[Fiction] The Glader's Maze [Minho X Thomas] - [Fiction] The Glader's Maze [Minho X Thomas] นิยาย [Fiction] The Glader's Maze [Minho X Thomas] : Dek-D.com - Writer

    [Fiction] The Glader's Maze [Minho X Thomas]

    โดย thenines

    ถ้าหากพวกเราไม่ได้ติดอยู่ในเขาวงกตหละ? ถ้าหากว่าโลกใบนี้ สุขสงบดี โดยที่ไม่มีไข้วาบหละ? จะเป็นไปได้ไหม ที่เราจะได้เจอกันฉันท์เพื่อน.

    ผู้เข้าชมรวม

    1,002

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    31
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ม.ค. 58 / 22:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Spioler Alert!

    ฟิคเรื่องนี้มีสปอยล์ด้วย ไม่เหมาะสมกับคนที่ยังไม่ดูหนัง

    หรือยังไม่อ่านหนังสือเล่มสองนะตัวเอง เค้าขอโทษ T3T

    • ส่วนสปอยล์ในหนังคือมีอะไรเกิดขึ้นกับใคร(ใครตาย ใครอยู่ทำนองนั้นค่ะ)

    • สปอยล์ในหนังสือ(เล่ม2) คือเทเรซาว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางค่ะ(แต่นางไม่ได้ล้มหายตายจากนะ55)

    • ต้องบอกไหมนะว่าอันนี้ฟิค ชาย♥ ชาย  ฮะฮิ้งงง

    ด้วยรักและเคารพจากคนเเต่งค่ะ♥


    ปล. ชอบไม่ชอบอะไรก็เม้นกันได้นะฮะ ♥

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      SHORT FICTION

      #THOMINHO


      MINHO X THOMUS



      --------------------


      ถ้าหากพวกเราไม่ได้ติดอยู่ในเขาวงกตหละ?

      ถ้าหากว่าโลกใบนี้ สุขสงบดี โดยที่ไม่มีไข้วาบหละ?

      จะเป็นไปได้ไหม ที่เราจะได้เจอกันฉันท์เพื่อน….





      “ได้สิ”  เสียงกระซิบที่เเผ่วเบาเเต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่นราวกับจะเเสดงความมั่นคงให้คนฟังได้ยินดังก้องอยู่ในหัวของโทมัส
       

      “...!!”ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากความฝันก่อนจะพบว่าตอนนี้เขาไม่อยู่ในเขาวงกตงี่เง่านั่นเเล้ว ตอนนี้เขาอยู่บนเตียงสีขาว ผนังห้องตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีครีม หลอดไฟสีส้มที่ส่องเเสงสลัวราวกับว่ามีคนต้องการไม่ให้มันรบกวนเขาเวลานอน โทมัสหันไปมองหน้าต่างห้องที่มีผ้าม่านปิดเอาไว้...เขากำลังสงสัย หรือว่านี้ยังเป็นความฝันอยู่ ความฝันที่จะอยู่อย่างสงบสุข จะเป็นไปได้จริงงั้นหรือ? มันจบเเล้วจริงงั้นหรือ?
       

      ภายในห้องเงียบ...เงียบเสียจนโทมัสได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นระส่ำ หากเปิดผ้าม่านออกไปเเล้วพบเพียงเขาวงกตดังเดิม หากเปิดผ้าม่านออกไปเเล้วพบเพียงบ้านเมืองที่พังวินาศ หากเปิดผ้าม่านออกไปเขาพบกับร่างไร้วิญญาณของเพื่อนเขาหละ?!
       

      “นี่มันเรื่องปลวกอะไรเนี่ย…”โทมัสเอ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนจะสะบัดความคิดบ้าๆออกไปจากในหัว ในที่สุดเขาก็เดินไปถึงผ้าม่าน มือที่เต็มไปด้วยผ้าพันเเผลของเขาเอื้อมไปหาผ้าม่านทีละนิด...ละนิด...ละนิด…
       

      “เป็นฉัน ฉันจะไม่เปิดมันนะ”ในขณะนั้นเองเสียงหนึ่งดังก็ดังเเทรกขึ้นมาจากด้านหลังของโทมัสจนชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเเล้วหันกลับไปมองตาถมึงทันทีด้วยความตกใจ   “นิวท์..” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าก่อนจะรีบตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที
       

      “เฮ้ อย่าเดินปรี่เข้ามาเหมือนจะฆ่ากันสิ”นิวท์เอ่ย
       

      “พอเห็นหน้านายก็นึกเป็นห่วงนายทันที”โทมัสเอ่ยอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยถ้าเขาเปิดม่านไปคงไม่พบเพื่อนตัวเองกลายเป็นศพอยู่ข้างนอกนั่นเเน่นอน
       

      “หมายความว่าที่ผ่านมานายไม่ห่วงฉันรึไง?”นิวท์เอ่ยติดตลกก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเเล้วกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น โทมัสรู้สึกอายที่เขาพูดอะไรตรงๆเกินไป เเละตอนนี้ใบหน้าเขาก็คงเเดงเป็นลูกตำลึงไปแล้ว
       

      “ช่างเถอะ.. ว่าเเต่ข้างนอกนั่น..”โทมัสเอ่ยถาม
       

      “อืม...ฉันก็ไม่รู้สิ่ เปิดม่านไปก็เจอกับเพื่อนห้องข้างๆนะ...ไม่ได้เป็นวิวสวยงามอย่างที่นึกไว้เลย.. เเถมตอนเปิดไปก็ดันเจอตอนฟรายเเพนกำลังถอดกางเกงด้วย”นิวท์พูดด้วยสีหน้าพะอืดพะอม นั่นทำให้โทมัสหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างน้อยเพื่อนๆของเขาก็ปลอดภัยดีสินะ…
       

      “แล้วเพื่อนห้องข้างๆฉันหละ เป็นใคร?”โทมัสเอ่ยถามนิวท์ เเต่สิ่งที่ได้คือการตอบกลับมาด้วยความเงียบ นิวท์ยักไหล่เป็นการปัดความรับผิดชอบด้วยท่าทางที่บอกว่าเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน “นายเปิดดูสิ่เผื่อเจอของดี”นิวท์เอ่ยก่อนจะหัวเราะออกมาคิกคัก


      สิ้นเสียงของนิวท์โทมัสตัดสินใจเดินไปที่ผ้าม่านของตัวเอง ในใจก็ภาวนาอยากให้เป็นเทเรซา เพราะตอนนี้เขาเองก็นึกเป็นห่วงเธอเเทบเเย่เหมือนกัน…

       

      พรึ่บ!

       

      เสียงเปิดผ้าม่านดังขึ้น โทมัสกวาดตามองไปรอบๆห้องหวังว่าจะพบเทเรซา หรือไม่ก็ชาวทุ่งสักคนในห้องนี้ เหมือนดั่งพระเจ้าได้ยินเสียงในใจของโทมัสเพราะทันใดนั้นเองประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกมา ชายหนุ่มเบิกตากว้าง
       

      “มินโฮ!”โทมัสเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้า เพื่อนคนสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งในการนำพาเขาเเละช่าวทุ่งออกมาจากเขาวงกตงี่เง่านั่น
       

      “ท..โทมัส…? นายยังไม่ตายหรอกเหรอ?”มินโฮเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ถึงคำทักทายจะดูเป็นคำเสียดสีไปนิดเเต่ใบหน้าของมินโฮนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี เขาพุ่งปรี่เข้ามากอดโทมัสเเน่นจนร่างของโทมัสเเทบจะร่วงลงไปยังฝั่งห้องของมินโฮเเล้ว
       

      “นายเเรงเยอะเป็นบ้า เหลือแรงจากการวิ่งรึไง”โทมัสเอ่ยก่อนจะดันร่างของมินโฮออกให้พ้น
       

      “ก็พักผ่อนที่นี่มาได้เกือบอาทิตย์เเล้วนี่ แต่ยังไม่ได้ทำอะไร”มินโฮเอ่ยก่อนจะทำหน้าเหม็นเบื่อ
       

      “นี่ฉันหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ?”โทมัสเอ่ย
       

      “เรานึกว่านายตายไปแล้วด้วยซ้ำ ฉันยังนึกแค้นวิคเค็ดอยู่เลยที่ทำร้ายนาย”มินโฮเอ่ย
       

      “ทำร้ายเราต่างหาก”โทมัสเอ่ยกอนจะจ้องหน้ามินโฮนิ่ง
       

      “อะไร?”มินโฮเอ่ยก่อนจะจ้องหน้าโทมัสกลับทั้งสองตกอยู่ในภวังค์และความเงียบ ใบหน้าที่คุ้นเคย ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันในวงกต ทำไมพวกเขาถึงได้รู้สึกคิดถึงกันขนาดนี้นะ
       

      “เอ่อ..เฮ้...พวกนายเเข่งจ้องตากันอยู่เหรอ? ฉันว่าพวกนายอาจจะตกหลุมรักกันไปแล้วก็ได้นะ”นิวท์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังเจือล้อเล่น
       

      “เอ่อ…”โทมัสกระแอม
       

      “โทษทีเพื่อน…ว่าเเต่นายควรจะหาอะไรกินได้เเล้วนะพ่อโทมัส”มินโฮเอ่ยแซวก่อนจะเดินออกไปทางประตู ลำบากนิวท์ที่ต้องสะกิดให้โทมัสเดินตามเขาออกมาด้วย  พวกเขาเดินออกมายังโรงอาหารกว้าง ภาพอาหารมากมายลอยมาเตะตาของโทมัสทำเอาท้องของเขารู้สึกโล่งขึ้น และโล่งมากพอที่จะยัดอาหารเหล่านี้ลงไป แต่นั่นก็ยังไม่ได้ทำให้เขาคลายความสงสัยลงไปได้ว่าสถานที่แห่งนี่มันคืออะไรกันเเน่ การทดลองใหม่อย่างนั้นหรือ? ถ้าเป็นเเบบนั้นเเล้วอาหารพวกนี้จะไว้ใจได้อย่างนั้นหรือ?

       

      “ไว้ใจได้หน่าเพื่อน ฉันกินมาตั้งหลายมื้อ ก็ยังเเข็งเเรงดี”มินโฮเอ่ยข้างหูโทมัสพร้อมกับตบบ่าของเขาอีกสองสามทีราวกับอ่านใจเขาได้  เเต่หากมินโฮว่าอย่างนั้นเขาก็เชื่อใจ...เขามั่นใจเลยด้วยซ้ำว่าคนคนนี้ไม่มีทางหักหลังเขาเเน่ๆ
       


      ซ่าา…
       


      เสียงของทีวีเครื่องหนึ่งดังขึ้นเเละนั่นทำให้ทั้งโรงอาหารเงียบสนิท เเละหันไปจ้องบนทีวีเป็นตาเดียวกัน จอทีวีนั่นค่อยๆปรากฏภาพเงาดำๆของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งโทมัสคิดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อตั้งวิคเค็ดแห่งนี้


      “สวัสดีฉันคือเอวาเพจ ประธานผู้ก่อตั้งวิคเค็ด…”สิ้นเสียงจากเงาดำในทีวี เสียงฮือาของชาวทุ่งต่างดังขึ้น บ้างก็กร่นด่า บ้างก็ตั้งคำถาม
       

      “ได้โปรดอยู่ในความสงบ...ที่พวกเรา..วิคเค็ดจะมาบอกวันนี้คือ เรามีของขวัญที่จะมอบให้พวกเธอทุกคนที่ยอมสละร่างกายให้พวกเราได้ศึกษาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสไข้วาบ”
       

      “โดนบังคับมากกว่าสิ่ ปลวกเอ้ย”มินโฮสบถ
       

      “...ดังนั้นเราจึงอยากมอบสิ่งนี้เป็นการตอบแทน”สิ้นเสียงของประธาน หน้าต่างดำทึบของโรงอาหารก็กลายเป็นสีสดใส ทำให้มองเห็นวิวข้างนอกนั่น เเละนั่นทำให้โทมัสอยากหยิกตัวเองเเรงๆ ตอนนี้ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงฮือฮาของชาวทุ่ง บ้างก็วิ่งไปเกาะหน้าต่าง
       

      “ทุ่งหญ้า?...ทุ่งหญ้าเนี่ยนะ?”มินโฮเอ่ยเสียงสูง
       

      “อือ...เเต่มันก็ดูดีกว่าในวงกตนะ…”นิวท์เอ่ย
       

      “เฮ้ย!!!! นี่มันของจริงหวะพวก!!” เสียงชาวทุ่งคนหนึ่งดังขึ้นมาเมื่อเห็นชาวทุ่งกลุ่มหนึ่งที่ออกจากห้องไปตอนไหนก็ไม่รู้ลงไปวิ่งอยู่ในทุ่งหญ้าเรียกเสียงเฮของชาวไร่ในห้องได้เป็นอย่างดี

       

      “เเละโปรดอย่าลืม… วิคเค็ดนั้นดี”สิ้นเสียงของประธานจอทีวีก็ดับไป
       

      “ดีกับผีหนะสิ”มินโฮเอ่ย เเต่โทมัสก็สังเกตเห็นได้ว่าใบหน้าของเพื่อนเขาดูผ่อนคลายขึ้นมาก
       

      “แล้วเราจะทำอะไรกับทุ่งหญ้านี่ได้บ้างหละ? ฉันหมายถึงมันจะไม่มีกำแพงบ้าๆล้อมทุ่งนี้ที่ข้างหลังเป็นเขาวงกตรูปแบบใหม่ที่นายเคยคิดขึ้นมาอีกหรอกนะ”นิวท์เอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปทางโทมัสเเล้วยิ้มกว้าง
       

      “เลิกพูดเรื่องนั่นสักทีเถอะหน่า ต่อให้มีฉันก็คงไม่ได้ทำแล้วหละ”โทมัสเอ่ย เพราะความทรงจำของเขามีเพียงเขาวงกตที่เขาเพิ่งออกมาได้เพียงอันเดียวเท่านั้น

       

      “ฉันว่าเราน่าจะออกไปสำรวจทุ่งดูบ้างนะ”นิวท์เอ่ยก่อนจะเดินนำทั้งสองออกไปยังไปบันได ทำให้โทมัสเเละมินโฮต้องเดินตามออกไปอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อลงมาถึงประตูทางออกกลายเป็นมินโฮที่คว้ามือของโทมัสไว้
       

      “นายทำอะไรเนี่ย?”โทมัสเอ่ย
       

      “เดี๋ยวนายหายไปอีก”มินโฮเอ่ยด้วยใบหน้าที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร และเขาก็พูดความจริง เขาไม่อยากให้คนคนนี้หายไปไหนตามใจวิคเค็ดชอบอีกเเล้ว
       

      “นายจะจับมือกันเหมือนคู่รักทำไมหละเนี่ย?”นิวท์เอ่ย
       

      “ถ้าหมอนี่หายไปอีก ฉันคงต้องตามไปฆ่าวิคเค็ดปลวกนั้นทั้งตึกเเน่”มินโฮเอ่ย
       

      “เเต่จับมืองี้ไม่เหมือนคู่รักไปหน่อยเหรอ?”นิวท์เอ่ยก่อนจะหัวเราะ
       

      “ช่างปะไรสิ ทำอย่างกับฉันสนใจ”มินโฮเถียง
       

      “ฉันจะฟ้องเทเรซานะโทมัส”นิวท์เอ่ย
       

      “ยัยนั่นคงอยู่กับอีกทีมเเล้วเเหละป่านนี้”มินโฮเอ่ย


      “อีกทีม?” โทมัสสะดุดกึกเต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากมินโฮ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน เทเรซาทิ้งพวกเราอย่างนั้นเหรอ? ในหัวของเขามีเพียงเเต่คำนี้


      “ยัยนั่นไม่ได้ทิ้งพวกเราหรอกนะ เเต่ยังมีอีกเรื่องที่นายไม่รู้คือ มีเขาวงกตสองที่ ดังนั้นก็เลยมีอีกทีมที่เป็นผู้หญิงล้วน ฉันว่าป่านนี้ยัยนั่นคงเป็นหัวหน้ากลุ่มไปแล้วด้วยซ้ำ”มินโฮเอ่ย อีกครั้งเเล้วที่ราวกับอ่านใจโทมัสได้
       

      “ช่าย ฉันก็เเค่หวังว่าวิคเค็ดจะพาพวกเธอมายังทุ่งเเห่งนี้เหมือนกัน”นิวท์เอ่ย
       

      “ฉันอดทนรอไม่ได้เเล้วที่จะได้เเต่งงานมีลูกอย่างที่มนุษย์ธรรมดาเขาทำกัน”มินโฮเอ่ย
       

      “ทั้งๆที่นายกำลังจับมือผู้ชายราวกับคู่รักเนี่ยนะ?”นิวท์เเซว
       

      “ถ้าเป็นมินโฮฉันก็โอเคนะ”อยู่ดีๆโทมัสก็พูดแทรกขึ้นมา ทำเอานิวท์ถึงกับสำลักเเล้วกลั้นขำจนตัวสั่น มีเพียงมินโฮที่ยืนเหวออยู่ข้างชายหนุ่ม อีกครั้งที่โทมัสรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป เขาเองก็ภาวนาอยากให้มันเป็นมุขตลก
       

      “นายเล่นมุขบ้าอะไรวะ?”มินโฮเอ่ย
       

      “โทษที ไม่ตลกเหรอ?”โทมัสเอ่ย
       

      “ปลวกเอ้ย นายนี่มันบ้าจริงๆหวะ”มินโฮเอ่ยก่อนจะกึ่งจูง กึ่งลากโทมัสไปสำรวจรอบๆทุ่ง เเล้วทั้งคู่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เสียด้วยว่านี่คือช่วงเวลที่ดีที่สุดเช่นกัน โทมัสเองเเทบไม่นึกถึงเทเรซาเลยสักนิด หรืออาจจะเป็นเพราะเขารู้ว่าเธอกำลังปลอดภัยอยู่กันแน่ก็ไม่รู้



      “อืม..เเต่ที่ทุ่งนี้ก็ดูเหมือนจะมีครบนะ”นิวท์เอ่ยพร้อมกับมองสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในทุ่ง ทั้งหมดล้วนเป็นสัตว์ที่ชาวทุ่งสามารถเลี้ยงดูเเละนำไปกินได้
       

      “เว้นเเต่ว่า มันก็น่าจะมีของอันตรายด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”โทมัสเอ่ยก่อนจะมองไปรอบๆอย่างคนชอบตั้งคำถาม เค้ามอง...เเละมอง…
       

      “บ้าเอ้ยนี่มันที่อะไรว้ะเนี่ย!”มินโฮสบถ
       

      “ฉันว่ามันอาจจะเป็นสถานที่ ที่โชคดีที่สุด ที่รอดพ้นจากไวรัสปลวกนั่นเเน่ๆ…”นิวท์เอ่ยก่อนจะก้มลงสังเกตทุ่งหญ้า เเละถ้าเค้ามองไม่ผิด สิ่งที่เขาจับอยู่คือต้นข้าว “อย่างน้อยมันก็มีต้นข้าวให้เราหละนะ” นิวท์เอ่ยซ้ำก่อนจะเดินเเยกไปทางอื่นเพื่อบอกกับชาวทุ่งที่เหลือว่า ส่วนนี้คือทุ่งข้าว


      “มินโฮ..”โทมัสเอ่ย
       

      “หือ?”
       

      “ฉันไม่มั่นใจเลยว่าที่นี่จะปลอดภัย…”โทมัสเอ่ยด้วยความกังวล เขาไม่อยากเสียเพื่อนไปอีกคนนึง เเค่ชัค กัลลี่ เเละ เบ็น เท่านี้มันก็มากเกินพอเเล้ว...เเละนั่นทำให้เขารู้สึกโมโหวิคเค็ดขึ้นมาจนเผลอกำมือของมินโฮจนเเน่น
       

      “เฮ้..ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังโมโหอะไร เเต่นายกำลังบีบมือฉันเเน่นเลยนะ ถ้าเดาไม่ผิดนายกำลังคิดอะไรกับฉันอยู่ใช่ไหม?”มินโฮเอ่ยเสียงหวาน โทมัสถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะดึงมือตัวเองออกมา
       

      “เฮ้ยย! ฉันเเค่ล้อเล่นเอง”
       

      “เเต่ฉันกำลังกังวล”โทมัสยังคงมีสีหน้าไม่สบายใจ
       

      “กังวลอะไรมีฉันอยู่ทั้งคนไหนจะนิวท์อีก มีพวกเราอยู่คนพวกนั้นก็ต้องปลอดภัย ที่สำคัญฉันไม่ทิ้งนายเเน่นอน…”มินโฮเดินไปขวางหน้าโทมัสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
       

      “ไม่ทิ้งฉัน?”โทมัสทวนคำ
       

      “เอ่อ ฉันหมายถึงนิวท์ด้วย นั่นเเหละ ชาวไร่คนอื่นๆด้วย”มินโฮเอ่ยก่อนจะเดินไปอีกทางเเก้เก้อ  กลับกันโทมัสกลับรู้สึกหัวใจเต้นเเรงอย่างหน้าประหลาด เขาไม่อาจควบคุมใบหน้าตัวเองได้...จนในที่สุดชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมา ทุกครั้งที่เค้ารู้สึกไม่สบายใจ มินโฮมักจะพูดให้เขารู้สึกดี เเละทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่ดูว่ายากนั้นง่ายนิดเดียว และเป็นเพราะส่วนนี้ของมินโฮที่ทำให้โทมัสรู้สึกชอบคนคนนี้มากๆ เขาคือผู้นำไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม…
       

      “มินโฮไปไหนซะหละ?”นิวท์ที่เพิ่งเดินกลับมาจากการบอกข่าวดีให้กับช่าวไร่เอ่ยขึ้นก่อนจะกอดไหล่โทมัสอย่างสนิทสนม พร้อมกันหันซ้ายหันขวาหาตัวผู้นำของพวกเขา
       

      “ไม่รู้สิ เดินเขินไปไหนแล้วก็ไม่รู้”โทมัสเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
       

      “เขินเหรอ? พวกนายเป็นแฟนกันจริงๆใช่ไหมเนี่ย”นิวท์คลายอ้อมเเขนที่พาดบ่าโทมัสออกก่อนจะหันมามองชายหนุ่มคนข้างๆด้วยสีหน้าตกใจ
       

      “เฮ้ นายจริงจังไปนะ”โทมัสเอ่ย
       

      “ใครจะไปรู้หละ อะไรก็เกิดขึ้นได้ นายที่เพิ่งเข้ามาในวงกตกลับกลายเป็นคนเเรกที่ฆ่าโศกา(กรีฟเวอร์)ได้ งั้นการที่นายจะเป็นเเฟนกับมินโฮก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยหละสหายเอ๋ย”นิวท์เอ่ยกลั้วหัวเราะ  เเว้บนึงที่โทมัสเกือบจริงจังไปกับคำพูดของนิวท์ เเต่เขาก็ยังรู้สึกว่าบางสิ่งไม่ถูกต้องอยู่ดี
       

      “บ้าหน่า ฉันเป็นคนจับหมอนั่นมาทรมานในวงกตนะ ถ้าหมอนั่นได้รับความทรงจำคือมาทั้งหมดอาจจะเกลียดฉันไปจนตายเลยก็ได้”โทมัสเอ่ยก่อนจะเหลือบมองมินโฮที่กำลังเดินฝ่าทุ่งหญ้ารกสูงกลับมายังทางตน
       

      “ก็อย่าให้เขาได้รับความทรงจำคืนสิ…”นิวท์เอ่ยเสียงเฉียบ
       

      “เฮ้ย…”โทมัสหันไปมองหน้านิวท์
       

      “ล้อเล่นนนนนน”นิวท์เอ่ยพร้อมกับหัวเราะลั่น จนโทมัสอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก็อดตกใจไม่ได้เหมือนกันทั้งที่เพิ่งผ่านสถานการณ์เลวร้ายมาเเท้ๆเเต่นิวท์กลับทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
       

      “คุยอะไรกันหนะ พวกนายดูสนุกกันเกินไปนะ”มินโฮเอ่ยก่อนจะใช้มีดเล่มใหญ่ฟันหญ้าที่ขึ้นรก แล้วจะเหงยหน้าขึ้นมองโทมัสเเละนิวท์
       

      “นินทานายหนะสิ่”นิวท์เอ่ย
       

      “ถ้านายอิจฉาฉันก็ควรบอกตรงๆนะนิวท์” มินโฮเอ่ยก่อนจะคลี่ยิ้มยียวน “จริงสิ่มาทางนี้สื่ฉันเจออะไรดีๆด้วย”มินโฮเอ่ยก่อนจะลากโทมัสเเละนิวท์ให้เดินตามไปด้วยกัน พวกเขากึ่งวิ่งกึ่งเดินไปตามทางที่มินโฮทำเอาไว้ ยิ่งใกล้จุดหมายโทมัสยิ่งสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง… ความเย็น ในขณะที่ยิ่งใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น เสียงของความเย็นก็เริ่มชัดเจน… มินโฮวิ่งเลี้ยวไปทางก้อนหินสูงก่อนจะค่อยๆเดินตามซอกหินยักษ์อย่างระมัดก่อนจะหยุดเดินแล้วหันไปทางต้นเสียงของความเย็น มันคือเสียงของน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงตามหน้าผาลงมาเป็นสาย น้ำตกบางส่วนก็กระทบกับก้อนหินจนเกิดประกายของเเสงรุ้ง
       

      “โห..การค้นพบที่ยิ่งใหญ่สินะ ไม่คิดว่าพวกวิคเค็ดจะเหลือสิ่งนี้ไว้ให้พวกเรา”นิวท์เอ่ย
       

      “เลิกพูดถึงพวกเพียกนั่นเถอะนะ พวกปลวกวิคเค็ด เเค่ได้ยินก็โมโห”มินโฮเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะถอนหายใจเซ็งๆ เค้าเป็นคนค้นพบมันไม่ใช่วิคเค็ดสักหน่อย


      “นายคงไม่คิดจะตั้งชื่อมันเป็นน้ำตกมินโฮสินะ?”นิวท์เอ่ย


      “ก็ดีนะ”มินโฮเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปตบบ่านิวท์เเทนคำขอบคุณ  


      “นายคิดว่ายังไง? โทมัส… เฮ้…”มินโฮเอ่ยก่อนจะสะกิดเข้าที่เเขนของโทมัสด้วยกำปั้นหนาของเขา


      “อา...เอ่อ อะไรนะ?”โทมัสหันไปหามินโฮความเจ็บแปล๊บเเล่นไปทั่วเเขน เเรงของมินโฮเริ่มเยอะเกินไปแล้วจนโทมัสเริ่มมีความคิดแผลงๆที่จะส่งมินโฮกลับเข้าวงกตอีกรอบ  แต่เเค่คิดก็คงจะดีกว่า…
       

      “เหม่ออะไรของนาย?  นอนจนเบลอหรือไง?” มินโฮเอ่ย และเป็นอีกครั้งที่โทมัสไม่สนใจฟังคำถามของมินโฮ เพียงเพราะน้ำตกนี่มันช่างสวยเหลือเกิน สวยจนอยากจะนอนที่นี่ถ้าไม่เหลือบไปเห็นตะขาบตัวเบ้งที่ข้างโขดหินยักษ์เสียก่อน

       


      พลั่กกก! ซ่า!

       


      “เฮ้ย มินโฮ ทำอะไรของนายว้ะ?!”โทมัสตะโกนลั่นเมื่อพบว่าร่างของตนลงไปนั่งกองอยู่ในน้ำเเล้ว
       

      “นายไม่ตอบฉันนี่หว่า”มินโฮเอ่ย
       

      “นายคิดว่าที่นี่จะมีปลาไหม?”นิวท์เอ่ยถามท่ามกลางการเถียงของทั้งคู่
       

      “ฉันว่าตอนที่ฉันโดนผลักลงไปฉันจับได้ตัวนึงด้วยนะ”โทมัสเอ่ยก่อนจะชูมือขวาที่กำปลาตัวหนึ่งไว้เเน่น เเละเเน่นอนเขาก็ภาวนาให้มันกินได้ด้วยเช่นกัน
       

      “เจ๋ง!! เอามานี่ฉันจะเอาไปให้ฟรายเเพนทำมื้อเย็นสำหรับพวกเรา”นิวท์เอ่ยก่อนจะรับปลาที่โทมัสโยนใส่ให้อย่างเเมนย่ำก่อนจะรีบวิ่งหายไปทันที
       

      “หมอนั่นวิ่งเร็วกว่าตอนอยู่ในวงกตอีก ให้ตายสิ่”มินโฮเอ่ย  ก่อนจะถอดรองเท้าของตนเองเเล้วนั่งลงบนโขดหินก่อนจะค่อยๆเเช่เท้าของตนลงในน้ำ ความเย็นเเผ่กระจายไปทั่วร่างเเละมันทำให้เขารู้สึกสดชื่นเเละสงบลง
       

      “นายรู้ไหม…”โทมัสเอ่ย
       

      “หือ?” มินโฮเอ่ยตอบก่อนจะหันไปมองโทมัสที่ค่อยๆลุกขึ้นมาจากน้ำมานั่งบนโขดหินตรงข้ามกับเขา
       

      “ฉันยังไม่เเน่ใจเลยว่าเราจะอยู่อย่างสงบสุขไปถึงเมื่อไหร่.. ฉันไม่รู้ว่าตอนไหนที่โศกาจะกลับออกมา เเล้วเอาพวกเราไปอีก หรือว่าตอนไหนที่นายจะโดนมันต่อย…”โทมัสเอ่ย
       

      “เฮ้ แต่เวลานั้นมันยังมาไม่ถึงไม่ใช่เหรอนายจะกังวลทำไมเพื่อน”มินโฮเอ่ยเสียงสูง พลางนึกในใจว่าเพื่อนเขาเป็นคนขี้กังวลตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน
       

      “แต่มันก็อดคิดไม่ได้ ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันก็มีเเต่ฝันร้าย ฝันว่าพวกนายตายจากไปบ้าง ฝันว่านายที่ได้รับความทรงจำคืนมาเเล้วเกลียดฉันเป็นบ้าเป็นหลัง ฝันว่าชาวทุ่งทุกคนต่างโทษว่าทั้งหมดนี่คือความผิดฉัน”โทมัสระบายความในใจออกมาจนหมด คำพูดของเขาเร็วเเละรัวอย่างที่มินโฮไม่เคยเห็นมาก่อน เเละไหนจะร่างของโทมัสที่กำลังสั่นเทาอยู่ตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังหนาว หรือกลัวกันเเน่


      “มันจะต้องไม่เป็นไรโทมัส เชื่อฉันสิ ฉันเป็นเพื่อนนายนะ ฉันไม่ทิ้งนายไปไหนด้วย ช่าวมทุ่งคนอื่นๆก็ด้วย”มินโฮเอ่ยก่อนจะตรงเข้าไปสวมกอดเพื่อนของตน มือหนาที่เคยใช้เป็นกำปั้นชกหยอกคนตรงหน้าเวลาที่โทมัสเหม่อลอยเปลี่ยนมาเป็นมือแสนอบอุ่นที่คอยลูบปลอบโยนเเทน เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโทมัสจะอ่อนไหวได้ถึงเพียงนี้


      “อือ…”โทมัสตอบสั้นๆ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะค่อยๆหยุดสั่นจนตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขารู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า ทำไมต้องมาหน้าเเดงตอนนี้ด้วยนะ โทมัสนึกโทษตัวเองในใจ ก่อนจะกระแอมออกมาเบาๆ


      “โทษที ฉันคงไม่ได้กอดนายเเรงไปอีกใช่ไหม?”มินโฮเอ่ย


      “ม...ไม่..เอ่อ...ฉันหมายถึงว่า ก็นิดหน่อย”โทมัสเอ่ยเสียงติดขัด ทำไมเขาถึงรู้สึกเขินขนาดนี้ก็ไม่รู้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าการกอดกับผู้ชายมันเป็นสิ่งที่ดูเงอะงะกันเกินไปนะ?


      “อ่อโทษที…”มินโฮเอ่ยก่อนจะเงียบไป อีกครั้งที่ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ มินโฮเหลือบมองโทมัสที่นั่งปาก้อนหินลงบนผืนน้ำเล่น แสงของตะวันที่กำลังจะลับขอบผาสองสว่างตกลงมายังโทมัส เขารู้สึกว่าเพื่อนคนนี้ช่างเปราะบางเหลือเกิน จนต้องรักษาไว้ไม่ให้เขาเเตกหักไปมากกว่านี้ ไม่ให้เขารู้สึกว่าถูกหักหลังหรืออะไรทำนองนั้น  รู้ตัวอีกทีเขาก็เป็นห่วงเพียงเเค่โทมัสเสียเเล้ว


      “ฉันว่าตอนนี้…”มินโฮตัดสินใจเป็นคนเริ่มบทสนทนาหลังจากที่พวกเขานั่งเงียบกันมานาน


      “ฉันรู้สึกกับนาย...แบบ..ยังไงดีอะ..มันแปลกหวะ”มินโฮเอ่ยก่อนจะเอียงหัวไปมา ราวกับว่ากำลังคุยกับตัวเองอยู่ด้วยในขณะที่พูดออกไป ก่อนจะเงยหน้ามองโทมัส


      “แปลกๆ?...กับฉัน?”โทมัสเอ่ยใบหน้าของร้อนวูบอีกครั้ง


      “ใช่...มันเหมือนกับว่า...เวลาอยู่กับนาย...ฉันก็ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว”มินโฮเอ่ยเสียงจริงจัง


      “น..นาย..หมายความว่าไง?”


      “ฉันว่าฉัน...ช…”


      “นายทำไม?”โทมัสใจเต้นเเรง


      “ฉัน…”


      “....”โทมัสเงียบเพื่อรอฟังคำตอบ


      “นายหน้าเเดงมากเลยนะโทมัส เรากลับไปที่จุดรวมของพวกชาวทุ่งเถอะ เผื่อนายจะไม่สบาย”มินโฮเปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนจะออกเดินไปตามซอกโขดหินยักษ์เพื่อจะกลับไปยังจุดรวมของชาวทุ่ง


      “อืม...ฉันก็ว่างั้นเเหละ” เป็นอีกครั้งที่โทมัสถูกหลอกให้เชื่อโดยมินโฮ เขาคงกำลังไม่สบายจริงๆอย่างที่มินโฮพูดก็ได้ โทมัสบอกกับตัวเองในใจทั้งที่เขารู้ตัวดีกว่ากำลังข่มความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ไม่มันให้เติบโตในหัวใจไปมากกว่านี้



      “นายก็ไม่ได้มีไข้นี่ เเถมไม่เห็นจะหน้าเเดงตรงไหน”วินสตั้นเอ่ยใบหน้างุนงง เขาพยายามใช้มืออังหน้าผากของโทมัสครั้งเเล้วครั้งเล่ามันก็เย็นเชียบราวกับเขาเพิ่งลงไปแช่น้ำเย็นมา


      “งั้นเหรอ… งั้นฉันว่า ฉันคงหายดีเป็นปกติหลังจากที่เดินกลับมาจากน้ำตกละมั้ง…”โทมัสเอ่ยก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆนิวท์ พร้อมกับปลาที่ถูกแบ่งเสียบเป็นไม้ หลังจากที่พวกเขากลับมายังน้ำตกพวกชาวทุ่งก็ต่างเดินทางไปจับปลามากินเป็นอาหารเย็นกันดังนั้นตอนนี้ก็เหมือนกับปาร์ตี้บาร์บีคิวขนาดย่อม โดยมีวัตถุดิบหลักคือปลา


      “ไง….เหนื่อยหน่อยนะ”นิวท์เอ่ยทักทายโทมัสราวกับว่าพวกเขาเพิ่งเคยเจอกันครั้งเเรก


      “อืม… นึกถึงวันแรกที่ฉันมาถึงที่นี่เลย วันนั้นเรานั่งกันอยู่ข้างหน้าวงกตสินะ ใช่ไหม?”โทมัสเอ่ย  นิวท์พยักหน้ารับก่อนจะเหม่อมองไปยังทุ้งหญ้ากว้าง


      “ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนจะเข้ากับใครไม่ได้เเล้วด้วยซ้ำ…”โทมัสเอ่ยก่อนจะหันไปมองทางเดียวกับนิวท์ เขามองเห็นหิ่งห้อยนับร้อยลอยไปมาราวกับภูติน้อย


      “โดยเฉพาะกับมินโฮ”โทมัสสารภาพ ทำเอานิวท์ถึงกับหันกลับมามองอีกฝ่าย


      “ทำไมหละ?”


      “ไม่รู้สิ่ กับกัลลี่ฉันยังรู้สึกว่าเขาดูน่าจะพูดกันง่ายกว่ามินโฮอีกตอนนั้น”โทมัสหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหลับไปมองมินโฮที่กำลังสังเกตการณ์เพื่อความปลอดภัยให้กับชาวทุ่ง


      “แต่ดูเหมือนตอนนี้พวกนายจะพูดกันเป็นต่อยหอยเลยนะ”นิวท์เอ่ยก่อนจะตบบ่าโทมัส “ถึงคิวฉันเฝ้าเวรละ ขอตัวหละนะ” นิวท์เอ่ย ก่อนจะเดินตรงไปยังมินโฮเเล้วพูดกระซิบอะไรกันสักอย่าง มินโฮได้เเต่พยักหน้ารับหน้าเครียด เหมือนกับเขาต้องการให้นิวท์พักผ่อนต่ออีกนิด เเต่ก็ต้องยอมเเพ้เมื่อนิวท์ทำท่าเหมือนจะดุเขา มินโฮตัดสินใจเดินมานั่งลงข้างๆโทมัส


      “ไง..”


      “ทำไมต้องทักทายเหมือนเราไม่ได้เจอกันตั้งนานด้วยหละ?”มินโฮเอ่ยก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเต็มที่


      “โทษที นายกินอะไรยังหละ?”โทมัสเอ่ย


      “ยังเลย นั่นปลาที่นายจับมาได้ใช่ไหม?”มินโฮเอ่ยก่อนจะหยิบปลาในจานขึ้นมากิน

      “อร่อยไหมหละ?”


      “รสชาติดีนี่ สมกับที่ฉันลงทุนผลักนายลงไปจับ”มินโฮเอ่ย ทั้งสองใช้เวลาพักผ่อนพูดคุยกันเสียส่วนใหญ่ โทมัสรู้สึกดีใจที่ตอนนี้เขาได้มีเพื่อนที่ดีอย่างมินโฮ เพื่อนที่ไว้ใจได้ เเละเพื่อนที่เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะสนิทสนทกันถึงเพียงนี้ เพื่อน..ที่เขาต้องพยายามข่มใจเอาไว้ว่าเป็นได้เเค่เพื่อน การพูดคุยดำเนินไปอย่างรวดเร็วเสียจนน่าตกใจโทมัสรู้สึกง่วง เเละผล็อยหลับไป การที่เขานอนมาถึง 1 อาทิตย์นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายได้ฝื้นฟูเลย  มินโฮที่เห็นว่าเพื่อนของตนหลับก็ได้นำผ้าห่มนำมาห่มให้ร่างของโทมัสที่กำลังขดเพราะความหนาว


      “ทำไมนายไม่อุ้มหมอนั่นเข้าไปนอนในที่พักดีๆหละ?”นิวท์ก่อนจะหันไปมองตึกที่ตั้งตระหง่านสูงอยู่กลางทุ่งหญ้า ตึกที่พวกเขาเพิ่งจะเดินออกมากันเมื่อเช้า


      “จะให้ฉันอุ้มหมอนี่เนี่ยนะ? นายไม่คิดบ้างเหรอว่ามันจะตลก เราควรประคองเขากันคนละข้างไม่ใช่เหรอไง?”มินโฮเถียงหน้าชา


      “โอ้ โทษทีเพื่อนตอนนี้ฉันติดเวรเฝ้ายามอยู่ คนอื่นๆก็ด้วย ฝากด้วยหละ”


      “เฮ้ นิวท์ เฮ้ย!”มินโฮตะโกนไล่หลังนิวท์ด้วยเสียงกระซิบเพราะกลัวโทมัสตื่น เขากัดฟันกรอดด้วยความโมโห ก่อนจะหันกลับไปมองร่างของโทมัสที่ขดอยู่ในผ้าห่ม “เอาว้ะ!” มินโฮเอ่ยก่อนจะนับ หนึ่งถึงสามในใจเเล้วพยุงร่างของโทมัส


      “นายจะเบาไปแล้วนะ”มินโฮเอ่ย เเต่ไร้ซึ่งการตอบรับจากโทมัส เขากึ่งลากกึ่งพยุงโทมัสจนเช้าไปในประตูเหล็กยักษ์ของตึกสูงกลางทุ่ง สิ้นเสียงประตูเหล็กยักษ์ปิดลง มินโฮค่อยๆพยายามช้อนตัวโทมัสขึ้นมาในอ้อมแขน


      “ประหลาดสุดๆ  จำไว้นะนิวท์!”มินโฮ กัดฟันกรอด ก่อนจะค่อยๆอุ้มโทมัสขึ้นบันไดทีละขั้นอย่างระมัดระวัง


      “ทำอะไร?!! ปล่อยฉันนะโว้ย!!”อยู่ดีๆโทมัสก็ลืมตาโพล่งเเล้วร้องลั่นพร้อมทั้งเด้งตัวเองมาจากอ้อมเเขนของมินโฮ มือของเขาปัดป่ายไปทั่วเเละพลาดโดนมินโฮจนชายหนุ่มเซถลาตกบันไดกลิ้งไปกระเเทกกับผนังเหล็กดังสนั่น


      “โอย….เป็นบ้าอะไรของแกว้ะ!”มินโฮตะคอกก่อนจะค่อยคลำท้ายทอยของตัวเองที่ตอนมันเจ็บจี๊ดราวกับถูกทุบ


      “เฮ้ย.. มินโฮฉันขอโทษ ฉันนึกว่าพวกนั้นมาเอาตัวฉันไปอีก”โทมัสเอ่ยก่อนค่อยๆเดินไปหามินโฮช้าๆเเล้วพยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้นยืน


      “นายมันขี้ระแวงเกินไปแล้วนะ”


      “มินโฮ..นายเลือดออก”


      “ปลวกเอ้ย!!!”มินโฮสบถออกเมื่อพบว่ามือข้างที่ตนใช้คลำถ้ายทอยมีเลือดติดมือมาด้วย


      “ฉันขอโทษ...ขอโทษจริงๆ”


      “ช่างเถอะ”มินโฮเอ่ยก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้องส่วนกลางที่พวกเขาใช้กินข้าวกันเมื่อเช้าหวังว่าจะพบกล่องยาอยู่บ้าง เเละนี่ก็เป็นครั้งเเรกที่เขารู้สึกขอบคุณวิคเค็ด


      “ดูเหมือนพวกเเกก็ยังไม่อยากให้ฉันตายสินะ”มินโฮพึมพำกับตัวเองก่อนจะเเกะกล่องปฐมพยาบาลออกมา เเต่ก็มีมือหนึ่งมาคว้ากล่องเอาไว้  “อะไรอีกหละ?”มินโฮเอ่ยพร้อมกับมองหน้าโทมัสเซ็งๆ


      “ฉันทำเเผลให้เอง”โทมัสก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงมินโฮไปยังห้องของตน ก่อนจะค่อยๆล้างเเผล ทายา เเละจัดเเจงผ้าพันเเผลให้เข้าที่


      “ฉันเกลียดผ้าพันหัวปลวกๆนี่ มันทำให้ฉันดูโง่…”มินโฮพร้อมกับหันไปมองบานกระจกที่สะท้อนภาพตัวเองที่มีผ้าพันแผลโง่ๆพันอยู่รอบหัว


      “ก็ดีกว่าปล่อยให้เลือดนายไหลหมดหัวนะ”โทมัสเอ่ย มินโฮขมวดคิ้วอย่างเถียงไม่ได้  “ขอบใจ” เขาเอ่ยขอบคุณโทมัสก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ


      “ว่าเเต่นายจะลากฉันขึ้นมาดีๆไม่ได้เหรอไง ปลุกก็ได้ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย”โทมัสเอ่ย


      “ฉันไม่อยากรบกวนนายนี่หว่า”มินโฮเอ่ย “ช่างมันเถอะนอยก็นอนพักผ่อนได้เเล้ว” มินโฮเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปล้างมือที่เปื้อนเลือดของเขาในห้องน้ำ


      “ไม่เป็นไร ฉันไม่นอนดีกว่า ฉันว่าจะลงไปผลัดเวรกับนิวท์”โทมัสเอ่ย ในขณะที่เขาเองก็รู้สึกอ่อนเพลียมากเช่นกัน เพราะฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเขา มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับไม่ได้พักผ่อนเเม้เเต่นิดเดียว


      “ไม่ นายต้องนอน ต่อไปเป็นเวรของวินสตันดังนั้นนายควรนอน”มินโฮเอ่ยก่อนจะชะโงกหัวมาจากห้องน้ำ


      “แต่..”


      “แต่อะไร?”มินโฮเริ่มหงุดหงิด


      “ฉันรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”โทมัสเอ่ยก่อนจะลุกออกจากห้อง มินโฮที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็กระชากโทมัสเเล้วจับเขานอนลงบนเตียง


      “นอนซะ! พรุ่งนี้นายได้ทำอะไรหลายอย่างเเน่ เเค่พักผ่อนเเค่นี้มันจะตายรึไง?”มินโฮกัดฟันกรอด เขาพยายามข่มความโมโหเอาไว้ เเละที่เขาโมโหก็เพราะเป็นห่วงโทมัสเขาต้องการให้เพื่อนคนนี้ได้พักผ่อน


      “เฮ้.. ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย”

      “หุบปากปลวกๆของแก แล้วนอนซะ!”มินโฮเอ่ยเสียงแข็ง


      “นายเป็นบ้าอะไรว้ะ ฉันไม่ใช่เด็กๆนะโว้ย!”โทมัสเถียง พร้อมกับพยุ่งตัวเองลุกขึ้นจากเตียงเเต่มินโฮกลับเอาเเขนหนาบังเอาไว้ไมให้เขาลุกขึ้น ก่อนจะกดเขาลงบนเตียงอีกครั้ง


      “หรือแกอยากจะเป็นภาระของเพื่อน?  แกก็รู้ตัวเเกดีนี่ว่าร่างกายของแกเป็นยังไง!”มินโฮเริ่มขึ้นเสียง


      “ฉันรู้ตัวฉันดีหน่า ทำไมนายต้องมายุ่งด้วย!”


      “ฉันเตือนให้นายหุบปากเเล้วนะโทมัส”มินโฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน


      “นายจะทำไม ห๊า?”


      “โทมัสนอนซะ”


      “ไม่”


      “โทมัส…”


      “ฉั…..!!!!!!”ยังไม่ทันที่โทมัสจะได้พูดอะไร ปากของเขาก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของมินโฮ  หัวของโทมัสว่างเปล่าไปหมดเหมือนทุกอย่างมันเป็นสีขาวโพลนเขาควรทำอย่างไรต่อไปดี? หากเพียงได้เเต่คิดร่างกายและความรู้สึกของเขาสนองตอบกลับไปอย่างอัติโนมัติ โทมัสหลับตาลงรับจูบนั้น มือของเขาโอบรอบท้ายทอยของมินโฮอย่างลืมตัว ก่อนที่จูบนั้นจะร้อนเเรงขึ้นเรื่อยๆ….


      “นอนซะโทมัส ฉันขอร้อง” มินโฮค่อยๆถอนจูบออกมาเเล้วกระซิบบอกโทมัสอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงที่เขาเพิ่งเคยได้ยินจากมินโฮเป็นครั้งเเรก  โทมัสพยักหน้ารับช้าๆก่อนพลิกตัวหันไปอีกทางใบหน้าของเขาร้อนวูบอีกครั้ง และหัวใจที่เต้นเเรงกว่าที่เคย


      “ดีมาก” มินโฮเอ่ย ก่อนจะหันไปมองโทมัสที่พลิกตัวหนีไปอีกข้าง  ไม่มีคำถามจากโทมัสว่าทำไมเขาถึงอย่างนั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาเองก็ไม่มีคำตอบให้เหมือนกัน… มินโฮค่อยๆเดินออกจากห้องไปเช่นเดียวกับโทมัสที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของมินโฮค่อยๆเดินหายออกไป ตอนนี้เขาต้องการพักผ่อนอย่างจริงจัง โทมัสตัดสินใจโยนเรื่องก่อนหน้านั้นทิ้งไปก่อนจะจมลงสู่ห้วงนิทราที่ว่างเปล่า...
       

      มินโฮที่เดินกลับมายังห้องของตนสัมผัสได้ถึงความเจ็บแปล๊บที่ท้ายทอยจากเเรงกอดของโทมัส เเต่นั่นก็ไม่ทำให้เขาสงสัยเท่าการกระทำก่อนหน้าของตน นี่หมายความว่าอย่างไร? ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าอยากปฏิบัติกับโทมัสราวกับคนรัก เขาควรหลอกตัวเองต่อไปดีงั้นหรือ?


      “เฮ้อ…”มินโฮถอนหายใจออกมา ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงของตน ก่อนจะผลอยหลับไป

      “มินโฮ เฮ้ มินโฮ..”เสียงของโทมัสดังเข้าไปในความฝันอันมืดมิดของมินโฮ ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะพลิกตัวไปฝั่งแต่เสียงของโทมัสก็ยังคงดังก้องอยู่ในความฝันของเขา ไม่นานความเจ็บจี๊ดก็เเล่นแปล๊บไปทั่วท้ายทอยของเขา จนมินโฮถึงกับลืมตาโพล่ง


      “เฮ้ย...นายโอเคนะ?”โทมัสเอ่ย


      “อืม…”มินโฮพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะจับผ้าพันเเผลที่ชุ่มเลือด


      “ดูเหมือนเราต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลอีกแล้วเเหละ..ฉันไปตามคนอื่นมาช่วยดีกว่า ดูเหมือนว่าฉันยังทำมันได้ไม่ดีพอแหะ..” โทมัสเอ่ยก่อนจะค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก แต่เเล้วก็ต้องหยุดเมื่อมินโฮจับมือที่กำลังเเกะผ้าพันแผลของเขาเอาไว้


      “มีอะไรเหรอ?”


      “ฉันอยากให้นายเป็นคนทำแผลให้”มินโฮเอ่ย โทมัสรู้สึกจั๊กจี้กับคำพูดนั้น แต่ใบหน้าของเขาก้ร้อนผ่าวเช่นกัน


      “อ..อืม..”โทมัสเอ่ยก่อนจะค่อยๆแกะผ้าพันแผลนั่นต่อไปการทำแผลหนนี้เต็ฒไปด้วยความเงอะงะและประหม่า ยิ่งโทมัสพยายามลืมเรื่องของเมื่อวานเท่าใด เเต่พอได้เห็นหน้าของมินโฮเรื่องวันนั้นก็ยิ่งเข้ามารบกวนจิตใจเขาเรื่อยๆ


      “ดูเหมือนว่านายจะพันแผลทั้งที่ยังไม่ได้ใส่ยาให้ฉันนะ”มินโฮเอ่ย


      “บ้าเอ้ย...ฉันขอโทษ”โทมัสเอ่ยก่อนจะรีบเเก้ผ้าพันแผลใหม่อีกครั้ง

      “นายเหม่อลอยนะ”มินโฮเอ่ย


      “เหรอ? ก็นิดหน่อย… สงสัยจะนอนเยอะไป”โทมัสเอ่ย


      “เพราะเรื่องเมื่อวานหรือเปล่า?”มินโฮเอ่ย โทมัสถึงกับหยุดชะงักก่อนจะกระแอมออกมาเบาๆ “อืม..ก็
      นิดนึง” เขาเอ่ยพร้อมกับค่อยๆใช้ยาเเต้มลงบนแผลของมินโฮ


      “ฉันทำให้นายไม่สบายใจหรือเปล่า?”มินโฮเอ่ยเสียงเครียด โทมัสไม่ตอบอะไร ในใจของเขากำลังกระอักกระอ่วนอย่างมาก ถ้ามากกว่าเขาต้องอาเจียนออกมาเป็นเเน่


      “ว่ายังไง?”มินโฮเร่งเร้า “ถ้านายไม่ตอบฉันจะถือว่านายไม่สบายใจกับสิ่งที่ฉันทำก็เเล้วกันนะ”มินโฮเอ่ยก่อนจะลุกพรวดเดินออกไปทางที่โทมัสยังทำแผลให้เขาไม่เสร็จ


      “เดี๋ยว มินโฮ นายยังไม่ได้พันแผลเลย”โทมัสพยายามเปลี่ยนเรื่อง


      “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้นิวท์กับวินสตันช่วยก็ได้”มินโฮเอ่ยโดยที่ไม่หันกลับมามองโทมัส  ไม่รู้ทำไมหัวใจของทั้งคู่ถึงได้รู้สึกเหมือนถูกบีบด้วยภูเขาลูกใหญ่ มันหนึกอึ้งเเละช่างอึดอัด โทมัสมองเเผ่นหลังมินโฮที่ค่อยออกไปจากห้อง เขาไม่ต้องการแบบนี้ ไม่ใช่เเบบนี้!


      “ฉันไม่ได้รู้สึกดีหรอกนะ!”โทมัสเอ่ย มินโฮแทบจะหยุดเดินทันทีหัวใจของเขาถูกบีบเเน่นยิ่งกว่าเดิม เขาทำให้โทมัสไม่สบายใจแล้วสินะ เขาไม่สามารถอยู่ข้างโทมัสได้เหมือนเดิมเเล้วสินะ ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวของมินโฮ


      “ต..แต่ว่า…”โทมัสเอ่ย


      “แต่อะไร?” มินโฮหันกลับไปเผขิญหน้ากับความจริงจากปากของโทมัส


      “มัน..ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร..”โทมัสพูดความจริงออกไป


      “นั่นหมายความว่าเรากำลังใจตรงกันอยู่หรือเปล่า?”มินโฮเอ่ยถามโทมัส ความตื่นเต้นกับคำสารภาพตรงหน้ามันทำให้เขาลืมความเจ็บปวดที่ท้ายทอยไปเสียสนิท ความหวังของเขาที่จะมีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนจะเป็นไปได้ไหม


      “ฉันก็ยังพูดอะไรไม่ได้นะ”โทมัสเอ่ยก่อนจะเงยหน้าสบตามินโฮ


      “แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะเกลียดนาย… ฉันกลัวด้วยซ้ำว่านายจะเกลียดฉัน”โทมัสเอ่ย


      “ฉันเป็นห่วงนายจนเเทบจะบ้าตายให้ได้ เเล้วฉันจะเอาส่วนไหนของความรู้สึก หรือเเม้เเต่สว่นไหนของหัวใจไปเกลยีดนายลงละห๊า?”มินโฮเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปหาโทมัส “ฉันชอบนาย...และฉันหวังว่านยจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน”มินโฮสารภาพออกไปตรงๆ เขารู้สึกว่ายังไงครั้งนี้ก็ต้องมีใครสักคนกล้าได้กล้าเสีย เเละเค้ายอมเป็นคนนั้น เเม้จะถูกปฏิเสธเขาก็จะยังไม่ทิ้งโทมัสไปไหนเเน่นอน
       

      “.......”โทมัสนิ่ง
       

      “ฉันไม่อยากกดดันนายนะ เเต่ฉันชอบนายจนจะเป็นบ้าเเล้วจริงๆ”
       

      “ฉัน…”
       

      “ตกลงนายจะชอบฉันได้ไหม?”
       

      “....”โทมัสนิ่ง  ทำเอามินโฮถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  หมดหวังเเล้วสินะ มินโฮคิด
       

      “อืม..ฉันชอบนาย”โทมัสโพล่งขึ้นมาก่อนจะคลี่ยิ้มให้กับมินโฮ อย่างน้อยตอนนี้เขาทั้งสองก็หาทางออกจากเขาวงกตความรู้สึกนี้ได้เเล้ว เขาวงกตที่พวกเขาต่างตั้งใจพากันเดินหลงอยู่ตั้งนาน เเต่ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเขาจะออกจากเขาวงกตมาสู่ความจริงด้วยกันเเล้วอีกครั้ง




      จบ.


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×