คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : BAD NEWS :: 5
---------------------------
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ตระกูลชเวทั้งสามคนต่างมองหน้ากันอย่างมีคำถามว่ารถคันที่จอดอยู่รถใครแล้วคนอื่นๆในบ้านหายไปไหนกัน
หมดทำไมถึงไม่มีใครออกมาช่วยถือของเลยทำให้ทั้งสามคนต้องยกของเข้าไปเองแต่ดูเหมือนว่าจริงๆแล้วนั้นคนที่ยกของเข้าไปจะมีเพียง
ซีวอนคนเดียวซะมากกว่า
“ย๊า!!!นี่คนในบ้านหายไปไหนกันหมดเนี่ยทำไมถึงได้เงียบยังกับป่าช้า”ฮีชอลเมื่อเดินเข้ามาถึงในตัวบ้านก็บ่นขึ้นมาทันที
“พี่สะใภ้มาถึงก็โวยวายเลยนะแล้วหายไปไหนกันมาเนี่ยนั่งรอตั้งนาน”
“นานะโอ้พระเจ้าเธอกลับมาแล้วจริงๆใช่มั้ยเนี่ย”
“นี่พี่กอดฉันแบบนี้กะจะเอาให้ฉันตายคาอกพี่เลยมั้ยเนี่ย”
“ก็ดีนะเธอจะได้เลิกเถียงฉันยังไงล่ะ”
“ชิแต่เอ๊ะเดี๋ยวนะน้องเล็กโอ๊ยตายๆหล่อขึ้นนะเนี่ยผมทรงนี้ดูดีใช่เล่นเลยทำไมไม่ทำทรงนี้แต่แรกเนี่ยเรา”นานะลุกขึ้นไปจับชานยอลหมุน
รอบตัวพลางสำรวจร่างการตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกนิ้วโป้งเป็นเชิงบอกว่าหล่อมากให้กับน้องชายของตัวเอง
“อึ้งเลยล่ะสิ”ฮีชอลเอ่ยข้นอย่างยิ้มๆ
“อึ้งอ่าดิดูดิใครจับน้องชายฉันทำอะไรแบบนี้เนี่ยโอ๊ยหลงเลย”
“เมียพี่เองแหล่ะ”
“แล้วนี่ชางมินกับเจ้าเดนนิสไปไหนซะล่ะ”
“อ่อชางมินนอนพักอยู่บนห้องส่วนตาหนูก็หลับอยู่อีห้องนึงค่ะ”
“พี่คิดถึงหลานจะแย่”
“ตาหนูก็คงจะคิดถึงพี่เหมือนกันน่ะแหล่ะค่า”
“แล้วนี่ทำไมมาเร็วกว่าที่บอกล่ะหืม”ซีวอนนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับน้องสาวตัวเองพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
“อยากให้เฮียใหญ่กับเจ้แล้วก็น้องเล็กตกใจไงคะ”
“ตกใจมากเลยล่ะว่าแต่นี่หิวมั้ยเดี๋ยวพี่ให้คนไปเตรียมตั้งโต๊ะ”ฮีชอลหันไปถามน้องของสามี
“ฉันเตรียมอาหารไว้ให้พวกพี่แล้วล่ะค่ะพี่ไปรอที่ห้องหาหารได้เลยนะเดี๋ยวฉันจะขึ้นไปตามตาหนูกับชางมินก่อน”นานะว่าก่อนจะเดินขึ้น
ไปข้างบนเพื่อไปเรียกผู้เป็นสามีกับลูกชายของตนให้ลงมาทานข้าวพร้อมกัน
ก๊อก ก๊อก
“คุณคะตื่นลงไปทานข้าวได้แล้วนะ”
“อื้อคุณไปปลุกลูกกับซูโฮเถอะเดี๋ยวผมตามลงไปนะ”ชางมินตื่นขึ้นมาบอกนานะก่อนที่จะหอมแก้มภรรยาตัวเองไปหนึ่งที
“รีบลงมานะคุณพวกเฮียรออยู่”
“คร้าบคุณภรรยา”เมื่อฟังที่สามีพูดจบนานะก็เดินไปอีกห้องที่มีลูกชายกับญาติของสามีนอนอยู่เพื่อปลุกทั้งสองคน
“ซูโฮ เดนนิสลูกตื่นไปล้างหน้าล้างตาเร็วเข้าจะได้ลงไปทานข้าว”
“อ้าวนานะเย็นแล้วเหรอเนี่ย”ซูโฮที่พึ่งตื่นเอ่ยถามขึ้น
“หลับเป็นตายเลยนะซูโฮเดี๋ยวนายไปล้างหน้าล้างตาแล้วพาตาหนูลงไปข้างล่างทีนะฉันฝากด้วยเดี๋ยวฉันจะลงไปข้างล่างก่อน”นานะว่าจบก็
เดินออกไปข้างล่างทันที
ที่ห้องอาหารตระกูลชเว
“ไงชางมินหล่อขึ้นนะเนี่ย”ฮีชอลเอ่ยทักสามีของนานะพร้อมส่งยิ้มให้เป็นเชิงทักทาย
“คุณชมคนอื่นต่อหน้าสามีแบบนี้ได้ไง”ซีวอนที่เห็นฮีชอลชมคนอื่นก็เกิดอาหารหึงขึ้นมากะทันหัน
“ฉันแค่พูดความจริง”
“พอเถอะครับพี่สองคนนี่เถียงกันตลอดเลย”
“คุณลุงซีวอนกับคุณป้าฮีชอลเถียงกันมากๆระวังหน้าเหี่ยวนะครับ”เดนนิสที่เดินลงมาพร้อมซูโฮพูดแซวคนเป็นลุงกับป้าของตัวเองอย่างน่า
รักเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนในบ้านมากเลยทีเดียว
“จริงเหรอครับแต่ก่อนอื่นมาให้ป้าฮีชอลหอมแก้มก่อนเลย”เมื่อฮีชอลพูดจนเด็กน้อยวัย5ขวบก็วิ่งเข้าไปหาคุณป้าคนสวยทันที
ฟอด~
“หลานป้าตัวหอมเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย”
“คิคิ”
“เอาล่ะๆไหนก็มาครบแล้วเรามาทานข้าวกันเลยดีกว่าว่าแต่นั่นใครล่ะเนี่ย”
“อ่อนั่นซูโฮเป็นญาติห่างกับชางมินน่ะเฮียอายุเท่าเฮียแหล่ะ”
“อายุเท่าเฮียแล้วทำไมเราไม่เรียกเขาพี่ล่ะหืม”
“เฮียบ่นเป็นตาแก่เลยนะทานข้าวกันเถอะค่ะเดี๋ยวจะเย็นชืดไม่อร่อยเอา”นานะพูดจบก็มีแม่บ้านเดินข้าวมาตักข้าวใส่จานให้คุณๆ
หลังจากที่ทุกคนต่างทานข้าวกันจนเสร็จก็พากันย้ายมาที่ห้องนั่งเล่นแทนเพื่อพดคุยกันให้หายคิดถึงส่วนชานยอลนั้นก็นั่งเล่นกับ
หลานอยู่ในมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่นเพราะเรื่องที่คุยกันคงจะไม่เกี่ยวกับชานยอลสักเท่าไหร่ทำให้ชานยอลปลีกตัวไปนั่งเล่นเป็นเพื่อน
หลานของเขา
“เอ้อแล้วนี่จะอยู่กันนานแค่ไหนล่ะ”
“กะจะอยู่ที่นี่เลยครับเพราะว่าต้องมาบริษัทสาขาที่เกาหลีแทนคุณพ่อ”
“อ่อแล้วที่เอาซูโฮมาด้วยนี่คือให้มาช่วยดูด้วยใช่มั้ยเนี่ย”
“เปล่าหรอกฉันต้องมาดูบริษัทของฉันเอง”ซูโฮเอ่ยตอบซีวอน
“แล้วนี่จะอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย”
“คงจะต้องไปอยู่คนโดก่อนน่ะบ้านยังไม่เสร็จดีคาดว่าอีก2วันน่าจะย้ายไปอยู่ที่บ้านได้ตามเดิม”
“งั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยกันเนี่ยแหล่ะจะได้ไม่ลำบากไปอยู่ที่คอนโด”
“ไม่เป็นไรหรอกฉันเกรงใจ”
“เกรงจงเกรงใจอะไรกันซูโฮอยู่ด้วยกันก่อนเนี่ยแหล่ะบ้านจะได้ไม่เงียบอยู่กันเยอะๆดีออก”ฮีชอลช่วยพูดให้อีกที
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ”
“โอ๊ยไม่ต้องพูดเพราะอะไรหรอก”ฮีชอลยิ้มอย่างเป็นมิตร
“เออนี่เจ้แล้วตกลงยังไงเรื่องงานหมั้นอะไรนั่นน่ะ”
“อ่อก็คุณนายอู๋น่ะสิเล่นมาเชิญถึงบ้านเลยไม่ไปก็ไม่ได้ต้องไปซะหน่อยแต่พี่ไม่ไปเฉยๆแน่งานนี้”
“จะเอายังไงล่ะพี่ถ้าทำอะไรก็ไม่ได้อีกแขกเยอะจะตายไป”
“สองคนนี้หาเรื่อองปวดหัวมาให้เราอีกแล้วดูสิชางมิน”ซีวอนหันไปพูดกับชางมินอย่างขำๆแต่ก็โดนน้องสาวกับภรรเมีย มองค้อนกับมาแทน
ซะงั้นเล่นเอาซีวอนหุบปากแทบไม่ทัน
“แล้วใครล่ะที่หมั้นกับคริสน่ะ”ชางมินเอ่ยถามขึ้น
“แบคฮยอน บยอนแบคฮยอน”ฮีชอลเอ่ยตอบชางมินแต่ก็ทำให้ซูโฮถึงกับนิ่งค้างกับชื่อที่พึ่งได้ยินจากปากของฮีชอลเมื่อสักครู่นี้
“เดี๋ยวนะแบคฮยอนใช่แฟนเก่าซูโฮใช่มั้ย”นานะเหมือนจะเริ่มนึกออกก็หันไปถามซูโฮทันที
“อื้อ”ซูโฮตอบกลับมาเพียงสั้นๆ
“งั้นพี่คิดออกละจะทำยังไง”ฮีชอลยกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“พี่อย่าเอาซูโฮเข้ามาเกี่ยวแล้วกัน”ชางมินบอกฮีชอลเพราะคิดว่าฮีชอลต้องเอาซูโฮเข้าไปเกี่ยวด้วยแน่นอนเพราะเขาเป็นคนนึงที่รู้เรื่อง
ระหว่างซูโฮกับแบคฮยอนดี
วันงานหมั้นระหว่างตระกูลอู๋กับตระกูลบยอน
“นี่มีรึมเธอขึ้นไปดูลูกชานฉันทีว่าแต่งตัวเสร็จรึยังอีก 10 นาทีก็จะได้เวลางานแล้ว”คุณนายอู๋หันไปสั่งแม่บ้านคนสนิทก่อนจะนำพาตัวเอง
เดินไปที่หน้าประตูคฤหาสน์ซึ่งตอนนี้พวกตระกูลชเวได้มาถึงแล้วเธอยิ้มทักทายทุกๆคนแต่ดูเหมือนว่ารอยยิ้มนี้ไม่ได้ยิ้มออกมาจากจิตใจ
ของเธอสักเท่าไหร่แต่ทุกคนก็ยังยิ้มตอบเธอกลับไป
“สวัสดีครับคุณนายอู๋”ซีวอนกล่าวทักทายเจ้าของบ้านก่อนจะโค้งทักทายตามด้วยคนอื่นๆ
“สวัสดีจ๊ะอ้าวหนูนานะมาด้วยเหรอลูกสวยขึ้นนะเนี่ย”
“ขอบคุณค่ะ”นานะยิ้มให้กับคุณนายอู๋เล็กน้อย
“แล้วนี่ใครกันล่ะแฟนใหม่เราเหรอหืม”คุณนายอู๋หันไปถามชานยอล
“ไม่ใช่หรอกค่ะนี่ญาติห่างของชางมิน”นานะหันไปตามแทนน้องชายตัวเอง
“อย่างนั้นเหรอจ๊ะแต่ฉันว่าฉันคุ้นหน้าอยู่นะเนี่ย”
“ผมคิมจุนมยอนครับ”ซูโฮหันไปแนะนำตัวเองกับคุณนายอู๋
“อ่อนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงนั่นเองถ้าอย่างนั้นเชิญเข้ามาด้านในเลยแล้วกันงานจะเริ่มแล้วเดี๋ยวเสียเวลา”คุณนายอู๋บอกก่อนจะเดินนำไปด้าน
ในตัวห้องโถงที่ถูกจัดสถานที่เอาไว้อย่างสวยงาม
“จัดได้สวยมากเลยนะครับคุณน้า”ฮีชอลที่เดินตามเข้ามาคนแรกเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ
“แน่นอนสิฉันจ้างคนจัดมาจากแคนาดาเชียวนะ”
“ม๊าครับผมไม่หมั้นนะ”คริสที่พึ่งเดินลงมาเอ่ยบอกผู้เป็นมารดาของตน
“แกหยุดพูดไปเลยฉันเตรียมงานขนาดนี้แล้วแกจะให้ฉันยกเลิกเนี่ยนะ”
“งั้นผมจะหมั้นกับชานยอล”
“งั้นถามหนูชานยอลว่าเขาจะหมั้นกับแกมั้ย”คุณนายอู๋หันไปมอชานยอลด้วยสายตานิ่งๆ
“ชานยอลต้องหมั้นกับผมอยู่แล้วในเมื่อเราสองคนรักกัน”
“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมนะคริสนายจะมาทำแบบนี้ได้ยังไง”แบฮยอนที่พึ่งเดินมาถึงเอ่ยขึ้นและเมื่อแบคฮยอนหันไปเห็นอดีตคนที่ตนทิ้งมา
เพื่อกลับมาหาคิดก็เกิดอาการนิ่งค้างไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคริสเหมือนเดิม
“แต่ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว”
“แต่ยังไงนายก็ต้องหมั้นกับฉันอยู่ดี”
“เข้าไปนั่งที่ได้แล้วพิธีกำลังจะเริ่ม”คุณนายอู๋บอกเสียงนิ่ง
คริสมองชานยอลเล็กน้อยก่อนที่จะถูกดึงตัวให้ไปนั่งประจำที่ของตนอย่างไม่เต็มใจนัก ซึ่งชานยอลก็ได้แต่มองตามคริสเช่นกันแต่จะ
แสดงความอ่อนแอออกมาให้คุณนายอู๋และแบคฮยอนเห็นไม่ได้เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกเยาะเย้ยและถูกมองอย่างสมเพชสิ่งเดียวที่จะทำให้
ได้คริสกลับมาก็คงจะมีเพียงความเข้มแข็งเท่านั้นอดทนรอวันที่เราสองคนจะได้มาเดินเคียงข้างกันและอดทนกับการจัดการที่แนบเนียนของ
พี่สะใภ้คนสวย
“ยอลยอลเมื่อไหร่งานจะเสร็จฮะ”เดนนิสเอ่ยถามผู้เป็นน้าของตนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เบื่อเหรอครับเดนนิสเดี๋ยวพี่พาออกไปเดินเล่นของนอกเอามั้ย”ชานยอลหันไปพูดพร้อมกับยิ้มให้หลานของตน
“ไปได้เหรอฮะ”เดนนิสยิ้มกว้างรอคำตอบ
“เดนนิสลองถามคุณแม่ดูก่อนสิครับถ้าคุณแม่อนุญาตพี่ก็จะพาไป”
“หม่ามี๊เดนนิสอยากไปเดินเล่นของนอกเดนนิสเบื่อฮะ”เดนนิสหันไปถามมารดาของตนที่นั่งอยู่อีกข้าง
“อีกแค่5นาทีงานก็จบแล้วลูก”
“ยอลยอลหม่ามี๊ไม่อนุญาตแหล่ะ”เดนนิสบอกก่อนที่จะยู่ปากอย่างน่ารักเรียกรอยยิ้มของชานยอลได้ไม่น้อยเลยกับความน่ารักของหลานชาย
ตัวน้อย
“งั้นถ้าเสร็จงานนี้เราไปทานไอติมกันดีกว่าเนอะ”
“ยอลยอลสัญญาแล้วน้า”เดินนิสยิ้มอย่างร่าเริงส่วนชานยอลก็มองหลานยิ้มๆแต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อหันไปเจอสายตาที่คุณนายอู๋มามายังตน
งานหมั้นดำเนินการมาเรื่อยจนจบพิธีคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดก็คงจะไม่พ้นแบคฮยอนเพราะได้สิ่งที่ตนต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้วและ
คนที่ทุกข์ที่สุดอีกคนก็คงไม่พ้นชานยอล แต่ถึงแม้จะทุกข์มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเมื่อคุณนายอู๋กับแบคฮยอนเล่นมาขู่เข็ญกับตีหน้า
ซื่อใส่กันแบบนี้ต่อให้เป็นคนอื่นก็คงมีสภาพเดียวกับชานยอลเป็นแน่แค่คิดก็ลำบากใจคนที่เคยอยู่ข้างกันวันนี้ต้องไปอยู่ข้างๆคนอื่นต่อให้
ไม่รักแล้วมันก็ต้องมีบ้างที่รู้สึกเสียใจแล้วยิ่งรักกันอยู่มันก็ยิ่งเจ็บหนักแต่เชื่อเถอะพี่สะใภ้คนสวยอย่างฮีชอลไม่มีทางอยู่เฉยแน่
“อ้าวหนูชานยอลจะรีบกลับไปไหนซะล่ะมาถ่ายรูปกับหนูแบคแล้วก็ตาคริสหน่อยสิ”คุณนายอู๋ที่เดินตรงเข้ามายังครอบครัวตระกูลชเวพูดกับ
ชานยอล ทำให้ชานยอลค่อนข้างลำบอกใจเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าควรจะไปถ่ายรูปกับสองคนนั้นดีมั้ยแล้วถ้าไปแล้วจะกลั้นน้ำตาไว้ได้อยู่อีก
มั้ยในหัวของชานยอลตอนนี้มีแต่คำถามเต็มไปหมดแต่ก็ไม่ได้คำตอบของคำถามเลยสักคำตอบเดียว
“ยอลยอลไปร้านติมกันติมติมไงสัญญากับเดนนิสไง”เดนนิสฉุดมือคนเป็นน้าให้เดินตามตนไป
“ก็แค่ถ่ายรูปไม่ได้เลยหรือไงชานยอล”แบคฮยอนที่พึ่งเดินเข้ามาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง
“แต่หลานฉันเขากำลังจะออกไปข้างนอกกับชานยอลแล้ว”ฮีชอลพูดทั้งที่จ้องหน้าแบคฮยอนด้วยสายตาที่ยากจะเดาได้
“ฮีชอลก็แค่ถ่ายรูปๆเดียวมันจะไปเสียเวลาอะไรกันนักกันหนา”แบคฮยอนยังคงพูดต่อ
“แต่”ฮีชอลกำลังจะพูดต่อแต่ชานยอลก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน “ไม่เป็นไรครับพี่ฮีชอลเดี๋ยวผมจะไปถ่ายรูปกับเขาแปปเดียว” ชานยอลพูดจบก็
เดินตรงไปที่คริสยืนอยู่ทันที
“ตัวเล็ก”คริสเมื่อหันมาเจอชานยอลก็เอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา
“พี่คริสหล่อมากเลยนะวันนี้”ชานยอลฝืนยิ้มออกไปให้คริสแต่ใครดูก็รู้ว่าฝืนแค่ไหน
“เราก็น่ารักเหมือนเดิมพี่คริสถึงตัวเล็กมากเลยไม่ได้กอดตั้งหลายวันมาให้พี่กอดหน่อยเร็ว”คริสบอกก่อนจะอ้าแขนรออีกคน
“น่ารักที่ไหนผมหล่อต่างหากล่ะ”ชานยอลเดินเข้าไปให้คริสกอดเพราะเขาก็โหยหาอ้อมกอดของคนๆนี้เหมือนกัน
“กอดกันพอแล้วใช่มั้ยจะได้ถ่ายรูปให้จบๆ”แบคฮยอนเดินดึงชานยอลออกจากคริสด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
“แม่ก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะหนูแบคเพราะชานยอลก็คงจะรีบไป”คุณนายอู๋พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันไม่น้อยก่อนที่เธอจะจัดแจงที่ยืนให้กับ
ทั้งสามคนได้ถ่ายรูปโดยที่แบคฮยอนยืนอยู่ตรงกลางระหว่างคริสกับชานยอลหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ ชานยอลก็ขอตัวออกมาก่อนจะเดินตรง
เข้าไปหาคนอื่นๆที่รอตนอยู่
ร้านไอติมเลิฟ เลิฟ
“ยอลยอลเดนนิสอยากทานรสมะนาว”เดนนิสกระตุชายเสื้อของชานยอลเล็กน้อยก่อนจะเอื้อนเอ่ยบอกสิ่งที่ตนต้องการ
“ครับๆเดี๋ยวพี่สั่งให้เดนนิสไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะครับ”ชานยอลบอกก่อนจะหันไปสั่งกับพนักงานไม่นานนักก็เดินตามเดนนิสเข้าไปนั่งที่
โต๊ะริมในใกล้หน้าต่าง
“ยอลยอลเดนนิสทานไอติมเสร็จแล้วพาเดนนิสไปเดินเล่นต่อน้า”ชานยอลยิ้มออกมากับความขี้อ้อนของหลานตนเองและเป็นจังหวะเดียว
กับที่ไอติมมาเสิร์ฟพอดี
“ไอติมมาแล้วเดนนิสชอบทานไอติม”เดนนิสยิ้มกว้างเมื่อได้ทานไอติมเข้าไปคนเป็นน้าก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้
กรุ๊งกริ๊ง
“ยอลยอลพี่คนนั้นขาวจังเดนนิสอยากคุยกับพี่คนนั้น”เดนนิสเงยหน้ามองไปที่หน้าร้านก็พบเข้ากับคนๆนึงพร้อมกับชี้ให้ชานยอลดู
ชานยอลจึงหันไปมองและก็ยิ้มออกมาเมื่อคนที่เดนนิสบอกนั้นก็คือเซฮุนเพื่อนของเขานั่นเอง
“อ้าวชานยอลมากับเด็กที่ไหนเนี่ย”เซฮุนเมื่อเห็นชานยอลก็เดินเข้ามาทักพร้อมกับไค
“นี่เดนนิสลูกพี่นานะกับพี่ชางมิน”ชานยอลแนะนำเด็กน้อยหน้าตาน่ารักให้กับเซฮุนแล้วก็ไคได้รู้จัก
“ชื่อเดนนิสเหรอเราพี่ชื่อเซฮุนนะส่วนคนที่ยืนหน้าดำอยู่นั่นชื่อจงอิน”เซฮุนส่งยิ้มให้เด็กน้อยตรงหน้าซึ่งเดนนิสก็ยิ้มให้เซฮุนเช่นกัน
“นั่งด้วยกันสิเซฮุน ไค”ชานยอลเอ่ยชวนทั้งสองซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“เออแล้วนี่จะไปไหนต่อมั้ยเนี่ย”เซฮุนเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ไคกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
“เดนนิสอยากไปเดินเที่ยวกะว่าจะพาไปเดินเที่ยวเล่นดูของ”ชานยอลเหลือบไปมองไคที่นั่งอยู่ข้างเซฮุนที่ตอนนี้ฟุบหน้าลงกับโต๊ะไปเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว
“เออแล้วนี่นึกคึกอะไรตัดผมเนี่ย”
“ทำไมมันดูแย่ขนาดนั้นเลย?”
“ไม่ๆมันแค่ดูแปลกตา”
“อ่อเหรอ”ชานยอลนใจไอติมตรงหน้าก่อนจะมองเดนนิสเล็กน้อยเด็กน้อยก็เอาแต่มองเซฮุนซึ่งดูเหมือนว่าคนถูกมองจะไม่รู้ตัวเอาซะเลย
“ยอลยอลชวนฮุนฮุนไปด้วย”เดนนิสเงยหน้ามาบอกกับชานยอลซึ่งชานยอลกได้พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย”ชานยอลถามเซฮุน
“ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยเนี่ย”
“ฮุนฮุนไปกับเดนนิสนะเดนนิสจะพาฮุนฮุนเที่ยวเอง”เมื่อได้ยินดังนั้นทั้งเซฮุนกับชานยอลถึงกับหัวเราะขึ้นมาทันที
“เดนนิสต้องบอกว่าฮุนฮุนพาเดนนิสไปเที่ยวไม่ใช่เดนนิสพาฮุนฮุนเที่ยวนะครับ”ชานยอลหันไปบอกกับหลานชายของตัวเอง
หลังจากที่ทานไอติมกันเสร็จเรียบร้อยแล้วชานยอลก็พาเดนนิสไปเดินเที่ยวต่อซึ่งพ่วงเซฮุนกับไคมาอีก2คนและดูเหมือนว่าเดนนิสจะ
ชอบเซฮุนมากๆจนลืมชานยอลไปซะแล้วชานยอลเลยต้องเดินตามทั้งสองคนอยู่ข้างๆไคที่ตอนนี้สามรถเดินหลับได้เลยทีเดียว
ตุ๊บ!
“เดนนิสเป็นอะไรมั้ย”ชานยอลที่เห็นหลานตัวเองล้มก็รีบเข้าไปดูทันที
“เจ็บฮือๆๆๆๆๆ”เดนนิสร้องไห้ออกอย่างหนักทำให้เซฮุนที่อยู่ใกล้กอดปลอบ
“ชนแค่นี้เองทำเป็นร้องไห้ชิ”ชานยอลเงยหน้าขึ้นไปมองทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกคนพูด
“แต่พี่เป็นผู้ใหญ่พี่ควรที่จะสำนึกบ้างไม่ใช่ชนคนอื่นแล้วยังมีหน้ามายืนด่าฉอดๆแบบนี้”เซฮุนพูดขึ้นมาก่อนที่ชานยอลจะได้พูดอะไร
“ก็มันอยากมาชนฉันเอง”เซฮุนอุ้มเดนนิสขึ้นมาประชันหน้ากับคู่กรณี
“พี่มั่นใจเหรอว่าเดนนิสชนพี่ใครๆเขาก็เห็นกันทั้งนั้นไม่ขอโทษไม่ว่าแต่อย่ามายืนว่ายืนด่ามันจะส่อถึงกริยามารยาทของคนๆนั้น”เซฮุนพูด
จบก็พาเดนนิสเดินไปจากตรงนี้ทันที
“ชานยอลเดี๋ยวไปบอกเพื่อนนายด้วยนะเจอกันที่ไหนอย่าหวังจะได้มายืนด่าฉันอีก”
“แล้วเซฮุนพูดผิดตรงไหนเหรอครับ”ชานยอลเอียงคอมองอีกคนมันยิ่งทำให้คนที่ถูกมองโมโหขึ้นมาอีกรอบ
“หึก็คงจะเหมือนฉันกับคริสสินะที่หมั้นกันโดยไม่ผิดไม่เหมือนใครบางคนที่ลักกินขโมยกินของชาวบ้านเค้า”ชานยอลรู้สึกหน้าชาที่ถูกด่าว่า
ลักกินขโมยกินคนของคนอื่นทั้งที่ตามจริงคนๆนั้นน่าจะเป็นแบคฮยอนซะมากกว่าที่ลักกินขโมยกินของคนอื่นโดยที่คนๆนั้นก็ไม่ได้
ยินยอมเลย
“แบคอยอน!”คริสเรียกแบคฮยอนเสียงแข็งอย่างไม่พอใจที่แบคฮยอนพูดแบบนั้นกับชานยอล
“ไม่เป็นไรหรอกพี่คริส” ชานยอลเอ่ยห้ามคริสไม่ให้ต่อว่าแบคฮยอนก่อนจะทิ้งท้ายไว้ให้แบคฮยอนเจ็บใจ “ถึงพี่จะได้ตัวของพี่คริสไปแต่พี่
ไม่มีวันได้ใจของพี่คริสเหมือนกับผมหรอกนะพี่แบคฮยอน!”
===================================================================
Talk Talk
เย้ๆมาแก้ไขให้และนะคะเรื่องมันจะยุ่งเหยิงมากกกกกกกกกก
แต่ก็ทนอ่านกันหน่อยเนอะถ้าไม่สนุกก็ต้องขออภัยด้วยจริงๆนะคะ
แล้วเจอกันนะคะจะมาอัพตอนต่อไปใฟ้ไวๆนะคะ 5555
ความคิดเห็น