คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : BAD NEWS :: 6
---------------------------
‘ถึงพี่จะได้ตัวของพี่คริสไปแต่พี่ไม่มีวันได้ใจของพี่คริสเหมือนกับผมหรอกนะพี่แบคฮยอน!’
“นี่คิดอะไรอยู่”ฮีชอลที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเอ่ยถามขึ้น
“ไม่มีอะไรครับ”ชานยอลเอ่ยตอบพี่สะใภ้คนสวย
“เฮ้อนิสัยนายคงเปลี่ยนไม่ได้จริงๆน่ะแหล่ะชานยอลพี่ว่าเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ดีกว่า”ชานยอลหันไปมองหน้าฮีชอลพร้อมกับเครื่องหมาย
คำถามบนใบหน้าแต่คนที่โตก็ก็ไม่คิดที่จะอธิบายอะไรเพิ่มเติมเลยหนำซ้ำยังลุกเดินหนีเขาไปซะนี่
“ชานยอลมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวไม่ง่วง?”ซูโฮที่เดินลงมาเจอชานยอลเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกันกับชานยอล
“ก็คิดอะไรเพลินเลยยังไม่ง่วง”
“มีอะไรทำไมไม่ไปพูดไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องล่ะ”เขาที่ซูโฮบอกก็คือคนที่ทำให้ร่างบางคนนี้คิดไม่ตกนั่นเอง
“ผมเข้าไม่ถึงเขาเลยพอจะเขาถึงทีไรมันต้องมีเหตุให้ต้องถอยออกห่างตลอดไม่ว่าจะตอนไหนๆ”ชานยอลเว้นช่วงไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“ก็รู้ว่าเขาต้องการที่จะพูดด้วยแต่ก็ไม่เคยจะทันได้ฟังสิ่งที่เขาจะพูดพี่แบคกับคุณนายอู๋ก็เป็นอันเข้ามาขวางเข้ามาขัดตลอดอย่างนี้แล้วผมจะ
คุยกับเขาให้รู้เรื่องได้อย่างไรล่ะครับ”
“เวลาทะเลาะกัน ตอนไหนแย่ที่สุด รู้มั้ย”ซูโฮหยุดพูดก่อนจะเงยหน้ามองชานยอลซึ่งชานยอลก็มองมาที่เขาเช่นกันก่อนที่เข้าจะพูดต่อ “ก็
ตอนที่เราประชดใส่กันยังไงล่ะ พอเราประชดกันไปมาก็ไม่เข้าใจหนำซ้ำยังทำให้เราคิดไปต่างๆนานาอีกมากมายว่าเขาหมดรักเราแล้ว เขามี
คนอื่น เขาเปลี่ยนไป เขาไม่เหมือนเดิม แล้วเมื่อเรายิ่งคิดแบบนั้นเราก็ยิ่งประชดใส่กันเข้าไปอีกแล้วแบบนี้เมื่อไหร่ล่ะที่จะได้คุยกันดีๆ”
“พี่ซูโฮต้องการจะบอกอะไรผมอย่างนั้นเหรอครับ”
“ถึงแม้กรณีของเราจะไม่ได้ทะเลาะกันแต่ผลสรุปของเรื่องนี้ก็คือการเดินคนละทางอยู่ดี”ซูโฮทิ้งท้ายให้ชานยอลได้คิดก่อนจะลุกขึ้นไปบน
ห้องนอนซึ่งตอนนี้ก็ดึกพอควรเลยทีเดียว
“เลย์”ลู่หานจิ้มที่แขนเลย์เบาๆก่อนจะชี้ให้เลย์หันมามองตน
“ว่าไงหืม”
“รักนะ”ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้ตอบลู่หานก็ประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของเลย์และผละออกอยากรวดเร็ว
“หืมทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้เลยเหรอเนี่ย”ลู่หานยู่ปากออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่เลย์พูดก็ใครจะไปคิดล่ะว่าแค้จุ๊บนิดเดียวอยากซะแล้วไม่รู้
จะหื่นไปไหนชิ
“ไม่คุยด้วยแล้วไปเดินหาเด็กดีกว่า”
“กล้านอกใจฉันงั้นเหรอเสี่ยวลู่”เลย์เดินข้างๆก่อนจะโอบเอวบางแน่น
“บ้าสิใครมันจะไปนอกใจได้ก็รักซะขนาดนี้”
“ก็บอกเองว่าจะไปหาเด็ก”
“ไปหาเด็กมาเป็นนายแบบเถอะมั่วจัง”ลู่หานฟองลมใส่หน้าเลย์จนเลย์อดที่จะขำกับท่าทางของลู่หานไม่ได้
“โอ๋อย่างอนสิถ้างอนไม่พาไปทานอะไรอร่อยๆไม่รู้ด้วยนา”
“ลองไม่พาไปสิหนีกลับบ้านแน่”
“เดี๋ยวตามไปง้อถึงบ้านเลยเอ้า”
“ไม่ให้เข้าบ้านหรอก”
“ขอแม่ยายเข้าก็ได้”
“ไม่เถียงด้วยแล้วโอ๊ะนั่นมัน”ลู่หานชี้ไปที่เด็กหนุ่มตัวสูงสามคนที่ยืนอยู่กับเพื่อนของเขาทั้งสองแต่จะเดินเข้าไปก็ไม่ได้เพราะเลย์ดึงแขน
เอาไว้ไม่ให้เข้าไปยุ่ง
“จะเข้าไปยุ่งให้ปวดหัวทำไมไหนว่าจะไปหานายแบบคนใหม่ไง”
“ก็นั่นไงนายแบบคนใหม่”ลู่หานชี้นิ้วไปที่ชานยอลกับไคซึ่งเลย์ก็มองตามอย่างพิจารณา
“อืมส่วนสูงใช้ได้แต่มันติดอยู่อย่างเดียว”เลย์หรี่ตามองอย่างพินิจอีกครั้ง
“แต่อะไรอ่า”ลู่หานเกาะที่แขนของเลยพร้อมกับเอาหน้าไปถูกๆอยู่ที่ไหล่ขอเลย์อย่างน่ารัก
“นี่ถ้าอดใจไม่ไหวแล้วจับปล้ำกลางห้างจะมาโทษกันไม่ได้นะ”
“แล้วตกลงยังไงเนี่ย”
“ก็สองคนนั้นจะยอมมั้ยล่ะ”
“เออนั่นดิโอ๊ยลืมคิดง่า”
“ฮ่ะๆไปเถอะไว้ค่อยเข้าไปหาชานยอลที่บ้านก็ได้”
เช้าวันต่อมา
“ไม่ทราบว่าคุณๆมาพบใครหรือคะ”
“ผมมาพบชานยอลครับ”เลย์บอกกับสาวใช้ที่เดินมาเปิดประตูให้ทั้งสอง
“เชิญนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นสักครู่เดี๋ยวดิฉันขึ้นไปตามคุณหนูลงมาให้ค่ะ”ว่าแล้วสาวใช้ก็เดินขึ้นไปด้านบนซึ่งสวนกับนายใหญ่ของบ้านพอดี
“เมื่อครู่นี้ใครมากัน”
“ไม่ทราบค่ะเห็นบอกว่าจะมาพบคุณหนูเล็ก”
“อย่างนั้นเหรอเธอขึ้นไปตามตาเล็กแล้วกันเดี๋ยวฉันลงไปดูเอง”
“สวัสดีซีวอนนี่”
“ลู่หานแกทำฉันอยากจะเข้าไปบีบคอให้ตายเลยดูเรียกเข้า”
“น่ารักจะตายเนอะเลย์”ลู่หานหันไปออดอ้อนคนรักจนคนที่ยืนมองอยู่แทบจะมุดดินหนีกับบรรยากาศแสนหวานของสองคนนั้นซะจริง
“เออแล้วนี่พวกนายมาหาน้องฉันแต่เช้ามีเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็ลู่หานน่ะสินึกคึกอะไรก็ไม่รู้อยากได้น้องแกมาเป็นนายแบบ”
“แล้วถ้าฉันไม่อนุญาตล่ะ”
“ก็ฉันจะเอาอ่า”ลู่หานทำท่างอนซีวอนจนซีวอนอดที่จะขำไม่ได้
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้นะพี่ลู่หาน”
“เหนานะมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนั่นเด็กที่ไหน”
“ลูกฉันเองค่ะฮ่ะๆๆแล้วก็กลับมาตั้งแต่งานหมั้นพี่คริสนั่นแหล่ะค่ะ”
“เอ๊ะอ้าวทำไมไม่เห็นล่ะเนี่ย”ลู่หานทำท่าครุ่นคิดถึงงานเมื่อวานนี้แต่ก็นึกไม่ออก
“ฮ่ะๆจะให้ได้ไงล่ะคะก็พวกเรานั่งข้างหลังๆกันนี่นา”
“นั่งไงตาเล็กลงมาพอดี”นานะหันไปชี้คนตัวสูงโย่งที่พึ่งเดินลงมา
“สวัสดีครับพี่ๆ”
“ยอลยอลไปเที่ยวๆ”เดนนิสที่เห็นน้าของตนเดินมาก็วิ่งเข้ากอดขาก่อนจะเอ่ยชวนคนเป็นน้าให้พาไปเที่ยว
“ครับๆแต่ว่าขอพี่คุยงานก่อนนะโอเคมั้ยครับ”ชานยอลก้มลงลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินจูงมือให้เดนนิสเดินตามตนเข้าไปที่ห้อง
นั่งเล่นที่มีเลย์ ลู่หาน ซีวอนและนานะนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ไม่ทราบว่าพวกพี่มีธุระอะไรกับผมรึเปล่า”ชานยอลเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาทันทีที่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“คืออย่างนี้นะพี่เห็นเราตัดผมใหม่แล้วมันตรงตาต้องใจพี่”
เดี๋ยวๆตรงตาต้องใจดูมันใช้คำ”ซีวอนแทรกขึ้นมาก่อนที่ลู่หานจะได้พูดต่อกับคำแปลกๆนั่น
“อ้าวทำไมอ่าตรงตาต้องใจแปลกตรงไหน”
“ไม่แปลกก็ไม่แปลกต่อสิ”
“อื้มนั่นแหล่ะพี่เลยอยากได้เรามาเป็นนายแบบให้พี่ได้มั้ย”
“คือผมว่า”
“น่าสนดีออกนะน้องเล็กลองดูสิ”นานะพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องชายของตน
“แต่ผมทำไม่ได้หรอกครับจะทำให้พวกพี่เสียงานซะเปล่า”
“ไม่มีใครดีเด่นมาตั้งแต่แรกหรอกนะชานยอลคนเราย่อมมีครั้งแรกกันทั้งนั้นแหล่ะ”เลย์เอ่ยขึ้น
“เฮ้ยสองผัวเมียคู่นี้นี่มันน่าฆ่าจริงๆใช้คำได้สองแง่สองง่ามจริงน้องฉันมันคิดไปไกลแล้วมั้งเนี่ย”
“นายมันจิตวิปริตเองต่างหากล่ะคิดอะไรก็แค้คำพูดคิดไปถึงเรื่องบนเตียงเลยล่ะสิ”นั่นไงโดนลู่หานตอกกลับทีเดียวถึงกับอึ้งเลยหน้าแตกเลย
มั้ยเนี่ยซีวอน
“ก็ใครมันจะไม่คิดล่ะดูสิ‘คนเราย่อมมีครั้งแรกง’ เนี่ยไม่ให้คิดได้เหรอ”
“หื่นขึ้นสมองเลยนะเฮีย”ชานยอลหันไปบอกกับพี่ชายของตนก่อนจะหันไปสนใจบุคคลตรงหน้าทั้งสองคนต่อ
“ว่าไงล่ะ”
“ลองดูเถอะน้องเล็ก”
“ฟังที่พี่จะพูดแล้วลองคิดตามดูแล้วกันเผื่อจะช่วยให้เราตัดสนใจอะไรๆได้ดีขึ้น”ลู่หานเมื่อคิดอะไรออกก็เสนอที่จะพูดให้กับคนตรงหน้าได้
ฟังก่อนจะปฏิเสธออกมา “คืออย่างนี้นะถ้าเกิดว่าเราน่ะไปเป็นนายแบบให้พี่เราก็จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆแล้วก็ก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดที่มีคน
สนใจเรามากมาย”
“มีคนสนใจมากมายแล้วยังไงล่ะครับ”
“ก็ถ้ามีคนสนใจเรามากมายใช่มั้ยเราก็จะสามารถทำที่เราจะทำได้โดยง่ายไง”
“ผมไม่เข้าใจพี่ลู่หานต้องการจะบอกอะไรผมกันแน่”
“ก็แค่เป็นจุดสนใจให้คนนั้นอิจฉาจนตัวสั่นไงล่ะเผลอได้ออกงานงานเดียวกันด้วยนะพอออกงานเดียวกันเราก็จะรู้ว่าแท้จริงเนี่ยสายตาคริ
สมองใครอยู่กันแน่”
“ผมไม่ต้องการแบบนั้น”
“แล้วเด็กน้อยอย่างเธอต้องการแบบไหนกันชานยอล”ดูเหมือนลู่หานจะเริ่มโมโหขึ้นมานิดหน่อยเพราะชานยอลไม่ยอมตกลงร่วมงานกับ
ตนเสียที
“ถ้าความรักเปรียบดั่งเวลา ความรักของเราก็ไม่มีที่สิ้นสุด”ทุกคนหันไปมองตามเสียงเมื่อสักครู่นี้เป็นตาเดียวก็พบกับร้างขาวโอโม่ที่ยืนอยู่ไม่
ไกลนัก
“ซูโฮอ่าอย่าพูดอะไรที่มันเป็นคำคมสิเดี๋ยวคนแถวนี้ช้ำใจตาย”
“ฮ่ะๆขอโทษทีแล้วกันนะ”
“แล้วนี่จะไปไหนล่ะ”ซีวอนถามขึ้น
“จะเข้าบริษัทซะหน่อยตั้งแต่มายังไม่ได้เข้าเลยไว้ว่างๆเดี๋ยวผมจะพาคุณซีวอนไปด้วยเที่ยวชม”
“ไม่พลาดแน่นอน”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“แล้วจะกลับมาตอนไหนครับพี่ซูโฮ”
“คงจะดึกล่ะมั้งว่าจะเข้าไปเช็คดูบ้านซะหน่อย”
“ผมอยากไปดูบ้างพี่เข้ามารับผมก่อนไปดูได้มั้ย”
“งั้นถ้าจะเข้ามาแล้วเดี๋ยวพี่โทรบอกละกัน”
“ขับรถดีๆนะครับ”
“นี่ๆซีวอนนั่นใครเหรอขาวมากเลยอ่าอิจฉาชะมัด”
“อ่อญาติเจ้าชางมินมันน่ะอายุเท่าพวกเราเนี่ยแหล่ะ”
“เฮ้ยบ้าหน้าเด็กอ่านึกว่ารุ่นเดียวกับนานะซะอีก”
“แหมพูดยังกับว่าตัวเองหน้าแก่อย่างนั้นแหล่ะนะเสี่ยวลู่”
“ฮีชอลตื่นสายเมื่อคืนหนักเหรอ”
“หยาบคายจริงเดนนิสก็นั่งอยู่พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้”ฮีชอลเขินจนหน้าแดงไปหมดที่โดนเพื่อนตัวเองเอ่ยแซว
“ขอฉันสงบศึกก่อนนะชอลลี่” ลู่หานยกมือยอมแพ้ฮีชอลก่อนจะหันไปจ้องหน้าชานยอลอย่างจริงจัง “ตกลงจะเอายังไงจ๊ะเด็กน้อย”
“คือผมไม่”
“ไม่ปฏิเสธโอ้เธอ่างน่ารักงั้นพี่ลากลับก่อนนะพอดีว่าพึ่งนึกได้ว่าต้องเข้าบริษัทไปดูเด็กใหม่อีกคนน่ะไปละบ๊ายบายนะทุกคน”ลู่หานลุกขึ้น
ยืนพร้อมกับโบกมือให้ก่อนจะเดินนำเลย์ออกไปก่อน
“ไปแล้วนะแล้วเจอกัน”เลย์พูดก่อนจะเดินออกไป
“เดี๋ยวสิพี่เลย์ผมจะบอกว่าผมไม่ทำไม่ใช่ไม่ปฏิเสธ”ชานยอลพูดเสียงเบาแต่ก็เรียกเสียงหัวเราจะทั้งพี่ชายและพี่สาวของตัวเองได้เป็นอย่างดี
ส่วนฮีชอลนั้นก็คงได้แต่นั่งงงต่อไปว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะลงมาช้าทำให้ไม่รู้เรื่องก่อนหน้านี้
ยามบ่ายที่บริษัทคิมกรุ๊ป
“ท่านประธานคะมีคนมาขอพบค่ะ”มินจองเลขาของซูโฮบอกกล่าวเจ้านายของตน
“ใคร”
“ไม่ทราบค่ะ”
“ให้เขาเข้ามาได้”เมื่อสิ้นเสียงของซูโฮประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของร่างผอมบางน่าหลงใหล
“ไม่คิดจะเงยหน้ามองกันหน่อยเหรอซูโฮอ่า”แบคฮยอนเอ่ยออกมาเสียงหวานก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเจ้าของห้อง
“แบคฮยอน”ซูโฮเอ่ยเสียงแผ่วเบาพยายามเก็บกลั้นอารมณ์ทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบนั้น
“คิดถึงนายนะ”แบคฮยอนเดินอ้อมโต๊ะเข้าไปกอดอีกคนจากด้านหลัง
“อย่างนั้นเหรอ”
“อย่าเฉยชาใส่ฉันแบบนี้สิ”
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้น่ะแหล่ะ”
“ไม่นะซูโฮของฉันมีแต่รอยยิ้มบนใบหน้าซะหน่อย”
“นั่นมันซูโฮของคุณแต่นี่ผมคือซูโฮประธานบริษัทใหญ่ไม่ใช่ซูโฮคนนั้น”
“นี่จะเล่นตัวทำไมนักคิดถึงฉันก็บอกมา”
“คุณอย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลยแบคฮยอน”ซูโฮยังคงตอบคำถามทุกคำถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเหมือนเดิม
“หึฉันไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเองแล้วไอ้ที่สายตาที่นายใช้มองฉันวันนั้นล่ะมันหมายความว่ายังไง”
“ผมก็แค่สมเพชคนอย่างคุณ”
“นี่!มันจะมากไปแล้วนะ”แบคฮยอนตะหวาดซูโฮออกมาอย่างเหลืออด
“นี่สินะตัวตนของคุณที่ผมไม่เคยรู้เลย”
“งั้นก็รู้และจำเอาไว้ซะว่านี่แหล่ะคือตัวตนของฉัน”
“ฉันไม่จำเป็นต้องจำ”
“ลืมแล้วเหรอซูโฮว่านายเป็นของฉันไม่ว่าตอนนี้ฉันกับนายจะอยู่กันในฐานะเพื่อนนายก็ยังเป็นของฉันและจะเป็นตลอดไปจำเอาไว้”
“นายนี่คงจะเก่งมากล่ะสอเรื่องใช้ร่างกายเนี่ยกี่คนแล้วล่ะ”
“มันจะมากไปแล้วนะ”แบคฮยอนเริ่มหมดความอดทนแล้วกับคนๆนี้แต่ใครกันล่ะที่เริ่มก่อน
“มันน้อยไปซะด้วยซ้ำถ้าเทียบกับที่ผมและชานยอลได้รับ”
“เด็กนั่นนายหลงมันอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่สิก็เขาอออกจะน่ารักซะขนาดนี้ไม่ให้หลงก็แปลกแล้วล่ะ”
“นายไม่มีสิทธิ์ไปรักใครเด็ดขาดเพราะหัวใจของนายมันคือของฉัน”พูดจบแบคฮยอนก็ประทับจูบแสนหวานให้กับซูโฮซึ่งซูโฮก็ไม่ได้
ปฏิเสธแต่กับตอบสนนองร่างบางนี่ซะด้วยซ้ำบทจูบอันร้อนแรงของทั้งสองยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยจนลมหายใจของแบคฮยอนเริ่มจะหมด
เจ้าตัวก็เป็นฝ่ายที่ละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของอีกคน
“นายก็ตอบรับดีนี่ยังจะปากแข็งอยู่อีกอย่างนั้นเหรอว่าไม่ได้รักฉันน่ะ”
“ใช่ฉันไม่ได้รักนายแล้วแต่ในเมื่อเสนอมาฉันก็แค่สนองอย่ามาหลงตัวเองให้มากนัก”
“ถ้าฉันเชื่อนายฉันก็คงโง่เกินไปแล้วล่ะซูโฮที่รัก”
“ก็ตามใจเธอว่าจะเชื่อหรือไม่แต่ฉันอยากให้เธอรู้เอาไว้ว่ายังไงซะเธอก็ไม่มีวันได้หัวใจของคริสหรอก”
เพี้ยะ!
“หุบปากของนายไปซะ”
“ไม่ว่าจะหัวใจหรือร่างกายทุกอย่างของคริสจะต้องเป็นของฉัน”
“หึก็ทำตัวซะแบบนี้ใครมันจะไปเอาลง”
“หรือนายไม่เคยเอาล่ะ”
“อยากได้อีกสักครั้งมั้ยล่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้นแบคฮยอนก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“อยากมากหรือไงไม่ไปทำกับไอ้เด็กนั่นซะล่ะ”
“ทำกับคนอื่นจะสนุกเท่าของเก่าได้ไงล่ะ”
“หยุดพูดไปซะแล้วอย่ามาพูดจาน่าเกลียดแบบนี้กับฉันอีก”
“รับไม่ได้รึไง”
“ฉันบอกให้หุบปาก”
“คุณมินจองส่งแขก”
“เชิญคุณเอ่อ”
“เขาชื่อแบคฮยอนถ้าคุณคนนี้มาอีกไม่ต้องให้เข้ามานะ”ซูโฮพูดจบก็ก้มหน้าก้มตาเคลียร์เอกสารที่อยู่บนโต๊ะต่อโดยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้
แบคฮยอนจะมองมาที่ตนด้วยสายตาอย่างไร
Rrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr
“ยอโบเซโย”
[ชานยอลเหรอนี่พี่ลู่หานนะ]
“เอ่อครับ”
[คือว่าเข้ามาหาพี่ที่บริษัทหน่อยสิพี่จะแนะนำเพื่อนร่วมงานคนใหม่ให้เรารู้จักน่ะ]
“เอ่อคือว่าผม”
[นี่ๆพี่บอกซีวอนแล้วนะแล้วซีวอนก็บอกว่าจะให้คนขับรถมาส่งพี่จะรอนะ]
“ครับ”
“นี่คุณเข้าจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย”
“แหมอาเทาเขาก็พูดเกาหลีได้หรอก”
“แต่ก็ไม่ได้ชัดนี่”
“เราก็ช่วยแปลสิ”
“นั่นสินะผมลืมไปได้ยังไง”
“พวกพี่จะหวานกันอีกนานมั้ยเนี่ยผมเอียน”
“หวานบ้าอะไรเจ้าเด็กแพนด้านั่งเงียบไปเลย”
“ก็ผมเบื่อพี่จะให้ผมมาที่นี่เพื่อให้มาเป็นนายแบบให้แค่นี้อ่านะไม่เห็นคุ้ม”
“บ่นจังเลยเดี๋ยวปั๊ดฟ้องม๊า”
“ม๊ารักผมไม่ทำไรผมหรอก”
“มั่นมากนะเจ้าแพนด้า”
“แน่นอนสิก็ผมหล่อนี่ครับฮยองงง”
“ชิหล่อไม่เท่าแฟนฉันหรอก”
“แต่ผมสูงกว่านะ”
“เอออย่าให้พวกฉันสูงบ้างแล้วกันแม่จะเหยียบให้จบดิน”
“แก่ขนาดนี้หมดโอกาสสูงแล้วล่ะมั้ง”เทาพูดออกมาเสียงเบาๆและถึงแม้มันจะเบาแต่ก็ทำให้คนหูดีอย่างลู่หานได้ยินมันชัดเจน
“ย๊า!เด็กบ้าเดี๋ยวถีบกลับจีนเลยนี่”
“โอ๊ยเอาเลยกำลังต้องการ”
“ฮึ่ย”
15 นาทีต่อมา
“ชานยอลมาแล้วเหรอเข้ามาๆ”ลู่หานเปิดประตูให้ชานยอลเดินเข้ามาข้างในห้องทำงานของเลย์ก่อนจะตามเข้ามาด้วย
“อาเทานี่ชานยอล ส่วนชานยอลนั่นเทาน้องชายพี่แล้วก็คนที่จะมาเป็นนายแบบคู่กับเราน่ะ”
“สวัสดีครับผมปาร์คชานยอล”
“สวัสดีฉันจื่อเทา”
“เอาล่ะๆเรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่านะเด็กน้อยทั้งสอง”
“ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกผมว่าเด็กน้อย”
“พอเลยทั้งพี่ทั้งน้อง”เลย์เอ่ยห้ามศึกก่อนที่จะหันไปมองหน้าชานยอล
“ลำบากใจเหรอ”
“คือว่า”
“เอาเถอะเดี๋ยวฝึกไปก็ได้เองแหล่ะเทาเขาก็ไม่เคยเหมือนกัน”
“เลย์ดูใช้คำเข้า”ลู่หานหันไปเอ็ดคนรักของตนเองที่ใช้คำออกไปทางสองแง่สองง่ามหน่อยๆ
“ผมจะพยายาม”
“เออใช่นี่คือตารางงานของเรากับเทานะส่วนผู้จัดการส่วนตัวเดี๋ยวพี่พามาแนะนำอีกที”ลู่หานพูดก่อนจะยื่นสมุดเล่มหนาที่เขียนวันเวลาและ
รายละเอียดงานไว้อย่างละเอียดส่งให้ชานยอลและเทา
“อ่าครับแล้วเริ่มพรุ่งนี้เลยเหรอเนี่ย”
“ใช่แล้วเราจะช้าไม่ได้เพราะหนังสือเล่มนี้วางขายเดือนหน้าแล้ว”
“แต่ผมมีเรียนนะครับ”
“เออใช่ผมก็มีเรียนเหมือนกัน”
“ดูเวลาก่อนสิค่อยมาอิดออดเจ้าแพนด้านี่น่าตีให้ตายจริงๆ”
“อ่าโหยเหนื่อยตายไหนจะสอบอีก”
“บ่นจริงๆเลยอุตส่าหางานหาเงินมาให้ๆไปซื้อของเนี่ยไม่เอารึไง”
“ผมปฏิเสธพี่รึได้ไงล่ะ”
“แน่นอนว่าไม่ได้”
“เออแล้วนี่สอบกันวันไหน”
“อาทิตย์หน้าครับ”ชานยอลตอบ
“โอเคพี่จะงดงานให้ตั้งแต่วันพุธจนสอบเสร็จแต่พรุ่งนี้แล้วก็อีกวันต้องมาทำงานตามตารางเข้าใจมั้ย”
“ครับ”
“ชานยอลกลับเลยก็ได้นะ”
“แล้วเจอกันครับ”ชานยอลเดินออกไปจากตัวตึกที่สูงตระหง่านตาก่อนจะเดินไปยืนรอรถแท็กซี่ต่อไปที่เมียงดงเพื่อไปเดินเล่นแก้เบื่อก่อนจะ
กลับบ้าน
Rrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr
“ครับพี่ซูโฮ”
[เราอยู่ไหนเนี่ย]
“ผมกำลังจะไปเมียงดงครับ”
[ลืมที่นัดไว้กับพี่แล้วเหรอเนี่ย]
“เออจริงด้วยพี่มารับที่&@!*&$@!~”หลังจากที่บอกทางเสร็จสรรพชานยอลก็ยืนรอซูโฮอยู่ที่หน้าตึกไม่นานก็มีรถสุดหรูมาจอดอยู่หน้า
ชานยอล
“อันยองครับฮยอง”
“ไม่ต้องทักหรอกฮ่ะๆ”
“แล้วบ้านฮยองอยู่ไกลมั้ยเนี่ย”
“ก็เลยไฟแดงด้านหน้าไปก็ถึงแล้ว”
ไม่นานนักรถสีดำขลับสุดหรูก็เดินทางเข้าไปมาถึงซอยบ้านของเจ้าของรถโดยที่เจ้าของรถและบ้านนั้นขับรถเข้าไปภายในตัวบ้านที่ถูก
ตกแต่งอย่างสวยงามทั้งภายนอกและภายในซึ่งชานยอลที่พึ่งเห็นครั้งแรกก็ต้แงตกตะลึงในความสวยจนลืมไปว่าบ้านหลังข้างๆกันนั้นเป็น
บ้านของใคร
“เป็นไงสวยมั้ย”
“สวยมากเลยครับ”
“สวยก็มาอยู่ด้วยกันสิ”
“…….”
“ถึงกับเงียบเลยเหรอพี่หมายถึงว่ามาอยู่เฝ้าบ้านให้พี่อะไรอย่างนั้น”
“ผมไม่ใช่หมานะฮยอง”
“อ้าวเหรอ”เสียงหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นประสานกันจนเข้าไปถึงในตัวบ้าน
หลังจากที่ซูโฮพาชานยอลเดินดูรอบๆบ้านจนครบทุกซอกทุกมุมแล้วนั้นซูโฮกพาชานยอลไปเดินเล่นที่เมียงดงต่อเพราะเขาก็อยากไป
เดินเที่ยวเล่นเหมือนกันไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานานแล้วเพราะต้องคอยควบคุมดูแลกิจการของตระกูลจึงทำให้ไม่มีเวลาว่างมาเดินเที่ยวเล่น
เหมือนเด็กวัยรุ่นวัยเรียนสมัยนี้เท่าไหร่ซึ่งวันนี้ถือเป็นโอกาสดีทีเดียวที่ได้มาเดินเปิดหูเปิดตาในที่ที่มีคนเยอะแบบนี้ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว
เช้าที่สุดแสนจะน่าเบื่อของชานยอล
Rrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr
“ครับ”
[ปาร์คชานยอลมึงรีบสะบัดตูดมึงมาที่มหาลัยได้แล้ว]
“โอ๊ยขอนอนง่วง”
[เชี่ยหยอยมึงจะเอาไงเดี๋ยวเดินไปถีบถึงเตียงเลยนี่]
“เออโอเครอแปปกี่โมงแล้วเนี่ย”
[อีก20นาทีเข้าเรียน]หลังจากที่เซฮุนพูดจบก็ตัดสายไปในทันทีปล่อยให้คนที่นั่งหน้าง่วงอยู่บนเตียงงงกับการกระทำของเพื่อนตัวเอง
5 นาทีก่อนหน้าที่เซฮุนจะโทรหาชานยอล
“คิมมินซอก!”
“จะแหกปากหาอะไรเนี่ยเซฮุน”
“ก็แกไม่สนใจฉันนี่โว๊ยคนยิ่งหงุดหงิดอยู่”
“หงุดหงิดที่ชานยอลเมียน้อยแกยังไม่มาอ่าเหรอ”
“เมียน้อยอะไรนั่นน่ะเมียหลวง”
“หืมช่างกล้าขอให้เฮียคริสมาได้ยินแล้วเอาปืนมายิงหัวมึงทีเถ๊อะ”
“คุยกับมึงแล้วปวดกบาลโทรหาเมียหลวงสุดที่รักดีกว่า”ซิ่วหมินจิ๊ปากทันทีที่เซฮุนหันไปโทรศัพท์หาชานยอลทั้งที่ยังคุยกันไม่จบแท้ๆ
ณ ปัจจุบัน
“แฮ่กๆๆๆๆ”
“นี่น้ำ”เซฮุนยื่นน้ำไปให้ชานยอลที่ยืนหอบอยู่ตรงหน้าเขาก่อนที่มือเรียวของคนที่ยืนหอบอยู่นั้นจะเอื้อมมารับน้ำไปดื่มอย่างรวดเร็ว
“ขอบใจ”
“มาขนาดนี้ไม่ต้องมาหรอกม้าง~”
“ก็มาแล้วนี่ไงงอนเป็นเด็กไปได้”
“อะไรใครงอน”
“งอนชัวร์ทำหน้าตาอย่างนี้อย่างไปง้อมันนะยอลเดี๋ยวมันได้ใจ”ซิ่วหมินที่ได้ทีแกล้งเซฮุนเลยใส่ใหญ่เลยจนโดนเซฮุนงอนเข้าให้อีกคน
“งอนเป็นตุ๊ไปได้น่าเซฮุนนี่”ชานยอลเอื้อมมือไปดึงแก้มของเซฮุนจนเซฮุนต้องออกมาเพราะเจ็บ
“โอ๊ย”
“เจ็บได้ไงอ่าดึงเบาๆเองน้า”
“มาลองโนบ้างมั้ยล่ะ”
“หูยเซฮุนนี่อย่างอนกันสิดีกันๆถ้ายังงอนอยู่ระวังพี่ลู่หานไม่รักเอานา”ชานยอลอพูดแทงใจดำเซฮุนจนเจ้าตัวนั้นหันมาค้อนวงโตเลยทีเดียว
“พอเลยๆไปเรียนได้แล้วงอนกันยังกับผัวเมีย”
“กัมจงตื่นๆไปเรียนเร็วนอนอยู่ได้ระวังมีสาวมาลักหลับนะ”ชานยอลเขย่าร่างของไคที่นอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ
“อื้อ”ถ้ามันจะมาแต่เสียง
“ไปละตื่นเมื่อไหร่ก็ตามมาละกัน”ชานยอลว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องเรียนของตนพร้อมกับเพื่อนๆอีกสองคนที่เดินตาม
มาติดๆส่วนคนขี้เซานั่นก็เดินช้าๆตรงมาที่ลิฟต์จนคนที่รอในลิฟต์แทบจะเดินไปกระชากให้เดินเข้ามาถึงไวๆ
“ชักช้าจริงๆเลย”ซิ่วหมินบ่นอย่างเบื่อหน่ายกับอาการชักช้าขี้เซาของเพื่อนตัวเอง
เมื่อเข้ามานั่งเรียนกันได้2-3ชั่วโมงก็หมดเวลาเรียนและได้งานใหม่มาแทนงานเก่าที่ส่งไปวันนี้ทุกคนก็มีท่าทีอิดโรยอย่างเห็น
ได้ชัดเพราะงานที่ได้มาใหม่ไม่หมูและไม่น้อยเลยเรียกได้ว่างานช้างทั้งยากทั้งเยอะแต่จะทำไงได้ล่ะในเมื่อ คำบัญชาจากเจ้โหดเชียว
นะขืนบ่นให้เจ้แกได้ยืนมีหวังได้งานเพิ่มมาอีกแน่ๆ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่งานใหม่ที่เจ้โหดสั่งประเด็นมันอยู่ตรงที่วันนี้เป็นวันที่เริ่มงาน
ถ่ายแบบเป็นงันแรกของปาร์คชานยอลน่ะสินี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่คนไม่เคยถ่ายแบบมาก่อนให้ไปถ่ายมีหวังล่มกับล่มงานวันนี้เป็นอันพัง
ยับเยินแน่ๆนึกแล้วก็อดสงสารพวกพี่ๆเขาไม่ได้ต้องมาทำงานร่วมกับคนไม่มีประสบการณ์คนเหนื่อยคูณสองเลยทีเดียวคิดแล้วก็เหนื่อยใจ
ทำไมปาร์คชานยอลต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ยไม่เข้าใจเลยจริงเพราะผมทรงใหม่เลยทีทำให้ไปเข้าตาพี่ลู่หานเข้าฮึ่ยรู้งี้ไม่ตัดซะก็ดีจะได้
ไม่ต้องมาทำงานแบบนี้ถ้าคนรู้จักเขาเยอะชีวิตเขาต้องวุ่นวายมากแน่ๆเลยแต่ก็ช่วยไม่ได้นี่ในเมื่อรับปากไปทำให้ดีที่สุดก็คงพอมั้ง ว่าแล้วชาน
ยอลก็เรียกแท็กซี่เพื่อที่จะนั่งไปที่บริษัทของเลย์ก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ถ้าขืนสายตั้งแต่วันแรกโดนเม้งแตกแหงเขาก็ไม่อยากจะทำให้คน
อื่นเสียงานไปเพราะเขาหรอกนะแต่มานั่งพูดอยู่แบบนี้จะถึงเมื่อไหร่ล่ะเนี่ย
=========================================================================
Talk Talk
แค่จะแวะมาบอกว่าตอนนี้ยาวเกือบครึ่งนึงของตอนอื่นๆก็เท่านั้นเองค่า 5555555
ความคิดเห็น