คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ★ Chapter6 : ขี้นศาล
ขี้นศาล
ผมนั่งกอดอกมองเพดานห้องสี่เหลี่ยมๆที่มีแอร์ส่งเสียงฟรี่ๆบ่งบอกอายุการใช้งาน ประตูกระจกเลื่อนติดฟิล์มสีดำ สีเดียวกับกระจกหน้าต่างแบบเลื่อน ทีวีจอแบน โซฟาสีเขียวน้ำทะเลที่ผมนั่งอยู่ ตู้หนังสือ ผนังสีขาวที่ถูกแปะไว้ด้วยรูปของคณะกรรมการนักเรียนแต่ละรุ่น มีประตูเปิดเลื่อนทางด้านขวาที่พอเปิดไปก็จะเจอห้องประชุมคณะกรรมการนักเรียนที่พวกนั้นใช้กันอยู่ ส่วนถ้าเปิดไปทางประตูด้านซ้ายจะเป็นห้องพักของคณะกรรมการนักเรียน ด้านหน้าที่ผมพึ่งผ่านมาจะเป็นห้องกระจายเสียงและที่ประชาสัมพันธ์เวลามีคนมาติดต่อธุระ
ไม่ได้เดินเข้าเดินออกเองหรอ ไอ้คนที่พามาแม่งเปิดไปเปิดมาอยู่ได้!!
นาฬิกาบนบีบีของผมบอกว่าอีก15นาทีจะ 10 โมง กำลังจะหมดคาบสอง กระป๋งกระเป๋ากูก็อยู่บนห้องไมได้เอาลงมา หิวก็หิว ถ้าแม่งลากกผมออกมาจากห้องแล้วมาบอกให้ผมรอพวกมันประชุมกันอยู่อย่างนี้ จะลากผมมาเผื่อ แต่ผมจะหนีก็ได้นะแต่ไม่หนี...
จริงๆแล้วขี้เกียจเรียนอะ -..-
“ไม่!! มันต้องชดใช้!!”
เสียงตะโกนที่คุ้นเคยเรียกให้ผมต้องหันไปมองตามต้นตอของเสียง ได้ยินเสียงทุบโต๊ะดังปังประกอบเอฟเฟคด้วย หารือกันเรื่องกูกันสินะ หึหึ
ผมมองข้อมือตัวเองที่มีรอยแดงจางๆจาการถูกบีบแรงๆโดยไอ้ไต้ฝุ่นมหาประลัย ซึ่งสาเหตุมาจากการกระทำความผิดของผมที่เข้าข่ายเจตตานาสุดๆยิ่งตอนถาก (?) สายกีต้าร์ของมันนะ ผมกะเอาให้แม่งมีรอยขูดๆด้วย
แต่ก็มาเสียอารมณ์ตรงที่มารู้ว่ามันไม่ได้ปาของผมทิ้งเนี้ยแหละ กูรึอุส่าต์แหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาทำภารกิจด้วยแรงแค้นหวังจะล้างแค้นแทนลูกชายที่ถูกปาไป ไหงสรุปตกูไปทำเค้าฝ่ายเดียวว่ะ แล้วนี่ผมไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตจะยังไงต่อ -_-
แต่บอกไว้เลยนะ..ไม่กลัวหรอก
ปังง!!
ผมสะดุ้งเฮือกทันทีทีประตูห้องประชุมคณะกรรมการเปิดออกไมได้ขวัญอ่อนอะไรหรอกนะ กำลังคิดอะไรเพลินๆแล้วแม่งเปิดมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย กูตกใจครับ
“น้องคนนี้หรอ?”
เหล่าฝูงคนหน้าตาคุ้นๆค่อยๆทยอยกันเดินออกมาจากห้องประชุม แล้วก็มายืนล้อมผมไว้ประหนึ่งเหมือนเป็นด่านสุดท้ายตัดสินคดีความ แต่ก็มีทั้งคนหน้าคุ้นและหน้าตาไม่คุ้นตาให้ผมเห็นบ้าง อาทิเช่น พี่ผู้หญิงประมาณสองสามคน (ดูจากดาวบนปกเสื้อ) กับผู้ชายบางคนที่น่าจะอายุมากกว่าผม แต่ที่ดูไม่คุ้นแต่รังสีคุ้นๆน่าจะเป็นผู้ชายหน้าแปลกๆอีกสามคน 1 ใน 3 คือคนที่เดินมาชี้ผมแล้วถามว่า ‘น้องคนนี้หรอ’
“หน้าตาแบบนี้ไม่น่าเป็นอย่างที่มึงเล่านะฝุ่น”
“น้อยไป”
อะไร! หน้าตาแบบนี้นี่แบบไหนว่ะ พูดไม่เคลียนะไอ้ผมยาวนี้ -*-
“หรอว่ะ....เอาว่าไงใครจะบอกน้องเค้า”
ไอ้ผมยาวหน้าสวยนี่กอดอกมองผมหน้ายิ้มๆแล้วก็มองไอ้ไต้ฝุ่นสลับไปมา ก่อนมันจะหันไปถามคนอื่นๆว่าใครจะบอกผม บอกอะไรบอกๆมาเลย กูลุ้น
“กูเอง” ไอ้ไต้ฝุ่น มึงเป็นเหี้ยไรกับกูมากป้ะ สัสสส
“อะไร มีไรก็พูดมา” ผมตอบไปตรงกันข้ามกับความอยากรู้ ภายนอกเราต้องนิ่งๆไว้ กอดอกไขว้ห้างพิงโซฟาหยั่งเชิง มาดแบบนี้โครตเท่เลย
“พวกกูปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าจะทำยังไงกับมึงดี...” ไอ้ไต้ฝุ่นพูดพลางก้าวเท้าพลางเข้ามาหาผม ไอ้พวกเพื่อนมันที่เหลือก็แหวกทางประหนึ่งเชื้อเชิญคุณชายเขาให้เข้ามาหาผมได้ง่ายๆ “ความผิดแบบมึงจะให้พวกกูทำโทษกันเอง ก็ไม่ใช่เรื่อง” มันเดินก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะก้มหน้ามันลงมาจนริมผีปากมันชิดใบหูผม
“กูจะโอนมึงให้กอลิล่าจัดการต่อละกัน..” น้ำคำสุดท้ายมันกระซิบลงเบาๆที่หูผม ผมไม่รู้ว่า ‘กอลิล่า’ คืออะไรแต่เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาแล้วครั้งนึง...
ให้ตายเถอะกูรู้สึกไม่ถูกกับชื่อนี้
T T
.
++++++++++++++
หลังจากจบเรื่องผมก็ถูกปล่อยตัวให้ออกมาโดยังไม่โดนทำอะไร ไอ้ไต้ฝุ่นบอกว่ากอลิล่าไม่อยู่อีกสองวันถึงจะกลับมามันบอกผมว่าอย่าพึ่งดีใจ.ไป.
ดีใจเหี้ยอะไร มันก็แค่ยืดเวลาตายกูเท่านั้นแหละ...
เหลือเวลาเรียนคาบสามอีกแค่ 5 นาที ผมเลยไม่ขึ้น ก็เลยบีบีไปบอกพวกไอ้เจว่าจะรอพวกมันอยู่แถวๆโรงอาหารให้มันเอากระเป๋าลงมาให้ด้วยเพราะผมจะจองโต๊ะให้ แม่งตอบกลับมาคนละเรื่องกับที่กูบีบีไปเลย ไอ้เจตอบกลับมาว่า
‘มึงต้องเล่าทั้งหมดให้กูฟัง’
ขี้เสือกจริงๆ -_-
ผมเดินเข้าโรงอาหารอันเวิ้งว้าง เมื่อกี้โทรหาไอ้ไม้โทก็ไม่ติด ตอนแรกนึกว่ามันจะไปประชุมกับพวกคณะกรรมการนักเรียนด้วยซ้ำ ที่ไหนได้แม่งหายหนังศรีษะไปเลย ผมเจอมันผมว่าจะถามมันว่ากอลิล่าคือใคร แต่มันก็ไม่อยู่ให้ถาม หงุดหงิดดดดดด
“อ๊ะ.. อ๊ะ...โอ๊ยย”
ผมแก้หงุดหงิดให้ตัวเองด้วยการเตะโต๊ะตัวข้างหน้าที่เดินผ่านแก้เซ็งแต่ดันเสียหลักเซแถ่ดๆไปโดนเสากำแพงที่มีแง่ตะปูที่โดนตอกหัวเข้าไปแต่ก็ยังโผล่ยื่นออกมา แล้วสร้อยคอมันดันไปเกี่ยวไปพัน ห่าราก กูจะเอาออกยังไง
“มึงนี่หาแต่เรื่อง”
เสียงคุ้นๆดังขึ้นข้างหลังแต่ผมหันไปมองไม่ได้ รู้ว่าเป็นใครอีกทีก็ตอนที่มันเดินมาซ้อนหลังแล้วโอบเอาตัวผมชิดอกมันแล้วเอื้อมมือมาแกะไอ้สร้อยที่ไปติดพันกับแง่ออกมาให้ผม เข้าอีกด้านไม่ได้หรอไงว่ะ ไอ้นี่แม่งชอบท่ายากๆ...
หมายถึงชอบทำอะไรยากยากกกกกกกกกกกกกก (ร้อนตัว)
“ซนนะมึง คนเป็นร้อยเป็นพันในโรงเรียนเขาเดินผ่านไม่เห็นมีใครมาติดอย่างนี้สักคน” แกะเฉยๆไม่ได้ไงไม่ต้องมาแขวะกู
“ไอ้เหี้ยแง่นี้มันชอบกูมั้ง มันเลยเอาสร้อยกูไปเกี่ยวกู” ตอบไปเรื่อยกู
“ปากดีๆ มึงเข้าโรงเรียนนี้มายังไม่ถึงอาทิตย์เลย มึงก่อไปกี่เรื่องแล้ว?”
“กูไม่ได้ก่อเหอะ ปัญหามันวิ่งมาหากูเอง มึงอย่าหายใจแรงดิ๊ แม่งร้อนหู~”
“มึงก็อยู่เฉยๆดิๆ จะได้แกะได้ไวๆ”
“เออๆ”
ผมยอมยืนนิ่งๆสักพัก อดทนสักหน่อยให้สร้อยเสร็งเคร็งนี่จะได้หลุดๆสักที ไอ้ไม้นี่ก็จริงจังเลยเกินนะสัส หน้างี้ซุกคอกูมาอยู่ล่ะ แล้วแม่งแกะช้าจริงๆ ท่านี้พิสดารนะกูขี้เกียจเป็นขี้ปากชาวบ้าน แล้วแม่งเหนื่อยมากหรอไงแกะสร้อยให้กูแค่นี้ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วยว่ะ?
กูได้ยินนะ
อ๊อดดดดดดดดด!
“เสร็จแล้ว”
“เออ แท็งกิ้วท์ๆๆ ไปแดกข้าวกับพวกกูป่ะ มีเรื่องจะถามมึงด้วย” ผมลูบคอที่เป็นรอยแดงปื้นๆเพราะไอ้สร้อยคอมันไปสีกันแล้วรั้งกันตอนที่มันเกี่ยว แสบว่ะๆ
“ไม่อะ เดี๋ยวกูต้องไปช่วยงานอาจารย์ต่อ มีอะไรเย็นนี้ละกัน”
“อะ...อื้อ เย็นนี้ๆๆ”
“อื้ม กูไปละอย่าไปซนที่ไหนอีกนะ”
“เออ เห็นกูสองขวบหรอไงสัส ไป๊ ชิ่วๆๆ”
ผมเตะไอ้ไม้ที่ขาเบาๆแล้วโบกมือเป็นท่าประกอบไล่มันไป ตอนนี้เด็กนักเรียนเหลายคนริ่มทยอยกันเข้ามาโรงอาหารแล้ว แต่ผมก็ยังยืนมองแผนหลังของคนที่สูงกว่าไปจนลับ
ไอ้ไม้แม่งเหมือนซุปเปอร์แมนที่โผล่มาช่วยผมทุกครั้งเวลาที่มีปัญหาเลย
.
.
.
.
“อะไรเนี่ยยย พวกคณะกรรมการนักเรียนเค้าดูดคอมึงหรอใบไผ่ ทำไมมันแดงอย่างเง้~”
“ดูดบ้านแป๊ะมึงดิไอ้มิ้นต์ กูเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยพอ”
ผมส่ายหัวเอือมๆให้ไอ้มิ้นต์ก่อนจะจริงจังกับการดูดเส้นก๋วยเตี๊ยวเข้าปากตัวเองต่อ โต๊ะไม้ตรงที่ผมนั่งถูกจองยาวและเต็มไปด้วยกลุ่มคนในห้องที่หน้าคุ้นๆทั้งหญิงชายนั่งรวมสลับกันหมด แต่ผมจำชื่อไม่ได้หรอก แค่กลุ่มไอ้เหี้ยเจนี่ก็เต็มกลืนล่ะ เหอๆ
ผมนั่งเล่าไอ้เรื่องไปตีกับไอ้ไต้ฝุ่นตั้งแต่วันแรกที่เหยียบพื้นนราธรณ์ให้พวกมันฟัง แม่งก็ทำตาลีตาเหลือกประกอบเอฟเคฟขณะผมเล่า ยิ่งไอ้เหี้ยเจนะทำตาโตกว่าไข่ไดโนเสาร์อีก
แต่ไม่ได้เล่าเรื่องหลอกผีนะ -.- <<<อายตัวเองเอง
“โหหหหหห มึงมีเรื่องกับพี่ฝุ่นเนี้ยนะ กล้าว่ะๆ ฮ่าๆๆ” ไอ้ฟง
“อื้อ ปกติไม่ค่อยมีใครกล้าทำนะ” ไอ้มิ้นต์
“มึงนี่1ในล้าน” ไอ้มิกซ์
“เธอคือดวงดาวที่คอยทำพา~” ไอ้เป็ด
“พ่องสิ ไม่เกี่ยวแล้วววว”
พวกผมหัวเราะพร้อมส่ายหัวให้ไอ้เป็ดที่เล่นมุกไม่ถูกเวล่ำเวลา ก่อนจะหันไปกินกันต่อ แต่เหมือนประเด็นนี้ไอ้เจจะสนใจเหลือเกินนะดูพี่ท่านจะไม่จบ
“แล้วมึงนอนห้องเดียวกับเขาทั้งๆที่ทะเลาะกันเนี้ยนะ?” เจถาม
“อื้อ ทำไม?”
“เปล่า กูแค่สงสัย จริงๆพวกกูสนิทกับพี่ฝุ่นนะอยู่ชมรมดนตรีเหมือนกัน พี่ฝุ่นเป็นพวกถ้าจะกำจัดทิ้งก็คงจะทำไปแล้ว กูแค่สงสัยอย่างนึงถ้าพี่เขาจะทำอะไรมึงจริงๆนี่คงทำไปแล้ว”
“มึงไม่ต้องสงสัยแล้วเอาง่ายๆ....” ผมเว้นจังหวะการพูดของตัวเพื่อกลืนไก่ที่เคี้ยวอยู่ลงท้องก่อนจะพูดต่อ “กูเมพไง” ผมตบไหล่ไอ้เจสองสามทีพร้อมกับยักไหล่เป็นเชิงให้รู้ว่ากูเจ๋งไง แม่งไม่กล้า ~
“หื้อ ไอ้สัสไปกันใหญ่ละๆๆๆ หลงตัวเองสิ้นดีๆ เก็บจานๆๆ เบื่อไอ้ไผ่เพ้อเจ้ออ” พวกมันส่ายหน้ากันขำๆก่อนจะพร้อมใจกันลุกทิ้งผมไว้ที่โต๊ะ อ้าว เดี๋ยวดิ่กูยังแดกไม่เสร็จจจจ~
ว่าแต่ไอ้เหี้ยเจนี่ทำกูสงสัยอีกละนะ....
เอ๊า ลืมถามเรื่องกอลลิล่าเลย !!
++++++++++++++
[Special Typhoon Part!!]
“ง่วงหรอสอง”
“อื้ออ กูจะนอน นั่งนิ่งๆนะจะนอนตัก”
“คร้าบบ นอนเลยๆ”
“จะอ้วก”
ผมทำท่าพะอืดพะอมใส่ไอ้คู่รักประวัติศาสตร์โลกด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียน ไอ้ไวน์ก็หันมาเบะปากใส่ผมทันที ตั้งแต่ไอ้สองกลับมาจากช่วยงานครอบครัวที่เสม็ดแลดูไอ้สองผัวเมียของคู่นี้จะไม่ได้อยู่ห่างกันเลยสักนิด แทบจะสิงรวมร่างกันอยู่แล้ว
“ไวน์ระวังเหน็บแดกขานะมึง” ไอ้วิน
“โอ๊ยยย มันไม่บ่นหรอกพลังแห่งรักทำให้คนเรายอมโดนเหน็บแดกก” ไอ้แคนละสายตาจากหนังสือการ์ตูนในมือเงยหน้ามาแขวะไอ้คู่ผัวตัวเมียเหมือนกัน เออ ช่วยๆกัน กูทำงานคนเดียวเหนื่อยหมด
“ระวังฟ้ามันจะผ่า” ไอ้บาสที่ปกติจะนิ่งๆยังเอ่ยปากแซวไอ้คู่เวรนี่เลย เป็นอันว่าเพื่อนฝูงทั้งกลุ่มเห็นพ้องต้องกัน ว่า..
หมั่นไส้
อย่าทำหน้างงๆจำที่ผมเคยบอกไปได้มั้ย ว่าไอ้ไวน์มีเมียเป็น ‘ผู้ชาย” น่ะ เรื่องจริงนะ ไอ้สองตัวนี้ทำพวกผมช็อคกันไปก่อนปิดเทอมขึ้น ม.6 มาแล้ว ใครจะไปคิดว่ามันสองตัวที่นอนห้องเดียวกันมีปัญหาถึงขั้นตีกันขนาดเป็นปัญหาระดับหอจะมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกันแบบนี้
บอกตรงๆตอนพวกผมรู้กันตอนแรกถึงขั้นรับไม่ได้ แบบมันช็อคคุณเข้าใจมั้ย เพื่อนที่เราเคยกอดคอกันพาไปจีบหญิง มันมาบอกว่ามันมีแฟนเป็นผู้ชายแล้วยังไม่ได้เป็นใครไปได้ นอกจากเพื่อนที่กระโดดเตะก้านคอด้วยกันอีก
พวกผมที่เหลือถึงขั้นเครียดกัน ตอนแรกก็สงสัยว่าไอ้สองมันเป็นตุ๊ดหรอถึงหน้ามันหวานผมมันก็ยาวแต่มันไม่ได้มีความแต๋วแตกหรืออะไรเลย ออกจะแมนกว่าพวกผมบางคนด้วยซ้ำ ส่วนไอ้ไวน์นี่มันเสือผู้หญิงเลยนะทำไมอยู่ดีๆมาชอบผู้ชาย? แต่สุดท้ายพอพวกผมรับได้แล้วมานั่งเปิดใจคุยกับพวกมันทั้งสองคน มันก็บอกว่า
‘มึงเคยได้ยินคำนี้ปะว่ะ..แมนๆเขาจะรักกันอะ”
ไอ้ไวน์เป็นคนบอกผม ซึ่งยังไงก็ไม่เคยได้ยินแต่ก็พอเข้าใจประโยคนี้อยู่ ก็พอจะรับได้อย่างน้อยๆไอ้สองมันก็ยังแมนๆเตะบอลกับพวกผมได้เหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปก็แค่บางทีเตะๆอยู่ๆไว้ไวน์มันก็ดึงสองมาจูบกลางสนามเฉยเลย บ่อยมากซะจนผมชิน...
เขาอีหรอบที่ว่าเพื่อนเป็นยังไง..ก็เพื่อนเราว่ะ
เวลาตกบ่ายหลังเลิกเรียนของวันที่ผมรู้สึกว่าโครตจะวุ่นวาย จริงๆตอนนี้ถ้าตามกำหนดการเดิมคือพวกผมต้องไปเล่นโฟร์คซองขอบคุณน้องๆที่เลือกพวกผมมาเป็นคณะกรรมการ แต่ด้วยสาเหตุจากตัวปัญหาเตี้ยๆ เลยทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ไอ้ไวน์เลยบอกให้เลื่อนออกไปก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน
ตั้งแต่เจอมัน ผมมีแต่ซวย ซวย ซวย....ซวย!!!
“มึงจะส่งน้องใบไผ่ไปหากอลิล่าจริงๆหรอว่ะ” ไอ้โด่งเอ่ยปากถามผม
“กูพูดแล้วไม่คืนคำ”
“แต่กูเสียวๆยังไงไม่รู้แฮะ” ไอ้วิน
“เสียวอะไร? “ ผมถาม
“เสียวว่ามันจะวกเข้าพวกเราไง มึงน่าจะรู้ฤทธิ์รูมเมทมึงนะ “
“หึ! มึงไม่ต้องห่วงหรอก ให้ตายยังไงก็ไม่วกเข้าเราแน่ๆ”
ไม่มีทาง
ผมโครตมั่นใจเลย !
++++++++++++++
ผมยืนอยู่หน้าหอชายตึก3ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับหอผม เพราะกำลังรอไอ้ซุปเปอร์แมนที่มันโทรมาบอกผมว่าให้รอมันที่หน้าตึกด้วย เพราะวันนี้พวกผมนัดจะไปอาบน้ำพร้อมกัน โดยที่พวกไอ้เจกับผมจะไปเจอกันที่นู้นแต่ไม้โทมันบอกให้รอไปพร้อมมันเลย ว่าแต่นี่ก็ยืนรอมานานละนะปวดขาว้อย~
ผมหยิบบีบีในกระเป๋ากางเกงตัวเองขึ้นมากดดูเวลา บนหน้าจอที่เป็นรูปผมกำลังกินกล้วยอยู่บอกเวลาว่าอีก 15 นาทีจะ 5 โมงเย็น เวลาประมาณนี้คนต้องเยอะแน่ๆเลย ขี้เกียจแย่งกันใช้นะ ลงๆมาสักทีเหอะ
“ผีหลอก!!”
“เฮ้ยยย!! ”
ผมสะดุ้งโหยงพร้อมกับอุทานออกไปด้วยความตกใจ ทันทีที่มีคนมาตะโกนใส่ผมจากทางด้านหลัง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้ไม้โท ให้กูรอนานแล้วยังมาแกล้งกูอีกหรออออออ
“ไอ้เชี้ย ตกใจหมดสัส ลงมาช้ายังจะมาแกล้งกูอีก” ผมไม่พูดเปล่าแต่วิ่งไล่เตะมันเป็นการล้างแค้นไปด้วย ไอ้ไม้มันก็วิ่งหนีไปหัวเราะไป ไอ้สัส อย่าหนีเลย ขอกูสักทีเหอะ
“เฮ้ยๆๆ อะไรๆๆ กูไม่ได้แกล้ง แค่บอกเฉยๆว่าผีหลอกมึงตกใจเองนะ ฮ่าๆๆๆ” เออ กูผิดใช่มะ
พอวิ่งไล่เตะไอ้ไม้ ได้1ทีผมก็หยุดเพราะเหนื่อย แม่งวิ่งเร็วเพราะขามันยาวกว่าผมสินะ เหอะๆ แต่วิ่งไปวิ่งมาพอเงยหน้ามาอีกที ก็มาหยุดอยู่ตึก2 ตึกนี่แหละที่พวกผมนัดกันมาอาบน้ำ ไอ้เจบอกมันจะเป็นเจ้าภาพพาผมเปิดซิงห้องอาบน้ำตึกนี้เอง ผมก็เออออกับมันไปอีกเพราะคิดว่าอาบที่ไหนมันก็ได้อาบน้ำเหมือนกันแหละ -__-
“โอ่โหห ไม่มากันพรุ่งนี้เลยละ” พอตีนกูก้าวพ้นบันไดหน้าตึกก็เห่ากันต้อนรับกูเลย เยี่ยมม
“อะไรกูไม่ผิด ไอ้ไม้นู้นลงมาช้า”
“อะไรยังไม่ได้ว่ามึงเลย กูพูดลอยๆๆ”
ไอ้เหี้ยเจนิ่ - -*
“อ้าว ไอ้มิ้นต์ไม่ได้อยู่กับพวกมึงหรอ?” ไม้โทถาม เออนั่นดิ่ตอนแรกผมก็กำลังจะถามไอ้ไม้ว่ามิ้นต์ไปไหนทำไมไม่ลงมาพร้อมมัน ตอนแรกก็นึกว่ามาก่อนแล้วแต่นี่ไปไหนหว่า
“เห็นมันบอกว่ามีธุระ เดี๋ยวจะตามมามั้ง”
“เออๆๆ งั้นไปอาบเลยละกันกูร้อนน~”
พอผมพูดจบก็เดินไปดึงคอไอ้เจให้เดินตามกันเข้าโรงอาบน้ำทันที โรงอาบน้ำของตึก2 เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของทั้งสี่ตึกเลยก็ว่าได้ครับ จากที่ไอ้เจเล่าให้ผมฟังเหมือนกับว่าตึก2เป็นตึกเก่าแก่ที่ถูกสร้างไว้มานานแล้ว แล้วตอนนั้นผู้อำนวยการยุคนั้นเค้าทุ่มงบสร้างโรงอาบน้ำเพิ่มเพราะมีเด็กร้องเรียนว่าของตึก1มันเล็กไป ผู้อำนวยการคนนั้นเลยทุ่มงบสร้างโรงอาบน้ำที่ใหญ่กว่าเดิมขึ้นมา พอต่อๆมาที่มาทำตึก3กับตึก4เพิ่มก็เลยสร้างโรงอาบน้ำไซส์ธรรมดาๆ เพราะมันพอเพียงกับจำนวนคนแล้ว
และเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้เลย 5 โมงกว่าๆ คนแม่งโครตเยอะเลยเหอะ เหมือนมันนัดกันมาอาบที่นี้หมดเลยยังไงอย่างงั้น
ในโรงอาบน้ำแห่งนี้จะมีห้องแยกย่อยๆไว้เป็นห้องๆล็อคๆยาวสุดลูกหูลูกตา อีกฝั่งจะเป็นสำหรับไว้ถ่ายหนักถ่ายเบายิงกระต่าย มีพื้นที่สำหรับล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็มีตู้ล็อคเกอร์สำหรับใส่เสื้อผ้าที่จะเอามาเปลี่ยนข้อเสียมันอาจจะอยู่ตรงที่ตู้ล็อคเกอร์ที่ว่ามันมีเอาไว้แค่เก็บเสื้อผ้าตอนเราไปอาบน้ำเท่านั้นฉะนั้นจะไม่มีของใครของมันตายตัว สลับไปเรื่อยๆ อันไหนว่างก็ใส่อันนั้นและไม่มีอะไรล็อคเพราะใช้กันแค่แป๊ปเดียว ฉะนั้นไอ้เจบอกว่าของมีค่าอย่าพกเข้ามาท่าไม่จำเป็นจริงๆ
งี้กูพกโทรศัพท์มาจะรอดปะว่ะ -__-‘’
“เฮ้ยๆ กูได้ยินมาว่า วันนี้พวกพี่ฝุ่นมาอาบโรงใหญ่นี้ด้วยว่ะ”
“เฮ้ย มาทำไม ปกติพี่เขาไม่เคยมาเลยนะ”
“กูก็ไม่รู้ ได้ข่าวว่าเขาจะมารับเด็กใหม่ตึก2แทนพี่จ๋ายมั้ง”
“ซวยหมดเด็กใหม่”
“เออ กูก็ว่างั้น”
เหมือนปัญหาตัวเดิมกำลังจะวิ่งเข้ามาหาผมอีกแล้วนะ รับน้องตึก2เหี้ยอะไร มารับในห้องน้ำ!!!
“ตายห่าแล้วไอ้ไผ่กูลืมบอกมึง..”
“บอกอะไร ถ้าเรื่องที่กูได้ยินเมื่อกี้ ไม่ต้องบอกแล้ว กูรู้แล้ว!!”
ผมถอดเสื้อแล้วยัดใส่ล็อคเกอร์ช่องที่ว่างตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ขนาดกูจะอาบน้ำยังจะมาทำให้กูหงุดหงิดอีกกกกก
“เออ มันคงไม่มีอะไรหรอกมึงอย่าคิดมาก...ว่าแต่ตอนเกิดแม่มึงแดกหลอดไฟเข้าไปหรอว่ะ ทำไมขาวชิบหาย”
ไอ้เจที่เดินมาตบๆไหล่ผมเปลี่ยนประเด็นมาเล่นกับตัวกูอีกแล้วครับ ขาวตรงไหนนี่ดำขึ้นเยอะแล้วนะหนีไปเที่ยวทะเลบ่อย
ผมเอาผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวตังเองแล้วจัดแจงถอดกางเกงนักเรียนที่ใส่อยู่ออกมา แต่กางเกงในยังไม่ถอดกันเหนียวเผื่อใครอุตริวิ่งมากระตุกผ้าเช็ดตัวผม ไผ่น้อยจะได้ไม่ออกไปผงาดง้ำ
“เฮ้ยย มากันแล้วว่ะ มาตอนไหนว่ะ”
“กูยังไม่ได้ใส่ผ้าเช็ดตัวเลย”
“เด็กใหม่ตึก2 ทั้งหมดรวมตัว!!”
เสียงคุ้นๆคงไม่ต้องบอกว่าใคร
เหล่านักเรียนชายที่พึ่งย้ายเข้าตึก2ใหม่ทั้งหมด แถบจะวิ่งถลาเข้าไปยืนรวมแถวกัน อาจจะมีคนลักไก่ไม่เข้าแถวก็ได้นะ แบบถ้าเป็นผมผมคงไม่วิ่งไปให้โง่หรอก ว่าแต่มันเข้ามาตอนไหนว่ะ ใส่ผ้าเช็ดตัวเสร็จสับละด้วย
“พี่เป็นตัวแทน แทนไอ้จ๋ายที่มันไม่ว่างมารับพวกน้องตึก2 เพราะมันติดภารกิจต้องไปดูงานต่างโรงเรียนและกลับมาไม่ทัน จ๋ายมันกลัวว่าน้องๆตึก2จะต้องรอนาน เลยส่งพี่มารับแทน
” ไอ้ไต้ฝุ่นพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำคนทั้งโรงอาบน้ำเงียบ ผมก็เงียบนะ เงียบฟังมันโม้ หึๆ
“น้องรู้มั้ยว่าการที่น้องได้เข้ามาอยู่ตึก2น่ะ ดีขนาดไหน ตึกนี้เหมือนตึกพิเศษ ทุกอย่างดูมีอภิสิทธิ์มากกว่าตึกอื่น ทั้งโรงอาบน้ำ สวัสดิการ ห้องนั่งเล่นต่างๆของหอ ก็ได้เยอะกว่าหออื่น ฉะนั้นมันเป็นประเพณีของหอที่จะจัดการรับน้องเป็นกรณีพิเศษให้กับเด็กตึก2ทุกคน เพื่อที่จะได้รู้ว่า การได้รับความพิเศษมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆในโรงเรียน จะต้องดูแลรักษาและใช้มันให้คุ้มค่าขนาดไหน”
“ตอนกูขึ้น ม.4 ใหม่ๆพวกกูก็โดนเพราะย้ายมาอยู่ตึกนี้แหละ”
ไอ้เจก้มลงมากระซิบให้ผมฟังเบาๆ ผมพึ่งสังเกตว่านอกจากไอ้ไต้ฝุ่นแล้ว คนที่ยืนอยู่ข้างหลังมันก็มีไอ้วินกับผู้ชายที่หน้าไม่ค่อยคุ้นผมเท่าไหร่ แต่วันนี้เหมือนจะเห็นมันตอนผมเข้าห้องคณะกรรมการนักเรียน
ว่าแต่หมั่นไส้ไอ้ไต้ฝุ่นว่ะ พูดมาก
“ปีนี้เวลาพวกพี่มีเวลาไม่มากแค่อยากจะบอกน้องๆ ม.4 ที่ขึ้นมาตึก 2 ทุกคนว่า พี่ให้เวลา 20 นาที กับ
“
เคร้งงง!!
“โทษทีขันแม่งหลุดมือว่ะ”
ผมเองแหละ พอผมสลัดมือไอ้เจที่แม่งจับรั้งผมไว้แล้วทำหน้าประมาณว่า ‘อย่าหาเรื่อง’ ออกไปได้ ผมก็หอบขันแปรงสีฟันสบู่ยาสระผม ออกมาตรรงแถวๆ อ่างแปรงฟันซึ่งพวกมันกำลังชุมนุมกัน คนอื่นไม่มีใครเขากล้าทำอะไรทั้งนั้น ฉะนั้นพอผมทำขันหลุดมือ มันเลยทำให้คนทั้งโรงอาบน้ำรวมสายตามาไว้ที่ผมแทบจะเป็นจุดเดียว
อยู่ดีๆก็เสียวสันหลังวาบ
“ขันหลุดมือมึงถูกจังหวะดีนะ
” เฮ้ย พูดเฉยๆก็ได้เดินเข้ามาหากูทำไม ไม่ต้องเดินเข้ามา สภาพกูตอนนี้มันหวาบหวิวไปนะ อย่าเดินมา
ให้กูใส่เสื้อก่อน
“มีสักวันที่มึงจะไม่กวนตีนกูบ้างมั้ย”
ไต้ฝุ่นมาหยุดยืนเท้าสะเอวแอ่นนมใส่หน้าผม ไอ้เหี้ย เดี๋ยวกูก็ดีดหัวนมให้หลุดแม่งเลย
“อะไร ใครหาเรื่องมึงก็กูบอกแล้วไงว่าขันมันหลุดมือเอง” ไม่ได้หาเรื่อง
แต่เรื่องมันวิ่งมาให้หา -..-
“สงสัยไม่ต้องรอให้กอลิล่าจัดการมึงแล้วมั้ง..”
“อะไรมึงจะทำอะไรกู”
ไต้ฝุ่นไม่พูดเปล่าแต่มันก้าวเข้ามาหาผมช้าๆด้วย ผมกำสบู่ในมือตัวเองแน่นจนมันลื่นหลุดตกลงไปที่พื้น
“กูไม่ทำ เฮ้ย!! ระวัง”
“อ๊ะ...”
เหมือนเท้ามันติดสเก็ต ลื่นไปข้างหน้า สบู่ก้อนเท่าควายที่ผมทำหล่นเองและตัวเองก็กำลังเหยียบเอง มันทำให้ผมกำลังเสียหลักหงายหลัง กูจะฟาดแล้ว หัวจะฟาดแล้ววววว...
ตุ้บ...
ผมหลับตาปี๋พยายามทำใจกับความเจ็บปวดที่จะได้รับ แต่เหมือนข้อมือผมถูกกระชากไปโดยใครสักคน และสิ่งที่ได้รับกับเป็นอะไรแข็งเหมือนตัวคนมากกว่า ตัวใหญ่กว่าผมด้วย ความรู้สึกอย่างนี้มันคล้ายๆตอนที่ผมบุกแปลงเกษตรเลย คล้ายๆ
.
หะ..เห้ยย
“มึงนี่มันตัวซวยจริงๆ”
ผมเงยหน้าพร้อมลืมตาขึ้นไปมองหมอนรองที่รับตัวผมเอาไว้ คือสภาพของไอ้ไต้ฝุ่นที่เปลือยอกท่อนบนทำหน้าเหยเกเหมือนมันเจ็บมากมายอะไรขนาดนั้น กับผมที่นอนอยู่บนตัวมัน ในสภาพที่ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว....
ให้ตายเหอะ กูอยากหายตัวได้!!!!!!!!!
-/////////////////-
************************************************
♕ คนเขียน Talk !!!
แล้วก็ลงต่อแล้ว ฮริ้วววววววววว จุดพลุ~ หนุ่มอาบนเ อยากอาบด้วยจริงๆเลย ฮิฮิ
น้องไม้โทน่ารักอ้ะดิ่ แต่เค้าไม่ให้ กร้ากกกกกกกกกกกกก ไปแล้วว เจอกันตอนหน้า ;)
ความคิดเห็น