คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Beauties and the Beasts (ข้างอสูรมีโฉมงาม) - 1
ตอนที่ 35: Beauties and the Beasts
(ข้างอสูรมีโฉมงาม)
1
แค่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกก็ทำให้รู้ได้ว่าตอนนี้คือตีสี่
เด็กสาวเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้น ก่อนจะทิ้งหัวลงหมอนอีกครั้งครั้นร่างกายยังโหยหาสัมผัสของเตียง
ไวโอเล็ตถอนหายใจเบา
ๆ ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้น ทว่ากลับต้องนอนราบไปบนเตียงใหม่ครั้นเอวบางถูกรั้งให้นอนลงที่เดิม
“ยังไม่เช้าเลยจะลุกไปไหน?” โดฟลามิงโก้แสนงัวเงีย
รู้ตัวว่าตนนั้นไม่มีสติแต่ร่างกายมันก็กระเถิบเข้าร่างหอมกรุ่นโดยอัตโนมัติ
“ไปอาบน้ำไง วันนี้ฉันต้องไปแต่เช้านะ ...คุณปล่อยก่อนสิ” สาวน้อยแทบหมดแรง
พยายามจะดันตัวหนีวงแขนเขาแต่อีกฝ่ายก็ตามมาโอบรั้งให้ยิ่งชิดใกล้
“ไม่เอาไม่อยากปล่อย
อยากนอนกอดเมี...โอ๊ย! หน็อยไวโอเล็ต มันจะมากไปแล้วนะ!
เดี๋ยวนี้เธอกล้าถีบฉันตกเตียงเหรอฮะ!” สาวน้อยวิ่งหนี
รับผิดชอบอะไรเธอไม่อยากทำทั้งนั้น แค่ทำร้ายนิดหน่อยอย่าเอาเรื่องเลยน่า
แต่ดูเหมือนคนโดนปองร้ายจะไม่ยอม… โดฟลามิงโก้ลุกพรวด
รีบกระโจนข้ามเตียงมาดักหน้าเด็กหนีคดีไว้ได้ทัน
“จะหนีไปไหน
...เธอโดนแน่! อีแบบนี้ต้องกินกลางตลอดตัว”
“โอ๊ยปล่อยก่อน! อย่าพึ่งมาบ้าเอาตอนนี้นะฉันจะอาบน้ำ …เดี๋ยวมันจะเลทนะคะ” เจ้าหญิงดิ้นพล่าน แสนข้องใจว่าอยู่ดี ๆ คุณพี่เขากลายร่างมาเป็นคนผีทะเลได้ไง
ช่วยเลิกเป็นคนลามกแล้วมาฟัดเธอกลางห้องน้ำแต่เช้ามืดแบบนี้จะได้ไหม!? เดี๋ยวเธอสาย!
“อะไร๊
ใครบ้า!? ฉันเองก็กำลังจะอาบน้ำอยู่นี่ไง
แถมมีน้ำใจจะถอดเสื้อผ้าให้เธอด้วย ...หูย ผู้ชายอะไรเนี่ยนิสัยดีจัง”
“นี่คุณเลิกพูดชมตัวเองบ่อย
ๆ ได้แล้วนะ แถมฉันก็ไม่ได้พูดว่าจะให้คุณถอดให้สักคำ ออกไปก่อนสิคะอย่ามาแย่งกันอาบน้ำสิ”
“คนใจร้าย! เธอรู้ไหมว่าสิ่งที่เธอทำน่ะมันไม่รักษ์โลก
ทำไมถึงคิดจะใช้น้ำสิ้นเปลืองโดยการอาบน้ำกันคนละทีละฮะ ...เข้าไปอาบพร้อม ๆ
กันนี่แหละพระแม่ธรณีซึ้งใจแย่ ...โธ่ดูสิ ฉันนี่เป็นคนดีอีกแล้ว ไม่มีใครจีบ
จีบตัวเองก่อนได้ไหม”
“ทีเรื่องลามกนี่คิดหาเหตุผลได้ดีจริง
ๆ และเชิญส่องกระจกจีบตัวเองต่อไปเลยนะ …ไม่เล่นด้วย!” และอันที่จริงมันเป็นพระแม่คงคาไม่ใช่เหรอ?
“ใครเล่น
ฉันเนี่ยจริงจังทั้งนั้น ...ป่ะ รีบอาบน้ำดีกว่าเดี๋ยวสายนะคะ” คนหน้ามึนอมยิ้ม ไม่ใคร่จะแยแสคำด่าของเธอเท่าไหร่เพราะเขาหน้าด้านมากด้วย
...โดฟลามิงโก้ไม่พูดเปล่าสองมือก็ปลดเปลื้องชุดนอนแม่สาวได้อย่างคล่องแคล่ว
รีบเปิดน้ำระบายอุณหภูมิในร่างทันทีตอนแนบสัมผัสเข้ากับร่างนุ่มนิ่มที่เย้ายวน
ก็อยากจะเปิดศึกให้รู้แล้วรอดแต่เขาต้องอดทนไว้...
ต้องมีสติให้เต็มหน่วยมิเช่นนั้นข้อเสนอที่เธอเคยยื่นมันจะปลิวหายจนคอยหงอ
เพราะเขาเฝ้ารอวันที่เธอจะคอยตามใจไม่ไหวแล้ว
………………………
อีกไม่นานดวงอาทิตย์ก็จะโผล่ แม้จะเป็นช่วงเช้ามืดแต่ที่มหาลัยก็ครึกครื้น ที่คณะเธอจอแจไปด้วยผู้คน และที่สำคัญพวกเขาต่างทำหน้าที่กันสุดความสามารถ
...เด็กสาวขมีขมันแต่งตัวอยู่ในห้องเล็ก ๆ
ไม่ได้หันไปมองเมื่อหูได้ยินเสียงใครกรี๊ดกร๊าดกันอยู่หน้าประตู
“นี่
ๆ คือเมื่อกี้ฉันลงไปข้างล่างมาแหละ
แล้วพวกเธอรู้รึเปล่าว่าฉันเจอใครกำลังนั่งอยู่ใต้ตึกคณะเราคะ” เจ้าของเสียงดัดเสียงแหลม ก่อนจะขวักมือบอกให้บรรดาเพื่อนสาวเดินเข้ามาอีกนิด
“อะไร
ๆ ใครเหรอเธอ?”
“ก็แหมตอนฉันลงไปฉันเห็นพ่อมาเฟียสุดสวาทดอนกิโฮเต้
โดฟลามิงโก้อยู่ไงละคะ ...กรี๊ด! ไม่รู้มานั่งรอใคร? ฉันพึ่งได้เห็นตัวจริงนะเนี่ย ดูเท่จังเลย” เจ้าหญิงหายใจทิ้งดังพรืด
ทำไมเธอถึงได้ยินสาว ๆ ชื่นชอบเขาบ่อยจังนะ
มีผู้หญิงมากรี๊ดให้ฟังตลอดรู้สึกหมั่นไส้ยังไงไม่รู้
ระหว่างที่กำลังแอบด่าพ่อคุณในใจ
เด็กสาวต้องทำหน้ายู่ เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์อย่างเกียจคร้านเพราะรู้แน่ว่าใครโทรมา
“ขออภัยค่ะ
เลขหมายที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ...กรุณาอย่าโทรมาทุกสิบนาทีได้ไหมคะ?”
[หึหึ
ตลกขึ้นเยอะนะเธอน่ะ ...ลงมาข้างล่างหน่อยสิ]
“ทำไมเหรอ?”
[ลงมาเถอะน่า] โดฟลามิงโก้ตัดสายทิ้ง ปล่อยให้เธอยืนพินิจคำบอกของเขาอยู่นานสองนาน
...ตอนนี้ยังพอมีเวลา
ไวโอเล็ตนึกว่าเขากลับไปแล้วเสียอีกหลังจากมาส่งเธอตั้งแต่ตีห้า หันมองนาฬิกาก็พบว่านี่มันก็จะหกโมงกว่าแล้ว
ลงไปถามดูก็ดีว่าทำไมเขาถึงยังอยู่
เด็กสาวรีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ขออนุญาตรุ่นพี่และช่างแต่งหน้าว่าเธอจะขอปลีกลงไปข้างล่างสักครู่ พร้อมเคลื่อนตัวลงไปหาพ่อมาเฟียสุดสวาทที่เหล่าเพื่อนพึ่งวี้ดว้ายกันลั่นชั้นด้วยความว่องไว
ที่ข้างล่างคนเริ่มเยอะแล้ว เธอไม่ต้องเสียเวลาหาให้นานก็รู้ว่าเขานั่งอยู่ตรงไหน ...แปลกแต่จริงที่ถึงแม้เธอจะพยายามไม่สนใจ พยายามจะโยนมันทิ้ง แต่เชื่อเถอะว่าไม่ว่าแถวนั้นคนจะเยอะหรือจะน้อย
...แต่โดฟลามิงโก้มักเป็นคนแรกที่เธอเห็นก่อนเสมอ
‘เป็นความเคยชินที่ส่อความหมายประหลาดจังนะ’
เธอตัดสินใจรวบหางเสื้อขึ้นก่อนเดินเข้าไปใกล้
ๆ ...เด็กสาวขำออกมาเล็กน้อยตอนเห็นคุณพี่เผลออ้าปากค้างแล้วทำหลอดที่คาบอยู่ร่วงลงไปตอนหันมาเห็นเธอ
‘แฟรี่ตัวจริง’
คนมองนั่งค้าง
มองเห็นภูตสาวในชุดไทยประยุกต์เดินเข้ามาหา เสื้อผ้าหล่อนถูกดัดแปลงให้ทะมัดทะแมงและเรียบหรู
ชิ้นผ้าส่วนใหญ่เป็นชุดกางเกงเนื้อผ้าไหมสีขาวแขนกุด เปิดนิดโชว์หน่อยที่ส่วนหน้าท้องและโชว์มาก
ๆ ที่เรียวขา เส้นผมสีเข้มถูกดัดเป็นลอนพร้อมจัดเป็นทรง
เครื่องประดับล้วนเป็นสีทองยิ่งทำให้สาวน้อยดูเหมือนนางในวรรณคดี
“เรียกลงมามีอะไรรึเปล่าคะ?” แม้แต่หน้าก็แต่ง ปกติไวโอเล็ตก็หน้าหวานอยู่แล้วแต่ยิ่งเอาเครื่องสำอางมาประดับโฉมหน้า
...เธอนี่แฟรี่ตัวจริงชัด
ๆ
“โดฟลามิงโก้?”
“ฮะ? เปล่า... นั่งก่อนสิ” ชายหนุ่มรีบดึงสติ
บอกให้แม่ภูตนั่งลงพร้อมจ้องหน้าเธอแบบไม่ปิดบัง
เด็กสาวพยักหน้าทักทายบรรดาเพื่อนที่แวะเวียนมา
ก่อนจะเลิกคิ้วใส่ตอนคนตรงหน้ายังนั่งเฉยเหมือนคนเหม่อ
“ฮัลโหล
นี่ ๆ โดฟลามิงโก้ คุณหลับในรึเปล่านั่งนิ่งทำไมคะ? ...ถ้าเพลียทำไมไม่กลับไปนอนล่ะคะ” เจ้าหญิงโบกมือเรียกสติก่อนข้อมือจะโดนหยุดไว้โดยร่างสูง
โดฟลามิงโก้ยังมองเธอค้างก่อนเขาจะตีเสียงเรียบเพราะนึกได้ว่าควรพูดอะไร
“พอดีฉันไปแวะซื้อข้าวมาให้
เธอยังไม่ได้กินอะไรเดี๋ยวสาย ๆ จะไม่มีแรง”
“โห้
วันนี้เป็นคนดีจริง ๆ ด้วย... ขอบคุณนะคะ แต่ซื้อมาเยอะจัง
กินหมดนี่พุงยิงกระดุมได้เลยนะ ชุดเขาตัดมาพอดีตัวหรอก” สาวน้อยเลือกกินของง่าย ๆ อย่างเช่น น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋
แต่ก็โดนมือหนาเทโจ๊กใส่ถ้วยกระดาษแล้วเลื่อนมาให้
“กินข้าวด้วยเดี๋ยวเป็นลม”
“นี่ตัวจริงหรือตัวปลอมเนี่ย
ดูนิสัยดีแปลก ๆ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากมนไปหนึ่งทียามเด็กสาวทำหน้าทะเล้นใส่
เจ้าหญิงมองอะไรไปรอบตัวแต่ต้องหันกลับมามองเขานิ่งอีกครั้งยามอีกฝ่ายยังจ้องกันไม่เลิกรา
“ถ้าคุณง่วงก็กลับไปนอนเถอะ
งานมันเริ่มตั้ง 9 โมงนะ แถมคณะฉันกว่าจะแสดงก็สี่โมงเย็นนู้น
...ไว้ใกล้เริ่มค่อยมาตอนนั้นก็ได้ค่ะ”
“อืม
ก็เดี๋ยวเธอกินข้าวเสร็จก็จะกลับไปคอนโด ...ตอนเที่ยงเขาปล่อยพักก็บอกนะ
จะพาไปกินข้าว”
“เป็นหัวหน้าแฟมิลี่ก็ไปทำงานสิคะ
เป็นคนว่างงานเหรอไงหืม?”
“พอดีรวยมาก
เลยอยากจะว่างเมื่อไหร่ก็ได้ แถมวันนี้ก็อนุญาตให้ทุกคนหยุดแล้ว
...เจ้าพวกนั้นบอกว่าอยากมาดูเธอด้วยนะ”
“โอ๊ยจะขนกันมาทำไมเยอะแยะล่ะเนี่ย!? แบบนี้ยิ่งเขินหนักกว่าเก่าสิ ...ไม่ต้องมาเลย”
“หึหึ
ไม่ทันแล้ว” ระหว่างที่กำลังนั่งดูเด็กสาวกินข้าว
ที่ข้างโต๊ะก็มีกลุ่มรุ่นพี่เดินเข้ามาหาเจ้าหญิง
“น้องไวโอเล็ตคะเดี๋ยวไปรวมกันที่ห้องกิจกรรมชั้น 4 ด้วยนะ...ว้ายตาย! แต่งหน้าได้เลิศมาก
คราวนี้แหละคณะเราจะดังเป็นพลุแตก... !!?” จู่ ๆ
รุ่นพี่สาวประเภทสองก็หยุดคำพูดลงครั้นเห็นแล้วว่าเธอไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว
อีกฝ่ายขมวดคิ้วจ้องโดฟลามิงโก้นิ่งเหมือนกำลังไม่แน่ใจ แต่แล้วจนในที่สุด...
“อ๊าย!!! นี่มันโดฟลามิงโก้นี่ ...ว้ายตาย ตัวจริงดูดีจังเลยค่า
มาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ เอ๊ะ...
นั่งกับน้องไวโอเล็ตอย่าบอกนะว่าคุณคบกับรุ่นน้องของพวกเราอยู่น่ะ? ...แหม ร้ายจังเลยนะยัยน้อง มีแฟนดังขนาดนี้ก็ไม่บอกกันเลย รุ่นพี่เสียใจ
...ว่าแต่คุณดูดีจริง ๆ นะคะเนี่ย กรี๊ด~”
“เอ่อ ก็รุ่นพี่ไม่ยอมเปิดช่องให้ฉันพูดเลยนะ” สาวน้อยหัวเราะแห้ง ๆ เพราะรุ่นพี่เธอนั้นพูดน้ำไหลไฟดับ ไวโอเล็ตตัดสินใจแนะนำเขาคร่าว ๆ ว่า
‘รุ่นพี่คะนี่คือคนบ้า และคนบ้านี่คือรุ่นพี่ที่ชวนฉันมาเป็นลีดค่ะ’ พร้อมพูดเสริมว่า
“และรุ่นพี่คะเขาไม่ใช่แฟน...”
“แฟนเองจ้า...
ยินดีที่ได้รู้จัก” ไวโอเล็ตถลึงตาใส่พ่อคุณยามเขาทะลึ่งมาแนะนำอะไรไม่เข้าท่า
แต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมยามอีกฝ่ายดันทำปากขู่ว่า ‘หรืออยากให้ฉันบอกว่าเราเป็นอะไรมากกว่านั้น?’ สาวน้อยจึงได้แต่ทำหน้าบึ้งพร้อมไล่ให้เขาไปได้แล้ว
“โอ๊ย
กินเสร็จแล้วก็กลับไปเลย ...เดี๋ยวพักแล้วฉันจะโทรหาล่ะกัน ...ไปกันเถอะค่ะรุ่นพี่” คนสวมแว่นยิ้มกว้างตอนสาวเจ้ารีบร้อนตีจาก
ไม่ลืมที่จะโปรยเสน่ห์ให้คนรอบตัวเล่น ๆ ครั้นแน่ใจแล้วว่าพวกนั้นรู้ว่าเขาเป็นใคร
แน่นอนรู้มันก็ดี
เด็กในมหาลัยมันจะได้รู้จักเขาและเอาเรื่องของเราไปโพนทะนาว่าเธอกับฉัน...เรานั้นเป็นอะไรกัน
เผื่อวันดีคืนดีมีไอ้หนุ่มหน้าโง่ที่ไหนคิดจะตีท้ายครัว
มันจะได้เจียมกะลาหัวแล้วยอมแพ้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ไม่เสียเวลาเขา
ไม่เสียเวลามัน ลดเรื่องกระทืบชาวบ้านไปได้หลายคนในเวลาเดียวกัน
...แหม
อย่างที่ชมตัวเองมาตั้งแต่เมื่อเช้า ...ฉันนี่เป็นคนดีจริง ๆ ด้วย
………………………
อีกไม่นานการแสดงก็จะเริ่ม
ไวโอเล็ตยืนกระวนกระวายอยู่ข้างสแตนเชียร์เนื่องจากตอนนี้เธอแสนจะตื่นใจ
เด็กสาวพยายามสะบัดมือไล่เหงื่อที่ขึ้นชื้นก่อนจะหลับตาแล้วสูดลมเข้าลึก ๆ
‘ไม่ได้รู้สึกแบบนี้นานแล้ว ...ลำบากจัง’ ร่างน้อยขมวดคิ้ว เธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นก่อนลงมือทำอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว คิดสบายใจขึ้นมานิดหน่อยว่าเธอไม่ได้ไร้ความรู้สึกแบบที่โดนเจ้าหนี้บ่นบ่อย ๆ
...เธอเลือกผ่อนลมอีกครั้ง
ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองตรงไปข้างหน้ายามได้สงบสติตัวเองไปสักพัก
แต่แล้วต้องสะดุ้งโหยงครั้นหันไปมองข้าง ๆ แล้วเห็นใครมายืนจ้องกัน
“ไงคะ
แม่เชียร์ลีดเดอร์... ตื่นเต้นรึไงมือสั่นเชียว?” สาวน้อยทำหน้าบอกไม่ถูก
ตื่นเต้นก็ตื่นเต้นแหละ แต่ก็ตกใจมากด้วยว่าทำไมโดฟลามิงโก้ถึงมายืนอยู่ตรงนี้
“มาไม่ให้สุ้มให้เสียง
แถมงานใหญ่ขนาดนี้ก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดาอยู่แล้วน่า” เธอตอบตามจริงพร้อมเลือกหลับตาทำสมาธิอีกครั้ง
แต่วงหน้าหวานต้องยับย่นครั้นโดนผู้ชายข้าง ๆ พูดกลั้วหัวเราะใส่
“หึหึ
จะรอดไหมเนี่ย สั่นเป็นลูกนกขนาดนี้มีหวังไปยืนแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์น่ะสิ... ว่าไง
อยากได้ตัวช่วยไหม?”
“ตัวช่วยเหรอ?” สาวน้อยถาม แอบสนใจเล็กน้อยว่าเขามีเคล็ดลับอะไร แต่ต้องงงงันยามอีกฝ่ายออกคำสั่งแปลก
ๆ
“ยื่นมือมาสิ” ไวโอเล็ตยื่นมือให้โดยง่าย ประหม่านิดหน่อยยามเขาจับให้เธอต้องแบทั้งสองมือให้เขาดู
มือหนาหยิบปากกาแล้วเขียนอะไรลงบนนั้น
เจ้าพ่อเขียนบางอย่างที่มือซ้ายก่อนจะเปลี่ยนไปเขียนบางอย่างที่มือขวา
เด็กสาวกำลังจะเลื่อนมือเข้ามาดูแต่ก็ต้องร้องโอ๊ยครั้นพ่อคุณเล่นตบมือทั้งสองข้างของเธอประกบเข้าหากัน
“นี่... มันเจ็บนะ”
“หึหึ
ก็ต้องเจ็บสิ เพราะถ้าเจ็บก็แสดงว่าเวทมนตร์มันได้ผล”
“เวทมนตร์เหรอ?” เด็กสาวสงสัยพลางยกมือขึ้นมาดูให้ชัด ๆ
เผลอยิ้มออกมาในทันทีตอนเห็นตัวหนังสือสีดำที่เด่นหราอยู่บนฝ่ามือ
“ซ้ายคือ Smile
on ขวาคือ Chin up พอประกบพวกมันเข้าด้วยกันก็...
เพี้ยง Abracadabra”
“เอ๊ะ!?” เธอมองเขาค้าง จู่ ๆ
หัวใจก็เต้นผิดจังหวะยามโดฟลามิงโก้ใช้ถ้อยคำที่เธอได้ยินบ่อย ๆ
ถ้อยคำที่เธอพบเจอตลอดตอนยังอยู่เดรสโรซ่า ถ้อยคำแสนวิเศษที่คุณพ่อใช้มันปลอมประโลมเธอ ถ้อยคำแสนมีความหมายตอนเธอเองก็เคยใช้มันเพื่อทุเลาเรื่องหนักหนาของเขาเช่นกัน
...แต่มาวันนี้คือตัวเขาที่ใช้มัน
ทำไมโดฟลามิงโก้ถึงใช้คำนี้เพื่อร่ายมนตร์ให้เธอมีกำลังใจนะ?
“เป็นไง...มีแรงใจเลยล่ะสิ”
“ตบมือฉันเจ็บขนาดนี้มันก็หายตื่นเต้นอยู่แล้วสิ” เจ้าหญิงพูดแซว ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการตื่นเต้นนั้นหายไปจริง
และก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่าตัวเองกำลังยิ้มอยู่
เธอกำลังคลี่ยิ้ม
หัวใจมันเต้นแรงจริง ๆ นะ
...เกือบหลุดถามแล้วว่าเขาเองก็ชอบใช้คำนี้รึเปล่าแต่สุดท้ายก็ยั้งตัวไว้
...ไวโอเล็ตหัวเราะ ไม่คิดว่ายามเขาพูดมันก็ทำให้เธอหายกลัวสิ่งใดเหมือนกัน
“หึ
ทำมาเป็นเฉไฉ ยิ้มแบบนี้แสดงว่าได้ผลล่ะสิ”
“อือ
ช่วยได้มากเลยล่ะ ...ขอบคุณนะ Abracadabra”
“อืม Abracadabra” เธอปล่อยให้สองมือประกบกันอยู่ช้านาน
คิดจั๊กจี้นิดหน่อยตอนมือเขาก็ยังวางทับมือเธออยู่แบบนั้น
...อีกไม่นานการแสดงก็จะเริ่มแล้ว เด็กสาวตัดสินใจซึมซับกำลังใจจากเขาแล้วบอกลา
ไม่วายที่จะหันมาชูนิ้วหยอกเขาเล่นว่า
‘อย่ามาคิดจับผิดกันให้ยากเลยล่ะ
เพราะตอนนี้เธอไม่ได้แข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์แล้วนะ’
………………………
เสียงเชียร์ดังกึกก้อง
ภายในงานนั้นเต็มไปด้วยความหรรษา
ทั้งร้านค้าร้านขายก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนและเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขากำลังสนุกสนาน
เสียงจอแจเกิดขึ้นตลอดทั้งวันเหตุเพราะวันนี้คือ 1 ในวันงานสุดยิ่งใหญ่ของมหาวิทยาลัย พื้นที่มีทั้งคนในและคนนอกต่างแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย บ้างก็ยืนดูการแข่งกีฬาบ้าง บ้างก็ทัศจรไปมากันให้ละลานตา และดูเหมือนสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คนได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้น
การแข่งขันซ้อมเชียร์ของแต่ละคณะนั่นเอง
เหล่านักศึกษาต่างกำลังแข่งกันอยู่ที่สนามกีฬายักษ์ใหญ่ ที่ที่ฝั่งหนึ่งถูกจัดสรรเป็นส่วนสำหรับสแตนเชียร์
ส่วนอีกฝั่งก็หนาแน่นไปด้วยผู้ชมหรือช่างภาพ
...แน่แท้ในบรรดาคนเหล่านั้นต้องมีเหล่าดอนกิโฮเต้แฟมิลี่นั่งอยู่แน่นอน
“กรี๊ด
ตื่นเต้นจังเลย ไม่เคยมางานอลังการแบบนี้เลยเนอะนายน้อย?” เบบี้ไฟว์กับบัฟฟาโลนั่งอยู่ไม่สุขยามเพลานี้จะถึงคิวการแสดงของหนึ่งในแฟมิลี่แล้ว
ทุกคนมากันหมดยกเว้นพวกผู้บริหารระดับสูงและโมเน่
พิก้ากับเทรโบลยังอยู่ที่เดรสโรซ่าอันนี้เขาเข้าใจ
ส่วนโมเน่ต้องตามประกบซีซาร์อันนี้ก็รู้ ที่เหลือก็มีแต่เดียมานเต้เนี่ยแหละที่เล่นตัวบอกว่าจะไม่มา
แต่ทว่าในวินาทีสุดท้ายมันก็ตามมานั่งส่องสาวมหาลัยอยู่ข้าง ๆ เขานี่แหละ
“โอ๊ยเครปองุ่นของฉัน! ละลายหมดแล้ว”
“กรี๊ด
ๆ มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงนู้นด้วย ขอไปว่ายได้เปล่าอ่ะโจล่า”
“โอ้ไอติม
นี่ ๆ ขอไอติมสคู๊ปเยอะ ๆ เลยนะ”
“อ๊ะ
มีคนมาขายลูกโป่งนี่ควรซื้อดีไหม? แต่เขาขอร้องมานะ”
‘ไอ้เด็กพวกนี้นี่เจี๊ยวจ๊าวโดยแท้ ...เมื่อก่อนไวโอเล็ตดูแลยังไงหมดนะ?’ โดฟลามิงโก้คิดพลางนั่งสบาย ๆ จ้องไปยังฝั่งตรงข้าม
...มหาลัยนี้ก็ทุนหนาใช่เล่น
ถึงขนาดติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่เอาไว้ถ่ายภาพบรรยากาศในงานด้วย
ชายหนุ่มเลิกใส่ใจ
นั่งเท้าแขนเฝ้ารอว่าเมื่อใดกันแฟรี่ถึงจะออกมาเต้นระบำเสียที
การแข่งขันจบลงและวันนี้อากาศกลับมาร้อน
ยังดีที่อัฒจันทร์ฝั่งเขามันร่ม แม้จะเป็นช่วงบ่ายแก่แต่แดดมันก็กินผิวใช่เล่น
รู้สึกร้อนแทนแม่ภูตของเขาจริง ๆ ที่ต้องมายืนเต้นกลางแจ้งแบบนี้
...จบงานนี้มีหวังได้พาเจ้าหล่อนไปขัดผิวฉวีวรรณให้กลับมาผ่องใสเหมือนเดิม
“เอาล่ะครับ
...ตอนนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วขอเชิญทุกท่านพบกับการแสดงกองเชียร์และผู้นำเชียร์ของคณะจิตวิทยาได้เลยครับ!” เสียงเฮดังกระหึ่ม เหล่าผู้ชมต่างกระตือรือร้นที่จะรับชม
เหล่าเชียร์ลีดเดอร์เปิดตัวออกมา แก้วหูเขาแทบแตกตอนคนในแฟมิลี่ยกเว้นเดียมานเต้มันกรี๊ดเสียงดังหนกหูยามเจ้าหญิงปรากฏกายออกมาให้ได้ชม
“กรี๊ด
ไวโอเล็ตสวยจังเลยอ่ะ อย่างกับนางไม้แหนะนายน้อย” ไม่ต้องให้เธอมาบอกเขาก็เห็นแล้ว
คนสวมแว่นจ้องเขม็งยามการแสดงของเธอมันเริ่มบรรเลง
แทบลืมหายใจเพราะตอนเธอเคลื่อนไหวมันกำลังสะกดสายตาเขาไม่ให้ไปไหน ทุกท่วงท่าตอนเธอวาดมือนั้นสอดคล้องกับการกระทำด้านหลังจนหลงเพ้อ
เด็กสาวมีเสน่ห์ยามได้พลิ้วไหวไปตามเสียงเพลง
แม้แต่ช่างภาพยังเบนกล้องไปที่เธอทำให้ทุกคนได้เห็นแฟรี่เริงระบำในดินแดนมนุษย์
ความอ่อนช้อยทว่ามั่นคงดำเนินต่อไปหลายสิบนาที
...ก่อนการกระทำจะหยุดลง ค้างไว้ซึ่งความตราตรึงที่ทำให้ทุกคนต้องกู่ร้องด้วยความประทับใจ
เสียงปรบมือดังสนั่น
ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกได้ว่าเด็กสาวนั้นมองตรงมาทางนี้
ไม่ได้คิดไปเองสินะว่าทั้งฉันและเธอเราสองคนกำลังสบตากัน...
การแสดงของเธอจบไปแล้ว
เสียงคุยโวรอบตัวดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าพ่อยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมก่อนครู่ถัดมาเขาจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
คนอื่น ๆ หยุดบทสนทนาไปแป๊บก่อนกลับไปโม้กันต่อยามคิดว่านายน้อยคงไปทำธุระส่วนตัวล่ะมั้ง
ที่สนามคนนั้นจอแจ
เหตุเพราะอยู่ในช่วงระหว่างเตรียมการทำให้ทุกคนวิ่งวุ่น ร่างสูงเดินฝ่าฝูงชน
เบี่ยงหลบผู้คนได้อย่างคล่องตัว แวะซื้อน้ำผลไม้รสสตอเบอร์รี่สักขวดก่อนปลายเท้าจะมาหยุดยืนอยู่หน้าแสตนเชียร์ของคณะไวโอเล็ตภายในไม่ถึงนาที
ส่วนนี้ถูกกั้นไม่ให้คนนอกเข้า เขายืนอยู่ตรงนี้ ก่อนจะยืนมองเด็กสาวที่ยืนซับเหงื่อพลางยิ้มแย้มกับกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ด้วยความอารมณ์ดี
โดฟลามิงโก้พาดแขนทั้งสองข้างกับรั้วกั้น ระบายยิ้มไปทั้งหน้าเพราะมันจริง ๆ ด้วย
...ไวโอเล็ตรู้ตัวเสมอว่าเขาอยู่ตรงไหน
“เดินมาถึงนี่เลยเหรอ...
มีอะไรรึเปล่าคะ?” เด็กสาวเดินเข้ามาใกล้
สองมือแปะทิชชูบนหน้าผากพร้อมพักหายใจนิดหนึ่ง
“หลบมานิดหน่อย
พวกเด็กติ๊งต๊องในแฟมิลี่มันวี้ดว้ายหนวกหูมาก” คนผมบลอนด์พูดไปก็ดูดน้ำผลไม้ที่ซื้อมาไป
สองตายังคงมองเจ้าหญิงไม่เลิก
มองดูแล้วเธอน่าจะเหนื่อยไม่น้อยหล่อนถึงได้เหงื่อแตกและหอบหายใจแบบนี้
“กินหน่อยไหม?” มือขวายื่นขวดน้ำให้เธอดื่ม
หัวใจกระตุกไปหลายจังหวะตอนเธอก้มลงมาดูดอย่างว่าง่าย เผลอคิดอกุศลไปหลายชั่ววูบแต่ก็สลัดมันทิ้ง
เปลี่ยนมือซ้ายไปเกลี่ยไรผมให้พ้นวงหน้าก่อนวินาทีถัดมา เขาจะล้วงปิ่นปักผมรูปดอกกุหลาบเล็ก
ๆ ออกมาจากอกเสื้อแล้วเสียบมันไว้ข้างหูเธอ
“อะไรล่ะคะเนี่ย?”
“ฉันให้
...ใส่ไว้สิ”
“ไปแอบซื้อมาตอนไหน?”
“ตอนที่พาเธอไปกินข้าวเที่ยง
ดูมันน่าจะเข้ากับเธอเลยซื้อมา ...ถือซะว่าเป็นของรางวัล ...พยายามได้ดีมาก” เด็กสาวหัวเราะไปนิดหน่อยแล้วเผลอดื่มน้ำเกือบหมดเพราะเธอกระหายจริง ๆ
...โดฟลามิงโก้เปลี่ยนมาซับเหงื่อให้ก่อนทั้งคู่จะได้ยินเสียงผิวปากดังขึ้นทันที
ชายหนุ่มและเด็กสาวตกใจ
ไวโอเล็ตผละหนีออกจากคนตัวโตเล็กน้อย
ยืนหน้าแดงเก็บไม้เก็บมืออยู่คนเดียวยามเห็นทุกสิ่งรอบตัว ไม่รู้ทำไมอยู่ ๆ
บริเวณโดยรอบทุกคนถึงหันมาทางนี้ บ้างก็อมยิ้มบ้างก็หัวเราะคิกคักใส่ ส่งผลให้เธอเขินจนเก็บอาการไม่อยู่
“แหม
หวานกันจริงเลย~” เสียงแซวดังไปทั่ว สาวน้อยยิ่งกว่าอายเพราะตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น...
ไม่รู้ว่าตากล้องจอมทะเล้นหันมาจับภาพพวกเธอไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
รู้แต่ว่าตอนนี้จอมินิเตอร์กลางสนามมันโชว์ภาพของเชียร์ลีดเดอร์คนหนึ่งกำลังยืนกะหนุงกะหนิงอยู่กับผู้ชายผมทองที่ข้างรั้ว
แถมไม่หมดแค่นั้น...
ในหน้าจอยังใส่เอฟเฟกต์หัวใจลอยฟ่องเพิ่มความหวานเลี่ยนเข้าไปอีกแหนะ!
‘โอ๊ย! ไม่มีอะไรน่าอายกว่านี้แล้ว’
“หึ
ๆ มหาลัยเดี๋ยวนี้เข้าท่าดีนะ ...แบบนี้ก็รู้กันหมดว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน แหม
ไม่ดีเลยน้า~” คนหน้าด้านพูดระคนดีใจก่อนยกน้ำผลไม้ที่เหลือมาดื่มตอนเด็กสาวเริ่มอายม้วนทำท่าจะหนีไป
“ใกล้เลิกรึยัง
จะกลับเลยรึเปล่า?” โดฟลามิงโก้ถามขึ้น
สงสัยนิดหน่อยว่าทั้งที่แสดงจบแล้วทำไมเธอยังไม่ออกมา
“โอ๊ย
ยังน่ะ...ยังมีโชว์เหลืออยู่นะ เป็นโชว์เปิดตัวและการแสดงขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงาน ...อ๊ะ
อีกสักพักก็คงจะเริ่มแล้ว ระหว่างนี้ก็ดูเขาแข่งบอลกันไปก่อนล่ะกัน” เด็กสาวพยายามพัดไล่ความร้อน
เริ่มจะกลับมานิ่งได้อีกยามเห็นอีกฝ่ายไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องเลี่ยน ๆ เหมือนเธอเลย
“เปิดตัว
เปิดตัวอะไร?” ชายหนุ่มฉงน ยกคิ้วไปนิดตอนเด็กสาวทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย
“ก็เปิดตัวเชียร์ลีดเดอร์ของมหาลัยไง” เจ้าหญิงหันมายักคิ้วหลิ่วตาแล้วรีบโบกมือลาเขาตอนโดนเรียกให้ไปเตรียมตัว
โดฟลามิงโก้มองตาม ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ดูอะไรดี ๆ อีกเป็นครั้งที่สอง
‘ลีดมหาลัยเหรอ
มันใช่บรรดาคนที่เธอเคยเล่าให้ฟังรึเปล่านะ’ ชายหนุ่มคิด
ก็เข้าใจอยู่ว่าเมียเขาหน้าตาดีคนก็อยากเอามาอวดทั้งนั้น
แต่มันจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่า ...ไม่อยากให้เธอทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกันเลยนะ
เพราะเดี๋ยวเธอจะไม่มีเวลาให้ฉัน
………………………
เกือบค่ำแล้วที่การแสดงสุดท้ายใกล้จะเริ่ม
ยิ่งตะวันคล้อยต่ำยิ่งดึงให้บรรยากาศในงานยิ่งครื้นเครง
สนามหญ้านั้นถูกประดับไปด้วยแสงสี
แถมทั้งสองฟากของอัฒจันทร์ก็เริ่มพลุกพล่านไปด้วยผู้คน
‘ดูเหมือนคนจะให้ความสนใจม่านสุดท้ายของงานนี้กันน่าดู’ โดฟลามิงโก้หันมองรอบตัว ที่นั่งรอบทั้งแฟมิลี่ของเขาเริ่มเนืองแน่นแล้ว
ดูเหมือนพวกนักศึกษาหรือคนนอกมันคงจะไม่ใส่ใจว่ามีแก๊งมาเฟียมาดูอยู่
ชายหนุ่มเลิกสนใจก่อนจะหันไปย้ำเสียงหนักกับเด็กโง่สองตัวที่บังอาจทำเป็นคนปากไม่มีหูรูด
“วันหลังอย่ามาแซวฉันอีกถ้าไม่อยากโดนมากกว่ามะเหงก” เบบี้ไฟว์กับบัฟฟาโลนั่งน้ำตาไหลพราก รู้สึกคิดผิดอย่างยิ่งที่เผลอไปแซวนายน้อยเรื่องความโรแมนติกที่ฉายชัดเต็มหน้าจอ
ที่จริงคุยเล่นนิดหน่อยเขาก็ไม่ว่าหรอกแต่พวกนี้มันดันล้อไม่หยุดจนสุดท้ายก็ต้องประเคนมะเหงกไปคนละที
ทุกคนในแฟมิลี่ได้แต่ระอาใจ
รีบหันความสนใจกลับไปยังลานกว้างครั้นพิธีกรภาคสนามเริ่มทำหน้าที่อีกครั้ง โฆษกมีวาทศิลป์สุดแสนเพราะพวกเขาพูดได้คารมจนทำให้ทุกคนต่างลุ้นระทึก
ดูเหมือนงานโชว์ครั้งนี้จะเป็นไฮไลท์ของวัน ทั้งภาพแสงเสียงต่างก็อลังการจนคิดว่านี้มันคอนเสิร์ตย่อม
ๆ ชัด ๆ
“เอาล่ะครับ และแล้วเราก็มาถึงโค้งสุดท้ายของงานกันแล้วนะครับ เพื่อเป็นการขอบคุณเหล่าทุกคนที่มาร่วมงาน ครั้งนี้ทางมหาลัยจึงได้จัดทำโชว์พิเศษที่คัดสรรมาจากเหล่าคนที่ดีที่สุด และมากความสามารถที่สุด
...Ladies & Gentlemen นับจากนี้ขอพบกับการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ
ขอเสียงปรบมือดัง ๆ ให้กับคณะเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยทั้ง 8 คนได้เลยครับ!” เสียงเฮลั่น
ทั้งสนามแทบจะสะเทือนครั้นเหล่าชายหญิงทั้ง 8 กำลังก้าวออกมาทีละคน
4 คนแรกเป็นเด็กผู้ชายตั้งแต่ปี 1 ยันปี 4 ...โดฟลามิงโก้เท้าแก้มแบบเบื่อ ๆ ...ชักจะรำคาญเสียงผู้หญิงกรี๊ดปรอทแตกยามเชียร์ลีดเดอร์ชายที่...ก็หน้าตาดีแหละเดินออกมา
มีคนหนึ่งที่หน้าตาดูคุ้น ๆ แต่เขาก็ปล่อยผ่าน
อยากจะเขกกะโหลกสมาชิกแฟมิลี่อีกสักทียามเหล่าหญิงสาวในครอบครัวก็ร่วมกรี๊ดไปกับเขาด้วย
ที่น่าเหนื่อยใจกว่าคือไอ้เจ้าเดลลิงเจอร์มันยังกรี๊ดตามโจล่าอีกแหนะ
‘เฮ้อ
เอาเข้าไป’ จะเป็นเพศหญิงเพศชายหรือเพศทางเลือกเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก
แต่ช่วยลดแก้วเสียงลงกันหน่อยได้ไหม? ...หูจะแตก
“เอาล่ะครับ
ต่อไปคงถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ...คราวนี้มาพบกับเหล่าโฉมงามกันได้เลย คนแรกเชิญพบกันหญิงสาวที่ถูกขนานนามว่างดงามที่สุดในโลก
ถึงเวลาที่นางงามจักรวาลของพวกเราจะเปิดตัว ...ทุกท่านครับ ขอเชิญพบกับโบอา
แฮนค็อกคร้าบ~” หญิงสาวแสนงามเดินออกมา
ทุกคนต่างเงียบลงไปอึดใจก่อนวินาทีถัดมา
ทั่วทั้งสนามจะกู่ก้องกันบ้าคลั่งเมื่อได้ยลโฉมหญิงสาวที่เรียกได้ว่างดงามที่สุดในโลก
โบอา
แฮนค็อก!
ท่าทางของเธอสง่าดั่งนางพญา
หล่อนเผยโฉมออกมาก่อนจะยืนเท้าสะเอวตีหน้านิ่งเพื่อให้พวกไพร่ได้มองกันให้หน่ำใจ
‘จงดูไว้ซะเจ้าพวกมดปลวก...
ฉันนี่แหละคือนางงามจักรวาล!’ ไม่ต้องอ่านความคิด
โดฟลามิงโก้ก็เดาว่า Rainmaker ป้ายแดงคนนี้
คงแดกดันเช่นนี้อยู่ในใจแน่นอน
“อ๊ายแฮนค็อก
ช่างงดงามที่สุดเลยล่ะเนียว~” เจ้าพ่อขวับ
ทุกคนในแฟมิลี่ก็หันด้วย ...คำพูดแบบนี้ คำว่าเนียวเอกลักษณ์แบบนี้ …นี่มัน!?
“นายน้อย! นั่นมันมือขวาของแก๊งคุจาไม่ใช่เหรอ!? พวกนั้นมาทำอะไรที่นี่?” ทั้งแฟมิลี่หันไปถลึงตาใส่กลุ่มอิสตรีที่ใส่ชุดกี่เพ้าทันที
...คนพวกนั้นคือมาเฟียจีน
กลุ่มก้อนที่มีสมาชิกทั้งหมดเป็นผู้หญิงกำลังนั่งเยื้องอยู่ทางด้านล่าง
พวกหล่อนเอาแต่วี้ดว้าย คุยโวว่าจักรพรรดินีของเธอสวยที่สุดจนไม่สนห่าสนเหวอะไรเลย
“เคยได้ยินไวโอเล็ตบอกว่ายัยแฮนค็อกเรียนที่นี่...
หึ ๆๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะขนมาทั้งแก๊ง” คนในแฟมิลี่เริ่มหยั่งเชิง
ดูที่สนามบ้างหันมาระวังภัยบ้าง ดูท่างานรื่นเริงคราวนี้คงไม่จบแค่รื่นใจยามพวกเขาได้มาพบเจอแก๊งมาเฟียจีนแบบนี้
“เอาล่ะครับต่อไปก็ถึงคราวของสาวนักอักษรศาสตร์ผู้น่าค้นหา
...1 ในลีดกลางที่ทุกคนต่างหลงใหล ความลึกลับของเธอทำให้ใครหลาย
ๆ คนนั้นต้องเก็บไปเพ้อฝัน ...ทุกท่านครับ ขอเชิญพบกันนิโค โรบินครับ!” คนขายาวเปลี่ยนท่านั่ง
จ้องไปที่ลานทันทีครั้นหญิงสาวที่ถูกเรียกเผยตัวออกมาอีกคน
‘เดี๋ยว! นั่นมันผู้หญิงที่มาหาไอ้เจ้าจระเข้เมื่อตอนนั้นนี่หว่า... สาวของมันก็เรียนที่นี่งั้นเรอะ
...อย่าบอกนะว่า!?’
“สุด
ๆ ไปเลยฮ้าโรบินจังของเดี๊ยน~ กรี๊ด น่ารักที่สุดเลยค่า
แหมเด่นกว่าแฮนค็อกอีกนะฮ้า”
“ลดเสียงแกหน่อย Mr.2” แม้คนพูดจะบอกให้ลดเสียงแต่ใครก็รู้ว่าคนสั่งนั้นหมายความว่าให้พูดดังกว่านี้
กลุ่มคนทางด้านซ้ายส่งเสียงเชียร์ไม่เกรงใจใครและเหนือสิ่งอื่นใด
พวกมันกำลังเกทับว่าคนในองค์กรของตัวเองงามกว่านางงามจักรวาลเป็นไหน ๆ
“นายน้อยครับ”
“ไม่ต้องเรียก
...ฉันรู้แล้ว” หลังจากที่ต้องเขม็งมองด้านล่างก็ต้องเปลี่ยนมามองที่ด้านซ้าย
กลุ่มคนทางนั้นมีหลากหลายพอ ๆ กับแฟมิลี่เขา และไอ้คนที่นั่งไขว่ห้างเป็นคุณชายอยู่ตรงนั้นก็คือ 1 ใน Rainmaker คร็อกโคไดล์
และรอบตัวมันก็คือบริษัทบาร็อคเวิร์คส์
แก๊งมาเฟียแห่งประเทศลาว
‘อะไรกันวะเนี่ย
...นี่มันงานรื่นใจx2 รึไง!?’ โดฟลามิงโก้เริ่มตีหน้าเครียด แฟมิลี่เขานั่งอยู่ตรงกลาง
ขนาบข้างทั้งซ้ายและล่างด้วยกลุ่มทรงอิทธิพล
...แม้ทั้งสองแก๊งจะยังไม่รู้ว่าพวกเขานั่งอยู่แต่มันก็ไม่ค่อยดี
รับศึกสองด้านมันไม่เข้าท่า ระหว่างที่บอกให้ทุกคนระวังภัยอีกครั้งเสียงโฆษกกลับไม่ยอมให้เหล่าคนในที่นี้ได้หยุดพัก
“และคนต่อไป! ...เธอคือหญิงสาวที่ใคร ๆ ต่างก็หลงรัก
รอยยิ้มและความอ่อนโยนของเธอทำให้ใครหลาย ๆ คนหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น
เส้นผมสีเขียวลึกล้ำดั่งน้ำทะเลจนใครก็เรียกเธอว่านางเงือก
...ทุกท่านครับขอเชิญพบกับรุ่นพี่ปี 3 แห่งคณะเทคโนโลยีการอาหาร …มากิโนะครับ!”
“กรี๊ด~ มากิโนะจ๋า แชงค์สจ๋ามาเชียร์แล้วนะ นางเงือก...นางเงือกของแชงค์ส!”
“ฮะ!!?” เสียงผู้ชายกรี๊ดที่ด้านบนดึงให้ทุกคนยิ่งตะลึงงัน
ที่ตรงนั้นมีผู้ชายผมแดงม้วนไปม้วนมาเพราะกำลังเชียร์ผู้หญิงที่ชื่อมากิโนะอยู่
เขาเป็นคนสูงเด่นเป็นสง่า ใบหน้าจัดว่าดูดีแม้จะมีแผลเป็นลากผ่านตาซ้าย
ร่างนั้นสวมใส่เสื้อหนังสีดำผ่าอกทำให้รู้ว่าให้ตายยังไงเขาก็ไม่ใช่คนประเทศนี้
เป็นไปไม่ได้! ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่
...คนที่หาตัวจับยากและมีอำนาจล้นมือพอ ๆ กับรัฐบาลและ Rainmaker หนึ่งในเหล่าคนทรงอิทธิพลที่สั่นคลอนทุกอย่างได้ด้วยคำเพียงคำพูดเดียว
มาเฟียแห่งอิตาลี ...1 ใน Stormbringer มหาอำนาจ
...แชงค์สผมแดง
“บอส
นั่นมันผมแดง!”
“ยายเนียว Stormbringer ค่ะ!”
“นายน้อย...”
“ก็บอกว่าเห็นแล้วไงโว้ย!” โดฟลามิงโก้กวาดมองหัวโจกของแต่ละกลุ่มด้วยความยุ่งยาก
‘อะไร...นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!!?’ เออ มากันให้หมด... มาเฟียลาว มาเฟียจีน มาเฟียอิตาลีมากันให้หมด
...วันนี้คือวันอะไร วันนัดชุมนุมพวกใต้ดินเรอะ! ทำไมไอ้พวกตัวปัญหาถึงมากองกันอยู่ที่นี่ …ตอนนี้นี่มันยิ่งกว่าวันนัดประชุมของรัฐบาลอีกนะโว้ย!
“เอาล่ะครับคราวนี้ก็มาถึงคนสุดท้ายกันแล้ว
...เธอคือน้องใหม่เฟรซซี่หน้าใสที่พึ่งเข้ามา
แม้พึ่งย้ายมาเมื่อกลางเทอมแต่ความสามารถก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร
ทั้งร้องเล่นเต้นรำหรือแม้กระทั่งเรื่องเรียนก็ถึงที่สุด
...ทุกท่านครับขอเชิญพบกับน้องใหม่ปี 1 แห่งคณะจิตวิทยา …ไวโอเล็ตคร้าบ!”
“วี๊ด~ ไวโอเล็ตแหละนายน้อย กรี๊ด!!!”
“นี่ยัยเด็กแคระอย่ากระโตกกระตากสิ! รู้ไหมว่ารอบตัวมีใครนั่งอยู่บ้าง!” แต่มันก็ไม่ทันแล้ว
บอสของแฟมิลี่กุมขมับ ...เสียงแปดปรอทของเบบี้ไฟว์ดึงให้ทั้งบาร็อคเวิร์คส์
กลุ่มคุจา และแก๊งผมแดงต่างเพ่งตรงมาทางนี้
ใช่ เขาไม่ได้กลัวจะมีเรื่องแต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ 2 แต่มันเป็น 3 ...ตอนนี้ดอนกิโฮเต้แฟมิลี่กำลังถูกล้อมกรอบด้วยมาเฟีย 3 แก๊งอยู่!
เสียงพลุดังปังบ่งบอกว่าการแสดงกำลังเริ่มขึ้น และที่แน่นอนยิ่งกว่าแน่คือ ณ ตอนนี้เดี๋ยวนี้
หัวหน้าแก๊งทั้งสี่ต้องออกมาหารือกันหน่อย...
ว่าอะไรดลใจถึงพากันมากระจุกที่มหาลัยแบบนี้วะเนี่ย!?
───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ
ความมองเห็นกันและกันเป็นคนแรกนี่คืออะไร ไหนพูด!
และข้าขอเบิกตัว Stormbringer ค่า~ เชิญคุณผมแดงมากล่าวปราศัยเลยจ้า
ก็นะ ...มี Rain ก็ต้องมี Storm
แถมงานกีฬาสีนี่มันงานใส ๆ หัวใจสี่ดวงนะ แล้วไอ้เจ้าพวกมาเฟียเค้ามากระจุกกันอะไรอยู่ที่นี่!?
อย่ามาป่วนงานจะได้ไหม
ฉากภาพมอนิเตอร์คือไรท์อ้างอิงจากบรรยากาศการชมกีฬาของต่างชาติมานะคะ
คือเวลาเข้าสู่ช่วงพักเนี่ย พวกตากล้องเค้าจะชอบไปจับภาพคนดูแล้วจะมีการใส่เอฟเฟกต์ประมาณว่า ให้จูบคนข้างๆ หรือกอดกันอะไรแบบนี้
ซึ่งไรท์ว่ามันน่ารักและบางอันก็ตลกดี เลยเอามาใส่นี่แหละจ้า
อ่อลืมไป ...คำว่า Smile on chin up เป็นวลีให้กำลังใจคนนะคะ
ประมาณว่า อย่ากังวล เชิดหน้าแล้วยิ้มสู้ไว้ :)
─────────────
ความคิดเห็น