คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ฐานะถูกเปิดเผย
เอลันดานั่งก้มหน้ากำมัดแน่นอยู่ที่นั่งระเบียงทางเดินหน้าห้องพักชั้นห้าห้องที่สามสิบห้า ในขณะที่ผู้บำบัดสองสามคนวิ่งเข้าวิ่งออกวุ่นวายถือถาดใส่แก้วน้ำยาหลากสีสัน
แฮรี่ใช้มือแตะบ่าเด็กชาย “ฉันว่าเธอควรจะกลับไปที่บ้านก่อนนะ” เอลันดาเงยหน้าขึ้นมองตาสีเขียวใสผ่านกรอบแว่นหนาของแฮรี่ “แต่ อารอน ยังไม่ฟื้นเลยฮะ เขาจะเป็นไรไหม”
แฮรี่ยิ้มน้อยๆให้เอลันดา บอกให้ทำใจให้สงบ “กว่าอารอนจะฟื้นก็พรุ่งนี้เช้า เธออยู่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ อารอนอยู่ในความดูแลของผู้บำบัดที่เชี่ยวชาญไม่ต้องเป็นห่วง ห่วงตัวเธอเองดีกว่า ป่านนี้พ่อแม่เธออาจกำลังรอเธออยู่ พรุ่งนี้เราค่อยมาใหม่ก็ได้ เชื่อฉันเถอะ กลับไปก่อน”
เอลันดานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลงยอมกลับ แฮรี่จูงมือเด็กน้อยออกไปทางห้องโถงของโรงพยาบาล เวลานี้เป็นเวลาค่ำแล้ว จึงไม่มีผู้คนอยู่มากนัก
“ฉันจะพาเธอหายตัวไปนะ เธออาจจะไม่คุ้นกับวิธีการเดินทางของพวกเรา แต่ฉันเชื่อว่าไม่นานเธอจะชินเพราะเธอก็เป็นพ่อมดคนหนึ่ง”
“คุณยังคิดว่า ผมยังคงเป็นพ่อมดอีกฮะ ทุกอย่างอาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นี่ฮะ” เอลันดายังคงค้านความคิดนี้อยู่ตลอดเวลา
“ฉันเชื่อว่า ฉันดูไม่ผิด ฉันอาจเคยดูอะไรผิดไปเมื่ออดีตที่ผ่าน แต่คราวนี้ ฉันมั่นใจ เอาละเราไปกันได้แล้วนะ เธอหลับตาเสีย ฉันเข้าใจความรู้สึกของการได้หายตัวครั้งแรกดี ” แฮรี่บอกเขา เอลันดาหลับตาลง เขารู้สึกถึงมวลอากาศรอบๆกำลังบีบอัดเขาแน่นเหมือนเขาอยู่ในกล่องเล็กๆแคบๆ ที่เหมือนมียักษ์กำลังจับเขย่าไปมา แล้วมันก็หยุดลงอากาศค่อยกลับมาหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง เอลันดาลืมตาขึ้น เขายืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง
“พรุ่งนี้ เธออยากให้ฉันมารับเธอที่นี่หรือไม่”
“ไม่ต้องหรอกฮะ คุณมีอะไรต้องทำหลายอย่าง ผมจะไปกับเซลิลีนกับคุณอาเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาต้องไปเยี่ยม
ฟรอนท์อยู่แล้ว”
“งั้นโชคดี พรุ่งนี้เจอกันนะ ราตรีสวัสดิ์” เอลันดามองตามแฮรี่ พอตเตอร์ ที่หายวับไป เขาทึ่งในความเป็นพ่อมดและรับความรู้สึกถึงความอ่อนโยนจากตัวเขาในทุกคำพูดทุกการกระทำ ถ้าเขาเป็นพ่อมดจริงๆ เขาตั้งใจจะยึดพ่อมดหนุ่มผู้แสนดีคนนี้เป็นต้นแบบ เอลันดากลับเข้าไปในบ้าน โชคดีที่ปู่และย่ายังไม่กลับมาจากงานเลี้ยง เขาขึ้นไปอาบน้ำและเข้านอนแต่วัน แม้วันนี้หรือหลายวันก่อนจะพบเรื่องราวมากมาย แต่ความเหนื่อยล้าทำให้หลับได้ในที่สุด
เอลันดาแอบออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปบ้านโพรงกระต่าย เซลิลีนกับแม่ของเธอกำลังจัดเตรียมของเพื่อนไปโรงพยาบาล
“ดีใจที่เธอมาเอลันดา เราได้รับนกฮูกเมื่อเช้านี้ พวกเราตกใจกันมาก มีอะไรเกิดขึ้น” เซลิลีนตั้งคำถามทันทีเห็นหน้าเขา เอลันดาเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
“ทำไม พวกนั้นถึงตามล่าอารอน แปลกจริงๆ ” เฮอร์ไมโอนี่ตั้งข้อสงสัย เด็กทั้งสองมองหน้าหญิงสาวผมหยิกฟู
“เอาละ เอาละ อย่าเพิ่งพูดกันตอนนี้เลย แม่ว่าเรา ควรไปกันได้แล้วเดี๋ยวมันจะสาย เราต้องไปที่โรงพยาบาลผ่านทางเครือข่ายผงฟลู”
“อะไรนะฮะ เครือข่ายผงฟลู” เอลันดาอุทานอย่างแปลกใจ
“เธอคงเพิ่งได้ยินครั้งแรก แหงอยู่แล้วละ ไม่เป็นไร เธอทำตามฉันนะ พูดให้ชัดด้วย ” เซลิลีนว่าจบแล้วก็เดินไปที่หน้าเตาผิง หยิบเอาผงในถุงเล็กๆข้างเตาผิง ขว้างเข้าไปในกองไฟ ก่อนเอาตัวเข้าหย่อนในเปลวไฟสีเขียว ตะโกนเรียกชื่อสถานที่ปลายทาง เมื่อเอลันดาลองทำบ้างอย่างไม่แน่ใจนัก เขาพบว่าตัวเองเกือบจะอาเจียนออกมาระหว่างถูกหมุนในเตาผิง
“เธอ โอเคไหม พ่อหนุ่มน้อย” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเด็กชายสะบัดหัวไปมา ปัดเอาขี้เถ้าออกจากตัว “ไม่เป็นไรฮะ”
ทั้งสามพากันเดินไปที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนถามชื่อห้องพักจากเจ้าหน้าที่หญิงหน้าแหลม
“ดิฉัน เฮอร์ไมโอนี่ วีสลีย์ ต้องการมาเยี่ยม ผู้ป่วยชื่อ อารอน เฟร็ดเชอร์ ไม่ทราบเขาอยู่ห้องไหนคะ”
เจ้าหน้าที่หญิงเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง ก่อนหันไปดูรายชื่อจากสมุดบันทึกเล่มหนาตรงหน้าเธอ มีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อมาหยุดที่บรรทัดหนึ่ง
“เสียใจด้วยคะที่จะบอกว่า เราคงให้คุณเยี่ยมผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้ ทางโรงพยาบาลได้จัดผู้ป่วยคนนี้เป็นกรณีพิเศษที่ห้ามผู้ใดเข้าเยี่ยมเด็ดขาด ”
“ห้ามเยี่ยม นี่มันหมายความว่าไงคะ เขาเจ็บหนักมากหรือ” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเป็นงง ไม่เคยมีผู้ป่วยรายไหนในโรงพยาบาลนี้ที่ถูกสั่งห้ามเยี่ยม
“เราไม่สามารถให้เหตุผลแก่คุณได้ เชิญคุณออกไปหน่อยคะ มีคนข้างหลังกำลังรอคิว” เจ้าหน้าที่หญิงยังคงปฎิเสธไม่ให้เข้าเยี่ยม
“พวกเราเป็นเพื่อนเขานะฮะ ทำไมต้องห้ามด้วย” เอลันดาโพล่งออกไปอย่างไม่พอใจ จนเจ้าหน้าที่หญิงเริ่มจะมีสีหน้าบึ้งขึ้นมา
“เด็กๆ พวกเธอมากันแล้วหรือนี่ มาทางนี้ คุณโรซ่า เดี๋ยวผมจัดการเองครับ เขาเป็นญาติผมเอง” ทั้งสามหันไปตามเสียงเรียกของรอนที่มาพบเขาพอดี รอนพยักเป็นเชิงให้เดินตาม เขาพาภรรยาและลูกสาม และเอลันดาไปที่ห้องทำงานส่วนตัว
“นั่งก่อนสิ ทานน้ำชากับขนมพายก่อน ตอนนี้เรายังเข้าเยี่ยมอารอนไม่ได้ ท่านรัฐมนตรีอาราฟัดกำลังสนทนากับเขาอยู่” รอนบอกกับทุกคน นั่นทำให้ทั้งสามถึงกับหน้าตาตื่นตะลึง
“ท่านรัฐมนตรีมาด้วยตนเองเชียวหรือ นี่มันเรื่องอะไรรอน” เฮอร์ไมโอนี่ตั้งกระทู้ถาม รอนเงียบขรึม ลุกขึ้นเดินช้าๆไปที่หน้าต่างห้องที่แขวนม่านสลับสีขาวมุก ถอนลมหายใจยาวๆ ออกมา
“เมื่อคืน พวกเราคาดคั้นความจริงจาก มันดังกัสกับเพื่อนของเขาอีกคน เราถึงได้รู้ ดีนเป็นคนแจ้งข่าวนี้ทันทีที่กระทรวง ฟังฉันนะ อารอนไม่ใช่หลานของมันดังกัส เขาเป็น
” รอนหยุดไว้นิดหนึ่ง หันมาทางที่คนทั้งสามนั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่สนใจของว่างที่อยู่ตรงหน้า
“ เจ้าชายอารอน หรือพระนามเต็มว่ามงกุฎราชกุมารอารอนซานที่สามแห่งราชอาณาจักรนาดิเวีย พระราชโอรสองค์เดียวของ
กษัตริย์เอ็ดมันส์”
เซลิลีนทำถ้วยน้ำชาหกเลอะโต๊ะ เฮอร์ไมโอนี่ยกมือปิดปากอุทานเบา ส่วนเอลันดาอ้าปากค้าง
“เป็นไปได้ไง ที่ผ่านมา เราอยู่กับเจ้าชายโดยเราไม่รู้ตัวมาก่อนเลยหรือนี่”
“พ่อก็ไม่รู้ว่าทำไม เจ้าชายต้องปิดบังฐานะที่แท้จริง ทรงอาจมีเหตุผลบางอย่าง ถ้าท่านรัฐมนตรีออกมาแล้ว เราจะไปเยี่ยมกัน ทางโรงพยาบาลได้จัดห้องพิเศษสำหรับบุคคลสำคัญอยู่แล้ว มีการอารักขาอย่างเข้มงวด จึงไม่แปลกว่าทำไมเจ้าหน้าที่โรซ่า ถึงไม่บอกพวกเธอ ”
หลังจากนั้นประมาณยี่สิบนาทีต่อมา รอนพาทั้งสามเดินไปที่ปีกขวาของตึกชั้นห้าซึ่งเป็นส่วนของพื้นที่พิเศษ จึงไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนัก ท่านรัฐมนตรีกำลังเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยชื่อห้อง Diamond เป็นจะเป็นห้องเดี่ยวขนาดกว้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
“ผู้บำบัดรอน และ อดีตมือปราบมารสาวคนเก่ง ยินดียิ่งได้เจอพวกคุณที่นี่ แล้วนี่ลูกๆ คุณใช่ไหม” ท่านรัฐมนตรีหยุดทักทาย
“เซลิลีนลูกสาวคนโตของผมครับ ส่วนเด็กผู้ชายคนนี้ เอลันดา เป็นเพื่อนเธอครับ” รอนแนะนำทุกคนให้อาราฟัดได้รู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เอลันดาจับมือทักทาย
“รอน เฮอร์ไมโอนี่ ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับคุณเสียหน่อย ขอเวลาสักครู่ได้ไหม เชิญที่ห้องข้างๆดีกว่านะ” รัฐมนตรีมนตรีบอกกับสองสามีภรรยา
“หนูกับเอลันดาเข้าไปข้างในก่อน แม่คุยธุระเสร็จจะตามไป” เฮอร์ไมโอนี่บอกเด็กๆ
เอลันดากับเซลิลีน เข้าไปข้างในห้องโดยที่มีมือปราบมารสองคนที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า อารอนนั่งอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงผู้ป่วย ยิ้มกว้างเมื่อเห็นเพื่อนรักสองคนเข้ามา
“เอลันดา นายไม่เป็นไรใช่ไหม พวกนั้นไม่ทำอะไรนายใช่ไหม”
“ฉัน
เอ่อ ผมไม่เป็นไร ครับ” เอลันดาไม่รู้จะใช้คำพูดอย่างไรกับอารอน ในเมื่อเวลานี่รู้แล้วว่า ฐานันดรแตกต่างกัน
“เอลันดา ปลอดภัยดีทุกอย่าง ไม่ต้องเป็นห่วง เพคะ เจ้าชายอารอน
” เซลิลีนเน้นพยางค์ตัวหลังแข็งและต่ำลง ผิดกับใบหน้าที่เชิดขึ้น อารอนถึงกับหน้าถอดสี
“พวกเธอ รู้เรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม ฉันสามารถอธิบายได้นะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบัง คือฉัน
” อารอนพยายามหาคำพูดที่ดีที่สุด
“ไม่ต้องหรอกเพคะ เป็นเจ้าชายไม่ผิดอะไร จะโกหกกี่ครั้งกี่หนก็ได้ ” เธอยังคงระดมคำพูดเจ็บแสบมาต่อว่า
“เซลิลีน!!” เอลันดาอยากจะปิดปากเด็กสาวเหลือเกิน
“ฉันจะไปรอข้างนอกนะ เธอคุยกับ
เจ้าชายไปก่อนแล้วกัน ฉันกลัวว่าถ้าอยู่ต่อไปอาจจะทะเลาะกับเชื้อพระวงศ์” เซลิลีนพูดจบก็สะบัดหน้าบึ้งตึงออกนอกห้อง เอลันดาทำตัวไม่ถูก หันมามองหน้าคนบนเตียงก่อนจะตามเธอออกไป เซลิลีนออกมายืนกอดอกหน้าระเบียง เธอกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“ฉันขอโทษ
.. ” อารอนพึมพำกับตัวเอง รู้สึกเสียใจ
“เซลิลีน ฟังฉันก่อนนะ อารอนไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพวกเรา ฉันเชื่อว่าเขามีเหตุผลที่สำคัญมากๆ ที่ไม่บอกความจริง เซลิลีน ฉันขอร้องละ ยกโทษให้อารอนนะ” เอลันดาขอร้องเธอ เซลิลีนหันมามองหน้าก่อนที่หันกลับไปมองออกนอกหน้าต่างเหมือนเดิม
“เขาไม่ไว้ใจพวกเรา เขาไม่คิดว่าพวกเราเป็นเพื่อน เราสองคนไว้ใจเขามาก แต่เขาไม่เชื่อใจเราเลย ” เธอยังคงตัดพ้อ
“แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ของเธอ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยประสงค์ร้ายเราสองคนเลยใช่ไหม เธอคิดสิดูสิ” เอลันดาบอกกับเซลิลีนจนเธอนิ่งคิดอยู่นาน ไม่มีคำพูดอะไรกลับมา
ความคิดเห็น