ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11 ❁ คนสนิท 100% ❁

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.1K
      697
      10 ธ.ค. 62

    ตอนที่ 11


    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ coffee espresso"


    “เลิกกี่โมงคะวันนี้ พี่จะได้มารับ”


    เสียงทุ้มทรงเสน่ห์ของท่านชายดังขึ้นภายในรถยนต์คันเก่งส่วนพระองค์ ภายในรถมีร่างน้อยของภรรยาตัวเล็กของตนอยู่ด้วย ใบหน้าสวยครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก่อนจะหันมาตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก


    “คุณแบมไม่แน่ใจ อาจมีประชุมเกี่ยวกับค่ายต่อด้วย” น้องเอ่ย เรื่องค่ายอาสาเขาได้คุยกับพี่ชายมาร์คส่วนตัวแล้ว ก็แปลกใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ทักถามอะไรมากทั้งที่ความจริงควรจะถามนั่นถามนี่แล้ว


    “ถ้าอย่างนั้นสักห้าโมงเย็นพี่มารอนะคะ”


    “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ชายมาร์ค คุณแบมกลัวจะรอนาน” เมื่อเห็นสีหน้าเกรงใจของน้อง คนเป็นพี่ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือเข้าไปลูบผมนุ่ม


    “ไม่เป็นไรเหมือนกันค่ะ พี่ว่าง พี่อยากมารอ”


    “กะ ก็ได้... คุณแบมไปก่อนนะ ไว้เจอกันกระหม่อม”


    “ค่ะ”


    ท่านชายเอ่ยก่อนจะปล่อยให้น้องเดินลงจากรถไป ถึงแม้ความจริงจะไม่อยากปล่อยให้น้องไปด้วยซ้ำ ยิ่งตอนที่คุณแบมกำลังกลายเป็นลูกเชอรี่สีแดงสดแบบนี้ด้วย ถึงแม้จะเป็นภาพที่เห็นจะบ่อยแล้ว คุณแบมมักจะเขินหรือประหม่าทุกครั้งที่เขาแสดงความใส่ใจ แม้จะเรื่องเล็กน้อย แต่มันกลับเป็นความน่ารักที่ไม่ต้องปรุงแต่งเลยของอีกคน ใครจะว่าเขาหลงเมียเด็กก็เถอะ ไม่ปฏิเสธหรอกเพราะหลงจริงๆ


    ท่านชายนายเรือนั่งมองน้องจนลับสายตา รถส่วนพระองค์ก็เคลื่อนไปจอดที่ร้านคอฟฟี่ช็อปติดกับคณะแพทย์ ด้วยเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของตน แถมตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้ว เขาไม่อยากเทียวไปเทียวมาให้เสียเวลา เลยตัดสินใจว่าจะนั่งรอคุณแบมที่ร้านนี้


    ขายาวก้าวเข้ามายังในร้านอย่างองค์อาจ เรียกสายตาคนมองได้แทบทุกสายตา ด้วยเพราะติดคณะแพทย์ ส่วนใหญ่จึงมีแต่แพทย์และนักศึกษาแพทย์เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นบรรดาแพทย์ก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป เมื่อได้พบเจอคนที่มีชื่อเสียงก็ย่อมสนใจ


    “รับอะไรดีคะ”


    “เอสเปรสโซ่ครับ/เอสเปรสโซ่ค่ะ”


    สองเสียงซ้อนทับกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองคนที่ยืนข้างกาย จึงพบว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่พูดออกไปพร้อมอีกฝ่าย เพราะรายนั้นส่งยิ้มหวานรออยู่แล้ว


    ร่างบางเจ้าของชุดกาวน์สีขาวที่ถูกสวมทับเดรสสั้นสีดำด้านใน ที่เห็นเพราะเจ้าหล่อนไม่ได้ติดกระดุมเสื้อกาวน์แต่อย่างใด ใบหน้าสะสวยของหม่อมเจ้าหญิงโชอาไม่ว่าใครมองก็ล้วนตกหลุมพรางทั้งนั้น เว้นเสียแต่เขาเท่านั้นแหละ...


    ก็รู้ใส้รู้พุงกันเกือบยี่สิบปี


    “มาหากาแฟดื่มไกลเหมือนกันนะท่านชายมาร์ค” ริมฝีปากสีแดงสดขยับกล่าวทักก่อน ถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่ภายใจแล้วว่าถ้าเห็นคนตรงหน้าบริเวณนี้ มันหนีไม่พ้นเหตุผลเดียว


    คิดถึงเจ้าของแก้มอูมๆ นั่นแล้วอยากจะหยิกสักที


    “รู้อยู่แล้วยังจะถามอีกเหรอท่านหญิง” หม่อมเจ้ามกรธวัชเอ่ยตอบเสียงเรียบ น้ำเสียงทุ้มเย็นชาเป็นเสียงปกติของพระองค์ ไม่ใช่ว่ากำลังโกรธหรือเกลียดอะไรคนตรงหน้าหรอก แต่ด้วยลักษณะนิสัยแต่เดิมทีตนไม่ใช่คนอบอุ่นเหมือนตอนอยู่กับคุณแบม ออกจะไม่ค่อยพูดเหมือนเจบีเสียมากกว่า ซึ่งคุณแบมเป็นคนเดียวที่ได้รับอภิสิทธิ์นี้


    “เอสเปรสโซ่ได้แล้วค่ะ” เสียงของพนักงานเอ่ยแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่ละสายตาจากกันและกัน และเป็นท่านหญิงโชอาที่กล่าวก่อน


    “ทั้งสองแก้วคิดเงินที่ท่านนี้เลยนะคะ” พูดจบ ก็เดินไปนั่งตรงโซนที่จัดให้นั่งของร้าน โดยไม่สนใจคนที่ถูกโบ้ยให้จ่ายเงินให้ว่าเต็มใจไหม


    ท่านชายมาร์คถอนหายใจอย่างระอาให้ท่านหญิงผู้นั้น ไม่ว่าจะกี่ปีกี่ปีก็เหมือนเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หนักใจสักเท่าไหร่ หยิบบัตรเครดิตการ์ดสีดำออกมาจ่ายเงินค่าเอสเปรสโซ่ทั้งสองแก้วก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับหม่อมแพทย์หญิงคนนั้นเนื่องจากรู้อีกแหละว่าถึงแยกโต๊ะนั่ง อีกฝ่ายได้โวยวายจนร้านกาแฟแตกแน่


    เขารำคาญเสียงนั่นยิ่งกว่าอะไรดี ขอเลือกเจอเป็นอย่างสุดท้ายในชีวิตเลยล่ะ


    หม่อมเจ้าหญิงโชอาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเฟียส ทั้งที่เป็นถึงแพทย์หญิงแต่ก็ไม่ได้มีบุคลิกเหมือนแพทย์เท่าไป หลายคนต่างพูดว่าทรงควรไปทำงานด้านดีไซน์เนอร์เสียมากกว่า แต่ใครจะไปเข้าใจอารมณ์ติสของท่านหญิงล่ะ แม้แต่ท่านชายมาร์คที่เป็นสหายสนิทด้วยเพราะที่บ้านพบปะกันบ่อยและเรียนด้วยกันตอนเด็กๆ ยังไม่เข้าใจเลยว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงคนนี้คิดอะไร


    “นี่มานั่งรอน้องแก้มบวมล่ะสิ” ท่านหญิงเอ่ยถาม เมื่อร่างสูงของนายทหารอากาศนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามตน


    “อืม” ท่านชายตอบด้วยคำสั้นๆ โดยไม่เอะใจสรรพนามแทนคุณแบมของอีกฝ่าย เพราะตนก็เห็นด้วย แก้มบวมควรเป็นชื่อของคุณแบม เมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนไม่ได้ทำท่าจะพูดต่อจึงก้มหยิบนิตยาสารการเมืองขึ้นมาอ่าน ทำให้หญิงสาวเบะปากกับความคุณลุงของคนตรงหน้าเสียประดา


    “ทำตัวเป็นคุณพ่อรอรับลูกที่พึ่งเข้าโรงเรียนไปได้” ว่าแล้วก็อดแขวะไม่ได้


    “ไม่อิจฉาสิ” ท่านชายตอบกลับพลางยิ้มมุมปาก จนคนมองหมั่นไส้ในความอวดของอีกฝ่ายเสียจนอยากจะข่วนแขนสักที


    “เฮอะ ทำเป็นพูดดีไปเถอะ ถ้าโดนคุณชายคุณแย่งไปอย่ามาร้องไห้ซบอกเดี้ยนนะคะ”


    “...”


    เมื่อชื่อของบุคคลที่สามถูกล่าวมา คิ้วเข้าจึงขมวดชนกันราวกับตั้งค่าไว้ ท่านหญิงแอบเหลือบมองใบหน้าของเพื่อนตนก็ได้แต่ยิ้มกระหยิ่ม รู้ดีว่าท่านชายมาร์คค่อนข้างเป็นโรคหวงของ รักษายังไงก็ไม่เคยหาย ยิ่งเป็นของรักแล้วด้วย คงได้มีเลือดสาดกันไปข้าง


    จากวันงานเลี้ยงวันนั้น วันที่เธอได้พบกับหนูน้อยแก้มบวม ว่าที่เจ้าสาวของท่านชายมาร์ค ซึ่งปัจจุบันตบแต่งกันเสียใหญ่โตแล้ว มีอีกหนึ่งคนที่เธอได้พบคือพี่ชายคุณ ศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลและตอนนี้ยังผันตัวเป็นศาสตราจารย์หลังกลับจากเรียนต่อด้วย ได้ข่าวว่าโดนทาบทามให้สอนพวกปีหนึ่งในวิชาแพทย์พื้นฐานแทนศาสตราจารย์ราณีที่ลาคลอดด้วย...


    หึ... เหมือนจะยังไม่รู้ล่ะสิพ่อทหารคนเก่ง


    “เห็นแก่ความเป็นเพื่อนเราจะบอกให้เรื่องหนึ่งนะท่านชาย วงการแพทย์มันแคบมากนะคะคุณ อย่าชะล่าใจไป”



    “ไร้สาระน่า” ท่านชายพยายามทำเป็นไม่ใส่ใจ ทั้งที่ความจริงข้างในร้อนรุ่มตามเจตนาปลุกปั่นของหญิงสาว


    “คิดงั้นก็คิดไปสิ ค่ายอาสาครั้งนี้คุณชายคุณเป็นคนดูแลเองด้วยนะอย่าหาว่าไม่บอก”


    “...”


    “วันนี้ก็ทำเหมือนสนใจน้องแก้มบวมซะด้วย ไปตั้งหลายวัน โอ้ย! ไม่อยากจะคิด” ท่านหญิงพยายามเล่นใหญ่เพื่อแกล้งเจ้าคนทึ่มที่พยายามทำซึนอยู่ และมันก็ได้ผล ถึงแม้เธอจะรู้ว่าคนตรงหน้านี้ก็ไปด้วย เพราะได้เห็นรายชื่อของกัปตันบินแล้วก็ตาม แต่มันก็อยากจะแกล้งอยู่อ่ะนะ เจ้าคนเย็นชาอย่างหม่อมเจ้ามกรธวัชน่ะ หาช่วงหลุดๆ แบบนี้ยากจะตายไป


    ต้องขอโทษนะคะคุณชายคุณ น้องแค่ยืมชื่อมาออกงานแค่นั้นเอง 



    ----




    และในขณะนั้นเอง ทั้งสองคนไม่ได้สังเกตรอบข้างเลยว่ากำลังสนใจตนทั้งคู่ ภาพของสองชายหญิงนั่งดื่มกาแฟด้วยกันสร้างความสนใจให้กับคนในร้านคอฟฟี่ช็อป ด้วยเพราะหนึ่งคนนั้นคือคุณหมอสุดสวยคนดังของโรงพยาบาลส่วนอีกคนเป็นถึงหม่อมเจ้ามกรธวัช เรืออากาศเอกของกองทัพอากาศ ท่านหญิงและท่านชายผู้เกิดมาด้วยความเพียบพร้อมจนน่าอิจฉา มองแล้วช่างเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก 


    และมันก็ไม่แปลกอะไรที่จะมีภาพของทั้งคู่ลงในโซเชียลสำหรับกลุ่มของพวกช่างเม้าส์


    ขณะเดียวกันที่ห้องแลปของนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่ง ร่างเล็กของคุณชายหมอกำลังสาละวนกับการรอผลแลปที่กำลังทดลองอยู่ ตนได้จับคู่กับเพื่อนสนิทตัวโย่ง และเจ้าตัวไม่ได้สังเกตเสียงซุบซิบรอบตัวเลยแม้แต่น้อย ต่างจากหม่อมหลวงคิมที่ลอบสังเกตมาสักพักแล้วว่าตอนนี้ห้องแลปกำลังเปลี่ยนไป พวกนักศึกษาแพทย์หญิงหลายๆ คนเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างน่าฉงน คงด้วยเพราะตอนนี้เป็นช่วงรอผลแลปอยู่จึงสามารถเดินไปมาหาสู่กันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจหรอกถ้าคนพวกนั้นไม่พากันแอบมองเพื่อนตัวเล็กของเขาแบบนั้น ดูก็รู้ว่าหัวข้อการสนทนาคือใคร


    “คุณแบมๆ ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ” ร่างบางในชุดกาวน์สีขาวเช่นเดียวกับเจ้าของชื่อที่ถูกขานเดินเข้ามาใกล้เจ้าของร่างเล็กของคุณชายหมอขวัญใจชาวคณะ คุณแบมเงยหน้าขึ้นมองแล้วฉีกยิ้มกว้างให้เมื่อพบว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงสองคนในรุ่นชื่อหนิงและแพน


    หม่อมหลวงคิมมองเพื่อนสนิทก็ได้แต่ถอนหายใจ ซื่อเสมอต้นเสมอปลาย พวกนี้เม้าส์เรื่องตัวเองก่อนหน้ายังไม่รู้ตัวอีกนะคุณแบม เล่นเดินเข้ามาหาโต้งๆ แบบนี้ไม่ได้มีเจตนาดีแน่นอน


    “ว่าไงแพน” ร่างเล็กเอ่ยขึ้น เมื่อไม่เห็นว่าทั้งคู่จะพูดอะไรต่อสักที แถมยังทำท่าลังเลกันอีกด้วย


    “อะ เอ่อ... เราไม่อยากเสียมารยาทเท่าไหร่หรอกนะ แต่คุณแบมได้เช็คในกลุ่มของรุ่นหรือเปล่า...” เป็นหนิงที่ตอบหลังจากที่ถกเถียงกับเพื่อนสาวที่มาด้วยกันว่าใครจะเป็นคนพูด


    คุณแบมเอียงหัวอย่างสงสัย ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนสนิทตัวสูงซึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คก่อนแล้วตั้งแต่หนิงเอ่ยจบ


    คิ้วเข้มของหม่อมหลวงคิมขมวดชนกันราวกับว่าเรื่องให้ปวดหัว ความสงสัยในการเปลี่ยนแปลงต่อปฏิกิริยาของคิมทำให้ร่างเล็กจำต้องเอี้ยวตัวไปดูบางอย่างในโทรศัพท์เพื่อนเพราะมันต้องมีอะไรแน่นอน ไม่อย่างนั้นหนิงกับแพนคงไม่มาถาม และด้วยเพราะส่วนใหญ่ในระหว่างเรียน นักศึกษาแพทย์ดีเด่นอย่างคุณแบมนั้นไม่ค่อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นหรอก จึงไม่รู้ข่าวสารอะไรของคณะสักเท่าไหร่ จะรู้ก็ต่อเมื่อไม่มีเรียนแล้วเท่านั้น


    ดูเหมือนจะเป็นการพูดคุยของนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งเซคสอง ด้วยเพราะทางคณะรับนักศึกษาแพทย์มาค่อนข้างมาก จึงแบ่งออกเป็นสองเซค ดูเหมือนเซคสองจะไม่มีเรียนช่วงนี้สินะ

     

    วันนี้ไปร้านคอฟฟี่ช็อปพี่กี้มา เจอท่านชายมาร์คกับท่านหญิงโชอานั่งอยู่ด้วยกันอ่ะแก'

    เห็นเหมือนกัน นี่ไงๆ

    // แนบรูป

    เหมาะสมกันจังอ่ะ

     

    ดวงตากลมโตไหวสั่นเมื่ออ่านข้อความแชทนั้น ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อสบเข้ากับรูปภาพนั้น คนในรู้คือพี่ชายมาร์คแน่นอน ส่วนอีกคนก็คือผู้หญิงคนเดิมที่พบในงานเลี้ยงวันนั้น เป็นคนเดียวกับคนที่ทำให้คุณแบมรู้สึกคันหยุบหยิบที่หัวใจ


    แต่ดูเหมือนหลังจากที่แชทบรรทัดนั้นจะสร้างประเด็นโต้เถียงขึ้นมาไม่ใช่น้อย

     

    เหมาะสมก็บ้าแล้ว ท่านชายแต่งงานกับคุณแบมเซคหนึ่งแล้วย่ะ

    ใช่ๆ ท่านชายพึ่งมาส่งคุณแบมเมื่อตอนบ่ายด้วย เราเห็น

    คุณแบมเหมาะสมกว่านะฉันว่า

    อ้าว คุณแบมแต่งงานแล้วเหรอพึ่งรู้

    โอยยย ไปอยู่ประเทศไหนมาเนี่ย

    เม้าส์กันเหมือนกับคุณแบมไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้เลยนะ พอๆ จบแยกกกก

     

    “ไม่มีอะไรหรอกน่าคุณแบม อย่าไปสนใจเลย”


    หม่อมหลวงคิมเอ่ยปลอบใจเพื่อน เมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีของคนตัวเล็ก ด้วยเพราะรู้จักกันมานานตั้งแต่เด็กจึงรู้ว่าคุณแบมเป็นคนที่เก็บอารมณ์ไม่ค่อยเก่ง มีอะไรก็มักจะแสดงออกมาทางสีหน้าหมด ตอนนี้มีเรื่องกวนใจเพื่อนของเขาอยู่ และมันคงหนีไม่พ้นเรื่องของท่านชายมาร์ค


    “คะ คุณแบมไม่ได้สนใจอยู่แล้วต่างหากล่ะ” แม้ปากพูดแบบนั้น แต่สีหน้ากลับไม่ได้ไปในทางเดียวกับปากเลยสักนิด  ปากเป็ดๆ แบบนั้นหม่อมหลวงคิมอยากจะบีบจริงๆ


    “เราก็จะมาบอกเหมือนกันว่าอย่าคิดมากเลย กลัวคุณแบมเข้าไปอ่านแล้วรู้สึกไม่ดี” แพนเอ่ยขึ้น แม้น้ำเสียงจะแสร้งทำเป็นห่วง แต่ข้างในนั้นคิดอะไรอยู่ทำไมคนสายตาเหยี่ยวอย่างคิมจะไม่เข้าใจ แต่เดิมทีก็ไม่ค่อยสุงสิงกับคุณแบมสักเท่าไหร่อยู่แล้วทั้งที่คนส่วนใหญ่ชอบคุณแบมจะตายไป อย่างว่าแหละนะ มีคนชอบก็มักมีคนไม่ชอบ


    ฮึ เดินเข้ามาพูดโต้งๆ แบบนี้ เจตนาดีมากเลยครับคุณผู้หญิง


    “คุณแบมไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณนะที่เป็นห่วง” คนตัวเล็กตอบด้วยความจริงใจ ก่อนจะยิ้มให้ทั้งสองคนอย่างไม่มีพิษภัยใดๆ ทำให้หญิงสาวทั้งคู่เผลอเม้มปากแน่น ด้วยความรู้สึกสับสนบางอย่างในใจ


    ความจริงแล้วพวกเธอก็ไม่ได้ชอบหรือชอบอะไรในตัวคุณแบมหรอก ออกจะหมั่นไส้นิดหน่อยด้วยซ้ำ ที่คนๆ นี้ชอบทำตัวแอ๊บใสไม่เข้ากับวัยตัวเอง จึงไม่เข้ามาใกล้หรือสุงสิง มีบ้างที่แอบเบะปากใส่แต่ก็แค่ลับหลัง ยิ่งมาได้รู้ว่าคุณแบมได้แต่งงานกับท่านชายมาร์คยิ่งรู้สึกอิจฉาเข้าไปอีก อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รับสิ่งที่ดีได้ทุกเรื่องขนาดนี้ จนมาเจอเรื่องที่ทุกคนเม้าส์กันในกลุ่ม ถึงได้อยากลองเห็นความผิดหวังในดวงตาคู่กลมนั่นบ้าง...


    แต่ไม่รู้ทำไม พอเห็นแล้วกลับไม่รู้สึกดีแม้แต่น้อย คนๆ นี้มีความสามารถพิเศษที่ทำให้คนเกลียดไม่สุดหรือยังไงกัน


    “ผลกำลังจะออกแล้ว ฉันว่าพวกเธอกลับไปดูแลปของตัวเองดีกว่านะ”


    หม่อมหลวงคิมเป็นคนเอ่ยตัดบท เมื่อพบว่าทั้งสองคนเริ่มมองคุณแบมด้วยสายตารู้สึกผิด แม้จะแอบซ่อนไว้แต่ก็สามารถมองเห็นได้ไม่ยาก ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรสำหรับเขา เพราะแต่ไหนแต่ไรแล้วคุณแบมมักไม่ใช่คนที่จำทำให้ใครเกลียดหรือไม่ชอบได้นานนักหรอก ด้วยเพราะเนื้อแท้ไม่ได้เป็นคนไม่ดี การเลี้ยงดูของวังภูวกุลฟูมฟักออกมาดีขนาดนี้ คงจะรู้กันแล้วล่ะว่าคุณแบมน่ะไม่เหมาะกับสีหน้าอื่นนอกจากรอยยิ้มหรอก


    และเมื่อเป็นดังนั้น หญิงสาวสองคนจึงเดินกลับไปเงียบๆ ด้วยความรู้สึกที่ยังคงอยู่ ส่วนตัวคุณชายคนเล็กของวังภูวกุล เมื่อถูกความสับสนว้าวุ่นใจเข้ามาแทรก จึงได้แต่นั่งเหมอลอย ทรวงหทัยดวงน้อยกำลังบีบรัดอย่างไม่รู้สาเหตุ แม้จะเรียนแพทย์อยู่ แต่ก็ไม่สามารถสรุปโรคประหลาดที่ตัวเองกำลังเป็นได้


    จริงอย่างที่ใครว่า... พี่ชายมาร์คเหมาะสมกับท่านหญิงเป็นไหนๆ ทั้งยศถาบรรดาศักดิ์เทียบเคียงเดียวกัน แต่เขานั้นเป็นเพียงเด็กกระโปโลที่โดนจับใส่เข่งบังคับถวายให้ด้วยคำหมั้นหมายของผู้ใหญ่ คิดแล้วมันก็เจ็บหัวใจจริงๆ


    “ไม่คิดมากแล้วถอนหายใจทำไมครับคุณชาย” หม่อมหลวงคิมทำเป็นเอ่ยแซว ก่อนจะเอื้อมมือไปบีบแก้มกลมใสของเพื่อนสนิท บอกตามตรงว่าเขาเองก็ไม่ชอบใจสักเท่าไหร่หรอกที่เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้


    “งื้อ... เอ็บอ๊ะอิม” (เจ็บนะคิม)


    “ดึงให้เจ็บไงจะได้เลิกคิดมาก คิมรู้นะ” ว่าพลางปล่อยมือจากแก้วนวลด้วยเพราะสงสาร


    “รู้อะไรเล่า... เฮ้อ... มันไม่จริงเหรอคิม พี่ชายมาร์คน่ะเหมาะกับท่านหญิงโชอามากเลยนะ”


    ป๊อก!


    พูดจบไม่ทันไร ก็โดนบะเหงกไปหนึ่งที ถึงแม้จะไม่แรงมากด้วยความสปอยเพื่อนของหม่อมหลวงคิม แต่ก็ทำให้ใบหน้าเล็กยู่ลงจนน่าหมั่นเขี้ยว เป็นคิมนี่ลำบากจริงๆ ทำไมต้องเกิดมาน่ารักน่าแกล้งแบบนี้นะคุณแบม


    “ถ้าพี่ชายมาร์คได้ยินคุณแบมพูดแบบนี้ ต้องรู้สึกเสียใจมากเลยรู้ไหม” คิมเอ่ยเตือนสติ ซึ่งคุณแบมก็นิ่งรับฟังและคิดตาม


    แต่มันอดสับสนใจไม่ได้ ถึงแม้พี่ชายมาร์คจะปฏิบัติต่อตนดีเสมอมา ทำหน้าที่สามีที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย บางครั้งความใส่ใจของอีกฝ่ายมันก็ควรจะเพียงพอแล้วสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่สื่อถึงกัน แต่คุณแบมก็ไม่แน่ใจว่าความจริงอาจเพราะพี่ชายมาร์คเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ที่ใจดีกับทุกคนไม่ใช่เฉพาะคุณแบมคนเดียว สุภาพบุรุษเนื้อแท้อย่างพระองค์ แท้จริงแล้วรู้สึกแบบเดียวกันกับคุณแบมหรือไม่


    ...คุณแบมไม่อาจรู้ได้เลย

     


     LOADING.... 100%

    10/12/62
    สวัสดีวันรัฐธรรมนูญค่ะ ได้หยุดหนึ่งวันเลยมาอัพนิยายให้รีดเดอร์อ่าน ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ดีดีที่สร้างกำลังใจให้กันนะคะ อย่าพึ่งทิ้งกันไปไหนนะ ไรท์เตอร์กำลังทำสองอย่างพร้อมๆ กัน ทั้งฝึกงานเวลาว่างก็แต่งนิยาย แต่จะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดค่ะ


    7/12/62

    มาอัพแล้วค่ะตามสัญญา เนื้อหายังแค่ 40% เหลืออีก 60% น่าจะเป็นพรุ่งนี้ไม่ก็รอต่อไป 
    แต่พยายามจะให้เป็นพรุ่งนี้นะคะ 

    ฝากเม้น กดไลค์ กดแชร์ด้วยน้า อยากอ่านความคิดเห็นของรีดเดอร์ค่ะ

    ปล. ยังไม่เช็คคำผิดเด้อ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×