คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 10
CHAPTER 10 **(อ่าน Writer talk ด้วยน้า)**
ฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก
ถนนไร้ซึ่งผู้คน
..
‘ในเวลาแบบนี้ ถ้ามีเจลโล่อยู่ด้วยก็คงดี...’
สายตาหยุดอยู่ที่ที่ว่างซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง
มันเป็นที่ที่วางตู้ของเจลโล่...
เฮ้อ.. ผมจะดูเห็นแก่ตัวไหม
ถ้าผมอยากให้เจลโล่อยู่กับผมด้วย... ที่นี่...
“เมี๊ยว~”เจ้าแมวสามสีเดินพันแข้งพันขาผมไปมา ไม่รู้ว่ามันเดินแบบนี้นานหรือยัง รู้สึกตัวเองเหม่อมานานพอสมควรแล้ว
“แกกลับมาในได้ยังไงห้ะ แกนี่ชักแปลกๆขึ้นมาทุกวันแล้วแล้วนะ ตั้งแต่ที่ไอ้หมูแจบอกว่าแกพูดได้แล้ว นี่แกพูดได้จริงๆหรอ” ผมนั่งลงกับพื้นก่อนคว้าตัวเจ้าแมวสามสีมาไว้ที่ตัก
“...”
“พูดได้ก็พูดมาสิ ฉันจะได้รู้ว่าไอ้หมูแจมันไม่ได้โกหก”
“ที่เพื่อนของนายบอกว่าพูดได้ก็ไม่ผิดหรอก”
“เห้ย แกพูดได้จริงหรอเนี้ย ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรกเล่า”
“เอาเถอะน่า มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันต้องทำยังไงบ้างถึงจะช่วยเจลโล่แก้คำสาปได้”
เจ้าแมวสามสีนิ่งไปพักหนึ่ง ไอ้ผมนี่ก็ลุ้นจนจะบ้าอยู่แล้ว รีบๆพูดออกมาซะทีสิ
“นายต้องชนะใจแม่ของเจลโล่ให้ได้ แล้วเขาจะกลับเข้าร่างเอง”
“แล้วทำไม.. ต้องแม่เจลโล่ล่ะ มีเหตุผลอะไร”แม่ของเจลโล่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้กันแน่นะ
“โอเค งั้นฉันจะเล่าให้ฟัง..”
ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว
“แม่ฮะ ผมอยากได้ตู้นี่อ่ะ จะได้เอาไว้ใส่หนังสือในห้องผมไง ผมขอนะฮะๆๆๆๆ”เจลโล่ยืนเขย่าแขนของผู้เป็นแม่พลางส่งสายตาวิ๊งๆเป็นประกายไปให้จนพนักงานรอบๆต่างถึงกับอมยิ้มในความน่ารักของเขา
“แต่แม่ว่าตู้ไม้นี่สวยกว่านะ”ฮโยซองเดินไปที่ตู้ไม้สีน้ำตาลอ่อนหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่อีกด้าน ไม่เอาอ่ะ ผมไม่ชอบ ตู้สีขาวเรียบๆนี่สวยกว่าเยอะ
“ม่ายยยยยยย ตู้สีขาวนี่สวยกว่าฮะ”
“ไม่เห็นสวยเลย ถ้าเจลโล่อยากได้ตู้นี่ งั้นก็เก็บเงินซื้อเองละกันนะ”ฮโยซองพูดพลางส่งยิ้มให้
ก็ได้! ถ้าแม่ให้โอกาสผมได้เก็บเงินซื้อมัน ผมก็ยอม
“โห นี่เจลโล่ลงทุนมากเลยนะเนี้ย”แดฮยอนถึงกับอึ้งในคำพูดของเจ้าแมวสามสี ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจลโล่จะอยากได้ตู้นั่นขนาดนี้
“ยังไม่จบนะ”
หลังจากนั้นเมื่อเจลโล่ได้เงินค่าขนม เขามักจะอดออมเพื่อจะได้มีเงินเก็บเยอะๆไว้ซื้อตู้ จนบางครั้งเขายอมไม่กินข้าวกลางวันแล้วเลือกที่จะทำอาหารเช้าไปกินเองที่โรงเรียน ยอมไม่ซื้อของกินที่ตัวเองชอบ ผ่านไปประมาณ 3 เดือน จนในที่สุดเขาก็มีเงินพอสำหรับค่าตู้ของเขา
“แม่ฮะะะะะะ ผมเก็บเงินได้ครบแล้ว ไปซื้อตู้กันนน”เจลโล่ถือกล่องสำหรับเก็บเงินของตัวเองก่อนวิ่งลงบันได้ด้วยความเร็วลงมาหาแม่ของตนที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง
“โห นี่พยายามขนาดนี้เลยหรอเนี้ย คงอยากได้ตู้นั้นมากใช่ไหมหืม”ฮโยซองหันไปมองลูกชายของตนยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างหลัง
“ไปซื้อตู้กันเถอะนะฮะ~~~”เจลโล่ก้มลงกอดคอแม่ของตัวเองพลางโยกไปมา จนฮโยซองถึงกับยอมและจูงมือลูกของตนไปที่รถ
ณ ร้านของเฟอร์นิเจอร์
“ยินดีต้อนรับค่ะ สนใจสินค้าตัวไหนคะ^^”พนักงานทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนโค้งให้เล็กน้อย
“เออพอดีว่า.. อ้าว เจลโล่ ใจเย็นๆสิ”ฮโยซองถึงกับชะงักเมื่อหันมาอีกที ก็เห็นลูกชายตัวดีของตนวิ่งไปยืนเกาะตู้สีขาวตัวโปรดที่ตัวเองกำลังจะได้เป็นเจ้าของในอีกไม่นานนี้
“อ่อ จะเอาตู้สีขาวตัวนั้นใช่ไหมคะ? ^^”พนักงานถึงกับขำในท่าทางเหมือนเด็กน้อยของเจลโล่ก่อนหันมาคุยกะฮโยซองตามเดิม
“อ่อ ใช่ค่ะ ไม่รู้ทำไมลูกของฉันถึงได้ชอบเจ้าตู้นั่นนักหนาก็ไม่รู้”
“แล้วทำไมคุณถึงให้เขาซื้อตู้ตัวนั้นล่ะคะ ตอนแรกจำได้ว่าคุณบอกว่าไม่ชอบตู้ตัวนั้นนี่นา”
“ฉันบอกกับเขาว่าให้เขาเก็บเงินมาซื้อเองค่ะ เพราะจริงๆฉันก็ไม่ได้ชอบคู้ตัวนั้นเท่าไหร่หรอก แต่เห็นว่าเขาอยากได้ก็เลยให้ซื้อเองซะเลย”
“ตู้ตัวนั้นราคาค่อนข้างแพงนะคะนั้น เพราะ สั่งทำเป็นพิเศษ ลูกของคุณนี่สุดยอดเลยนะคะ”
“อ่อค่ะ ตอนแรกฉันก็แอบตกใจราคาเหมือนกันค่ะ เจลโล่! เลิกเกาะตู้เป็นลิงได้แล้ว มาจ่ายตังสิ จะได้ยกกลับบ้าน”ฮโยซองบอกเจลโล่ที่ยังเกาะตู้ไม่เลิกตั้งแต่เข้าร้าน
“ฮะแม่ นี่เงินค่าตู้ฮะ ^^ ”พนักงานอีกคนหนึ่งเดินมารับเงินค่าตู้ ก่อนเดินมาเอาป้ายราคาที่ตั้งไว้ออก
“ขอบคุณที่อุดหนุนนะคะ”พนักงานทั้งสองคนโค้งให้ ก่อนยื่นกระดาษสำหรับเขียนที่อยู่มาให้
‘ในที่สุด ผมก็ได้ซื้อตู้นี่สักที~’
หลังจากที่จัดการซื้อตู้และยกกลับไปตั้งไว้ในห้องของเจลโล่เป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวก็ยังเห่อตู่ใหม่มากยิ่งว่าเดิมอีก
“เย้ๆ ขอบคุณที่อย่างน้อยก็อนุญาตให้ผมซื้อตู้นี่นะฮะ”เจลโล่หันไปกอดฮโยซองแน่น
“ในเมื่ออนุญาตให้ซื้อแล้ว สัญญากับแม่นะ ว่าจะดูแลเป็นอย่างดี”ฮโยซองชูนิ้วก้อยขึ้นมา
“ผมจะดูแลตู้นี่อย่างดีฮะ ผมสัญญา”เจลโล่ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวตอบ
ผ่านไปอีก 3 เดือน
มันเป็นธรรมดาของคนคนส่วนใหญ่ที่เวลาก่อนที่เราจะซื้อของที่เราอยากได้มากสักชิ้น เราจะอยากได้ อยากครอบครองมันมาก เราจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา และเมื่อได้มันมา เมื่อระยะเวลาผ่านไปเราก็จะรู้สึกเฉยๆกับสิ่งเหล่านั้น และบางทีอาจจะลืมมันไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเจลโล่ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ตอนที่เขาพึ่งได้ตู้มาใหม่ๆ เขาทั้งเช็ดและจัดของเป็นอย่างดี ดูแลเป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาเริ่มไม่ค่อยดูแลตู้ นานครั้งถึงจะเช็ด หรืออาจจะไม่ได้เช็ดเลย จนฮโยซองถึงกับต้องบอกเขา ย้ำสิ่งที่เขาได้ให้สัญญาไว้ตอนแรก และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
“ไม่ได้เช็ดแกนานและ ฝุ่นหนาเชียวนะเนี้ย”เจลโล่หยิบผ้าขี้ริ้วที่เปียกหมาดๆขึ้นมากำลังจะเช็ด และก็ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น
“เอามือออกไป!”เจลโล่ถึงกับตกใจจนเดินถอยหลังไปชิดกำแพง ทำไมอยู่ๆตู้นี่ถึงพูดได้
“น..นี่มันอะไรกัน หรือเราจะหูฝาดนะ”เจลโล่พยายามคุมสติของตนก่อนจะเดินกลับไปเช็ดตู้อีกครั้ง
“สัญญากับแม่ตัวเองไว้แท้ๆว่าจะดูแลฉันเป็นอย่างดี แล้วนี่มันอะไรกัน!”ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งลอยออกมาจากตู้ สร้างความหวาดกลัวให้เจลโล่เป็นอย่างมาก ขายาวถึงกับทรุดลงกับพื้นแล้วค่อยๆถอยหลังหนีอย่างรวดเร็ว
“ค..คุณเป็นใคร ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้นะ!”เจลโล่พูดด้วยเสียงสั่นเพราะความกลัวและตกใจสุดขีด
“ในเมื่อรักษาสัญญาแล้วแต่ดันทำตามไม่ได้ งั้นนายก็มาเป็นฉันแทนแล้วกันนะ”เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น
“คุณจะทำอะไร ไม่นะ ม่ายยยยย”สิ้นเสียงของเจลโล่ก่อนเจ้าตัวจะสลบลงไป ร่างของเธอค่อยเปลี่ยนเป็นกายเนื้อขึ้นมา และวิญญาณของเจลโล่ค่อยๆลอยออกมาจากร่างของเขา
“คุณทำแบบนี้ทำไม ฮือ”วิญญาณของเจลโล่ที่ลอยออกมายืนมองร่างของตนที่สลบอยู่
“ก็นายผิดสัญญาน่ะสิ”
“แล้วเมื่อไหร่ผมจะกลับเข้าร่างได้”
“สักวันนึง นายจะเจอกับคนที่จะช่วยแก้คำสาปให้นาย และการแก้คำสาปนั้นก็คือคนๆนั้นต้องชนะใจแม่ของนายให้ได้”เธออธิบาย
“ทำไมล่ะ”
“นายใช้เวลาตั้ง 3 เดือนนี่นากว่าจะเก็บเงินได้ครบและได้ตู้นี้มา นั่นก็เพราะว่าแม่นายไม่ใช่หรอ ฉันให้เวลา 6 เดือน นายต้องหาคนที่แก้คำสาปให้เจอและคนๆนั้นต้องเอาชนะใจแม่ของนายให้ได้ ไม่งั้น.. นายก็จะหายไปเลย” เธอยกยิ้มก่อนจะค่อยๆหายตัวไปในทันที
“ด..เดี๋ยวสิ! ออกมานะ ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน! ฮึก..แล้วนี่จะทำยังไงดีล่ะ ฮือ”วิญญาณของเจลโล่ถึงกับทรุดลงกับพื้น หยดน้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นก่อนไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง
ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง!
“เจลโล่เมื่อกี้เสียงดังอะไรน่ะ แม่เข้าไปนะ!”ฮโยซองรีบเปิดประตูเข้ามาในห้องทันที เพราะปกติผมก็ไม่ค่อยล็อคห้องอยู่แล้ว
“เจลโล่ ทำไมลงไปนอนกับพื้นแบนนั้นล่ะ เจลโล่ ตื่นสิ”ฮโยซองเดินมาหาร่างของเจลโล่ที่นอนนิ่งไม่ขยับอยู่ก่อนก้มลงเขย่าแขนเบาๆ
“…”
“เจลโล่! เป็นอะไรน่ะ ตื่นสิ แม่บอกให้ตื่นไง!”ฮโยซองเพิ่มแรงเขย่ามากขึ้น แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น
ฮโยซองถึงกับใจหายก่อนจะตั้งสติแล้ววิ่งลงไปข้างล่างเพื่อโทรเรียกรถพยาบาล ส่วนวิญญาณของเจลโล่ที่ยืนมองโดยไม่พูดอะไรเพราะรู้ว่าถึงพูดไป แม่ของตนก็ไม่ได้ยิน
ณ โรงพยาบาล
“ลูกของฉันอาการเป็นไงบ้างคะคุณหมอ”
“ทางเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดครับ แต่...”
“แต่อะไรคะ?”
“ลูกของคุณจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราครับ”สิ้นสุดประโยคของหมอ ฮโยซองถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ปล่อยน้ำตาไหลรินลงมาเรื่อยๆ
“นี่ใช่ไหมคือสาเหตุที่ฉันต้องชนะใจแม่ของเจลโล่ให้ได้”แดฮยอนถาม
“ใช่ ยังไงก็รีบด้วยละกัน เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ”
“แล้วทำไมแกถึงรู้เรื่องของเจลโล่ดียังงี้ล่ะ?”
“เมี๊ยว~~”เจ้าแมวสามสีไม่ยอมตอบก่อนจะกระโดดออกจากตักผมไป ไอ้แมวบ้า พูดมานะโว้ยยยยยย ไม่ต้องมาเมี๊ยวๆเลยยยย
Writer talk :
มีใครไปคอนบัพบ้างคะะะะ อยากเจอรีดทุกคนเลยงืม แอร้ยย ในที่สุดไรท์ก็หาเวลาอัพได้แล้ว อย่าพึ่งงอนไรท์และหนีหายไปน้า ;-; เล่าอดีตล้วนๆเลยแหะตอนนี้ อาจจะมีดราม่าเล็กน้อยน้า~~ ยังไงก็ขอบคุณรีดเดอร์ที่ยังไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้นะ คอมเม้นกันเยอะๆนะคะ
ความคิดเห็น