ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER iKON GOT7 : : SONGKIM] MAZE♂ FIRST STORY

    ลำดับตอนที่ #5 : MAZE : CHAPTERS 3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 805
      4
      12 ก.พ. 58

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

     

    CHAPTERS 3

     

                ตอนนี้ทั้ง 4 คนที่อยู่ในร้านต่างก็นั่งร่วมโต๊ะประจันหน้ากันอย่างไม่ลดละ จินฮวานที่เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก คือคนแรกที่ปลีกตัวออกไปยืนหลังเคาน์เตอร์แทน หาอะไรทำไปสายตาก็คอยมอง เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องอะไรขึ้นมาอีก

                “ถามจริงคุณ ไม่รู้จัก MAZE จริงเหรอ”

                “ถามอีกกี่ร้อยครั้งคำตอบก็แบบเดิม”ยุนฮยองพูดเสียงเรียบ “ไม่”

                “บ้านอยู่หลังเขาปะวะเนี่ย”จุนฮเวบ่นพึมพำ

                ป่วยการที่จะพูดกับคนล้าสมัย ไร้อารยธรรม แม่งเอ๊ย วงกูออกจะดัง ไม่รู้จักวงไม่ว่า แต่ไม่รู้จักกูคืออะไรครับ

                “ผมขอโทษจริงๆนะพื่ วันนี้ผมมีงานตอนเช้า เสร็จแล้วก็ไปสอบ นี่รีบสุดแล้วจริงๆ”

                “-_- ไม่ยกโทษให้เว้ย แล้วฉันก็ไม่ง้อแกแล้วด้วย”พูดจบเจ้าของร้านสุดหล่อก็เดินหายเข้าไปหลังร้าน ที่นี่จึงเหลือแค่จินฮวาน จุนฮเวและชานอู

                “พี่จินฮวาน”

                “ฮะ หืมมม มีอะไรเหรอ”จินฮวานละมือจากเครื่องกาแฟ หันไปมองชานอูที่ทำตาวิ้งค์ๆใส่

                “พี่อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่จินอูนะ”

                “อ่า..”

                “นะพี่ ไม่งั้นผมตายแน่เลย”

                “ทำไมล่ะ พี่จินอูคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นมั้ง”

                “น้อยไปดิ ไม่รู้จักพี่ชายตัวเองเหรอไอ้ตัวเล็ก”จุนฮเวพูดแทรก และเปลี่ยนคำเรียกจินฮวานใหม่ “กูก็ว่าแล้วว่าทำไมมึงโดดซ้อมบ่อยเกิ๊น ที่แท้ก็มาอยู่นี่เองสินะ”

                “โห่พี่อ่ะ”

                “ชอบมันเหรอ ไอ้หลังเขานั่นน่ะ”

                “ไม่รู้ว่ะพี่ แต่เห็นหน้าแล้วใจเต้นอ่ะ”

                “สไตล์เดิมมึงนั่นแหละ เดี๋ยวพอได้แล้วก็ทิ้ง”

                “เฮ้ย ทิ้งเทิ้งอะไร ผมเด็กอยู่นะ ใสๆ”ชานอูพูดเสียงไร้เดียงสา ก่อนจะหันไปหาจินฮวานอีกครั้ง “ผมโดดซ้อมมาช่วยพี่ยุนแทบทุกวันเลยอ่ะ บอกว่าติดธุระบ้าง ป่วยบ้าง ถ้าพี่จินอูรู้ความจริง มีหวังผมโดนสั่งกักบริเวณแหงๆ”

                “แต่พี่ ..ไม่เคยโกหกพี่จินอูเลยนะ”

                “นะครับ นะๆๆๆๆๆ”

                จินฮวานถึงกับทำตัวไม่ถูก เขากับจินอูไม่เคยมีความลับต่อกัน มีเรื่องอะไรก็เล่าให้กันฟังหมด แต่ดูชานอูสิ ถ้าหากเขาบอกเรื่องนี้กับจินอู ชานอูก็ดูน่าสงสาร เพราะงั้นคงต้องโกหกสักครั้ง

                “ก็ได้”

                “ขอบคุณนะพี่”ชานอูยิ้มด้วยความดีใจ ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปด้านหลัง

                เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ในตอนที่เขากำลังเบื่อและเซ็งเข้าขั้นโคม่า เขาแอบออกมาจากหอตอนตีสาม แล้วเกิดหิวเลยเข้ามินิมาร์ทซื้ออะไรมากิน แต่!!

                โชคไม่เข้าข้างคนหล่อเอาซะเลย

                เพราะเขาไม่ได้หยิบเงินออกมาเลยสักบาท เกือบจะโดนพนักงานกักตัวแล้วเรียกตำรวจมาจับแล้วถ้าหากไม่ได้เทพบุตรที่สุดแสนจะใจดียื่นมือเข้ามาช่วยจ่ายเงินให้ แถมยังอยู่คุยด้วยอีก

                ตอนแรกชานอูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็เป็นคนดัง แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะมองไม่เห็นออร่าในตัวเขาเลย ชานอูก็เลยคุยแบบสบายๆขึ้น

                “พี่ชื่อยุนฮยอง”

                นั่นคือคำแนะนำตัวแรกของเขา และมันทำให้ชานอูเริ่มรู้จักผู้ชายคนนี้ ซงยุนฮยอง

                ยุนฮยองเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับที่บ้าน ก็เลยออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ไปเรียนเป็นบาริสต้ามาแล้วก็มาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ เล่านู่นนี่ให้ฟังจนชานอูก็ตกใจเหมือนกัน ที่คนแปลกหน้ากล้าเล่าเรื่องของตัวเองตั้งมากมายให้กับคนที่ไม่รู้จักฟัง

                “ผมช่วยพี่เอง”

                นั่นแหละ นิสัยเสียที่แก้ไม่เคยหาย ปากพาซวย เพราะโพล่งออกไปแบบนั้น เลยต้องทำตัวเป็นเด็กเลวของจินอูอยู่ร่วมเดือน ก็จะให้ทำไง ปฏิเสธไปมันก็ไม่ทันแล้ว ยุนฮยองทำหน้าดีใจซะขนาดนั้นนี่

                ร้านนี้ชานอูก็เป็นคนหาให้ ต้องไปทะเลาะกับเจ้าของตึกแทบตาย(ทะเลาะกันทางโทรศัพท์น่ะนะ) เห็นว่าตรงนี้เป็นทำเลที่ดีโคตรๆเหมาะกับการเปิดร้านกาแฟหรอกนะ แต่ดันมีคนมาจองไปแล้ว ดังนั้นชานอูเลยต้องใช้อิทธิพลคนดังเข้าช่วย ด้วยการยอมถ่ายรูปและแจกลายเซ็นให้กับลูกหลานเจ้าของตึก นั่นแหละถึงได้ห้องนี้มา

                หลังหาร้านได้ ก็แอบหนีออกมาระหว่างซ้อมเพื่อช่วยยุนฮยองซื้อของ ตกแต่งร้านทำนู่นนี่ไปเรื่อยจนร้านเสร็จก็ดันไปรับปากพล่อยๆอีกว่าจะมาช่วยงานที่ร้าน

                แล้วก็ดันลืมไปเลยนะว่ามีสอบวันนี้

                แย่ๆๆๆๆ ยุนฮยองคงโกรธสุดๆ

                “พี่”

                “มีไรอีกล่ะพ่อคนดัง”

                “โห่ อย่าเป็นแบบนี้ดิพี่ก็จองชานอูคนเดิมอ่ะ”

                “อ้อเหรอ”

                “เฮ้ยพี่ อย่าทำหน้างอนแบบนี้ดิวะ เหมือนผู้หญิงเลย”

                “อย่ามาเจ๋อ จะไปไหนก็ไปเลยไป”

                ชานอูอมยิ้ม มองคนตรงหน้าที่ปากยู่ แม่งน่ารักเชี่ยๆ

                “ผมขอโทษอ่ะ ก็ผมคิดว่าพี่รู้จักผมนี่ อีกอย่างผมก็ไม่รู้จะบอกไปทำไมว่าตัวเองเป็นใคร ก็แค่พี่รู้ว่าผมเป็นชานอูก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”

                “ไม่รู้เว้ย”ยุนฮยองส่ายหน้ารัวๆ “ไม่ได้เคืองเรื่องนั้น วันนี้เปิดร้านวันแรกโคตรจะยุ่งเลย แกรับปากว่าจะมาแต่ก็ไม่มา ก็เข้าใจอ่ะนะว่าติดสอบ แต่โทรบอกก่อนก็ได้มั้ง จะได้หาคนช่วยทัน”

                “ผมลืมอ่ะ ลืมจริงๆ”

                “เห๊อะ! ช่างเหอะ เห็นกับที่ผ่านมาหรอกนะเว้ย”

                “พี่ไม่โกรธผมแล้วใช่ปะ”

                “เออ”ยุนฮยองตอบกลับเสียงดัง ผลักหัวชานอูที่ยื่นเข้ามาซะใกล้ “ตอนนี้มีจินฮวานช่วยแล้ว ฉันมีน้องรักคนใหม่แล้ว ไม่ง้อแกแล้วโว้ย”

                “หึๆๆ”ชานอูหัวเราะในลำคอก่อนจะพึมพำเบาๆ “ผมก็ไม่ได้อยากเป็นน้องรักพี่เท่าไหร่หรอก”

                แต่ถ้าอย่างอื่นน่ะไม่แน่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                อีกด้าน จุนฮเวนั่งจิบกาแฟที่จินฮวานเพิ่งทำมาให้ เป็นอันต้องอารมณ์เสียอีกครั้งที่เสียงเรียกข้าวของจินฮวานดัง เมื่อจินฮวานคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็กวักมือรัว

                “มีอะไรเหรอฮะ”จินฮวานถามเสียงใส

                “บอกว่าเพลงนี้พี่ร้องตั้งสองรอบนะเว้ย ทำไมยังใช้เสียงไอ้แจบอมมันอยู่อีกอ่ะ”

                จินฮวานถึงกับหลุดขำ มองนักร้องดังตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนเด็กน้อยสามขวบกำลังโดนขัดใจ “ก็พาร์ทที่พี่ร้องผมไม่ค่อยชอบนี่”

                “- -*

                “ไม่ใช่ไม่ชอบเพราะเสียงพี่นะ แต่พาร์ทพี่แจบอมเนื้อร้องมันต่างออกไปนี่นา”

                “เอาโทรศัพท์มา”จุนฮเวยื่นมือไปตรงหน้า กระดิกนิ้วเป็นเชิงเร่งเมื่อเห็นจินฮวานลังเล “เอามาเหอะน่า ไม่เอาไปปาหัวหมาหรอก”

                กรุ๊งกริ๊ง

                ก่อนจะได้เถียงอะไรออกไป ก็มีลูกค้าเข้ามาซะก่อน จุนฮเวขยับหมวกลงมาเล็กน้อย แม้มันจะปิดได้ไม่ค่อยมิดแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ถึงจะไม่สนใจโลกก็เถอะนะ แต่เวลานี้เวลาส่วนตัวก็อยากจะพักผ่อนบ้าง เหวี่ยงบ่อยๆมันก็เหนื่อยเหมือนกัน

                 “เชิญนั่งเลยครับ”จินฮวานหันไปพูดกับลูกค้าอย่างสุภาพ แต่ก่อนจะได้เดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ ก็ถูกจุนฮเวดึงแขนเอาไว้ก่อน “??”

                “โทรศัพท์”

                ด้วยความที่รีบๆ จินฮวานจำต้องส่งโทรศัพท์ให้จุนฮเวไปแล้วตัวเองก็ไปรับออเดอร์ลูกค้า เขาไม่รู้หรอกว่าจุนฮเวจะทำอะไร เพราะคนตัวสูงถือโทรศัพท์ของเขาแล้วเดินออกไปนอกร้านแล้ว ผ่านไปพักใหญ่จุนฮเวก็เดินกลับมายื่นโทรศัพท์ให้ก่อนจะเดินออกไป

                จินฮวานได้แต่มองอย่างงงๆ ไม่นานนักโทรศัพท์เขาก็มีสายเข้าอีกครั้ง และครั้งนี้ต่างออกไปเพราะเสียงเรียกเข้าไปใช่เสียงของแจบอมอีกต่อไปแล้ว

                เสียงของจุนฮเวในพาร์ทของแจบอม

                “อุ๊ย พี่คะ ขอโทษนะคะ พี่มีเสียงจุนฮเวโอป้าเป็นเสียงเรียกเข้าได้ไงอ่ะ หนูไม่เคยได้ยินจุนฮเวโอป้าร้องพาร์ทนี้เลย”

                “เอ่อ.. คือ”

                “ขอบ้างได้ไหมคะ”

                และสุดท้ายจินฮวานก็ต้องบลูธูทส่งไปให้ลูกค้าที่น่าจะเป็นแฟนคลับของ MAZE แล้วก็มาแอบยิ้มอยู่คนเดียว

                จุนฮเวนี่เป็นคนขี้อิจฉาและมั่นหน้ามากที่สุดตั้งแต่เขาเคยเจอมาเลยจริงๆ















     



     

     

                ร่างสูงเดินเข้าไปภายในบ้านหลังเล็กอย่างคุ้นเคย เมื่อเข้ามาแล้วก็ถอดหมวกและแว่นออก ก่อนจะเข้าไปในห้อง พร้อมกับทอดสายตาอ่อนโยนมองคนที่นอนอยู่บนเตียง..

                นอนอยู่อย่างนั้นมาปีกว่าแล้ว..

                “จินยองอ่า”

                ...

                “พี่มาเยี่ยมแล้วนะ”พูดจบก็เดินไปนั่งข้างเตียงและกุมมือนุ่มนิ่มเอาไว้แน่นเหมือนกับทุกครั้งที่มา “ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย หาโอกาสมาเยี่ยมได้ยากมากเลย ขอโทษด้วยนะที่ผิดสัญญาว่าจะมาเยี่ยมทุกวัน”

                ...

                “จินยองดูโอเคขึ้นนะ หน้าสดใสจัง ถ้าได้เห็นรอยยิ้มเหมือนเดิมอีกพี่คงจะดีใจมากเลยล่ะ ยิ้มให้พี่ดูหน่อยได้ไหม พี่เหนื่อย ถ้าได้เห็นรอยยิ้มของจินยองคงจะหายเหนื่อย”

                แจบอมยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่แสนจะขมขื่น ปาร์คจินยอง คือผู้ชายที่นอนเป็นเจ้าชายนิทรามาปีกว่า เพราะเกิดอุบัติเหตุและจินยองก็คือเหตุผล ที่ทำให้เขากลับมาที่โซล และเดบิ้วท์ในฐานะ MAZE

                ทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะเดบิ้วท์เป็นศิลปิน แต่ก็ทำ ทั้งที่ไม่เคยคิดจะกลับมาที่โซลอีก แต่ก็ทำ

                ทั้งหมดเพราะจินยอง

                “ผมอยากให้พี่เดบิ้วท์เป็นไอดอลมากเลย ถ้าเป็นงั้นนะ ผมจะคอยตามเชียร์พี่ทุกเวทีเลยอ่ะ”

                “นายตามเชียร์พี่จากเวทีบีบอยเอาก็ได้”

                “..ก็มันเป็นความฝันของผมนี่”

                ใช่ เพราะมันเป็นความฝันของจินยองที่ไม่สามารถทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้ในตอนนี้ เขาเลยเลือกที่จะกลับมาทำมันแทน

                เขากับจินยองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งสองครอบครัวอาศัยอยู่ที่แอลเอและเป็นเพื่อนบ้านกัน ตอนที่เขาได้เข้ากลุ่มบีบอยใหม่ๆ ก็ได้จินยองที่เป็นกำลังใจ คอยส่งข้าวส่งน้ำ แล้วช่วยให้เขาผ่านความกดดันมาได้

                จินยองกลับมาที่โซลตอนอายุ 17 กลับทั้งครอบครัว ก็ได้ติดต่อกันบ้าง จินยองออดิชั่นที่ค่ายวินผ่าน และได้เข้าไปเป็นเด็กเทรน ส่วนเขาก็ยังคงอยู่ในกลุ่มบีบอย และกำลังจะไปได้ดีในระดับโลกแล้ว แต่เขากลับได้รับโทรศัพท์จากโซล

                ครอบครัวของจินยองประสบอุบัติเหตุ ทุกคนบนรถเสียชีวิตกันหมด ยกเว้นจินยอง

                อาการโคม่า และเป็นเจ้าชายนิทรา..

                “คุณแจบอมคะ”

                “ครับ?”แจบอมหันไปมองพยาบาลที่เขาจ้างมาให้ดูแลจินยอง

                “ขอเช็ดตัวให้คุณจินยองหน่อยได้ไหมคะ”

                “อ่า เดี๋ยวผมเช็ดเองครับ”แจบอมพูด ลุกเดินไปหยิบกะละมังใบเล็กมาจากพยาบาลแล้วเดินกลับมาเช็ดตัวให้จินยองอย่างแผ่วเบา “รีบๆตื่นนะรู้ไหม อีกสองเดือนพี่ก็จะได้เวิร์ลทัวร์แล้ว”

                ...

                “เวลานั้นพี่อยากให้จินยองไปกับพี่ทุกที่เลยนะ”

                ...

                บางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้า พูดอยู่คนเดียวทั้งที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้หรือเปล่า ยอมรับว่าเหนื่อยกับการต้องดูแลจินยอง เพราะบางทีเลิกงานดึกๆก็ต้องมาหาจินยอง

                เหนื่อย ..แต่ไม่เคยเบื่อ

                “จินยองอ่า.. คิดถึงจัง”แจบอมพูดแผ่วเบา ก้มลงไปใกล้แล้วประทับริมฝีปากลงไปบนกลีบปากบาง เนิ่นนาน และช่างอ่อนโยนเหลือเกิน หวังว่าจินยองจะรับรู้ได้

                แจบอมอยู่อ่านหนังสือให้จินยองอีกสักพัก ก็ถึงเวลาต้องไปเพราะมีอัดเสียง เขาลุกเดินออกไปข้างนอกห้องเพื่อดื่มน้ำ แต่แล้วเสียงของนางพยาบาลก็เอะอะโวยวายทำให้ต้องรีบกลับไปที่ห้องตามเดิม

                “มีอะไรครับ เกิดอะไรขึ้น..”

                “คุณจินยอง คุณจินยองฟื้นแล้วค่ะคุณแจบอม”

                “จินยอง!!!!!!!!!












     

    #วงมั่นหน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×