ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    infinite ; NITHAN {myungyeol}

    ลำดับตอนที่ #3 : นิทานเรื่องที่สอง - ซินเดอเรลล่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 194
      1
      26 เม.ย. 57



    Cinderela :

     

    ซินเดอเรลล่าเดิมมีชื่อว่า เอลล่า (Ella) เป็นบุตรสาวของเศรษฐีผู้มั่งมี มารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก เป็นเหตุให้บิดาของเอลล่าจำใจแต่งงานใหม่กับมาดามผู้หนึ่งซึ่งเป็นหม้ายและมีลูกสาวติดมาสองคนเพราะอยากให้เอลล่ามีแม่ ไม่นานนักหลังจากนั้น เศรษฐีผู้เป็นบิดาก็เสียชีวิต ทำให้ธาตุแท้ของแม่เลี้ยงปรากฏขึ้น นางกับลูกสาวใช้งานเอลล่าราวกับเป็นสาวใช้ และใช้จ่ายทรัพย์ที่เป็นของเอลล่าอย่างฟุ่มเฟือย ที่ร้ายกว่านั้น ทั้งสามยังเปลี่ยนชื่อของเอลล่า เป็น ซินเดอเรลล่า ที่แปลว่า สาวน้อยในเถ้าถ่าน เพราะพวกนางใช้งานเอลล่าจนเสื้อผ้าขาดปุปะมอมแมมไปทั้งตัวนั่นเอง

     

     

    หรอ??

     

     

            สำหรับนิทานก่อนนอนเล่มนี้ จะไม่มีแม่เลี้ยงใจร้ายและลูกสาวสองคนขี้อิจฉา ทุกคนจะดูแลซินเดอเรลล่าตัวน้อยอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เด็กน้อยซองลืมตาตื่นขึ้นบนเตียงนอนที่หรูหรากว่าที่บ้านของตนเองมากนัก พลันประตูห้องนอนก็เปิดออก หนึ่งในพี่สาวเลี้ยงของเขาเดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มหวานหยด ซองยอลลุกขึ้นนั่งและมองเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ ยิ่งประโยคแรกที่เธอกล่าวออกมานั้นยิ่งสร้างความงุนงงให้แก่เด็กน้อยมากยิ่งขึ้น

     

    คูรแม่รออยู่ที่โต๊ะอาหารนะคะ รีบลงไปเถอะค่ะถ้อยคำสุภาพที่เธอเอื้อนเอ่ยกับซองยอลทำให้ความเคลือบแคลงสงสัยเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากนัก เด็กน้อยกลั้นใจถามออกไปเสียงเบา

     

    พี่สาวต้องใจร้ายไม่ใช่หรอคับทันทีที่เธอได้ยินคำพูดนั้นธอก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยด้วยความขันในสิ่งที่ซองยอลถาม ขณะนี้เวลาเก้านาฬิกา เด็กน้อยซองยอลอยู่ในบ้านของซินเดอเรลล่าและกำลังไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื้อเรื่องที่ไม่เหมือนนิทานเล่มเก่าสร้างความประหลาดใจให้กับเด็กวัยห้าขวบ เขาได้แต่เดินตามพี่สาวที่ไม่ยอมบอกอะไรเพิ่มเติมต้อยๆ

     

    เมื่อถึงโต๊ะอาหาร ดวงตากลมกวาดมองคนสองคนที่นั่งรออยู่ พวกเขายิ้มให้อย่างเป็นมิตร  บรรยากาศยามทานอาหารเช้าและการพูดคุยอย่างสนิทสนมเป็นเครื่องช่วยให้ซองยอลรู้สึกสนิทกับสามคนนี้มากขึ้น อย่างน้อยก็ยอมให้พวกเธอทั้งสามอุ้มอย่างไม่รังเกียจ ใบหน้าและท่าทางของพวกเอไม่ได้น่าเกลียดและดูไม่ดีแบบที่เคยเห็นในการ์ตูนเรื่องโปรดลำดับที่สอง แต่พวกเธอกลับดูสวยและสง่า แถมยังใจดีกับเขามากๆอีกต่างหาก

    ซองยอลเพลิดเพลินอยู่กับการเล่นของเล่นในบ้าน มีบ้างบางครั้งีท่พี่สาวแสนสวยทั้งสองมานั่งเล่นเป็นเพื่อนกัน เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยช่วยขับให้บ้านหลังนั้นกลายเป็นบ้านแสนสุขที่อบอุ่นขึ้นมาได้ในทันตา เด็กน้อยหัวเราะลั่นเมื่อพี่สาวทำท่าทางตลกๆใส่และทำท่าจะร้องไห้เมื่อพี่สาวทั้งสองทะเลาะกันว่าใครจะเป็นคนอุ้ม

    เวลาผ่านไปประมาณครึ่งวัน ประตูบ้านที่ไม่มีใครมาเคาะนับหลายเดือนก็ดังขึ้นสองถึงสามครั้ง แม่เลี้ยงเป็นคนเดินไปเปิดประตูและนำสรจากวังเข้ามาอ่านให้ลูกทั้งสองได้ฟัง เนื้อความนั้นเป็นการเรียนเชิญหญิงงามมางานเต้นรำที่จัดขึ้น ณ พระราชวัง เพราะพระราชาต้องการหาคู่ครองให้โอรสของตน  หญิงสาวทั้งสองดีใจมาก พวกเธอรีบขึ้นไปเตรียมชุดที่จะใส่ไปงานและเครื่องปรดับต่างๆ ซองยอลทำเพียงนั่งมองท่าทางของหญิงสาวทั้งสองคนเงียบๆ

     

    พาซองยอลไปด้วยนะฮะ

     

    แต่เธอไม่มีชุดนี่จ้ะ หาชุดให้ได้ก่อนนะแม่เลี้ยงทิ้งท้ายเอาไว้และหายขึ้นไปชั้นบน ซองยอลเบ้หน้า ปากเล็กเบะออกอย่างไม่พอใจ ยังไงซินเดอเรลล่าก็คือซินเดอเรลล่า แม้เลี้ยงใจร้ายก็ต้องรักลูกตัวเองมากกว่าอยู่แล้ว ฮึ!

     

     

     

                ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้เราไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ร่างสูงเดินเข้าห้องโถงใหญ่ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงไม่แสดงอารมณ์ใดๆ โค้งเคารพคนใหญ่คนโดที่นั่งอยู่เพียงแค่ผิวเผิน

     

    ท่านพาอูฮยอนไปไว้ที่ไหนเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามหนึ่งในสามคนที่นั่งอยู่ ท่าทางของเขาทำให้ทั้งสามอยากจะหัวเราะ ทูตคนเก่งหายไปไหนเสียแล้วล่ะ เหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ร้อนรนเพียงเพราะคนรักหายตัวไป

     

    เจ้าจะอยากรูไปทำไมรึซองกยู

     

    ท่าน! ท่านก็รู้ดีว่าเหตุใดข้าจึงอยู่ในสภาพคนบ้าเช่นนี้ เพราะท่านมิใช่หรือซองกยูตะโกนลั่นอย่างเหลืออด ถ้าหากไม่ติดว่าทูตอาวุโสนี้เป็นพ่อของนัมอูฮยอนล่ะก็เขาคงจะเดินออกไปและตามหาอูฮยอนเองแน่

     

    เจ้ามากล่าวหาข้าได้อย่างไร จริงเท็จเป็นอย่างไรเจ้าก็ไม่รู้เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทูตหนุ่มอย่างใจเย็น ซองกยูกำมือแน่น ถึงอย่างไรอูฮยอนก็ต้องถูกขังอยู่สักที่ ปกติอูฮยอนไม่หายไปเช่นนี้แน่ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่บอกให้ข้ารู้ เจ้าอยู่ที่ใดนัมอูฮยอน

     

    เอาล่ะๆ ข้าจะบอกให้ก็แล้วกัน เจ้าลองไปดูที่ป่าทางปีกซ้ายของปราสาทข้า

     

                ไม่รอช้า ซองกยูวิ่งออกไปทันทีโดยไม่บอกลาผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่สักคนเดียว ร่างสูงนึกอยากจะหายตัวไปอย่างที่เคยทำแต่ก็ไม่สามารถทำได้ในเมื่อเขาโดนลดพลังครั้งที่ไปขอให้ผู้รักษากฎเห็นใจในความรักของพวกเขาสองคน ตอนนี้พลังที่เคยมีอยู่จึงถูกลดลงไปจนเหลือเพียงแค่เศษหนึ่งส่วนสี่ นั่นแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิด

                เมื่อมาถึงเขตป่า ซองกยูถอนหายใจกับความใหญ่ของมัน แบบนี้ข้าจะหาเจ้าเจอได้ที่ไหนกันอูฮยอน บอกข้าหน่อยได้ไหมว่าเจ้าอยู่ส่วนใดของป่าลึกนี่กัน ซองกยูเดินเข้าไปด้วยความไม่เข้าใจ มองไปทางไหนก็เหมือนกันหมด หากข้ายังเดินเรื่อยเปื่อยอยู่เช่นนี้ทั้งปีก็คงหาอูฮยอนไม่เจอ

                ซองกยูเดินไปเรื่อยๆ ไร้จุดหมายปลายทาง เขาขอแค่ให้ความรักของพวกเขาช่วยนำพาให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้องและพบกับนัมอูฮยอน แค่นึกถึงคนตัวเล็กที่มีรอยยิ้มสดใสนั้นก็กังวลจนอยากจะพังที่นี่ให้สิ้นเสีย

                เขาเดินตามหาวนไปวนมาอยู่ในป่าลึกเพียงลำพัง เวลาหลายชั่วโมงที่เสียไปช่างไร้ประโยชน์ เขาไม่พบแม้แต่รอยเท้าของร่างเล็กที่โหยหา ซองกยูทรุดลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งโดยไม่ได้หันไปมองรอบตัวเลยว่าเขาหลุดมาอยู่ในสวนในป่าเสียแล้ว

     

    ท่านซองกยู…”เสียงหวานนุ่มนวลที่เอ่ยเรียกชื่อตนทำให้ซองกยูรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว เป็นนัมอูฮยอนที่เรียกขาน ซองกยูรู้สึกเหมือนความกังวลหลายชั่วโมงหลุดหายออกไปเป็นปลิดทิ้ง เขาเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่สีหน้าที่ไม่สู้ดีของอูฮยอนเรียกให้ซองกยูต้องเข้าไปใกล้

     

    ข้าขอโทษ ท่านพ่อบังคับให้ข้ามาอยู่ที่นี่ร่างเล็กชายตามองหอคอยด้านหลังอย่างเศร้าสร้อย

     

    ไม่เป็นไร ข้ารู้มือใหญ่ประคองโครงหน้าหวานอย่างแผ่วเบาและมอบยิ้มอ่อนโยนให้อีกฝ่าย อูฮยอนก้มหน้าลงต่ำ

     

    ข้ารักท่านนะ

     

    ข้ารู้ เหตุใดจึงบอกรักข้ายามนี้กันซองกยูขมวดคิ้ว ปกติแล้วคนตัวเล็กคนนี้ไม่ค่อยพูดให้ได้ยินบ่อยนัก ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะอยากฟังทุกวันก็เถอะ

     

    ข้าแค่อยากให้ท่านรู้ว่าข้ารักท่าน..ไม่ได้หรือ ข้ากลัวว่าจะไม่มีโอกาสบอกท่านอีกอูฮยอนขยับตัวเข้าไปกอดเอวหนาเอาไว้ ใบหน้าหวานซุกลงกับอกอุ่นอย่าออดอ้อน ซองกยูแปลกใจเล็กน้อยกับอากัปกริยาของคนรัก

     

    งั้นเจ้าก็ควรบอกข้าทุกวัน เจ้าอยู่ที่นี่สบายดีหรือ แล้วเหตุใดเสื้อผ้าจึงบางเช่นนี้เล่า ถ้าเจ้าไม่สบายขึ้นมาใครจะดูแลเจ้า พ่อเจ้าไม่ยอมให้ข้าพบเจ้าแน่..แก่ขนาดนั้นแล้วแท้ๆแต่ยังมาทำตัวยุ่งยากอีก

     

    ที่ท่านพูดถึงนั่นพ่อข้านะ อีกอย่างเสื้อผ้าที่มีอยู่บนนั้นก็มีแต่บางๆ ถ้าหนาหน่อยก็มีของแม่ข้า ท่านจะให้ข้าใส่ชุดของสตรีหรือ

     

    เจ้าใส่ก็ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็อยากจะเห็นสักครั้งว่าเจ้าจะสวยสู้ท่านอาหญิงได้หรือไม่ซองกยูยิ้มเมื่อนึกถึงท่านอาหญิงหรือแม่ของอูฮยอน นางสวย ไม่แปลกที่อูฮยอนจะน่ารักขนาดนี้ นิ้วเรียวเชยคางมนขึ้น ริ้วแดงจางบนใบหน้าใสช่วยขับให้ใบหน้าของอูฮยอนดูน่ารักขึ้นมาก

     

    ท่านก็พูดไปเรื่อย ข้าจะสวยสู้สตรีได้อย่างไร

     

    เจ้าสวยที่สุดในสายตาข้าเสมอ

     

    ท่านไม่ต้องมาชมข้าหรอก แล้วเด็กสองคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

     

    วันนี้ข้ายังไม่ได้ดูเลย มัวแต่ตามหาเจ้า

     

    ท่านกำลังละเลยหน้าที่นะ ใช้ไม่ได้จริงๆแล้วแบบนี้ข้าจะเชื่ออะไรในตัวท่านได้บ้าง

     

    เรื่องอื่นอาจจะไม่มั่นคงและละเลยไปบ้างแต่เจ้าเชื่อได้เลยว่าข้ารักเจ้าคนเดียวนะนัมอูฮยอน เจ้าต้องแต่งงานกับข้า..เจ้าจดเอาไว้ได้เลย ข้าสัญญา

     

    ข้าหายไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงท่านเป็นได้ขนาดนี้เลยหรืออย่างไร ไปทำงานได้แล้วอูฮยอนดันหังวองกยูให้เดินกลับไปทางเดิมและหลบซ่อนใบหน้าขึ้นสีของตนเองด้วยการก้มหน้าลง ซองกยูหัวเราะกับท่าทางเอียงอายเมื่อตนพูดคำหวานใส่ ตอนนี้คงต้องเก็บเรื่องอูฮยอนเอาไว้ก่อนเพราะเขาก็เห็นว่าดวงใจของเขาไม่ได้เป็นอันตราย ตอนนี้คงต้องช่วยเจ้าหนูซองยอลก่อนสินะ

     

    ไว้พรุ่งนี้ข้าจะมาพาเจ้าไปเดินเล่นทิ้งท้ายเอาไว้และเดินออกไป อูฮยอนค่อยๆเดินถอยหลัง ยืนมองแผ่นหลังกว้างด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ท่านซองกยูมาที่นี่ถูก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านพ่อจะไม่รู้ ในเมื่อคนที่รู้ว่าอูฮยอนอยู่ที่นี่มีเพียงแค่พ่อบังเกิดเกล้าเท่านั้น

     

     

    ข้าหวังว่าวันพรุ่งนี้เราจะได้ไปเดินเล่นอย่างที่ท่านบอกนะท่านซองกยู

     

     

     

     

    ฝ่ายซองยอลก็กลับมานั่งทำหน้าตาบึ้งตึงอยู่ในห้องนอนของตนเอง เห็นพี่สาวสองคนเข้ามาพร้อมชุดสวยๆที่เตรียมไปงานเต้นรำเด็กชายยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจ ซองยอลเรียกหานางฟ้าแม่ทูนหัวอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่นางฟ้าก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็น ซองยอลนั่งเบื่ออยู่อย่างนั้นจนหญิงทั้งสามเดินมาบอกว่าจะออกไปร่วมงานแล้วให้อยู่บ้านดีๆและอย่าซน ความอดทนของเด็กตัวน้อยที่อยากจะไปงานด้วยก็ขาดผึง

     

    นางฟ้าแม่ทูนหัวว!!!”เสียงแหลมเล็กตะดกนจนลั่นบ้าน น้ำตาเม็ดใสเริ่มเอ่อคลอนัยน์ตากลม นั่งเบะปากจะร้องไห้อยู่ไม่นานนักนางฟ้าก็ปรากฏตัว นางเสกชุดของซองยอลให้กลายเป็นชุดที่มีราคาและดูดีได้เพียงไม่กี่วินาที เด็กน้อยซองดีใจกระโดดจนตัวลอย เอ่ยขอบคุณนางฟ้าซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งด้วยถ้อยคำแปร่งๆและเดินออกไปหน้าบ้าน เห็นรถม้าที่คลับคล้ายคลับคลากับรถฟักทองแต่ไม่ใช่

     

    ทำไมเป็นรถม้าแอปเปิ้ลล่ะคับ

     

    ก็เธอไม่ชอบทานแอปเปิ้ล จะไปหรือไม่ไปเจ้าหนูน้อย เธอมีเวลาถึงสี่ทุ่มคืนนี้ เด็กดีไม่ควรนอนดึกนางฟ้าเอ่ยข้อตกลงขอพวกเขา ซองยอลพยักหน้ารับและขึ้นรถม้าไป เส้นทางจากบ้านถึงพระราชวังนั้นไม่ไกลมากนัก ทันทีที่ลงจากรถม้าได้สองขาเล็กก็วิ่งไปตรงบันไดทางขึ้นทันที โชคร้าย ซองยอลสะดุดขั้นบันไดหกล้ม แต่ยังดีที่มีมือของใครคนหนึ่งที่ซองยอลไม่เห็นหน้าและจำไม่ได้ช่วยเอาไว้ เด็กชายพยายามเค้นใบหน้าของบุคลใจดีคนนั้นแต่กลับมองเห็นเป็นภาพเบลอ

     

    ขอบคุณคับซองยอลเอ่ย อีกคนเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ

     

    เธอควรรีบกลับ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ หมดเวลาแล้ว

     

    องค์ชายรีบเข้าไปด้านในเถอะพะย่ะค่ะทหารนายหนึ่งเดินเข้ามา องค์ชายไม่ได้พูดตอบอะไรทิ้งไว้พียงความเงียบงันและภาพทั้งหมดก็ดับวูบไป

     

                ซองยอลตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน เด็กน้อยตัดสินใจว่าจะเล่าให้มารดาฟัง ทุกอย่างคล้ายความฝันหากเหมือนจริงเกินไป

     

                ตอนจบของนิทานเรื่องนี้ไม่เหมือนในหนังสือเล่มอื่นที่ตีพิมพ์ออกมาตามแบบฉบับของดิสนีย์ เจ้าหญิงได้พบกับเจ้าชายแต่ไม่ได้เต้นรำ ไม่ได้ลืมรองเท้าแก้วแสนสวยเอาไว้แต่แค่สะดุดล้มที่ขั้นบันได ไม่ได้สวยสง่าเหมือนเจ้าหญิงในนิทานเรื่องอื่นๆแต่น่ารักสมวัยเป็นตัวของตัวเอง ซองยอลอาจไม่ใช่เจ้าหญิงที่ดีที่สุดในโลก ไม่ใช่เจ้าหญิงที่เพียบพร้อม แต่เป็นเจ้าหญิงที่น่ารักและน่าเอ็นดู

     

     

     

    ท่านผู้คุมกฎ มีทางใดที่พอจะทำให้ข้าได้เวทมนตร์กลับคืนมาบ้างซองกยูพูดด้วยสีหน้ากังวล เขารู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นรองหากยังมีเวทมนตร์อยู่เพียงเท่านี้ เขาเชื่อว่าพ่อของอูฮยอนจะไม่หยุดเท่านี้แน่ ต้องมีอะไรที่มากกว่าการให้อูฮยอนไปอยู่ในป่าลึกนั่น

     

    มีทางเดียวคือเจ้าต้องมีผู้สืบทอด ต้องเกิดจากความรักของคนสองคนเท่านั้น เจ้าไม่สามารถไปนอนกับหญิงใดที่เจ้าไม่ได้รักได้ แบบนั้นไร้ประโยชน์

     

    ถึงท่านไม่บอกข้าก็ไม่คิดจะทำหรอก ข้าไม่อยากทำร้ายอูฮยอน

     

    เจ้าควรปล่อยเขาไป ข้ากำลังเตือนเจ้า สิ่งที่เจ้ากำลังฝืนอยู่อาจนำมาซึ่งสิ่งที่ร้ายแรงกว่านี้ผู้คุมกฏเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ซองกยูเม้มปาก ร้ายแรงแล้วอย่างไร เขาไม่มีวันปล่อยอูฮยอนไปเด็ดขาด

     

    อะไรที่ท่านว่าร้ายแรง

     

    เจ้าสองคนอาจถูกเนรเทศ…”

     

     

    บ้าน่ะ!  แค่มีความรักมันผิดถึงเพียงนั้นเชียว..

     

     

     

    ข้าขอบคุณท่านมาก ข้าจะไม่ลืมน้ำใจของท่านแน่นอน

     

    ข้าก็ไม่มีวันลืมคนที่ยอมลดเวทย์ตัวเองเพื่อความรักเช่นเจ้า


    TBC.




    TALK:D

    อิอิ มาอัพแล้นนนนนนนนนนนนน ใช้เวลานานมากกกกกก เพราะเราไม่ค่อยมีเวลาแต่งค่ะ #สีข้างถลอกหมดละ 5555555555555555
    คือว่าตอนนี้มีคนเดาถูกว่าเราจะลงเรื่องอะไร T^T *ร้องไห้* เจ็บกระดองใจ #ผิด 
    หวังว่าจะให้ความรักกับหนังสือนิทานเล่มนี้เยอะๆนะคะ ซองยอลเห็นมือเจ้าชายแล้วนะ >< ฮริ้งงงงง ง 
    ตอนนี้หนักกยูอูนิดหน่อยเพราะเราอยากให้ตอนนึงมันยาวๆอะ ลำพังแค่นิทานมันไม่ยาวเท่าไหร่เพราะเรากากไงเลยต้องดราม่าใส่กยูอูเยอะๆ แม่ยกกยูอูอย่าพึ่งเตรียมมีด รอเราวิ่งหนีก่อนนะ TOT 
    ขอบคุณทุกคอมเมนท์ทุกคนที่เข้ามาอ่านค่าาา ขอบคุณที่เฟบเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ เลิฟวิ่งยูโซมัชเวรี่มัชไรท์นาวววววว 555555555555 
    เวิ่นเยอะและ ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ได้คุณมีความอดทนมากค่ะ 5555555555555 
    บะบุยยย เจอกันเมื่อซองยอลหลับนะคะ UOU


    themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×