คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #60 : Everything means nothing (เธอลวงหลอก)
ตอนที่ 52: Everything means nothing
(เธอลวงหลอก)
หลังจากแม่ตายทุกอย่างคือความวังเวง
ทั้งบ้านเงียบงัน เดินไปทางไหนก็สัมผัสได้ถึงความเหงาที่ลอยอยู่ในฝุ่น บ้านที่อยู่ไม่มีความหมาย เพราะคนที่ทำให้มีความหมายไม่ได้อยู่ที่บ้าน
โดฟลามิงโก้แทบไม่ได้กลับไปที่นั่น
กลับไปก็จะเจอแต่ใบหน้าเศร้าสร้อยของพ่อและน้องชาย เขาจึงไม่กลับไป
เอาแต่หมกตัวมองเพดานอยู่ในโกดัง แสนอับทึบไม่เห็นแสงตะวัน
เหมือนเช่นเส้นทางที่เขาพึ่งเลือกที่จะเป็น
‘อ่า
แต่ต้องกลับไปเอาของจำเป็น’ มันคงเป็นวันสุดท้ายที่คิดจะกลับไปยังบ้านหลังนั้น
เด็กอายุ 14 เด้งตัวขึ้นแล้วสืบเท้าไปตามเส้นทาง
ก้าวขึ้นรถก่อนเหม่อมองภาพท้องถนน ภาพเส้นแสงที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำไมถึงเต็มไปด้วยความว่างเปล่าเหมือนจิตใจ
ถึงที่หมาย บ้านหลังงามตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
เด็กหนุ่มทุลักทุเลปีนเข้าบ้านตัวเอง
หากมีตำรวจมาเห็นเข้าเขาคงโดนจับ ย่องเข้าห้องส่วนตัว
จัดการดึงกระเป๋าออกมาและยัดของทุกอย่างที่ต้องการไว้ในนั้น
แสงจากนอกหน้าต่างยังทำให้เห็นสิ่งต่าง
ๆ แต่แสงไฟจากทางเดินดึงให้โดฟลามิงโก้ต้องหันไปมอง
โรซี่ น้องชายเขายืนอยู่ตรงนั้น
แง้มประตูเล็กน้อยแล้วมองเขาด้วยสายตาที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตา
“พี่จะไปอีกแล้วเหรอ?”
คำถามฟังดูก็รู้ว่าน้องชายตัดพ้อ
“อือ ฉันจะไม่อยู่ที่นี่โรซี่”
“คุณพ่อแทบไม่มีสติแล้วนะ”
“แล้วไงล่ะ จะมาบอกฉันทำไม!?”
“ข้าวปลาไม่ยอมกิน
พี่ช่วยคุณพ่อหน่อยได้ไหม”
“เหอะ! คนอย่างมันตายก็ดีแล้ว ใครจะสน!”
“แต่เขาเป็นพ่อเรานะ!”
“พ่อห่วยแตกที่ดูแลแม่หรือพวกเราก็ไม่ไหว! ไม่ใช่เพราะมันรึไงถึงได้โดนคนอื่นหลอกเอาน่ะ! ไม่ใช่เพราะความโง่ของมันรึไงที่เราต้องเป็นแบบนี้!
นายยังคิดไม่ได้อีกเหรอว่าเพราะมันนั่นแหละที่ทำให้แม่ต้องตายน่ะ!!!” ความอึดอัดทำให้เขาบันดาลโทสะ โดฟลามิงโก้สะอึกตอนเห็นน้องชายร้องไห้
แต่เพราะเขาก็เจ็บช้ำจึงเลือกที่จะไม่ร้องตาม
“คนแบบนั้นน่ะตายไปได้ก็ดี
หนี้สิ้นมันจะได้หมด และถ้าเกิดมันตายแล้วก็ไม่ต้องติดต่อมานะ เพราะครอบครัวสับปะรังเคแบบนี้น่ะ
ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย!” เพราะโง่เขลาจึงเลือกที่จะใช้อารมณ์บดบังความรู้สึก
ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองมันก็ห่วยแตก
โรซี่ตัวสั่น ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล
เหมือนน้องชายเขาคือรูปสะท้อนที่อ่อนแอ
เป็นความอ่อนแอที่โดฟลามิงโก้อยากลบมันให้หายไป
แต่แล้วเสียงประตูก็ดึงให้เขาหันไปมอง
...พ่อเขายืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าอิดโรย เนื้อตัวผอมจนเห็นกระดูก
ผู้ชายที่เขาเคยมองว่าเป็นฮีโร่ตอนนี้มันก็แค่คนน่าสมเพช
พ่อเขาได้ยินทุกสิ่ง
โดฟลามิงโก้รู้แต่ไม่ขอโทษ
ยิ่งเสียงสะอื้นของโรซี่ก็ดึงให้ต้องกัดฟันแล้วเดินออกจากบ้านไป
ก้าวขาให้เร็วขึ้น มากขึ้นอีก
ปาดน้ำตาที่ไหลลงแล้ววิ่งหนีอย่างสุดกำลัง
เพราะสิ่งที่เคยเข้มแข็งมันพังทลายตอนได้ยินคนที่เรียกว่าครอบครัวพูด ‘ขอโทษ’
“พ่อขอโทษนะดอฟฟี่ พ่อขอโทษ"
ขอโทษ จะขอโทษทำไม จะขอโทษเพื่ออะไร! ตอนนี้มันไม่ทันแล้ว เขาหันหลังกลับไม่ได้แล้ว!
มือของเขาเปื้อนเลือดไปแล้ว!
ชีวิตของเขามันพังลงไปแล้ว!
สิ่งที่เรียกว่าน้ำตาน่ะมันไม่ควรไหลออกมา...
ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้!
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปนาน
กี่ปีไม่อาจนับ...
แฟมิลี่เริ่มมีอำนาจ
พวกเทรโบลพร่ำสอนทุกอย่างและเขาจะทำมันให้ดี เส้นทางใหม่จะไม่มีคำว่าล้มเหลว
เขาจะไม่ทำให้มันพัง
ความมืดกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา
บ้านคืออะไร เขาไม่เคยได้กลับอีกเลย จำได้ว่ามันคือประตูรั้วสีเหล็กที่สูงเตะท้องฟ้า
เปิดอ้ารอรับอยู่เสมอแล้วเขาจะได้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น
แม้จะไม่ได้พบแต่ก็ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
...เขายังคงมองเห็นมัน
และรอวันที่จะได้กลับไป
ตั้งแต่วันนั้นโดฟลามิงโก้ก็ไม่ได้ติดต่อใคร
รู้สึกจุกในอก เหมือนตอนนี้เขาเป็นคุณแม่และน้องชายกับพ่อคือตัวเองที่รอให้กลับไปหา
ตอนนี้ผ่านมานานเขาจึงกล้ากลับไปเผชิญ จึงไม่ชักช้ารีบตรงกลับบ้านทันที
‘อะไร?’ สิ่งที่เห็นตรงหน้าคืออะไร
ทำไมสถานที่ที่เคยอยู่ถึงรกร้างเถาวัลย์เลื้อยพันขนาดนี้
อย่างน้อยค่าประกันของแม่ก็มีมากพอและเงินที่เขาหามาต้องช่วยได้สิ
แล้วทำไมบ้านของเขาถึงกลายเป็นบ้านร้าง
เขาเดินเข้าไป บางทีพ่อเขาอาจจะประหยัดเงินไม่ได้จ้างคนสวนก็ได้
และโรซี่เองก็คงจะช่วยงานจนไม่มีเวลา แต่แม้จะเดินไปทางไหนก็พบแต่ความว่างเปล่า
สิ่งมีชีวิตที่ต้องการเห็นคือพ่อและน้องชายไม่ใช่หนู
นี่ครอบครัวเขาหายไปไหนหมด?
คำว่าบ้านของเขามันไม่มีอยู่อีกแล้วหรือ?
เด็กหนุ่มเดินออกมา เหม่อลอยเหมือนไม่เข้าใจ
สะดุ้งตอนมีชายชราพาสุนัขมาเดินเล่น พวกเขาทั้งคู่จะตกใจแล้วปรี่เข้าหากันทันที
อีกฝ่ายคือเพื่อนบ้านที่เคยอยู่ใกล้กัน
“โดฟลามิงโก้ โดฟลามิงโก้รึ!? ให้ตายสินี่เธอหายไปไหนมา! เธอรู้ไหมว่าบ้านเธอเกิดอะไรขึ้นบ้าง
น้องชายเธอพยายามติดต่อหาเธอแล้วนะ เธอหายไปไหนมา!?” คำถามลอยซ้ำไปซ้ำมา
เจ้าของชื่อสับสน ทำไมชายตรงหน้าถึงต้องพรั่งพรูออกมาทั้งน้ำตา
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงที่เขาเปล่งนั้นเบาเหมือนกระซิบ ชายชราหยุดฟูมฟายแต่น้ำตายังคงไหล
หัวใจเกือบจะร้องตามแต่ต้องกลั้นใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
เพราะมันคือชิ้นส่วนเพียงอย่างเดียวที่จะให้เขาได้เจอครอบครัว
“นี่เธอไม่รู้อะไรเลยเหรอ...
น้องชายเธอเกือบจะเป็นบ้าอีกคนแล้วนะ ...เขาเกือบจะเป็นบ้าเพราะพ่อเธอฆ่าตัวตายน่ะ!” ท้องฟ้าถล่มลงมาตรงหน้า คุณเคยเห็นมันไหม ...เขาว่าเขาได้เห็นมันแล้วล่ะ
“อะไรนะ! แกอย่ามาล้อเล่นนะโว้ย! ถ้าแกโกหกฉันจะตัดสิ้นแกแล้วให้แกกลืนลิ้นตัวเอง!
แกรู้อะไรบอกมาให้หมด ฆ่าตัวตายเหรอ เมื่อไหร่ แล้วโรซี่อยู่ไหน พ่อฉันอยู่ไหน!!!” โดฟลามิงโก้กระชากคอเสื้อชายแก่ทันที เขย่าอย่างบ้าคลั่ง
แม้จะโดนสุนัขตาแก่กัดเขาก็ไม่สนใจ หากมันล้อเล่นเขาจะเอาถึงตาย
...ทว่าความจริงก็คือความจริง
“พ่อเธอตายแล้วโดฟลามิงโก้ เขายิงตัวตาย
งานศพจัดไปเมื่อปีแล้ว ถูกฝังอยู่กับแม่เธอที่สวน... เขาฆ่าตัวตาย”
“แล้วโรซี่ล่ะ โรซี่อยู่ไหน!?
อ้ำอึ้งอยู่ได้ รีบพูดมาเร็ว ๆ สิวะ!!!”
“ไม่รู้โดฟลามิงโก้
...ฉันไม่รู้ น้องชายเธอหายไป ฉันไม่รู้จริง ๆ” เขาหมดแรง
ปล่อยสองมือให้ห้อยต่องแต่งอยู่ข้างตัว นี่เขาทำอะไรลงไป...
นี่เขาปล่อยให้ครอบครัวตัวเองค่อย ๆ หายไปได้ยังไง!?
หัวสมองขาวโพลน
ไม่ทันรู้ว่ามีรถสีดำอีกคันมาจอดเทียบอยู่ข้าง ๆ ...เดียมานเต้ก้าวลงมา
ก่อนจะยืนมองเด็กหนุ่มอยู่ที่เดิม
โดฟลามิงโก้เหม่อลอย เดินไร้เรี่ยวจะกลับไปขึ้นรถแต่เสียงผู้ชายก็รั้งเขาไว้
“นายจะไปไหนดอฟฟี่”
“ฉันจะไปหาพ่อ ...และโรซี่"
"ครอบครัวนายไม่ได้อยู่กับนายอีกต่อไปแล้ว” ครั้นเห็นว่าที่หัวหน้าแฟมิลี่กำลังจะขึ้นรถไปเดียมานเต้จึงร้องทัก
โดฟลามิงโก้หันมามอง ชีวิตนี้เขาไม่เคยมั่นใจอะไรเท่านี้มาก่อน
ทำไมเขาถึงมั่นใจว่าพวกเดียมานเต้รู้อยู่แล้ว
“พวกนายรู้อยู่แล้วใช่ไหม?”
“......”
“พวกนายรู้อยู่แล้วแต่ไม่บอกฉัน!”
“พวกเราไม่อยากให้นายไขว้เขว”
“แต่นั่นมันครอบครัวฉันนะโว้ย!”
“อดีตครอบครัว...
พวกเราต่างหากคือครอบครัวของนาย ครอบครัวนายทิ้งนายไปเพราะพวกเขาอ่อนแอ
คนแพ้ไม่มีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิต นายไม่อยากเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ
...ถ้าเช่นนั้นก็ปล่อยพวกเขาไป นายเลือกทางนี้เอง ตัดใจซะเถอะ” ผู้บริหารของเขาพูดกรอกใส่หูมาตลอด พวกเขาเป็นทั้งดาบและโล่
หากอ่อนแอก็ต้องขจัด หากเจ้านายหลงทางก็ต้องชี้นำ
คนแพ้ไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรทั้งนั้น
และคนทรยศต้องจัดการ
ดอฟฟี่ เราคอยสอนนายแบบนั้น
นายต้องจำให้ขึ้นใจ
…นายไม่ควรอ่อนแอ!
โดฟลามิงโก้จ้องลิลลี่นิ่ง
ภาพอดีตผ่านเข้ามาในสมองยามเห็นหล่อนยืนข้างเดียมานเต้
“คนทรยศก็คือคนทรยศ
แม้จะเป็นเมียนายแต่เราต้องจัดการ” สายตาเจ้าพ่อแข็งกร้าว
จ้องลึกเข้าไปในดวงตาเดียมานเต้
ไม่ว่าจะครั้งไหนหมอนี้ก็มักจะกระชากอะไรสักอย่างออกมา บดขยี้ให้แหลกคามือแล้วย้ำว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม
“แกแน่ใจเรื่องนั้นได้ยังไง?”
“บอกตามตรงคนที่นายใจอ่อนด้วยฉันไม่เคยไว้ใจพวกเขาเลย
ทั้งโรซินันเต้และไวโอเล็ต ...นายเองก็คงรู้สึกว่าสองคนนั้นมีอะไรเหมือนกันใช่รึเปล่า
นายเชื่อใจเจ้าหญิงไหมดอฟฟี่? เห็นช่วงนี้ยัยนั่นพูดอะไรนายก็ทำตามเสียหมด
...นายไม่แปลกใจอะไรบ้างเลยหรือไง?”
‘อะไร มันจะเป็นได้ยังไง!? เธอหักหลังเขาเหรอ?’ ก็เมื่อกี้เขาพึ่งออกมาจากคอนโดฯ
ไวโอเล็ต ค่ำคืนยังพร่ำบอกว่าต้องการกันอยู่เลย
แล้วนี่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเรื่องทุกอย่างมันเป็นแค่การหลอกลวงกันได้ยังไง!?
“...ฉันไม่เชื่อ”
“โธ่เอ้ย ทำไมคุณไม่ลองถามแฟนคุณดูล่ะคะว่าตอนนี้หล่อนอยู่ไหน
ไม่ก็ถามลูกน้องคุณที่คอยตามยัยนั่นก็ได้น่ะ เชื่อสิยัยนั่นต้องโกหก” คนอำมหิตตวัดสายตามองลูกสาวเขม็ง ผู้หญิงคนนี้ล้ำเส้นแล้ว
เข้าใจทันทีว่าทำไมหญิงมักมากอย่างนางถึงยอมตกเป็นรองไวโอเล็ต
ที่แท้แม่หัวหมอหวังโต้กลับเอาแบบนี้
แค่การทะเลาะกันเล็กน้อยไม่น่าเชื่อว่ามันจะลามใหญ่โตจนดึงให้อีกฝ่ายอยากฆ่าเจ้าหญิงให้ดับดิ้น
โดฟลามิงโก้ไม่แยแส ตัดสินใจโทรหาไวโอเล็ตทันที
เธอตัดสายทิ้ง สองครั้ง และส่งข้อความมาบอกว่างานยุ่ง เดี๋ยวจะติดต่อกลับมา
นึกหงุดหงิดใจที่ต้องทำตามที่ลิลลี่บอก
เขาโทรหาลูกน้อง
มือไม้สั่นเกร็งตอนสิ่งที่ได้ยินกำลังสวนทางความรู้สึก
พวกมันบอกว่าเห็นไวโอเล็ตเดินออกมาจากตึกทำงานเตโซโร และตอนนี้กำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งบนรถยนต์
ไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองกำลังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“มันหน้าตาเป็นยังไง?”
“ตัวสูง ผิวคล้ำ
มีรอยสักอยู่ที่นิ้ว ดูเหมือนจะเป็นคำว่า DEATH ...ผมไม่เห็นหน้าเพราะอีกฝ่ายใส่หมวกปิดไว้
แต่บรรยากาศมันเหมือนคนตายเลยครับ” ไม่ต้องพูดมากกว่านี้ก็รู้ว่ามันคือไอ้หนูสกปรกตัวหนึ่งที่เคยทรยศแฟมิลี่
“ตอนนี้พวกแกอยู่ที่ไหน?”
“จอดอยู่ใต้ตึกแห่งหนึ่งครับ
...อ๊ะ เด็กผู้ชายคนนั้นลงมาแล้วครับ ให้ผมตามมันไปไหมครับ?”
“ไม่ต้อง” บทสนทนาจบแค่นั้น คนผมทองเหม่อมอง เดียมานเต้ทำหน้านิ่งแต่ลิลลี่แสยะยิ้ม
คนทรยศมักมีข้ออ้าง และยัยนั่นก็ทำเต็ม
ๆ
“จะเอายังไงดอฟฟี่? วางมือคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ใครจะคิดว่าเจ้าหญิงจะร้ายกว่าที่เราคิด
และไอ้เด็กคนนั้นต้องเป็นลอว์แน่
หลังหมดสัญญายัยนั่นคงบอกให้เตโซโรและลอว์ทำลายเราทันที”
“ส่วนตัวเองก็กลับไปเสวยสุขกับเจ้าชายอายุน้อย
คงจะเข้าทางหล่อนนะคะ เพราะเด็กน่ะหลอกง่ายดี
ไม่ต้องเสียเวลาเปลืองตัวหลอกใครเป็นปี ๆ ...แผนสูงจริง ๆ เลยนะคะเนี่ย” ครั้นสบโอกาสลิลลี่จึงใส่ไฟ
ผู้บริหารของชายหนุ่มเอาแต่พูดเรื่องธุรกิจและธุรกิจ
แต่เรื่องนี้มันต้องเติมเชื้อไฟ อยากให้พายุรักของทั้งคู่มันซัดให้ตายกันไปข้าง
แต่โดฟลามิงโก้ไม่เล่นด้วย
“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอ
หมดธุระแล้วก็กลับไปซะ”
“เดี๋ยวสิคะ
ฉันอุตส่าห์เอาข่าวดีมากบอกคุณนะ อย่างน้อย...”
“ออกไป! พวกแกลากตัวยัยนี้ออกไปเดี๋ยวนี้!” สาวเจ้าร้องโวยวาย ลูกน้องโดฟลามิงโก้เข้ามาฉุดรั้ง เธอตบหน้าลูกน้องชายหนุ่มไปหนึ่งทีก่อนจะเชิดหน้าขึ้นรถสปอร์ตสีแดงเพลิง
ลูกสาวไม่สบอารมณ์
‘ก็ได้ หยิ่งได้หยิ่งไปเถอะ’ เพราะหลังจากนี้มั่นใจว่าเขาต้องมาตามง้อเธอกับพ่อแน่
เพราะระเบิดเวลาเธอได้วางเอาไว้แล้ว
ขอให้คุณกับยัยนั่นเล่นสงครามประสาทกันให้พอใจ!
ลิลลี่จากไป ความวุ่นวายกลับมาเงียบสงบ
เดียมานเต้ถอนหายใจแล้วหันกลับมา
“ไม่ได้มีแค่เตโซโรกับลอว์อย่างเดียวนะ
นายคงไม่ลืมว่าซีซาร์มันไปลากไอ้กลุ่มหมวกฟางให้มาหมายหัวเราด้วย
คราวนี้ศึกหลายด้านเลยล่ะ” เทรโบลกับพิก้าเดินมาสมทบแล้ว
พวกเขามองเฉย มองดอฟฟี่ยังยืนปักหลักอยู่ที่เดิมด้วยความนิ่งที่มากเกินพอดี
“นายเชื่อใจเจ้าหญิงรึเปล่าดอฟฟี่? ตอนนี้ยังจะเลิกเป็นมาเฟียอีกรึเปล่า? นายคิดจะเอาจมูกไปให้ยัยนั่นจูงรึไง”
“……" ไม่มีคำตอบรับ
เพราะทุกอย่างมันกำลังคุกรุ่น ความเชื่อใจมันพังทลาย คำพูดล้วนเป็นคำโกหก
เธอหักหลังเขา... รู้เสมอว่าไวโอเล็ตไม่เคยเปิดบางส่วนให้เขารู้
แต่เขาให้ทุกอย่างกับเธอ เปลี่ยนตัวเองก็เพื่อเธอ ทำอะไรผิดสันดานก็เพื่อเธอ
แต่เด็กสาวกลับซ่อนมีดไว้ข้างหลัง ขอให้เขาเปิดเผยทุกอย่าง โป้ปดหลอกลวงให้เขารับเธอเข้าไป
ก่อนจะเอามีดแทงความความรักเขาทั้งเป็น
เธอทำได้อย่างไร...!?
เธอทรยศเขาได้อย่างไร!?
บรรยากาศหนักอึ้ง
แม้จะมองแค่แผ่นหลังแต่ผู้บริหารทั้งสามก็รู้ว่าอสูรกลับมาแล้ว
‘ใช่ แบบนี้แหละ
บรรยากาศแบบนี้’ ความชั่วร้ายที่พวกเขาปั้นแต่งด้วยมือคู่นี้
ความเลวที่พวกเขาเห็นตั้งแต่วันแรก
ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรต้องกลัว
อำนาจของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่และเหนือสิ่งอื่นใด
กลุ่มก้อนความชั่วร้ายตรงหน้ากำลังสั่นประสาทศัตรูทั้งหมด
ขอบคุณยัยเจ้าหญิงจริง ๆ
ที่ดึงให้ลมกรรโชกพัดเข้ามา ขอบคุณจริง ๆ ที่ทำให้ดอฟฟี่ของพวกเขากลับมาเป็นอสูรดั่งเดิม
ดอฟฟี่ของพวกเขากลับมาแล้ว!
ชั่วช้าสามานย์จนเธอไม่คาดคิด
รู้หรือไม่ว่าเพลิงอารมณ์ที่จะเผาใส่คนทรยศนั้นเป็นเช่นไร
เธอจะทนรับได้หรือเปล่า...
───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ
บทนี้สั้นหน่อยนะ เพราะบทหน้า......
ช่วงนี้ไรท์มาช้าเพราะอากาศหนาวแหละ จำศีลอยู่ อิอิ
ครั้นพอยกคอมไปเขียนบนที่นอน ไม่ถึงห้านาที ...โอ้โห้ว เขียนเสร็จเหรอ? ...เปล่า หลับ
และอันตัวฉันก็หลอกตัวเองและหลอกนักอ่านมาตั้งนาน
เลยจะมายอมรับแหละว่า
...เรื่องนี้ปวดตับนะคะ รบกวนสำรองอวัยวะคุณไว้ด้วย
ด้วยความปรารถนาดี จากไรท์คนซาดิสม์
ปล. ไม่ดราม่าหรอก ไม่มั้ง ช่วงนี้เขียนหวานจนเขียนดราม่าไม่เป็นแล้ว(?)
อื้ม ๆ คิดไปเองทั้งนั้นแหละ...
─────────────
ความคิดเห็น