ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 ❁ ง้อ 100% ❁

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 62


    ตอนที่ 10
    love couple cute sleep romance CP


    กลางดึกคืนนั้น มีสองร่างนอนเหยียดอยู่ที่เตียงกว้าง หนึ่งคนนอนหันหลังส่วนอีกคนนอนมองแผ่นหลังกว้างด้วยดวงตาที่กังวล คุณชายตัวเล็กปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปโดยไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดต่อจากนั้น หลังจากท่านชายเห็นว่าน้องเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดสิ่งใด จึงเลี่ยงไปอาบน้ำก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง


    คุณแบมเองเมื่อเห็นดังนั้นก็ได้แต่เดินลงมานอนตามท่านชาย แต่อีกฝ่ายกลับไม่กอดตนอย่างเช่นทุกวัน แถมยังหันหน้าหนีอีกต่างหาก ภายใต้ความมืดสนิท จึงมีคนว้าวุ่นอยู่หนึ่งอัตรา


    จะทำยังไงดี จะทำยังไงดี


    คุณแบมไม่รู้ว่าท่านชายโกรธเรื่องอะไร เพราะความจริงแล้วตนไม่ได้หนีกลับมานอนที่วังภูวกัลป์โดยที่ไม่บอกกล่าวเพราะส่งข้อความไปบอกแถมมั่นใจว่าพี่ชายมาร์คกดอ่านแล้วด้วย แต่ทำไมคนตรงหน้าถึงได้ไม่พอใจอีก คิดไปคิดมาก็ชักไม่แน่ใจว่าใช่เรื่องนี้ไหม จะให้เดาเองก็เดาไม่ถูก แต่จะให้ถามก็ไม่กล้า เพราะไม่บ่อยเลยที่ต้องมาเจอกับโหมดนี้ของท่านชาย ถึงได้ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร


    หรือต้องทำแบบที่ชอบทำเวลาพี่ชายเนียร์กับพี่ชายแจนงอน


    คิดอยู่นานเพราะลังเล รวมถึงหัวใจดวงน้อยซึ่งเต้นแรงจนน่ากลัว ใบหน้าหวานเปลี่ยนสีเป็นเชอรี่ในความมืดเมื่อตระเตรียมวางแผนการเสร็จ


    เอาไงเอากัน!!


    หมับ!!


    แรงโอบรัดจากแขนเล็กสร้างเดตแอร์ขึ้นอย่างสงัด จากที่เงียบอยู่แล้วตอนนี้กลับเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ท่านชายนายเรือตกอยู่ในภวังค์เพราะไม่คิดว่าน้องจะเป็นฝ่ายทำเช่นนี้ก่อน ไม่แปลกเลยที่ใจแกร่งของท่านชายมกรธวัชจะสั่นรัวราวเสียงกลองตะโพน


    ใบหน้าหวานสวยซุกลงที่แผ่นหลังของสามี แก้มกลมใสแนบลงที่หลังพี่ราวกับออดอ้อนอย่างที่เคยทำกับพี่ชายทั้งสองของตนเอง คุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลติดนิสัยขี้อ้อนมาแต่กำเนิด จึงนึกวิธีง้อแบบอื่นไม่ได้ หวังก็แต่เพียงว่าท่านชายจะทรงใจอ่อนไวๆ


    “พี่ชายมาร์ค... หายโกรธคุณแบมเถอะ คุณแบมไม่ชอบเลยที่เราเป็นแบบนี้”


    เสียงอู้อี้ดังอยู่ด้านหลังสร้างรอยยิ้มประดับกว้างบนใบหน้าหล่อเหลาราวเทพจุติ หม่อมเจ้ามกรธวัชหมดสิ้นความน้อยใจ ควันสีครึ้มที่อยู่ในทรวงมลายหายสิ้นยามได้รับสัมผัสอบอุ่นนั้น ทรงไม่คิดว่าน้องจะง้อด้วยวิธีนี้ ทำไมคนเราถึงต้องน่ารักได้ขนาดนี้ด้วยนะ


    “...”


    แต่ขอแกล้งงอนต่ออีกสักหน่อย... เพราะอยากโดนกอดนานกว่านี้...


    “บอกคุณแบมได้ไหมว่าโกรธอะไรคุณแบม”


    “ความรู้สึกพี่คงไม่สำคัญอะไร จะโกรธไม่โกรธก็ช่างเถอะ... คุณแบมไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”


    ถึงแม้ปากจะตัดพ้อน้อยใจ แต่ใบหน้ากลับกลั้นยิ้มจนเกร็ง ในขณะที่เจ้าตัวจ้อยกลับจ๋อยลงจนน่าสงสาร ทำไมพี่ชายมาร์คต้องพูดแบบนี้ด้วยนะ มันทำให้คุณแบมรู้สึกผิดโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำเนี่ยว่าตัวเองผิดอะไร


    “อย่าพูดแบบนี้สิกระหม่อม...” น้ำเสียงเริ่มสั่นของคนตัวเล็กทำให้ใจแกร่งแกว่งไปในทันที เป็นอีกครั้งที่ท่านชายไม่อาจเอาชนะหรือแกล้งคนตัวเล็กได้อีก ท่านชายแพ้ราบคราบตั้งแต่เสียงจ๋อยนั่นยังพูดไม่จบประโยคด้วยซ้ำ


    ทรงกลัวเหลือเกิน... กลัวว่าน้องจะร้องไห้หากแกล้งนานกว่านี้


    เป็นดังนั้น ตอนนี้ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำนัยน์ตากลิ้งไปมาจนน่าสงสาร ด้วยเพราะเป็นคนร้องไห้ยากเวลาร้องไห้ทีย่อมน่าเห็นใจกว่าปกติ หากคนที่รักของคุณแบมมารู้เข้า ไม่วายที่ท่านชายคงจะถูกสายตาทิ่มแทงเป็นแน่แท้


    “เฮ้อ...”


    เสียงถอนหายใจให้ตัวเองดังขึ้น ก่อนที่ร่างหนาของท่านชายจะพลิกกลับไปดึงน้องมาไว้ในอ้อมกอด หากแต่การกระทำนั้นกลับสร้างความสะเทือนใจให้คุณชายตัวเล็กยิ่งขึ้น พี่ชายมาร์คระอาคุณแบมแล้วหรือ ไฉนถอนหายใจแบบนั้น ยิ่งคิดหัวใจดวงน้อยยิ่งเศร้าหมอง


    “เกลียดคุณแบมแล้วใช่ไหม” เสียงน้องเอ่ยถาม แม้ไม่ได้บ่งบอกว่าอีกคนกำลังร้องไห้ แต่ก็ไม่ต่างสักเท่าไหร่


    “พี่ไม่เคยเกลียดคุณแบม และจะไม่มีวันเกลียด”


    แทบไม่ต้องคิด ท่านชายมีคำตอบที่สัจจริงและเที่ยงตรง ไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในหัว เขานั่นหรือจะเกลียดคนในอ้อมแขน เป็นอย่างที่ตนพูดเขาไม่มีทางเกลียดคุณแบมได้ ไม่ใช่เพราะเชื้อพระวงศ์ห้ามผิดสัจจะ แต่มันเป็นความรู้สึกต้องห้ามสำหรับท่านชาย


    นอกจากรัก... คงไม่สามารถรู้สึกสิ่งอื่นได้


    “จริงๆ เหรอกระหม่อม” หัวทุยขยับเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเรียวคมของท่านชาย แม้ความมืดจะบดบัง แต่หาได้ทำให้ทั้งคู่มองไม่เห็นความนัยน์ของดวงตาของอีกฝ่าย ท่านชายแสดงให้เห็นแล้วว่า เขาคิดเช่นไร


    “คุณแบมต่างหาก... เบื่อพี่แล้วหรือยัง เบื่อไหมที่พี่งี่เง่า”


    “ไม่ คุณแบมไม่เคยเบื่อเลย”


    “...”


    “แต่คุณแบมแค่อยากรู้ โกรธอะไรคุณแบม บางเรื่องคุณแบมก็เผลอทำไปด้วยความไม่รู้ คุณแบมอยากให้พี่ชายมาร์คกล่าวเตือนไม่ใช่เมินกันแบบนี้ ความเงียบมันน่ากลัวนะกระหม่อม... คุณแบมไม่ชอบเลย” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นเผยความในใจออกมาทั้งหมด ด้วยเพราะเป็นคนซื่อตรง จึงอยากรู้ถึงความจริง เป็นท่านชายเองต่างหากที่ระอายใจเอง โตกว่าแถมเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำไมกลับมีความคิดเป็นเด็ก ผิดกับน้องอย่างนี้


    คุณแบมไม่ใช่คนที่มองยากอะไร น้องนั้นคิดสิ่งใดมักเผยออกมาให้เห็นเสมอ ต่างจากเขาที่ต้องซ่อนทุกอย่างไว้ในใต้ความน่าเกรงขาม ด้วยภาระหน้าที่แล้วยศนำหน้า มันปลูกฝังให้เขาชินต่อการเก็บกลั้นความรู้สึก แต่คนตรงหน้ากำลังเปลี่ยนท่านชายอย่างสิ้นเชิง


    “พี่ขอโทษนะคะ พี่งี่เง่าเอง พี่คิดว่าคุณแบมไม่สนใจกันแล้วเลยน้อยใจ” ในท่าสุดก็พูดออกไป ท่านชายรวบตัวน้องเข้ามากอดแน่นอีกครั้ง คราวนี้พระองค์ทรงซุกพระพักตร์เข้ากับหัวกลมของน้องราวกับคนกำลังมีความผิด ทำเอาคนถูกกอดถึงกับไปไม่เป็น


    หัวใจดวงน้อยกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง


    “นะ น้อยใจเหรอ... เพราะคุณแบมกลับมานอนที่วังภูวกุลใช่ไหม”


    “...”


    “พี่ชายมาร์ค”


    “ค่ะ นั่นส่วนหนึ่ง อีกเรื่องคือคุณแบมส่งแค่ข้อความมาบอกพี่”


    “แต่คุณแบมโทรไปแล้วพี่ชายมาร์คไม่รับ” ใช่ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมท่านชายถึงได้น้อยใจกับเรื่องนี้ ที่ส่งข้อความไปเพราะท่านชายไม่ว่างรับสาย หากไม่ทำเช่นนั้นจะให้ทำอย่างไรล่ะ เขางงไปหมดแล้ว ไม่เข้าใจความคิดของคนเป็นพี่เลย


    “พี่ขอโทษนะคะที่ทำตัวเป็นเด็กกับเรื่องแค่นี้ พี่เอาแต่ใจไปจนลืมคิดถึงเหตุผลของคุณแบม แค่เห็นว่าคุณแบมส่งมาแค่ข้อความเดียวมันก็ทำให้คิดว่าน้องไม่ใส่ใจ ทั้งที่คนผิดมันเป็นพี่ต่างหากที่รับสายคุณแบมไม่ได้”


    เมื่อตรองดูแล้ว คนที่ผิดที่สุดคือตนเอง ท่านชายยิ่งระอาใจเข้าไปใหญ่ เพราะมัวแต่น้อยใจน้องทำให้ละเลยเหตุผลอื่น หากย้อนไปเขาคิดถี่ถ้วนกว่านี้ น้องคงไม่ต้องรู้สึกไม่ดีเพราะเขา ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิด


    “ที่คุณแบมโทรไปสายเดียวเพราะเกรงใจกลัวพี่ชายมาร์คทำงานอยู่ ไม่ใช่คุณแบมละเลยนะกระหม่อม”


    “ค่ะ พี่รู้แล้ว พี่ขอโทษนะคะ”


    เขารู้แล้วว่าน้องเองก็ใส่ใจตน แค่คิดได้ดังนั้น หัวใจที่เคยเฉา บัดนี้คืนสีอีกครั้งแล้ว


    “อย่าเย็นชาใส่คุณแบมอีกได้ไหม... คุณแบมกลัว... กลัวพี่ชายมาร์คเกลียดคุณแบม”


    เป็นครั้งแรกที่เอ่ยเรื่องนี้ และคุณแบมหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พูด ถึงแม้จะอ่อนต่อโลก แต่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าตนเองกำลังคิดอะไรอยู่ คุณชายตัวเล็กรู้ตัวว่ากำลังรู้สึกสิ่งใดกับสามีทางนิตินัยของตน ความรู้สึกกลัวครั้งนี้มันเกิดขึ้นเพราะหัวใจเขาไม่สามารถรับได้


    หากคนที่ชอบ... จะเกลียดกัน 






    “เมืองวารีอย่างนั้นหรือ ทำไมคณะแพทย์ออกเดินสายบ่อยแบบนี้จัง” คุณชายจูเนียร์เอ่ยถามพลางยกกาน้ำชาทรงสวยรินชาอยู่ เช้าวันใหม่กับอาหารเช้าแสนอร่อยกำลังเริ่มต้นขึ้น


    แม้เป็นครั้งแรกสำหรับท่านชาย อาจมีความเคอะเขินบ้างแต่ไม่ใช่กับท่านชายสูงศักดิ์ แต่กับเป็นคุณชายตัวน้อยของวังภูวกุลเสียมากกว่าที่เงียบจนน่าสงสัย แต่พอหันไปมองที่ร่างน้อยของคุณแบมก็ได้คำตอบ ใบหน้าหวานกำลังขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด แม้จะทำเฉไฉด้วยการก้มงับพานาคอตต้าส้มอยู่ก็ตาม แม้ตอนนี้คนที่วังจะอยู่ไม่ครบเนื่องจากท่านพ่อกับหม่อมแม่ทั้งสามจะไปพักผ่อนที่แคว้นตะวันตก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหม่อมยายและพี่ชายทั้งสองอยู่ด้วย


    จะไม่ให้เขินได้ไง ทั้งสามคนเอาแต่มองแล้วยิ้มล้อคุณแบมเมื่อเห็นพี่ชายมาร์คเดินลงมาพร้อมกันยามอาหารเช้า


    “พึ่งครั้งแรกครับพี่ชายเนียร์ ครั้งที่แล้วคุณไปกับชมรม” คุณแบมเอ่ยตอบพี่ชาย


    “อย่างนั้นเหรอ แต่ครั้งนี้ไปไกลจัง”


    สำหรับพี่ชายที่รักน้องยิ่งกว่าไข่ในหินเยี่ยงชายเนียร์แล้ว เป็นธรรมดาที่จะอดห่วงไม่ได้ เมื่อน้องชายของตนจะไปพักค้างแรมที่อื่นแถมเป็นเมืองใต้สุดของแคว้นอีกต่างหาก จะกินนอนเป็นอยู่อย่างไร


    “อย่าเป็นห่วงเลยพี่ชายเนียร์ คุณแบมโตแล้วนะ” เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายใหญ่แสดงถึงความกังวล พี่ชายรองจึงต้องออกตัวให้เพื่อคลายความกังวล


    “ใช่ครับพี่ชายเนียร์ ไม่ต้องห่วงคุณแบมน้า” หัวทุยซบลงที่แขนเล็กของพี่ชายอย่างอดอ้อน เรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนบนโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นดังขึ้นมือสวยจึงเอื้อมไปลูบศีรษะน้องระคนเอ็นดู


    “เราก็อย่าซนมานะคุณแบม ไกลบ้านแบบนั้นด้วย”


    “รับทราบ!


    บรรยากาศของมื้อเช้าเต็มไปด้วยความอบอุ่นหัวใจ ท่านชายมาร์คนึกเอ็นดูการเลี้ยงดูบุตรของวังภูวกุล คุณชายทั้งสามคนรักและห่วงหากันอย่างมากแม้จะไม่ได้เกิดร่วมท้องกันก็ตาม พระองค์โชคดีเหลือเกินที่เด็จพ่อมีเพื่อนสนิทเป็นท่านชายภาษกร พระองค์ทรงคิดไม่ออกเลยว่าหากภรรยาของตนไม่ใช่คุณชายแห่งวังภูวกุล บัดนี้จะได้แย้มสรวลไหม


    “วันนี้ไม่ต้องเฝ้ายายแล้วนะชายเนียร์ หยุดงานบ่อยๆ มันจะไม่ดีนะลูก” เสียงแหบของหญิงชราหนึ่งเดียวเอ่ยขึ้น หม่อมหลวงพิสมัยเอ่ยกับหลานชายคนโตของตน ชายเนียร์ไม่ยอมเข้าบริษัทเลยตั้งแต่เมื่อวาน ถึงแม้จะเป็นผู้บริหาร แต่หยุดบ่อยๆ ก็อาจถูกมองไม่ดี


    “แต่หม่อมยายพึ่งอาการดีขึ้นนะครับ ให้เนียร์อยู่ดูแลสักวันเถอะนะหม่อมยาย”


    ยายดีขึ้นแล้วลูก อีกอย่างนมจันทร์ก็อยู่ด้วย”


    “จริงครับพี่ชายเนียร์ เดี๋ยววันนี้คุณแบมอยู่เป็นเพื่อนหม่อมยายเอง” น้องน้อยเอ่ยเสนอตัว แต่ก็ต้องถูกชายแจนขัดเสียก่อน


    “เราไม่มีเรียนหรือว่าที่คุณหมอจะมาเฝ้าหม่อมยายน่ะ”


    “หงึ...” แน่ล่ะว่าย่อมมี พองแก้มอมลมจนแก้มจะระเบิดขนาดนั้น ท่านชายมาร์คยกกาแฟดำขึ้นมาจิบแล้วยิ้มเอ็นดูอย่างเงียบๆ


    “ไม่ต้องห่วงยาย กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเสีย” หม่อมยายเอ่ยเสียงเข้ม ซึ่งนั่นคงเป็นคำประกาศิตแล้วสำหรับคุณชายทั้งสามคน หม่อมยายเป็นคนเจ้าระเบียบและสอนหลานๆ เสมอให้มีความรับผิดชอบ เมื่อหม่อมยายกล่าวเยี่ยงนั้นคงขัดอะไรไม่ได้อีก

     



    บริษัทในเครือภูวกุลคือโรงแรมและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ คุณชายจูเนียร์เป็นรองประธานบริษัท ส่วนท่านประธานยังคงเป็นท่านชายภาษกร แต่ใครก็ต่างรู้กันว่าอีกไม่นานคงวางมือให้ลูกชายบริหารต่อ แต่ด้วยความสามารถของคุณชายจูเนียร์ที่รอบรู้และมากความสามารถ จึงไม่มีผู้ใดครหาได้ แม้จะอายุน้อยแต่กลับทำงานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง


    ร่างบางภายใต้ชุดภูมิฐานเดินสง่าเข้าห้องทำงาน วันนี้มีประชุดคณะผู้บริหารของบริษัท เนื่องจากมีโครงการใหญ่เข้ามา นี่เป็นอีกเหตุผลที่หม่อมยายอยากให้คุณชายเข้าบริษัท เนื่องจากการประชุมครั้งนี้ค่อนข้างมีผลประโยชน์มากเลยทีเดียว


    “เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคุณริสา” เสียงหวานเอ่ยถามเลขาประจำตัว หญิงสาวรูปร่างสมส่วนใบหน้าสะสวยยืนรอเจ้านายอยู่หน้าห้องประชุมด้วยท่าทางนอบน้อม ยื่นแฟ้มให้ท่านรองก่อนจะตอบอย่างฉะฉาน


    “เรียบร้อยแล้วค่ะท่านรอง บริษัท K.I.T มากันพร้อมแล้วค่ะ”


    “หืม? อย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นเข้าไปกันเถอะ” คุณชายเอ่ยขึ้น แม้จะสงสัยว่าทำไมทางนั้นถึงได้มาก่อนเวลาเร็วขนาดนี้


    บริษัทเคไอทีคือเครือบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรวมถึงยังเป็นเจ้าของสายการบิน K แอร์ไลน์ วันนี้เป็นการคุยร่วมธุรกิจร่วมกันครั้งแรกของทั้งสองบริษัท การได้ร่วมธุรกิจกับบริษัทใหญ่แบบนั้นมีมูลค่ามาก เขาต้องทำออกมาให้ดีที่สุด


    แต่เมื่อประตูห้องประชุมเปิดออกได้พบสบตากับดวงตาเรียวคมคู่เย็นชา ร่างทั้งร่างก็ชะงักนิ่งราวกับถูกต้องมนต์ ร่างสูงกำยำในชุดแปลกตา สูทสีทมิฬขับออร่าความสง่าชวนเหลียวมอง ท่านรองของ P กรุ๊ปเริ่มเสียความมั่นใจทันทีที่สบเขากับนัยน์ตาคู่นั้น คุณชายนายเรืออากาศเอกแต่เดิมทีสวมเพียงชุดปฏิบัติการสีเขียวเข้ม และสถานที่ที่เจอมีเพียงร้านเบเกอรี่ของหม่อมแม่เท่านั้น...


    ไม่คิดเลยว่าจะได้มาพบกันในวันนี้ ในฐานะหุ้นส่วนคนสำคัญ


    “...หึ”


    รอยยิ้มมุมปากเผยออกมาเพียงชั่วครู่ คุณชายเจบีเตรียมตัวไว้แล้วว่าต้องพบเจอกับผู้ใด แล้วภาพตรงหน้าก็ไม่ต่างจากที่คิดสักเท่าไหร่ คุณชายคนนี้มีปฏิกิริยาให้เขาได้สนใจได้เสมอ... คิดไม่ผิดจริงๆ ที่มาคุยงานแทนท่านพ่อ


    ใช่แล้ว บริษัทเคไอทีคือบริษัทของเครือตระกูลกิตติธนากุลโดยมีบิดาของเขาเป็นผู้บริหาร ถึงแม้ตนจะเป็นคุณชายใหญ่ของวังกิตติธนากุลแต่ก็ท่านพ่อและท่านแม่กลับไม่ได้บังคับให้ทำงานในทางที่ไม่ชอบ คนรักอิสระอย่างหม่อมราชวงศ์จารุกิตติ์คงไม่ยอมขึ้นนั่งประธานบริษัทแทนบิดาแน่นอน เพราะฉะนั้นหน้าที่นี้เลยตกเป็นของคุณชายรองของวังแทน


    “ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งนะคะ วันนี้ท่านประธานกันท่านรองติดธุระเฉพาะกิจที่กรุงโรมจึงส่งคุณชายจารุกิตติ์มาแทน แต่ไม่มีปัญหาต่อการเจรจาแน่นอนค่ะ” เลขาของท่านประธานเคไอทีแจงด้วยความสุภาพ เมื่อเห็นผู้บริหารระดับสูงของพีกรุ๊ป


    ถึงแม้คุณชายเจบีจะไม่ได้มีตำแหน่งในบริษัทอย่างชัดเจน หากแต่ก็รู้กันดีว่าคุณชายนายทหารทำงานเป็นที่ปรึกษาจำเป็นในบางครั้ง เพราะความฉลาดหลักแหลม หลายคนต่างเสียดายความสามารถในการบริหารของคุณชายคนนี้ หากไม่เลือกความฝันมากกว่าความสามารถ บริษัทเคไอทีคงรุ่งเรืองภายใต้การบริหารของเขาอย่างแน่นอน


    แต่งานเอกสารไม่ได้เหมาะกับคนรักอิสระอย่างเขานักหรอก อยู่ช่วยในยามจำเป็นดีกว่า


    “อะ เอ่อ... ครับ ต้องขออภัยที่ให้รอ” คุณชายจูเนียร์กล่าวขึ้น ร่างบางพยายามหลบสายตาคมไปมองคุณเลขาคนสวยแทน ไม่รู้ทำไมตนต้องรู้สึกไม่เป็นตัวเองทุกครั้งเมื่อเจอคุณชายเจบี โดยเฉพาะหัวใจที่มักเต้นแรงแบบนี้


    “ทางเราต่างหากที่มาเร็วเกินไป” สุรเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ ยิ่งทำให้คนตัวเล็กกว่าประหม่า


    แค่เขาคุยด้วย ทำไมต้องเป็นถึงขนาดนี้นะเรา... ได้แต่ต่อว่าตัวเองในใจ


    “เพราะยังไม่ถึงกำหนด ผู้บริหารคนอื่นๆ เลยยังมาไม่ครบ ระหว่างรอรับของว่างก่อนนะครับ”


    ท่านรองเอ่ยอย่างเป็นทางการ คุณชายจูเนียร์พยายามเป็นมืออาชีพโดยไม่เอาความรู้สึกภายในใจแสดงออกมาให้งานเสีย และมันก็เป็นไปในทางที่ดี เพราะบุคลิกสุภาพเรียบร้อยนั่น เรียกความพอใจให้ที่ปรึกษาเคไอทีเป็นอย่างมาก


    ไม่ใช่สิ... เป็นความพอใจส่วนตัวอยู่แล้วต่างหาก


    ทุกอากัปกิริยาของร่างบางอยู่ในสายตาคมตลอด คุณชายเจบีนึกแปลกใจและประทับใจไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าคนขี้อายในสายตาเขายามปกติที่พบกันในร้านเบเกอรี่จะกลายเป็นท่านรองประธานได้อย่างดีเยี่ยม คุณชายจูเนียร์มีความตั้งใจในการทำงาน บริษัทพีกรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่และมีประสิทธิภาพ ยิ่งเห็นการทำงานของท่านรองในวันนี้ เขาไม่แปลกใจเลยหากมันจะรุ่งเรืองได้ด้วยมือของคนตรงหน้า


    ไม่นานการประชุมก็เริ่มขึ้น โครงการนำเที่ยวภายใต้ทัวร์จากบริษัทเคไอทีจำเป็นอย่างมากที่ต้องติดต่อกับโรงแรม เป็นครั้งแรกที่ทำร่วมกับพีกรุ๊ปด้วยและครั้งนี้เป็นโครงการใหม่สำหรับการจัดทัวร์ภายในประเทศครบภูมิภาคในแคว้น เหนือ ใต้ ออก ตก  จำเป็นอย่างมากที่ต้องร่วมกับโรงแรมที่มีอยู่ทุกที่ในแคว้น ซึ่งพีกรุ๊ปอยู่ในตัวเลือก และคงได้ร่วมงานกันอย่างแน่นอน


    ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปของการประชุม


    “ขอบคุณมากนะครับที่ร่วมทำโครงการกับพีกรุ๊ป ทางเราจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นปิดท้าย ก่อนจะยื่นมือมาให้ตนจับอย่างเป็นมารยาททางสังคม


    มือหนายื่นจับที่ฝ่ามือนุ่มอย่างเชื่องช้า สัมผัสครั้งแรกทำให้หัวใจสองดวงเต้นในจังหวะเดียวกัน ถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่ามันเป็นเพียงมารยาทพื้นฐานเท่านั้น แต่คุณชายจูเนียร์กดอดไม่ได้ที่จะประหม่า ไม่ต่างคุณชายนายเรืออากาศ เพียงได้สัมผัสก็ไม่อยากปล่อยมือนั้นอีกเลย...


    หัวใจทั้งสองดวงกำลังนำพาโลกทั้งสองโลกให้บรรจบเป็นโลกเดียวกัน...



    รูปภาพที่เกี่ยวข้องรูปภาพที่เกี่ยวข้อง



     LOADING.... 100%

    1/12/62
    ต่อเนื่องกันไป ตอนนี้คือไม่ได้เช็คคำผิดเลยแม้แต่ตัวเดียว ไว้แต่งจบแล้วจะมารีไรท์ใหม่อีกครั้งนะคะ 
    ด้วยเพราะห่างไปนานถึงสองปี เนื้อหาเลยค่อนข้างใช้ความสามารถในการต่อเรื่องให้ราบรื่น แต่พยายามจะไม่ให้หลุดนอกกรอบมาก ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ 


    29/11/62

    ขอโทษนะคะอัพช้า เริ่มฝึกงานแล้วเลยค่อนข้างยุ่งมากๆ ถ้ามีเวลาจะกลับมาอัพต่อนะ 
    ไม่ทอดทิ้งนิยายเรื่องนี้แน่นอนค่ะ แล้วจะเริ่มแทรกเรื่องของพี่ชายทั้งสองคนของคุณแบมแล้วนะคะ

    ปล. ยังไม่เช็กคำผิดนะคะ เนื้อหาดิบๆ เลยค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×