หัวใจตายด้าน - หัวใจตายด้าน นิยาย หัวใจตายด้าน : Dek-D.com - Writer

    หัวใจตายด้าน

    นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายพี่ของอิงเองค่ะ ซึ่งพี่ของอิงตาบอดค่ะ อยู่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดลำปาง พี่อิงชอบแต่งนิยายมากค่ะ อิงก็เลยลองมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่าน ยังไงก็ลองอ่านกันดูนะคะ ติชมได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    49

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    49

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มี.ค. 57 / 20:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ก่อนอื่น
    ผมต้องขอแนะนำตัวก่อน ผม กรกฎ หรือที่เพื่อนๆชอบเรียกกันว่า กฎ
    ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชายที่แสนธรรมดา ฐานะจน ผมมีแฟนชื่อ มุก
    มุก หรือ กัญลักษณ์ เป็นลูกของช่างสลัก ฐานะทางบ้านของเธอ ดีกว่าผม จนเกือบว่ารวยเลยก็ได้
    ผมรักเธอมาก และเธอก็รักผมเหมือนกัน ปัจจุบัน เราคบกันมาได้ประมาณ 6 ปี จนผมมั่นใจยิ่งกว่ามั่นใจอีกว่าเรา เกิดมาเป็นคู่ชีวิตของกันและกันแน่แล้ว
    แต่... มันไม่เป็นตามที่ผมได้คาดไว้น่ะสิ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ก่อนอื่น
      ผมต้องขอแนะนำตัวก่อน ผม กรกฎ หรือที่เพื่อนๆชอบเรียกกันว่า กฎ
      ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชายที่แสนธรรมดา ฐานะจน ผมมีแฟนชื่อ มุก
      มุก หรือ กัญลักษณ์ เป็นลูกของช่างสลัก ฐานะทางบ้านของเธอ ดีกว่าผม จนเกือบว่ารวยเลยก็ได้
      ผมรักเธอมาก และเธอก็รักผมเหมือนกัน ปัจจุบัน เราคบกันมาได้ประมาณ 6 ปี จนผมมั่นใจยิ่งกว่ามั่นใจเสียอีก ว่าเรา เกิดมาเป็นคู่ชีวิตของกันและกันแน่แล้ว
      แต่... มันไม่เป็นตามที่ผมได้คาดไว้
      (ลางสังหรณ์ที่หนึ่ง)
      ที่สนามกีฬาแห่งหนึ่งในโรงยิม เราได้พากันไปเยี่ยมชมกีฬาโอเพ่นในที่แห่งนั้น และมีรุ่นพี่ของพวกเราได้แข่งที่นั่นด้วย เสียงผู้คนพูดคุยกันจ๊อกแจ๊กจอแจฟังไม่ได้ศัพท์ซึ่งพวกเขาก็คงจะมีความสุขท่วมท้น
      (ต่อจากนี้ จะเป็นการแข่งขันกีฬา ... ระหว่างทีม ... และ ทีม... ในครึ่งเวลาแรก ทีม ... ชนะการเสี่ยง จะเป็นฝ่ายได้เริ่มเล่นก่อน)
      เสียงกรรมการกล่าวขานแต้มอย่างตื่นเต้น พร้อมกับคนดูที่สงบเสียงและสิ่งที่ต่างกำลังทำอยู่ในขณะนั้น
      ผมและเธอต่างก็ชมการแข่งขันอย่างเพลิดเพลิน มีกระเซ้าเย้าแหย่กันเป็นบางครั้ง จนกระทั่งการแข่งขันล่วงเลยมาได้ครึ่ง ผมจึงบอกขอตัวกับเธอว่า
      "มุกครับ ผมขอตัวไปกินน้ำก่อนนะ"
      "ได้ค่ะกฎ รีบๆมานะคะ"
      บอกเสร็จ ผมก็ลุกจากที่ตรงนั้นมา ออกมาสู่บรรยากาศภายนอกซึ่งเป็นอากาศบริสุทธิ์ จากที่อยู่ในบรรยากาศแอร์อัดเป็นเวลานาน
      ผมเดินเรื่อยเฉื่อยออกไปยังตู้น้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากยิมแห่งนั้นพอสมควร
      เมื่อกินน้ำเสร็จ ผมก็เดินกลับไป ผมกำลังจะก้าวขึ้นโรงยิม ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่ง เดินตรงเข้ามาหาผมและบอกกับผมยิ้มๆว่า
      "นี่ๆกฎ แฟนเธออยู่กับผู้ชายนะ ไม่เชื่อไปดูสิ"
      แน่หละ ใครได้ยินเรื่องแบบนี้แล้วจะไม่อึ้งบ้าง ผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆ เมื่อถึงที่หมาย ผมก็พบว่า ที่ผมเคยนั่งตรงเมื่อกี้ ได้มีใครคนหนึ่ง มานั่งทับรอยผมซะแล้ว
      รุ่นพี่คนนั้นก็ก้าวตามหลังผมขึ้นมาแล้วชิงพูดก่อนผมว่า
      "มุก แฟนเธอมาแล้ว"
      เมื่อรุ่นพี่คนนั้นพูดจบ มุกก็ผละจากที่ตรงนั้นมาหาผม ผมจูงเธอไปนั่งยังที่อีกแห่งหนึ่ง โดยมีรุ่นพี่คนนั้นเดินตามมาด้ว
      เมื่อผมถึงที่นั่ง รุ่นพี่คนนั้นก็บอกว่า
      "กฎ อย่าคิดมากสิ พี่พูดเล่นเฉยๆ"
      "ครับ ไม่เป็นไรครับ แล้วพี่แข่งเมื่อไหร่เนี่ย"
      "อ๋อ คู่ต่อไปจ่ะ เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะ"
      "โอเคครับ แล้วผมจะเป็นกำลังใจให้"
      พูดจบ รุ่นพี่คนนั้นก็เดินออกไปจากที่ที่ผมอยู่เพื่อเตรียมตัวลงสนาม เหลือไว้เพียงแค่ผมและมุกสองคนเท่านั้น
      เราทั้งสองนั่งเงียบตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น ผมลอกชำเรืองมองหน้ามุก ก็เห็นน้ำตาตีตื้นขึ้นมารื้นขอบตาของเธอ เวลาผ่านไปนานสองนาน จนผมทนไม่ไหวเมื่อน้ำตาของเธอได้หยดเผลาะลง
      "มุกครับ"
      ผมหันหน้าไปพูดกับเธอพรางใช้มือปาดน้ำตาให้ออกไปจากใบหน้ารูปไข่ของเธอ
      มุกเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมอย่างกล้าๆกลัวๆ
      "มุกคิดว่าผมโกรธมุกเหรอครับ"
      "ใช่แล้วค่ะกฎ มุกกลัวว่ากฎจะโกรธมุก"
      มุกพูดพรางสูดจมูกเพื่อขับไล่น้ำตาให้กลับเข้าไปสู่ลำคออันแห้งผ่า
      โดยนิสัยของผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว จะใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงเสมอ ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในผู้ชายจำพวกนั้น
      "หึๆ มุกครับ ผมไม่โกรธมุกหรอกครับ ผมโกรธมุกไม่ลง ผมรักมุก มุกคือทุกสิ่งในชีวิตของผม"
      "จริงๆนะคะกฎ กฎ ไม่โกรธมุกจริงๆนะ"
      "จริงจ่ะที่รัก ผมรักมุกนะ"
      "ค่ะที่รัก มุกก็รักกฎนะ"
      "ครับ อย่าให้มีครั้งต่อไปอีกนะครับที่รัก คุณคือคนที่ผมแคร์มากที่สุด ถ้าหากว่าขาดคุณไปแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่ได้อย่างไร"
      "ค่ะกฎ ต่อไปนี้ มุกจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ"
      พอเราปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันก็เป็นเวลาที่การแข่งขันยุติลงพอดี เราจึงพากันกลับ ผมไปส่งเธอที่บ้านและบอกลาเธอง่ายๆที่เคยบอกประจำและได้ขับรถไปยังที่พักของผม
      จนเวลาล่วงเลยมาได้ประมาณหนึ่งเดือน เราก็คบกันไปอย่างราบรื่นไร้อุปสรรค จนกระทั่งวันหนึ่ง
      (ลางสังหรณ์ที่สอง)
      เพลานั้น ผมกำลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ และมานั่งจ้ออยู่หน้าคอมและจัดการออน skype เพื่อรอที่รักของผมออน เราจะได้แช็ดคุยกันก่อนที่เธอจะไปซ้อม leadder
      "กฎ"
      เสียงเตือนว่ามี message เข้ามาหาผม เมื่อผมเปิดไปก็เจอ message ของเพื่อนผมซึ่งพิมพ์มาหา เธอชื่อตุ๊กกี้ซึ่งเราไม่ค่อยได้พูดคุยกันบ่อยนัก
      "ว่าไงตุ๊กกี้"
      "เธอรู้อะไรไหม"
      "อะไรเหรอตุ๊กกี้"
      ผมถามด้วยจิตใจแกว่งๆ เพราะผมสำเหนียกได้ว่า มันต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอีกแน่
      "นี่เราไม่ได้ที่จะยุแยงตะแคงรั่วให้พวกเธอแตกกันนะ"
      "เออ... มีอะไรเหรอ"
      "นี่เธอไม่รู้จริงๆหรือ ว่าแฟนเรากับแฟนเธอคบกัน"
      ผมได้ยินถึงกับนิ่งงันไปในบัตินั้น ทำอะไรไม่ถูกงกๆเงิ่นๆอยู่พักใหญ่ จนแล้วจนรอด ผมก็ตั้งสะติได้ยังไม่ครบถ้วน ผมจึงใช้สะติที่เหลืออันน้อยนิดของผมนั้น พิมพ์ตอบเธอไปว่า
      "เขาไปทันคบกันตอนไหน"
      "ถ้าจะพูดจริงๆแล้วก็นานโขอยู่นะกฎ เธอรู้หรือเปล่า ว่าที่เขาโทรปลุกเธอทุกๆเช้า แฟนของเราไปปลุกแฟนของเธอ"
      "ตุ๊กกี้ เดี๋ยวเธอจะไปซ้อม lead อยู่ใช่ไม้ย"
      "ใช่ เดี๋ยวเราจะไปซ้อม"
      "ถ้าเธอมา เธอเรียกมุกให้มาด้วยนะ"
      "อืม เขาก็ต้องมาอยู่แล้วนี่"
      "อืม ขอบใจนะ เดี๋ยวเราจะไปหา"
      "อืม ไม่เป็นไร"
      สิ้นสุดการสนทนากับเพื่อน ผมก็เดินผละออกมาจากหน้าคอมอย่างหงอยๆ โดยไม่ลืมฉวยไดร๊ที่เธอให้ผมมาจัดการกับเพลง lead ของเธอติดมือมาด้วย
      เมื่อถึงที่หมาย ผมก็นั่งรอเธออยู่ที่ชานระเบียง อีกพัก เธอ ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดก็เดินมา พร้อมกับเพื่อนๆอีกสองสามคน โดยมีตุ๊กกี้รั้งท้าย
      เมื่อเธอเดินมาถึง เธอก็ก้าวเข้ามาหาผมอย่างร่าเริง หากเป็นช่วงเวลาปรกติแล้ว ผมก็จะพลอยร่าเริงกับเธอไปด้วย แต่ในวันนี้ ไม่มีแม้แต่อารมณ์
      ผมส่งไดร๊ที่อยู่ในมือให้เธออย่างเย็นชาพร้อมๆกับที่ปากก็กล่าวถามเธอออกไป
      "มุก ขอเวลาให้ผมคุยกับมุกซักหน่อยได้ไม้ย"
      "เป็นอะไรอีกหละกฎ"
      "มุกครับ มุกมีใคร ทำไมมุกไม่ยอมบอกผม"
      ผมกล่าวกับมุกด้วยเสียงเครือๆ เธอเป็นผู้หญิงที่เก็บความรู้สึกและเงียบ เงียบมาก
      "ว่าไงหละครับมุก มุกลองบอกให้ผมรู้หน่อยได้ไหม ว่าทุกวันนี้ มุก คบกับผมในฐานะอะไร"
      จนแล้วจนเล่า เธอก็ไม่ยอมตอบ จนกระทั่งน้ำตาของเธอล่วงพลูออกมาไหลรินอาบแก้มนวลทั้งสองแก้มเป็นทาง
      แต่หากว่าคราวนี้ ผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไม ผมไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของเธอเหมือนที่ผ่านมา ทั้งๆที่ครั้งนี้ น้ำตาเธอหลั่งไหลออกมามากกว่าทุกครั้ง
      หึๆ ในเมื่อเธอไม่ยอมตอบ ผมก็จะรำพรรณคนเดียวก็ได้
      "มุกไม่คิดถึงใจเพื่อนมุกเหรอ ว่าเขาจะเจ็บแค่ไหน ที่มุกไปยุ่งกับของๆเขา แล้วความรักที่ผมมีให้มุกหละ มันคงไม่พอใช่ไหม ใช่สิ ผมจน มุกก็เลยรักผมไม่ได้ใช่ไหม
      ต่อจากนี้ ผมคงไม่มีความหมายกับมุกอีกต่อไปแล้วสินะ
      ผมรำพรรณกับเธอด้วยน้ำตาที่เกือบจะกั้นเอาไว้ไม่ได้ พูดไปพูดมา ผมก็นึกคำที่จะมาตัดพ้อเธอไม่ออก จนกระทั่งมาถึงช่วงสุดท้ายของวันนั้น
      "มุกครับ มุกจงเลือกมาเถอะ ว่ามุกจะรักผมหรือว่ารักผู้ชายคนนั้น อย่าปล่อยผมไว้อย่างนี้เลยผมทรมาน มุกคงไม่รู้หรอก ว่าหัวใจดวงน้อยๆของผมดวงนี้ เจ็บมากเท่าไหร่"
      เมื่อเพื่อนๆของผมเห็นว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ เขาก็หยุดซ้อม lead เพื่อมาดูผมกับมุก
      "ใจเย็นๆนะกฎ"
      เสียงเจือไปด้วยความเศร้าของตุ๊กกี้บอกกับผม
      "มุก เธอคิดดีๆนะ ว่าเธอจะเลือกสิ่งไหน ระหว่างคนที่คบกับเธอมาตั้งนาน และผู้ชายคนนั้น ซึ่งเธอพึ่งคบ เราจะบอกให้นะ ในฐานะที่เราเคยเป็นแฟนเขามาก่อน"
      พูดยังไม่ทันจบ ท่อน้ำตาของตุ๊กกี้ก็แตกออกราวกับทำนบแตก
      "เราให้อิสระเขามาตลอด เราไม่เคยไปก้าวก่ายอะไรกับชีวิตเขาเลย แต่แล้ว เขาก็ทิ้งเราไปคุยกับเธอ แล้วเธอคิดหรือว่า เขาจะจริงใจกับเธอ"
      ตุ๊กกี้พูดด้วยเสียงแหบพร่าและปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายฟ้าอายดิน
      "เธอจงคิดดีๆนะมุก เราก็ไม่มีอะไรที่จะบอกเธออีกแล้วหละ"
      เมื่อตุ๊กกี้พูดจบผมก็ชิงพูดกับมุกขึ้นก่อนที่เรื่องราวมันจะบานปลายไปมากกว่านี้
      "เอาหละมุก ผมจะให้เวลามุกเพื่อตัดสินใจ แล้วคืนนี้ ผมจะโทรไปหามุกนะครับ"
      ผมพูดพรางจับมืออันเย็นเฉียบของเธอมากุมไว้หลวมๆและบอกกับเธอ
      "ผมไปก่อนนะครับ ไว้คืนนี้ผมจะโทรไป"
      พูดจบ น้ำตาที่สู้อุส่าห์กลั้นไว้มาเป็นเวลานานก็แตกออกอย่างไม่เป็นท่า ผมไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้างุดๆเดินออกไปจากสถานที่แห่งนั้น
      พยายามซ่อนน้ำตาเอาไว้และปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ผมก็ได้ไปส่องกระจก ภาพที่สะท้อนกลับมาก็คือ
      นายกรกฎ แต่หาใช่นายกรกฎคนเดิมไม่ แต่เป็นนายกรกฎที่เศร้าสร้อยหงอยเหงา หน้าซีดเหมือนไก่ต้ม ดวงตาลึกโหลแดงคล้ำ เหมือนคนที่อดหลับอดนอนมานาน
      ผมปล่อยเวลาให้จมไปกับความคิดอยู่นาน จนกระทั่งเข็มนาฬิกาชี้ที่เวลา 22.00 ผมจึงดึงตัวเองกลับมาในโลกแห่งความจริงอีกครั้ง และพยุงร่างของตัวเองเพื่อจะไปอาบน้ำชำระร่างกาย
      เมื่อทำธุระส่วนตัวทุกอย่างเสร็จแล้ว ผมก็หยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ที่คุ้นเคย เสียงปลายสายรับสายอย่างเศร้าๆ
      "ฮาโล๋"
      "ครับมุก นี่ผมกฎเอง ผมจะไม่รบกวนเวลาของมุกมากนัก แต่เพียงแค่จะมาทวงถามเรื่องที่เราตกลงกันไว้เมื่อเย็น มุกจะบอกผมได้หรือยังครับ ว่าตกลงแล้ว มุกจะเลือกใคร"
      ผมถามด้วยใจที่ระทึก กลัวความจริงที่จะมาถึง
      "กฎคะ ทุกวันนี้ มุกทำให้กฎเจ็บมามากแล้ว ทั้งๆที่กฎรักมุกสุดหัวใจ ไม่เคยมีคนอื่น ถ้าหากว่ามุกยังจะเลือกกฎเหมือนเดิม มุกกลัวว่าตัวเองจะทำให้กฎเจ็บช้ำอีก"
      ผมใจหายวาบ เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากของผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลก ทีนี้ ผมก็เป็นคนที่อ่อนให้เธอโดยปริยาย
      "มุกคิดดีๆนะครับ ระหว่างเขา ที่มีพร้อมทุกๆอย่าง กับผม คนที่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความรักที่จะให้มุกเท่านั้น"
      "ถ้าหากมุกจะบอกว่า มุกเลือกกฎ เพราะว่ามุกคิดว่า ความรัก คือสิ่งที่ยืนยาวที่สุดหละ"
      "มุกนะมุก ทำไมมุกไม่ยอมมั่นคงกับผม ทั้งๆที่ผมก็ได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าผมรักมุกแค่ไหน แต่มันคงไม่พอใช่ไหม สำหรับคำว่ารักของผู้ชายงี่เง่าคนนี้"
      "ใช่ค่ะกฎ ที่ผ่านมา มุกเป็นคนผิด ที่โลเลกับกฎ"
      "ใช่สิ มุกไม่เคยทำอะไรให้มันถูกเลย และอาจจะเป็นไปได้ว่าตอนนี้ หัวใจของมุก ไม่ได้อยู่ที่ผมแล้ว แต่จะไปอยู่กับอีกคนหนึ่งตลอดเวลา"
      "ก็มีส่วนถูกค่ะกฎ แต่ตอนนี้ มุกก็เลือกปล่อยเขาคนนั้นไปแล้วนี่คะ"
      "แล้วในอนาคตหละครับ มุกยังจะเลือกปล่อยใครไปอีก ผมก็สุดที่จะรู้ได้"
      "แต่มุกปล่อยกฎไม่ได้นี่คะ ในเมื่อเราลึกซึ้งต่อกันมากมาย"
      "ทำไมหละครับมุก สำหรับเขาที่ดีทุกอย่าง แต่สำหรับผม ซึ่งไม่มีอะไรดีเลย"
      "ไม่หรอกค่ะกฎ ความรัก เป็นสิ่งที่สำคัญกว่านี่คะ"
      "มุกครับ ผมคงเป็นได้แค่ คนบางคน.. ที่ยังคงยืนหยัด กับวันเวลาบนเส้นขนานสายนี้ที่เลือกแล้ว ด้วยเพราะความรักและใครสักคนยังคงอยู่ในใจตลอดเวลา อยู่กับคืนวันที่ผ่านไปและกับความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตใช่ไม้ยครับ"
      "อย่าพูดอย่างนั้นสิคะกฎ"
      เธอพูดพรางสะอื้นไห้ออกมา
      "มุกสัญญานะคะกฎ ว่ามันจะไม่มีอีกแล้ว"
      "เอาคำพูดของคุณไว้ไปกลอกหูให้คนโง่ฟังเถอะครับ เวลาคุณทำอะไรผิด คุณก็จะเฝ้าพูดไว้ได้แค่อย่างนี้แหละ บอกผมมาอีกซักคำเถิดครับมุก ว่าตอนนี้ ผมอยู่ในฐานะอะไร
      เป็นควายที่คุณเลี้ยงไว้หรือเปล่า"
      "ไม่นะคะกฎ มุกคิดกับกฎเป็นคนรัก"
      "หึๆ ขนาดเราเป็นคนรัก เธอยังคิดสวมเขาได้เนาะ มันช่างประเสริฐอะไรอย่างนี้"
      ผมแค่นเสียงพูดอย่างหดหู่ใจ ใครจะรู้บ้างหนอ ว่าหัวใจของผมดวงนี้ มันเจ็บเพียงไหน เราปรับความเข้าใจกันไปอีกนานจนกระทั่ง
      "เอาหละมุก ผมจะให้โอกาศคุณอีกครั้ง ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย"
      "ขอบคุณค่ะกฎ ต่อจากนี้ มุกจะไม่ทำให้กฎต้องเจ็บอีกแล้ว"
      เสร็จจากนั้น เราก็คุยอะไรกันอีกหน่อย ทางสิ้นสุดก็คือการวางสาย
      และนี่มันก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมปล่อยให้ความคิดครอบงำจิตใจ ผมคิดว่า ที่ผ่านมา ผมอาจจะดูแลเธอไม่ดี ไม่ค่อยมีเวลาสนใจบอกกับตัวเองว่า เจ็บครั้งนี้ มันปางตาย
      ต่อจากนี้ เราต้องเอาใจใส่เธอให้มากขึ้น และผมก็ไม่ผิดคำพูด
      หลังจากวันนั้นมา ผมดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี แต่โอ้ว่าอนิจจา ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจริง
      กาลเวลาล่วงเลยมาได้สองสัปดาห์หลังจากวันนั้น
      (ลางสังหรณ์ขั้นแตกหัก)
      เหตุกาลครั้งนี้ถูกจับได้โดยผมเอง เมื่อผมพบว่าเธอกำลังสับราง ทุกๆคืนเราจะคุยกันตั้งแต่ 23.00 เป็นต้น แต่นี้ เธอคุยกับผู้ชายอีกคนในเวลา 22.00 เป็นอย่างนี้มาได้ประมาณวันสองวันผมก็ชักเอะใจ
      ว่าทำไมเธอถึงโทรมาหาผมช้านัก
      ประกอบด้วยคำเล่าขานถึงแฟนผมที่ผมไปได้ยินได้ฟังมาจากที่ต่างๆ คราวนี้หละ ถึงเวลาที่ผมจะพูดกับเธอแล้ว ไม่มีความเกรงใจกันอีกต่อไป
      "ฮาโล๋"
      "มุก ตกลงมุกจะเลิกกับผมจริงๆใช่ไหม
      เธอมีอาการตกใจน้อยๆกับกริยาท่าทีที่ผมตอกเธออย่างไม่อ้อมค้อมก่อนที่จะตอบอย่างไม่ลังเลว่า
      "อืม ก็กฎก็รู้ดีอยู่แล้วนี่"
      ถ้อยคำของเธอมันเอาเสียผมซึ่งเป็นคนที่ตอกเธอแท้ๆ หน้าหงายออกมาอย่างไม่เป็นท่า มันปวดร้าวลึกในอกไปหมด ดั่งเข็มนับร้อยพันทิ่มแทงจิตใจก็ไม่ปาน มือข้างที่ถือโทรศัพท์ของผมลู่ตกลงสู่ข้างกาย
      ไม่รู้ทำไมขนาดเตรียมใจมาแล้ว พยายามบอกตัวเอง เข้มแข็ง เข้มแข็งเอาไว้ นายกรกฎ
      "มุก โถ่ว มุก มุกจะเลิกกับผมจริงๆหรือครับ"
      พูดพรางกลั้นเสียงสะอื้นไห้ที่มันกำลังจะหลุดรอดไปยังปลายสาย
      "เขามีเสน่ห์อะไรนักหนานะมุก มุกถึงหลงรักเขาหัวปักหัวปำ แค่เขาโทรมาอ้อนวอนว่าเขาทำใจไม่ได้ ความรักของเรามันก็มะลายสิ้นอย่างนั้นหรือครับมุก"
      "มันไม่ใช่แค่เพียงตอนที่เขาโทรมาอ้อนวอนหรอกค่ะกฎ แต่อาจเป็นเพราะว่า มุกรักเขา แต่ก็รักกฎด้วย"
      "ไม่นะมุก งั้นผม จะเป็นฝ่ายเดินออกมาเอง เชิญมุกรักกับเขาให้มีความสุขนะ"
      ผมพูดด้วยความเดือดดานใจ ด้วยความรักที่ล้นเหลือ มือที่กำลังจะวางสายของผมก็ชะงักลง บอกกับตัวเองว่า ทำใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเสียงตอบจากเธอ ผมก็อยากที่จะเก็บเวลาเหล่านี้ไว้ให้นานเท่านาน
      หลังจากนั้น ผมก็ได้คร่ำครวญกับเธออะไรต่อมิอะไรมั่วไปหมด ตอนนี้ สะติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว พูดซ้ำเรื่องเก่าๆบ้างจนผมคิดได้ว่าเธออาจจะลำคาญใจ แต่สุดท้าย
      ด้วยความเป็นผู้ชาย หยิ่งในศักดิ์ศรี ผมตัดสินใจในเวลานั้นแล้วพูดกับเธอ
      "เอาหละครับมุก ในเมื่อมุกอยากเลิก ผมก็จะไม่ห้าม เพราะว่าผมก็ได้พยายามยื้อมุก ขอความเห็นใจจากมุกแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย แต่ผมอยากบอกกับมุกว่า
      ขอให้มุกครองรักอย่างมีความสุขกับคนที่มุกรัก ส่วนคนๆนี้ คนที่ไร้ซึ่งความหมาย มุกอย่าห่วง เจ็บแค่ไหน ผมก็จะทำใจ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในวันข้างหน้า"
      ปลอบใจตัวเองพรางคลุ่นคิดว่ามันจะมีโอกาศลืมเธอได้ไหม หัวใจที่ฝังแน่น อดีตอันแสนหวาน วันวานอันแช่มชื่น ทุกๆสิ่งที่เคยได้รับจากเธอ ล้วนเป็นสิ่งที่วิเศษยิ่ง
      แต่เพื่อตัดปัญหา ไม่ให้เธอต้องหนักใจ ผมก็อวยพรกับเธอไปเช่นนั้น คำสุดท้ายที่ผมบอกเธอก็คือ
      "ผมรักคุณนะครับมุก และจะรักตลอดไป หากวันใดที่ไร้คนห่วง ก็ขอให้มุกจงสำนึกไว้ว่า ผู้ชายคนนี้ ยังเฝ้าห่วงมุกอยู่ตลอดเวลานะครับ และจเป็นเช่นนี้ตลอดไป"
      พูดจบผมก็ค่อยๆเพิ่มน้ำหนักบนปุ่มวางสายจนกระทั่ง
      (ต๊อดๆๆ)
      เห้อ จบแล้วสินะ ความอยุติธรรมจากเบื้องบน จบแล้ว มันจบสิ้นทุกๆอย่าง จบไปพร้อมกับหัวใจที่ตายด้านขอบผู้ชายคนนี้

      หยุดรักครั้งนี้ต้องทำยังไง ยิ่งคิดยิ่งเหมือนว่าในหัวใจ มีเธอเข้ามาอยู่กลางหัวใจฉัน
      เจ็บที่ฉัน ยิ่งคิดยิ่งลืมเธอไป มันทรมานจิตใจทุกครั้ง ฉันไม่เหลือทางที่จะไป

      ในที่สุด บทสรุปของความรักมันก็ได้มาถึงตอน เอาวสาร เมื่อความรักที่ผมเคยสร้างกับผู้หญิงคนนั้นเป็นเวลา
      หมื่นชั่วโมง แสนนาที และล้านวินาทีมันมาถึงที่สิ้นสุด เมื่อฝ่ายหนึ่งจบมันลงด้วยความเฉยชา
      แต่อีกฝ่ายยังจมปลักในอดีดที่ผ่านมา การจบของความรักครั้งนี้มันก็ใช้เวลาแค่ (วินาทีเดียวเท่านั้น)
      หากทุกๆท่านจะหวนย้อนกลับไปมองเวลาที่เราสร้างความรักที่ผ่านมา
      ท่านจะพบว่า มันไม่คุ้มกันเลย เมื่อการจากลามันใช้เวลาแค่วินาทีเดียวเท่านั้น
      และมันก็เหมือนกันที่ว่าผู้หญิงที่ผมเคยรัก เคยห่วงใย ปันใจไปให้คนอื่น
      เขาตัดความหวังของผมลง ด้วยแค่คำว่า
      “ห้ามใจตัวเองไม่ได้จริงๆ”
      แค่คำคำเดียวเท่านั้น มันก็ทำลายสิ่งที่เราสร้างสมมาด้วยกันล้มดังครืนนนใหญ่เลยทีเดียว
      และสิ่งที่เหลือมันก็จะมีแค่ความรู้สึกดีๆ ความห่วงใย และความรักข้างเดียวเท่านั้น ที่มันอยู่ในใจผมในตอนนี้
      เมื่อก่อน ที่ความสัมพันธ์อันริบหรี่ของเรายังพอมี ผมก็พยายามใช้เหตุผลต่างๆที่เราเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
      พูดไปกับเธอ เพียงหวังเพื่อที่จะให้เธอเห็นใจเราเท่านั้น แต่มันก็เปล่าเลย
      ในเมื่อลมนั้นมันก็ได้เปลี่ยนทิศไปแล้ว ถึงแม้เราจะเอาอะไรมาฉุดมารั้งมันก็คงไม่ได้
      ทุกวันนี้ ผมก็จะพยายามทำดีกับเธอ คอยห่วงใยเธออยู่ห่างๆ
      ในเมื่อเรายังลืมเขาไม่ได้ แต่เราก็จะพยายามขับไล่ความเจ็บปวดออกไปจากหัวใจของเรา
      ให้มันเหลือแค่สิ่งดีๆที่เขาและเราเคยทำด้วยกันเท่านั้น
      และสิ่งที่ตัดไม่ได้คือ ความรัก ถึงแม้อีกฝ่ายจะบอกเราว่า เขาจะเก็บความทรงจำที่เราเคยรักกันไว้ในใจเขา
      แต่เขาก็อาจจะไม่มีความรักแล้วก็ได้ แต่เรา มีแน่นอน เพราะว่าเป็นคนที่ถูกกระทำ
      ความรัก มันก็มีแค่นี้ ขอแค่ได้เป็นห่วง ได้รัก ได้คิถึง เราก็พอใจแล้ว
      หากว่ารักนั้น มันจะไม่มีวันกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม แต่มันก็คงไม่ผิดใช่ไหม
      ที่เราจะมีเขาเป็นคนในความทรงจำที่มีค่าที่สุดสำหรับเรา
      และหากว่ามีโอกาสที่เขาได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนในวันนี้
      ผมก็จะบอกเขาว่า ยังรัก และยังห่วงใยเสมอ ไม่เคยเปลี่ยน
      ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเราจะขาดผึงลงเมื่อเขาเป็นคนตัด แต่ผม ก็จะใช้ส่วนที่ขาดจากกันนั้นเป็นเศษความสัมพันธ์ที่อย่างน้อยเราก็เคยมีต่อกันผมรู้ผมเข้าใจ ว่าไม่มีใครที่
      จะนำเศษแก้วที่มันแตกออกจากกันมาประติดประต่อให้มันเหมือนเดิมได้
      แต่อย่างน้อย เราก็ไม่ได้ขว้างทิ้งวันเวลาและความสัมพันธ์ที่ดีเหล่านั้นไป
      มันจะยังคงตราตรึงในใจของเราอยู่ตลอดเวลา แม้นจะเนิ่นนานเพียงใดก็ตาม
      ในเมื่อเราสูนเสียมันไปแล้วเราก็ต้องทำใจยอมรับความจริงให้ได้ 
      ถึงแม้ว่าความจริงครั้งนั้นมันจะแสนเจ็บปวดก็ตาม
      แต่อย่างน้อย มันก็เป็นครั้งหนึ่งของชีวิตของเราเหมือนกันไม่ใช่หรือ
      นี่แหละครับ บทสรุปแห่งความรักของผม
      ทุกท่านครับ ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า
      ในยามที่เรามีคนรักให้เราดูแล จงดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปจากเราเมื่อใด
      แต่ในยามที่เรากำลังมีเขาอยู่ ขอให้ทุกท่านใส่ใจกับความรักให้ดี
      เพื่อจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
      บางคน อาจจะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันด้วยซ้ำ
      หรือที่ร้ายกว่านั้น บางคน อาจจะไม่ได้พบปะพูดคุยกันอีกตลอดชีวิต
      เพราะฉะนั้น จงดูแลเอาใจใส่เขาให้ดี มันจะได้ไม่เป็นอย่างผม
      ผมก็ขออุทิตเรื่องของผมให้คนมีแฟนเป็นอุธาหรณ์แล้วกันนะครับ
      อย่างในวันนี้ ผมกับผู้หญิงคนนั้น ก็อาจจะไม่ได้เป็นคนรักของกันและกันดั่งเช่นวันวานอีกแล้วก็ได้
      ถ้าจะมีใครซักคนที่รู้ มันก็คงจะเป็นพระเจ้านั่นแหละที่รู้ได้
      แม้ในวันนี้ผมจะยังเจ็บปวดไม่คลาย แต่ผมก็อยากบอกเธอว่า เธอจะยังคงเป็นดอกไม้ในใจผมเสมอ
      และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
      ความรักเอ๋ยหากเจ้าจะเกิดไม่ว่ากับคนเดิมหรือว่ากับใครก็แล้วแต
      ขอให้มันเป็นรักที่ดี และเป็นรักเดียวตลอดไป
      แม้วันนี้หัวใจมันจะเจ็บปวด แต่ผมก็ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่คอยยืนหยัดเคียงข้างผมเสมอมา
      และทำให้ผมรู้ว่า วันนี้ เราต้องยอมรับความจริงที่มันเกิดขึ้น
      ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดก็ตาม แต่กระนั้นผมก็ไม่ได้หยุดรักเธอนะครับ
      แต่ สำหรับตอนนี้ผมก็ต้องบอกว่า “ลาก่อนความรัก”

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×