ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic punica] ; สาวใช้หน้าใส กับ คุณชายอันตรายทั้ง 7

    ลำดับตอนที่ #20 : >>:: Chapter 17

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 56




    CHAPTER 17

     

     

     

     

    ก๊อกๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ  แต่คนในห้องก็ไม่ได้สนใจอะไร  เพียงแต่ปล่อยให้ผู้มาเยือนเคาะมันต่อไปเรื่อยๆ แบบนั้น  จงกระทั่งท้ายที่สุด  ผู้มาเยือนทนไม่ไหว  จึงเปลี่ยนจากการเคาะ  เป็นการใช้เท้าสะกิด(?)ประตูแรงๆ แทน

     

    “เออๆ  เข้ามา” การินตะโกนเสียงดัง  เพื่อให้คนที่อยู่หน้าประตูได้ยิน

     

    และโดยไม่รอช้า  เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้ว  ผู้มาเยือนก็ผลักประตูเข้ามาเสียเต็มแรงตามอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นของเขา..พร้อมๆ กับใบหน้าที่แสดงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด

     

    “นี่มันอะไรการิน!!!” เชียรเดินเข้ามาพร้อมกับคำถามสุดคาใจ

     

    “เรื่องอะไร?” หากแต่การินกลับตอบกลับแบบเรียบๆ  ไม่ใส่ใจ

     

    “ก็เรื่องที่นายพายัยนั่นกลับมาน่ะสิ!” เชียรว่า “นี่มันหมายความว่ายังไงกันห๊ะ?”

     

    “โธ่เอ๊ย  นึกว่าแกโกรธเรื่องอะไร  ที่แท้ก็เรื่องที่พายัยนั่นกลับมานะเอง”

     

    “ก็แล้วแกพายัยนั่นกลับมาทำไมกันเล่า!  รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ค่อยจะชอบยัยนั่นซักเท่าไหร่” เชียรใส่เต็มที่

     

    “หึ...หึ  ใจเย็นสิ” การินหัวเราะเล็กน้อย  พลางแย้มรอยยิ้มร้ายออกมา “ที่พากลับมาเนี่ย  ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ  แค่คิดว่า..บางที  การให้ยัยนั่นอยู่ต่อ  อาจจะทำให้เราสนุกกว่าที่คิดก็ได้”

     

    เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของเชียร การินก็พูดต่อ “ก็...ธรรมดา  คนรับใช้ที่ทนมือทนเท้าอย่างยัยนั่นน่ะ  หายากจะตายไป  เพราะฉะนั้น..ฉันว่าเราเก็บเอายัยนั่นไว้ใช้เป็นพรมรองเท้า  เอาไว้เหยียบย่ำเล่นน่ะแหละ  ดีแล้ว”

     

    คนฟังยืนนิ่งพิจารณาคำพูดของการินอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนที่เรียวปากนั้นจะยกรอยยิ้มขึ้น “นั่นสินะ  เก็บเอาไว้ใช้งาน..แถมยังใช้เล่นได้แบบนี้  เอาไว้แกล้งเล่นเวลาเบื่อๆ ..มันก็น่าสนุกดีล่ะนะ”

     

    “หึ  มีเรื่องข้องใจแค่นี้ใช่มั้ย?” การินเอ่ยถามออกมา  เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าใจในเรื่องเมื่อครู่นี้แล้ว

     

    “ก็แค่นี้นั่นแหละ” เชียรว่ายิ้มๆ “ไอ้เราก็นึกว่านายดันไปหลงเสน่ห์ยัยนั่น  ก็เลยพากลับมาด้วยน่ะสิ”

     

    “พูดเป็นเล่นไปได้  อย่างฉันเนี่ยนะ  จะหลงเสน่ห์ผู้หญิงไร้เสน่ห์พรรค์นั้น” การินยิ้มเยาะ

     

    “นั่นสิ” เจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย  ก่อนจะยกมือเป็นเชิงบอกขอตัว “งั้นฉันไปนอนก่อนล่ะ  ขอโทษที่รบกวนละกัน”

     

    “ไม่เป็นไร” การินว่า  พลางมองส่งเชียรที่เดินออกจากห้องของเขาไป “ไร้สาระจริงๆ”

     

    +++++++++++++++++++++++++++++

     

    หลายวันต่อมา

     

    ลัลทริมากลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง  หลายๆ เรื่องยังคงเหมือนเดิม  จะมีก็แต่...ตั้งแต่วันนั้น การินก็ไม่ได้คุยกับเธอเลยซักนิดเดียว  ส่วนเชียรเองก็เอาแต่มองหน้าเธอด้วยหางตา

     

    ..หรือว่าเรื่องที่คุณชายเรวินพูดมันจะจริงกันล่ะเนี่ย..

     

    ลัลทริมาคิดพลางนึกย้อนไปถึงคำพูดของอีกคนที่ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทการรับรู้ของเธอ  ที่บอกให้เธอระวังตัวเองไว้ให้ดี  และอย่าไปอยู่ใกล้การินกับเชียร

     

    “ไง  ลัลทริมา  ไม่ได้พบกันตั้งนานเลยนะ” เสียงเข้มเอ่ยทักขึ้น  ลัลทริมาหันไปมองก็พบกับชายผู้เป็นเจ้าของบ้าน

     

    “คุณผู้ชาย!

     

    “เป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย” เขาเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงห่วงใย

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบด้วยรอยยิ้ม

     

    “จริงสิ  วันนี้ถอดเฝือกใช่มั้ยล่ะ  เดี๋ยวฉันจะพาไปก็แล้วกันนะ” นรินทร์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับเธอ  ทำให้ลัลทริมาต้องรีบส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ

     

    “ไม่เป็นไรค่ะคุณผู้ชาย  ลำบากซะเปล่าๆ”

     

    “ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เธอ  มือหนายกขึ้นมาวางบนศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา “เธอก็เหมือนลูกสาวฉันน่ะแหละ”

     

    “คุณผู้ชาย...” ลัลทริมาจ้องหน้านรินทร์ด้วยความทราบซึ้งใจอย่างยิ่ง - -

     

    +++++++++++++++++++++++++++

     

    ณ โรงพยาบาล

     

    และเมื่อไม่อาจปฏิเสธได้  สุดท้ายแล้ว คนที่พาเธอไปถอดเฝือกก็คือนรินทร์นั่นเอง  ทั้งๆ ที่ระหว่างทางมาโรงพยาบาลมีโทรศัพท์โทรเข้ามาตาม  แต่เขาก็ยังอุตส่าห์พาเธอมาจนถึงโรงพยาบาลจนได้..และ..หนีกลับไปก่อนเธอจนได้

     

    มีเพียงคำพูดสุดท้ายที่เขาฝากเอาไว้กับคุณพยาบาลเท่านั้น  ว่า..

     

    ฝากบอกเธอด้วยนะครับ ว่าผมติดธุระ เดี๋ยวจะให้ลูกชายมารับแทน

     

    “แล้วทำไมต้องเป็นการินด้วยล่ะเนี่ย” ลัลทริมาพึมพำน้อยๆ  ขณะที่เธอกำลังเดินมาที่นั่งรอที่เก้าอี้ใกล้ๆ แผนกประชาสัมพันธ์  แต่ยังไม่ทันได้นั่ง  แขนแกร่งก็คว้าเอาข้อมือบางของเธอเสียก่อน

     

    “อ๊ะ!

     

    ลัลทริมาสะดุ้งตกใจ  รีบหันขวับไปมองก็พบกับใบหน้าราบเรียบของการิน “คุณชายการิน...มาเร็วจังนะคะ”

     

    “ขับรถนะ  ไม่ได้เดิน” การินเอ่ยตอบ  ก่อนจะปล่อยมือของลัลทริมา  พลางเดินนำเธอเพื่อออกไปยังลานจอดรถ

     

    ทั้งสองคนเดินมาที่รถโดยที่ไม่มีใครปริปากพูดเลยแม้แต่น้อย  นั่นสร้างความอึดอัดใจให้กับลัลทริมาเป็นที่สุด  แต่เธอก็จนใจที่หาทางพาตัวเองรอดจากบรรยากาศแบบนี้ได้

     

    รถสปอร์ตคันหรูสีดำมันปลาบแล่นออกจากโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูงตามแบบฉบับของคนขับไฟแรง  ลัลทริมากัดริมฝีปากแน่น  ไม่ใช่เพราะกลัว  แต่เป็นเพราะเธออึดอัดใจมากเสียจนไม่รู้จะทำยังไง  จนสุดท้ายแล้ว..ก็เป็นเธอจนได้  ที่เป็นคนทำลายความเงียบครั้งนี้

     

    “คุณ..พาฉันกลับมาทำไมกันคะ  คุณชายการิน”

     

    “เธอจะถามอีกสักล้านรอบมั้ยห๊ะ?” การินเอ่ยตอบออกมาแทบจะทันทีที่คำถามจบ  แถมน้ำเสียงของเขายังแฝงไว้ด้วยความรำคาญ+ความหงุดงหงิดเสียด้วย ทำให้ลัลทริมาตอบหุบปากไป  รอเสียนานร่วมสิบนาที  กว่าที่เธอจะรวบรวมความกล้าพูดออกมาอีกครั้ง

     

    “คงไม่ใช่ว่าคุณมีแผนอะไรหรอกนะคะ?”

     

    “ก็แล้วถ้าฉันบอกว่ามีล่ะ?”

     

    คำตอบของเด็กหนุ่ม  ทำให้ลัลทริมาเบิกตาทันที  ริมฝีปากบางเผยออ้าเตรียมต่อว่าคนตรงหน้า  แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไป  การินกลับเบรครถอย่างกะทันหัน  ทำเอาลัลทริมาเสียหลักแทบจะพุ่งทะลุกระจกกระเด็นออกไปนอนเล่นนอกรถเสียแล้ว  หากว่าไม่มีเข็มขัดนิรภัยรั้งตัวเธอเอาไว้

     

    “ถ้าจะเบรคแรงขนาดนี้...ก็ช่วยบอกกันล่วงหน้าก่อนจะได้มั้ยคะ?” เธอหันไปต่อว่าการินทันที

     

    “ถึงบ้านแล้ว  ลงไปซะสิ” การินว่า  พลางดับเครื่องยนต์  แล้วเปิดประตูลงจากรถไป  ปล่อยให้ลัลทริมานั่งงงกับความเร็วในการมาถึงบ้าน 

     

    เธอก้าวลงมาจากรถ  พลางเดินตามหลังการินเข้ามาในบ้าน  แต่แล้วก็ต้องชะงักกับสายตาของอคิน

     

    ..สายตาลุกลี้ลุกลนพิกล..

     

    “มีอะไรรึเปล่าคะ?  คุณชายอคิน” เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ

     

    “เอ้อ  จำไม่ได้สินะ” อคินเอ่ยถามออกมา  พร้อมกับปรายตาไปมองที่แขนขวาของเธอที่เคยบาดเจ็บเพราะฝีมือเขา “ไม่เป็นไรแล้วสินะ”

     

    “ค่ะ”

     

    ก่อนที่ชายหนุ่มนัยน์ตาสองสีจะหันไปสบตากับการิน “เฮ้ย!  รีบเข้าบ้านเหอะ  พวกนั้นมันรอกินข้าวอยู่แน่ะ”

     

    “อืม” การินพยักหน้ารับ  พลางเดินลิ่วเข้าไป  ก่อนที่อคินจะรีบก้าวเท้าตามเพื่อนหนุ่มเข้าไป  ลัลทริมาก็เรียกเขาเอาไว้เสียก่อน

     

    “เดี๋ยวค่ะ  คุณชายอคิน” ร่างบางเอ่ย “มีอะไรรึเปล่าคะ?”

     

    “ไม่มี!” ตอบกลับมาอย่างไร้เยื่อใย พลางเดินหนีเธอไปหน้าตาเฉย

     

    “อะไรของพวกเค้ากันเนี่ย!! เข้าใจยากจริงๆ” เธอพึมพำ  ก่อนจะเดินตามเข้าไป

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น

     

    อธิศมาส่งลัลทริมาที่โรงเรียนแต่เช้า  เด็กสาวเอ่ยขอบคุณเขา  ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนด้วยอารมณ์ร่าเริงสดใส...แม้จะยังคงค้างคาใจกับเรื่องของอคินเมื่อวานก็ตาม

     

    เพราะสุดท้ายเธอก็ไม่รู้ว่า...เขาเป็นอะไร?

     

    “มาแต่เช้าเชียวนะ”

     

    “หืมม์” ร่างบางหันหน้าไปมองคนที่เอ่ยทักทายเธอ..ก่อนจะยิ้มให้กับเขา “ไงจ๊ะโช  อรุณสวัสดิ์”

     

    “อื้ม  ว่าแต่...ถอดเฝือกแล้วนี่” โชติกาลเอ่ยทัก  พลางเดินเข้ามาหาลัลทริมา

     

    “จ้ะ  ไปถอดเมื่อวานน่ะ” ลัลทริมาเอ่ยตอบ  พร้อมกับหยุดรอโชติกาลที่เดินเข้ามาใกล้เธอ  ก่อนที่ทั้งคู่จะออกเดินพร้อมๆ กัน

     

    “แล้ว..ไม่เป็นไรใช่มั้ย  ยังปวดอยู่รึเปล่า” โชติกาลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 

     

    “ไม่เป็นไรแล้ว  หายดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ” เด็กสาวเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มสดใส “ว่าแต่..ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ  เราน่ะ”

     

    “ฮะๆ พอดีช่วงนี้ฉันงานยุ่งนิดหน่อยน่ะ” โชติกาลตอบพร้อมหัวเราะน้อยๆ “ว่าแต่ลัลเองก็คงลำบากน่าดูนะ  ที่ต้องทำงานรับใช้พวกนั้นด้วย”

     

    “ลำบากสุดๆ เลยล่ะ” เด็กสาวเอ่ยตอบ  พร้อมนึกถึงใบหน้าของเจ้าตัวปัญหาที่พาเธอเดือดร้อน  ไม่ว่าจะเป็นคุณชายการิน  คุณชายเชียร  คุณชายอคิน  หรืออาจจะคุณชายเรวิน คุณชายแคปเปอร์ด้วยเล็กน้อย ส่วนอีกสองคนนี่..พูดตามตรงแล้ว  เธอเดาอารมณ์ไม่ค่อยจะออกสักเท่าไหร่

     

    เมื่อมาถึงห้องเรียน  เด็กสาววางกระเป๋าลงบนโต๊ะ  พร้อมกับนั่งลงช้าๆ  ส่วนโชติกาลที่กำลังจะนั่ง  ก็ต้องชะงักเล็กน้อยเพราะมีคนมาตามให้เขาไปช่วยงานอาจารย์เสียก่อน

     

    “เฮ้อ  โชนี่ก็ลำบากน่าดูเลยแฮะ”

     

    “อ้าว  มาซะเช้า  ไม่รอกันบ้างเลยนะครับ” เรวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสจากด้านหลังของลัลทริมา  เธอรีบหันขวับไปมองเขาอย่างตกใจ

     

    “มะ  มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ลัลทริมาเอ่ยอยากไม่อยากเชื่อสายตา  ก็เมื่อกี้ตอนที่เธอเดินเข้าห้องมากับโชติกาล  เธอยังไม่เห็นว่าเรวินจะนั่งอยู่ก่อนแล้วเลย  แต่แล้วทำไมเขาถึงโผล่มาจากทางด้านหลังเธอได้ล่ะเนี่ย

     

    “เมื่อกี้ครับ” เรวินยิ้มตอบ

     

    “เล่นแบบนั้นเดี๋ยวเขาก็ตกใจกันพอดี” ชินะเอ่ยขึ้นมา  พร้อมๆ กับเดินเข้ามาจากทางประตู

     

    ลัลทริมานั่งเอ๋อเล็กน้อย  ก่อนจะหันมามองหน้าเปื้อนยิ้มของเรวิน “เอ่อ  คือ..มัน..ยังไงกัน  คะ?”

     

    “ความสามารถพิเศษของหมอนี่น่ะครับ” แคปเปอร์ที่เดินตามหลังชินะเข้ามาเป็นคนตอบ “คุณลัลไม่รู้เหรอครับ  ว่าเรวินพอจะเล่นกลได้”

     

    “เอ่อ  ไม่ค่ะ” เด็กสาวส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ ว่าเธอไม่รู้เลย

     

    แล้วพวกคุณชายก็เข้ามานั่งที่กัน  พร้อมๆ กับนักเรียนคนอื่นๆ ที่ทยอยมากันมากขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    จนกระทั่งถึงเวลาโฮมรูมของห้อง

     

    อาจารย์ที่ปรึกษายืนเต๊ะหน้าโหดอยู่ที่หน้าห้องเรียน  ในมือถือไม้เรียวเอาไว้  แต่ไม่ใช่เพื่อฟาดเด็ก  เพราะสมัยนี้ การตี..ถือว่าล้าสมัยแล้ว

     

    “เอาล่ะ  อาจารย์มีเรื่องจะประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนห้องเราทราบ  ซึ่งบางคนอาจจะได้ยินมาแล้วบ้าง  แต่บางคนก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้” อาจารย์กล่าวเปิด “ซึ่งอย่างที่รู้ๆ กัน  ว่าปกติโรงเรียนของเราจะจัดให้มีการทัศนศึกษาขึ้น” 

     

    “เย้~~~~~~” เสียงเฮดังออกมาจากเหล่านักเรียน ก่อนจะต้องเงียบลงทันทีเมื่ออาจารย์ฟาดไม้ลงกับโต๊ะเป็นการเตือนว่า อย่าเสียงดัง

     

    “และด้วยความที่ห้องเราเป็นห้องพิเศษ..” คำว่า เพราะมีคุณชายทั้ง 7 คนเรียนอยู่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก เพราะอาจารย์สาวไม่กล้าที่จะพูดออกไป “ก็ได้รับเกียรติให้ไปทัศนศึกษาที่...”

     

    “ที่...” เหล่าเด็กนักเรียนในห้องต่างพากันนั่งลุ้นเสียจนตัวโก่ง

     

    “ที่เกาะส่วนตัวของคุณชายชินะ” อาจารย์กล่าวออกมาในที่สุด..

     

    ซึ่งนั่นทำให้นักเรียนในห้องต่างพากันเฮเสียงดังอีกครั้ง  เพราะการได้ไปเกาะส่วนตัวของชินะแห่งตระกูลกุนต์กลทีป์นั้น  ถือเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

     

    “ซึ่งกำหนดการทัศนศึกษาจะมีขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ ไปทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ส่วนค่าใช้จ่ายไม่ต้อง ขอให้นักเรียนเตรียมตัวให้พร้อมนะ” อาจารย์พูด ก่อนจะหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา “งานนี้จะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มนะ มีทั้งหมด 5 กลุ่ม แล้วเด็กห้องเรามี 40 คน ก็กลุ่มละ 8 คนพอดี อาจารย์จะประกาศรายชื่อให้ฟังนะ”

     

    ลัลทริมานั่งใจเต้นตึกตัก  รอฟังผลการประกาศรายชื่อกลุ่มที่เธอจะต้องร่วมผจญชะตากรรมในการทัศนศึกษาครั้งนี้   หากแต่ผ่านไปแล้วสามกลุ่ม  รายชื่อของเธอยังไม่ปรากฏแก่หูเธอเลย  แถมโชติกาล  เอมิกา  และมัณฑินี ก็ดันได้อยู่ภายในกลุ่มที่ประกาศรายชื่อไปแล้ว

     

    รอจนกลุ่มที่สี่...รายชื่อของเธอก็ยังไม่ถูกประกาศออกมา  ไม่เพียงแต่รายชื่อของเธอเท่านั้น  แต่รายชื่อของคนที่เธอไม่อยากจะได้ยินก็ยังไม่ประกาศออกมาเช่นกัน  จนกระทั่งกลุ่มสุดท้าย...สิ่งที่ลัลทริมากลัว  ก็ทำให้เธอแทบจะร้องไห้

     

    “กลุ่ม 5 มี การิน แคปเปอร์ ชินะ เชียร ภาม เรวิน ลัลทริมา และอคินจ้ะ” เสียงอาจารย์ประกาศ

     

    “เดี๋ยวค่ะ!” เด็กสาวเจ้าของนามลัลทริมารีบยกมือขึ้นท้วงทันที “ทำไมหนูถึงได้อยู่กับพวกคุณชายล่ะคะ แถมในกลุ่มนี้ยังมีหนูที่เป็นผู้หญิงคนเดียวอีกต่างหาก แบบนี้จะอยู่ได้ยังไงกันล่ะคะ ตั้ง 3 วัน 2 คืน”

     

    “ไม่รู้สิ  ก็..รายนามสมาชิกในกลุ่มของห้องนี้น่ะ  ผอ.เขาเป็นคนจัดมาเองนี่นา” อาจารย์ตอบ

     

    “ผอ. งั้นเหรอ..” ลัลทริมาทวนคำ อย่าง ผอ. เนี่ยนะ จะเข้ามายุ่งกับการจัดกลุ่มทัศนศึกษา..  เหมือนกับฉุกคิดอะไรได้  เธอรีบหันขวับขวับไปมองหน้าของลูกชาย ผอ. ทันที

     

    แล้วรอยยิ้มเยาะก็ปรากฏแก่สายตาของเธอ..





     

    -TBC-



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×