คุณครู(เฉพาะ)กิจ
มีเพียง 2 สิ่งที่ฉันคิดว่าต้องทำมันสำเร็จให้ได้ อย่างแรก คือ ช่วยโคลดฟรีออนของราชินีหิมะจากพวกกบฎ และสุดท้าย ก็คือช่วยริวจากเฮดีส แต่สิ่งที่ฉันไม่คิดว่าทำไม่ได้ก็คือ . . . พลังของตัวฉันเอง
ผู้เข้าชมรวม
52
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ 1
กำเนิดราชินีหิมะ
ณ ดินแดนแห่งน้ำแข็ง แอสแลนติส ได้มีอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาลตั้งรกรากบนดินแดนอันหนาวเหน็บแห่งนี้อยู่ มีราชาและราชินีและพระญาติพระวงศ์ที่ปกครองในดินแดนแห่งนี้ ทรงปกครองไพร่ฟ้าอยู่เย็นเป็นสุข อยู่มาวันหนึ่งองค์ราชินีก็ได้ทรงครรภ์ และพอครบกำหนดพระนางก็ได้ประสูติพระราชธิดาองค์น้อย
หน้าตาน่ารักน่าหยิก แลเส้นผมที่เป็นสีขาว แต่สีขาวนั้นเป็นสีขาวที่ดุจสีของหิมะ ใบหน้าอันกลมเกลี้ยงเองก็เช่นเดียวกัน แต่แม้สีผิวกายของพระธิดาก็ด้วย ไม่ว่าจะเป็นดวงตากลมโตที่ป็นสีขาวออกสีเงินหน่อยๆ เป็นผลให้พระราชธิดาผู้ใช้ร่ายเวทย์มนต์น้ำแข็งพร้อมกับการควบคุมสายน้ำได้
ซึ่งเป็นที่พอพระทัยขององค์ราชาและเป็นที่รักอย่างยิ่งยวดพระญาติพระวงศ์ทุกพระองค์และราษฎร์ทุกผู้ทุกนามในที่แห่งนั้น ต่อมาพระราชธิดาก็ได้เติบใหญ่เป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมงามสง่า ถ้าจะให้บรรยายความสง่างามของพระราชธิดานั้นก็ได้แต่ประมาณเอาไว้ว่า ‘…พระเกศาสีขาวทอแสงเงางามวิบวับ พระขนงที่โก่งดั่งคันศรราวมีดกรีด ใต้พระอุณาโลมสีขาวมีพระเนตรที่สีดุจดั่งสีของสร้อยเงิน รับกับพระนาสิกโด่งเรียวงอนงาม พระโอษฐ์ระเรื่อราวกับใบไม้แรกผลิ พระฉวีเมื่อต้องแสงรวีจะเป็นประกายงดงาม เครื่องหน้าแต่ละชิ้นยังสง่างามไร้ที่ติแล้ว ยิ่งเพิ่มความงามเข้าไปอีกด้วยชุดกิโมโนสีขาวบริสุทธิ์ …’ นามของนางผู้นั้นคือ …. ชิราคาเสะ
“เฮ้ย ! พี่เลิกฝันกลางวันซะทีเหอะ ! แล้วไปสอนเด็กนักเรียนได้แล้วครับ !!! ”
“อะ อ้าว! เฮ้ยงั้นเหรอ ? ‘โทษทีๆ จะไปเดี๋ยวแหละ” ชายหนุ่มพูดกับชายอีกคน ถ้าจะให้คาดคะเนจากใบหน้าเขาคงจะสามสิบปลายๆ แต่นั้นมันไม่ใช่ เพราะอันที่จริงเขาเพิ่งจะยี่สิบปลายๆเอง แต่สาเหตุที่เขามีใบหน้าแก่กว่าอายุจริงนั้นคงจะเป็นฤทธิ์ของสุราที่ดื่มเข้าไปก็เป็นได้
“ออดดังแล้วนะครับ เพราะงั้นไปได้แล้ว” ชายหนุ่มที่มีอายุอ่อนกว่าเขากำชับเขาอีกทีหนึ่ง
“แล้วเมื่อกี้ นายเล่าจบตั้งแต่เมื่อไหร่กันห่ะ ? ริว” เขาถามชายหนุ่มคนนั้น
“ก็เมื่อครู่นี้เองครับ แต่ก่อนหน้านั้นพี่ก็ดันหลับคาทีซะงั้นอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ฮึ่ม! แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะเจ้าบ้า ! ” เขาตวาดแวดใส่ริว
“ฮ่าๆๆ ทำไมจะไม่ให้ผมหัวเราะล่ะ ก็จะมีใครเค้าฝันกลางวันถึงเจ้าหญิงหิมะกันในขณะที่เล่ากันอยู่หรอก ไม่มี๊! ไม่มีใครเค้าทำแบบพี่กันหรอก ฮ่าๆ! เพราะ เรื่องของเจ้าหญิงหิมะอะไรนี่ก็แค่เรื่องเล่าปรัมปราก็เท่านั้นเองนะครับ ” จากคำพูดของริวมันเหมือนกับทำให้สายฟ้ามันผ่าลงที่กลางใจของเขาเลย
“อา .. ฉันก็ได้แค่ฝันสินะ งั้นชั้นขอไปสอนก่อนละ” สิ้นสุดประโยคนั้นเขาก็หยิบคอมพิวเตอร์ และของที่ใช้สำหรับการสอนออกไปจากห้องพักครูทันที
ก็นะถึงเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็เถอะตัวของเขาเป็นถึงครูที่สอนวิชาสังคมเด็กมัธยมของโรงเรียนสตรีที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยเลยที่เดียวเชียว แต่เขาก็ทำหน้าที่สอนเพียงแค่อย่างเดียว ยังต้องเป็นครูประจำชั้นของเด็กนักเรียนในวัยต้องเตรียมสอบเอ็นอีก ถึงจะเป็นเด็กผู้หญิงก็ตามที แต่เห็นไหนๆก็ออกแนวกวนๆ และไม่ค่อยจะฟังเขาซะเป็นส่วนใหญ่ ในแต่ละวันก็วุ่นวายซะหยังกะอะไรดี ตกเย็นก็ยังต้องเคลียร์เอกสารของทางกลุ่มสาระอีก แต่เมื่อเสร็จแล้วเขาก็จะได้กลับวิมานอันแสนสุขของเขา ซึ่งในชีวิตเขาคิดว่าอยู่ที่ไหนไม่สุขใจเท่ากับอยู่บ้านเขาแล้ว
“หา-ววว เฮ้อ! เยอะชะมัดเลยวันนี้ ” นั่นเป็นคำสถบที่หลุดออกจากปากของเขา
แต่เมื่อเขาหันกลับมองนาฬิกาเป็นต้องได้ยินเสียงถอนใจที่แสนหนักอึ้งออกจากปากของโทคุโตะ เพราะว่ามันจะห้าทุ่ม ..อีกแล้ว!
“เฮ้อ ! วันนี้ก็ต้องกลับดึกอีกแล้วสินะ มีวันไหนต้องไม่กลับดึกแบบวันนี้อีกละเนี้ย …” ว่าแล้วเขาลุกจะที่นั่งทันที ดูจากคำพูดเขาคงต้องเกลียดการกลับบ้านดึกเป็นแน่ๆ เพราะว่ามันเลยเวลาการกลับบ้านของเขามานานพอสมควร
คาเลน เทย์ท นั้นคือชื่อของเขา คาเลนเองนั้นเป็นเพียงคนธรรมดาของโลกใบนี้ ซึ่งที่เขาไม่ได้มีญาณวิเศษ ไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ต่างๆในอนาคตที่กำลังถึงนั่นได้
เพราะว่าเขาคิดว่า อะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด ขนาดคนจะเกิดอะไรจะหยุดได้
ฟังดูตลกแต่มันก็เป็นเรื่องของโลกนี้ เขาคิดแบบนั้นแต่อนาคตที่เขาไมได้คาดฝันมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว
ขณะที่เขากำลังถอยจักรยานยนต์กลับบ้านของเขา ก็ได้ผ่านตามซอกตามซอย ถนนเล็กใหญ่ เห็นตึกรามบ้านช่องของผู้คน ตามถนนแถวนั้นบางก็เปลี่ยนไปเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่โตโออ่า หรือไม่ก็เป็นร้านอาหารแทรกอยู่ตามแทบนั้นไปเรื่อยๆ เขาเห็นวิวทิวทัศน์เหล่านี้ไปได้เรื่อยไม่รู้เบื่อ บางทีบางนั้นคนเยอะบางน้อยบางหรือแล้วแต่ที่ที่แถวนั้นจะเป็นพิเศษอะไร จนถึงทุกวันนี้ที่เขาทำอาชีพครูนี้ก็เกือบๆจะสามปีแล้วสินะ เขาขับจักรยานยนต์ของเขาตามทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีลำแสงสีขาวสาดส่องเข้าตาเขา มันทำให้คาเลนเห็นเงาสะท้อนสีดำ ถ้าดูไม่ผิดน่าจะเป็นเงาของผู้หญิง แต่เมื่อเขาเห็นจุดศูนย์กลางเงานั่น ปรากฎว่านั่นมันเป็นเงาของผู้หญิงจริงๆ เป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่าสูงพอประมาณเลย สวมชุดกิโมโนสีขาว อ..อะไรกันน่ะ!ทำไมกันร่างของหญิงสาวที่คาเลนเห็นอยู่แทบในระยะประชิดนี่มัน !
เขาเริ่มขับจักรยานยนต์เข้ใกล้ร่างของหญิงสาวคนนั้นเต็มที่ ว่าแล้วเขาหักหลบจักรยานยนต์ของเขาไปข้างทางชนกับต้นไม้ที่อยู่ตรงนั่นเข้าจังๆ ทำให้คาเลนเวี่ยงตัวเองไปจากจุดเกิดเหตุและกลิ้งหลุนๆอยู่หลายตะหลบอยู่ประมาณหนึ่ง ยังดีที่เขาสวมกันน็อคไม่งั้นเขาคงได้น็อคคาที่แน่ เมื่อรู้สึกอีกครั้งเขาก็เริ่มตั้งสติยังดีที่ศีรษะของเขาไม่เป็นอะไร แต่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่พอรู้สึกชาแทบไปทั้งตัวและพยายามระลึกชาติของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้นี้
มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาไปชนกับอะไรเข้าบางซะโครมบะเริ่ม เมื่อตั้งสติได้คาเลนก็เริ่มลุกขึ้นแล้วมองหาสาเหตุที่เป็นตัวการทำให้เขาต้องบาดเจ็บในเวลาแบบนี้ เขามองเท่าไรก็หาไม่เจอจนมีใครบางคนสะกิดไหล่เขาจากข้างหลัง …
“นี่ เจ้าน่ะ ” นั่นเป็นเสียงของหญิงสาว เขารู้สึกว่าแล้วเลี่ยวหลังมามองทำให้ต้องสะดุ้งเฮือก !
“ฮะ เฮ้ย ! ผีนี้หว่า!!! ” คาเลนร้องลั่นโดยที่เขาไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะทำหน้ายังไงเมื่อถูกเขาเรียกแบบนั้น
“นี่ ! จะบ้าหรือไงกันนะ! เจ้าน่ะมีสิทธิ์อะไรมาเรื่องข้าแบบนี้น่ะ พูดอะไรไม่คิดเลยหรือ ดูนี้ให้ดีซะก่อนสิ! แล้วค่อยพูดน่ะ” หญิงสาวชี้ไปที่ชุดกิโมโนสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งถ้าดูให้ดีแล้ว เป็นผ้าไหมเซมปาคุคาฮาซานะ* แต่จะดูไม่ค่อยเก่าถึงผ่านชั่วระยะเวลาหนึ่งมาแล้ว
“อ..เอ๋ ขอโทษทีครับ คุณนางฟ้า ” หล่อนทำหน้าบูดแล้วชี้ไปที่ส่วนเท้าของหล่อนซึ่งมันยังเป็นเท้าอยู่ ถึงส่วนชายกิโมโนจะปิดอยู่ก็เถอะ
“อ…อ้าวก็ยังเป็นมนุษย์อยู่หรอกเหรอครับ ต้องขอโทษทีจริงๆนะครับที่ตาของผมมันไม่จริงๆถึงน่ะครับ ” โทคุโตะขอโทษเธอเป็นการใหญ่เพราะความไม่รู้ของเขาจริงๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ข้ายกโทษให้ ว่าแต่..เจ้าน่ะเป็นคนแถวนี้ใช่หรือเปล่า ? ”
“ จ้า ! ” เขาตอบกลับเธอไปอย่างอารมณ์ดี เพราะที่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนหน้าตาสะสวยขนาดนี้มาก่อนเลย สวยงามหมดจนไปซะทุกอย่าง และที่สำคัญ !
สีผิวกายของเธอนั้น ช่างขาวราวกับหิมะปกคลุมที่ร่างกายของเธออยู่เลย ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมเอย ขนคิ้วเอย ขนตาเอย ริมฝีปากที่เห็นเพียงเป็นสีแดงระเรื่อ กระทั่งดวงตาที่เป็นสีเงินส่องประกายสุกใส ช่างน่าหลงใหลซะยิ่งกว่าอะไรดี
“ นี่เจ้าน่ะ … มองอะไรอยู่น่ะ ”
“ อ่ะ เอ๋! เปล่าไม่มีอะไร ” เขาตอบแก้ตัวทั้งไปแบบนั้นทั้งๆที่เขาเหม่อเพราะมองเธอคนนั้นอยู่
“ งั้นก็แล้วไป ” เธอพูดเสร็จก็หันหลังให้เขาทันที แต่เธอเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออกเลยหันมากทางเขาอีกที
“ นี่ เจ้าน่ะ ข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆนะ ที่ทำให้ตกใจแล้วก็ต้องมาบาดเจ็บเพราะข้าแบบนี้น่ะ ข้าขอโทษจริงๆข้าไม่ได้ตั้งใจ ”
คาเลนเห็นแววตาสีเงินของเธอแสดงความสำนึกผิด ทำให้เขาต้องพูดอะไรบ้าง เพื่อตอบแทนคำขอโทษของเธอ เพราะถ้าเป็นคนอื่นก็คงโวยวายใหญ่แล้วล่ะ
“เอาเถอะน่า ฉันเองก็เกือบจะขับรถมาชนเธอเหมือนกัน แถมตัวฉันเองก็ยังแทบไม่เป็นอะไรเลยด้วย ”
เธอก้มลงมองที่แผลถลอกที่แขนของเขา แต่เขายังไม่เห็นมันไม่ใช่แผลที่เล็กๆอย่างแผลถลอกเลย แต่กลับเป็นแผลใหญ่ที่ทะลุแขนเสื้อเข้าไปเป็นแถบๆเลย
“ ..แล้วนั้นอะไร” เธอชี้นิ้วไปที่แขนข้างขวาของเขา
“หา?” เขามองทางเธอก่อนที่จะมองที่แขนจองตนเอง
“โอ๊ย! เจ็บ! เจ็บเป็นบ้าเลย โอย!” เขาเอามือซ้ายกุมแผลของแขนข้างขวาและร้องโอดโอย
“ไม่ต้องโอดโอยไปหรอก ข้าจะช่วยเจ้าเอง” แล้วหญิงสาวคนนั้น ก็รักษาเขาพลังที่เธอมีมาตั้งแต่เกิด
คาเลนมองวิธีการรักษาของเธอที่ดูแปลกประหลาดจากการรักษาของแพทย์ทั่วๆไป เขาอึ้งสนิทไปโดยปริยาย
“…” เขาเงียบไปโดยทำที่อะไรไปไม่ได้มากกว่าการมองดูอีกในตอนนี้ และเขาก็อดไม่ได้ที่เอยปากถามคำถามหนึ่งกับเธอคนนั้น
“นี่ …เธอน่ะ”
“หือ มีอะไรงั้นเหรอ” หญิงผมขาวขานรับเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“ฉันขอถามคำถามหนึ่งกับเธอ ..คงไม่ว่าอะไรสินะ”
“ได้สิ ถามมาเลย ” เธอท้าเขาเพื่อที่จะได้คำถามที่เขาอยากถามเธอ
“งั้นถามล่ะนะ…เธอน่ะไม่ใช่คนปกติทั่วไปแบบฉันใช่ไหม ?” จริงๆเขาไม่น่าจะถามแบบนี้ เพราะอย่างไรซะเขาก็คาดการณ์กับคำตอบที่กำลังได้มันนับจากนี้ได้อยู่แล้ว
“แล้วถ้าฉัน ..ตอบว่าไม่ใช่ล่ะ” นั่นเป็นคำตอบที่เขาได้จากเธอ เขาเข็มขัดสั้น*ทันที
“...ม หมายความว่าใช่ ..ใช่ไหม?”
“ฮิ” หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร จึงได้แต่หัวเราะคิกคัก เลยทำให้ชายหนุ่มหน้าเสียทันใด
“แม่มด แม่มดสินะ ใช่ไหม?”
“อะไรของเจ้าน่ะ คิดเจ้าจะตอบว่าผู้วิเศษซะอีก แต่ว่าข้าเป็นพวกแม่มดนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ”
“เอ่อ…ขอโทษทีนะ คือว่าฉันไม่รู่จริงๆว่าเธอเป็นพวกประเภทไหนน่ะ เธอช่วยบอกฉันหน่อยได้หรือเปล่าล่ะ”
เขาไต่ถามเธออย่างอ้อมๆเผื่อว่าเขาจะได้รู้อะไรบางอย่างจากเธอ ซึ่งเขาก็คาดเดาจากสีหน้า ท่าทีของเธอออกว่า เธอคงไม่ได้ให้คำตอบของคำถามนี้ได้ง่ายๆ และแล้วเธอก็ปริปากพูดหลังจากที่ไม่ได้พูดมาครู่หนึ่ง
“..ความลับ” นั้นเป็นคำตอบที่เขาได้มันอีกครั้งหนึ่ง มันเป็นไปอย่างที่เขาคาดเดา ไม่ใช่ก็คล้ายกัน
แต่คราวนี้เป็นความคล้ายกัน ทว่าตอนนี้ก็พลบค่ำแล้ว เขาจึงถามที่อยู่ของเธอ
“อ๋อ! งั้นเหรอก็ได้ ไม่บอกก็ไม่บอก ว่าแต่ บ้านเธออยู่ไหน ให้ฉันไปส่งมั๊ยล่ะ”
“ข้าต้องเป็นถามเจ้ามากกว่า ว่าที่นี่ที่ไหน”
และนั้นก็เป็นคำถามที่ทำให้เขาเข็มขัดสั้นอีกแล้ว อะไรมันซับซ้อนขนาดนี้กันนะ
‘แต่ทำไมวันนี้ ฉันถึงเข็มขัดได้ทุกวินาทีเลยนะ’ ตัวเขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“เป็นอะไรของเจ้าน่ะ มัวพึมพำอะไรกับตัวเจ้าเองอยู่นั่นล่ะ”
“อ๋อ! เปล่าหรอกไม่มีอะไร ฉันแค่สงกาอยู่กับตัวเองน่ะ”
“สงกา ? ... อะไรคือสงกาของเจ้างั้นรึ?”
“เอ้า สงกาก็สงกาสัยไง”
“กะทำให้ข้าหัวเราะหรืออย่างไงกัน”
“อะไรของเธอน่ะ แค่วิธีการพูด หรือกระทั่งท่าทางของเธอเนี๊ยะ หยั่งกับคนโบราณเลยแฮะ เป็นสตรีผู้หลงยุคหรือไงกันเธอน่ะ?”
คาเลนยืนขึ้นแล้วจ้องมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่เขาไม่เห็นปลายเท้าของหญิงสาวนิรนามคนนั้น เพราะชุดที่เธอสวมเป็นชุดกิโมโนสีขาวยาวลากพื้น
“สตรีผู้หลงยุคอะไรของเจ้าน่ะ?” หญิงสาวยังคงงุนงงกับคำพูดของเขา
“เอาเถอะ แต่ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” ว่าแล้วคาเลนเดินก็ไปที่รถจักรยานของเขาตรงจุดเกิดเหตุ แต่ทว่ามันไม่ได้อยู่ในสภาพที่ขับไปไหนได้ชนิดที่ว่าเกือบจะพังหยับ มันทำให้เขาชะงักทันทีที่เห็นรถอยู่ในสภาพแบบนั้น
“แล้ว…เจ้าจะกลับไปอย่างไรล่ะ” เขายืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาใดๆทั้งสิ้น ซักพักก็ได้ยินเสียงเขาตะโกนออกมา
“ไม่ !!!!!” เสียงเขาดังลั่นไปรอบๆบริเวณ ตามด้วยเสียงของหญิงสาวนิรนามคนนั้น
“ข้าถึงได้ถามเจ้ายังไงล่ะว่า เจ้าจะกลับไปที่ที่เรียกว่า บ้าน แห่งนั้นอย่างไร” พอเธอพูดจบคำถามของเธอ ทำให้คาเลนคิดหนักเลยที่เดียว
“นั่นแหละ ที่ฉันถึงคิดอยู่นี้ไง ป่านนี้รถคันสุดท้ายคงจะผ่านไปแล้วล่ะ โอย!!!” เขากระวนกระวายใจเป็นอย่างมากเลยที่เดียว
“งั้น …เจ้าก็จับมือข้า แล้วนึกถึงที่ที่เจ้าจะไปน่ะ” เธอพูดเสร็จเขาทำตามทันที
‘ นี่ …มันอะไรกันเนี้ย’ เขาพูดในใจ
ผลงานอื่นๆ ของ Pinyo_Iron ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Pinyo_Iron
ความคิดเห็น