาราวกับหลงใหลได้ปลื้มในตัวของเธอเสียเหลือเกิน  และนั่น...มันก็ทำให้ลูซี่รู้สึกกลัวจนอยากที่จะวิ่งหนีไปไกลๆ

     

    มือของทั้งแปดเอื้อมมาหมายคว้าตัวเธอเอาไว้..

     

    ทั้งที่เชื่อว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีเสมอ  แต่ครานี้ลูซี่กลับตระหนักได้ว่าโชคดีของเธอมันไม่ได้มีเสมอไป  เพราะในเมื่อ ณ ขณะนี้  เธอไร้ซึ่งทางหนีทีไล่แล้ว  หนทางที่จะช่วยให้เธอเล็ดลอดจากบุคคลทั้งแปดเบื้องหน้ามันไม่มีอยู่เลย 

     

    “ลูซี่ ” เสียงเพรียกแห่งเสน่หาเอ่ยขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง

     

    น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ความกระหายอยาก(?)ในตัวเธอ...ใช่  ถ้าเธอไม่คิดไปเองล่ะก็นะ  พวกนั้นจะต้องอยากกินเธอแน่ๆ  และแน่นอนว่า..กลืนกินเข้าไปทั้งตัวเสียด้วย

     

    ..แบบนี้ไม่เอานะ..

     

    “กรี๊ดดดดดดด  ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยยยยยยยยยย TT[]TT~~~~~~” เธอกรีดร้องออกมาอีกครั้ง  หวังให้ผู้คนในกิลด์ที่กำลังสังสรรค์กันอยู่หันมาสนใจเธอ  และรีบๆ เข้ามาช่วยเธอด้วย

     

    แต่ดูเหมือนโชคดีที่ว่าจะยังมาไม่ถึง...เพราะเหล่าคนที่สังสรรค์กันอย่างเมามันไม่ได้หันมาสนใจเธอเลยสักนิด

     

    มือแปดคู่ที่เอื้อมมาในคราแรก...ในที่สุดมันก็ถึงตัวลูซี่จนได้  (แต่ถ้าจะให้บรรยายว่ามือเหล่านั้นแตะต้องโดนตรงไหนบ้างนั้น..คงไม่อาจบอกได้ ฮ่าฮ่า)

     

    มือแข็งแกร่งเหล่านั้นเริ่มทำการกระชากคว้าเอาเสื้อผ้าของเธอออก  ฉีกทึ้งมันอย่างไม่ใยดี  พาให้คนถูกกระทำต้องอกสั่นขวัญผวาอย่างที่ทำอะไรไม่ถูกแล้วจริงๆ

     

    “แงงงงงงงงง~~  ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ลูซี่รวบรวมความกล้าตะโกนออกมาเสียงดัง 

     

    และความพยายามนั้นดูเหมือนจะได้ผล..

     

    ก่อนที่มหกรรมการรุมปล้ำที่ลูซี่คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นแบบนั้น (ซึ่งมันก็คงจะเป็นแบบนั้นจริงๆ) จะเริ่มขึ้น.. เหล่าคนในกิลด์ที่รำคาญในเสียงร้องของเธอก็หันมาเห็นเสียก่อน  และดูจากท่าทีแล้ว  พวกเขาคิดเลยว่า..มันไม่ปกติ

     

    ก่อนที่พวกนั้นจะวิ่งเข้ามารวบตัวแปดสัตว์ร้ายเอาไว้ 

     

    “เกิดอะไรขึ้นน่ะลูซี่” มาคาโอที่รวบตัวนัตสึเอาไว้เอ่ยถามขึ้นมา  ก่อนจะต้องออกแรงให้มากขึ้นเมื่อนัตสึดิ้นจนทำท่าจะหลุดไปได้

     

    “นั่นสิ  ที่มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะลูจัง  ทำไมพวกนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ?” เรวี่ที่ดึงกาซิลเอาไว้เอ่ยถามด้วยใบหน้างงหนัก พร้อมหันไปเรียกให้เจ็ตและดรอยเข้ามาช่วยเธอดึงกาซิลเอาไว้ด้วย

     

    “ฉะ..ฉันไม่รู้” ลูซี่ที่ถอยห่างออกมาจากพวกนั้นส่ายหน้าดิกด้วยความหวาดกลัว 

     

    “พี่มิร่าเกิดอะไรขึ้นคะ?” ริซานน่าเอ่ยถามมิร่าที่โดนเอลฟ์แมนล็อคตัวเอาไว้

     

    “ลูซี่ 

     

    แต่คำตอบที่ได้...ก็มีแค่นี้ล่ะนะ

     

    “อะไรคะพี่  ลูซี่ทำไมงั้นเหรอคะ?”

     

    “ลูซี่ 

     

    ก่อนที่อีกเจ็ดเสียงจะประสานขึ้นพร้อมกัน  พอๆ กับที่เจ้าของเสียงทั้งแปดคนพยายามดิ้นสุดแรงเพื่อให้ตนหลุดพ้นจากพันธนาการ...เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าไปหาบุคคลผู้เป็นเจ้าของชื่อที่พวกเขาเอ่ยเรียก

     

    “ไม่นะ  เรียกฉันทำม้ายยยยยย” ลูซี่ที่ยังอยู่ในอารมณ์หวาดกลัวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตระหนก  มือทั้งสองอุดหูเอาไว้ด้วยหวาดกลัวซึ่งน้ำเสียงเพรียกแห่งเสน่หานั่น

     

    “ลูซี่ 

     

    “พวกเรารักลูซี่ 

     

    “พวกเรารักเธอที่สุดเลยนะลูซี่ 

     

    คำพูดที่พวกนั้นพร้อมใจกันเอื้อนเอ่ยออกมา  พาให้คนอื่นๆ ที่ล็อคตัวพวกเขาไว้  รวมถึงลูซี่ที่แม้จะพยายามปิดหูอยู่ก็ตามได้ยินเข้าก็ถึงกับต้องงงกันขนาดหนัก  แต่ถามไปก็ไม่มีใครสามารถตอบได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น

     

    แต่จากน้ำเสียงและท่าทางของแปดคนนั้น  มันก็ทำให้คนอื่นๆ เข้าใจได้อยู่ข้อหนึ่งว่า..นี่มันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ

     

    “ฉันว่าพาลูซี่กลับไปบ้านก่อนเถอะ” วาคาบะบอก

     

    “ค่ะ  งั้นเดี๋ยวหนูจะพาคุณลูซี่กลับไปที่บ้านเองค่ะ” เวนดี้อาสาขึ้น  ก่อนจะหันมาหาลูซี่ที่กำลังอยู่ในอารมณ์วิตกสุดขีด “กลับกันก่อนเถอะนะคะคุณลูซี่  เดี๋ยวหนูไปเป็นเพื่อนนะคะ”

     

    “อะ  อื้อ” ร่างบางผู้เกือบตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายพยักหน้ารับรัวเร็ว  ก่อนจะรีบเดินนำเวนดี้ออกไปจากกิลด์ทันที

     

     

    หลังจากที่ลูซี่และเวนดี้ออกไปจากกิลด์แล้ว  ทั้งแปดผู้ที่หน้ามืดตามัวเมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะสงบลงอย่างไม่รู้สาเหตุ  จนคนที่ช่วยกันล็อคตัวไว้ปล่อยให้ทั้งแปดเป็นอิสระ

     

    “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ?” มาคาโอเอ่ยถามออกมา

     

    “ลูซี่ไปไหนแล้ว!?” แต่แทนที่จะตอบคำถาม  เอลซ่ากลับเอ่ยถามกลับมาซะงั้น

     

    มาคาโอพยายามที่จะไม่สนใจคำถามของเอลซ่า  เขาหันไปถามคนอื่นที่เหลือแทน “แล้วตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย?”

     

    “ลูซี่ล่ะ?” ลัคซัสถามกลับ

     

    “เอ่อ...ใครก็ได้ช่วยตอบฉันหน่อยได้มั้ย  ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน  เกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย” มาคาโอถามกลับอีกครั้ง

     

    “เฮ้ย  ยัยบันนี่ไปไหนแล้ว?”

     

    ความอดทนของคนมันมีขีดจำกัดนะ..

     

    “พวกแกช่วยตอบคำถามของฉันทีได้มั้ย?  ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้นนนนนน” มาคาโอตวาดใส่พวกนั้นเสียงดัง 

     

    ชิ้ง

     

    ก่อนจะรีบเงียบเสียงเมื่อเจอกับสายตาสุดเหี้ยมเข้าไป

     

    ..แปลกไปแล้วจริงๆ  ถึงพวกนี้จะไม่ค่อยให้ความเคารพหรือเกรงใจเขามากเท่าที่ควรก็เถอะ  แต่การที่มองเขาด้วยสายตาแบบนี้มัน...แปลกมากจริงๆ..

     

    “นี่ๆ  พวกนายน่ะ  ใครก็ได้  ช่วยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทีจะได้มั้ยห๊ะ?” คาน่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะรำคาญแล้ว

     

    “ฉันจะอธิบายเองก็ได้จ้ะ”

     

    ..สุดท้ายก็ไม่พ้นคนที่ดูเหมือนจะสติดีที่สุดอย่างมิร่าเจนต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังเองจนได้

     

    “คือว่า...ก่อนหน้านี้เมื่อครู่ลูซี่เอาขวดน้ำยาอะไรก็ไม่รู้มาให้พวกเราดูกันน่ะจ้ะ  แล้วก็เลยเกิดเรื่องนิดหน่อยตรงที่พวกเราแบ่งฝ่ายกันเพราะเรื่องน้ำยาขวดนั้น  แต่แล้วลูซี่ก็ทำขวดหลุดมือจนมันตกแตก  และน้ำยาพวกนั้นก็กระเซ็นมาโดนพวกเราซึ่งรายล้อมเธออยู่  แล้วจากนั้น......” มิร่าเว้นช่วงเล็กน้อย  ก่อนจะพูดต่อพร้อมรอยยิ้ม “ฉันก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา  และได้ยินเสียงในหัวที่ตะโกนก้องร้องเรียกแต่ชื่อลูซี่เท่านั้นเองล่ะจ้ะ”

     

    “หา...?” คนอื่นๆ ที่ฟังอยู่ต่างพากันร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ 

     

    “เอ่อ  มิร่าจังจ้ะ  ไอ้ประโยคหลังนั่นมันหมายความว่าไงกันน่ะ?” วาคาบะถาม

     

    สาวสวยเจ้าของเรือนผมสีขาวหันมายิ้มร่าให้วาคาบะ “ก็...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเพราะอะไร  แต่ในหัวมันมีแต่ชื่อของลูซี่เต็มไปหมดเลย”

     

    “ถามเสร็จแล้วใช่มั้ย  งั้นฉันขอตัวล่ะ” ลัคซัสเอ่ยแทรกขึ้นมา  ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของกิลด์ 

     

    “งั้นฉันไปมั่งดีกว่า” โลกิว่า  ก่อนจะเดินออกไปนอกกิลด์ทันที

     

                พอสองคนนั้นขอตัวไป  คนอื่นๆ ที่เหลือจึงทยอยกันแยกย้ายกันไปนั่งที่โต๊ะแทน  ปล่อยให้มาคาโอ  วาคาบะ  เรวี่  เจ็ต  ดรอย  คาน่า  ริซานน่า  เอลฟ์แมน  และมิร่ายืนกันอยู่เพียงเท่านั้น

     

                “ฉันว่าเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาแล้วนะ  ดูจากอาการของเจ้าพวกนั้นที่เกิดขึ้นเมื่อกี้น่ะ” คาน่ากล่าวพลางเหลือบตาไปมองยังพวกเอลซ่าที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะตัวอื่น

     

                “นั่นสิ  แถมพวกนี้ยังถามหาลูซี่กันใหญ่เลย” เจ็ตเสนอความเห็นด้วย

     

    “ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ” ดรอยเสริมต่อ

     

    “ฟังจากที่พี่มิร่าเล่ามา  บวกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้  อีกทั้งนิสัยที่แปลกๆ ไปของทั้งแปดคนเมื่อก่อนหน้ากับนิสัยหลังจากที่ลูซี่กลับไปแล้ว  บางที...มันอาจจะเป็นเพราะยานั่นก็ได้นะ” ริซานน่าเอ่ยขึ้นมาให้ทุกคนที่ยืนอยู่ที่ตรงนั้นได้คิดตามคำพูดของเธอ

     

    ก่อนที่ทั้งหมดจะตีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อด้วยความไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่นัก

     

    “อย่าบอกนะว่า...” มาคาโอเอ่ย

     

    “เจ้าน้ำยานั่น....” วาคาบะต่อให้

     

    “มันคือ.....” เอลฟ์แมนต่ออีก

     

    และทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็กลืนน้ำลายลงคอทันที  ก่อนจะพร้อมใจกันเอ่ย “...ยาเสน่ห์!

     

     

    ++++++++++++++++++++

     

    ณ บ้านเช่าของลูซี่

     

    “นะ  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะเวนดี้  ชาร์ล  ทำไมทุกอย่างมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ  ทำไมทั้งแปดคนถึงกลายเป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาหื่นกระหายกันอย่างนั้น  ทำไมถึงเอ่ยเรียกฉันด้วยน้ำเสียงรักใคร่แบบนั้น  แล้วทำไม..ทำไมถึงเป็นฉันที่ทำท่าจะโชคร้ายตกเป็นเหยื่อให้แก่ความกระหายของพวกนั้นกัน  ทำม๊ายยยยยยยยยยย” ลูซี่ที่ดูเหมือนจะสติแตกไปแล้วกระหน่ำคำถามชุดใหญ่ใส่เวนดี้และชาร์ล  ซึ่งทั้งสองเองก็จนปัญญาที่จะหาคำตอบให้เธอได้เช่นกัน

     

    “ใจเย็นๆ ก่อนนะคะคุณลูซี่” เวนดี้เอ่ยเพื่อให้อีกคนใจเย็นลง

     

    “โธ่  เวนดี้” ลูซี่ถอนหายใจออกมา  ก่อนจะเอ่ยต่อ “ถ้าเกิดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นเกิดขึ้นกับเธอ  เธอจะยังใจเย็นได้อีกเหรอ..?”

     

    เวนดี้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย  ก่อนจะนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นกับลูซี่เมื่อครู่นี้  แล้วลองเปลี่ยนภาพจากลูซี่เป็นตัวเธอเองแล้วล่ะก็..

     

    “ไม่เอานะคะ T^T” สาวน้อยก็น้ำตาไหลพรากทันที

     

    “เฮ้อ” ชาร์ลถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ “พวกเธอน่ะ  ทำใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ วิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นกันมันจะไม่ดีกว่ารึไง?”

     

    ลูซี่กับเวนดี้หันมามองหน้าชาร์ลทันที  ..นั่นสิ  เรื่องที่ควรจะทำ ณ ตอนนี้  คือ การทำใจเย็นๆ และวิเคราะห์สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น  เพื่อที่จะได้หาทางแก้ไข

     

    แต่พอเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์นึกย้อนภาพเหตุการณ์เพื่อที่เธอจะหาสาเหตุของเรื่อง....ก็มีอันต้องน้ำตาไหลออกมาอีกจนได้ “ไม่....ฉันทำใจนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ไม่ได้เลยจริงๆ นะ”

     

    “เอ่อ  ถ้าลองคิดกันตามที่เห็นแล้วนะคะ  หนูว่า...ตอนที่คุณลูซี่ทำขวดน้ำยาตกแตก  แล้วอยู่ๆ พวกคุณทั้งแปดก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนั้น..” เวนดี้เว้นจังหวะเพื่อคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดอีกครั้งก่อนที่เธอจะเอ่ยสรุปความทั้งหมดออกมา

     

    “บางทีอาการแปลกๆ นั่นมันอาจจะมาจากเจ้าน้ำยาขวดนั้นล่ะมั้ง” ชาร์ลก็เอ่ยสรุปออกมาเอง

     

    “แสดงว่าเจ้าน้ำยานั่นมันจะต้องส่งผลประหลาดๆ บางอย่างกับพวกนั้นสินะ” ลูซี่ว่าตามอย่างเห็นด้วย

     

    “ถ้าให้หนูเดานะคะ  หนูว่ามันอาจจะเป็นยาเสน่ห์ก็ได้ค่ะ” เวนดี้ว่า

     

    มือขาวบางที่มีสัญลักษณ์ประจำกิลด์ยกขึ้นมาลูบคางตัวเองอย่างครุ่นคิด  ก่อนจะทำใจแข็งนึกถึงเรื่องน่ากลัวที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อครู่

     

    ..จะว่าไปแล้วมันก็ส่วนเป็นไปได้นะ  ที่ว่ายานั่นอาจจะเป็นยาเสน่ห์  เพราะตอนแรกพวกนั้นก็ยังมีท่าทางปกติกันอยู่แท้ๆ  แต่พอเธอทำไอ้ยาขวดนั้นตกแตก  เจ้าพวกนั้นก็เปลี่ยนท่าทีไปเลย...แถมเปลี่ยนไปในทางที่น่ากลัวซะด้วย..ใช่  น่ากลัวมาก

     

    คิดแล้วก็พาลขนลุกชันขึ้นมาทันที  ลูซี่ยังคงจดจำถึงน้ำเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อเธออย่างรักใคร่นั้นได้ดีอยู่เลย  บรื๋อว์~~~~~~

     

    “แล้วทีนี้จะทำไงดีล่ะเวนดี้” ลูซี่หันมาถามความเห็นจากเด็กสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เธอ “ถ้านั่นคือยาเสน่ห์จริงๆ ล่ะก็...บอกตามตรงเลยนะ  ว่าฉันไม่กล้าเข้าใกล้เจ้าพวกนั้นแล้วนะ”

     

    “ทำแบบนั้นมันจะไม่หักหาญน้ำใจเจ้าพวกนั้นไปหน่อยรึไงกัน?” ชาร์ลเอ่ยถามลูซี่

     

    ร่างบางก็เถียงกลับทันควัน “อย่างั้นว่างี้เลยนะ  แต่ถ้าเกิดฉันเข้าใกล้พวกนั้นแล้วเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ วันนี้ขึ้นอีกจะทำยังไงล่ะ  ฉันไม่ต้องเสียความสาวสวยสะพรั่งที่เก็บเอาไว้มานานให้กับพวกนั้นรึไงกัน”

     

    คำพูดที่ชวนให้คนฟังตีสีหน้าไม่ถูกของลูซี่นั้น  ทำเอาเวนดี้และชาร์ลสุดแท้แต่จะหาคำตอบให้เธอได้แล้วล่ะนะ

     

    “ถ้างั้นหนูว่าช่วงนี้คุณลูซี่อย่าพยายามออกจากบ้านจะดีกว่านะคะ”

     

    “นั่นสินะ...” ลูซี่พยักหน้าเห็นด้วย  ก่อนจะต้องหน้าซีดลงไปถนัดตา “แล้วถ้าไม่ให้ฉันออกจากบ้าน.......แล้วค่าเช่าบ้านของฉันล่ะเวนดี้  ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้านล่ะ?????”

     

    ร่างงามเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์เริ่มที่จะโวยวายอีกครั้งอย่างประสาทเสีย  พาให้ชาร์ลต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย  ..ก็สมควรแล้วล่ะนะ  ที่ลูซี่จะโดนคนอื่นว่าเธอว่าติงต๊อง  เพราะจากที่เห็นแล้ว...ต้องยอมรับเลยว่าอาการหนักกว่าที่คิดด้วยซ้ำไป

     

    “ใจเย็นๆ นะคะคุณลูซี่  หนูจะหาทางช่วยคุณเอง  ถ้ายังไงจากนี้ไปคุณลูซี่จะออกไปทำภารกิจกับหนูก็ได้นะคะ  ส่วนเรื่องยาเสน่ห์อะไรนั่น  หนูจะลองไปศึกษาค้นคว้าจากหนังสือในห้องสมุดประจำกิลด์ดูก็แล้วกันนะคะ  ถ้าได้เรื่องยังไงแล้วหนูจะรีบมาบอกเลยค่ะ” เวนดี้เอ่ยพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

     

    “ขอบใจมากนะเวนดี้  ชาร์ลก็ด้วย” ลูซี่เอ่ยขอบอกขอบใจทั้งคู่ด้วยความจริงใจ

     

                “ไม่เป็นไรหรอกน่า  เรื่องแค่นี้เอง” ชาร์ลบอก “...อีกอย่าง..เจ้าแมวตัวผู้นั่นก็โดนยาเข้าไปเหมือนกันสินะ  แบบนี้ก็คงต้องหาทางช่วยหน่อย” โดยที่ประโยคท้ายๆ นั้นเธอเอ่ยเสียงเบาเป็นการพึมพำกับตนเอง  แม้ลูซี่จะไม่ได้ยินก็จริง  แต่มีรึที่ดราก้อนสเลเยอร์แห่งนภาจะมิได้ยิน

     

    เวนดี้แอบอมยิ้มน้อยๆ  ก่อนจะหันไปหาลูซี่ “อย่าคิดมากนะคะ  พักผ่อนให้สบาย  หนูคงต้องขอตัวกลับก่อน”

     

    “จ้ะ  ขอบใจพวกเธออีกครั้งนะ” ลูซี่ระบายยิ้มให้เวนดี้และชาร์ล  ก่อนจะเดินไปส่งทั้งสองคนที่ประตู

     

     

    +++++++++++++++++++++

     

    ในขณะเดียวกัน ณ กิลด์แฟรี่เทล

     

    “ยาเสน่ห์งั้นเหรอ? ลูซี่จะไปหาของแบบนั้นมาจากไหนกัน?  ที่สำคัญ..ไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาเสน่ห์กับเจ้าพวกนั้นเลยนี่นา” คาน่าเอ่ยออกมาด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “นั่นสินะ” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคาน่า  เพราะอย่างลูซี่น่ะ  คงไม่คิดที่จะหายาเสน่ห์มาใช้กับพวกปัญญาเลอะเทอะทั้งแปดคนนั่นหรอกนะ  ถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ...เอายานั่นไปใช้กับหนุ่มหล่อนิสัยดีกว่านี้มันจะไม่ดีกว่าเหรอ.?

     

    “ฉันว่าคุณลูซี่จะต้องไปหาซื้อยาเสน่ห์นั้นเพื่อนำมาใช้กับท่านเกรย์แน่ๆ เลย” เสียงของใครบางคนสอดแทรกขึ้นมา  และไม่ต้องเดาทุกคนที่กำลังสุมหัวปรึกษากันอยู่ก็พอจะเดาออกล่ะนะว่าเป็นใคร

     

    “นอกจากเธอแล้ว  คงไม่มีใครเขาคิดอยากจะใช้ยาเสน่ห์กับเกรย์แบบนั้นหรอกนะ...จูเบีย” คาน่าหันไปพูดกับจูเบีย

     

    “แล้วถ้างั้นคุณลูซี่จะทำยาเสน่ห์ใส่ท่านเกรย์ทำไมล่ะคะ” จูเบียเอ่ยหน้าเศร้า

     

    “คือ...ไม่ได้ใช้กับเกรย์คนเดียวซะหน่อยนะจูเบีย  พวกนัตสึ  แฮปปี้  โลกิ  กาซิล  หรือแม้แต่ลัคซัส เอลซ่า กับพี่มิร่ายังโดนไปด้วยเลยนะ” ริซานน่าว่า

     

    “เอ๋  นี่แม้แต่ท่านเกรย์คนเดียวยังไม่พองั้นเหรอคะ  ทำไมลูซี่ถึงได้ไปทำเสน่ห์ใส่คนอื่นด้วย  แม้แต่คุณเอลซ่ากับคุณมิร่าก็ยังโดนไปกับเขาอีกด้วย..” จูเบียว่า

     

    “มันเป็นอุบัติเหตุน่า  คงไม่มีใครอยากให้เกิดทั้งนั้นแหละ” คาน่าว่า “เพราะฉันเองก็เห็นกับตาอยู่เหมือนกันตอนที่พวกนั้นยื้อแย่งขวดยากันไปมา  และตอนที่ลูซี่ทำหลุดมือแตก  อ้อ..ที่สำคัญนะ  ทั้งลูซี่และคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเจ้ายาขวดนั้นมันคือยาเสน่ห์น่ะ”

     

    “แต่น่าแปลกนะ” มาคาโอกล่าวขึ้นมา  ทำให้ทุกคนหันมามองหน้าเขา เขาจึงต้องเอ่ยต่อ “ก็ลูซี่บอกว่าได้รับมันมาจากชายแปลกหน้าคนหนึ่ง  ทั้งๆ ที่ได้รับมันมาแท้ๆ...แต่ทำไมเจ้าน้ำยานั่นมันถึงส่งผลให้ทั้งแปดคนที่โดนหันมาตกหลุมรักลูซี่ล่ะ?”

     

    ทุกคนคิดตามสิ่งที่มาคาโอพูด  แต่แน่นอนว่าไม่มีใครหาคำตอบได้  ก่อนจะต้องถอนหายใจกันไปแล้วเปลี่ยนมาพูดประเด็นอื่นแทน

     

    “แล้วทีนี้เราจะทำยังไงดีล่ะ? ลูกผู้ชาย!” เอลฟ์แมนเอ่ยถามขึ้นมา

     

    “ฮะๆ  เอาเป็นว่าเรื่องของเด็กๆ ก็ปล่อยให้เด็กๆ จัดการกันเองเถอะนะ  พวกฉันทั้งสองคนมันแก่เกินไปที่จะยุ่งกับเรื่องของความรักแล้วล่ะ” วาคาบะว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงติดสนุก  ก่อนจะกอดคอกับมาคาโอแล้วเดินหนีออกจากกลุ่มไป

     

    “ให้ตายสิ  คนแก่นี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ” คาน่าถอนหายใจทิ้ง  ก่อนจะหันไปถามเรวี่ “เธอคิดว่าไง?”

     

    “อืม...จากการวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล่ะก็นะ...ฉันคิดว่าทางที่ดีไม่ควรให้พวกเขาทั้งแปดคนเจอหน้าลูจังเป็นอันขาด  ไม่งั้นจะต้องกลับมามีอาการคลั่งไคล้ลูจังแบบก่อนหน้านี้แน่ๆ”

     

    “มันจะเป็นไปได้เหรอ? อยู่กิลด์เดียวกันแท้ๆ  แถมนัตสึ แฮปปี้  เอลซ่า กับเกรย์ยังเป็นทีมเดียวกับลูซี่อีกตะหาก  ไอ้ที่จะบอกไม่ให้เจอหน้ากันเนี่ย..มันออกจะเกินไปหน่อยมั้ง” เจ็ตเอ่ยขึ้นมา

     

    “เราคงต้องทำเท่าที่จะทำได้นั่นล่ะ” เรวี่ว่า ..อีกอย่าง จะปล่อยให้กาซิลเป็นเมื่อก่อนหน้านั้นไม่ได้เด็ดขาด  ขืนกาซิลไปทำมิดีมิร้ายลูจังเข้าล่ะก็.... “ฮึ่มม”

     

    “นั่นสินะ  ต้องพยายามขัดขวางเท่าที่จะทำได้นั่นล่ะ” คาน่าว่า

     

    “ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันจะไปค้นคว้าข้อมูลเรื่องนี้เองนะจ้ะ” เรวี่เอ่ย  ก่อนจะโบกมือขอตัวลากลับบ้านเพื่อไปลองค้นหาหนังสือเกี่ยวกับพวกน้ำยาเวทมนต์

     

    “อย่าลืมนะ...ว่าอย่าให้พวกนั้นเห็นหน้าลูซี่เด็ดขาด !!!” เรวี่เอ่ยย้ำก่อนจะเดินจากไป



                

    แต่ว่านะ...เรื่องที่ว่าห้ามไม่ให้เจอกันน่ะ  มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สุดๆ เลยล่ะ ฮ่าฮ่า..















    - TBC -








    Writer Talk ;;

    20/05/13

    เอาล่ะ  หลังจากที่ไรต์เตอร์ห่างหายไปแบบค่อดจะนาน  2 เดือนสินะ = =;
    ขอโทษอย่างงามๆ เลยแล้วกันนะคะ  m(_ _)m
    ถ้ายังไงหวังว่ารีดเดอร์ทุกท่านคงยังไม่ลืมกันล่ะนะ

    ด้วยความที่ไรต์เตอร์เป็นสาวขยัน(?) ทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง (?) เลยเข้าข่ายเกือบดอง ต้องขอโทษอีกครั้งจริงๆ ค่ะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×