ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #6 : แผนบุกเทียนซาน

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 60



         "อ้าวเฮ้ยรอเดี๋ยวก่อนสิปู่!"

         เมื่อปู่แกกล่าวประโยคทองเสร็จก็สะบัดตูดวิ่งหนีหน้าตาเฉย! ผมนี่วิ่งไล่ตามไปติด ๆ เพราะคาใจกับไอ้ที่บอกว่าข้ามกาลเวลานี่แหละ  แต่น่าแปลกที่ผมว่าผมเองก็วิ่งไวมากแล้วนะ  แต่ปู่แกกลับว่องไวยิ่งกว่า  แถมยังชำนาญทางอย่างหาตัวจับยากเพราะเล่นลอดนู่นไต่นี่ไหลไปตามตรอกซอกซอยอย่างไม่มีติดขัด  สุดท้ายก็หลุดรอดสายตาไปจนได้  น่าเจ็บใจที่สุดเลยให้ตายสิวะ!

    จ๊อก...  จ๊อก...!

         แถมท้องดันร้องเสียงดังเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงมันเลยตั้งแต่ตื่นนอนมา  และความซวยคือไอ้เราดันไม่มีตังค์หรือเงินในสมัยโบราณให้ได้ซื้อหาของกินมาประทังหิวนี่สิ  ครั้นจะถอดเสื้อผ้าแลกเป็นเงินก็ไม่มีชาวบ้านที่ไหนกล้ารับซื้อของจากพรรคมารอีก  เมือ่หมดสิ้นหนทางผมจึงได้แต่เดินคอตกย้อนกลับไปยังพรรคเทียนซานอย่างหงอย ๆ  

         "หึ! นับว่าใจกล้าหน้าด้านมากที่ย้อนมาที่นี่อีก"

         เพียงแค่เห็นหน้าเท่านั้นแหละน้องหมาก็เชิดคอด่าเป็นชุด  แถมยังบังคับให้ผมกินอาหารหมาเมื่อเช้าอีก  แน่ล่ะเจอแบบนี้ใครจะไปยอม  เลยต้องเปิดการเจรจาสักเล็กน้อยด้วยการเสนอแลกอาหารเช้ากับการละเว้นฝ่ามือถล่มห้องโถงของพรรค  ผลของการต่อรองคงไม่ต้องถาม... เพราะผมได้กินจนอิ่มแปล้เลยเชียว!

         "อย่าได้ใจไปนักเจ้าหนู!  นั่นมันร่างของข้าพลังปราณก็เป็นของข้า  รอให้ถึงเดือนเพ็ญครั้งหน้าก่อนเถอะ  แล้วข้าจะคิดบัญชีกับแกแบบทบต้นทบดอกเลยเชียว!"

         จอมมารในร่างน้องหมาส่งสายตาขุ่นเคืองมาทางนี้เป็นระยะ  แต่ก็ช่างสิมันไม่ใช่ปัญหาของผมสักหน่อย  ยังไงก่อนจะถึงเดือนเพ็ญคราวหน้าผมก็แค่หนีไปหลบที่ไหนสักแห่งไม่ให้พวกพรรคมารหาตัวเจอก็พอแล้วนี่  แถมพวกชาวบ้านก็ไม่ได้นิยมชมชอบพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ถ้าอธิบายเหตุผลดี ๆ คงมีสักบ้านยอมให้ที่หลบซ่อนเป็นแน่


    @@@@@@@@@@


         หลังจากที่จางเหยียนจงได้ร่อนจดหมายเชิญสำนักใหญ่ที่เหลือให้เข้าร่วมประชุมด่วนตามคำสั่งของบิดา  บรรดาเจ้าสำนักชั้นนำของยุทธภพจึงตบเท้าเข้าร่วมหารืออย่างเป็นทางการภายในห้องรับรองของพรรคมังกรทองในเช้าวันถัดไป

         "...แล้วท่านคิดว่าพวกเรามีโอกาสชนะมากน้อยเพียงไร?"

         หยางจิวเทียน  เจ้าสำนักเหยี่ยวดำเอ่ยถาม  หยางจิวเทียนเป็นผู้อาวุโสที่สุดในบรรดาห้าพรรคที่เหลือ  และยังเป็นเพียงบุคคลเดียวที่เกิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับครั้งที่จอมมารทำพิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณเมื่อราวแปดสิบกว่าปีที่แล้ว  เนื่องจากอายุอานามปาเข้าไปเกือบเก้าสิบจึงต้องนั่งแคร่และให้พวกลูกศิษย์หามมาถึงที่นี่

         "ข้าไม่ได้คิดถึงเรื่องแพ้ชนะ  เพราะกลศึกครั้งนี้เน้นไปที่การเจรจาต่อรอง  จริงอยู่ว่าจอมมารอาจจะอ่อนแอลง  ทว่าคงเป็นการยากที่จะหักเอาชัยในการต่อสู้ซึ่งหน้า  ชื่อเสียงของมันสิที่พวกเราจ้องจะทำลาย!"

         จางเหอลู่ตอบอย่างใจเย็น  เป้าหมายของห้าพรรคใหญ่มิใช่การล้างผลาญพวกมารในคราวเดียว  แต่ต้องเริ่มบ่อนทำลายจากภายในองค์กร  โดยขั้นแรกคือทำลายชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของพวกมัน  แผนการจะเริ่มจากเจ้าสำนักต่าง ๆ ยื่นเงื่อนไขเพื่อชิงความได้เปรียบในแง่ต่าง ๆ อย่างเช่นพื้นที่ปกครองบางส่วนของพวกอธรรม  ซึ่งตอนนี้ทั้งเทียนซานและห้าพรรคใหญ่ต่างแบ่งแยกเขตแดนในอาณัติออกเป็นส่วนต่าง ๆ  และแม้ว่าทั้งแผ่นดินของต้าหลงจะอยู่ภายใต้อำนาจของฮ่องเต้แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นที่รู้กันว่าแค่เพียงในนามเท่านั้น  ผู้ปกครองที่แท้จริงในแต่ละส่วนคือพวกขั้วอำนาจจากพรรคต่าง ๆ นั่นเอง

         "จอมมารกำลังอ่อนแอ  เท่ากับอำนาจวาสนาก็จางลง  เราจึงควรยึดโอกาสนี้ฉกฉวยความได้เปรียบและแย่งชิงสิ่งสำคัญที่ควรจะอยู่ใต้การดูแลของธรรมะเสียมากกว่า!"

         เจ้าสำนักมังกรทองค่อนข้างแน่ใจว่าจอมมารจะเลือกในหนทางที่ฉลาดที่สุดนั่นคือยอมประนีประนอมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ  แน่นอนว่าหลังจากนี้อาจมีการหักหลังเพราะในเมื่อมันเป็นมาร  สัจจะย่อมไร้ค่า  แต่กว่าจะถึงเวลานั้นจางเหอลู่จักวางแผนลอบสังหารเสียก่อน  โดยปิดเป็นความลับมิให้พรรคใหญ่ที่เหลือรับทราบ  เพราะความต่ำช้าโสมมนั้นหน้าฉากควรปล่อยให้เป็นของพรรคมารแต่เพียงผู้เดียวก็พอ

         "แล้วถ้าเกิดพวกมารไม่ยอมเล่นด้วย  ท่านจะทำเช่นไรต่อไป?"

         เกาฟานเฉียง  ประมุขแห่งพรรคพยัคฆ์แดงเอ่ยถาม  แต่แค่สังเกตท่าทางก็พอจะเดาได้อยู่ว่าเจ้าสำนักคนนี้ช่างกระสันอยากจะต่อกรกับพวกมารมานานแล้ว  ถ้าไม่ติดว่ามีมติในที่ประชุมรวมพรรคว่าไม่ให้ยื่นมือเข้าต่อสู้กับพวกมารตามอำเภอใจ  มันคงระดมพลบุกเทียนซานไปหลายรอบแล้วกระมัง

         "ถึงตอนนั้นคงต้องหวังพึ่งเจ้าแล้วกระมังประมุขเกา?"

         หลิวเสียะหัว  เจ้าสำนักพรรคหมาป่าเงินตอบแกมประชด  ทำเอาเกาฟานเฉียงหงุดหงิดหันมาทำตาถมึงทึงใส่  ด้านจางเหอลู่เองก็อธิบายว่าหากเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามคาด  อาจต้องลงมือสั่งสอนพวกมารเสียบ้าง  อย่างไรเสียเส้าเทียนอิ้งก็ตัวคนเดียวแถมพลังฝีมือยังไม่สมบูรณ์  จะให้ตั้งรับยอดฝีมือทั้งห้าพรรคพร้อมกันย่อมเป็นไปไม่ได้  เหล่าลูกน้องพรรคมารก็คงไม่เท่าไหร่ยากจะต่อกรกับพวกตนแน่

         "ถ้าเช่นนั้นเราจะรอสิ่งใดกันอยู่เล่า?  รีบไปที่เทียนซานกันเถิดท่านทั้งหลาย!"

         ต้าเหยียนกัง  เจ้าสำนักคชสารเขียวทุบอกพลางลุกขึ้นยืน  เจ้านี่ก็เป็นเช่นเดียวกับประมุขพรรคพยัคฆ์แดงคือบ้าเลือดชอบการต่อสู้เช่นกัน  เมื่อได้ยินว่าจะไปถล่มพวกมารก็เลือดลมพลุ่งพล่านระงับใจไว้ไม่อยู่  ตื่นเต้นเสียจนจางเหอลู่ต้องคอยห้ามปรามกันเลยทีเดียว

         "พวกท่านทั้งหลายอย่างลืมว่าหัวใจสำคัญของการนี้คือกดดันให้พรรคมารโอนอ่อนตาม  ถ้ามีเหตุให้ปะทะจริงก็จงระวังตัวกันด้วย  เส้าเทียนอิ้งอาจจะอ่อนแอแต่ใช่ว่าจะสิ้นอิทธิฤทธิ์  ขอทุกท่านอย่าประมาทเป็นดี!"

         และแล้วพรรคใหญ่ผู้เป็นเสาหลักของยุทธภพทั้งห้าต่างก็เตรียมพร้อมออกเดินทางมุ่งสู่ที่ทำการพรรคมารเทียนซานในทันที  เป้าหมายคือการกดข่มให้พวกมารได้รู้เสียบ้างว่าฝ่ายธรรมนั้นมิได้ยอมศิโรราบเสมอไป  หากเปิดช่องให้ก็พร้อมจะรวมตัวต่อต้านได้ทุกเมื่อ...


    จบตอน             

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×