คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : #fictober ( 1 2 ) ring
#fictober2019
Drabble
fiction
Pairing
lucas & marklee
Rate
PG
Note ยังอยู่กับคุณไนท์นะคะ
no.
12 (ring)
“ช่วงนี้ใบหน้าดูอิ่มเอิบดีนะ”
“ห้ะ?”
“ก็นะ
พลังแห่งความรักของอัศวินมันหอมหวานนนนนนน”
“จง-เฉิน-เล่อ!”
มินฮยองปายางลบใส่เฉินเล่อทันทีที่ได้ยินประโยคกระแนะกระแหนตนอย่างออกหน้าออกตา
ใบหน้าของเพื่อนคนจีนเต็มไปด้วยสายตาที่ล้อเลียนอีกฝ่ายปนไปด้วยความหมั่นไส้
โธ่เอ๊ย ปากบอกว่าไร้สาระ เพ้อเจ้อ
สุดท้ายเป็นยังไง?
ก็เห็นไปไหนไม่รอด
“พูดผิดอะไรอะ” เฉินเล่อถามกลับอย่างยียวน
“…”
“แอบไปหากันที่ห้องสมุดไม่พอ
ยังลามมาถึงห้องซ้อมกูอีก ไม่อินเลิฟเลยม้างงง”
“ก็ลูคัสมาหากูเอง” คนตัวเล็กแย้งทันทีแต่ก็เหมือนเป็นการเปิดช่องให้เพื่อนตัวขาวขยี้ต่อ
“อ๋ออออ”
“อะ-”
“ขิง”
“พอ เลิก
ไปซ้อมร้องเพลงต่อได้แล้วมึงอะ” เมื่อเริ่มเถียงเพื่อนไม่ได้
มินฮยองเลยบอกปัดอีกคนและก้มลงไปเขียนเปเปอร์ต่อ
ทำให้เฉินเล่อหัวเราะออกมาเมื่อรอบนี้ตนเป็นผู้ชนะในการเถียงกับอีกฝ่าย
ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ห้องซ้อมประจำของเฉินเล่อ
เนื่องจากเพื่อนตัวขาวจะมีสอบย่อยร้องเพลงในอาทิตย์หน้าเลยทำให้มินฮยองต้องย้ายที่อ่านหนังสือตามเฉินเล่อมา
“ได้
แต่ก่อนไปซ้อมกูมีเรื่องจะถามมึง”
“อ่าหะ” มินฮยองตอบพลางลากปากกาไฮไลท์ไปตามหนังสือ
“เมื่อไหร่จะคบกับไนท์อะ”
“ถามอะไรของมึงเนี่ย!”
มินฮยองร้องออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเพื่อนสนิทถามออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจนเขาขีดไฮไลท์พลาดจนเละเทะไปหมด
“คุยกันก็บ่อย
แถมมานั่งเฝ้ากันอีก ขนาดนี้ก็ชัดเจนแล้วปะ”
“…”
“ถึงคนอื่นจะไม่เห็นที่พวกมึงจีบกันแต่กูที่เป็นคนเห็นก็อดไม่ได้ที่จะถามปะวะ”
“กูไม่รู้”
“เวร”เฉินเล่อตบหน้าผากตัวเองเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ค่อยเหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่แต่ก็ทำให้เขารู้สึกละเหี่ยใจกับเพื่อนเนิร์ดของตนอยู่ดี
“ก็ลูคัสไม่ขอกู”
“หมายความว่า?”
“ก็นั่นแหละ
ใจจริงกูก็คิดว่ามันเร็วไปนั่นแหละ แต่ก็…”
“ก็?”
“พอ! ไปซ้อมได้แล้ว!”
มินฮยองพูดปัดอีกฝ่ายเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย
ที่จริงคนตัวเล็กก็คิดว่ามันอาจจะเร็วไปในการศึกษาดูใจกันและกัน
ถึงตอนนี้จะผ่านมาได้สามวีคแล้วที่เริ่มคุยกันอย่างจริงจัง
แต่ทุกครั้งที่ลูคัสดูแลเขาหรือคุยกับเขานั้นเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างดี… ไม่สิ ดีมาก ๆ เลยสำหรับคนที่ไม่เคยมีแฟนอย่างเขา
ก็นะ.. ถ้าบางทีคนตัวสูงลองขอเขาอีกรอบ เขาก็อาจจะตกลงก็ได้
“คิดอะไรอยู่ครับ?”
เสียงนุ่ม ๆ
ที่คนตัวเล็กคุ้นเคยอย่างเป็นประจำดังขึ้นข้าง ๆ หู
ทำให้มินฮยองสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันไปมองยังคนขี้แกล้งที่ตอนนี้กลับไปนั่งพิงที่พนักพิงเก้าอี้แล้ว
สายตาคมเข้มกับรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ที่ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองในช่วงนี้กำลังมอบมายังเขาอีกครั้ง
อันตรายจริง ๆ
“มาได้ยังไง”
“ไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับมาแบบนี้อีกแล้วนะครับมินฮยอง”
“…”
“ถ้าผมตอบว่าที่มาหามินฮยองเพราะว่าคิดถึงจะได้ไหมครับ?”
“เว่อร์”
“เรื่องจริงทั้งนั้นเลย”
“อืม”
“?”
“คิดถึงก็คิดถึง” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่ใบหน้าน่ารัก ๆ
ที่เห่อแดงสวนทางกับคำพูดทำให้ลูคัสยิ้มออกมาอีกครั้ง
“น่ารักอีกแล้ว”
“พูดจังเลยนะคำนี้อะ”
“เขินหรอครับ”
“ใครบ้างที่ไม่เขินเวลามีคนชม”
“งั้นก็หวั่นไหว?”
“…”
“แสดงว่าใช่”
“พูดมากจริง ๆ”
ลูคัสหัวเราะออกมาเมื่อคนตัวเล็กยังปากแข็งทำเป็นพูดนิ่ง
ๆ
แต่ทั้งหน้าทั้งหูแดงก่ำลามไปถึงต้นคอเล็กแต่ก็ไม่ได้พูดแซวอีกฝ่ายต่อเพราะว่าถ้าหนักกว่านี้ล่ะก็เนื้อตัวของเขาต้องช้ำเพราะโดนคนตัวเล็กทุบแน่นอน
“มินฮยองครับ”
“หือ”
“วันจันทร์ผมต้องไปแข่งยิงธนูนะครับ”
“ก็ดีแล้วนี่”
คนตัวเล็กเงยหน้ามองไนท์คนดังที่ไม่เคยละสายตาจากเขาเลยสักครั้ง
มินฮยองก็พอจะรู้มาจากเฉินเล่อบ้างว่าลูคัสเล่นกีฬาเก่งและเล่นได้หลายประเภทตามประสาคนเก่ง
แต่กีฬายิงธนูเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับเขาเหมือนกัน
แล้วนี่คนตัวสูงได้เป็นตัวแทนไปแข่งอีกก็คงจะเก่งมากพอสมควร
“คงคิดถึงแน่เลย”
“เว่อร์อีกแล้วนะ”
“คุณก็รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องของคุณผมไม่เคยเว่อร์”
ลูคัสเลื่อนเก้าอี้มานั่งชิด ๆ
กับคนตัวเล็กก่อนมือหนาจะเอื้อมนิ้วก้อยไปเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยเล็กที่วางอยู่บนเบาะ
มินฮยองมองหน้าอีกฝ่ายอย่างตื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้สะบัดออกแต่อย่างใด
“เฉินเล่อก็อยู่ในห้อง”
มินฮยองพูดเสียงเบาพลางมองไปที่เพื่อนสนิทที่กำลังซ้อมร้องเพลงอยู่อย่างร้อนรน
“เฉินเล่อไม่ว่าอะไรหรอกครับ
รายนั้นดีใจด้วยซ้ำล่ะมั้งที่ผมแอบจับมือมินฮยอง”
“อย่ามาทำหน้าตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นนะ
แล้วก็อย่าให้เฉินเล่อรู้เด็ดขาด”
“งั้นก็แปลว่าผมแอบจับมือมินฮยองได้ใช่ไหมครับ?”
“…”
“ขอบคุณครับ
:-)”
ลูคัสยิ้มออกมาก่อนทั้งคู่จะเกี่ยวนิ้วก้อยเข้าหากันและตกอยู่ในความเงียบมีเพียงเสียงร้องเพลงของเพื่อนสนิทคนตัวเล็กที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยความรู้สึกดี
ๆ ของพวกเขาสองคน และลูคัสปล่อยให้มินฮยองนั่งสรุปหนังสือไปโดยที่ไม่ได้พูดรบกวนอะไรอีกคน
“จะไปแข่งก็อย่าหักโหมมากนะ…พักผ่อนเยอะ ๆ ด้วย” คนตัวเล็กพูดเพื่อทำลายความเงียบ
“…”
“…แล้วก็สู้ ๆ นะ…เป็นกำลังใจให้”
“ขอบคุณนะครับมินฮยอง”
“อือ”
“กลับมาแล้วจะขอรางวัลนะครับ”
“ชนะให้ได้ก่อนเถอะ”
คนตัวเล็กบ่นอุบแล้วอมยิ้มเล็ก ๆ
“โอเคครับ
เท่านี้ก็มีกำลังใจมหาศาลแล้ว :-)”
หลังจากวันนั้น
ลูคัสก็ไม่ได้ติดต่อมินฮยองมาเลยสักนิด
ที่จริงมินฮยองก็พอเข้าใจนะว่าคนเป็นนักกีฬาอาจจะทุ่มเทเวลาไปกับการซ้อมจนไม่ได้ติดต่อกับใคร
แต่ถึงอย่างงั้นคนตัวเล็กก็แอบรู้สึกวูบโหวงในใจไม่ได้
เพราะคนตัวสูงมักจะส่งข้อความมาวอแว มาหยอดคำหวาน
มาเดินเพ่นพ่านให้เขาได้เห็นอยู่เป็นประจำ มาทำให้เขารู้สึกเคยชินเนี่ย… ร้ายกาจชะมัด
มาทำให้เขาติดอีกฝ่ายจนนิสัยเสียจนได้
“ไงมึง” เฉินเล่อทักทายคนตัวเล็กก่อนจะอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกคนหน้าตาหงอย ๆ “หน้าตาเหมือนหมาหงอยชะมัด”
“กวนประสาท”
“โอเค๊”
เพื่อนตัวเขาดัดเสียงสูงก่อนจะยกเก้าอี้ให้ห่างจากโต๊ะและนั่งลงประจำที่ของตัวเองแหละหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมเหมือนปกติ
ส่วนมินฮยองก็นั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม
“มึง”
“ว่า” มินฮยองเงยหน้าไปตามเสียงเรียกของเพื่อนสนิท
“เปล่า”
คนตัวเล็กถึงกับมุ่นคิ้วอย่างสงสัยเพราะเพื่อนตัวขาวเรียกชื่อเขาก่อนจะบอกว่าไม่มีอะไรในเวลาต่อมา
ซึ่งมันสวนทางกับสายตาที่เต็มไปด้วยความกรุ้มกริ่มของเฉินเล่อมาก ๆ แต่มินฮยองก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรอีกฝ่ายต่อ
“ไม่ได้คุยกับไนท์เลยใช่ปะช่วงที่ไปแข่ง”
“ก็..อืม”
“แย่เลยเนอะ”
“ก็ไม่เท่าไหร่…”
“แต่ยอมรับว่าคิดถึงหน่อย
ๆ”
“เชี่ย… กูไม่ได้ทันตั้งตัว” เฉินเล่อแกล้งทำท่ากุมหัวใจก่อนจะโดนเพื่อนตัวเองปายางลบใส่อีกครั้ง
“เยอะ”
“ค้าบ
มึงไม่เยอะเลยเนอะ”
“อะไร”
“อย่าคิดนะว่ากูไม่เห็นที่มึงกับไนท์แอบจับมือกันตอนกูซ้อมร้องเพลง”
“…”
“กระจกห้องซ้อมมันสะท้อนนะเผื่อมึงไม่รู้”
เฉินเล่อยิ้มอย่างมีเลศนัยเมื่อเห็นคนเป็นเพื่อนกัดริมฝีปากอย่างเก้อเขินอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“เวร”
“เถียงมาดิค้าบ”
เฉินเล่อพูดก่อนจะก้มลงไปกดโทรศัพท์อีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันชื่อดัง
“เออมึง ไปหาหนังสือให้หน่อยดิ”
“ทำไมไม่ไปหาเอง”
“ขอโทษนะ
กูมานั่งเล่นที่ห้องสมุดแต่ละครั้งกับมึงเนี่ย เคยเห็นกูลุกไปหาหนังสือหรอวะ”
“เพราะมึงเป็นแบบนี้ไงเลยไม่อยากจะช่วย”
“เออหน่า
ทำเพื่อกูหน่อย จริง ๆ เพื่อนกูฝากยืมไง เป็นจริงเป็นจังด้วย”
“เออ กูไปหยิบให้ก็ได้
บอกชื่อหนังสือมา”
“กูอยากได้หนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเทพกรีก
พวกมิวส์อะไรแบบนี้ กูจะเอาไปทำงาน”
“เอากี่เล่ม” มินฮยองลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามอีกคน
“เล่มเดียวก็เหลือเฟือแล้ว”
“โอเค งั้นเฝ้าโต๊ะไว้ เดี๋ยวมา”
“อย่าเผลอไปทำอะไรแปลก
ๆ ตรงล็อกหนังสือนะ” เฉินเล่อพูดพลางยักคิ้วหลิ่วตาอย่างกวน
ๆ
“อะไรของมึงเนี่ย
กูไปดีกว่า รำคาญมึงเพ้อเจ้อ”
ว่าแล้วมินฮยองก็เดินตัวปลิวออกมาจากโต๊ะประจำก่อนจะเดินไปยังล็อกหนังสือที่เฉินเล่อต้องการอย่างคุ้นเคย
ก็จะไม่ให้เขาคุ้นได้อย่างไรก็ในเมื่อล็อกที่จะไปนั้นมันเป็นล็อกเดียวกับล็อกที่เขาและลูคัสเคยเจอกันครั้งแรก
คนตัวเล็กเดินเข้าไปในล็อกหนังสือหมวดประวัติศาสตร์โลกก่อนจะเริ่มไล่นิ้วหาหนังสือที่เกี่ยวข้องทีละชั้น
และก็เป็นอย่างทุกครั้งที่มินฮยองจมดิ่งไปกับสมาธิก็มักจะไม่ได้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบข้าง
อย่างเช่นตอนนี้
คนที่มินฮยองนึกถึงอยู่ตลอดหลายวันมานี้กำลังเดินเข้ามาหาตนอย่างเงียบเชียบ
จนในที่สุดลูคัสก็เดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็กที่ยังไม่รับรู้ถึงการมาถึงของผู้มาใหม่จนลูคัสเผลอหลุดหัวเราะออกมาจึงทำให้มินฮยองละสายตามาจากสันหนังสือเพื่อสบตาคนที่กำลังยืนอมยิ้มตนด้วยความเอ็นดู
“ลูคัส!”
“สวัสดีตอนเย็นครับมินฮยอง”
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“วันนี้ตอนบ่ายเองครับ”
“อ๋อ”
เมื่อคนที่มินฮยองคิดถึงอยู่ตลอดเวลามาอยู่ตรงหน้าแล้ว
สิ่งที่คิดว่าจะถาม หรือบางอย่างที่อยากเล่ากลับว่างเปล่าไปหมด
คนตัวเล็กทำเพียงแค่ยืนมองอีกคนที่ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้เหมือนทุกครั้งที่เจอกัน
“แล้ว…ทำไมถึงไม่มีใครรู้หรือพูดเลยว่านายกลับมาแล้ว…”
“อ๋อ ที่จริงไม่ได้มาเรียนหรอกครับ
แต่มีธุระสำคัญเลยรีบมาทำก่อน”
“…”
“ถ้าไม่ได้ทำผมคงร้อนใจน่าดู”
“อ๋อ” คนตัวเล็กพยักหน้าอย่างรับรู้
แต่ก็แอบใจแป้วเมื่อคนตัวสูงแค่เข้ามาทำธุระเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจมาหาเขาโดยเฉพาะ
แต่ก็นั่นแหละ… อีกคนจะมาหาเขาทำไมกัน?
“มินฮยองครับ”
“หือ”
“คิดถึงกันไหมครับ?”
“…”
“…”
“น่ารักจังครับ” ว่าแล้วลูคัสก็เอื้อมมือไปจับเข้าที่มือเล็กพร้อมกับใช้หัวแม่มือไล้ไปที่หลังมือของมินฮยองอย่างแผ่วเบาจนใบหน้าของคนตัวเล็กขึ้นสีอีกครั้ง
“ระ-รู้แล้ว”
“:-)” ลูคัสยิ้มออกมาก่อนจะพูดต่อ
“ต้องขอโทษนะครับที่ตอนที่ไปสิงคโปร์ไม่ได้ติดต่อกับมินฮยองเลย”
“ไม่เป็นไร เข้าใจ” มินฮยองพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้อีกคนบาง ๆ เพื่อยืนยันว่าตนโอเคจริง ๆ
“ตลอดเวลาที่ไปสิงคโปร์
ผมก็คิดว่าจะทำยังไงถึงจะได้รางวัลมาฝากมินฮยอง…”
“…”
“แล้วก็ผมยังคิดถึงมินฮยองตลอดเวลาจนรู้สึกว่าผมไม่สามารถรอเวลาและปล่อยมินฮยองไปไหนได้อีกแล้ว”
ดวงตาสีเข้มฉายแววจริงจังออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
มันทั้งเป็นแววตาแห่งความคิดถึงและการตัดสินใจอะไรบางอย่างจนคนถูกมองอย่างคนตัวเล็กถึงใจสั่นอย่างห้ามไม่ได้
มือหนาข้างที่ว่างเอื้อมไปล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับหยิบอะไรบางอย่างออกมา
เหรียญรางวัลจากการแข่งขันยิงธนูของลูคัส
“ไนท์”
ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อเห็นเหรียญทองที่ถูกชูอยู่ตรงระดับสายตาของตน
ลูคัสยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวกลม ๆ
ของคนตัวเล็กแล้วยื่นมันใส่มือให้กับอีกฝ่าย
“ผมทำให้มินฮยองได้แล้วนะ”
“นายเก่งมาก ๆ …”
“เพราะว่าได้กำลังใจจากว่าที่เลดี้ไปเต็ม
ๆ ไงครับ”
“…”
“อีกอย่างธุระที่สำคัญที่ผมว่าน่ะก็คือการทวงของรางวัลจากมินฮยองครับ”
ลูคัสยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนจะสติหลุดและลืมที่สัญญากันเอาไว้
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนตัวสูงรู้สึกโกรธแต่อย่างไร
ไนท์คนดังก้มลงมองมือของตนก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างมาถอดแหวนที่ตนเองใส่ติดตัวไว้ประจำออกจากมือจนคนมองดูการกระทำของเขาอยู่ทำหน้าสงสัยขึ้นมา
“ที่ผมบอกว่าผมไม่สามารถรอเวลาและปล่อยมินฮยองไปไหนได้อีกแล้วน่ะ
ผมพูดจริง ๆ นะครับ”
“…”
มินฮยองไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นและหัวใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน
คนตัวเล็กเผลอกัดริมฝีปากอีกครั้งเมื่อกำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตภายในโรงเรียนของตนไปอย่างแน่นอน
“มินฮยองครับ”
“อืม”
“เราเจอกันครั้งแรกตรงนี้ใช่ไหมครับ”
“…”
“รู้หรือยังครับว่าทำไมเฉินเล่อถึงให้คุณมาหาหนังสือที่ล็อกนี้”
จง-เฉิน-เล่อ! มินฮยองตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายในใจเมื่อรู้ว่าเพื่อนสนิทของตนรู้เห็นเป็นใจกับไนท์คนดังของโรงเรียนและสร้างสถานการณ์ยืมหนังสือปลอม
ๆ ขึ้นมา
“…”
“ที่ผมเคยพูดตรงล็อกหนังสือในวันนั้น”
“…”
“ผมจะมาถามมินฮยองอีกครั้ง”
“…”
“มินฮยองครับ
ช่วยเป็นเลดี้ของผมได้ไหมครับ”
เมื่อลูคัสพูดจบทุกอย่างรอบตัวมินฮยองเหมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้
เหลือเพียงรอยยิ้มอบอุ่นและสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังกับคำตอบจากคนตัวเล็ก
มินฮยองเงียบไปสักพักก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตนเอง
ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งอย่างช่างใจ มินฮยองสบตากับคนตัวสูงอีกครั้งแต่ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา
“…”
“…”
“ถ้างั้น..ก็ฝากตัวด้วยนะไนท์”
“ด้วยความยินดีครับเลดี้
:-)”
ลูคัสยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจก่อนจะเอื้อมมือไปจับเล็กขึ้นมาประทับจูบลงไปเหมือนพวกเจนเทิลแมนฝั่งตะวันตกที่ให้เกียรติคนที่ตนรักแล้วสวมแหวนที่ตัวเองใส่ประจำบนนิ้วโป้งของคนตัวเล็กพร้อมกับลูบแหวนไปมาอยู่อย่างนั้น
“ผมฝากแหวนวงนี้เอาไว้ที่มินฮยองก่อนนะครับ
ถือว่าเป็นการจองเลดี้ของผม”
“…”
“แล้วผมจะเอาแหวนของเลดี้มาสวมให้จริง
ๆ อีกครั้งนะครับ”
“อือ
จะรอนะคุณไนท์คนเก่ง”
Ended
Scream and
comment on #serendipitylm
Talk เดดไลน์มิราเคิลค่ะ…
นึกว่าจะมาไม่ทันแล้ว กรี๊ด;;
อันนี้เราถือว่าจบช่วงไนท์ตามจีบแล้วนะคะ แล้วก็เราขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ทุกคนชอบคุณไนท์และเลดี้ของเขา
หลายๆคนบอกให้ทำเป็นเรื่องยาวด้วย 5555 ฮือ
ความจริงแล้วไม่มีแพลนเลยค่ะ ไม่เคยมีแพลนว่าจะเขียนถึง 4 ตอนด้วย
55555 (มีถึง 4 ตอนนี่เพราะทุกคนบิลด์เราทั้งนั้น
. - . ) ส่วนตอนหน้าเราไม่รู้นะคะว่าจะเป็นไนท์อีกไหม
เพราะไม่อยากให้คนเบื่อกัน เอาเป็นว่าเจอกันตอนหน้านะคะ
ความคิดเห็น