คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : MAZE : CHAPTERS 2
CHAPTERS 2
มินโฮขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของจินอู คอนโดระดับห้าดาวที่มีผู้บริหารจากตำแหน่งกลางไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงอยู่ บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าผู้จัดการศิลปินธรรมดาๆจะมาอาศัยอยู่ที่นี่
จินอูไม่ใช่แค่ผู้ชายธรรมดาที่มาทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง บ้านจินอูอยู่เกาะเชจู เรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีของเกาะเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยความที่จินอูเป็นคนมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำอะไรก็ต้องทำแบบนั้น แม้ว่าตอนแรกแม่ของเขาจะไม่เห็นด้วยกับการมาทำงานแบบนี้ แต่เขาก็ขัดใจแม่มาจนได้ ทะเลาะกันเป็นเดือนๆ สุดท้ายแม่ก็ยอมกลับมาพูดกับเขาเหมือนเดิม ต้องยกความดีความชอบให้มินโฮด้วยล่ะมั้ง
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนเรียนมหาลัยด้วยกัน เรียนคณะเดียวกัน ตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ มินโฮเคยไปบ้านจินอูอยู่หลายครั้งจนสนิทกับทุกคนราวกับเป็นอีกคนในครอบครัว กว่ามินโฮจะเกลี้ยกล่อมให้แม่ของจินอูใจอ่อนและยอมรับได้ก็ไม่ง่ายเลย แต่ก็สำเร็จล่ะนะ
“ปะ ขึ้นห้อง”
“หืมมมมมมมมมม”จินอูลากเสียงยาว หันไปมองคนข้างๆ “ขึ้นห้องอะไร”
“เอ้า ก็ถึงห้องแล้วไง ขึ้นห้องกัน ^^”พูดพลางส่งสายตาแพรวพราว
จินอูย่นจมูกก่อนจะปลดสายนิรภัยออกจากตัว หันไปยิ้มหวานตอบอีกคนก่อนจะจัดการเขกหน้าผากมินโฮอย่างแรง “อย่ามาเพ้อเจ้อ กลับไปได้แล้วไป”
“โห่จินอูอ่ะ นายไม่ให้ฉันไปมีซัมติงกับใครก็ไม่ไปแล้วไง ใจคอจะทรมานกันให้ตายเลยใช่ไหม”
“...”
“ฮะๆๆๆ ตอบมาเด่ะ”
จินอูขบริมฝีปากบางเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “พรุ่งนี้มีงานเช้า อีกอย่างจินฮวานก็อยู่ด้วย ไม่ต้องขึ้นไปหรอก กลับห้องนอนได้แล้ว”
“ขึ้นด้วย จะไปหาไอ้ตัวเล็ก”
“วันหลังเถอะ”
“แต่..”
“พูดให้รู้เรื่องเหอะว่ะ”จินอูพูดเสียงเข้ม เปิดประตูลงจากรถ “ไปละ พรุ่งนี้ตีห้าเจอกัน อย่าเลทนะ”
“อ่ะๆ”มินโฮพยักหน้ารับ โบกมือลาอีกฝ่ายแล้วขับรถออกไป
จินอูมองตามจนลับสายตา สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ..ความสัมพันธ์ของจินอูกับมินโฮคือสิ่งที่อธิบายได้ยาก จะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ จะเป็นคนรักก็ไม่เชิง เมื่อไหร่ที่มินโฮเหงา เขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการระบายความเหงา และเขาเองก็บ้าพอที่จะยอมให้มันเป็นแบบนั้น
หน้าที่ของผู้จัดการเหรอ
ก็เปล่า
...
สำหรับจินอูมินโฮคือความรัก แต่สำหรับมินโฮ
แค่เซ็กซ์
เหตุผลที่ทำให้จินอูมาอยู่ตรงนี้ ยอมทะเลาะกับแม่ ยอมขัดใจแม่ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็เพื่อมาอยู่ใกล้ และได้ดูแลมินโฮ จินอูรู้ว่ามินโฮรู้ แต่เขาทำเป็นไม่รู้ และบังคับให้ความสัมพันธ์มันกลายเป็นแค่
เพื่อน.. เพื่อนร่วมเตียงเท่านั้น
จินอูส่ายหัวไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป เมื่อขึ้นมาถึงห้องก็กวาดสายตามองหาน้องชายที่ตอนนี้เขารู้สึกผิดด้วย จินฮวานที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเช็ดผมออกมาจากห้องพร้อมกับส่งยิ้มให้พี่ชาย
“ทำไมพี่กลับดึกจังอ่ะ”
“ตามไอ้ตัวพ่ออ่ะดิ โคตรเหนื่อย”จินอูพูดเนือยๆ แล้วเดินไปใกล้จินฮวาน “พี่ขอโทษจริงๆนะเว้ย พี่นี่เป็นพี่ที่โคตรแย่จริงๆ น้องมากลับไม่ได้ดูแล แถมยังลืมอีก”
“พี่อย่ารู้สึกผิดขนาดนี้ดิ มันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีด้วย”จินฮวานพูด กระโดดขึ้นไปนั่งบนโซฟา
“แจบอมมันมาส่งดีใช่ไหม ไม่ได้ทำไรใช่เปล่า”
“ที่จริงไม่ใช่เขานะ”
“หืม?”
“พี่จุนฮเวมาส่งอ่ะ”
“ไอ้จุนฮเวอ่ะนะ!!! มันเกือบจะปล้ำแกนะเว้ยจินฮวาน แกกล้ามากับมันได้ไง”
“เฮ้ยพี่ ก็มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมว่า..”จินฮวานพูดเสียงดังในตอนแรกแล้วพึมพำในตอนหลัง “เขาก็ดูโอเคออก ดูนิสัยดีนะ”
“นิสัยดีกับผีอ่ะดิ แกยังไม่รู้จักมันดีพอเว้ย เฮ้อ เอาเป็นว่าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ไม่ได้ยินที่ชานอูมันพูดเหรอ ลูบไปแล้วไม่เจอหาง มันก็เอาหมดแหละ”
จินฮวานหัวเราะ ไม่ได้เถียงอะไรออกมาเพราะมันก็จริง เขายังรู้จักจุนฮเวได้ไม่นาน ถ้าเทียบกับคนในวงหรือพี่ชายของเขาที่ดูน่าจะรู้จักกันดี
ตราบใดที่จุนฮเวไม่มารุ่มร่าม ทำสายตาแพรวพราวใส่ก็น่าจะพอคบได้อยู่นะ..
“พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานตั้งแต่ตีห้าอ่ะ จะไปไหนหรือเปล่า”
“ผมว่าจะไปหางานทำระหว่างรอเรียนอ่ะพี่ กว่าจะเปิดเทอมก็ตั้งเดือนหน้า”จินอูมองน้องชายด้วยสีหน้าเป็นกังวล ซึ่งจินฮวานดูออก “พี่จินอู ผมอายุยี่สิบแล้วนะ แล้วก็แข็งแรงดีด้วย ผมดูแลตัวเองได้ดี ไม่ป่วยมาหลายเดือนแล้วนะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
“มันก็อดไม่ได้อยู่ดีนี่หว่า”
“มั่นใจในตัวผมสิพี่ เอางี้ ถ้าหากผมเป็นอะไร ผมจะรีบบอกพี่เลย”
“แค่เป็นหวัดก็ต้องบอกเลยนะ”
“อ่าฮะ”
“ดีมาก ไอ้หมาน้อยของพี่”
“^^”
สถานที่ถ่ายทำเอ็มวีตัวใหม่ล่าสุดของ MAZE คือสวนฮงแด ในตอนเช้าซึ่งไร้ผู้คน ซะที่ไหน
ขนาดเลือกถ่ายตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ก็มีแฟนๆมารอเกือบร้อยคนได้ ทำเอาไอ้วงที่มั่นหน้ากันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยืดอกกันเป็นแถว แต่ยังดีที่แฟนๆของ MAZE อยู่กันอย่างมีระเบียบ ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายอะไร การถ่ายทำเลยเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้แบบไม่มีอะไรติดขัด
“จินอู แล้ววันนี้มีงานไรต่อปะเนี่ย ผมง่วงนอนอ่ะ เมื่อคืนได้นอนไปสองชั่วโมงเอง”จุนฮเวเอ่ยถามผู้จัดการหน้าสวยที่หอบขวดน้ำสี่ขวดมาวางที่โต๊ะโดยไม่มีใครช่วยสักคน แม้แต่ตัวเขา
เหอะๆ
“แจบอมวันนี้มีรายการของเอ็มบีซีตอนบ่ายโมง เดี๋ยวถ่ายตรงนี้เสร็จก็ไปได้เลย”
“...”แจบอมเงยหน้ามองผู้จัดการที่บอกตารางงานแต่ไม่ได้พูดอะไร เป็นเชิงว่ารู้กัน
“ชานอู ตอนบ่ายสองมีสอบ ไปเข้าสอบด้วย ฉันไม่ได้ลาให้แก”
“โห่ แล้วผมจะสอบได้ไงอ่ะ หนังสือหนังหาไม่ได้อ่าน”
“ฉันให้เวลาแกไปแล้วเมื่อวันก่อน แต่แกเจ๋อไปเที่ยวเพราะงั้นอย่ามาบ่น”
“ง่ะ”เมื่อโดนชี้หน้ารู้ทัน มักเน่ก็เลยได้แต่หน้าจ๋อยไปตามระเบียบ
“จุนฮเว มิโน วันนี้ไม่มีงานแล้ว กลับไปพักได้”
“ดีๆๆๆ”จุนฮเวปรบมือดีใจ
“พวกไม่ดังก็เงี้ย”แจบอมพูดขึ้นมาลอยๆ ไม่สนใจสายตาคมกริบของจุนฮเวที่มองมา
จินอูส่ายหน้าไปมาเบาๆ หันไปมองอีกข้าง ลีดเดอร์ของวงกำลังหลับคอพับอยู่ราวกับว่าไม่เคยนอนมาก่อนในชีวิต และเหมือนจะรู้สึกตัวว่ากำลังถูกมองอยู่ มินโฮปรือตาขึ้นช้าๆพร้อมกับยิ้มเมื่อเห็นหน้าหวานๆของจินอูอยู่ตรงหน้า
“อย่ายิ้ม”
จินอูขมวดคิ้วงงๆกับสิ่งที่มินโฮพูด “ทำไม”
“ยิ้มนายผิดกฎหมาย ที่นี่ที่สาธารณะนะ”
เจอแบบนี้เข้าไป จินอูถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน ไม่ได้โง่นะ เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมหาลัยโซลแบบเขาเข้าใจคำพูดกำกวมแบบนั้นได้สบาย
ซงมินโฮ ไอ้คนหื่นกาม
ร้านกาแฟเล็กๆที่ถูกตกแต่งอย่างน่ารักมีป้ายประกาศรับสมัครพนักงานอยู่ จินฮวานมองตัวเองผ่านกระจกเงาที่สะท้อนออกมาพอให้เห็น เมื่อเรียบร้อยดีแล้วเขาก็ผลักประตูเข้าไป เสียงกรุ๊กกริ๊งจากกระดิ่งที่ประตูดังเป็นการเตือนว่ามีผู้มาเยี่ยมเยียน แต่จินฮวานก็ยังมองไม่เห็นใครสักคนที่นี่
“สวัสดีครับ เอ่อ ผมขอโทษครับ”
ร่างเล็กส่งเสียงออกไป ไม่นานนักก็มี่คนวิ่งหน้าตาตื่นออกมา เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าหล่อมากเลยทีเดียว ตัวเขาสูงมากพอสมควร เอ่อ อันที่จริงผู้ชายเกือบจะทุกคนก็สูงกว่าจินฮวานกันทั้งนั้นแหละนะ
“ยินดีต้อนรับครับ ขอโทษนะครับพอดีร้านเพิ่งเปิดใหม่ ผมมัวแต่ยุ่งๆอยู่ข้างหลัง”ผู้ชายคนนี้พูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด ยิ้มกว้างแบบยินดีที่จะต้อนรับเต็มที่ “เชิญนั่งเลยครับ มากี่คนครับ”
“เอ่อ ผม.. เห็นป้ายรับพนักงาน”
“อ้าว มาสมัครงานเหรอ”น้ำเสียงพูดเปลี่ยนไปทันที ไม่ใช่เปลี่ยนไปในทางที่แย่หรอกนะ น้ำเสียงของคนๆนี้ดูดีใจและยินดีกว่าเดิมซะอีก “มานั่งก่อนสิ”
จินฮวานเดินตามคนที่น่าจะเป็นเจ้าของร้านไปนั่งยังโต๊ะที่อยู่ชิดกระจก
“ที่จริงพี่รับแต่ผู้หญิงหรอกนะ แต่เห็นนายน่ารักดี”
“เอ่อ ครับ”
“ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ แล้วเคยทำงานมาหรือเปล่า”
“ผมคิมจินฮวาน อายุยี่สิบครับ ผม..”จินฮวานลังเลใจ เขาควรพูดไปไหมว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำงานเลย
“หืม?”
แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเลิกคิ้วรอฟังอยู่ เขาก็จำต้องพูดเสียงอ่อย “ผมไม่เคยทำงานมาก่อนเลยครับ”
“??”
“ตอนเด็กๆผมอ่อนแอมาก พ่อกับแม่แล้วก็พี่ชายเลยไม่ยอมให้ผมทำอะไรเลย ตะ แต่ตอนนี้ผมหายดีแล้วนะครับ แล้วผมก็อยากทำงานด้วย”
เมื่อฟังเด็กตัวเล็กรัวอย่างรนๆ เจ้าของร้านก็ถึงกับหัวเราะออกมา “โอเค เข้าใจละ งั้นก็เริ่มทำงานเป็นครั้งแรกที่นี่แหละเน๊อะ”
“หมะ หมายความว่าพี่รับผมเหรอครับ”
“ช่ายยยยยยย”เจ้าของร้านพยักหน้า ยิ้มหวาน “สะดวกเริ่มงานวันนี้เลยไหม พี่ยังไม่มีพนักงานในร้านคอยช่วยเลย”
“ได้ครับๆ”
“งั้นไปเปลี่ยนเสื้อกับเอาผ้ากันเปื้อนมาใส่เลย พี่จะสอนชงกาแฟง่ายๆก่อน”
“ครับ”จินฮวานรับคำแบบกระตือรือร้น ลุกขึ้นเดินเพื่อจะไปหลังร้าน
“เออนี่จินฮวาน”
“ครับ?”
“พี่ชื่อซงยุนฮยองนะ เจ้าของร้านนี้”
“ครับ พี่ยุนฮยอง”
ยุนฮยองยิ้มแล้วปล่อยให้จินฮวานเดินเข้าไปหลังร้าน เด็กคนนี้ดูมีอะไร น่าจะทำงานร่วมกับเขาได้ คอยดูเถอะ เขาจะทำให้พ่อกับแม่ได้เห็น ว่าคนอย่างเขา ก็ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันได้เหมือนกัน
งานแรกของจินฮวานเป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากเป็นร้านกาแฟเปิดใหม่ ทำให้ยังมีลูกค้าเข้ามาไม่มาก แต่ทุกคนที่เข้ามาต่างก็ออกปากชมว่ากาแฟอร่อย ซึ่งทำให้เจ้าของร้านหน้าบานเป็นจานดาวเทียมไปเลย
“จินฮวาน ขอบใจมากนะที่มาสมัครงานร้านพี่ ไม่งั้นวันนี้พี่ตายแน่เลย”
“ฮ่ะๆๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมต่างหากต้องขอบคุณพี่ที่ให้งานผมทำ”
“น่าเบื่อจริงๆ ไอ้เด็กคนนั้นมันดันเบี้ยวไม่ยอมมา นัดกันซะดิบดี”
จินฮวานหัวเราะ เด็กคนนั้นคือคนที่มาสมัครงานกับยุนฮยองแต่เบี้ยวงาน ตั้งแต่สายๆแล้ว เขาฟังยุนฮยองบ่นถึงเด็กคนนั้นมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วเนี่ย
กรุ๊กกริ๊ง
เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งจินฮวานและยุนฮยองต่างก็มองไปที่ประตู “ยินดีต้อนรับครับ”
“ยินดะ.. อ้าวพี่จุนฮเว”
“ไอ้ตัวกระเปี๊ยก”
ไอดอลหนุ่มเอ่ยทักอีกฝ่ายที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มด้วยความแปลกใจ ในขณะที่ยุนฮยองมองอย่างงงๆ “รู้จักกันเหรอจินฮวาน”
“ครับ พี่เขาเป็นศิลปินที่พี่ชายผมดูแลอยู่”
“ศิลปิน?”ยุนฮยองทวนคำ หันกลับไปมองคนที่เป็นศิลปิน “ศิลปินอะไรอ่ะ เขาคือใคร?”
“เฮ้ยคุณ ถามจริงนี่แกล้งโง่ปะเนี่ย ไม่รู้จริงเหรอว่าผมเป็นใคร”ได้ยินแบบนั้นคนมั่นหน้าถึงกับโวยลั่น
บนประเทศนี้ยังมีคนไม่รู้จักเขาอยู่ด้วยเหรอ
“ก็ไม่รู้จักดิคุณ ถ้ารู้จักผมคงไม่ถามหรอก”
“อ้าวๆๆๆๆๆ”
“เอ่อ พี่จุนฮเวทานอะไรดีครับ”จินฮวานที่กลัวจะเกิดศึกระหว่างสองหนุ่มหล่อรีบพูดขัดขึ้นมาก่อน
จุนฮเวเบ้ปาก เดินไปเท้าเคาน์เตอรืที่จินฮวานยืนอยู่ “มาทำไรที่นี่เนี่ย”
“ผมมาทำงานฮะ”
“อ้อ ทำงาน โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อว่าร้านนี้จะมีงานอะไรให้ทำด้วย เงียบเหงาซะขนาดนี้ ลูกค้าเข้ามาถึงสิบคนหรือยังเหอะ”
“เฮ้! ก่อนหน้าคุณจะเข้ามาลูกค้าร้านผมเยอะนะครับ แต่พอคุณเข้ามาเท่านั้นแหละ ลูกค้าผมหายหมดเลย”
“ไม่ใช่ว่ากาแฟรสชาติห่วยแตกจนไม่มีคนมากินหรอกเหรอ”
“อ้าวไอ้นี่ ปากเสีย อยากโดนต่อยเหรอวะ”
“ก็มาเด่ะ กลัวที่ไหน”
จินฮวานมองหนุ่มหล่อทั้งสองคนสลับกันไปมา ทำอะไรไม่ถูก จนในที่สุดประตูก็เปิดออกอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏร่างของอีกคนที่ทำให้จินฮวานตกใจ
“ขอโทษที่มาสายพี่ ผมไปสอบมา”
“ชานอู”
“ไอ้ชานอู”
“ไอ้เด็กเวรรรรรรรรรรรรรรร”
“-o- นี่มันงานรวมตัวไรกันวะเนี่ย”
#วงมั่นหน้า
มุขยิ้มก็คือ ที่มิโนบอกว่ายิ้มจินอูผิดกฎหมายก็ประมาณว่า
เวลาจินอูยิ้มแล้วจะอดใจไม่ไหว เข้าไปทำรุ่มร่ามใส่อ่ะค่ะ แบบอยากจะจูบ อยากจับกดไรประมาณนี้ ฮ่าๆๆ
แล้วที่มิโนบอกว่าที่สาธารณะ ก็คือไม่อยากทำอะไรๆ ในที่สาธารณะ เทือกๆนี้อ่ะค่ะ
พอเข้าใจไหมอ่ะ แต่งไรที่เข้าใจไปคนเดียวซะแล้วเรา แหะๆ
สงสัยไรถามได้ตลอดเลยนะ ไรท์ไม่ดุหรอก ><
ความคิดเห็น