คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : #fictober ( 1 0 ) flower
#fictober2019
Drabble
fiction
Pairing
lucas & marklee
Rate
PG
Note
ต่อจากเรื่อง knight นะคะ
no.
10 (flower)
หลายวันต่อมา
มินฮยองก็ไม่ได้เจอไนท์คนนั้นอีกเลย
เพราะว่าอะไรน่ะหรอ?
ก็เพราะว่าเขาหลบหน้าลูคัสไงล่ะ!
ตอนแรกเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายคงพูดเล่น
ๆ หยอกเขาตามประสาคนที่ชอบแกล้งพวกเนิร์ด ๆ
ใส่แว่นและคิดว่าคงไม่ตามหาเขาหรอกเพราะว่าอีกฝ่ายเป็นถึงไนท์ยังไงก็ต้องยุ่งกว่าชาวบ้านทั่วไปอยู่แล้ว
ที่ไหนได้…
คนตัวสูงเล่นตามหาเขาเสียให้ควั่กจนเขาต้องหลบหน้าหลบตาทำตัวเหมือนวิญญาณล่องลอยอยู่ในโรงเรียนแบบนี้
แต่โชคดีหน่อยที่เขามันไร้ตัวตนอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ไปถามใครใครก็ไม่รู้จักหรอก นอกเสียจากเพื่อนร่วมห้องและจงเฉินเล่อ…
“มึง”
“หะ-หา อะไรของมึงเนี่ย ตกใจหมด”
“เวร
แค่เรียกเฉย ๆ ปะวะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
เฉินเล่อบอกก่อนจะเป็นฝ่ายถามเพื่อนเด็กเนิร์ดของตนเอง “แปลก
ๆ นะเราน่ะ ปกติไม่ใช่คนขี้ตกใจง่าย ระแวงอะไรขนาดนั้นนนน หรือว่า…”
“อะไร
ไม่มีอะไร เพ้อเจ้อนะมึงอะ ไปฟังใครเขามาอีก”
“ห้ะ อะไรของมึงเนี่ย
กูแค่จะแซวว่าหรือว่ามึงแอบทำเลคเชอร์สรุปข้อสอบเอาไว้เยอะจนคนอื่นต้องมาขอยืมหรอต่างหาก
ร้อนตัวอะไรเนี่ย”
“…”
เวรกรรมอะไรของเขาที่มีเพื่อนที่แสนจะใส่ใจคนอื่นอย่างเฉินเล่อด้วยนะ
นั่นไม่ใช่คำชม
แต่เป็นคำก่นด่าภายในใจของคนตัวเล็ก
“มีพิรุธนะมึงอะ” จงเฉินเล่อหรี่ตามองมินฮยองที่ทำเป็นเล่นโทรศัพท์ทั้ง ๆ
ที่ปกติเจ้าตัวแทบจะไม่หยิบออกมาเล่นให้เห็นเลยด้วยซ้ำ
“เซ้าซี้ว่ะเฉินเล่อ”
“โอเค๊” เฉินเล่อลากเสียงยาวก่อนจะลากเก้าอี้มาติดกับเก้าอี้ตัวที่คนตัวเล็กนั่ง “แต่นึกไงมานั่งที่ห้องซ้อมกับกูวะ”
นึกจะหนีไอ้ไนท์ตัวสูงไงวะ ไอ้เพื่อนบ้าถามซอกถามแซกจริง
ๆ
“ไม่ไง
ก็อยากเห็นมึงร้องเพลงบ้าง …”
มินฮยองเลือกเหตุผลที่ดีที่สุดออกมา
“ขอบใ-”
“จะได้จำเอาไว้ว่าปากเปราะ
ๆ ของมึงก็มีดีเหมือนกัน”
“สัด”
มินฮยองหัวเราะออกมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนืออีกคน
ส่วนเพื่อนคนจีนก็หันมาขย่ำคอเล็ก ๆ เพื่อนเพื่อระบายอารมณ์
ทั้งสองเล่นกันเกือบนาทีก่อนจะพากันเหนื่อยและเลิกเล่นไปเอง
แต่เฉินเล่อก็ยังคงไม่เลิกทำหน้าเข่นเขี้ยวเพื่อนอยู่ดี
“มาเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดี” มินฮยองยืดตัวไปบนเก้าอี้ “ดูมึงร้องเพลงก็สนุกไปอีกแบบ”
“แน่นอนเพราะกูเก่ง”
“ตามสบายเลย
แต่กูพูดจริงนะที่ว่าห้องซ้อมมึงสงบมาก”
“ก็แหงดิ
มีแต่พวกกูเนี่ยจะเอาอะไรมาวุ่นวายได้วะ ยิ่งห้องซ้อมแยกเป็นคนละห้องยิ่งมีสมาธิเลย”
เฉินเล่อยักไหล่
“ดีเลย
งั้นช่วงนี้กูมานั่งอ่านหนังสือกับมึงนะ”
“เนี่ย กูว่ามึงแปลก”
“เออหน่า”
“อย่าให้กูรู้นะมึงว่ามีความลับอะไร
ไม่งั้นกูจะขยี้มึงไม่หยุดเลย”
“เออ”
มินฮยองมองหน้าเฉินเล่อด้วยสีหน้าที่(พยายาม)ปกติที่สุดทั้ง
ๆ ที่ภายในใจนี่ตื่นเต้นแทบบ้าเพราะสายตาเล็ก ๆ ที่วันนี้ดูคมกริบเหมือนกับมีดของเฉินเล่อนั้นโคตรจะน่ากลัวสำหรับคนตัวเล็กเลย
แต่เพื่อนชาวจีนก็ไม่ได้อะไรเขาต่อพร้อมกับหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เจ้าตัวโม้ว่าไปยืนต่อแถวมา4ชั่วโมงขึ้นมาเล่นก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตื่นเต้น
“มึง
ๆ”
“ว่า”
“มีข่าวล่ามาแรงเกี่ยวกับลูคัสว่ะ”
ไม่จบไม่สิ้นสักทีวะ
ไอ้เรื่องที่เขาพยายามจะหนีเนี่ย
“แล้วไงวะ”
“อืม… เขาบอกว่า ช้ำรักครึ่งโรงเรียน!”
มินฮยองมุ่นคิ้วเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนสนิทของตนเริ่มจะอินกับข่าวกอซซิบของโรงเรียนซะเหลือเกิน
“ไอ้น้ำเสียงบีบ
ๆ ดัด ๆ แบบนั้นมันคืออะไรวะ”
“เอ๊ะ อย่าขัดได้ไหม อินเนอร์กำลังมา”
เพื่อนชาวจีนทำตาขวางใส่ก่อนจะพูดต่อ “ต่อนะ ตอนนี้ไนท์คนดังของสาว
ๆ กำลังฟอร์อินเลิฟกับเลดี้ปริศนา ไม่รู้ว่าเลดี้คนนั้นน่ารักขนาดไหน
ลูคัสถึงได้เดินไปมาซะทั่วโรงเรียนซะขนาดนี้…”
เดินหามากกว่าหรือเปล่าเหอะ
“ยิ่งเป็นเกรด 11 สุดหล่อของเรายิ่งเดินไม่หยุด!! ขอเดาว่าเลดี้คนนั้นเรียนอยู่ชั้นนั้นแน่ ๆ !!
ใครพบเบาะแสความรักกำลังก่อตัวระหว่างไนท์สุดหล่อและเลดี้คนใหม่
อินบ๊อกซ์มาได้ตลอด 24 ชั่วโมงจ้า จบ!”
“…”
“ไงมึง
ข่าวล่ามาแรงโคตรสุดยอดเลยปะ”
“เออ
อึ้งเลย”
“จริง”
“หมายถึงกูอะ อึ้งมึงมาก
อินอะไรขนาดนั้นอะ แล้วไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านทำไมเนี่ย”
มินฮยองทำหน้าสยองใส่เพื่อนพร้อมกับลูบขนแขนที่ตั้งชันด้วยความขนลุกในความขี้เม้าท์ของคนพวกนี้
“ต้องให้บอกอีกกี่ทีว่าเป็นคนดังแล้ว
ใคร ๆ ก็จับตามอง”
“เออ”
“ว่าแต่มึงเหอะ
ไม่เคยเจอรู้ลูคัสจริงดิ ดังมากเลยนะนั่น”
“ไม่อะ
ใครจะไปเจอวะ วัน ๆ กูก็อยู่แต่กับมึง อยู่ห้องสมุด แล้วมันจะเจอกันได้ยังไงวะ
อีกอย่างนะ กูอะ-”
“เนี่ยกูว่ามึงแปลก
ปกติจะต้องมาแบบ ‘ไร้สาระ’ คำเดียวจบ”
“…”
“หรือว่าที่มึงเลิ่กลั่กแบบนี้…”
“ไม่มึง”
“มึงเคยเจอเลดี้กับไนท์อยู่ด้วยกันสินะ
แล้วทำไมไม่บอกกูวะแม่ง กูพลาดไปตอนไหน ทำไมอะ
ทำไมพระเจ้าไม่ให้โอกาสกูได้รับรู้สิ่งดี ๆ ก่อนใครเพื่อน ทำไมต้องเป็นคนใบ้แบบมึง
ทำไม”
เวร ..
มินฮยองทำหน้างงที่อยู่ดีเพื่อนตัวเขาก็จับต้นชนปลายคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะ
แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีแล้วที่เขาจะรอดตัวเรื่องที่เพื่อนตัวดีนี้กำลังจับผิดอยู่
“เออ
เจอก็เจอวะ อย่าไปบอกใครล่ะ”
“เออ ๆ ไม่บอกใครทั้งนั้น” เฉินเล่อพยักหน้ารัว ๆ ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “ว่าแต่”
Knock Knock
เสียงเคาะประตูกระจกทำให้เพื่อนซี้ทั้งสองต้องหันไปมองพร้อมกัน
ก่อนทั้งคู่จะทำหน้าอึ้งออกมาเมื่อคนที่เคาะประตูนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่ทั้งคู่เพิ่งนินทากันไปเมื่อครู่นี้…
ใช่แล้ว ไนท์คนดังนั่นเอง
“มึง เขาจะมาปิดปากมึงหรอวะ” เฉินเล่อกระซิบเบา ๆ
ที่ข้างหูเพื่อนตัวเล็กที่กำลังทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่
“สัด”
“กูจะโดนร่างแห
ไปกับมึงด้วยปะวะ … เขายิ้มให้กูอะมึง…
กูต้องไปเปิดให้เขาใช่ปะวะ ทำไมกูเหมือนโดนกดดันด้วยรอยยิ้มวะ”
“มึงอย่าเปิด” มินฮยองแย้งทันทีเมื่ออีกคนจะเดินไปเปิดประตู
“แล้วให้กูทำยังไงอะ
ออกไปก็ไม่ได้ด้วยนะมึง”
“เออมึงเชื่อกูดิ
เขาอาจจะจำคนผิดปะ แบบ ๆ มาหาเพื่อนอะไรแบบนี้ ไม่ต้องสนใจหรอก”
“อ่า… เอางั้นหรอ หวังว่ากูคงไม่ตายนะ เม้าท์เรื่องไนท์ไปเยอะด้วย”
จุดนี้มินฮยองอยากจะขำเพื่อนตัวเองที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็ขำไม่ออกเพราะใครจะไปนึกว่าคนข้างนอกจะตามหาตัวเขาเจอไวขนาดนี้
ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งหนีมาอยู่ที่ห้องซ้อมนี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ
รู้งี้ ไปแอบที่ห้องสมุดยังดีกว่าอีก…
ว่าแล้วทั้งมินฮยองและเฉินเล่อต่างพากันเมินลูคัสพร้อมกับเปิดเสียงเพลงดัง
ๆ เพื่อกลบกลื่นความกลัวอีกฝ่ายเอาไว้
สำหรับเฉินเล่อน่ะกลัวลูคัสจะรู้เรื่องที่นินทา แต่สำหรับมินฮยองนั้น…กลัวโป๊ะแตกต่างหาก!
ติ๊ด..
ยังไม่ทันที่เพลงแรกจะจบ
เสียงปลดล็อกประตูก็ดังขึ้นทำให้เพื่อนซี้ทั้งสองหันไปทางประตูทันทีก็พบว่าลูคัสกำลังผลักประตูเข้ามาพร้อมกับถือไอดีการ์ดตัวเองเอาไว้ในมือ
ไม่ยักรู้ว่าไนท์จะมีสิทธิพิเศษเข้าได้ทุกห้องด้วย…
สองมาตรฐานไม่พอยังคุกคามความเป็นส่วนตัวอีก!!!
“…”
“…”
“ผมไม่ได้บุกรุกนะ” ลูคัสพูดอย่างยิ้ม ๆ “เมื่อกี้ก็เคาะแล้วแต่คุณไม่ยอมเปิดให้
ก็เลยต้องทำแบบนี้”
“ไหนมึงบอกว่าเขามาหาเพื่อนไงวะ” เฉินเล่อยืนกระซิบเสียงรอดไรฟัน
“…”
“หาตัวเจอจนได้นะครับมินฮยอง”
“…”
“กว่าจะหาเจอก็ใช้เวลานานเหมือนกัน
เพราะคนไม่ค่อยรู้จักคุณสักเท่าไหร่”
“ไหนมึงบอกว่าไม่รู้จักไนท์ไง”
เฉินเล่อส่งสายตาฟาดฟันมาให้เพื่อแว่นกลมที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้าง
ๆ ซึ่งลูคัสที่มองอยู่ก็ยกยิ้มอย่างชอบใจ ดวงตาเข้ม ๆ
นั่นประกายไปด้วยความเจ้าเล่ห์และแพรวพราวเสียจนมินฮยองนึกหมั่นไส้
“คุณบอกแบบนั้นกับเพื่อนคุณหรอ?”
“กะ-ก็ไม่รู้จักไง”
“จะไม่รู้จักได้ยังไงกันก็คุณน่ะ”
“ลูคัส!”
มินฮยองวิ่งมาตะครุบปากคนตัวสูงแทบจะทีที่อีกคนจะเผยอะไรต่อมิอะไรให้คนอื่นเข้าใจผิด
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลูคัสหยุดพูดได้ หนำซ้ำไนท์ตัวสูงยังชอบใจเสียอีกเมื่อตนนั้นได้อยู่ใกล้กับคนตัวแรกยิ่งกว่าตอนที่เจอกันในห้องสมุดเสียอีก
ใครจะไปคิดว่ามือเล็ก
ๆ ที่เขาคิดว่ามันน่ารักจะเข้ามาปิดปากเขากันล่ะ
กำไรเห็น
ๆ เลย แถมอีกคนยังน่ารักชะมัดเวลาที่ตื่นตูม…
ว่าแล้วคนลูคัสก็เอื้อมมือข้างที่ว่างไปโอบเอวเล็ก
ๆ ก่อนจะใช้อีกมือนึงดึงมือเล็กออกจากปากพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มให้อีกฝ่ายเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองพลาดท่าให้กับไนท์ที่แสนจะกวนประสาทคนนี้
“อันนี้ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนนะ”
“…”
“คุณว่าที่เลดี้ :-)”
“What!?”
เฉินเล่อตะโกนออกมาอย่างเสียงหลงขณะที่ยืนมองเพื่อนตัวเล็กกำลังพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดหนาของคนเป็นไนท์
นาทีนี้เฉินเล่อไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป
ทั้งเสียงร้องขอความช่วยเหลือของมินฮยองหรือเสียงหัวเราะทุ้ม ๆ ของลูคัส
สิ่งเดียวที่ได้ในตอนนี้ที่เฉินเล่อจะคิดได้ก็คือคำว่า
ได้ไงวะ! ต่างหาก
“ปล่อยเดี๋ยวนี้”
“ถ้าปล่อยคุณต้องไม่หนี”
“มะ-”
“ถ้าหนีผมจะประกาศว่าคุณเป็นเลดี้จริง ๆ ด้วย”
“…”
“อุตส่าห์ไม่ทำอะไรกระโตกกระตากเพราะคุณคงไม่ชอบเป็นที่สนใจ”
“…”
“น่ารักกับคุณขนาดนี้แล้ว จะไม่ยอมให้ผมจีบจริงๆ หรอ?”
“มะ-ไม่ได้”
“เฮ้อ แย่ชะมัด” ลูคัสแสร้งถอนหายใจเหนื่อยอ่อนก่อนจะหันไปพูดกับเฉินเล่อที่เริ่มจะตั้งสติได้แล้ว
“เพื่อนของคุณใจร้ายมาก ผมขอให้มาเป็นเลดี้เขาก็ไม่รับ
ผมขออนุญาตจีบก็ไม่ยอมอีก แบบนี้ผมต้องทำยังไง”
“กะ..ก็รวบหัวรวบหางมันไปเลยสิครับไนท์”
“ไอ้เล่อ!!”
“ไม่รู้แหละ แต่มึงกับกูมีเคลียร์กันยาวแน่”
เฉินเล่อทำหน้าเหมือนจะฆ่าจะแกงเพื่อนสนิทจนอีกคนถึงกับทำเจื่อน
“เออ”
“เตรียมคำตอบให้ดีนะมึง”
ว่าแล้วเฉินเล่อก็เดินออกไปจากห้องซ้อมเพื่อให้ลูคัสและมินฮยองได้คุยกัน
ถึงแม้ว่าตนเองอยากจะอยู่แค่ไหนก็ตามทีแต่เดี๋ยวค่อยไปเค้นจากเพื่อนเนิร์ดไม่จริงแทนก็ได้
และเมื่อภายในห้องมีเพียงแค่ลูคัสและมินฮยอง
ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
คนตัวเล็กกว่าเดินเลี่ยงไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิมที่เคยจับจองก่อนจะแสร้งทำเป็นหยิบหนังสือมาอ่าน
ส่วนลูคัสก็เดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็กพร้อมกับดูอากัปกิริยาที่เกร็งและไม่เป็นธรรมชาติของอีกคน
“ทำไมผมมาเจอคุณช้าเนอะ” ลูคัสบ่นออกมา
“ไม่เจอก็ดีแล้ว”
“ไม่ได้สิ คุณน่ารักขนาดนี้ผมจะไม่เจอได้ยังไง”
“…เพ้อเจ้อ”
“จะนับคำว่าเพ้อเจ้อเป็นการเขินของคุณนะครับ”
ไนท์คนดังยิ้มหวานให้กับคนที่นั่งอยู่ก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท
และเมื่อมินฮยองเห็นสิ่งนั้นชัด ๆ ก็ทำหน้าแปลกใจคนตรงหน้าเมื่อมันเป็นเพียงดอกเดซี่แห้ง
ๆ ไม่เหมาะกับลุคหนุ่มนักกีฬาที่คนอื่นต่างก็จดจำได้
“??” มินฮยองทำหน้าสงสัยเมื่อคนตัวสูงยืนมันให้เขา
“ผมเอามาให้”
“เอามาให้ทำไม”
“ก็จะจีบใครสักคน…ก็ต้องมีดอกไม้มาให้เขา”
“…”
“ถ้าเป็นดอกไม้สด คุณก็คงไม่ชอบ”
“…”
“ดอกไม้แห้งกิ่งเล็ก ๆ ที่สามารถสอดเอาไว้ในหนังสือได้เหมาะกับคุณมากกว่า”
“…”
“ว่าไหมครับ”
ลูคัสยกยิ้มหวานให้กับมินฮยองที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาแต่แววตากลมโตนั้นกลับระยิบระยับเหมือนดวงดาวยามที่มองเจ้าก้านเดซี่ในมือหนา
คนตัวเล็กแสดงสีหน้าลังเลก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมันในมือของลูคัส
และคนเป็นไนท์ก็ยิ้มออกมาเมื่ออีกคนครางรับในลำคอเบา ๆ
“อืม”
“ถ้าคุณรับดอกไม้ของผมแล้ว ผมจะคิดเอาเองนะว่าคุณยอมให้ผมจีบ”
“…”
“งั้นผมขอจีบนะครับคุณว่าที่เลดี้ :-)”
“…ถ้าคิดว่าจีบได้ก็ลองดู”
Ended
Scream
and comment on #serendipitylm
Talk จริง ๆ
จั่วไว้ว่าจะจบในตอนตลอดชาเล้นจ์ แต่เห็นว่ามันยังแต่งต่อได้.. บวกกับคิดพล็อตคาแรกเตอร์ใหม่ไม่ได้ก็เลยมีต่อจากตอนที่แล้วนะคะ y-y
แงมันแต่งได้อีกเยอะจริงๆ ด้วยยย (อยากแต่งต่อเลยแต่ขอดูก่อน
555) ส่วนวันพรุ่งนี้อาจจะขอลาสักหนึ่งวันเนอะ
แล้วจะมาทบยอดกับวันอื่น ๆ แทนนะคะ ;;
ความคิดเห็น