ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารอน-เอลันดา (ฟิคชั่น แฮรี่ พอตเตอร์ภาคอนาคต)

    ลำดับตอนที่ #7 : มนุษย์หมาป่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 160
      0
      22 ม.ค. 50

              หลังจากวันที่พบแซนดร้าที่ร้านอาหารเล็กๆในลอนดอน เธอก็ไม่มาที่บ้านเขาหลายวัน เอลันดาคิดว่าก็ดีเหมือนกัน   พฤติกรรมของแซนดร้าไม่ได้สมกับหน้าตาของเธอเลย   ที่สำคัญเอลันดายังนึกหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับเซลิลีน ทั้งที่ทั้งสองไม่เคยพูดคุยกันเลยสักนิด   เช้าของวันเสาร์ เอลันดาตื่นแต่เช้าตรู่หลังจากจัดการรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เขาหยิบจอบในเรือนเก็บอุปกรณ์ มุ่งหน้าไปที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นพื้นที่กว้างรูปสี่เหลี่ยมคั่นระหว่างไร่กาแฟกับตัวบ้าน   สวนนี้ปลูกต้นไม้ยืนต้นไว้หลายสิบต้น จึงเย็นร่มรื่น   แปลงดอกกุหลาบ ออกดอกสีแดงสดบานสะพรั่ง  วัชพืชต่างชนิดเริ่มเลื้อยมาแซมรวมกับแปลงดอกไม้ที่เอลันดาปลูกไว้ ดังนั้นเขาจึงมักใช้เวลาว่างๆ มาถางมันทิ้งออกให้หมด  เขาค่อยๆใช้จอบแซะมันไปรวมกองที่เดียวกัน 

     

                  เอลันดา มีคนมาหา   ลุงเคริกซึ่งเป็นผู้ดูแลไร่กาแฟและคนงาน ตะโกนบอกเขาจากอีกฟากของสวน  เอลันดาเงยหน้า  รถยนต์สีดำวับ  จอดสนิทอยู่ที่ถนนข้ามทางไปไร่   เขาเห็นแซนดร้ายืนมองมาทางสวนที่เขากำลังยืนอยู่

     

                  เอ่อ   แซนดร้า มีธุระอะไรหรือเปล่า เอลันดาถามไปพลางๆ ขณะกำลังเดินออกจากสวนไปที่รถยนต์ของเธอ    แดดยามสายเริ่มร้อนเขาจึงต้องสวมหมวกปีกกว้างคลุมหน้า    แซนดร้าทำหน้างอก่อนจะฝืนยิ้มตอบออกมา

     

                  ไปหาพี่ที่บ้าน คุณนายเมอร์รี่ บอกว่าพี่อยู่ที่นี่  แซนดร้าอยากคุยอะไรกับพี่หน่อยคะ

     

                  งั้นเราไปคุยที่สวนหลังบ้านพี่แล้วกันนะ เดี๋ยวพี่จะบอกให้คนงานเอาของว่างและเครื่องดื่มไปให้   เอลันดาพูดชวนเธอไป แต่ดูเหมือนแซนดร้าอิดออดไม่อยากตามไป

     

                  เราไปคุยข้างนอกได้ไหมคะ ไปรถกับแซนดร้าก็ได้คะ    ที่นี่ร้อนจังเลย

     

                  ที่สวนไม่ร้อนเท่าไรหรอก  และพี่มีงานต้องทำ ไม่มีเวลาว่างมากนัก    ถ้าแซนดร้าไม่สะดวก งั้นวันหลังดีกว่า เอลันดาทำท่าจะเดินกลับที่สวน ที่จริงยังเหลือหญ้าที่ถอนไม่หมดเล็กน้อยเท่านั้น แต่เขาอยากหาข้ออ้างที่ไม่ต้องไปกับเธอ

     

                  งั้นตกลงคะ เราไปที่สวนกัน  แซนดร้ายอมตามเอลันดาไปที่สวนทั้งที่ไม่ชอบใจนัก    เขาพาเธอมานั่งเล่นที่ชิงช้าไม้ที่ปู่ซื้อมาประดับสวน

     

                  มีอะไรจะบอกกับพี่ ก็บอกเลยจ๊ะ เอลันดาบอกเธอ  ขณะที่มือทั้งสองข้างจับจอบขุดเซาะกวาดเศษวัชพืชออกมา

     

                  เรื่องเมื่อวันก่อน แซนดร้าต้องขอโทษจริง ๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคะ  มันเป็นเหตุสุดวิสัย

     

                  อืม แล้วไง ก็ไม่มีอะไรนี่  เซลิลีนก็ไม่ติดใจอะไร ทำไมละ

     

                  ฉันกลัวเธอจะเข้าใจผิดไป  ฉัน. ไม่ได้แกล้งเขานะ แซนดร้าทำเสียงออดอ้อน เอลันดา ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับพวกเศษหญ้า หูก็ฟังคำแก้ตัวของสาวน้อย  เขาไม่อยากคุยเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ไม่อยากเสียมารยาทกับเธอ

     

                  คือ ฉันคิดว่า ถ้าเพื่อนสาวของพี่คิดว่าฉันแกล้งเธอ  ฉันกลัวว่า เธออาจกลับมาแก้แค้นฉัน  เธอน่ากลัวกว่าที่พี่คิดไว้นะ

     

                              เอลันดากระแทกจอบไปที่พื้นดินดังพลั่ก ก่อนที่จะหันไปคุยกับแซนดร้า 

     

                  พี่ไม่เข้าใจที่เธอพูด เธออยากจะบอกอะไร พี่ ก็บอกมาเลยดีกว่า  อย่าอ้อมค้อม เอลันดาชักเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ

     

                  งั้นพี่ดูอะไรนี่ แซนดร้าหยิบรูปภาพใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างส่งให้เอลันดา เขารับมาดู เป็นภาพของผู้ชายในชุดคลุม สีเขียวมะนาว  ใส่หมวกทรงประหลาด  ถือม้วนกระดาษและหม้อประหลาดๆใบใหญ่ อยู่หน้าบ้านไม้หลังเบี้ยวและสูงหลายชั้น

                 

                  เธอเอาให้ให้พี่ดูทำไม เอลันดาถามอย่างแปลกใจ

     

                   ฉันคิดว่านี่เป็นภาพของพ่อของเซลิลีนเพื่อนพี่คะ วันนั้นหลังจากฉันออกจากร้านอาหารไปแล้ว  ฉันไปเจอครอบครัวของเธอและเธอออกมาจากร้านเหล้าเก่าโทรมๆ  ข้างถนน  ฉันเห็นเขาถือของรูปร่างพิสดารหลายอย่าง แถมมีนกฮูกสีน้ำตาลอยู่ในกรงมาด้วย พวกเขามารถยนต์เก่าใกล้พังคันหนึ่ง หน้าแปลกที่มันใส่ทั้งคนทั้งของเข้าไปได้โดยไม่แออัดกันเลย ฉันสงสัยเลยให้คนไปสืบแล้วก็ถ่ายรูปนี่มาได้  แซนดร้าอธิบายยาวยืด แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังบอกอยู่ดี

     

                  แล้วไง เธอไปถ่ายรูปพ่อเขามาให้พี่ดูทำไม

     

                  พี่ไม่เห็นหรือคะว่า พวกเขาไม่เหมือนคนธรรมดา  แต่งตัวก็พิลึก บ้านก็ตลกแต่มันก็มีคนอาศัยอยู่ได้ ฉันคิดว่าพวกเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ พวกนั้นอาจจะเป็นพวกที่เราเรียกว่า…… เธอเว้นวรรคสักครู่ราวกับจะดูให้มันตื่นเต้น  พวกพ่อมด แม่มด หมอผี อะไรทำนองนี้

     

                  เอลันดาถอนใจยาวราวกับเหนื่อยหน่าย เขาส่งรูปกลับให้เธอ  

     

                  พี่ว่าเธอกลับบ้านของเธอไปก่อนนะ   พี่ต้องทำงานอย่างอื่นอีก ถ้าว่างมากก็ไปหาเรียนเต้นรำหรืออะไรก็ได้

     

                  พี่ไม่เชื่อที่ฉันพูดหรือ แซนดร้าทำตาโต รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อย่างน้อยเอลันดาน่าจะตกใจบ้าง

                 

                  พี่รู้จักกับเซลิลีนมาเกือบเจ็ดปี   จะให้พี่เชื่อได้ไง  เขาไม่มีทางเป็นอย่างที่เธอพยายามป้ายสีเขาหรอก

     

                  พี่เอลันดา…” แซนดร้าตะโกนเรียกจนหูแทบแตก

     

                  พี่ไม่รู้นะว่า ทำไมเธอไปเกลียดชังเขามากมายถึงขนาดแต่งเรื่องเหลวไหลมาบอกพี่ แล้วเรื่องที่ไปแอบถ่ายรูปครอบครัวเขามานี่ก็เป็นเรื่องน่ารังเกียจที่สุดที่ตระกูลผู้ดีอย่างเธอจะทำนะ วันหลังอย่าทำอย่างนี้ ไม่ดีรู้ไหม  เอลันดาเริ่มสอนสั่งเด็กหญิงเอาแต่ใจคนนี้  เธอควรรู้จักขอบเขตของตนเองบ้าง

        

                  พี่บอกพี่รู้จักเขามานานแล้ว แล้วพี่เคยไปบ้านเขาไหม รู้จักพ่อแม่เขาหรือเปล่าเธอยังคงเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

     

     

            ไม่ใช่เรื่องที่พี่จะถามเขา พี่ไม่ใช่พวกสอดรู้สอดเห็น พ่อของเธออาจเป็นนักมายากล หรือนักแสดงก็ได้ใครจะไปรู้ เอาละพี่จะกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวไปส่งที่รถ เลิกคิดเรื่องนี้ไปเลยดีกว่า อีกอย่างเซลิลีนไม่ติดใจเรื่องที่แล้วมา เธอไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือน.

    เอลันดาเว้นคำพูดแค่นั้น เผื่อให้อีกคนได้คิด

     

                  ไม่ต้องหรอกคะ พี่ไม่เชื่อฉัน คอยดูฉันจะพิสูจน์ให้ดู พี่บอกให้เธอระวังตัวให้ดีแล้วกันเธอยกคำขู่ออกมาก่อนจะสะบัดเปียหางยาวหันกลับไปที่รถ  เอลันดาเห็นเธอขึ้นรถออกไป  เขาเริ่มเดินออกจากสวนไปบ้าง ไม่มีกะใจจะทำมันต่อเพราะรู้สึกหงุดหงิดเรื่องเมื่อสักครู่

     

                  ในตอนหัวค่ำ เอลันดานัดกับเซลิลีนและฟรอนท์ว่าจะไปดูดาวที่หลังโรงเรียนอีกครั้ง  ระหว่างทางเขาแวะไปบ้านมันดังกัสเพื่อไปชวนอารอน มันดังกัสเปิดประตูต้อนรับเขาอย่างยิ้มแย้มเช่นเคย

     

                  อารอนเขาป่วยเป็นโรคผิวหนังขั้นรุนแรง มีตุ่มฝีหนองขึ้นตามหน้าตาเนื้อตัวเต็มไปหมด นี่ก็ปวดแผลมากเลยอักเสบเป็นไข้หลายวัน เพิ่งค่อยยังชั่ว  มันดังกัสบอกเขา พร้อมรินน้ำชาให้

     

                  งั้นหรือครับ  แย่จัง เขาเป็นไรมากไหมครับ ผมเยี่ยมเขาได้ไหม

     

                  ฉันเสียใจนะที่จะบอกว่า อารอนไม่กล้าให้ใครเห็นหน้าเขาเลย แม้แต่ฉัน คงต้องรออีกสักอาทิตย์หนึ่งให้แผลยุบดีแล้ว  ถึงจะออกไปไหนมาไหนได้

     

                  เอลันดารู้สึกเสียดายและเป็นห่วงเพื่อน แต่อีกอาทิตย์หนึ่งน่าจะค่อยยังชั่วตามที่ลุงมันดังกัสบอกไว้ เขาขอลากลับ พอดีกับที่เพิ่งเลนนอลกลับมาจากข้างนอก

                 

            อ้อจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือเลนนอล ญาติผู้พี่ของฉันเอง และเด็กนี่เป็นเพื่อนกับอารอน เขามาเยี่ยมอารอนที่ไม่สบายมาก

     

                  ป่วยหรือ เอ่อๆ ใช่.. อารอนไม่สบายมาก เลนนอลพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เพื่อนเขาเล่นละครว่าแต่จะอยู่ดินเนอร์กับพวกเราไหม

     

            ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอขอบคุณมากครับ แต่ผมขอตัวไปทำธุระครับ แล้ว เราคงเจอกันอีก  ราตรีสวัสดิ์ครับ  เอลันดาเปิดประตูออกจากบ้านมันดังกัสไป เลนนอลมองตาม ความรู้สึกคุ้นๆเหมือนใครสักคนแวบเข้ามาในสมอง

     

                  เด็กทั้งสามตั้งกล้องดูดาวที่เนินเขาหลังโรงเรียน วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสพอมองเห็นกลุ่มดาวได้อย่างชัดเจน เซลิลีนเขียนกลุ่มดาวที่เหลือลงบนแผนที่ดาวแผ่นสุดท้ายสำหรับการบ้านปิดเทอมพอดี   เอลันดากำลังเพลินกับการดูดาวดวงนั้นดวงนี้

     

                  วันนี้ฉันเห็นเด็กคนนั้นด้วย เอ่อคนที่เจอที่ร้านอาหาร เขานั่งรถผ่านไป เขาไปหาเธอหรือ  เซลิลีนถามโพล่งขึ้นมา เอลันดาละสายตาจากกล้องดูดาว   เธอหมายถึงแซนดร้าใช่ไหม   เขามาหาฉันตามปกติ  พอดีวันนี้ฉันมีเวลาว่างน้อย เธอก็เลยกลับเร็วกว่าเคย

     

                  เขามองเห็นฉันด้วย ฉันพยายามยิ้มทักเธอ แต่ดูเหมือนเธอบึ้งตึงใส่  ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ชอบหน้าฉันเลย

     

                  เธอก็เป็นแบบนี้ ไม่ค่อยเจอผู้คนเลยทำตัวไม่ถูก เอลันดาพยายามแก้ตัวแทน

     

                  ไม่นะ ฉันว่า ฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ฉันว่าเธอต้องไม่ชอบใจเรื่องที่เอลันดามาอยู่ใกล้ฉัน  ฉันคิดว่า เอ่อ เธอชอบเอลันดาละ

     

                  บ้าดิ ฉันคิดกับเขาเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น   เอลันดาเถียงกลับทันควัน

     

                  แต่เธอไม่ได้คิดแบบนั้นนี่ เธอชอบนาย เลยหึงฉันนะ ฉันดูออก เราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เซลิลีนโต้กลับอย่างรวดเร็ว

     เอลันดาถึงกับอึ้งเงียบไป

                 

                  เราเลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า ฉันขอร้อง ไม่อยากทะเลาะกับเธอ  มาดูดาวกันดีกว่า เดี๋ยวการบ้านเธอไม่เสร็จนะ   เอลันดาตัดบทสนทนานี้ออกไป เซลิลีนยักไหล่เป็นเชิงตกลง    ฟรอนท์มองพี่สาวกับกับรุ่นพี่โต้เถียงกันไปมาจนเวียนหัว แล้วทั้งหมดก็มุ่งสนใจกล้องดูดาวข้างหน้าจนเกือบครึ่งคืนจึงรวบรวมเก็บกล้องกลับบ้าน

     

                  นี่ดึกมากแล้วให้ฉันไปเดินส่งไป  เอลันดาขอไปส่งเธอ จริงๆอยากรู้จักบ้านเซลิลีน

     

                  ไม่ต้องหรอกจ๊ะ  พวกเรากลับกันเองได้ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ บายๆ เซลิลีนไม่ยอมให้เขาไปส่ง สองพี่น้องล่วงหน้าลงเขาไปก่อน ขณะที่เอลันดากำลังเก็บกล้องของเขาเองกลับบ้าน   พลันเขาคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวัน เป็นจริงที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าบ้านของเซลิลีน

    อยู่ไหน  ฟรอนท์ก็ไม่เคยเล่าให้ฟังถึงครอบครัวของตนเองทั้งที่รู้จักกันมานานและเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันด้วยซ้ำ   เอลันดานึกถึงเรื่องความทรงจำของเซลิลีนที่เขาเคยมองเห็น   หรือพวกเขาจะเป็นพ่อมดแม่มดจริงๆ  เอลันดานึกอยากเข้าไปอ่านความทรงจำของเซลิลีนอีกครั้ง แล้วเขาก็พยายามสลัดความคิดทั้งหมดออกไป  คิดอะไรบ้าๆเหมือนแซนดร้าไปอีกคนแล้วหรือไง เราควรจะไว้ใจเพื่อนที่สนิทที่สุด

     

                  เอลันดาเดินกลับบ้านมาเรื่อยๆ  ท่ามกลางความเงียบสงัดยามที่ผู้คนพากันหลับนอน  เขาเดินเกือบถึงบ้านของมันดังกัส

    เอลันดาเงยหน้ามองไปที่หน้าต่างห้องนอนด้านบน ไฟปิดมืดสนิท  ป่านนี้อารอนกำลังหลับอยู่  ขอพระเจ้าคุ้มครองให้เขาหายโดยเร็ว  เขานึกภาวนาอยู่ในใจ  

     

                  เหมียว เหมียว เสียงแมวร้องใกล้เหนือหัวเขา เอลันดาขึ้นไปมองเห็นตาเงาวาวของแมวสีเหลืองตัวหนึ่ง มันไปอยู่บนกิ่งไม้สูง

     

                  ฮ่ะ ฮ่ะ นี่แกคงขึ้นไปแล้วหมดปัญญาจะลงมาสิท่า  มาเดี๋ยวฉันช่วย เอลันดาปีนกิ่งไม้ขึ้นไปด้านบนต้นไม้สูง เจ้าแมวเหมียวขู่ฟ่อ ตั้งขนชันราวกับกำลังมีศัตรูเข้ามาใกล้  เขาค่อยเอื้อมไปจับหลังมันอย่างนิ่มนวล  ตาไปเหลือบเห็นเงาตะคุ่มของคนกำลังเดินเข้ามาช้าที่ถนน  

     

                  นั่นอารอนนี่ เขาออกไปทำอะไรกลางดึก  เขาป่วยอยู่ไม่ใช่หรือ  โอ้ย  เจ้าแมวบ้า เจ้าเหมียวข่วนหลังมือเขาจนเลือดซิปแล้วก็กระโดดผลุนไปจากต้นไม้ 

     

                  กรี๊ดๆๆ ช่วยด้วย เสียงร้องของเด็กผู้หญิงดังลั่น เอลันดาตกใจหายวาบ  มีอะไรเกิดขึ้นกับเซลิลีนและน้องชายเขาแน่นอน เขารีบโดดลงไปจากต้นไม้  วิ่งอย่างเร็วไปตามทางที่ได้ยินเสียง เมื่อเลี้ยวมุมถนนออกไป  สิ่งที่เห็นทำให้เขาเกือบหยุดหายใจ

                 

                  เซลิลีนกอดร่างน้องเธอที่มีแผลเหวอะตรงไหล่ขวาเลือดท่วมตัว   แต่นั่นมันไม่เท่ากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ  เอลันดายืนอยู่ข้างหลังของมัน  แผ่นหลังที่กว้างเป็นสองเท่าของคนธรรมดาปกคลุมด้วยขนรุงรัง  แขนขาใหญ่สามารถรัดคอคนตายได้ไม่ถึงนาที  เล็บมือแหลมคมเหมือนมีดปอกผลไม้

     

                  ออกไปนะ เจ้าสัตว์ประหลาด ออกไปนะ เอลันดาหยิบกรวดขว้างใส่หลังมัน มันหันหลังกลับมาอย่างเนิบๆ  เขาเกือบร้องออกมา  สัตว์ประหลาดยืนสองขาจังก้าสูงใหญ่เป็นสามเท่าของเขา อุ้งมือสัตว์ร้ายสามารถตบหัวเขากระเด็นออกไป มันแยกเขี้ยวที่ยาวน่ากลัว   ร้องโหยหวนน่าสยดสยองออกมา

     

                  เอลันดาหนีไป เธอสู้มนุษย์หมาป่าไม่ได้หรอก เซลิลีนร้องเตือน แต่สายไปแล้ว มนุษย์หมาป่าโถมเข้ามาใส่เขา เอลันดากระโดดหลบพ้นอย่างเฉียดฉิว  ร่างมันไปกระแทกกับเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา  สายไฟที่เชื่อมกับเสาอีกต้นถูกลากลงมาด้วยกันและขาดออก  ประกายไฟรั่วพุ่งออกมาเป็นสายจากสายไฟแรงสูง เอลันดาหัวใจหล่นวูบ ถ้าหลบไม่ทันอาจไหม้เกรียมทั้งร่าง  มนุษย์หมาป่าหันกลับมาเล่นงานเขาอีก  เขาแทบจะหมดแรงหนีแล้ว

     

                  อินคาเซอรัส  เชือกหลายเส้นพุ่งออกมาจากเงามืดด้านหนึ่งพันรอบตัวมนุษย์หมาป่า มันพยายามดิ้นไปมาให้หลุดจากพันธนาการ  เอลันดาเห็นอารอนกำลังยื้อยึดเชือกอีกด้านหนึ่งไว้

                 

            ช่วยฉันด้วย เอลันดา. ฉันคนเดียวไม่ไหว เอลันดารีบรุดไปช่วยดึงเชือกไว้ราวกับกำลังเล่นชักเย่อกันอยู่  แต่คราวนี้มีรางวัลกับผู้แพ้นั่นคือความตาย  ดูเหมือนแรงของมันยิ่งดิ้นยิ่งมากทุกที  ในขณะที่แรงของเด็กผู้ชายสองคนกำลังจะหมดไป ในที่สุดมันเบ่งกล้ามเนื้อตัวเองออกมาทำให้เชือกที่มัดอยู่ขาดออกจากร่างมัน    เซลิลีนร้องกรี๊ดลั่น  เด็กทั้งคู่หงายหลังกระเด็นไปที่พื้น  มนุษย์หมาป่าเริ่มย่างก้าวเข้ามา แววตากระหายเลือด

     

                   สตูเปฟาย  แสงสีแดงพุ่งออกจากไม้กายสิทธิ์ของอารอนไปปะทะร่างของมัน แต่ไม่ได้ผล มันสะดุ้งนิดหนึ่ง แต่ยังคงเดินใกล้เข้ามาต่อ  คราวนี้ต้องตายแน่ๆ   มันต้องฉีกร่างเขาเป็นชิ้นๆ เอลันดานึกหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือดสั่นไปทั้งตัว เช่นเดียวกับเด็กผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างกาย

     

                  สตูเปฟาย   แสงสีแดงเช่นเดียวกับเมื่อสักครู่แต่พุ่งออกมาจากสี่ทิศทางกระทบร่างมนุษย์หมาป่า มันหงายหลังดังตึงไปทับบนสายไปที่กำลังรั่ว และชักกระตุกๆ แล้วร่างมันก็ลอยสูงจากพื้นตามไม้กายสิทธิ์ด้านหนึ่ง

     

                  รอนมาช่วยฉันหน่อย ฉันไม่อยากให้มันตายก่อนที่จะรู้ว่าใครปล่อยมันมา  แฮรี่เรียกรอนให้ช่วยกันยกร่างมหึมาที่สลบอยู่ออกไปจากสายไฟที่รั่ว  แล้วมันก็ถูกวางลงที่พื้น แฮรี่เสกโซ่ตรวนขนาดใหญ่มัดร่างมัดไว้อย่างแน่นหนา

     

                  เดี๋ยวพ่อกับดีนจะเอามันไปที่เซนมังโก เดี๋ยวมันตื่นมาจะลำบาก  รอน ลูกจัดการทางนี้ด้วย โดยเฉพาะเด็กมักเกิ้ลพ่อมดสองคนช่วยกันยกร่างที่ไม่ไหวติงของมนุษย์หมาป่าแล้วหายวับไป 

     

                  พวกเธอเป็นไรมากไหม รอนและแฮรี่ช่วยกันฉุดมือเด็กทั้งสองขึ้นมา   ผมไม่เป็นไรครับแต่ เอลันดาชี้ไปทางเซลิลีนที่ทำท่าจะเป็นลม

     

                  เคราเมอร์ลินเป็นพยาน  ไม่นะฟรอนท์   รอนอุทานอย่างตกใจ ตรงรี่ไปเข้าไปอุ้มร่างฟรอนท์ที่หายใจรวยระริน  ส่วนเซลิลีเสียขวัญมากจนถึงกับลุกไม่ชึ้น  ทั้งเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดน้องชาย

     

                  ลุงแฮรี่   ฮือๆๆๆ  เซลิลีนเพิ่งรู้สึกตัว  และผวากอดแฮรี่     ไม่เป็นไรแล้ว สาวน้อยเธอปลอดภัยแล้ว แฮรี่ปลอบเธอก่อนจะพยุงเซลิลีนให้ลุกขึ้นยืน และหันไปพูดกับอารอนและเอลันดา 

     

                  พวกเธอสองคนไปบ้านโพรงกระต่ายกับฉันก่อน ฉันจะตรวจดูว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า แล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกันมากทีเดียว เด็กทั้งสองมองหน้ากัน  อารอนพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ทำตาม ทั้งหมดเดินออกไปจากบริเวณนั้น แฮรี่เสกคาถาซ่อมเสาไฟฟ้าให้เหมือนเดิม

                     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×