ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารอน-เอลันดา (ฟิคชั่น แฮรี่ พอตเตอร์ภาคอนาคต)

    ลำดับตอนที่ #24 : ผลของความดื้อดึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 144
      0
      3 มิ.ย. 50

                     เอลันดากลับมาที่ห้องของตัวเองอีกครั้งโดยไม่รู้ว่ากลับมาได้อย่างไร เขายืนซึมอยู่นาน ภาพเหตุการณ์ที่ฉายมาเปรียบเหมือนมหากาพย์ที่แสนเศร้าเรื่องหนึ่ง แต่ทั้งหมดคือความจริงที่ต้องยอบรับ แม้ว่ามันจะปวดร้าวเพียงใดที่ได้รับรู้

     

                  เอลันดา เธอไม่เป็นไรใช่ไหม  แฮรี่ถามอย่างห่วงๆ

     

                  ไม่ครับ มันคงไม่แย่ไปกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ  คุณอาแฮรี่ฮะ แล้วต่อไปเป็นอย่างไร เอลันดาถามเพราะอยากรู้เหลือเกิน อะไรทำให้เขาต้องมายืนอยู่ตรงนี้เวลานี้   ปู่และย่ามีชีวิตอยู่ได้อย่างไรโดยปราศจากคนที่เขารัก  และเก็บความงำความลับเอาไว้ตลอดเวลาเกือบเก้าปี

                 

                  เพราะเธอไง เธอทดแทนสิ่งแต่เขาเสียไป แม้จะไม่สามารถแทนได้ทั้งหมด  หลังจากจัดพิธีศพให้แม่ของเธอแล้ว ปู่และย่าของเธอก็จากหมู่บ้านนี้ไป เปลี่ยนชื่อของเธอ ประวัติของเธอใหม่เพื่อความปลอดภัยของเธอ ใช้ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจากกษัตริย์เอ็ดมันส์ในการค้าขายจนร่ำรวย จนเมื่อห้าปีที่แล้ว ทั้งสองได้ย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้ง ซื้อที่ดินทำไร่กาแฟ   พวกเขายังมีความหวังว่าลูกชายคนเดียวของเขาจะกลับมา

     

                  ครับ   เอลันดาตอบสั้น ๆ  เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไรต่อ  โอรสแห่งกษัตริย์ ผู้ซึ่งพ่อไม่ต้องการ แล้วแม่ของเขา เพราะอะไรหรือเพราะใคร ทำให้เธอไม่อาจมีชีวิตดูแลลูกน้อยของเธอได้

     

                  แม่ผม  ทำไมแม่ผมถึงตาย   ทำไมผมจึงไม่ได้คำตอบเรื่องนี้

     

                  ฉันตอบไม่ได้   ฉันคิดว่าคนที่สามารถให้ความกระจ่างเรื่องนี้ได้ น่าจะเป็นกษัตริย์เอ็ดมันส์ พ่อที่แท้จริงของเธอ แต่ฉันว่าเวลานี้  ยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะถาม เธอรับรู้เรื่องนี้มามากแล้วในคืนนี้   เธอพักผ่อนก่อนเถอะนะ

     

                  เอลันดาก้มหน้านิ่ง แฮรี่รู้สึกสงสารและเห็นใจ  ครั้งหนึ่งชีวิตของเขาพบความสูญเสียมามากแล้ว เขาย่อมเข้าใจดี  การเติบโตมาโดยปราศจากบุพการีมันช่างรันทดใจเพียงใด ยิ่งการที่ผู้เป็นพ่อปัดความรับผิดชอบโดนโยนไปให้ใครที่ไหนไม่รู้เป็นผู้เลี้ยงดูสั่งสอนแทน ย่อมปวดใจมากกว่า

                 

                  ผมอยากอยู่คนเดียวสักพัก

     

                  งั้นฉันไปก่อนนะ  เธอทำใจให้สบาย  เรามีเวลาอีกมากมายที่จะคุยกัน  แฮรี่ออกไปจากห้องโดยปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพัง

     

                  เอลันดานั่งกอดเข่าอยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปข้ามคืนจากชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ท้องฟ้าเริ่มสางกระจายแสงสีส้มเต็มท้องฟ้า เอลันดาลุกขึ้นยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง   สายลมพัดเอื่อยเข้ามา  ม่านบางลอยละล่องโดยมีที่ยึดเอาไว้    เขาจัดแจงเปลี่ยนตัวเองจากชุดนอนเป็นเสื้อผ้าธรรมดา เดินออกจากห้องไป

     

                  เขาเดินลงไปตามบันไดจนถึงชั้นล่างสุด ยังไม่มีใครตื่นนอนเพราะยังเช้ามาก    เขาเปิดประตูบานสูงเพื่อจะออกไปนอกปราสาท ใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอกปราสาทหน้าประตู ราวกับกำลังรอเขาอยู่ 

     

                  เจ้าชาย อัสมาจะเสด็จไปไหนแต่เช้าพะยะค่ะ เสนาคริสตัลถามเขา ขณะที่เอลันดากำลังก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจผู้พูดเลย

     

            เจ้าชายอัสมาอยากไปไหน ให้รถม้าพาไปดีไหม   เขายังคงถามต่อไปแม้จะยังไม่ได้คำตอบแรกก็ตาม

     

                  ขอโทษครับ   ผมชื่อเอลันดา และผมอยากไปคนเดียว อย่ายุ่งกับผม เอลันดาตอบเสียงห้วน เขาหันมามองด้วยสายตาแข็งกร้าว  เสนาคริสตัลพยายามที่ใจเย็นกับเด็กชาย

     

                  ปล่อยเขาไปเถอะ คริสตัล กษัตริย์เอ็ดมันส์บอกกับเสนาคริสตัลให้ปล่อยให้เขาทำอะไรตามที่ใจปรารถนา      เอลันดากำมือเกร็งแน่น   ความเกลียดชังพุ่งเข้ามาจนล้นปรี่   นี่หรือพ่อของเขา พ่อที่ทิ้งเขาไป คนที่ทำให้แม่ต้องตาย  เขาอยากไปให้ไกลจากตรงนี้ก่อนที่ความโกรธเกลียดจะนำตัวเขาให้กระโจนพุ่งเข้าไปทำร้าย เขาเริ่มต้นวิ่ง แขนและขาของเขาโยกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ไปไหนก็ได้ให้พ้นๆ 

     

                  เขาวิ่งมาไกลเท่าไรไม่รู้   แล้วมาล้มลงที่พื้น   มือทั้งสองทุบกำปั้นลงไปบนพื้นดินที่แข็งกระด้าง  หวังให้ความเจ็บปวดของร่างกายจะมาทำให้ความเจ็บปวดในใจบรรเทาลงไปได้บ้าง   เอลันดาร้องไห้โฮออกมา 

     

                  ทำไม เพราะอะไร…” 

     

                  ทำแบบนั้น จะช่วยให้อะไรดีขึ้น      เสียงหนึ่งแว่วเข้ามาที่กระทบเข้า ย้ำเตือนว่าเขากำลังทำเรื่องไร้สาระสิ้นดี 

     

                  เอลันดาสะดุ้ง  เขาไม่ได้อยู่แถวนี้เพียงคนเดียว   ใครคนหนึ่งอยู่ใกล้ตัวเขา เสียงนี้เหมือนเคยได้ยินมาครั้งหนึ่งไม่นานมานี้เอง   แล้วเขาก็ต้องอ้าปากค้าง ม้าสีขาวสะอาดตาโผล่พ้นมาจากยอดไม้ข้างหน้า มันย่างเหยาะเข้ามาหน้าเอลันดา

     

            ทรอยส์  คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง    เขาถามอย่างแปลกใจปนดีใจ

     

                  ฉันไปจนทั่วนาดิเวีย   ไปไหนต่อไหนได้ตามใจชอบของฉัน ว่าแต่เธอละ ฉันอยากรู้เหลือ  ทำร้ายตัวเองแบบนี้ มีอะไรดีขึ้นมาบ้าง เจ้าชายอัสมา

     

                  ทรอยส์ คุณก็รู้เรื่องของผมด้วยหรือฮะ

     

                  แน่นอน เรื่องของเธอ ร่ำลือไปทั่ว โดยเฉพาะในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ต่างพูดถึงการกลับมาของเจ้าชายอีกองค์ ฉันบอกไว้แล้วเธอต้องเป็นพ่อมด และไม่ใช่พ่อมดธรรมดาด้วย

     

                  หรือครับ ผมน่าจะดีใจนะ  แต่ไม่เลย ไม่เห็นดีใจเลยสักนิด  มีพ่อเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศ   ตัวเองเป็นเจ้าชาย  เจ้าชายถูกเนรเทศตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน  มันน่าตลกดีไหม  เอลันดาเค้นเสียงออกมาด้วยความรู้สึกขมขื่นใจ

     

                  เธอน่าจะเข้าใจพระองค์บ้างนะ ทรงน่าจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำไปเช่นนี้   และเป็นเหตุผลที่ดีด้วย

     

                  เหตุผลของคนเห็นแก่ตัว ใช่ ฉันรู้ดี    เอลันดาตะคอกเสียงดัง  ทรอยส์พ่นลมออกมาจากจมูกเสียงฟืดฟาด  

     

    เอลันดา เธอกำลังโกรธ เธอกำลังใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลนะ ฉันว่าเธอน่าจะทำใจให้เย็นกว่านี้  เอาแบบนี้ขี่หลังไปเที่ยวกับฉันไหม เผื่อเธอจะได้สบายใจขึ้น

     

                  เอลันดาจ้องตากลมใสของทรอยส์   ก่อนจะตอบตกลง  ก็ดีเหมือนกัน ฉันอยากไปไหนก็ได้ ไปให้ไกลจากตรงนี้ ในตอนนี้

    เอลันดาขึ้นขี่หลังม้าสีขาว  

     

                  ไปทะเลสาบเหมือนวันนั้นไหม  ฉันเห็นท่าทางเธอคงชอบที่นั่น  เอลันดาไม่ปฏิเสธ    ทรอยส์วิ่งเหยาะๆ ลัดเลาะไปอีกทาง ผ่านป่า และเพิ่มความเร็วขึ้น เขาพาเด็กชายไปที่ทะเลสาบ ผ่านทางลัดที่เร็วกว่าโดยไม่ต้องผ่านตัวเมือง ไม่นานพวกเขาก็มาถึงริมผืนน้ำที่กว้างไพศาล  เอลันดาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ความตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายออกไป 

     

                  ฝั่งนั้นมีอะไร เอลันดาชี้มือไปทางทะเลสาบอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นทิวเขาซ้อนกันแนวยาว   

     

                  เป็นป่าอีกฝั่งหนึ่ง  ตรงนั้นเป็นเขตเกือบสุดชายแดนนาดิเวีย ถัดออกไปก็เข้าสู่พื้นที่ของพวกมักเกิ้ล  อยากไปเที่ยวหรือ 

    เอลันดาพยักหน้า เวลานี้หากมีอะไรที่ทำให้ทำแล้วสบายใจ เขาก็อยากทำ  ที่ไหนที่สบายใจก็อยากไป 

     

                  เกาะให้แน่นนะ ทรอยส์บอกเขา เอลันดาใช้สองมือโอบรอบคอม้าแน่น   ทรอยส์พาวิ่งข้ามทะเลสาบ  ลมพัดผ่านหน้าเอลันดาจนชาไปทั้งหน้า  ได้ยินเสียงน้ำแตกกระจายจากกีบม้าทั้งสี่ของทรอยส์    ทั้งสองมาถึงอีกฝั่งหนึ่ง  มีแต่ป่าทึบขึ้นเต็มไปหมดตรงตีนเขา   เขาชื่นชมธรรมชาติจนเพลินเพลิน 

     

                  สบายใจขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม ทรอยส์ถามเมื่อเห้นว่าสีหน้าร่าเริงของเอลันดา

     

                  ขอบคุณมากครับ ผมรู้สึกดีขึ้นมากเลยฮะ  ผมดีใจที่มีเพื่อนที่ดีอย่างคุณ 

     

                  ฉันก็ดีใจที่เจอเธอ   เย็นมากแล้วเรากลับกันเถอะ    ทรอยส์พาเอลันดาเดินทางกลับด้วยสีขาของเขา  วิ่งเหยาะไปตามทางเดินในป่าจนใกล้จะถึงชายฝั่งทะเลสาบ   แล้วก็ต้องหยุดกะทันหัน  อะไรบางอย่างมาขวางหน้าพวกเขาโดยบัดดล  พ่อมดใส่ชุดคลุมสีขาวแทนที่จะเป็นสีดำเหมือนพ่อมดคนอื่น  หายตัวมาปรากฏตรงหน้าพวกเขา   

     

                  เจ้าชายอัสมา ขออภัยที่ทำให้ตกใจ   พวกเราอยากเชิญพระองค์ไปกับพวกเราหน่อย หนึ่งในนั้นบอกกับเขา เอลันดาเริ่มหวาดหวั่น พ่อมดชุดขาว  สัญลักษณ์ของกบฏชุดขาว    เขาไม่ตอบแต่รีบชักม้ากลับหลังทันที  ทรอยส์ควบตะบึงอย่างรวดเร็ว เวลานี้คืออันตรายยิ่งยวด

     

              เอลันดาไม่ได้กลับหลังไปดูว่าพวกนั้นตามมาหรือไม่ รู้แต่ว่าแสงสีแดงเขียว เฉียดตัวเขาไปมา เขาต้องคอยก้มหลบ ในขณะเดียวกันก็ต้องประคองตัวเองบนหลังม้าให้มั่น ทรอยส์พาเขาวิ่งห้อไปข้างหน้า หลบเวทมนต์คาถาที่พ่อมดพวกนั้นระดมใส่เข้ามาจากข้างหลัง    ตัวเขาไปโดนเขากับกิ่งไม้กิ่งหนึ่งจึงเสียหลักหล่นลงจากหลังม้า กลิ้งไปกับกองใบไม้แห้งจึงไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็ทำให้เขาเจ็บไปทั้งตัว  ทรอยส์ร้องเสียงของม้าดังลั่น มันตกใจหลบไปด้านข้างเมื่อเห็นพ่อมดอีกสามคน พวกมันเพิ่มมาอีกคนและไม่แน่ว่าน่าจะมีมากกว่านี้

     

                  อย่าทรงขัดขืนเลยเจ้าชายอัสมา    ตามพวกเราไปดีๆเถอะ เราจะยังไม่ทำอะไรเจ้าชายหรอกพะยะคะ

     

                    ไม่ทำ แปลว่าไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องไปกับพวกคุณ พวกคุณต้องการอะไรจากผม

     

                  เปล่าเลย  พระองค์ไม่มีอะไรให้พวกเราอยู่แล้ว  นอกจากตัวพระองค์เองมีค่ายิ่งนัก  ทรงยอมให้จับตัวแต่โดยดี 

     

                    เอลันดาถอยหนีและวิ่งกลับหลังอย่างรวดเร็ว   ป่าข้างหน้ามันทึบพอที่เขาจะหาที่กำบังได้  พวกนั้นไล่ตามเขามาห่างจากตัวเขาไม่กี่ก้าว เอลันดาเป็นนักวิ่งที่เร็วที่สุดในโรงเรียน จึงยากที่ใครจะไล่ตามทัน   เขาวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่มากต้นหนึ่ง

     

                  จะหนีไปไหนได้เจ้าชายอัสมา เวลานี้ใครจะมาช่วยได้    ทรงออกมาโดยดี  ไม่เช่นนั้นพวกเราจะเผาป่าให้ราบทีเดียว

     

                  เอลันดาไม่มีทางออกไปง่ายๆ และพวกมันก็ทำตามที่พูด  เขาได้กลิ่นควันไฟ  และรอบตัวเขาเต็มไปด้วยไฟที่กำลังลามไหม้ป่า ถ้าเขาไม่รีบออกไปตอนนี้อีกไม่นานเขาต้องสำลักควันตายและถูกคลอกอยู่ตรงนี้แน่

     

                  อากัวเมนตี สายน้ำมาจากข้างบนตัวเขา ช่วยดับไปที่กำลังไหม้ลงไปได้ เขาแหงนหน้าไปมอง   เฮอร์ไมโอนี่ขี่ไม้กวาดอยู่ข้างบนกำลังปล่อยน้ำจากปลายไม้กายสิทธิ์ เมื่อไฟมอดลงไปได้บ้าง

     

                  คุณอาเฮอร์ไม่โอนี่ครับ เอลันดาดีใจเป็นที่สุด  มีคนมาช่วยเขาแล้ว

     

                  ฉันตามมาดูเธอเพราะเป็นห่วง  เห็นเธอข้ามทะเลสาบมา  รออยู่ไม่เห็นเธอกลับออกมาเสียที คิดว่ามีเรื่องไม่ดีแน่ และจริงด้วย เฮอร์ไม่โอนี่บอกเขา เสียงพ่อมดวิ่งเข้ามาใกล้    

     

                  เธอรีบหนีออกไป ทางนี้ฉันรับมือเอง

     

                  แต่คุณอา ฮะ

     

                  ออกไป  เธอตวาดให้เอลันดารีบหนีไป เขาจำต้องทำตาม   เฮอร์ไมโอนี่ต่อสู้กับพ่อมดอีกสองคน อีกคนหนึ่งไล่ตามตัวเขาได้ทัน   เขาสะดุดรากไม้ล้มลง  

     

                  ทีนี้ ไม่มีใครมาช่วยแกได้แล้ว   พ่อมดชุดชาวกำลังยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น  เอลันดายกมือป้องหน้าราวกับว่ามันจะปกป้องได้  ทรอยส์กระโจนพรวดมาข้างๆ  ชนร่างพ่อมดลอยละลิ่วตกลงมาแน่นิ่ง

     

                  ขึ้นหลังฉัน เร็วเข้า  เอลันดากระโดดขึ้นหลังม้าแล้วพากันออกไป พวกเขามาถึงริมทะเลสาบกำลังเตรียมตัวจะข้าม

     

                  เดี๋ยวก่อน  ทรอยส์ หยุดก่อน

     

                  เอลันดา เธอมีอะไรอีก เราต้องรีบออกไปจากที่นี่

     

                  ฉันทิ้งคุณอาเฮอร็ไมโอนี่ไว้ไม่ได้  ฉันจะย้อนกลับไปช่วยเขา   เอลันดาตะโกนบอก

     

                  เธอจะบ้าหรือไง ไม่ฉันไม่ยอมกลับไปเด็ดขาด ทรอยส์ตอบกลับและยังคงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตาอไป

     

                  ถ้าคุณย้อนกลับไป ฉันจะกระโดดลงไปเอง

     

                    ดูเหมือนฉันไม่มีทางเลือกใช่ไหม ทรอยส์จำต้องทำตาม   ม้าสีขาวตะกุยสองขาขึ้นมาข้างหน้า แล้ววิ่งหันหลังกลับไป  

     

     

                                    เอลันดาไปที่เดิมที่เขาเพิ่งหนีออกมา เฮอร์ไมโอนี่พลาดท่า  นอนบาดเจ็บอยู่ที่พื้น พ่อมดสองคนกำลังจะร่ายคาถาเพื่อปลิดชีพเธอ เอลันดาไปทันเวลา   ทรอยส์ใช้สองขาหน้าเตะพ่อมดจนลงไปนอนกองกับพื้น

     

                  คุณอาฮะ คุณอาเป็นไงบ้าง เอลันดารีบลงจากหลังม้าประคองศีรษะเธอเอาไว้    มีบาดแผลฉกรรจ์เป็นทางยาวที่หน้าอก เลือดไหลออกมาไม่หยุด

     

                  เธอกลับมาทำไม ทำไมไม่หนีไป เฮอร์ไมโอนี่บอกเขาเสียงเหนื่อยหอบ   ริมฝีปากซีดแห้ง

     

                  ผมทิ้งคุณอาไม่ได้

     

            ดีงั้นตายไปด้วยกันเลยก็ได้ พ่อมดชุดขาวที่เหลืออีกคน ย่างก้าวเข้าอย่างช้า  แสยะยิ้มมุมปาก เอลันดาหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาสู้

     

                  ไอ้หนู อย่าดีกว่า แกไม่เคยใช้มันมาก่อน อย่าแส่หาเรื่อง  บอกแล้ว ถ้าไปกับพวกเราดีๆ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

                  สตูเปฟาย เอลันดาร้องคาถาออกมา พร้อมตวัดไม้กายสิทธิ์  มันหัวเราะดังลั่น  แล้วก็ต้องตกใจเบิกตาโพลง  แสงสีแดงพุ่งออกมาจากไม้กายสิทธิ์ไปโดนร่างอย่างจัง  

     

            ก็พวกแกเพิ่งบอกคาถาฉันเมื่อกี้นี่   เอลันดาถอนใจแรง เวลานี้เขาปลอดภัยแล้ว  แต่ต้องรีบพาเฮอร์ไมโอนี่ออกไปก่อนเธอจะอาการหนักกว่านี้   เขาช่วยพยุงร่างเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมา 

     

                  ทรอยส์ช่วยฉันหน่อย  ทรอย์ใช้ปากงับเสื้อเธอดึงมาใกล้ๆ   เขาดันตัวเธอไปนอนอยู่บนหลังม้า เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด

     

                  สองคนไหวไหม   เขาถามทรอยส์

     

     

    พอได้ แต่อาจช้ากว่าขามา แต่รับรองฉันจะวิ่งให้เร็วที่สุดในชีวิต

     

                  ทั้งม้าทั้งคนต่างออกเดินทางจากบริเวณนั้น พวกเขาทั้งหมดออกจากฝั่งกำลังข้ามแผ่นน้ำสีเงินของอะควอเทรส  อีกครึ่งทางพวกเขาก็จะไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างปลอดภัย  เอลันดาคอยดูแลเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่ได้สติอยู่หน้าเขา ถ้าเธอเป็นอะไรไปเขาไม่มีวันยอมยกโทษให้กับความดื้อดึงของตัวเองไปตลอดชีวิต

                 

                  ทรอยส์หยุดวิ่ง มีอะไรผิดปกติบางอย่างอยู่บนผิวน้ำข้างหน้า  เกิดฟองปุดกินๆบริเวณกว้าง  อาจเป็นสัตว์น้ำที่ใหญ่มากตัวหนึ่งอยู่ข้างล่าง  เอลันดาคิด  สักพักพื้นน้ำค่อยแหวกม่านออกมาเป็นร่องใหญ่  ไม่ใช่ส่วนไหนของสัตว์น้ำตัวใดทั้งสิ้น มันเป็นเสากระโดงของเรือ  ค่อยๆโผล่ขึ้นออกมาจากน้ำทีละน้อยจนเป็นตัวเรือขนาดใหญ่   ทรอยส์วิ่งหลบแนวคลื่นที่มาเป็นระลอก    มีคนอยู่บนเรือ

    เอลันดาเห็นคนเหล่านั้นพากันเดินออกมาจากท้องเรือ   ทั้งหมดยืนมองเขาอยู่ข้างเรือ คนหนึ่งที่เขาจำใบหน้าและแววตาได้อย่างแม่นยำแม้จะพบการเพียงครั้งเดียวในความจริง และอีกครั้งในความทรงจำของปู่และย่า

     

                  เฟดิเรอนาน   เอลันดาตะลึงค้างอยู่นาน   สัญชาติญาณบางอย่างบอกให้เขารู้ว่าต้องรีบหนีให้ไกลเรือลำนี้ที่สุด เขาชักม้าให้กลับไปอีกทางหนึ่ง ปรากฏว่ามีกลุ่มพ่อมดชุดขาวขี่ไม้กวาดล้อมเขาอยู่ ไม่ว่าจะไปทางไหน พวกนั้นปิดทางเขาหมดสิ้น เขาช้าเกินไปกว่าจะรู้ตัวว่าต้องหนี

     

                  เอลันดาพยายามจะใช้ไม้กายสิทธิ์ปกป้องตังเอง แต่มันก็ช้าไปเสียทุกอย่าง มันลอยออกจากมือเขาไป  สุดท้ายก็ถูกจับมาบนเรือ  พวกมันโยนร่างเฮอร์ไมโอนี่ลงบนพื้นเรือ เฟดิเรอนานเดินเข้าไปช้า  นั่งลงข้างตัวเธอ 

     

                  พวกแก  อย่าแตะต้องตัวเธอ  เธอไม่เกี่ยว ปล่อยเธอไป   บอกให้ปล่อยไง ปล่อย  

     

                  ดูเหมือนพ่อมดหนุ่มผมทองหันมามองเอลันดา  สายตาบ่งบอกว่าน่ารำคาญเหลือเกิน

     

                  ครูซิโอ   เขาร่ายคาถากรีดแทงใส่ เอลันดาล้มลงนอนบิดเร่ากับพื้น  เจ็บปวดไปทั้งตัวราวกับใครเอามีดมาเฉือนเนื้อ   เฟดิเรอนานไม่ได้สนใจเขาอีก เขาใช้ไม้กายสิทธิ์แตะที่แผลบนหน้าอกของเฮอร์ไมโอนี่  เลือดค่อยๆหยุดไหลอย่างช้า เฟดิเรอนานช่วยชีวิตเธอไว้

     

                  ฉันปล่อยเธอคนนี้ให้ตายไม่ได้ จนกว่าจะนำสาสน์จากฉันส่งต่อไปให้กษัตริ์ย    เอาเจ้าชายไปขังไว้ก่อน       เอลันดาถูกลากไปท้องเรือ   

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×