ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★Bad Room-mate : รักคูณร้าย...สุดท้าย ก็รัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #8 : ★ Chapter6 : ขี้นศาล

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 55


     Chapter6

    ขี้นศาล

     

                ผมนั่งกอดอกมองเพดานห้องสี่เหลี่ยมๆที่มีแอร์ส่งเสียงฟรี่ๆบ่งบอกอายุการใช้งาน ประตูกระจกเลื่อนติดฟิล์มสีดำ สีเดียวกับกระจกหน้าต่างแบบเลื่อน ทีวีจอแบน โซฟาสีเขียวน้ำทะเลที่ผมนั่งอยู่ ตู้หนังสือ ผนังสีขาวที่ถูกแปะไว้ด้วยรูปของคณะกรรมการนักเรียนแต่ละรุ่น มีประตูเปิดเลื่อนทางด้านขวาที่พอเปิดไปก็จะเจอห้องประชุมคณะกรรมการนักเรียนที่พวกนั้นใช้กันอยู่ ส่วนถ้าเปิดไปทางประตูด้านซ้ายจะเป็นห้องพักของคณะกรรมการนักเรียน ด้านหน้าที่ผมพึ่งผ่านมาจะเป็นห้องกระจายเสียงและที่ประชาสัมพันธ์เวลามีคนมาติดต่อธุระ

     

                ไม่ได้เดินเข้าเดินออกเองหรอ ไอ้คนที่พามาแม่งเปิดไปเปิดมาอยู่ได้!!

     

                นาฬิกาบนบีบีของผมบอกว่าอีก15นาทีจะ 10 โมง กำลังจะหมดคาบสอง กระป๋งกระเป๋ากูก็อยู่บนห้องไมได้เอาลงมา หิวก็หิว ถ้าแม่งลากกผมออกมาจากห้องแล้วมาบอกให้ผมรอพวกมันประชุมกันอยู่อย่างนี้ จะลากผมมาเผื่อ แต่ผมจะหนีก็ได้นะแต่ไม่หนี...

     

                จริงๆแล้วขี้เกียจเรียนอะ -..-

     

                ไม่!! มันต้องชดใช้!!”

     

                เสียงตะโกนที่คุ้นเคยเรียกให้ผมต้องหันไปมองตามต้นตอของเสียง ได้ยินเสียงทุบโต๊ะดังปังประกอบเอฟเฟคด้วย หารือกันเรื่องกูกันสินะ หึหึ

     

                ผมมองข้อมือตัวเองที่มีรอยแดงจางๆจาการถูกบีบแรงๆโดยไอ้ไต้ฝุ่นมหาประลัย  ซึ่งสาเหตุมาจากการกระทำความผิดของผมที่เข้าข่ายเจตตานาสุดๆยิ่งตอนถาก (?) สายกีต้าร์ของมันนะ ผมกะเอาให้แม่งมีรอยขูดๆด้วย

     

                แต่ก็มาเสียอารมณ์ตรงที่มารู้ว่ามันไม่ได้ปาของผมทิ้งเนี้ยแหละ กูรึอุส่าต์แหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาทำภารกิจด้วยแรงแค้นหวังจะล้างแค้นแทนลูกชายที่ถูกปาไป ไหงสรุปตกูไปทำเค้าฝ่ายเดียวว่ะ แล้วนี่ผมไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตจะยังไงต่อ -_-

     

                แต่บอกไว้เลยนะ..ไม่กลัวหรอก

     

                ปังง!!

     

                ผมสะดุ้งเฮือกทันทีทีประตูห้องประชุมคณะกรรมการเปิดออกไมได้ขวัญอ่อนอะไรหรอกนะ กำลังคิดอะไรเพลินๆแล้วแม่งเปิดมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย กูตกใจครับ

     

                น้องคนนี้หรอ?”

     

                เหล่าฝูงคนหน้าตาคุ้นๆค่อยๆทยอยกันเดินออกมาจากห้องประชุม แล้วก็มายืนล้อมผมไว้ประหนึ่งเหมือนเป็นด่านสุดท้ายตัดสินคดีความ แต่ก็มีทั้งคนหน้าคุ้นและหน้าตาไม่คุ้นตาให้ผมเห็นบ้าง อาทิเช่น  พี่ผู้หญิงประมาณสองสามคน (ดูจากดาวบนปกเสื้อ) กับผู้ชายบางคนที่น่าจะอายุมากกว่าผม แต่ที่ดูไม่คุ้นแต่รังสีคุ้นๆน่าจะเป็นผู้ชายหน้าแปลกๆอีกสามคน 1 ใน 3 คือคนที่เดินมาชี้ผมแล้วถามว่า น้องคนนี้หรอ

     

                “หน้าตาแบบนี้ไม่น่าเป็นอย่างที่มึงเล่านะฝุ่น

     

                น้อยไป

     

                อะไร! หน้าตาแบบนี้นี่แบบไหนว่ะ พูดไม่เคลียนะไอ้ผมยาวนี้ -*-

     

                หรอว่ะ....เอาว่าไงใครจะบอกน้องเค้า

     

                ไอ้ผมยาวหน้าสวยนี่กอดอกมองผมหน้ายิ้มๆแล้วก็มองไอ้ไต้ฝุ่นสลับไปมา ก่อนมันจะหันไปถามคนอื่นๆว่าใครจะบอกผม บอกอะไรบอกๆมาเลย กูลุ้น

     

                กูเอง ไอ้ไต้ฝุ่น มึงเป็นเหี้ยไรกับกูมากป้ะ สัสสส

     

                อะไร มีไรก็พูดมา ผมตอบไปตรงกันข้ามกับความอยากรู้ ภายนอกเราต้องนิ่งๆไว้ กอดอกไขว้ห้างพิงโซฟาหยั่งเชิง มาดแบบนี้โครตเท่เลย

     

                พวกกูปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าจะทำยังไงกับมึงดี... ไอ้ไต้ฝุ่นพูดพลางก้าวเท้าพลางเข้ามาหาผม ไอ้พวกเพื่อนมันที่เหลือก็แหวกทางประหนึ่งเชื้อเชิญคุณชายเขาให้เข้ามาหาผมได้ง่ายๆ ความผิดแบบมึงจะให้พวกกูทำโทษกันเอง ก็ไม่ใช่เรื่อง มันเดินก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะก้มหน้ามันลงมาจนริมผีปากมันชิดใบหูผม

     

                กูจะโอนมึงให้กอลิล่าจัดการต่อละกัน..” น้ำคำสุดท้ายมันกระซิบลงเบาๆที่หูผม ผมไม่รู้ว่า กอลิล่า คืออะไรแต่เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาแล้วครั้งนึง...

     

                ให้ตายเถอะกูรู้สึกไม่ถูกกับชื่อนี้

     

                T T….

     

    ++++++++++++++

     

    หลังจากจบเรื่องผมก็ถูกปล่อยตัวให้ออกมาโดยังไม่โดนทำอะไร ไอ้ไต้ฝุ่นบอกว่ากอลิล่าไม่อยู่อีกสองวันถึงจะกลับมามันบอกผมว่าอย่าพึ่งดีใจ.ไป.

     

    ดีใจเหี้ยอะไร มันก็แค่ยืดเวลาตายกูเท่านั้นแหละ...

     

    เหลือเวลาเรียนคาบสามอีกแค่ 5 นาที ผมเลยไม่ขึ้น ก็เลยบีบีไปบอกพวกไอ้เจว่าจะรอพวกมันอยู่แถวๆโรงอาหารให้มันเอากระเป๋าลงมาให้ด้วยเพราะผมจะจองโต๊ะให้ แม่งตอบกลับมาคนละเรื่องกับที่กูบีบีไปเลย ไอ้เจตอบกลับมาว่า

     

    มึงต้องเล่าทั้งหมดให้กูฟัง

     

    ขี้เสือกจริงๆ -_-

     

    ผมเดินเข้าโรงอาหารอันเวิ้งว้าง เมื่อกี้โทรหาไอ้ไม้โทก็ไม่ติด ตอนแรกนึกว่ามันจะไปประชุมกับพวกคณะกรรมการนักเรียนด้วยซ้ำ ที่ไหนได้แม่งหายหนังศรีษะไปเลย ผมเจอมันผมว่าจะถามมันว่ากอลิล่าคือใคร แต่มันก็ไม่อยู่ให้ถาม หงุดหงิดดดดดด

     

    อ๊ะ.. อ๊ะ...โอ๊ยย

     

                ผมแก้หงุดหงิดให้ตัวเองด้วยการเตะโต๊ะตัวข้างหน้าที่เดินผ่านแก้เซ็งแต่ดันเสียหลักเซแถ่ดๆไปโดนเสากำแพงที่มีแง่ตะปูที่โดนตอกหัวเข้าไปแต่ก็ยังโผล่ยื่นออกมา  แล้วสร้อยคอมันดันไปเกี่ยวไปพัน ห่าราก กูจะเอาออกยังไง

     

                มึงนี่หาแต่เรื่อง

     

                เสียงคุ้นๆดังขึ้นข้างหลังแต่ผมหันไปมองไม่ได้ รู้ว่าเป็นใครอีกทีก็ตอนที่มันเดินมาซ้อนหลังแล้วโอบเอาตัวผมชิดอกมันแล้วเอื้อมมือมาแกะไอ้สร้อยที่ไปติดพันกับแง่ออกมาให้ผม เข้าอีกด้านไม่ได้หรอไงว่ะ ไอ้นี่แม่งชอบท่ายากๆ...

     

                หมายถึงชอบทำอะไรยากยากกกกกกกกกกกกกก (ร้อนตัว)

     

                ซนนะมึง คนเป็นร้อยเป็นพันในโรงเรียนเขาเดินผ่านไม่เห็นมีใครมาติดอย่างนี้สักคน แกะเฉยๆไม่ได้ไงไม่ต้องมาแขวะกู

     

                ไอ้เหี้ยแง่นี้มันชอบกูมั้ง มันเลยเอาสร้อยกูไปเกี่ยวกู ตอบไปเรื่อยกู

     

                ปากดีๆ มึงเข้าโรงเรียนนี้มายังไม่ถึงอาทิตย์เลย มึงก่อไปกี่เรื่องแล้ว?

     

                กูไม่ได้ก่อเหอะ ปัญหามันวิ่งมาหากูเอง มึงอย่าหายใจแรงดิ๊ แม่งร้อนหู~”

     

                มึงก็อยู่เฉยๆดิๆ จะได้แกะได้ไวๆ

     

                เออๆ

     

                ผมยอมยืนนิ่งๆสักพัก อดทนสักหน่อยให้สร้อยเสร็งเคร็งนี่จะได้หลุดๆสักที ไอ้ไม้นี่ก็จริงจังเลยเกินนะสัส หน้างี้ซุกคอกูมาอยู่ล่ะ แล้วแม่งแกะช้าจริงๆ ท่านี้พิสดารนะกูขี้เกียจเป็นขี้ปากชาวบ้าน แล้วแม่งเหนื่อยมากหรอไงแกะสร้อยให้กูแค่นี้ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วยว่ะ?

     

                กูได้ยินนะ

     

                อ๊อดดดดดดดดด!

               

    เสร็จแล้ว

     

                เออ แท็งกิ้วท์ๆๆ ไปแดกข้าวกับพวกกูป่ะ มีเรื่องจะถามมึงด้วย ผมลูบคอที่เป็นรอยแดงปื้นๆเพราะไอ้สร้อยคอมันไปสีกันแล้วรั้งกันตอนที่มันเกี่ยว แสบว่ะๆ

     

                ไม่อะ เดี๋ยวกูต้องไปช่วยงานอาจารย์ต่อ มีอะไรเย็นนี้ละกัน

     

                อะ...อื้อ เย็นนี้ๆๆ

     

                อื้ม กูไปละอย่าไปซนที่ไหนอีกนะ

     

                เออ เห็นกูสองขวบหรอไงสัส ไป๊ ชิ่วๆๆ

     

                ผมเตะไอ้ไม้ที่ขาเบาๆแล้วโบกมือเป็นท่าประกอบไล่มันไป ตอนนี้เด็กนักเรียนเหลายคนริ่มทยอยกันเข้ามาโรงอาหารแล้ว แต่ผมก็ยังยืนมองแผนหลังของคนที่สูงกว่าไปจนลับ

     

                ไอ้ไม้แม่งเหมือนซุปเปอร์แมนที่โผล่มาช่วยผมทุกครั้งเวลาที่มีปัญหาเลย

                .

                .

    .

    .

     

    อะไรเนี่ยยย พวกคณะกรรมการนักเรียนเค้าดูดคอมึงหรอใบไผ่ ทำไมมันแดงอย่างเง้~”

     

    ดูดบ้านแป๊ะมึงดิไอ้มิ้นต์ กูเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยพอ

     

    ผมส่ายหัวเอือมๆให้ไอ้มิ้นต์ก่อนจะจริงจังกับการดูดเส้นก๋วยเตี๊ยวเข้าปากตัวเองต่อ โต๊ะไม้ตรงที่ผมนั่งถูกจองยาวและเต็มไปด้วยกลุ่มคนในห้องที่หน้าคุ้นๆทั้งหญิงชายนั่งรวมสลับกันหมด แต่ผมจำชื่อไม่ได้หรอก แค่กลุ่มไอ้เหี้ยเจนี่ก็เต็มกลืนล่ะ เหอๆ

     

    ผมนั่งเล่าไอ้เรื่องไปตีกับไอ้ไต้ฝุ่นตั้งแต่วันแรกที่เหยียบพื้นนราธรณ์ให้พวกมันฟัง แม่งก็ทำตาลีตาเหลือกประกอบเอฟเคฟขณะผมเล่า ยิ่งไอ้เหี้ยเจนะทำตาโตกว่าไข่ไดโนเสาร์อีก

     

    แต่ไม่ได้เล่าเรื่องหลอกผีนะ -.- <<<อายตัวเองเอง

     

    โหหหหหห มึงมีเรื่องกับพี่ฝุ่นเนี้ยนะ กล้าว่ะๆ ฮ่าๆๆไอ้ฟง

     

    อื้อ ปกติไม่ค่อยมีใครกล้าทำนะ ไอ้มิ้นต์

     

    มึงนี่1ในล้าน ไอ้มิกซ์

     

    เธอคือดวงดาวที่คอยทำพา~” ไอ้เป็ด

     

    พ่องสิ ไม่เกี่ยวแล้วววว

     

    พวกผมหัวเราะพร้อมส่ายหัวให้ไอ้เป็ดที่เล่นมุกไม่ถูกเวล่ำเวลา ก่อนจะหันไปกินกันต่อ แต่เหมือนประเด็นนี้ไอ้เจจะสนใจเหลือเกินนะดูพี่ท่านจะไม่จบ

     

    แล้วมึงนอนห้องเดียวกับเขาทั้งๆที่ทะเลาะกันเนี้ยนะ? เจถาม

     

    อื้อ ทำไม?

     

    เปล่า กูแค่สงสัย จริงๆพวกกูสนิทกับพี่ฝุ่นนะอยู่ชมรมดนตรีเหมือนกัน พี่ฝุ่นเป็นพวกถ้าจะกำจัดทิ้งก็คงจะทำไปแล้ว กูแค่สงสัยอย่างนึงถ้าพี่เขาจะทำอะไรมึงจริงๆนี่คงทำไปแล้ว

     

    มึงไม่ต้องสงสัยแล้วเอาง่ายๆ.... ผมเว้นจังหวะการพูดของตัวเพื่อกลืนไก่ที่เคี้ยวอยู่ลงท้องก่อนจะพูดต่อ กูเมพไง ผมตบไหล่ไอ้เจสองสามทีพร้อมกับยักไหล่เป็นเชิงให้รู้ว่ากูเจ๋งไง แม่งไม่กล้า ~

     

    หื้อ ไอ้สัสไปกันใหญ่ละๆๆๆ หลงตัวเองสิ้นดีๆ เก็บจานๆๆ เบื่อไอ้ไผ่เพ้อเจ้ออ พวกมันส่ายหน้ากันขำๆก่อนจะพร้อมใจกันลุกทิ้งผมไว้ที่โต๊ะ อ้าว เดี๋ยวดิ่กูยังแดกไม่เสร็จจจจ~

     

    ว่าแต่ไอ้เหี้ยเจนี่ทำกูสงสัยอีกละนะ....

     

    เอ๊า ลืมถามเรื่องกอลลิล่าเลย !!

     

     

    ++++++++++++++

    [Special Typhoon Part!!]

     

                “ง่วงหรอสอง

     

                อื้ออ กูจะนอน นั่งนิ่งๆนะจะนอนตัก

     

                คร้าบบ นอนเลยๆ

     

                จะอ้วก

     

                ผมทำท่าพะอืดพะอมใส่ไอ้คู่รักประวัติศาสตร์โลกด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียน ไอ้ไวน์ก็หันมาเบะปากใส่ผมทันที ตั้งแต่ไอ้สองกลับมาจากช่วยงานครอบครัวที่เสม็ดแลดูไอ้สองผัวเมียของคู่นี้จะไม่ได้อยู่ห่างกันเลยสักนิด แทบจะสิงรวมร่างกันอยู่แล้ว

     

                ไวน์ระวังเหน็บแดกขานะมึง ไอ้วิน

     

                โอ๊ยยย มันไม่บ่นหรอกพลังแห่งรักทำให้คนเรายอมโดนเหน็บแดกก ไอ้แคนละสายตาจากหนังสือการ์ตูนในมือเงยหน้ามาแขวะไอ้คู่ผัวตัวเมียเหมือนกัน เออ ช่วยๆกัน กูทำงานคนเดียวเหนื่อยหมด

     

                “ระวังฟ้ามันจะผ่า ไอ้บาสที่ปกติจะนิ่งๆยังเอ่ยปากแซวไอ้คู่เวรนี่เลย เป็นอันว่าเพื่อนฝูงทั้งกลุ่มเห็นพ้องต้องกัน ว่า..

     

                หมั่นไส้

    อย่าทำหน้างงๆจำที่ผมเคยบอกไปได้มั้ย ว่าไอ้ไวน์มีเมียเป็น ผู้ชาย น่ะ เรื่องจริงนะ ไอ้สองตัวนี้ทำพวกผมช็อคกันไปก่อนปิดเทอมขึ้น ม.6 มาแล้ว ใครจะไปคิดว่ามันสองตัวที่นอนห้องเดียวกันมีปัญหาถึงขั้นตีกันขนาดเป็นปัญหาระดับหอจะมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกันแบบนี้

     

                บอกตรงๆตอนพวกผมรู้กันตอนแรกถึงขั้นรับไม่ได้ แบบมันช็อคคุณเข้าใจมั้ย เพื่อนที่เราเคยกอดคอกันพาไปจีบหญิง มันมาบอกว่ามันมีแฟนเป็นผู้ชายแล้วยังไม่ได้เป็นใครไปได้ นอกจากเพื่อนที่กระโดดเตะก้านคอด้วยกันอีก

     

                พวกผมที่เหลือถึงขั้นเครียดกัน ตอนแรกก็สงสัยว่าไอ้สองมันเป็นตุ๊ดหรอถึงหน้ามันหวานผมมันก็ยาวแต่มันไม่ได้มีความแต๋วแตกหรืออะไรเลย ออกจะแมนกว่าพวกผมบางคนด้วยซ้ำ ส่วนไอ้ไวน์นี่มันเสือผู้หญิงเลยนะทำไมอยู่ดีๆมาชอบผู้ชาย? แต่สุดท้ายพอพวกผมรับได้แล้วมานั่งเปิดใจคุยกับพวกมันทั้งสองคน มันก็บอกว่า

     

                มึงเคยได้ยินคำนี้ปะว่ะ..แมนๆเขาจะรักกันอะ

     

                ไอ้ไวน์เป็นคนบอกผม ซึ่งยังไงก็ไม่เคยได้ยินแต่ก็พอเข้าใจประโยคนี้อยู่ ก็พอจะรับได้อย่างน้อยๆไอ้สองมันก็ยังแมนๆเตะบอลกับพวกผมได้เหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปก็แค่บางทีเตะๆอยู่ๆไว้ไวน์มันก็ดึงสองมาจูบกลางสนามเฉยเลย บ่อยมากซะจนผมชิน...

     

                เขาอีหรอบที่ว่าเพื่อนเป็นยังไง..ก็เพื่อนเราว่ะ

     

                เวลาตกบ่ายหลังเลิกเรียนของวันที่ผมรู้สึกว่าโครตจะวุ่นวาย จริงๆตอนนี้ถ้าตามกำหนดการเดิมคือพวกผมต้องไปเล่นโฟร์คซองขอบคุณน้องๆที่เลือกพวกผมมาเป็นคณะกรรมการ แต่ด้วยสาเหตุจากตัวปัญหาเตี้ยๆ เลยทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ไอ้ไวน์เลยบอกให้เลื่อนออกไปก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน

     

                ตั้งแต่เจอมัน ผมมีแต่ซวย ซวย ซวย....ซวย!!!

     

                “มึงจะส่งน้องใบไผ่ไปหากอลิล่าจริงๆหรอว่ะ ไอ้โด่งเอ่ยปากถามผม

     

                กูพูดแล้วไม่คืนคำ

     

                แต่กูเสียวๆยังไงไม่รู้แฮะ ไอ้วิน

     

                เสียวอะไร? ผมถาม

     

                เสียวว่ามันจะวกเข้าพวกเราไง มึงน่าจะรู้ฤทธิ์รูมเมทมึงนะ

     

                หึ! มึงไม่ต้องห่วงหรอก ให้ตายยังไงก็ไม่วกเข้าเราแน่ๆ

     

                ไม่มีทาง

     

                ผมโครตมั่นใจเลย !

     

     

    ++++++++++++++

     

                ผมยืนอยู่หน้าหอชายตึก3ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับหอผม เพราะกำลังรอไอ้ซุปเปอร์แมนที่มันโทรมาบอกผมว่าให้รอมันที่หน้าตึกด้วย เพราะวันนี้พวกผมนัดจะไปอาบน้ำพร้อมกัน โดยที่พวกไอ้เจกับผมจะไปเจอกันที่นู้นแต่ไม้โทมันบอกให้รอไปพร้อมมันเลย  ว่าแต่นี่ก็ยืนรอมานานละนะปวดขาว้อย~

     

                ผมหยิบบีบีในกระเป๋ากางเกงตัวเองขึ้นมากดดูเวลา บนหน้าจอที่เป็นรูปผมกำลังกินกล้วยอยู่บอกเวลาว่าอีก 15 นาทีจะ 5 โมงเย็น เวลาประมาณนี้คนต้องเยอะแน่ๆเลย ขี้เกียจแย่งกันใช้นะ ลงๆมาสักทีเหอะ

     

                ผีหลอก!!”

     

                เฮ้ยยย!!

     

                ผมสะดุ้งโหยงพร้อมกับอุทานออกไปด้วยความตกใจ ทันทีที่มีคนมาตะโกนใส่ผมจากทางด้านหลัง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้ไม้โท ให้กูรอนานแล้วยังมาแกล้งกูอีกหรออออออ

     

                ไอ้เชี้ย ตกใจหมดสัส ลงมาช้ายังจะมาแกล้งกูอีก ผมไม่พูดเปล่าแต่วิ่งไล่เตะมันเป็นการล้างแค้นไปด้วย ไอ้ไม้มันก็วิ่งหนีไปหัวเราะไป ไอ้สัส อย่าหนีเลย ขอกูสักทีเหอะ

     

                เฮ้ยๆๆ อะไรๆๆ กูไม่ได้แกล้ง แค่บอกเฉยๆว่าผีหลอกมึงตกใจเองนะ ฮ่าๆๆๆ เออ กูผิดใช่มะ

     

                พอวิ่งไล่เตะไอ้ไม้ ได้1ทีผมก็หยุดเพราะเหนื่อย แม่งวิ่งเร็วเพราะขามันยาวกว่าผมสินะ เหอะๆ แต่วิ่งไปวิ่งมาพอเงยหน้ามาอีกที ก็มาหยุดอยู่ตึก2 ตึกนี่แหละที่พวกผมนัดกันมาอาบน้ำ ไอ้เจบอกมันจะเป็นเจ้าภาพพาผมเปิดซิงห้องอาบน้ำตึกนี้เอง ผมก็เออออกับมันไปอีกเพราะคิดว่าอาบที่ไหนมันก็ได้อาบน้ำเหมือนกันแหละ -__-

     

                โอ่โหห ไม่มากันพรุ่งนี้เลยละ พอตีนกูก้าวพ้นบันไดหน้าตึกก็เห่ากันต้อนรับกูเลย เยี่ยมม

     

                อะไรกูไม่ผิด ไอ้ไม้นู้นลงมาช้า

     

                อะไรยังไม่ได้ว่ามึงเลย กูพูดลอยๆๆ

     

                ไอ้เหี้ยเจนิ่ - -*

     

                อ้าว ไอ้มิ้นต์ไม่ได้อยู่กับพวกมึงหรอ? ไม้โทถาม เออนั่นดิ่ตอนแรกผมก็กำลังจะถามไอ้ไม้ว่ามิ้นต์ไปไหนทำไมไม่ลงมาพร้อมมัน ตอนแรกก็นึกว่ามาก่อนแล้วแต่นี่ไปไหนหว่า

     

                เห็นมันบอกว่ามีธุระ เดี๋ยวจะตามมามั้ง

     

                เออๆๆ งั้นไปอาบเลยละกันกูร้อนน~”

     

                พอผมพูดจบก็เดินไปดึงคอไอ้เจให้เดินตามกันเข้าโรงอาบน้ำทันที  โรงอาบน้ำของตึก2 เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของทั้งสี่ตึกเลยก็ว่าได้ครับ จากที่ไอ้เจเล่าให้ผมฟังเหมือนกับว่าตึก2เป็นตึกเก่าแก่ที่ถูกสร้างไว้มานานแล้ว แล้วตอนนั้นผู้อำนวยการยุคนั้นเค้าทุ่มงบสร้างโรงอาบน้ำเพิ่มเพราะมีเด็กร้องเรียนว่าของตึก1มันเล็กไป ผู้อำนวยการคนนั้นเลยทุ่มงบสร้างโรงอาบน้ำที่ใหญ่กว่าเดิมขึ้นมา พอต่อๆมาที่มาทำตึก3กับตึก4เพิ่มก็เลยสร้างโรงอาบน้ำไซส์ธรรมดาๆ เพราะมันพอเพียงกับจำนวนคนแล้ว

     

                และเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้เลย 5 โมงกว่าๆ คนแม่งโครตเยอะเลยเหอะ เหมือนมันนัดกันมาอาบที่นี้หมดเลยยังไงอย่างงั้น

               

                ในโรงอาบน้ำแห่งนี้จะมีห้องแยกย่อยๆไว้เป็นห้องๆล็อคๆยาวสุดลูกหูลูกตา อีกฝั่งจะเป็นสำหรับไว้ถ่ายหนักถ่ายเบายิงกระต่าย มีพื้นที่สำหรับล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็มีตู้ล็อคเกอร์สำหรับใส่เสื้อผ้าที่จะเอามาเปลี่ยนข้อเสียมันอาจจะอยู่ตรงที่ตู้ล็อคเกอร์ที่ว่ามันมีเอาไว้แค่เก็บเสื้อผ้าตอนเราไปอาบน้ำเท่านั้นฉะนั้นจะไม่มีของใครของมันตายตัว สลับไปเรื่อยๆ อันไหนว่างก็ใส่อันนั้นและไม่มีอะไรล็อคเพราะใช้กันแค่แป๊ปเดียว ฉะนั้นไอ้เจบอกว่าของมีค่าอย่าพกเข้ามาท่าไม่จำเป็นจริงๆ

     

                งี้กูพกโทรศัพท์มาจะรอดปะว่ะ -__-‘’

     

               

    เฮ้ยๆ กูได้ยินมาว่า วันนี้พวกพี่ฝุ่นมาอาบโรงใหญ่นี้ด้วยว่ะ

     

              เฮ้ย มาทำไม ปกติพี่เขาไม่เคยมาเลยนะ

     

              กูก็ไม่รู้ ได้ข่าวว่าเขาจะมารับเด็กใหม่ตึก2แทนพี่จ๋ายมั้ง

     

              ซวยหมดเด็กใหม่

     

              “เออ กูก็ว่างั้น

     

             

              เหมือนปัญหาตัวเดิมกำลังจะวิ่งเข้ามาหาผมอีกแล้วนะ รับน้องตึก2เหี้ยอะไร มารับในห้องน้ำ!!!

     

              ตายห่าแล้วไอ้ไผ่กูลืมบอกมึง..

     

                บอกอะไร ถ้าเรื่องที่กูได้ยินเมื่อกี้ ไม่ต้องบอกแล้ว กูรู้แล้ว!!”

     

                ผมถอดเสื้อแล้วยัดใส่ล็อคเกอร์ช่องที่ว่างตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ขนาดกูจะอาบน้ำยังจะมาทำให้กูหงุดหงิดอีกกกกก

     

                เออ มันคงไม่มีอะไรหรอกมึงอย่าคิดมาก...ว่าแต่ตอนเกิดแม่มึงแดกหลอดไฟเข้าไปหรอว่ะ ทำไมขาวชิบหาย

     

                ไอ้เจที่เดินมาตบๆไหล่ผมเปลี่ยนประเด็นมาเล่นกับตัวกูอีกแล้วครับ ขาวตรงไหนนี่ดำขึ้นเยอะแล้วนะหนีไปเที่ยวทะเลบ่อย

     

                ผมเอาผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวตังเองแล้วจัดแจงถอดกางเกงนักเรียนที่ใส่อยู่ออกมา แต่กางเกงในยังไม่ถอดกันเหนียวเผื่อใครอุตริวิ่งมากระตุกผ้าเช็ดตัวผม ไผ่น้อยจะได้ไม่ออกไปผงาดง้ำ

             

    เฮ้ยย มากันแล้วว่ะ มาตอนไหนว่ะ

     

              กูยังไม่ได้ใส่ผ้าเช็ดตัวเลย

     

              เด็กใหม่ตึก2 ทั้งหมดรวมตัว!!”

     

                เสียงคุ้นๆคงไม่ต้องบอกว่าใคร

     

                เหล่านักเรียนชายที่พึ่งย้ายเข้าตึก2ใหม่ทั้งหมด แถบจะวิ่งถลาเข้าไปยืนรวมแถวกัน อาจจะมีคนลักไก่ไม่เข้าแถวก็ได้นะ แบบถ้าเป็นผมผมคงไม่วิ่งไปให้โง่หรอก ว่าแต่มันเข้ามาตอนไหนว่ะ ใส่ผ้าเช็ดตัวเสร็จสับละด้วย

     

                พี่เป็นตัวแทน แทนไอ้จ๋ายที่มันไม่ว่างมารับพวกน้องตึก2 เพราะมันติดภารกิจต้องไปดูงานต่างโรงเรียนและกลับมาไม่ทัน จ๋ายมันกลัวว่าน้องๆตึก2จะต้องรอนาน เลยส่งพี่มารับแทน…” ไอ้ไต้ฝุ่นพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำคนทั้งโรงอาบน้ำเงียบ ผมก็เงียบนะ เงียบฟังมันโม้ หึๆ

     

                น้องรู้มั้ยว่าการที่น้องได้เข้ามาอยู่ตึก2น่ะ ดีขนาดไหน ตึกนี้เหมือนตึกพิเศษ ทุกอย่างดูมีอภิสิทธิ์มากกว่าตึกอื่น ทั้งโรงอาบน้ำ สวัสดิการ ห้องนั่งเล่นต่างๆของหอ ก็ได้เยอะกว่าหออื่น ฉะนั้นมันเป็นประเพณีของหอที่จะจัดการรับน้องเป็นกรณีพิเศษให้กับเด็กตึก2ทุกคน เพื่อที่จะได้รู้ว่า การได้รับความพิเศษมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆในโรงเรียน จะต้องดูแลรักษาและใช้มันให้คุ้มค่าขนาดไหน

     

                ตอนกูขึ้น ม.4 ใหม่ๆพวกกูก็โดนเพราะย้ายมาอยู่ตึกนี้แหละ

     

                ไอ้เจก้มลงมากระซิบให้ผมฟังเบาๆ ผมพึ่งสังเกตว่านอกจากไอ้ไต้ฝุ่นแล้ว คนที่ยืนอยู่ข้างหลังมันก็มีไอ้วินกับผู้ชายที่หน้าไม่ค่อยคุ้นผมเท่าไหร่ แต่วันนี้เหมือนจะเห็นมันตอนผมเข้าห้องคณะกรรมการนักเรียน

     

                ว่าแต่หมั่นไส้ไอ้ไต้ฝุ่นว่ะ พูดมาก

     

                ปีนี้เวลาพวกพี่มีเวลาไม่มากแค่อยากจะบอกน้องๆ ม.4 ที่ขึ้นมาตึก 2 ทุกคนว่า พี่ให้เวลา 20 นาที กับ

     

                เคร้งงง!!

     

                “โทษทีขันแม่งหลุดมือว่ะ

     

                ผมเองแหละ พอผมสลัดมือไอ้เจที่แม่งจับรั้งผมไว้แล้วทำหน้าประมาณว่า อย่าหาเรื่องออกไปได้ ผมก็หอบขันแปรงสีฟันสบู่ยาสระผม ออกมาตรรงแถวๆ อ่างแปรงฟันซึ่งพวกมันกำลังชุมนุมกัน คนอื่นไม่มีใครเขากล้าทำอะไรทั้งนั้น ฉะนั้นพอผมทำขันหลุดมือ มันเลยทำให้คนทั้งโรงอาบน้ำรวมสายตามาไว้ที่ผมแทบจะเป็นจุดเดียว

     

                อยู่ดีๆก็เสียวสันหลังวาบ

     

                ขันหลุดมือมึงถูกจังหวะดีนะ…” เฮ้ย พูดเฉยๆก็ได้เดินเข้ามาหากูทำไม ไม่ต้องเดินเข้ามา สภาพกูตอนนี้มันหวาบหวิวไปนะ อย่าเดินมา

     

                ให้กูใส่เสื้อก่อน

     

                มีสักวันที่มึงจะไม่กวนตีนกูบ้างมั้ย

     

                ไต้ฝุ่นมาหยุดยืนเท้าสะเอวแอ่นนมใส่หน้าผม ไอ้เหี้ย เดี๋ยวกูก็ดีดหัวนมให้หลุดแม่งเลย

     

                อะไร ใครหาเรื่องมึงก็กูบอกแล้วไงว่าขันมันหลุดมือเอง ไม่ได้หาเรื่องแต่เรื่องมันวิ่งมาให้หา -..-

     

                สงสัยไม่ต้องรอให้กอลิล่าจัดการมึงแล้วมั้ง..”

     

                อะไรมึงจะทำอะไรกู

     

                ไต้ฝุ่นไม่พูดเปล่าแต่มันก้าวเข้ามาหาผมช้าๆด้วย ผมกำสบู่ในมือตัวเองแน่นจนมันลื่นหลุดตกลงไปที่พื้น

     

                กูไม่ทำ เฮ้ย!! ระวัง

     

    อ๊ะ...

     

                เหมือนเท้ามันติดสเก็ต ลื่นไปข้างหน้า สบู่ก้อนเท่าควายที่ผมทำหล่นเองและตัวเองก็กำลังเหยียบเอง มันทำให้ผมกำลังเสียหลักหงายหลัง กูจะฟาดแล้ว หัวจะฟาดแล้ววววว...

     

                ตุ้บ...

     

                ผมหลับตาปี๋พยายามทำใจกับความเจ็บปวดที่จะได้รับ แต่เหมือนข้อมือผมถูกกระชากไปโดยใครสักคน และสิ่งที่ได้รับกับเป็นอะไรแข็งเหมือนตัวคนมากกว่า ตัวใหญ่กว่าผมด้วย ความรู้สึกอย่างนี้มันคล้ายๆตอนที่ผมบุกแปลงเกษตรเลย คล้ายๆ….

     

                หะ..เห้ยย

     

                มึงนี่มันตัวซวยจริงๆ

     

                ผมเงยหน้าพร้อมลืมตาขึ้นไปมองหมอนรองที่รับตัวผมเอาไว้ คือสภาพของไอ้ไต้ฝุ่นที่เปลือยอกท่อนบนทำหน้าเหยเกเหมือนมันเจ็บมากมายอะไรขนาดนั้น กับผมที่นอนอยู่บนตัวมัน ในสภาพที่ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว....

     

                ให้ตายเหอะ กูอยากหายตัวได้!!!!!!!!!

     

              -/////////////////-
    ************************************************

    คนเขียน Talk !!!

    แล้วก็ลงต่อแล้ว ฮริ้วววววววววว จุดพลุ~ หนุ่มอาบนเ อยากอาบด้วยจริงๆเลย ฮิฮิ

    น้องไม้โทน่ารักอ้ะดิ่ แต่เค้าไม่ให้ กร้ากกกกกกกกกกกกก ไปแล้วว เจอกันตอนหน้า ;)

     

     

     

     

               

     

     

     

     

               

     

               

     

               

     

     

                    

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×