ลำดับตอนที่ #36
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ริวจิน มุ่งสู่ตะวันตก ตอนที่02
"และคนที่รู้ความลับของฤาษีสนธยาก็เช่นเดียวกัน!"
ชายในชุดดำลึกลับปรากฎตัวอย่างกะทันหันต่อหน้าริวจิน พร้อมทั้งคำขู่อาฆาตว่าจะสังหารเขาโทษฐานที่รอดตายจากพิษแถมยังล่วงรู้ความลับของฤาษีสนธยา แต่ริวจินก็หาได้หวาดกลัวกับคำขู่สั่ว ๆ เช่นนี้ไม่ เขาฉวยโอกาสเปิดฉากโจมตีก่อนในทันทีด้วยกระบวนท่ามังกรราชันรุ่งฟ้าเบิกอรุณ แรงกดดันของกำปั้นส่งผลให้พื้นดินแยกแตกเป็นรอยใหญ่ในทันที ส่วนอีกฝ่ายก็ตั้งรับอย่างใจเย็น มันไม่เสี่ยงปะทะโดยตรงจึงเลี่ยงด้วยการผลักดันพลังหมัดของริวจินให้สะท้อนออกด้านข้างแทน
"ฮึ่ม!"
แม้จะพลาดหมัดแรก แต่นั่นเป็นเพียงคำทักทายเพราะเขาคาดไว้แล้ว จึงออกหมัดชุดที่สองตามไปติด ๆ และคราวนี้มันเข้าเป้าแทบทั้งหมด ชายในชุดดำเองก็ว่องไวแต่ยังไวไม่พอจะหลบได้ทั้งหมด จึงโดนเข้าไปจัง ๆ กระเด็นล้มกลิ้งไปกับพื้นในทันที
"วางใจเถอะ ข้ายั้งมือไว้แล้วเพราะจากนี้ยังมีเรื่องต้องถามจากแกอีก"
เมื่อริวจินกล่าวจบชายคนนั้นก็กระอักเลือดออกมา ดูจากปริมาณแล้วภายในมันต้องบอบช้ำน่าดูเลยทีเดียว แต่ยังฝืนตอบโต้ด้วยฝ่ามือที่คมกริบดุจใบมีดเหล็กไหล ความรวดเร็วรุนแรงนั้นไม่เป็นสองรองใครแน่ แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าเจ้าแห่งมังกรราชันแล้วก็วิชาของมันก็ไร้ความหมาย เพียงแค่ริวจินสะบัดปลายข้อมือเบา ๆ แขนทั้งสองข้างของศัตรูก็ขาดกระเด็น ส่งให้เลือดสด ๆ พุ่งกระจายพร้อมด้วยเสียงร้องโหยหวนจากความเจ็บปวดของมัน
"อย่างนี้นี่เอง... นี่คือเพลงหมัดมังกรราชันในตำนานสินะ?"
ยังไม่ทันที่ริวจินจะได้ลงมือทำอะไรต่อ จู่ ๆ เงามืดสีดำก็พุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างรวดเร็วจนต้องถอยร่นมารับมือเสียก่อน ปรากฎร่างของชายอีกคนโผล่เข้ามาช่วยเหลือพรรคพวกที่พลาดพลั้งจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด มันช่วยห้ามเลือดและทำแผลเบื้องต้นให้กับสหายก่อนหันมาโค้งคำนับให้เขาเล็กน้อย
"ขออภัยด้วยท่านริวจิน ที่ลูกน้องของข้าได้กระทำการโดยไร้มารยาทลงไป"
ชายผู้มาใหม่สวมใส่ชุดคลุมสีดำประดับด้วยขนอีกาที่หัวไหล่เช่นเดียวกับคนแรก ที่แตกต่างกันคือบริเวณหน้าอกนั้นมีสัญลักษณ์รูปดวงดาวสีขาวสามดวงประดับเอาไว้ บางทีนั่นคงจะเป็นเครื่องหมายเพื่อบ่งบอกระดับชั้นหรือฝีมือของเจ้าตัวก็ได้ แต่ที่ดูจะโดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นดวงตาสีแดงก่ำราวกับหยาดโลหิตของมันที่สร้างความสยดสยองให้แก่ผู้พบเห็นได้ทุกครั้ง
"นี่เจ้า! ทำไมถึงรู้ชื่อของข้าได้!"
ริวจินไม่รู้จักหรือเคยเห็นชายในชุดดำพวกนี้มาก่อน แถมยังถูกจับกุมตัวไปซ่อนไว้ในคุกใต้ดินนับร้อยปีจนไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน มาตอนนี้ที่เดินทางออกจากกาเลเทียไม่ทันไร กลับมีคนแปลกหน้ารู้จักชื่อและเพลงหมัดของเขาได้อย่างไรกัน? มันต้องไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ
"สำหรับเรื่องนั้นข้าไม่จำเป็นต้องตอบและท่านเองก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกขอรับ ดังนั้นทางนี้ขอตัวก่อน..."
"ไม่ปล่อยให้หนีได้หรอก!"
ไวเท่าความคิด ริวจินกระโดดเข้าหาทั้งคู่พร้อมด้วยเพลงหมัดมังกรราชันแบบเต็มกำลัง เฉพาะท่าร่างของเขานั้นสามารถบดขยี้โขดหินขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังรับมืออย่างใจเย็น มันใช้วิชาควบคุมเงาเพื่อสร้างม่านกำแพงสีดำเพื่อต้านทานเพลงหมัดของริวจินเต็มกำลัง แรงปะทะของพลังทั้งสองสายยังผลให้พื้นดินรอบข้างแลหกกระจายกลายเป็นหลุมขนาดมหึมาในทันที
"ชิ! มีพวกใช้วิชาประหลาดโผล่ออกมาอีกแล้วรึ?"
นับตั้งแต่ปะทะกับสตรีลึกลับซึ่งมีวิชาควบคุมร่างกายของอีกฝ่ายได้อย่างอิสระ มาคราวนี้เขาต้องเจอกับคนที่ใช้วิธีควบคุมเงาอีกหรือนี่? แต่ถึงยังไงในเมื่อฐานะของอีกฝ่ายนั้นเป็นศัตรูกัน ก็คงมีแต่ต้องประมือให้พังไปข้างเพียงเท่านั้น ริวจินตัดสินใจใช้กระบวนท่าเผด็จศึก นั่นคือวิชามังกรราชันสะบั้นพสุธา
"ฮ่าห์!"
ริวจินเกร็งพลังทั้งหมดไปไว้ที่สันมือขวาแล้วเงื้อขึ้นเหนือศีรษะ คลื่นพลังที่แล่นไปรวมอยู่ที่จุดเดียวนั้นเปล่งประกายแรงกล้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ที่เบื้องบนเสียอีก ฉับพลันนั้นชายชุดดำทั้งสองมองเห็นนิมิตลวงตาคล้ายกับฝ่ามือของยักษาขนาดมหึมาที่ลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะแหวกมวลหมู่เมฆที่ด้านบนลงมากระแทกพื้นดินด้วยพละกำลังอันมหาศาลราวกับไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ พริบตานั้นแม้ว่าทั้งสองจะรอดจากความตายไปได้ แต่ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยแขนซ้ายของเจ้าผู้ใช้เงาเมื่อสักครู่นี้
"อึกก กรอดด...! ฝีมือของท่านช่างร้ายกาจยิ่งกว่าที่ร่ำลือกันเสียอีก เห็นทีว่าคงต้องใช้ไม้นี้ซะแล้ว!!!"
ว่าแล้วมันจึงรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ควบคุมเงาเข้าเล่นงานริวจินในทันที แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ประมาทเตรียมรับมือเป็นอย่างดี ทว่าคราวนี้มันใช้เทคนิคประหลาดเหลือชั้นนั่นคือ แทนที่เงาพวกนั้นจะตรงเข้าจู่โจมซึ่งหน้า มันกลับแยกเส้นสายกลายเป็นเหมือนด้ายเส้นเล็ก ๆ จำนวนมหาศาลพุ่งเข้ารัดรึงกล้ามเนื้อแขนของริวจินเอาไว้ ก่อนจะฉีดของเหลวบางอย่างที่ลำเลียงมาตามเส้นเงาผ่านเข้าเส้นเลือดของเขาโดยตรงแทน!
"แม้ว่าฤทธิ์ของฤาษีสนธยาจะทำงานได้ดีเมื่อพ่นเป็นละอองลอยฟุ้งไปในอากาศ แต่เมื่อใช้วิธีฉีดพิษเข้าทางกระแสโลหิตโดยตรงเช่นนี้ มันจะทรมานยิ่งกว่าปกติหลายเท่าตัวเลยทีเดียวเชียว"
เจ้านั่นยิ้มเยาะเมื่อเห็นว่าแผนของตนสำเร็จลุล่วง ไม่นานนักริวจินก็สะบั้นเส้นเงาเหล่านั้นจนขาดออกจากกันได้และเตรียมจะเล่นงานพวกมันคืนบ้าง แต่เมื่อพิษซึมเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายของเขาก็ไม่ยอมฟังคำสั่งอีกต่อไป ริวจินล้มทั้งยืน แม้จะมีสติแต่ก็ขยับตัวไม่ได้แถมยังปวดเนื้อตัวราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วตลอดเวลา
"อั่กก... แก...!!!"
"ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าพวกกระผมจะรอดตายมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว หวังว่าคงจะได้พบกันใหม่ในเร็ววันนี้นะขอรับท่านริวจิน!"
ริวจินพยายามฝืนตัวจะลุกขึ้นยืน แต่ยิ่งฝืนเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้มากขึ้นเท่านั้น จึงได้แต่นอนกัดฟันกรอดมองดูพวกมันค่อย ๆ เคลื่อนย้ายร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายจี้สกัดจุดเพื่อป้องกันไม่ให้พิษแล่นเข้าสู่หัวใจก่อนจะหมดสติไปทั้งอย่างนั้น...
@@@@@@@@@@@@
"...พวกเจ้าก็เลยหอบสังขารหนีมาทั้ง ๆ อย่างนั้นเลยหรือ? ไอ้พวกหมาขี้แพ้เอ๊ยย!!!"
ไกอา ชายร่างยักษ์ที่มีใบหน้าบูดบึ้งและโหดเหี้ยมราวกับยักษายืนกอดอกดูสภาพของลูกน้องทั้งสองคนที่กลับมาฐานลับแบบไม่ครบสามสิบสอง มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังล่วงรู้ถึงพิษชนิดพิเศษที่ชื่อว่าฤาษีสนธยาอีก ความจริงโทษหนักขนาดนี้ควรต้องตอบแทนด้วยความตายของทั้งคู่ แต่มันติดใจสงสัยในเรื่องผู้ใช้วิชาหมัดมังกรราชันยิ่งนัก จึงต้องไต่ถามให้ละเอียดเสียก่อน
"หึ ๆ ต่อหน้าเพลงหมัดในตำนานซึ่งเป็นหนึ่งในต้นฉบับของวิชาทั้งหลายทั้งปวงบนโลกใบนี้ แล้วท่านจะให้พวกข้าเอาอะไรไปต่อกรด้วยเล่า?"
หนึ่งในสองคนกล่าวขณะที่นั่งทำแผลอยู่ เช้านี้พวกมันรับคำสั่งองค์กรให้ออกปล้นสดมภ์ช่วงชิงอาหารและของมีค่าจากนักเดินทางที่แวะผ่านมาตั้งแคมป์ในละแวกใกล้เคียง พร้อมทั้งนำเอาฤาษีสนธยาออกไปใช้ร่วมกับสายหมอกในยามเช้าเพื่อเล่นงานพวกนั้น ไม่นึกเลยว่าจากงานง่าย ๆ จะกลายเป็นของยากขึ้นมาเพียงเพราะในคณะเดินทางนั่นดันมีบุคคลที่คาดไม่ถึงรวมอยู่ด้วย
"หึ! ข้าขี้เกียจมานั่งฟังข้อแก้ตัวของพวกแกแล้ว! จงเลือกมา... ระหว่างพวกแกสองคนจะต้องมีใครตายเพื่อชดใช้ความผิดนี้!"
ได้ยินดังนั้นทั้งสองจึงหันมองกันแว่บหนึ่ง ก่อนที่ชายแขนด้วนจะเล่นงานอีกคนเข้าบริเวณคอหอยในพริบตา เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ เพราะอีกฝ่ายไม่เหลือแขนไว้ใช้ต่อกรได้แล้วนั่นเอง เมื่อเสร็จกิจเจ้านั่นก็โค้งคำนับให้ไกอาอย่างนอบน้อม
"ดีมาก! และคราวนี้ข้าขอออกคำสั่งให้แกไปจัดการปลิดชีวิตเจ้านั่นเสีย จะใช้ฤาษีสนธยาหรือวิธีไหนก็ได้ทั้งนั้น! ไม่งั้นต่อไปข้าจะเอาชีวิตของเจ้าเสียเองเข้าใจนะ!!!"
เจ้านั่นโค้งให้กับเจ้านายพลางกัดฟันกรอด ไม่รู้ว่าอย่างไหนจะเลวร้ายกว่ากันระหว่างการไปเผชิญหน้ากับเพลงหมัดมังกรราชัน หรือสู้ตายกับไกอาผู้ได้ฉายาว่าเพชรฆาตทมิฬซึ่งกำจัดศัตรูมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ในเมื่อทางเลือกนั้นช่างมีจำกัด มันจึงต้องทำตามคำสั่งเจ้านายไปก่อน มิเช่นนั้นศพต่อไปอาจเป็นตนเองก็ได้?
......
...
หลังจากที่ออกคำสั่งให้ลูกน้องรับหน้าที่สังหารไปแล้ว ไกอาจึงเดินเข้ามานั่งพักบนบัลลังก์หินภายในฐานลับ แหล่งซ่องสุมกองกำลังโจรเถื่อนซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในระหว่างหุบเขาอันคดเคี้ยวไม่ไกลจากอาณาจักรกาเลเทียนัก มันใช้เวลาหลายปีในการก่อร่างสร้างองค์กรใต้ดินแห่งนี้ไว้ใช้หาประโยชน์ด้วยการปล้นชิงสินค้าของมีค่าทั้งหลายจากพวกพ่อค้าคาราวาน และเล็ดลอดสายตาของเหล่าเจ้าขุนพลแห่งกาเลเทียโดยการปล้นอย่างเงียบเชียบที่สุด ไร้ซึ่งหลักฐาน ไร้ซึ่งประจักษ์พยานเพราะถูกสังหารสิ้น
แต่มาวันนี้แผนการทั้งหลายกลับผิดพลาด มีคนหนีรอดไปได้มิหนำซ้ำยังไม่ใช่บุคคลธรรมดา ๆ เพราะมันคือผู้สืบทอดวิชาโบราณที่ไม่น่าจะมีหลงเหลือบนโลกใบนี้แล้ว และนั่นทำให้ไกอาเป็นกังวลยิ่งนัก บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสอันดีที่จะออกศึกด้วยวิชาวิหคสวรรค์เบื้องหลังของตนเสียล่ะมั้ง? แต่ก่อนอื่นยังมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นต้องทำอยู่อีก...
"เจ้าจงนำสารนี้ไปส่งให้ถึงมือเยเกอร์โดยด่วนที่สุด และห้ามให้ใครเห็นอย่างเด็ดขาด!"
มันยื่นซองจดหมายฉบับเล็กออกมาตรงหน้า ก่อนที่จะมีเงามืดซึ่งไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าคว้าเอาซองนั้นหายวับไปในพริบตา ไกอาเอนหลังพิงบัลลังก์พลางถอนหายใจยาว มันหลับตาลงแล้วสะกดข่มความรู้สึกพลุ่งพล่านภายในร่างของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย จินตนาการถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น