คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : สะดุดรัก(นาย)พี่เลี้ยงจำเป็น 23 100%
ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกเหมือนเช่นทุกวันลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจสองสามทีก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้นอกจากไปส่งไตเติ้ลไปเรียนและไปหาแม่ที่โรงพยาบาลแล้วผมยังต้องไปส่งต้นฉบับด้วย แทบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นนักเขียน
เวลาในการแต่งนิยายของผมน้อยนิดลงทุกวันจากเมื่อก่อนทั้งวันทั้งคืนเดี๋ยวนี้แต่งได้เฉพาะตอนไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลนิดนึงกับตอนก่อนนอนอีกหน่อยพลังงานก็หมดแล้วครับ นี่ก็วันสุดท้านที่ต้องส่งพอดีเมื่อคืนพอเต๋ามาส่งที่ห้องผมก็นั่งปั่นมันจนเสร็จเรียกได้ว่าเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว
ผมเตรียมกระเป๋าเสร็จก็ลงไปข้างล่างเพื่อจัดเตรียมอาหารให้สองพ่อลูกตามปกติ เดี๋ยวนี้ผมยังต้องเตรียมอาหารกลางวันไปให้ทั้งสองคนอีกช่วงเช้าผมจึงยุ่งกว่าเดิมเป็นสองเท่า แต่เดี๋ยวก่อนผมรู้สึกว่าพอเข้ามาในห้องครัวมีสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น......ก็มีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งยืนเท้าเอวดูป้าอิฐกับนกน้อยทำกับข้าวอยู่ ผมเดินเข้าไปในครัวได้สองก้าวผู้หญิงคนนั้นก็หันมามองก่อนจะพูดด้วยเสียงดัง
“ ตื่นแล้วเหรอ....ตื่นสายขนาดนี้จะทำอาหารให้ลูกกับหลานของชั้นทันได้ยังไงกัน! “ เธอมองผมเหมือนอยากจะจิกลูกตาออกมากลิ้งเล่นน่ากลัวสุดๆ
“ เอ่อ...ขอโทษครับ “ ผมยืนทำอะไรไม่ถูก ก็จะให้ทำยังไงล่ะคุณอยู่ๆ เดินเข้ามาก็โดนด่าก่อนเลย
“ แล้วจะยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม เข้ามาช่วยกันทำอาหารสิ!! “ เธอสั่งผมอีกคำก่อนจะหันไปเล่นงานนกน้อยต่อ
“ คะ...ครับ “ อะไรว้า.....อยู่ดีๆ ก็โดนด่างงอ่ะ เค้ายังไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะ งื้อ~ T^T
ผมเข้าไปเอาของที่เตรียมไว้ในตู้เย็นออกมาทำเมนูที่คิดเอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน ผมก็ทำของผมไปแต่ผู้หญิงปริศนาก็ยังยืนจ้องผมทุกฝีก้าวจนรู้สึกอึดอัด พอผมเหลือบหันไปมองนิดนึงก็โดนตอกกลับมาอีก
“ มองอะไร!! ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปสิ! “
“ ครับ “ งื้อ~ น่ากลัวว่ะ T^T แล้วเค้าเป็นใครวะเนี๊ยทำไมทุกคนต้องกลัวขนาดนี้ด้วยล่ะ
ผมทำกับข้าวเสร็จก็จัดใส่กล่องผู้หญิงน่ากลัวก็เดินเข้ามาดึงกล่องข้าวไปสำรวจดู ก่อนจะออกปากถามคำนึงทำให้ผมรู้ทันทีว่าเค้าเป็นใคร....
“ นี่ทำกับข้าวไปให้ลูกชายชั้นกินที่ทำงานเหรอ “
“ อะ...อะไรนะครับ “ ลูกชาย? อย่าบอกนะว่า......
“ ชั้นหมายถึงตาเต๋าน่ะ “ นั่นไงล่ะ T^T แม่เต๋าจริงๆ ด้วย ไหนเต๋าบอกไม่น่ากลัวไง
“ ครับ...กล่องนี้ของเต๋าส่วนกล่องนี้ของไตเติ้ลครับ “ ผมบอกโดยหลบตาไม่ค่อยอยากมองหน้าเท่าไหร่ คือผมกลัวอ่ะ....โอเคผมยอมรับว่าผมป๊อด
“ แล้วทำไมทำของง่ายๆ อย่างนี้ไปให้ตาเต๋ากิน “
“ หา....? “
“ ถ้าใครเห็นเข้าจะเอาตาเต๋าไปนินทายังไงบ้างรู้มั๊ย ไม่มีระดับเอาซะเลย “ ว่าเค้าไมอ่ะ
“ คือว่าผม “
“ ของแบบนี้เอาให้สัตว์เลี้ยงชั้นมันยังไม่กล้ากินเลย “ พูดจบก็วางกล่องข้าวลงบนโต๊ะแรงๆ แล้วหันไปสั่งกับป้าอิฐ “ อิฐ “
“ คะคุณผู้หญิง “
“ เอาอาหารที่ชั้นให้ทำเตรียมใส่กล่องไปให้ตาเต๋ากับไตเติ้ลด้วย “
“ เอ่อ....” ป้าอิฐหันมามองหน้าผม “ แต่ว่าของที่คชาทำ....”
“ ทำตามที่ชั้นสั่งเถอะน่า! ของพวกนี้ไม่มีใครกินก็ทิ้งไปสิ! “ แม่เต๋าดุป้าอิฐเสียงดัง
“ เอ่อ..ค่ะ ค่ะ “ ป้าอิฐรับคำด้วยท่าทางลำบากใจ
โหววววววว!!!~ มันปรี๊ดอ่ะทำไมต้องทำงี้ด้วยง่ะ -*- คนเค้าอุตส่าห์ตั้งใจทำนะ!!!! จะมาทิ้งของเค้าง่ายๆ ได้ไงวะ
“ จะพูดอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกนะครับ ขอพวกนี้ถึงมันจะเป็นกับข้าวง่ายๆ ไม่ได้หรูหราอะไรแต่มันก็มีประโยชน์ บำรุงร่างกาย บำรุงสายตาและที่สำคัญของพวกนี้มันก็ทำให้เต๋าไม่ลืมที่ต้องกินข้าวกลางวันทุกวันด้วย ถ้าคุณนายบอกว่าของพวกนี้แม้แต่สัตว์เลี้ยงคุณนายยังไม่กินก็ถูกครับเพราะของพวกนี้มันอาหารของเต๋า สัตว์เลี้ยงของคุณนายไม่มีทางได้แอ้มหรอก “ ผมเดินไปหยิบกล่องข้าวของตัวเองมาถือไว้ “ แล้วก็ห้ามใครทิ้งด้วย คนเค้าอุตส่าห์ตั้งใจทำนะคุณนาย “
ผมเถียงไปฉาดใหญ่จนแม่เต๋าหน้าเหวอไปเลย ป้าอิฐกับนกน้อยก็มองผมตาค้างอ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาขาดอากาศจะพูดอะไรก็พูดไม่ออก แล้วจู่ๆ แม่เต๋าก็เดินเข้ามาจับหน้าผมเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
“ นี่แหละที่หามานาน!! “
“ ห๊ะ!!? “
“ คชา.....ใจเย็นลูก แม่แค่จะลองใจหนูเท่านั้นเอง “
“ ลองใจ? “
“ ใช่ลูกลองใจ “
“ (-[]-).......” เหวอสิครับท่าน
“ ใจเย็นๆ อย่าโมโห เดี๋ยวไม่น่ารัก “ แม่เต๋ายิ้มอ่อนโยนให้ผม ดวงตาส่องแววระยิบระยับเหมือนเด็กได้ของเล่น ทำเอาผมไปไม่เป็นเลย..........อะไรวะงง?
“ อะ...เอ่อ...คะ...ครับ “ ผมพยักหน้างงๆ แม่เต๋าเอียงตัวไปมองด้านหลังแล้วพูดขึ้น
“ เก่งนะเต๋าถูกใจแม่มากๆ เลยคนนี้ “
“ ผมดีใจนะครับที่คุณแม่ชอบคชา “ เสียงเต๋าดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมยังไม่ทันหันไปมองเต๋าก็เดินมาอยู่ข้างๆ ผมแล้วโอบเอวผมหลวมๆ
เฮ้ย!!!!~ เล่นไรกันคชางง...คือว่า...เล่นด้วยได้มะ?
“ ชาจ๋านี่แม่เต๋านะ ว่าจะบอกชาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าแม่เต๋าจะมาแต่เต๋าลืม “ คนตัวสูงหันมายิ้มให้ผม
“ สวัสดีครับคุณนาย “ ผมยกมือไหว้
“ อย่าเรียกคุณนายสิลูก เรียกแม่เอ๋ดีกว่านะ หรือจะเรียกแม่เฉยๆ ก็ได้ “ แม่เต๋าบอกผมก่อนจะดึงกล่องข้าวออกจากมือผมแล้วส่งให้นกน้อย “ เตรียมให้ด้วยนกน้อย “
“ ค่ะ “
“ ส่วนคชามานั่งกับแม่ที่โต๊ะอาหารดีกว่า แม่มีเรื่องจะคุยด้วยเยอะแยะเลย “ แม่เต๋าบอกผมก่อนจะตีมือเต๋าที่โอบเอวผม
“ โอ้ย! คุณแม่ตีผมทำไม “
“ ปล่อยเลยตาเต๋า มาทำตังรุ่มร่ามกับน้องอย่างนี้ได้ไง “
“ โธ่~ คุณแม่ ชาเป็นแฟนผมนะครับ “
“ แกนี่ชอบเอาเปรียบน้องจริงๆ “
“ คุณแม่! “
“ ไปที่โต๊ะอาหารเถอะคชาอย่าไปสนใจตาเต๋าเลย “
“ ครับคุณ...แม่ “ ผมเกือบเผลอเรียกไปว่าคุณนาย
“ น่ารักจริงเชียว “ เธอหยิกแก้มผมนิดนึงด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะจูงมือผมไปที่โต๊ะ
“ เฮ้อ~ คุณแม่นะคุณแม่...ได้ลูกใหม่ลืมลูกเก่าเลยนะ “ เต๋าส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะเดินตามออกมา
ผมนั่งคุยกับแม่เต๋าสักพัก เอ่อ.....อย่าเรียกว่านั่งคุยเลย เรียกว่าเล่นเกมส์ 20 คำถามกันมากกว่า ถามจนผมแทบจะตอบไปทันเลยทีเดียว
“ คชาทำงานอะไรอยู่ลูก “
“ ผมแต่งนิยายรายสัปดาห์ส่งสำนักพิมพ์ครับ “
“ คชามีพี่น้องกี่คนลูก “
“ ผมเป็นลูกคนเดียวครับ “
“ แล้วตาต้นเล่าให้แม่ฟังว่าแม่ของคชาป่วย แม่คชาป่วยเป็นอะไรลูก “
“ แม่ผมเป็นเนื้องอกในสมองครับ “
“ ตายจริง! “
“ ยังไม่ตายครับ “
“ แม่อุทานลูก =_= “
“ อ๋อครับ “
“ แล้วก่อนหน้านี้คชาเคยมาแฟนมาก่อนหรือเปล่าลูก “
“ เอ่อ.....” คำถามนี้ทำให้เต๋าจ้องผมตาเขม็ง
“ ว่าไงล่ะชา..เคยมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า “ เต๋าถามเสียงเรียบ
“ ไม่เคยครับ “
“ แล้วเคยมีใครมาจีบบ้างหรือเปล่าลูก “
“ เอ่อ......” เหมือนจะมีหรือเปล่าวะ จำไม่ได้ง่ะ
“ ผมจำไม่ได้แล้วครับ “
“ จำไม่ได้ ได้ไง “ เต๋าทำเสียงดุ แล้วทำไมต้องทำเสียงงี้ด้วยล่ะปกติไม่เคยเห็นทำงี้กับผมซักที
“ แล้วตาเต๋าทำไมต้องทำเสียงดุใส่น้องด้วยล่ะ “
“ ก็ผมอยากรู้นี่ครับคุณแม่ “
“ แกนี่จริงๆ เล้ย~ หึงไม่เข้าเรื่อง “
“ เอ่อ...ผมขอตัวไปตามไตเติ้ลก่อนนะครับ “ ผมว่าผมไปก่อนดีกว่าก่อนที่คำถามจะผุดขึ้นมามากกว่านี้ =_= เริ่มขี้เกียจตอบละ
“ ไปสิลูก แม่ก็อยากเจอหลานรักแล้วเหมือนกัน “
“ ครับ “ ผมลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินขึ้นไปตามไตเติ้ล
“ แล้วนั่นจะไปไหนน่ะเต๋า “
“ จะไป.....ดูลูกเป็นเพื่อนชาครับแม่ “
“ แกนี่นะ ตัวติดเค้าเป็นปลิงเชียว “
“ ชารอเต๋าด้วย! “ ผมได้ยินเสียงเต๋าตามหลังมา ก็หยุดรอที่เชิงบันได
“ เต๋าจะตามมาทำไม ชาขึ้นไปตามลูกแป๊บเดียวเอง “
“ ก็อยากมานี่ “ เต๋าบอกอย่างเอาแต่ใจ
“ แต่ชาว่าเต๋าน่าจะอยู่คุยเป็นเพื่อนคุณแม่นะ “ ผมบอกแล้วก็เดินนำขึ้นไปที่ห้องไตเติ้ล
“ ก็เต๋าอยากรู้นี่ “
“ อยากรู้อะไรล่ะ “
“ ก็อยากรู้ว่ามีคนมาจีบชาบ้างหรือเปล่า “
“ ไม่มีหรอก...ใครมันจะมาจีบชา “
“ ที่ทำงานก็ไม่มีเหรอ “
“ ไม่มี “
“ แล้วที่โรงพยาบาลล่ะ “ จึก! เหมือนจะมีคนนึงรึเปล่าหว่า.......
“ เอ่อ....ไม่มี...มั้ง “ ผมรีบเดินหนีไปถึงหน้าห้องไตเติ้ล
“ เดี๋ยวสิชา!! ไม่มีมั้งเหรอ? “ เต๋าเองก็รีบเดินตามมา
“ มะ...ไม่มีอะไรหรอกเต๋า ชาเข้าไปเรียกไตเติ้ลก่อนนะ “ ทำไมต้องรู้สึกเสียวสันหลังด้วยวะ
“ เดี๋ยว! หยุดเลยนะชา “ เต๋าดึงมือผมเอาไว้ก่อนจะกระตุกให้หันกลับมาหา
“ อะ...อะไรเหรอ ( -'_'- ) “
“ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน ชาพูดตะกุกตะกักอย่างนี้แสดงว่าที่โรงพยาบาลมีคนมาจีบใช่มั๊ย “ เต๋าดันหลังผมไปติดกับกำแพงข้างประตูห้องไตเติ้ล แล้วใช้แขนสองข้างยันกำแพงกั้นผมเอาไว้
“ เอ่อ....ไม่มีหรอก “
“ เต๋าไม่เชื่อหรอก ถ้าชาพูดตะกุกตะกักแสดงว่ามันต้องมีอะไร “ แหน่ะ!! ช่างสังเกตุจริงนะพ่อคุณ
“ เอ่อ..คือ..” แล้วกูจะตะกุกตะกักทำไมวะไอ้ชา!!
“ ก็...มันไม่มีอะไรจริงๆ นี่ “
“ จะยอมบอกดีๆ มั๊ย “ เต๋ายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจรดหน้าผมแล้วง่ะ .//////.
“ ก็....มัน...ไม่มี..นี่ “ ผมก้มหน้าและเม้มปากแน่นมือก็ดันอกเต๋าเอาไว้ ระบบเตือนภัยเริ่มทำงาน
“ จะไม่ยอมเปิดปากพูดใช่มั๊ย “
“ อืม “ ผมพยักหน้าและเม้มปากแน่นกว่าเดิม
“ งั้นเดี๋ยวเต๋าแงะปากชาเอง “
“ ฮื้อ!!! “ ผมส่ายหน้าแรงๆ เต๋าเอามือข้างหนึ่งเชยคางผมขึ้นมาแล้วบีบคาง
“ ต๋าว!!~ ชา... “
มันจูบผมอีกแล้วไอ้บร้า!!!!~ แถมครั้งนี้เต๋ายังกดจูบรุนแรงจนขาผมอ่อนยวบอย่างรวดเร็ว ผมเอามือทุบอกเต๋าแรงๆ ให้ปล่อย แต่เต๋าดันจับมือผมขึงพรืดกับกำแพงแล้วระดมจูบขบเม้มจนคิดว่าปากผมคงช้ำไปแล้ว ผมดิ้นไม่ออกเพราะเริ่มหมดแรงก็เลยปล่อยให้ไอ้เผือกมันจูบแบบเลยตามเลย.........ไม่ใช่ว่าชอบหรืออะไรนะ แต่มันขัดขืนไม่ได้อ่ะ (.///////.)
แล้วในที่สุดเต๋าก็ยอมปล่อยผมให้ได้หายใจอีกครั้ง..........
“ คราวนี้จะยอมบอกได้หรือยัง “ เต๋าจ้องหน้าผม แววตาดูแปลกไปจากที่ผมเคยเห็น
“ งื้อ~ เต๋าอ่ะ...ชาไม่มีใครมาจีบจริงๆ ถึงมีชาก็ไม่รู้หรอกเพราะชาไม่ได้สนใจ ทำไมเต๋าต้องกดจูบชาด้วยล่ะ.. “
“ ก็เต๋าหวงนี่...ชาดูมีลับลมคมในอ่ะ “
“ บ้าแล้ว!!~ “ ไอ้บ้า....มาหงมาหวงอะไรเล่า!
“ แล้วตกลงมีหรือไม่มี “
“ ไม่มี้ “
“ จริงๆ นะ “
“ จริงสิ! “
“ แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วยล่ะ “ เอ้าไอ้นี่! -*-
“ ไม่มีจริงๆ นะ เชื่อชาสิ ปล่อยชานะคะ “ ผมช้อนตามองเต๋าอ้อนๆ เมื่อพูดธรรมดาไม่ได้ผลก็ต้องอ้อนมันซะเลย
“ เอ่อ.....ชะ.เชื่อก็ได้ “ เอ้า!! บทจะเชื่อก็เชื่อง่ายๆ เออเว้ย~ การอ้อนมันก็ดีเหมือนกันแฮะ
“ งั้นเต๋าปล่อยชาก่อนนะคะ....ชาเจ็บมือ นะคะ~ นะคะ~ แล้วเดี๋ยวไตเติ้ลออกมาเห็นด้วย “ ส่งสายตาวิ้งๆ ( ^.^)+++~
“ เจ็บมากมั๊ย “ แล้วเต๋าก็ปล่อยให้ผมเป็นอิสระในที่สุด วะฮะฮ่า!!! คชาเทพสุด!!
“ ไม่เป็นไรมากหรอก “
“ แต่ชา....”
“ อะไรเหรอเต๋า “
“ ห้ามไปมองแล้วก็อ้อนใครแบบที่อ้อนเต๋าเมื่อกี๊นะ...เต๋าหวง “
“ อะ..อื้ม (./////.) “ ผมพยักหน้ารับ
วันนี้ผมได้เรียนรู้อีกมุมนึงของเต๋า เมื่อคืนเราเป็นแฟนกัน วันนี้ผมได้รู้ว่าเต๋าเป็นคนขี้หึง แล้ววันพรุ่งนี้มันคงมีอะไรให้ผมได้เรียนรู้อีกมากมายเลยใช่มั๊ย แต่ถึงจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเต๋าอีกผมก็ยอมนะ เพราะอะไรน่ะเหรอ......ไม่บอกหรอกเอาไว้บอก 'เต๋าคนเดียว'
แต่มีอย่างนึงที่คชาไม่รู้คือเมื่อกี๊มีคนแอบดูอยู่สองคน ในห้องคนนึง ที่เชิงบันไดคนนึง ใครบอกคชาเทพ? วะฮะฮ่า!!
-----------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ^O^
ลงต่อเนื่องกันไปเลยเนอะ 5555
เรื่องนี้อีกไม่นานก็จบแล้วยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
รักรีดเดอร์ >3<
ความคิดเห็น