ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์หมัดมังกรราชันสยบฟ้า

    ลำดับตอนที่ #36 : ริวจิน มุ่งสู่ตะวันตก ตอนที่02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 38
      2
      11 ก.ย. 63


         "และคนที่รู้ความลับของฤาษีสนธยาก็เช่นเดียวกัน!"

         ชายในชุดดำลึกลับปรากฎตัวอย่างกะทันหันต่อหน้าริวจิน  พร้อมทั้งคำขู่อาฆาตว่าจะสังหารเขาโทษฐานที่รอดตายจากพิษแถมยังล่วงรู้ความลับของฤาษีสนธยา  แต่ริวจินก็หาได้หวาดกลัวกับคำขู่สั่ว ๆ เช่นนี้ไม่  เขาฉวยโอกาสเปิดฉากโจมตีก่อนในทันทีด้วยกระบวนท่ามังกรราชันรุ่งฟ้าเบิกอรุณ  แรงกดดันของกำปั้นส่งผลให้พื้นดินแยกแตกเป็นรอยใหญ่ในทันที  ส่วนอีกฝ่ายก็ตั้งรับอย่างใจเย็น  มันไม่เสี่ยงปะทะโดยตรงจึงเลี่ยงด้วยการผลักดันพลังหมัดของริวจินให้สะท้อนออกด้านข้างแทน

         "ฮึ่ม!"

         แม้จะพลาดหมัดแรก  แต่นั่นเป็นเพียงคำทักทายเพราะเขาคาดไว้แล้ว  จึงออกหมัดชุดที่สองตามไปติด ๆ และคราวนี้มันเข้าเป้าแทบทั้งหมด  ชายในชุดดำเองก็ว่องไวแต่ยังไวไม่พอจะหลบได้ทั้งหมด  จึงโดนเข้าไปจัง ๆ กระเด็นล้มกลิ้งไปกับพื้นในทันที

         "วางใจเถอะ  ข้ายั้งมือไว้แล้วเพราะจากนี้ยังมีเรื่องต้องถามจากแกอีก"

         เมื่อริวจินกล่าวจบชายคนนั้นก็กระอักเลือดออกมา  ดูจากปริมาณแล้วภายในมันต้องบอบช้ำน่าดูเลยทีเดียว  แต่ยังฝืนตอบโต้ด้วยฝ่ามือที่คมกริบดุจใบมีดเหล็กไหล  ความรวดเร็วรุนแรงนั้นไม่เป็นสองรองใครแน่  แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าเจ้าแห่งมังกรราชันแล้วก็วิชาของมันก็ไร้ความหมาย  เพียงแค่ริวจินสะบัดปลายข้อมือเบา ๆ แขนทั้งสองข้างของศัตรูก็ขาดกระเด็น  ส่งให้เลือดสด ๆ พุ่งกระจายพร้อมด้วยเสียงร้องโหยหวนจากความเจ็บปวดของมัน

         "อย่างนี้นี่เอง...  นี่คือเพลงหมัดมังกรราชันในตำนานสินะ?"

         ยังไม่ทันที่ริวจินจะได้ลงมือทำอะไรต่อ  จู่ ๆ เงามืดสีดำก็พุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างรวดเร็วจนต้องถอยร่นมารับมือเสียก่อน  ปรากฎร่างของชายอีกคนโผล่เข้ามาช่วยเหลือพรรคพวกที่พลาดพลั้งจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด  มันช่วยห้ามเลือดและทำแผลเบื้องต้นให้กับสหายก่อนหันมาโค้งคำนับให้เขาเล็กน้อย

         "ขออภัยด้วยท่านริวจิน  ที่ลูกน้องของข้าได้กระทำการโดยไร้มารยาทลงไป"

         ชายผู้มาใหม่สวมใส่ชุดคลุมสีดำประดับด้วยขนอีกาที่หัวไหล่เช่นเดียวกับคนแรก  ที่แตกต่างกันคือบริเวณหน้าอกนั้นมีสัญลักษณ์รูปดวงดาวสีขาวสามดวงประดับเอาไว้  บางทีนั่นคงจะเป็นเครื่องหมายเพื่อบ่งบอกระดับชั้นหรือฝีมือของเจ้าตัวก็ได้  แต่ที่ดูจะโดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นดวงตาสีแดงก่ำราวกับหยาดโลหิตของมันที่สร้างความสยดสยองให้แก่ผู้พบเห็นได้ทุกครั้ง

         "นี่เจ้า! ทำไมถึงรู้ชื่อของข้าได้!"

         ริวจินไม่รู้จักหรือเคยเห็นชายในชุดดำพวกนี้มาก่อน  แถมยังถูกจับกุมตัวไปซ่อนไว้ในคุกใต้ดินนับร้อยปีจนไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน  มาตอนนี้ที่เดินทางออกจากกาเลเทียไม่ทันไร  กลับมีคนแปลกหน้ารู้จักชื่อและเพลงหมัดของเขาได้อย่างไรกัน?  มันต้องไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ

         "สำหรับเรื่องนั้นข้าไม่จำเป็นต้องตอบและท่านเองก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกขอรับ  ดังนั้นทางนี้ขอตัวก่อน..."

         "ไม่ปล่อยให้หนีได้หรอก!"

         ไวเท่าความคิด  ริวจินกระโดดเข้าหาทั้งคู่พร้อมด้วยเพลงหมัดมังกรราชันแบบเต็มกำลัง  เฉพาะท่าร่างของเขานั้นสามารถบดขยี้โขดหินขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย  กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังรับมืออย่างใจเย็น  มันใช้วิชาควบคุมเงาเพื่อสร้างม่านกำแพงสีดำเพื่อต้านทานเพลงหมัดของริวจินเต็มกำลัง  แรงปะทะของพลังทั้งสองสายยังผลให้พื้นดินรอบข้างแลหกกระจายกลายเป็นหลุมขนาดมหึมาในทันที

         "ชิ! มีพวกใช้วิชาประหลาดโผล่ออกมาอีกแล้วรึ?"

         นับตั้งแต่ปะทะกับสตรีลึกลับซึ่งมีวิชาควบคุมร่างกายของอีกฝ่ายได้อย่างอิสระ  มาคราวนี้เขาต้องเจอกับคนที่ใช้วิธีควบคุมเงาอีกหรือนี่?  แต่ถึงยังไงในเมื่อฐานะของอีกฝ่ายนั้นเป็นศัตรูกัน  ก็คงมีแต่ต้องประมือให้พังไปข้างเพียงเท่านั้น  ริวจินตัดสินใจใช้กระบวนท่าเผด็จศึก  นั่นคือวิชามังกรราชันสะบั้นพสุธา 

         "ฮ่าห์!"

         ริวจินเกร็งพลังทั้งหมดไปไว้ที่สันมือขวาแล้วเงื้อขึ้นเหนือศีรษะ  คลื่นพลังที่แล่นไปรวมอยู่ที่จุดเดียวนั้นเปล่งประกายแรงกล้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ที่เบื้องบนเสียอีก  ฉับพลันนั้นชายชุดดำทั้งสองมองเห็นนิมิตลวงตาคล้ายกับฝ่ามือของยักษาขนาดมหึมาที่ลอยอยู่กลางอากาศ  ก่อนจะแหวกมวลหมู่เมฆที่ด้านบนลงมากระแทกพื้นดินด้วยพละกำลังอันมหาศาลราวกับไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์  พริบตานั้นแม้ว่าทั้งสองจะรอดจากความตายไปได้  แต่ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยแขนซ้ายของเจ้าผู้ใช้เงาเมื่อสักครู่นี้

         "อึกก กรอดด...! ฝีมือของท่านช่างร้ายกาจยิ่งกว่าที่ร่ำลือกันเสียอีก  เห็นทีว่าคงต้องใช้ไม้นี้ซะแล้ว!!!"

         ว่าแล้วมันจึงรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ควบคุมเงาเข้าเล่นงานริวจินในทันที  แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ประมาทเตรียมรับมือเป็นอย่างดี  ทว่าคราวนี้มันใช้เทคนิคประหลาดเหลือชั้นนั่นคือ  แทนที่เงาพวกนั้นจะตรงเข้าจู่โจมซึ่งหน้า  มันกลับแยกเส้นสายกลายเป็นเหมือนด้ายเส้นเล็ก ๆ จำนวนมหาศาลพุ่งเข้ารัดรึงกล้ามเนื้อแขนของริวจินเอาไว้  ก่อนจะฉีดของเหลวบางอย่างที่ลำเลียงมาตามเส้นเงาผ่านเข้าเส้นเลือดของเขาโดยตรงแทน!

         "แม้ว่าฤทธิ์ของฤาษีสนธยาจะทำงานได้ดีเมื่อพ่นเป็นละอองลอยฟุ้งไปในอากาศ  แต่เมื่อใช้วิธีฉีดพิษเข้าทางกระแสโลหิตโดยตรงเช่นนี้  มันจะทรมานยิ่งกว่าปกติหลายเท่าตัวเลยทีเดียวเชียว"

         เจ้านั่นยิ้มเยาะเมื่อเห็นว่าแผนของตนสำเร็จลุล่วง  ไม่นานนักริวจินก็สะบั้นเส้นเงาเหล่านั้นจนขาดออกจากกันได้และเตรียมจะเล่นงานพวกมันคืนบ้าง  แต่เมื่อพิษซึมเข้าสู่กระแสเลือด  ร่างกายของเขาก็ไม่ยอมฟังคำสั่งอีกต่อไป  ริวจินล้มทั้งยืน  แม้จะมีสติแต่ก็ขยับตัวไม่ได้แถมยังปวดเนื้อตัวราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วตลอดเวลา

         "อั่กก... แก...!!!"

         "ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าพวกกระผมจะรอดตายมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว  หวังว่าคงจะได้พบกันใหม่ในเร็ววันนี้นะขอรับท่านริวจิน!"

         ริวจินพยายามฝืนตัวจะลุกขึ้นยืน  แต่ยิ่งฝืนเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้มากขึ้นเท่านั้น  จึงได้แต่นอนกัดฟันกรอดมองดูพวกมันค่อย ๆ เคลื่อนย้ายร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป  เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายจี้สกัดจุดเพื่อป้องกันไม่ให้พิษแล่นเข้าสู่หัวใจก่อนจะหมดสติไปทั้งอย่างนั้น...


    @@@@@@@@@@@@


         "...พวกเจ้าก็เลยหอบสังขารหนีมาทั้ง ๆ อย่างนั้นเลยหรือ?  ไอ้พวกหมาขี้แพ้เอ๊ยย!!!"

         ไกอา  ชายร่างยักษ์ที่มีใบหน้าบูดบึ้งและโหดเหี้ยมราวกับยักษายืนกอดอกดูสภาพของลูกน้องทั้งสองคนที่กลับมาฐานลับแบบไม่ครบสามสิบสอง  มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังล่วงรู้ถึงพิษชนิดพิเศษที่ชื่อว่าฤาษีสนธยาอีก  ความจริงโทษหนักขนาดนี้ควรต้องตอบแทนด้วยความตายของทั้งคู่  แต่มันติดใจสงสัยในเรื่องผู้ใช้วิชาหมัดมังกรราชันยิ่งนัก  จึงต้องไต่ถามให้ละเอียดเสียก่อน

         "หึ ๆ ต่อหน้าเพลงหมัดในตำนานซึ่งเป็นหนึ่งในต้นฉบับของวิชาทั้งหลายทั้งปวงบนโลกใบนี้  แล้วท่านจะให้พวกข้าเอาอะไรไปต่อกรด้วยเล่า?"

         หนึ่งในสองคนกล่าวขณะที่นั่งทำแผลอยู่  เช้านี้พวกมันรับคำสั่งองค์กรให้ออกปล้นสดมภ์ช่วงชิงอาหารและของมีค่าจากนักเดินทางที่แวะผ่านมาตั้งแคมป์ในละแวกใกล้เคียง  พร้อมทั้งนำเอาฤาษีสนธยาออกไปใช้ร่วมกับสายหมอกในยามเช้าเพื่อเล่นงานพวกนั้น  ไม่นึกเลยว่าจากงานง่าย ๆ จะกลายเป็นของยากขึ้นมาเพียงเพราะในคณะเดินทางนั่นดันมีบุคคลที่คาดไม่ถึงรวมอยู่ด้วย

         "หึ! ข้าขี้เกียจมานั่งฟังข้อแก้ตัวของพวกแกแล้ว!  จงเลือกมา... ระหว่างพวกแกสองคนจะต้องมีใครตายเพื่อชดใช้ความผิดนี้!"

         ได้ยินดังนั้นทั้งสองจึงหันมองกันแว่บหนึ่ง  ก่อนที่ชายแขนด้วนจะเล่นงานอีกคนเข้าบริเวณคอหอยในพริบตา  เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ  เพราะอีกฝ่ายไม่เหลือแขนไว้ใช้ต่อกรได้แล้วนั่นเอง  เมื่อเสร็จกิจเจ้านั่นก็โค้งคำนับให้ไกอาอย่างนอบน้อม

         "ดีมาก! และคราวนี้ข้าขอออกคำสั่งให้แกไปจัดการปลิดชีวิตเจ้านั่นเสีย  จะใช้ฤาษีสนธยาหรือวิธีไหนก็ได้ทั้งนั้น! ไม่งั้นต่อไปข้าจะเอาชีวิตของเจ้าเสียเองเข้าใจนะ!!!"

         เจ้านั่นโค้งให้กับเจ้านายพลางกัดฟันกรอด  ไม่รู้ว่าอย่างไหนจะเลวร้ายกว่ากันระหว่างการไปเผชิญหน้ากับเพลงหมัดมังกรราชัน  หรือสู้ตายกับไกอาผู้ได้ฉายาว่าเพชรฆาตทมิฬซึ่งกำจัดศัตรูมาแล้วนับไม่ถ้วน  แต่ในเมื่อทางเลือกนั้นช่างมีจำกัด  มันจึงต้องทำตามคำสั่งเจ้านายไปก่อน  มิเช่นนั้นศพต่อไปอาจเป็นตนเองก็ได้? 

    ......
    ...

         หลังจากที่ออกคำสั่งให้ลูกน้องรับหน้าที่สังหารไปแล้ว  ไกอาจึงเดินเข้ามานั่งพักบนบัลลังก์หินภายในฐานลับ  แหล่งซ่องสุมกองกำลังโจรเถื่อนซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในระหว่างหุบเขาอันคดเคี้ยวไม่ไกลจากอาณาจักรกาเลเทียนัก  มันใช้เวลาหลายปีในการก่อร่างสร้างองค์กรใต้ดินแห่งนี้ไว้ใช้หาประโยชน์ด้วยการปล้นชิงสินค้าของมีค่าทั้งหลายจากพวกพ่อค้าคาราวาน  และเล็ดลอดสายตาของเหล่าเจ้าขุนพลแห่งกาเลเทียโดยการปล้นอย่างเงียบเชียบที่สุด  ไร้ซึ่งหลักฐาน  ไร้ซึ่งประจักษ์พยานเพราะถูกสังหารสิ้น 

         แต่มาวันนี้แผนการทั้งหลายกลับผิดพลาด  มีคนหนีรอดไปได้มิหนำซ้ำยังไม่ใช่บุคคลธรรมดา ๆ เพราะมันคือผู้สืบทอดวิชาโบราณที่ไม่น่าจะมีหลงเหลือบนโลกใบนี้แล้ว  และนั่นทำให้ไกอาเป็นกังวลยิ่งนัก  บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสอันดีที่จะออกศึกด้วยวิชาวิหคสวรรค์เบื้องหลังของตนเสียล่ะมั้ง?  แต่ก่อนอื่นยังมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นต้องทำอยู่อีก...

         "เจ้าจงนำสารนี้ไปส่งให้ถึงมือเยเกอร์โดยด่วนที่สุด  และห้ามให้ใครเห็นอย่างเด็ดขาด!"

         มันยื่นซองจดหมายฉบับเล็กออกมาตรงหน้า  ก่อนที่จะมีเงามืดซึ่งไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าคว้าเอาซองนั้นหายวับไปในพริบตา  ไกอาเอนหลังพิงบัลลังก์พลางถอนหายใจยาว  มันหลับตาลงแล้วสะกดข่มความรู้สึกพลุ่งพล่านภายในร่างของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย  จินตนาการถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้...



    จบตอน

       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×