คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : Between you & me (สิ่งที่ทำพลาดไป)
ตอนที่
55:
Between you & me
(สิ่งที่ทำพลาดไป)
ย้อนกลับไปสองวันหลังจากที่ได้รู้ความจริง
ยิ่งผ่านไปนิสัยโดฟลามิงโก้ยิ่งแย่
ไม่พูดไม่จา อารมณ์เสียบ่อย จนทุกคนในแฟมิลี่ต้องพากันหลบหน้า
...ทุกอย่างของเขามันพังลงมาหมด
ทุกอย่างเลย ไม่อยากเชื่อว่าไวโอเล็ตจะหักหลัง เขาไม่อยากเชื่อจริง ๆ
มันคงเป็นอีกวันที่ชายหนุ่มเอาแต่นั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ที่บ้าน
อยู่ในเรือนกระจกที่เธอชอบ นั่งเป็นชั่วโมงเพราะตัวเองกำลังสับสน
ปล่อยหัวใจให้แปรสภาพเป็นแก้วที่ปริแตก
กลั้นใจให้สายเรียกเข้าจากเจ้าหญิงเป็นแค่สายมิสคอล
แล้วแหงนมองเพดานด้วยความคิดที่ตีกันกระจาย
โทรศัพท์เขาเงียบลงและแผดเสียงร้อง ...อีกครั้ง เจ้าพ่อหัวใจเต้น คิดว่าครั้งนี้เขาจะยอมใจเย็นคุยกับไวโอเล็ตดู เธอมีเหตุผลเสมอ และเขาจะพยายามรับฟัง หากแต่ใบหน้าคมต้องเรียบเฉย
เพราะคนที่ติดต่อมาคือลิลลี่ไม่ใช่เจ้าหญิง
‘โทรมาทำไม’ ต้องรับทั้งที่ไม่อยากจะรับ น้ำเสียงเจ้าหล่อนยังคงแสบหู
แม่นางรู้ว่าเขายังไม่ทำอะไร จึงบอกว่าหากยังไม่เชื่อก็มาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเถอะ
แล้วรีบส่งสถานที่มาให้เขาไตร่ตรองดู
โดฟลามิงโก้ชักไม่แน่ใจ
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเข้ามาได้ถูกจังหวะ รู้อะไรเสมอ
ทว่าสุดท้ายความอึดอัดก็ทำให้เขาหูเบา
ตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเคลื่อนตรงสู่จุดหมายทันที...
สิ้นสุดการเดินทาง
ทางเดินเงียบเฉียบยามสืบเท้าไปตามตึกสถานีโทรทัศน์
ภาพวันวานไหลสู่สมองเพราะตอนยังมีความฝันเขาเคยมาหาแม่ที่นี่อยู่บ่อย ๆ
...ยิ่งลึกยิ่งเงียบ
ยิ่งเดินเข้าใกล้ห้องหนึ่ง หัวใจเขายิ่งเต้นแรง
เห็นแสงไฟลอดออกมาจากในนั้น
ได้ยินเสียงชายหญิงคุยกัน สัญชาตญาณบอกให้เขาหยุดและยืนฟัง
ความรู้สึกเขามันจะไปทิศทางใด?
“ผมไม่เชื่อใจคุณ
คุณอยู่กับเขาตั้งหลายปี ความใกล้ชิดมันสั่นคลอนจิตใจคนได้
คุณรักเขาแล้วใช่ไหมครับ?” เตโซโร
หมอนั่นมันคุยกับใครสักคนอยู่ บทสนทนาที่บ่งชัดว่าหมายถึงเขา
โดฟลามิงโก้กำมือถือแน่น
พิกัดบอกว่าเธออยู่ที่นี่ พยายามเชื่อว่าคนในห้องไม่ใช่เธอ
ได้โปรดเถอะอย่าทำแบบนี้เลย ...ขอร้องล่ะไวโอเล็ตเธออย่าอยู่ในห้องนั้นเลย
“ฉันไม่เคยรักเขา
แม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่มี” คล้ายหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ
ถ้อยคำเย็นชาหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจ น้ำเสียงออดอ้อนที่เคยพูดด้วยความอ่อนโยน
ทั้งหมดเธอปรุงแต่งขึ้นมาใช่ไหม ไม่มีอีกแล้วคนอ่อนหวานที่เคยอยู่ข้างกัน
ตอนนี้ภูตของเขาเป็นใครสักคนที่บอกว่าไม่เคยรักเขาแม้แต่วินาทีเดียว
“ได้ยินเช่นนั้นผมก็เบาใจ
และสัญญาว่าเรื่องที่ตกลงมันจะเป็นไปตามนั้น ผมจะทำลายเขาแทนคุณให้เอง
วางใจเถอะครับ...” ความเงียบช่วงชิงความคิด ร่างหนาผละตัวออกจากกำแพง ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้น
ความทรงจำทุกอย่างที่เคยมีร่วมกัน เขาทิ้งมันไว้หน้าประตู
ตอนสุดท้ายของเรา เธอเขียนแบบนี้รึเปล่า เรื่องอวสานของเรามันจบลงที่ตรงไหน...
ยัยลูกสาวสส.
เดินออกมาจากหัวมุม คลี่ยิ้มละมุนตอนเห็นท่าทางว่างเปล่าของเจ้าพ่อ
“ชัดเจนขนาดนี้คุณคงไม่ต้องหาข้ออ้างอีก
วิถีชีวิตของพวกคุณคือเอาคืนคนที่ทำร้ายเป็นร้อยเท่าไม่ใช่เหรอคะ ว่ายังไงคะ
อยากให้ฉันช่วยอะไรคุณรึเปล่า คุณไม่แค้นใจเหรอ?”
‘เจ็บแค่สิบแต่จะเอาคืนเป็นร้อย’ ทุกคนในแฟมิลี่เคยพูดอย่างนั้น แล้วทำไมหัวหน้าแฟมิลี่อย่างเขาถึงจะปล่อยให้เธอกลับบ้านดี
ๆ
เธอหักหลังกัน
และเขาเจ็บปางตาย
หากแต่เธอเจ็บ
เขาก็เจ็บ และถ้าเขาเจ็บ เธอต้องเจ็บกว่า!!!
เธอแสแสร้งโกหกกัน
และเขาจะไม่ยอมโดนทำร้ายฟรี ๆ
...เกมลงทัณฑ์ของเจ้าหญิงมันเริ่มตั้งแต่วินาทีนั้น เด็กสาวกล้าเอามีดแทงเขาแล้วยิ้มเยาะอย่างไร้เยื่อใย
คนที่ทำร้ายเขา
เขาเอาคืนเสมอ ถึงแม้นั้นจะเคยเป็นคนที่รักมากก็ตามที...
พวกนายบีบบังคับให้เขาไม่มีทางเลือก พวกนายเริ่มมันก่อน
‘ทุกอย่างมันเหมือนที่นายเคยทำเลยนะ
โรซี่’
สติโดฟลามิงโก้กลับสู่ปัจจุบัน
กำคันเร่งแน่นยามเผลอนึกถึงอดีตที่ทำให้เขากล้าลงมือกับดวงใจ
สองข้างทางสลับเปลี่ยนจนเป็นแค่เส้นยาว
มอเตอร์ไซค์ซีซีสูงคือยานพาหนะชั้นดียามข้างในมันร้อนรน
อยากไปถึงที่นั่นแล้วระบายความหงุดหงิดให้พอใจ
หวังว่าเขาจะได้เจอมันและสะสางบัญชีกับคนที่ร่วมมือ
[ดูเหมือนไวโอเล็ตจะแวะหาใครคนหนึ่งที่ตึกร้างครับ]
กลาดิอุสอยู่ในสาย รายงานเรื่องขององค์หญิงเป็นระยะพร้อมขับรถตามเขา
‘ตึกร้าง’ นัดใครไว้จริงด้วย เช่นนั้นก็พอดีเลย
เขาจะได้ฆ่าพวกมันแล้วฝังลงกำแพงคอนกรีตให้เป็นอนุสรณ์บันเทิงใจ!
แล้วจะย่ำยีเธอต่อหน้าศพพวกมัน!
………………………
หุ่นเพรียวรีบวิ่งลงจากรถ
เธอมาตามสถานที่ที่ลอว์บอกแล้ว แต่ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็ไร้วี่แววของเด็กหนุ่ม
ไวโอเล็ตจึงตัดสินใจโทรหาเขาอีกที
“เธอไม่ได้มาที่นี่สินะ?”
[......] ลอว์ใช้ความเงียบเป็นคำตอบ
สถานการณ์ตอนนี้มันเสี่ยง เจ้าหญิงหุนหันหนีโดฟลามิงโก้มา
และหากเขาออกไปพบนางตอนนี้ ตัวเขาเองต้องซวย ...อุตส่าห์หลบหมอนั่นมาได้ขนาดนี้แล้ว
แม้จะเห็นแก่ตัวแต่เขาจะไม่ยอมให้มันจับไป
[ขอโทษด้วย
แต่คุณหนีไปสักระยะเถอะ ผมติดต่อหาองค์รักษ์คุณแล้ว เขากำลังจะไป
ไม่เช่นนั้นคุณก็ตามไปสมทบกับเขาที่บ้านท่านเคานต์เถอะ หลังจากวางสายคุณแล้ว
ผมจะบอกคุณเซ็นโงคุหรือคุณอิชโชเอง]
“ดอฟฟี่ทำอะไรเธองั้นเหรอ
เธอถึงกลัวเขาขนาดนั้น” ลอว์สะอึก ผู้หญิงคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเขา ‘กลัว’
เขากลัวว่ามันจะเข้ามายิ้มเยาะแล้วฆ่าทุกคนในชีวิตเขาอีก
เขากลัวที่ตัวเองอ่อนแอจนได้แต่มองดูพวกมันซ้อมคุณโคราจนเละ
เขากลัว
กลัวมากจนเปลี่ยนเป็นความโกรธ โกรธที่ตัวเองมันไร้พลัง
...โลกนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับคนดีหรือยังไง
[ผมไม่ได้กลัวเขา]
“งั้นเหรอ แต่ฉันกลัวนะ
บางทีดอฟฟี่ก็ทำเรื่องโหดร้ายได้หน้าตาเฉย และขอบคุณเธออีกครั้ง
ดูท่านอกจากท่านเคานต์แล้วฉันคงไม่มีทางเลือกอื่น
หวังว่าเธอกับเตโซโรจะจัดการภารกิจของรัฐบาลให้เสร็จด้วยดี” ลอว์จะพูดอะไรแต่ไวโอเล็ตก็กดตัดสายไป
ตอนนี้ชักช้าไม่ได้แล้ว
มีแต่ต้องพึ่งท่านเคานต์อีกครั้ง เธอต้องคิดเผื่อตัวเองหาทางหนีทีไล่
หลังจากจบเรื่องทั้งหมดดอฟฟี่คงเข้าใจ
หากเขารู้เจตนาที่แท้จริงของเธอเท่านั้นก็เพียงพอ
สองขาเดินออกมาที่ข้างถนน
โยนมือถือเขาเข้าไปในรถและเตรียมหารถโดยสาร ดวงตาเธอประสานกับคนตรงหน้าแล้วก็ต้องตกใจ
สีทองในประเทศไหนก็สะดุดตา และยิ่งเป็นสีผมด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
ที่ตรงหน้าคือคนที่มีเรือนผมสว่างดุจทองคำ
ปลิวไหวตามแรงลมดึงให้ไม่อาจละสายตา หากใครได้เชยชมคงบอกว่ามันสวยดี
แต่สำหรับไวโอเล็ตมันคือความจริงที่ภาวนาให้เป็นแค่ภาพลวงตา
“ผมได้พบคุณสักทีนะครับ
ไวโอเล็ตจัง”
“...เจ้าชายซันจิ” เด็กหนุ่มยิ้มร่า ชายตรงหน้าคือวินสโมค ซันจิ
เขาอยู่ในชุดนักเรียนสะอาดสะอ้าน กลุ่มผมถูกหวีให้ปกใบหน้าซีกซ้าย
แต่นั้นไม่อาจบดบังใบหน้าอ่อนโยนของเขาได้เลย
“ทำไมเจ้าชายถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ผมย้ายมาอยู่ประเทศนี้แล้วล่ะครับ
มาได้สักพักหนึ่งแล้ว โชคดีจังที่ได้เจอคุณ” เจ้าหญิงทำตัวไม่ถูก
อีกฝ่ายเข้ามาประชิด แม้จะอายุแค่ 15 แต่เขาก็สูงแทบจะเท่าเธออยู่แล้ว
ซันจิยังคงยิ้มละมุน บอกเล่าว่าตอนอยู่ที่นี่เขาทำอะไร
รับรู้ได้ว่าคู่หมั้นตรงหน้าจิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพลานี้เด็กหนุ่มเลยตัดสินใจจะถอยออกมา
“ไวโอเล็ตจังคงมีธุระ? ดูคุณไม่ค่อยอยากคุยกับผม”
“อือ ขอโทษนะ
ไว้คุยกันตอนอื่นเถอะ แล้วฉันจะชดเชยให้ทีหลังแน่นอน”
“อ่านั่นสินะครับ
...เข้าใจแล้วครับ ไวโอเล็ตจังสัญญาแล้วนะ” จู่ ๆ
เจ้าชายก็คว้ามือเธอขึ้นไปจุมพิต ฝังจมูกอยู่เนิ่นนานแล้วยิ้มในตา
ไวโอเล็ตหวั่นวิตกรีบชักมือกลับ กำลังจะบอกเด็กหนุ่มว่าขอโทษที่เสียมารยาท
และยกโทษให้เถอะเพราะเรื่องหมั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้น
“คือว่าเจ้าชาย
ที่จริงแล้วเรื่องหมั้นน่ะ...” ในฉับพลันที่ขนคอเธอลุกชัน
สัมผัสได้ถึงรังสีเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากข้างหน้า เจ้าหญิงเบิ่งตาโต
ที่สุดสายตาเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งนิ่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งชุดเขาเป็นสีดำ
...ชุดเดียวกับเมื่อคืน แต่บรรยากาศนั้นหนักหน่วงยิ่งกว่า
คน ๆ
นั้นก้าวลงจากรถ ถอดหมวกกันน็อกแล้วล้วงปืนออกมาทันที!
ทุกวินาทีบีบคั้น
สัญชาตญาณกู่ร้องให้เอาตัวรอด เจ้าหญิงรีบผลักเจ้าชายออกไป
บอกให้เด็กหนุ่มหันหลังไปให้ไกล!
“ไว้คุยกันตอนอื่นนะซันจิ
เธอไปได้แล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้นครับอยู่ ๆ
ก็มาไล่”
“ไปสิ!
ฉันไม่อยากคุยกับเธอ!” เด็กหนุ่มหน้าสลด
แววตาผิดหวัง ไวโอเล็ตไม่สนใจผลักเขาให้เดินออกไป
ไม่รู้ว่าทำไมเสียงฝีเท้าที่คืบคลานเข้ามาถึงเขย่าประสาทเธอ …ตอนนี้ในใจก็อยากวิ่งหนีไปพร้อมกับเจ้าชายจริง ๆ
“โธ่เอ้ยไปสิ! เธอไปได้แล้ว! ฉันบอกให้ไปไง!
ตอนนี้ฉันไม่อยากเจอเธอ! เธอไปสักที!!!” ทั้งผลักทั้งดัน ตัดเขาแต่ยังเหลือใย ซันจิแสดงสีหน้าเศร้าสร้อย
ยิ่งคู่หมั้นเขาไม่ใคร่ยินดีที่ได้พบ
เจ้าชายจึงตัดสินใจเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง ทิ้งให้เธอเผชิญโชคร้ายแต่เพียงลำพัง
...แต่เธอก็พยายามกัดฟัน หันหลังไปอ้อนวอนปีศาจร้ายทันที
“เดี๋ยวก่อนดอฟฟี่ เจ้าชายเขาไม่เกี่ยวอะไรนะ!”
“หุบปาก” โดฟลามิงโก้ไม่พูดไม่จา
ผลักเธอให้หลีกทางแล้วตวัดตามองแผ่นหลังเด็กหนุ่มนั่น ยกแขนหมายจะเล็งมัน
ทว่าไวโอเล็ตก็ยื้อไว้
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด! เด็กคนนั้นไม่เกี่ยวอะไรนะ เราแค่บังเอิญเจอกันเฉย ๆ
ฉันขอร้องล่ะอย่าทำอะไรเขา ฉันยอมทำทุกอย่าง อย่าทำอะไรเขาเลย!”
“ทำไมฉันต้องทำตามเธอ!”
“...เพราะฉันผิดเอง
ฉันยอมรับผิด ฉันโกหกคุณ ฉันหักหลังคุณ อย่าทำอะไรเขาดอฟฟี่ ฉันขอร้อง
ทั้งหมดเป็นเพราะฉันเอง อย่าทำอะไรเขาเลย”
เหมือนเติมเชื้อไฟให้มันไหม้
ทิ้งให้แสบทรมานไปเป็นปี เธอหลอกกันก็สาหัสจนจะแย่ แล้วยังมาตอกย้ำว่าเป็นห่วงใครอื่นมากกว่าคนที่ยืนตรงนี้อีก
ทำไมถึงอยากช่วยมัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะโดนอะไร!?
ความมุ่งร้ายพุ่งกลับมาหาต้นตอ
เสียดแทงให้ทารุณ
“เป็นห่วงมันมากสินะ”
“...ฉัน”
“รักมันมากสินะ”
“ฉันไม่...”
“อ่าใช่
ฉันลืมไปว่าเธอคงรักใครไม่เป็น มารยาไปวัน ๆ
ปั่นหัวให้ผู้ชายตีกันแล้วตัวเองก็กลับไปเสวยสุขอยู่คนเดียว ...ได้ยังไง
เธอทำแบบนี้ได้ยังไง! ไหนลองบอกสิว่าหัวใจเธอทำด้วยอะไร!?
เธอยังมีมันอยู่รึเปล่า!?” ไวโอเล็ตปัดมือเขาออก
เสียใจและร่ำไห้
อย่างน้อยเธอก็มีหัวใจ
ไม่ใช่เขาที่หามันไม่เจอ
“หัวใจฉันมันก็ก้อนเนื้อธรรมดานี่แหละ
ที่โดนทำร้ายมาก ๆ มันก็เจ็บเป็นเหมือนกัน! หัวใจฉันมันก็แค่ก้อนเนื้อโง่ ๆ
ธรรมดาที่เผลอตัวไปรักคุณ” เจ้าพ่อหัวเราะขึ้นจมูก
สีหน้าบิดเบี้ยว
“รักเหรอ? น่าขำมากที่เธอยังกล้าพูดว่ารักอีก”
“คุณไม่อยากได้มันแล้วใช่ไหม?”
“ไม่...
อยากได้สิ ความรักปลอม ๆ ของเธอ ฉันอยากได้
ฉันอยากให้เธอรักฉันให้มาก ๆ เพราะฉันจะได้มีความสุขที่ได้ขยี้หัวใจเธอทั้งเป็น! คงไม่ลืมสินะว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดอะไรไป!”
คนที่ทำร้ายเขา
เจ็บกว่าเท่าตัวเสมอ! คำนี้ต้องย้ำให้ขึ้นใจ
ไวโอเล็ตได้แต่ปล่อยน้ำตาลงมา
โชคชะตาทำร้ายเรา ปลายเท้าเธออยู่ที่ขอบผา แต่ไม่ทันจะได้โดดลงไป
ทั้งร่างก็ถูกดึงกลับมาด้วยน้ำมือของปีศาจ
...บอกขนาดนี้เสียงของเธอคงไปไม่ถึง
ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เราก็วนกลับไปที่เดิม
คำว่ารักของเธอมันไม่มีความหมาย
และเธอคงทนรับมันไม่ไหวอีกต่อไป
………………………
‘เมื่อไหร่จะจบ’ คำนี้วนเวียนอยู่ในหัว
เบาะหนังเสียดสีไปตามผิวเนื้อ
คงขึ้นเป็นรอยแดงหากพลิกหลังขึ้นมาดู
สาวน้อยร้องจนหมดเสียงตอนคนด้านบนทาบทับเข้ามารุนแรง
เอาเส้นเสียงไปได้เลยหากเขาเพียงต้องการ
หนีไม่ได้
ทางซ้ายเป็นเบาะ ด้านหลังก็คือประตู
มีหลายครั้งที่แรงเคลื่อนไหวทำให้เธอกระแทกไปกับมัน ผิดที่ผิดทางเพราะอีกฝ่ายกำลังกระทำหยาบช้ากับเธอคารถยนต์
“ถึงใจเธอดีไหม ร้องดัง ๆ
สิ ไหนบอกว่าจะทำทุกอย่างตามที่ฉันต้องการไง” เขาเป็นใครสักคนที่ไม่อาจเข้าถึง
ชายหนุ่มขยุ้มเส้นผมหลังท้ายทอยแล้วดึงให้เธอแหงนหน้า
ก้มลงซุกไซ้แล้วฝังรอยจ้ำสีแดงให้เป็นตราบาปที่ไม่มีวันเลือน
เพราะยังได้ยินถ้อยคำชัดเจนที่ตอกลึกลงจิตใจ
‘กลาดิอุส
พาฉันกับเจ้าหญิงไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันหน่อยสิ’ คำสั่งราบเรียบดังขึ้นตอนพามาอยู่บนรถ
จะให้เขาอดทนจนถึงรังรักก็นานเกินไป และจะปล่อยให้เธอได้พักหายใจ เขาคงไม่ยอม
สั่งทุกคนให้ออกไป
ก่อนจะใช้เบาะหลังเป็นที่เด็ดปีกเธอออกช้า ๆ ...จะขย่มเท่าไหร่โช๊คก็ไม่เสีย ช่างคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไปเพื่อรถดี ๆ จริง ๆ
การกระทำเริ่มทำให้ไวโอเล็ตหวาดกลัว
เจ้าหญิงหมดทางรอดก็ยังพยายามถดตัวหนี
ชายหนุ่มออกแรงดึงข้อเท้าให้กลับมาอยู่ที่เดิมแล้วแยกเรียวขาออกจากกัน
ทิ้งความบ้าคลั่งใส่ร่างน้อยไม่บันยะบันยังเพราะเธอถวายตัวเอง
...เธอบินไม่ได้
และตอนนี้ก็จะเดินไม่ได้เหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่โดฟลามิงโก้จงใจ
เสียงครางทุ้มดังเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนร่างหนาจะผ่อนแรงแล้วปรับจังหวะลมหายใจให้นิ่งสงบ
ผละตัวออกมาทันทีหลังสุขสม ไม่วายต้องเดาะลิ้นเพราะเธอทำให้เขาหลุดมาดเสมอ เจ้าพ่อใส่กางเกงให้เรียบร้อย
แล้วต่อสายหากลาดิอุสให้ตามคนขับรถกลับมาทำหน้าที่ตามเดิม
ถอนหายใจทิ้งยืดยาวแล้วยกมือขึ้นมาบดบังสายตา
...ทั้งคู่ขึ้นมาแล้ว
รถแล่นไปอย่างเงียบเฉียบ ไม่มีใครกล้าพูดหรือหันไปมองว่าสภาพหลังรถเป็นเช่นไร
รู้ดีว่าหากหันไป ตัวเองคงไม่เหลือเงาหัวอยู่บนโลกนี้อีกตลอดกาล
ที่ข้างหลัง
เด็กสาวนั่งขดตัวฝังอยู่กับประตู เสื้อผ้าขาดวิ่น
อันที่จริงมันควรเรียกว่าเศษผ้าเพราะมันแทบไม่บดบังผิวเนื้อใด ๆ
ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
ก้มหน้าซุกแขนตัวเองไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาใคร ไม่รู้อะไรเข้าสิงโดฟลามิงโก้ถึงพอใจกับภาพนั้น ยิ่งมองเห็นรอยจูบที่วงขา
เขายิ่งมีอารมณ์ เอื้อมมือหยาบกร้านลูบรอยช้ำสีแดงนั้นแล้วหัวเราะในลำคอ
ไวโอเล็ตลดขาหนี
แต่ก็ต้องหวีดร้องอย่างสุดเสียงตอนโดนดึงให้มานอนหมดท่า
มือบางปกปิดส่วนสำคัญเป็นพัลวัน แต่ข้อมือก็โดนเขาดึงออกแล้วกดแนบไปกับเบาะสีดำ
ทิ้งให้โดนสายตาน่ารังเกียจโลมเลียไปทั่วทั้งตัว
“หึหึ ปิดทำไมล่ะ อายเหรอ? นึกว่าที่เป็นดาราเพราะอยากจะโชว์เนื้อตัวให้ชาวบ้านดูเสียอีก” เจ้าหญิงยังคงหันมองทางอื่น ถ้อยคำดูถูกก็ว่าพอ
แต่ใบหน้าต่างหากที่ไม่อยากจะมอง ...เธอไม่อยากสบตา ก่อนจะดิ้นขลุกขลัก
ทุบตีร่างใหญ่หนักมือตอนเขาก้มลงดูดดึงยอดอกเธอ
“ไม่! …หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงลิ้มเลียบังคับให้อับอาย
ทุกคนในรถได้ยินเพียงแต่เลือกที่จะไม่สน
“อะไรกัน พูดแบบนี้กับฉันมันจะดีเหรอ? พยศดีขนาดนี้แสดงว่าแรงยังเหลืออยู่ล่ะสิท่า อยากต่อกันอีกสักรอบไหมล่ะ
เอาโชว์ลูกน้องมันนี่แหละ!”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้
อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!” คนผมบลอนด์ยังคงขำ
รวบมือสองข้างเธอไว้แล้วนั่งคร่อมทันที
เอื้อมมือไปหน้ารถก่อนสั่งลูกน้องโดยไม่หันไปมอง
“กลาดิอุส
เอาของที่ฉันสั่งมา”
“แต่ว่านายน้อย...”
“อย่าบังอาจหันมาข้างหลัง! และก็อย่าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง!
เอาของที่ฉันสั่งมาได้แล้ว!” ของในมือกลาดิอุสถูกฉวยไปทันที
ลูกน้องผมฟ้าอยากร้องเตือนแต่ขีดอารมณ์ของนายน้อยก็เลยไปไกลลิบแล้ว
ตัวเขาลังเล
แต่ก็ต้องรีบหันกลับไปที่เดิมตอนโดนเจ้านายตวัดสายตาเหี้ยมมาเขม่นตน
คราแรกกลาดิอุสหวั่นวิตก
นายน้อยเกือบจะฆ่าเจ้าชาย แน่นอนมันไม่ดีมาก ...มีเรื่องกับราชวงศ์เรื่องมักจบไม่สวย
ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่ทนโท่ตอนเอาไวโอเล็ตเข้ามาอยู่ในแฟมิลี่
หืดขึ้นคอขนาดไหนตัวนายน้อยเองรู้ดีที่สุด
ซ้ำร้ายตอนนี้พวกเรายังโดนหลายคนหมายหัวอีก ปล่อยให้หมาป่าอีกฝูงหันสายตามาทางนี้
ทั้งแฟมิลี่รับไม่ไหวแน่...
เขาถึงโล่งใจมากที่เจ้าหญิงยอมสละตัวเองดึงความสนใจทุกอย่างให้กลับมายังตน
ปัญหาตัวเองก็หนักจนจะแย่แต่ดันมีเรื่องผิดใจอีก
แถมสภาพไวโอเล็ตที่เขาเห็นเมื่อครู่ ทำให้นิ่งนอนใจไม่ได้จริง ๆ
“นายน้อยครับคือว่าทำแบบนี้มันออกจะ...”
“ฉันบอกว่าอย่าหันหน้ามาไง!” ปากกระบอกปืนชี้มาทางเขาฉับพลัน ลูกน้องเหงื่อตก
ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้
วันที่นายน้อยกล้าหันของอันตรายหาแฟมิลี่ตัวเองอย่างคุกคาม
“แต่ว่า...”
“หรืออยากจะดู?” ไม่พูดเปล่าโดฟลามิงโก้ก็ดึงเจ้าหญิงให้มานั่งซ้อนตัก
กลาดิอุสหันหนีเกือบไม่ทันตอนมือนายน้อยสะเปะสะปะทั่วร่างเปลือยนั้น
ความเงียบเข้ามาเยือนแล้ว
เจ้าพ่อขยำเนื้อตัวไวโอเล็ตแน่น ความหงุดหงิดขึ้นสูงยามจู่ ๆ
ก็ดันนึกขึ้นได้ว่ากลาดิอุสเองก็เคยมองแม่จำเลยด้วยสายตาพิเศษเหมือนกัน
‘ให้ตายสิ เสน่ห์แรงเหลือเกิน!’ คนตัวใหญ่ไม่รอช้า
บีบคางเด็กสาวให้อ้าออกแล้วเทบางอย่างกรอกปากทันที
“อย่า! คุณให้ฉันกินอะไร!”
“ยาเซ็กซ์ ...ของท่านเคานต์พี่ชายเธอเลยนะ” คนฟังตาโต พยายามขัดขืน แต่ยิ่งดันทุรังก็เปิดช่องให้เขาเอายากรอกปากเธอได้ หากไม่เข้าปากก็ไหลไปตามลำคอ เพราะไม่อยากกินเจ้าหญิงจึงทำสิ่งไม่คาดฝัน ถ่มมันเลอะเต็มหน้าโดฟลามิงโก้ทันที
อุณหภูมิลดลงเฉียบพลัน สถานการณ์วิกฤตแล้ว เธอพยายามแกะตัวหนี แต่ข้อมือก็โดนจับแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็ก
อยู่ไม่ได้แล้ว เธอต้องไป! กระโดดลงรถตอนนี้เลยก็ได้!
ขนคอลุกชันเพราะตอนนี้ตัวเองได้ไปปลุกสันดานดิบในตัวเขาเข้าเสียแล้ว
ความเงียบของเขามันน่ากลัว โดฟลามิงโก้ยกมือขึ้นมาเช็ดหน้า
เชื่องช้าเหมือนพยายามควบคุมความคิด ล็อกข้อมือเธอไว้ทั้งสองข้าง
ก่อนแหย่นิ้วเข้าไปในโพรงปากอิ่ม อุดปากเธอไว้ไม่ให้กล้าทำเรื่องแบบนี้อีก!
“เธอกล้ามากที่ทำแบบนี้กับฉัน!” แม้เด็กสาวจะกัดนิ้วเขาจนเลือดซิบแต่คนสวมแว่นก็ไม่สน
แหย่มันลึกให้เธอสำลัก เพราะเขาต้องสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ว่าอย่ามาทำกริยาต่ำ ๆ …ต้องสอนให้รู้ว่าไม่ควรไปถ่มน้ำลายใส่หน้าใครอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเขา!!!
“ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” กระซิบเสียงเย็นแล้วสอดลิ้นสากเข้าไปในหู น้ำตาเธอเริ่มไหลตอนยามันออกผล ...ก่อนเขาจะใช้คำประกาศิต ขีดฆ่าเธอทั้งเป็น
“นี่ไอ้คนขับรถ...
ฉันอยากเล่นอะไรสนุก ๆ กับเจ้าหญิงสักหน่อย แวะจอดที่ม่านรูดข้างหน้าหน่อยสิ”
เพราะสถานที่อัปมงคลก็มีไว้ทำเรื่องอัปรีย์! ...อยู่กับมาเฟียมานาน เธอไม่คิดเช่นนั้นรึไง
───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ
พระเอกเรื่องนี้เป็นบ้า
............
และมาอัปเดตนะคะ หลังจากไม่กี่วันได้สอบถามว่าเราควรจะลงนิยายแบบไหนดี
คำตอบก็คือ แบบที่ 1 นะฮะ
คือลงเรื่อย ๆ ต่อไป ทะลุร้อยตอนก็ไม่หวั่นจ้า
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาแสดงความคิดเห็นกันนะคะ
ทุกเสียงมีความหมาย (โปรดเลือกแรคคูนเป็นสัตว์เลี้ยงประจำตัวค่ะ)
#โปรยใจ
............
และขอพื้นที่โฆษณา
ตอนนี้ไรท์แอบเปิดเพจล่ะค่ะ
หากท่านใดสนใจก็สามารถกดติดตามหรือพูดคุยได้นะคะ
facebook.imparnell <<< จิ้มรูปหรือลิ้งค์ก็ได้
─────────────
ความคิดเห็น