ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf/os serendipity | nct lumark

    ลำดับตอนที่ #31 : #fictober ( 9 ) knight

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 729
      112
      9 ต.ค. 62

    #fictober2019

    Drabble fiction

    Pairing lucas & marklee

    Rate PG

     

    no. 9 (knight)

     

     

     

    มึงได้ยินข่าวปะวะ

     

    ข่าวอะไร

     

    ที่ว่าถึงเวลาที่ไนท์ต้องมีเลดี้แล้วไง

     

    ไร้สาระ

     

    มินฮยองที่อุตส่าห์ตั้งใจฟังเพื่อนคนจีนอย่างจงเฉินเล่อพูดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกออกมาทั้ง ๆ ที่เขาคิดว่าใกล้จะช่วงสอบแบบนี้อีกคนจะมีแนวข้อสอบหรืออะไรดี ๆ มาแชร์กัน แต่สิ่งที่ได้ยินนั้นมีแต่เรื่องกอซซิบอะไรไร้สาระไปหมด

     

    มินฮยองและเฉินเล่อเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาในโรงเรียนที่ค่อนข้างคล้าย ๆ กับการ์ตูนตาหวาน เพ้อฝันเหมือนกับหลุดไปยังโลกที่ไม่ใช่ความจริง ประมาณว่าไอ้โรงเรียนที่ว่าน่ะมักจะมีแก๊งค์หรือคนกลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างโด่งดังและมีอิทธิพลต่อคนทั้งโรงเรียน ทำอะไรก็เป็นที่จับตาไปเสียหมด.. ซึ่งมันดันมีแบบนั้นจริง ๆ น่ะสิ ซึ่งไอ้โรงเรียนนั่นก็โรงเรียนเขาเอง

     

    โธ่ คนเรามันก็ต้องมีอะไรให้เม้าท์มอยแก้เบื่อบ้างดิว้า เฉินเล่อบ่นอุบ

     

    งั้นก็ไปเม้าท์มอยกับพวกซูจอง ยูตะไม่ก็ดงฮยอกสิ

     

    เฉินเล่อกับเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ไฮสคูลเกรด 7 ในตอนแรกที่เขาเข้าไปคุยกับเพื่อนชาวจีนคนนี้เพราะว่าอีกคนสื่อสารด้วยภาษาเกาหลีไม่ได้เลย สามารถพูดคุยกันได้ด้วยภาษาอังกฤษเท่านั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฉินเล่อสนิท? ไม่สิ เรียกว่าตามติดเขามาจนถึงตอนนี้ดีกว่า

     

    ซึ่งก็ใช่ว่าเขาและเฉินเล่อจะได้อยู่ห้องเดียวกันจนถึงตอนนี้นะ พวกเขาทั้งคู่แยกกันเมื่อขึ้นเกรด 11 ที่เริ่มจะแยกห้องตามความชอบและความถนัดของตัวนักเรียนแต่ละคร ตัวมินฮยองชอบที่จะอ่านหนังสือ ชอบเขียนเสียมากกว่าเลยเลือกที่จะเรียนสายอาร์ตในแขนงของภาษาและวรรณกรรม ส่วนเฉินเล่อผู้ที่เกลียดการอ่านหนังสือเยอะ ๆ อย่างกับอะไรดีเลือกสายอาร์ตเหมือนกันแต่ไปในด้านเอ็นเตอร์เทรน จำพวกร้อง เต้น แสดงแทน

     

    แต่ก็อย่างที่บอกว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่เลิกสนิทกันได้เลยแม้แต่น้อย เพราะทุกเย็นเฉินเล่อก็จะตามมินฮยองเข้ามานั่งเล่นเกมส์ในห้องสมุดแห่งนี้ ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอกเล่นเกมส์จริงๆ ช่วงแรก ๆ เจ้าเพื่อนตัวขาวก็บ่นเหมือนกันนะว่าทำไมชอบมานั่งที่ห้องสมุด แต่พักหลัง ๆ กลับเป็นคนที่ติดใจเสียเองเพราะห้องสมุดคนน้อยไม่พอแถมยังเย็นสบายอีกต่างหาก ช่างเป็นข้อดีที่น่าเหนื่อยหน่ายใจสำหรับมินฮยองเสียเหลือเกิน

     

    ไม่เอาอะ ไม่พูดกับพวกปากเปราะ เฉินเล่อโบกมือปฏิเสธรัว ๆ พวกนั้นเก็บความลับไม่อยู่ พูดกับมึงดีกว่า

     

    นับว่าเป็นเกียรติใช่ปะ?

     

    หาไม่ได้อีกแล้วปะที่จงเฉินเล่อคนนี้จะแชร์ความลับกับคนคนเดียว

     

    “…ว้าว สุดยอดไปเลย มินฮยองแกล้งทำเป็นตื้นตันแต่น้ำเสียงนิ่ง ๆ นั้นกับสวนทางกับบริบทที่พูดกับเพื่อนตัวขาวลับขนาดนั้นเชียว

     

    ที่จริงก็ไม่ แต่ว่านะ นั่นแหละ อยากเล่าให้ฟังไง

     

    โอเค๊ มินฮยองพยักหน้ารับ

     

    สรุปฟังนะ

     

    แล้วไม่ฟังได้หรอ มินฮยองคิดในใจ

     

    อ่าหะ

     

    จะไม่พูดถึงพวกรุ่นพี่ที่เป็นไนท์หรอกเฉินเล่อกระซิบ แต่จะพูดถึงไนท์รุ่นเดียวกับเรา

     

    ใครอะ

     

              ทันทีที่มินฮยองถามจบ เพื่อนตัวขาวถึงกับแสดงสีหน้าเหม็นเบื่อใส่เพื่อนเด็กเนิร์ดแว่นกลมคนนี้ทันที

     

              ก็พอเข้าใจนะว่าไม่สุงสิงกับใคร แต่ใช้ชีวิตช่วงที่ไม่กูตอนเรียนยังไงวะ อย่างน้อยก็ควรจะรู้จักคนดัง ๆ บ้างสิ

     

              “…”

     

              แต่ก็เอาเถอะ เห็นแก่ความเป็นเพื่อน

     

              อยากเวิ่นเว้อมากกว่ามั้ง

     

              เออนั่นแหละ เดี๋ยวจะเล่าย้อนให้ฟัง จะได้มีอะไรประดับสมองบ้างนอกจากความรู้

     

              เดี๋ยวนะ ประโยคนี้มินฮยองว่ามันดูแปลก ๆ

     

              ก็พอรู้ใช่ปะว่าโรงเรียนเรามันมีกลุ่มที่แสนจะโด่งดังจนคนในโรงเรียนสถาปนาให้เป็นไนท์ประจำโรงเรียน ไนท์หรือผู้พิทักษ์ที่ว่าเนี่ย สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นและรุ่นเราก็คือลูคัสห้อง C”

     

              ห้องกีฬา?

     

              อ่าหะ แต่ว่าคนที่จะเป็นไนท์ได้เนี่ยคุณสมบัติต้องตรงตามทุกอย่างนะ เฉินเล่อชี้แจงในขณะที่เพื่อนแสนเนิร์ดก็ดูจะฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะสายตายังจดจ่อกับตัวหนังสือจาก texts book อยู่เลย ที่บ้านเป็นผู้อุปถัมป์โรงเรียน เรียนเพอร์เฟกต์ ที่สำคัญต้องหน้าตาดีด้วย

     

              “…”

     

              ไม่งั้นจะเป็นหน้าตาของโรงเรียนเราได้หรอ มินฮยอง? อีมินฮยอง!!”

     

              หา?

     

              ฟังที่เล่าปะเนี่ย เฉินเล่อทำหน้าหงุดหงิดใส่เพื่อน

     

              ก็ฟังแต่เห็นว่ามันไร้สาระเลยเลิกฟังไง โรงเรียนบ้าอะไรมีธรรมเนียมปัญญาอ่อน แบ่งชนชั้นหรอ ไหนคือความเท่าเทียม สมัยนี้เขาไม่มีอะไรแบบนี้แล้วไหมอะ มินฮยองเถียงออกมา

     

              ไม่รู้แหละ เล่าแล้วต้องฟังต่อให้จบ เห็นแก่เพื่อน

     

              เออ

     

              แล้วทีนี้อะนะ ทุก ๆ ปีจะต้องมีพิธีแต่งตั้งเลดี้

     

              เพื่อ?

     

              เออนั่นดิกูก็ไม่รู้ แต่นักเรียนอย่างพวกเราจริงจังมากเลยนะเหมือนจ้องจะเม้าท์อยู่ตลอดเวลา

     

    เหมือนมึง? มินฮยองจิกกัดเพื่อนช่างพูดไปอีกดอก

     

    สัด แต่นั่นแหละ เห็นลือ ๆ กันมาว่าใกล้แล้ว ใคร ๆ ก็อยากรู้ว่าเลดี้ที่จะมาคู่กับลูคัสเป็นใคร

     

    แล้ว?

     

    จบแล้ว ไม่มีอะไร เฉินเล่อยักไหล่เมื่อพูดในสิ่งที่ต้องการจะพูดจบ

     

    ไร้สาระตั้งแต่ต้นจนจบจริง ๆ มินฮยองส่ายหน้าอย่างปลงตก ก็อีแค่พิธีหลอก ๆ ถ้าโปรไฟล์ดีขนาดนั้นล่ะก็จ้างก็ได้ปะ

     

    ไม่ได้ดิ ก็บอกอยู่ว่าคนจ้องจับผิดเยอะจะตาย

     

    ดูอินกับเรื่องนี้นะ

     

    คนสายตาสั้นพูดพลางนั่งสรุปช็อตโน้ตสิ่งที่เพิ่งอ่านมาเพื่อเอาไว้อ่านตอนสอบโดยมีเพื่อนตัวขาวทำเสียงงุ้งงิ้งใส่เพราะเขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับท็อปปิคนี้สักเท่าไหร่

     

    ก็นั่นแหละ ใคร ๆ ก็จับตามองไง

     

    พูดจบแล้วนะ?

     

    จบแล้วครับคุณมินฮยอง

     

    ดี มินฮยองปิดหนังสือ งั้นเดี๋ยวกูไปหาหนังสือมาอ่านเพิ่มก่อน เฝ้าโต๊ะด้วย

     

    ยังไม่ทันที่เฉินเล่อจะตอบรับมินฮยองก็เดินตัวปลิวออกมาแล้ว ร่างโปร่งเดินลัดเลาะไปยังโซนหนังสือที่ตัวเองต้องการ ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นมุมอับแต่อย่างไร เพียงแต่ว่าโซนนี้เป็นโซนที่งดใช้เสียงไปเลย จึงทำให้มีคนมาใช้โซนน้อยไม่เท่าไหร่

     

    มินฮยองเดินไปหยุดตรงชั้นที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ซีกโลกตะวันตกก่อนจะเริ่มไล่นิ้วไปตามสันเพื่อหาหนังสือที่ต้องการอย่างใช้สมาธิโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนกำลังเข้ามาใช้บริการหาหนังสือล็อกเดียวกับตนอยู่

     

    เฮ้

     

    มินฮยองสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแหบทุ้มของนักเรียนอีกคนนึงและเมื่อหันไปก็พบว่าอีกคนกำลังทำหน้างุนงงกับชั้นหนังสือตรงหน้า

     

    หือ

     

    ผมหาหนังสือไม่เจอ คุณช่วยได้ไหม

     

    มินฮยองไม่ได้ตอบกลับไปแต่พยักหน้าให้อีกฝ่ายแทน นักเรียนคนนั้นเดินเข้ามาก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับสไลด์หน้าจอเพื่อหาอะไรสักอย่างในโทรศัพท์ซึ่งมินฮยองก็คิดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่อีกคนต้องการ

     

    ผมต้องการหาหนังสือที่เกี่ยวกับกีฬา

     

    หะ มินฮยองร้องออกมาเมื่ออีกคนบอกสิ่งต้องการ โซนนี้ไม่มีหนังสือที่คุณต้องการหรอกนะ

     

    อ่า…”

     

    คนที่ตัวสูงกว่ามินฮยองครางในลำคอก่อนจะเดินกลับไปที่หน้าตู้หนังสือที่แปะหมวดเอาไว้ก่อนจะขมวดคิ้วและเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนมองการกระทำของตนอยู่

     

    ผมมาถูกแล้วนี่

     

    นี่มันโซนหนังสือต่างประเทศหมวดประวัติศาสตร์…”

     

    นั่นแหละ ประวัติศาสตร์กีฬาสมัยกรีก-โรมัน คนตัวสูงยิ้มออกมาเมื่อเห็นคู่สนทนาทำหน้าเหลอหลาเมื่อเขาบอกความต้องการตัวเองไป

     

    แล้วทำไมไม่บอกให้หมด

     

    โทษที  แค่คลำทางมาถูกล็อกก็ถือว่าเป็นบุญแล้วครับ

     

    “…”

     

    สรุปว่าคุณจะช่วยผมใช่ไหม?

     

    เมื่อมินฮยองไม่ตอบอีกคนเลยต้องถามย้ำอีกทีจนคนตัวเล็กต้องพยักหน้าอย่างจำยอม คนตัวเล็กกอดหนังสือที่ตัวเองต้องการเอาไว้ในอกแล้วก็เริ่มหาหนังสือเจ้าปัญหาของอีกคนรวมถึงเขาด้วย มือเล็ก ๆ เริ่มไล้นิ้วเช่นเดิม คนตัวเล็กย้อนกลับไปที่ล็อกข้าง ๆ เพราะจำได้ว่าตัวเองเพิ่งผ่านหนังสือสมัยกรีก-โรมันมาเอง ส่วนคนตัวสูงกว่าก็ไม่ได้นิ่งดูดายให้คนตัวเล็กหาเพียงคนเดียว เขาเริ่มไล่หาหนังสือที่ต้องการทันที

     

    คนตัวเล็กเริ่มขมวดคิ้วเมื่อหาหนังสือไม่เจอ เขาหยิบเล่มนู้นทีเล่มนี้ทีมาเปิดดูเนื้อหาด้านในแบบคร่าว ๆ อย่างตั้งใจจนคนตัวสูงหันมาเห็นถึงกับหลุดขำเพราะท่าทางเหมือนกำลังหาหนังสือของอีกฝ่าย มันตั้งใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก

     

    หรือมันจะไม่มี คนตัวสูงเดินมาสมทบกับมินฮยอง

     

    มันต้องมีสิ

     

    ครับ ๆ

     

    นั่นไง! ตรงนั้น ชั้นบนสุด เทพปกรณัมกรีก-โรมันและกีฬาในอดีตกาล มินฮยองยิ้มอย่างดีใจก่อนจะชี้ให้อีกฝ่ายดู ไปหยิบสิ

     

    คนตัวเล็กกว่าเลี่ยงให้คนตัวสูงเดินไปหยิบซึ่งอีกคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี มินฮยองรู้สึกอิจฉาอีกคนเหลือเกินเพราะคนคนนั้นไม่ต้องเขย่งเท้าเพื่อเอื้อมไปหยิบหนังสือเลยด้วยซ้ำเพราะส่วนสูงที่สูงกว่าคนปกติและช่วงแขนที่ยาวพอสมควรทำให้อีกคนหยิบหนังสือได้สบาย ๆ ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเอื้อมไปหยิบหนังสือตรงนั้นได้เหมือนอีกคนได้ไหม

     

    ขอบคุณนะครับ คนตัวสูงพูดพร้อมกับยิ้มให้มินฮยอง

     

    ไม่เป็นไร มินฮยองบอกปัดก่อนสายตากลมโตจะเหลือบไปเห็นป้ายชื่อที่อยู่บนอกของคนตัวสูง

     

    LUCAS W.

     

    ใช่คนที่เฉินเล่อบอกหรือเปล่า?

     

    มีอะไรหรือเปล่าครับ? ลูคัสถามอีกฝ่ายที่ยืนมองป้ายชื่อของเขาอย่างสงสัย ชื่อผมมีอะไรหรือเปล่า

     

    อ่า ไม่มีอะไร ถ้าได้หนังสือแล้วก็ขอตัวนะ มินฮยองโบกมือและเตรียมจะหันกลับไปยังโต๊ะของตัวเองแต่ก็โดนคนตัวสูงคว้าแขนเอาไว้ก่อน

     

    เดี๋ยวก่อน

     

    หะ

     

    คุณไม่รู้จักผมหรอ

     

    มะ-ไม่

     

    อ๋อ แปลกดี ลูคัสลูบคางตัวเอง ก็ว่าอยู่ถึงมองชื่อผมนานเลย ได้ยินอะไรเกี่ยวกับผมมาหรอ

     

    “…ก็ไม่นะ

     

    งั้นก็ดีเลย ช่วยผมหน่อยได้ไหม

     

    ไม่!!”

     

    อ้าว รีบปฏิเสธอะไรขนาดนั้น

     

    ก็ถ้านายจะให้ไปช่วยปลอมเป็นเลดี้ของนายล่ะมะ-”

     

    :- )”

     

    มินฮยองทำหน้าเหมือนแมวหงอยทันทีที่เผลอหลุดปากออกไปส่วนคนตัวสูงยิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์นัย คนตัวสูงไล่สายตาไปที่ป้ายชื่อของเนิร์ดน้อยตรงหน้าเขาแล้วอ่านมันทีละตัว

     

    อี-มิน-ฮยอง

     

    “…”

     

    ชื่อน่ารักดีนะครับ แถมยังรู้ด้วยว่าผมเป็นใคร นึกว่าจะไม่รู้จักกันซะแล้ว

     

    เพิ่งรู้จักต่างหาก

     

    หือ?

     

    เพื่อนเพิ่งเล่าเรื่องนายให้ฟังเมื่อกี้

     

    งั้นก็ต้องขอบคุณเพื่อนของมินฮยองใช่ไหมครับ

     

    ไม่ต้อง มินฮยองสั่นหัว หมดธุระแล้วก็ปล่อยฉันไปได้แล้ว

     

    ใครว่าล่ะ คุณยังไม่ช่วยผมเลยนะ ลูคัสบอกด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

     

    ไม่เอา

     

    ก็แค่ช่วยเป็นเลดี้ของผม ไม่ได้หรอ?

     

    มะ-ไม่ได้

     

    เฮ้อ ไม่ยอมหลงกลผมเลยนะ คนตัวสูงถอนหายก่อนจะพิงหลังที่ชั้นวางหนังสือ งั้นเอาใหม่

     

    “…”

     

    ช่วยอนุญาตให้ผมจีบคุณได้ไหม?

     

    หะ มินฮยองร้องเสียงหลงก่อนจะทำหน้าตาเหลอหลา

     

    ก็คุณไม่ยอมเป็นแฟนผมอะ ผมก็เลยต้องจีบคุณ

     

    เดี๋ยว มะ-”

     

    ไม่มีแต่ครับ ยิ่งใกล้วันผมต้องยิ่งรีบทำคะแนน เดี๋ยวได้คุณเป็นแฟนไม่ทันล่ะแย่เลย คนยิ่งจับจ้องผมอยู่

     

    นาย

     

    จะหาว่าผมเอาแต่ใจก็ได้แต่เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถอะ เพราะผมจีบคุณแน่นอน คุณว่าที่เลดี้ :- )”

     

     

     

    Ended

     

    Scream and comment on #serendipitylm

     

    Talk จริง ๆ เรื่องนี้นะจะแต่งต่อและเสริมได้อีกเยอะ แต่ด้วยเวลาที่มีไม่มาก บวกกับงานรุมเร้าก็เลยมาสั้น ๆ กระชับได้ใจความแทนนะคะ แง เสียดายหน่อย ๆ ;; นี่เราไม่เคยลงฟิค 9 วัน 9เรื่องติดกันเลยค่ะ พลังแห่งฟิคโทเบิลและเดดไลน์ล้วน ๆ แหะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×