คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : { 16 } -100%-
CHAPTER 16
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องทะเลาะกัน...
บรรยายกาศภายในรถเงียบสงัดจนได้ยินเสียงแอร์ ยูคยอมตบไฟเลี้ยวก่อนจะเทียบจอดลงตรงหน้าบริษัท
“เลขาปาร์คเตรียมเอกสารรออยู่ข้างบนแล้วครับ” นายบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งก้าวเข้ามากระซิบข้างหูนาย ก่อนทั้งหมดจะเดินเคลื่อนขบวนขึ้นสู่ด้านบน
การเตรียมตัวเป็นไปอย่างเงียบเฉียบจนแม้แต่ปาร์ค จินยองยังต้องหันมามองหน้ายูคยอม ก่อนที่บอดี้การ์ดหนุ่มน้อยจะสื่อความเป็นนัยน์ว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน
หัวคิ้วเข้มขมวดหมุ่น หวังแจ็คสันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ออกมาได้ เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ความรู้สึกวูบโหวงปนกับความรู้สึกผิดหวังนี่มันอะไรกัน
“เอกสารสัญญาฉบับนี้ระบุว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ตามที่นายสั่งให้ฝ่ายนั้นแก้ไขมา...แจ็คสัน”
“…”
“แจ็คสัน”
“…อืม ฉันฟังอยู่”
ปาร์คจินยองอยากจะเป็นลมตายวันละห้ารอบสิบรอบ เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้านายของตัวเองปล่อยให้เด็กหนุ่มผมแดงคนนี้เช้ามามีอิทธิพลกับความคิดมากขนาดนี้
“เหลือเวลาอีก 15 นาที ออกไปสูบบุหรี่กันหน่อยมั้ย”
ไม่ดีแน่ถ้าจะปล่อยให้มันเป็นแบบนีั้ต่อไป
“อืม...เอาสิ”
แม้จะเป็นผู้บริหารระดับที่สูงที่สุดของหวังกรุ๊ป ฯ หวังแจ็คสันก็ยังจะต้องมาสูบบุหรี่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้สูบ
พนักงานตัวเล็กตัวน้อยทยอยออกจาก smorking area แม้จะไม่มีใครออกคำสั่ง ปาร์คจินยองจุดซิการ์ หลังจากจุดบุหร่ีด้วยไม้ขีดให้กับเจ้านาย
“มีอะไร”
ลมหายใจถูกสูดเข้าไปลึกก่อนจะคลายออก จินยองละเลียดกลิ่นหอมจนชุ่มปอด ดวงตาเรียวรีของเลขาคู่ใจถึงได้เค้นถาม
“นายไม่เคยเป็นแบบนี้แจ็คสัน ฉันสิต้องถามว่านายเป็นอะไร”
“…”
“ทะเลาะกัน ?”
“เปล่า”
“อย่าโกหก”
“ก็ไม่ได้ทะเลาะ”
ริมผีปากอวบอิ่มของเลขาคู่ใจส่งเสียงจึ๊ออกมาอย่างหงุดหงิดใจ เมื่อไหร่จะเลิกกันนะ ไอ้นิสัยปากแข็ง เย็นชา อมพะนำทุกอย่างไว้คนเดียวเนี่ย
“ต่อให้เป็นนกพิราบก็มองออก ว่านายกำลังตึงใส่มาร์ค”
“…”
“แล้วก็ตึงมากจนทำให้นายไม่มีสมาธิกับการเซ็นต์สัญญาณฉบับใหม่ที่มีวงเงินสามพันล้านหยวนเข้ามาเกี่ยวข้่อง”
“…”
“นายไม่เคยเป็นแบบนี้แจ็คสัน”
คราวนี้เป็นหวังแจ็คสันที่ถอนหายใจออกยืดยาว มาเฟียหนุ่มดับบุหรี่จนก้านนุ่มสีขาวสิ้นควัน นึกรำคาญใจในความปาร์คจินยอง ของปาร์คจินยอง
รู้จักกันมากเกินไป จะหลอก จะหลบอะไรก็ทำไมได้
“มันเป็นเรื่องงี่เง่า”
“งี่เง่าแค่ไหนฉันก็จะฟัง”
แจ็คสันรู้สึกแย่ที่ต้องพูดออกมาว่ามันเป็นเรื่องงี่เง่า ใช่ เรื่องงี่เง่าที่ทำให้หวังแจ็คสันเสียความเยือกเย็นจนหมดท่า
เพราะนี่มันสามถึงสี่นาทีแล้วที่ปาร์คจินยองยังไม่หยุดขำ
“เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นนายงอนใครสักคนแบบนี้...คิก”
“หยุดหัวเราะได้แล้วปาร์คจินยอง และฉันจะพูดอีกครั้งว่าฉันไม่ได้งอน”
“โอเค นายไม่ได้งอน ฉันจะบอกตัวเองให้เชื่อแบบนั้น”
คนเป็นเจ้านายกัดฟันกรอด คิดในใจว่าจะหาทางตัดโบนัสเลขาตัวเองอย่างไรให้เป็นไปตามขั้นตอนและแนบเนียนที่สุด
“สมใจแล้วก็ลงไปข้างล่างได้แล้ว”
“ครับบอส ~”
บรรยายกาศดูผ่อนคลายขึ้นจนน่าแปลกใจหลังจากที่บอสออกไปสูบบุหรี่กับเลขาปาร์ค ยูคยอมพรูลมหายใจออกอย่างโล่งอก
อย่างน้อยก็ทำให้ความมาคุเบาบางลงไปได้หลายส่วน
แล้วส่วนที่เหลือล่ะ ?
มรร์คกำลังไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง ที่เห็นหวังแจ็คสันเปลี่ยนไปภายในช่วงเวลาแค่ 15 นาทีที่หายไปกับปาร์คจินยอง วงหน้าคมที่เคยตึงแข็งเป็นรูปปั้นหินสุดแสนจะเย็นชาผ่อนคลายลงจนเหมือนปกติ...
มันแปลกที่ตั้งคำถาม...แต่มาร์คอยากรู้ว่าปาร์คจินยองมีดีอะไร
จังหวะหัวใจที่เคยเชื่องช้าในเวลานี้เหมือนมีอะไรกระตุ้นให้เดือดพล่านขึ้นมาอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุ ทุกการขยับเคลื่อนไหวที่ปาร์คจินยองทำอยู่ในสายตาของมาร์คโดยที่ไม่รู้ตัว
ไม่ว่ายามที่อีกฝ่ายก้มหน้าบรีฟเอกสารให้ฟังอย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่ตอนที่จัดเนกไทด์ที่เรียวร้อยอยู่ในแล้วเรียบร้อยกว่าเดิม
อ่า...มาร์คไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยจริง ๆ
และทางแก้ปัญหาของโพนี่น้อยในตอนนี้ก็คือระบายความรู้สึกทั้งหมดลงไปที่ไอแพด ปลายนิ้วตะหวัดไปมาจนได้ยินเสียงเล็บกระทบกับหน้าจอ
มาร์คฟัน ฟัน ฟัน แล้วก็ฟัน
มาร์คยิง ยิง ยิง แล้วก็ยิง
ท่าที่มุ่งมั่นตั้งใจนั่นทำให้แม้แต่นายบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งยังต้องเขยิบหนี
ก็หน้าคุณมาร์คดูน่ากลัวน้อยเสียที่ไหน นึกแล้วก็ยังสยองกับวีรกรรมที่คุณมาร์คก่อไว้ที่ชั้นใต้ดิน ถึงใจจะยังไม่เหี้ยมพอ แต่อะไรที่เป็นเสี้ยนหนามชีวิตคุณมาร์คก็พร้อมที่จะทำลายมันอย่างไม่ใยดี
นี่อาจจะเป็นอย่างที่เค้าว่าก็ได้... งดงามอย่างหงษ์ ทว่าแข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยมีใครพบมาก่อน
“ได้เวลาแล้วครับคุณมาร์ค เชิญทางนี้”
ทีนี่ก็เหลือแค่อย่างเดียว...
ขอให้สองคนนี้มีดวงอุ้มสมกันอย่างที่ทำนายเอาไว้เถอะ
มันแปลกไปหน่อยที่มาร์คต้องมาเป็นส่วนหนึ่งของภาพภาพนี้
เอกสารฉบับสำคัญถูกหยิบยกออกไปในขณะที่หวังแจ็คสันกำลังจับมือกับผู้บริหารอีกฝ่ายและ...มีมาร์คยืนขนาบข้างแจ็คสันขณะที่อีกฝั่งก็มีภรรยายืนอยู่ในเฟรมด้วยเช่นกัน...
“ไหนคุณบอกว่าไม่โฉ่งฉ่างไง”
มาร์คกระซิบถามแจ็คสัน ทั้งที่ยังไม่หุบยิ้มลง
พวกนักข่าวนี่ก็จะถ่ายอะไรนักหนา ยิ้มจนฟันแห้งไปหมดแล้ว !!!
“ฉันเปลี่ยนใจ”
มันเป็นความคิดที่แจ็คสันคิดได้ขณะที่เดินกลับมา... เพราะหลังจากที่เซ็นต์สัญญาเสร็จก็เป็นช่วงเวลาที่ผู้บริหารจะถ่ายภาพร่วมกัน เอวบางของมาร์คก็ถูกกระชากติดเข้ามาในเฟรมด้วยอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้
ฝ่ามืออีกข้างที่ว่างเปล่าโอบกระชับเข้าที่เอวบางเหมาะมือ พร้อมกับเสียงนักข่าวที่ร้องฮือ เหมือนคนได้ข่าวใหญ่ แล้วหลังจากนั้นแสงแฟลชก็สว่างวาบไม่หยุดเป็นช่วงเวลายาวนาน
คราวนี้อย่าว่าแต่จะต้องเสิร์ชกูเกิลเลย ดีไม่ดีมันคงจะลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมธุรกิจทุกเล่มเลยด้วยซ้ำ
“คุณนี่มันร้ายจริง ๆ” มาร์คเอาคืนคนเจ้าเล่ห์ด้วยการใช้มืออีกข้างหยิกไปที่เอวหนา แจ็คสันยิ้มกระตุก
“ถ้าไม่ร้ายก็จับเธอไว้ไม่อยู่หรอก”
“แล้วผมจะคอยดู”
เหมือนแจ็คสันเอาความมึนตึงเหมือนเช้าออกมาระบายในตอนนี้...
มาร์คถูกรวบขึ้นเอวตั้งแต่ลิฟต์เปิดออกโดยที่หวังแจ็คสันไม่ได้แคร์ฝูงบอดี้การ์ดเลยสักนิด ริมฝีปากบางที่เหยียดตึงตั้งแต่เช้าถูกตะโบมจูบจนมาร์คเจ็บปากจี้ด แขนขาเรียวดิ้นเร่าด้วยความกระดากอาย
รู้ว่าทุกคนรู้ว่ามาร์คถูกจับมาทำอะไร แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าแจ็คสันจะมาทำอะไรมาร์คประเจิดประเจ้อได้นะ
“โอ้ย...ซี๊ด” ฟันขาวขบริมฝีปากที่รุกรานเอาแต่ใจ มาร์คมองแจ็คสันตาแข็ง
“นี่คุณเป็นสัตว์หรือไง คิดจะทำอะไรเมื่อไหร่ก็ทำ ไม่อายสายตาชาวบ้านชาวช่อง”
“งั้นแปลว่าถ้าลับสายตาคนฉันก็ทำได้สินะ”
รูปประโยคมันแรงกว่าที่มาร์คคิด เพราะแจ็คสันก้าวเท้าฉับเข้าประตูห้องตามด้วยเสียงปิดประตูดังปัง แว่วเสียงโครมครามลอดออกมาจากข้างใน ยูคยอมก้มลงไปเก็บซากเนกไทด์และเข็มขัดส่งให้นายบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่ง ที่หันมามองหน้าจะยิ้มแหยใส่เมื่อคิดถึงความพินาศที่กำลังจะเกิดขึ้น
“...ไม่รู้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน ระหว่างสงครามเย็นแบบเมื่อเช้า หรือสงครามรบแบบตอนนี้”
“ผมว่าไม่ให้เค้าทะเลาะกันน่ะดีที่สุด”
“เฮ้อ…" x 2
หมอนและผ้าห่มถูกกวาดลงจากเตียงเหลือที่ร่างขาวกระจ่างตัดกับผ้าปูที่นอนสีเข้ม ดวงตากลมโตจ้องเขม็งกลับมาทั้งทีเนื้อตัวเหลืออยู่แค่เสื้อผ้าหลุดรุ่ย
“คุณมันหมาบ้า...โอ๊ย”
“ปากดีแบบเธอฉันจะไปหาที่ไหนได้อีก”
หวังแจ็คสันงับหัวไหล่ขาวจนจมเขี้ยว แค่คิดถึงช่วงเวลาที่จะต้องปล่อยมาร์คไปจริง ๆ ก็รู้สึกว่าเลือดของตนมันเดือดพล่านไปหมด
“อะไรของคุณเนี่ย” ด้วยฮอร์โมนเพศชายอันทรงพลังอย่างล้นเหลือ ตกเย็นไม่ทันค่ำไรหนวดเขียวก็เริ่มโผล่ขึ้นรอบริมฝีปากหนา มาร์คย่นคอหนีด้วยความจั๊กจี้แต่ก็ถูกรุกไล่จนต้องทอดตัวอ่อนอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง
ริมฝีปากจัดจ้านไม่หยุดว่ากล่าวมาเฟียหนุ่มที่เปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า
“นี่...หยุดนะ !”
“ฉันไม่หยุด”
“เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย ไปตายอดตายอยากมาจากไหน”
มาร์คใช้กำปั้นฟาดลงไปตรงที่กลางหลัง ทั้งที่อารมร์โดนปั่นจนแทบจะควบคุมไม่อยู่ ไอ้หนวดเจ้ากรรมนี่ก็ชวนสยิวจัง เคยมีคนขาดใจตายเพราะถูกหวังแจ็คสันไซ้คอมั้ย
“ถ้าเธอไม่อยากให้เมียของเธอในอนาคตของเธอเจอเรื่องของฉัน...”
“…”
“เธอก็ไม่ต้องมีเมีย”
“…พูดบ้าอะไรของคุณวะ”
ปากที่พ่นคำผรุสวาทจึงหยุดชะงักลงเมื่อเจ้าของลมหายใจร้อนเงยหน้าขึ้นมาพูดกับมาร์คอย่างจริงจัง
ในดวงตาไม่มีคำว่าล้อเล่น
“ฉันจะขัดขวางผู้หญิงทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเธอ”
“…ฮ๊ะ !?”
“เพราะเธอเป็นของฉันคนเดียว”
เสียงของหัวใจที่ไม่เคยได้ยินกระแทกก้องอยู่ในหู มาร์คหน้าแดงวาบโดยที่ไม่รู้ตัว...
ริมฝีปากก๋ากั่นที่เคยโวยวายกลายเป็นนิ่งค้างเหมือนกับตุ๊กตาที่หมดลาน...
“และฉันจะไม่ยอมให้เธอไปจากฉัน”
ไอ้คนลามก !!!!!
อีกฝ่ายฉวยโอกาสที่มาร์คนิ่งค้างทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ส่วนมาร์คที่สมองยังไม่เข้าที่ก็ได้นอนยิ่งให้อีกฝ่ายหอมฟัดจนจมูกโด่งกดลึกลงบนผิวนุ่ม
“ย้า !” กว่าที่มาร์คจะเรียกสติกลับมาส่วนนุ่มนิ่มกลางกายก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นท่อนเนื้อแข็งคัด ที่แม้จะเสียวแทบตายแต่คนพยศก็ยังไม่ยอมทิ้งลาย
“ใครจะไปยอมอยู่กับคุณวะ”
“ฉันไม่รับคำปฏิเสธ”
“ไอ้ ไอ้ ...อื้อ”
คราวนี้แจ็คสันไม่อนุญาติให้มาร์คพูดอีกด้วย
CUT
ดวงตาของมาร์คพร่าเบลอเพราะถูกทำให้มัวเมากับความลึกซึ้งของห้วงอารมณ์
และในวินาทีที่เส้นเหตุผลถูกตัดขาดด้วยมีดที่เรียกว่าอารมณ์ แจ็คสันกระซิบเสียงพร่าข้างหู...
“...เธอเป็นของฉัน”
และมันน่ากลัวที่มาร์คไม่มีแรงขัดขืนเลยสักนิด
บอกชอบอะไรทำไม่เป็นหรอก
ขู่ไปเลยว่าจะตามฆ่าชะนีทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเธอดีกว่า
แหม่ โรแมนติกจังเลยฟิคฉัน
_______________________
ก็เงี้ยะละนะ
ยิงตีกัน ยิ่งลูกดก
เห้อ เดี๋ยวอีกครึ่งเจอกันค่ะ
ฝาก #unluckyjark ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น