Kingdoms of Heaven
สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ทั้ง 3 วรรณกรรมเรื่องแรกของ สังหารเงียบ
ผู้เข้าชมรวม
125
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ Kingdoms of Heaven
พระเจ้าไม่เคยที่จะทอดทิ้งมนุษย์ แม้ว่าพวกมนุษย์ทั้งหลายจะยังมีกิเลส ตัณหาอยู่มากเหลือคนานับ มนุษย์ถูกสร้างขึ้นให้มีความรู้สึก ความคิดและจินตนาการ จินตนาการของมนุษย์มักจะเป็นเรื่องเพ้อฝันออกนอกลู่นอกทาง บางทีจินตนาการอาจจะทำให้มนุษย์ฆ่ากันเองก็ได้และบางทีจินตนาการก็สามารถนำมนุษย์สู่สันติสุขได้เช่นกัน
ความรู้สึกก่อกำเนิดความชัง รัก โลภ โกรธ หลง ความคิดก่อกำเนิดความฟุ้งซ่าน เรื่องเพ้อฝัน และจินตนาการก่อกำเนิดสิ่งเหนือธรรมชาติ และเมื่อประสานหลักทั้งสามเข้าด้วยกัน อาจก่อกำเนิดพลังสู่ด้านมืดและด้านสว่าง ก็แล้วแต่มนุษย์จะเลือกทางที่ตนคิดว่าถูกต้อง
ว่ากันว่า ความมืดและความสว่างเกิดมาจากจุดเริ่มต้นเดียวกันเสมอ ดังที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มี ความรู้สึก ความคิดและ จินตนาการ ดังนั้น จุดเริ่มแห่งความมืดและความสว่างก็คือมนุษย์ อันตัวมนุษย์นั้นประกอบขึ้นมาจากธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุทั้ง 4 ไม่ได้เพียงแค่กำเนิดมนุษย์แต่ยังกำเนิดโลกด้วย เช่นนั้นแล้ว ทุกสรรพสิ่งบนโลกก็ย่อมเกิดจาก ธาตุทั้ง 4 เช่นกัน
พระเจ้าได้สร้างสิ่งที่คล้ายพระองค์ขึ้นมาเพื่อลงมาเกิดเป็นผู้สร้างโลกในยุคแรกๆ เผ่าพันธุ์นั้นประกอบด้วยธาตุอันสูงส่งทั้งสองนั้นคือ แสงและลม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพื่อให้เผ่าพันธุ์นั้นสูงส่งกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆและถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆที่พระองค์มอบให้ พระเจ้าได้เล็งเห็นถึงความตายของเผ่าพันธุ์นั้น พระองค์จึงดึงความรู้สึกและชีวิตของพวกนั้นออก ภายหลังเผ่าพันธุ์นั้นจึง มีหน้าตาที่งดงาม อันเกิดมาแต่ลมและแสง ไร้ซึ่งความคิด ไร้ซึ่งความชั่วและอมตะ เหล่ามนุษย์ที่เกิดตามมาเรียกเผ่าพันธุ์นั้นว่า เอลฟ์
แม้ว่าพวกเอลฟ์จะสูงส่งเพียงใดก็ตาม แต่ธาตุทั้ง 4 เริ่มแปรปรวนเนื่องด้วยการเป็นอมตะไม่ล้มตายของพวกเขา พระเจ้าจึงได้เห็นความยโส โอหัง เย่อหยิ่ง อมตะ ปัญญา ของพวกเอลฟ์ที่กำลังจะทำให้ธาตุทั้ง 4 มลายสูญสิ้น และเมื่อก่อนที่จะถึงกาลนั้น พระองค์ได้นำธาตุทั้ง 4 และหลักทั้งสามเข้ารวมด้วยกัน ดึงเอาปัญญาออกทั้งหมด นำเอาพลังชีวิตออกอีกครึ่งหนึ่ง ธาตุทั้งหมดแปรผัน ประสานเข้า้วยกัน กำเนิดสิ่งที่เรียกกันเองว่า มนุษย์
มนุษย์ในยุคแรกทำตามประสงค์ของพระเจ้า คือ ฟื้นฟูโลกและเรียนรู้กับสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ พวกเขาหน้าตาไม่วิจิตงดงามและอ่อนช้อยเหมือนพวกเอลฟ์ แต่มีหน้าตาและผิวพรรณที่คมเข้มเหมือนดิน อ่อนโยนดั่งลม ชุ่มชื่นเปรียบน้ำ และสว่างจากตัวเองเช่นไฟ พวกมนุษย์ไร้สติปัญญามาตั้งแต่ต้น แต่พวกเขาเรียนรู้เอาทีหลังซึ่งทำให้เจออะไรที่ไม่อ่อนต่อโลก พวกเขามีความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการ แต่ไม่สูงส่งเท่าเอลฟ์ เพื่อที่จะไม่ยโสเกินไป นับว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เยียวยาโลกและเป็นเสาหลักอย่างแท้จริง
ต่อมาไม่นานนัก เหล่าสรรพสัตว์เริ่มที่จะไม่ชอบใจเผ่าพันธุ์มนุษย์ เนื่องด้วยอาการที่ดูถูกพวกมันเยี่ยงตัวอัปลักษณ์ บ้างก็เอาไปอ้างนู้นอ้างนี้ บ้างก็ฆ่าเพื่อความสนุก บ้างก็ฆ่าเป็นกีฬาความสำราญใจ เพียงแค่มนุษย์คิดว่า พวกเขาคือสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาเป็นเผ่าหลัก ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมาอยู่ในกำมือของเผ่ามนุษย์ พระเจ้าจึงประทานอำนาจทางสติปัญญาให้เทียบเท่ามนุษย์หรืออาจสูงกว่าเป็นบางที มีอำนาจแปลงกายเป็นดั่งมนุษย์ มีพละกำลังมากกว่ามนุษย์ แต่ถึงกระนั้นพวกสัตว์ก็ยังไม่เข้าใจถึงความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง พวกเขาเหล่านั้นจึงเพียรกายศึกษามนุษย์เกือบศตวรรษ พวกเขาจึงมีรูปร่างหน้าตาที่ใกล้เคียงมนุษย์กว่าสัตว์ทั่วไป เหล่าเอลฟ์และมนุษย์ต่างเรียกพวกนั้นว่า อมนุษย์
ใช่ว่าเอลฟ์จะสูงส่งเหนือเผ่าพันธุ์อื่น ใช่ว่ามนุษย์จะดีเลิศไปหมด ใช่ว่าอมุนษย์จะมีความบริสุทธ์ ต่างเผ่าต่างพันธุ์ก็มิอาจอยู่ร่วมกันได้ เพียงแค่ต้องการอยู่เหนือผู้อื่น เพียงแค่ต้องการที่จะได้ยอมรับจากผู้อื่น ทั้งที่จริงๆแล้วการกำเนิดของพวกเขาก็มาจากที่เดียวกันทั้งสิ้น แต่ว่าทางเดินของพวกเขาก็มิอาจมาบรรจบกัน
ผลงานอื่นๆ ของ สังหารเงียบ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สังหารเงียบ
ความคิดเห็น