คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♦ M i s s i o n :: 01
Mission01
อยากรู้หรือเปล่าว่า P.C.Y SIXTY1 คืออะไร?
องค์ลับนี้เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นอย่างลับๆโดยเปิดเป็นบริษัทgraphic designerบังหน้า เพื่อไม่ให้เป็นที่จับตามองของผู้ไม่ประสงค์ดีและเพื่อความปลอดภัยของสมาชิกในองค์กรฉะนั้นเราจำเป็นต้องรอบคอบและรัดกุม
ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะพิเศษกว่าที่อื่นๆเพราะได้โปรแกรมเมอร์ฝีมือดีอย่าง โอเซฮุน
ลำดับการรักษาปลอดภัยจะเริ่มที่คีย์การ์ดที่ฝังชิพข้อมูลของสมาชิกในองค์กรอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหนคุณก็ไม่สามารถปลอมแปลงคีย์การ์ดแบบนี้ได้ password สำหรับการปลดล็อคระบบรักษาความปลอดภัยที่จะมีแต่คนในเท่านั้นที่รู้ ระบบสแกนม่านตาระดับHDที่จะจดจำสีของดวงตาของแต่ละบุคคลเพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้าไปในองค์กร
ระบบสแกนลายนิ้วมือที่สามารถตรวจจับผู้ปลอมแปลงลายมือได้อีกด้วย รวมไปถึงเครื่องตรวจจับวัตถุต้องสงสัย เครื่องตรวจจับอาวุธและระเบิด พร้อมกล้องวงจรปิดที่หมุนรอบตัวเองใน360องศา อย่างไม่คาดสายตา
แค่ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ก็ทำให้คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่าพวกเค้าไม่ธรรมดา
กฎอีกข้อที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดคือ ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาได้นอกจากคนในจะพาเข้ามาเท่านั้น และเมื่อเข้ามาแล้วคุณก็ไม่สามารถออกไปได้อีกเช่นกันนอกจากคนที่พาเข้าจะเป็นคนพาออกไปได้
"เอาล่ะในเมื่อทุกคนมากันครบแล้วกูจะสรุปข้อมูลคร่าวๆให้ กรมตำรวจเพิ่งส่งเมลมาเป็นข้อมูลส่วนตัวของมาเฟียค้ามนุษย์ที่หลายหน่วยกำลังแย่งกันเข้าจับกุมแต่ไม่สำเร็จ ฉะนั้นพวกมึงคงรู้ว่ากูจะพูดอะไรต่อจากนี้ กู--..."
"กูหวังว่าพวกมึงจะไม่ทำงานพลาด.." สี่เสียงประสานกันเป็นหนึ่งเดียวราวกับร้องโอเปร่ายังไงอย่างนั้น ทำไมพวกเค้าจะไม่รู้ว่าชานยอลจะพูดอะไร แค่อ้าปากลิ้นไก่ก็โผล่ออกมาแล้ว
"รู้ก็ดี นี่คือคิมฮีชอล มาเฟียค้ามนุษย์..." มือเรียวกดแท่งเลเซอร์เล็กๆในมือชี้ไปที่จอภาพขนาดใหญ่ในห้องประชุมเพื่อบอกถึงข้อมูลคร่าวๆที่ได้จากกรมตำรวจเมื่อสิบนาทีก่อน ชานยอลไม่ชอบรออะไรนานๆและไม่ชอบอะไรยืดเยื้อข้อมูลมาทีมงานทุกคนต้องพร้อมและทำงานเป็นทีมเวิร์ค
"หน้าตาแม่งก็ดูแต๋วๆ ค้ามนุษย์นี่ผู้หญิงหรือผู้ชายวะฮ่าๆๆ" เสียงของไค หนึ่งในสมาชิกหน่วยรักษาความปลอดภัยและงานไอทีพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะดังลั่น ไคก็แบบนี้เค้าเป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่เคยเป็นเดือดเป็นร้อนกับอะไรสักอย่าง มองเผินๆอาจจะดูไม่ใส่ใจกับงานตรงหน้า แต่ถ้าอยู่น่าคอมพิวเตอร์คู่ใจเมื่อไหร่ การเจาะข้อมูลก็สามารถล่วงรู้ได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
"เออหวะ กูว่าแม่งค้าผู้ชายชัวร์!" เสียงของเซฮุนโปรแกรมเมอร์ที่อยู่หน่วยเดียวกันกับไคพูดสมบท ด้วยความที่เป็นคู่หูและทำงานร่วมกันมาแน่นอนว่านิสัยก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่เพียงแต่ว่าเซฮุนจะมีบุคลิกที่นิ่งขรึมกว่า
"เอาล่ะ! มันจะค้ากะเทยหรือผู้ชายยังไงก็ต้องจับมันให้ได้ ถ้าอยากรู้กันมากนักไว้จับได้เมื่อไหร่ก็ถามมันดูสิ.." หัวหน้าองค์กรผู้ที่ไม่เคยมีอารมณ์ขันพูดเสียงเรียบก่อนจะหันไปมอบหมายงานให้หน่วยข่าวกรอง
"กูส่งเลย์ออกไปแล้วคาดว่าคืนนี้น่าจะได้ข้อมูลไม่มากก็น้อย ไอ้ลู่มึงรอข้อมูลจากเลย์ได้เลย"
"มึงส่งมันออกไปแบบนั้นแล้วถ้าไอ้ฮีชอลมันเกิดมีอารมณ์ข่มขื่นเลย์ขึ้นมาจะทำยังไงวะ"
ลู่หานหนุ่มทะเล้นที่มีใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงที่มักจะถูกส่งไปเป็นตัวล่อเสมอ เค้าช่ำชองกับการเอาตัวรอดและหว่านเสน่ห์ที่สุดในกลุ่มแต่ชานยอลกับเลือกที่จะส่งเลย์ไปแทนเค้า ทำให้ลู่หานอดเป็นห่วงเลย์ไม่ได้
"มึงอย่าตื่นตูม ถ้าเกิดอะไรขึ้นเทาจะเข้าไปช่วยเลย์ทันที แต่ถ้ามึงห่วงมันมากจะตามไปดูก็ได้นะ คืนนี้ไอ้ฮีชอลไปที่คลับแถวกังนัม เลย์จะปลอมตัวเข้าไปเป็นโฮสต์ กูมั่นใจว่ามันติดกับเราแน่นอน"
ลู่หานหัวเสียไม่น้อยที่ชานยอลพูดแบบนี้แต่ก็ขัดไม่ได้เพราะที่ผ่านมาการคาดคะเนของชานยอลก็ไม่เคยผิดพลาดและเทาเองก็มีศิลปะการสู้ต่อที่ไม่มีใครต่อกรกับเค้าได้ เรียกได้ว่ามาสิบคนเทาก็เอาอยู่
"เออๆกูก็แค่เป็นห่วงเพราะนี่เป็นงานแรกของเลย์ แต่ถ้าเทาอยู่กูก็สบายใจ"
"จบการประชุม" พูดจบก็สาวเท้าออกไปจากห้องประชุมทันทีสินะไอ้หัวหน้าองค์กร!
"กูว่าเส้นประสาทส่วนที่ทำให้อารมณ์ดีของไอ้ชานต้องเสียหายแน่ๆคนอะไรแม่งไม่เคยยิ้มเลยสักครั้ง" ไคว่า
"พวกมึงควรจะชินได้แล้วนะแต่ไหนแต่ไรมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว" เฉินพูดเสริม ด้วยความที่เป็นคนที่ใจเย็นที่สุด เฉินจึงไม่เคยรู้สึกว่าพฤติกรรมแปลกๆของชานยอลจะมาทำให้เค้าลำบากใจอะไร
"กลับห้องพวกเรากันเถอะหวะ กูไม่ถูกชะตากับห้องประชุมห่านี่เลย" เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องทันที
P.C.Y SIXTY1
นิ้วเรียวรัวคีย์บอร์ดที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่จดจำลายมือเฉพาะบุคคลอย่างคล่องแคล่วเพื่อเจาะไปยังฐานข้อมูลส่วนตัวของคิมฮีชอลงานที่ได้รับมอบหมาย
"ไหนขอดูหน่อยสิ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง" ไคยิ้มกริ่มกับฝีมือการแฮกข้อมูลตรงหน้าเพียงขยับปลายนิ้วไม่กี่ครั้งข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ถูกเปิดเผยขอคิมฮีชอลก็ปรากฎขึ้นมาที่หน้าตาคอมพิวเตอร์คู่ใจทันที
"ไอ้ฮุนๆมาดูนี่เร็ว"
"อะไรของมึงกูกำลังปรับระบบสแกนม่านตาอยู่นะเว้ย ไหนมีอะไร?"
"มึงดูลิสต์รายชื่อของคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องดิ"
เซฮุนเลื่อนเมาส์ลงไปเรื่อยๆเพื่ออ่านรายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคิมฮีชอล
"คิมจุนมยอน"
"นี่มันชื่อแม่เลี้ยงไอ้ชานไม่ใช่หรอวะ"
ชิบหายแล้วครับท่าน...
"หมายความว่า...." สองหนุ่มแห่งหน่วยไอทีโพลงขึ้นพร้อมกันเสียงดังฟังชัดก่อนจะพูดผ่านไวต์เลทเชิญท่านหัวหน้าองค์กรมาพบที่ห้องทำงานโดยด่วน
"code88ทำการเจาะข้อมูลเรียบร้อยแล้วเชิญมึงมาดูที่ห้องกูด้วยครับ"
ติ๊ง!
เสียงเตือนของระบบรักษาความปลอดภัยขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก ร่างสูงก้าวขาเดินมาที่โต๊ะประจำตำแหน่งของคิมไคก่อนจะประเมินข้อมูลด้วยตนเองแต่ทว่า...
"หมายความว่าแม่เลี้ยงกูมีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้โรคจิตนี่งั้นหรอ?" น้ำเสียงที่นิ่งขรึมแต่แฝงเข้าหงุดหงิดไว้ลึกๆได้แต่ข่มอารมณ์ไว้อย่างนั้นก่อนจะหันไปสั่งงานต่อ
"หาข้อมูลส่วนตัวของคุณจุนมยอนแล้วส่งให้กูด่วน!"
"แม่เลี้ยงมึง มึงจะไปถามเองก็ได้ปะทำไมต้องให้กูหาข้อมูลให้วุ่นวาย?"
"คิมจงอิน หน้าที่ของมึงคือการเจาะข้อมูลของผู้ต้องหาแล้วส่งให้กูภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง" หลังจากสั่งเฉียบขาดก็เดินออกจากห้องไปอย่างไม่เหลียวหลังตามสไตล์คุณปาร์คเค้าล่ะครับ
รถแอสตันมาร์ตินสีดำแล่นมาจอดหน้าตึกใหญ่ของคฤหาสน์อู๋อี้ฟานขายาวก้าวลงจากรถก่อนจะขึ้นไปยังห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ
"พ่อรู้เรื่องของคุณจุนมยอนแล้วใช่มั้ยครับ?" ชานยอลถามทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เค้ามาเพื่อเอาคำตอบจากผู้เป็นพ่อ และเค้ามั่นใจว่าคริสรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีแต่ก็ยังจงใจที่จะไม่บอกเค้าสินะ
"ฉันคิดอยู่แล้วว่าแกต้องมา"
"ผมกำลังสืบว่าคุณจุนมยอนเกี่ยวข้องกับการคิมฮีชอล ไม่ต้องห่วงเพราะองค์กรของผมไม่เคยทำงานพลาด"
"แกไม่ต้องไปสืบอะไรให้ยุ่งยากหรอกชาร์ล สิ่งที่แกควรทำคือดูแลบยอนแบคฮยอนให้ปลอดภัย"
"แบคฮยอนเกี่ยวอะไรด้วย?" ชานยอลกำลังงงงวยกับสิ่งที่คริสบอก แบคฮยอนเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยงั้นหรอ
"แบคฮยอนเป็นเหยื่อรายต่อไปของฮีชอล"
"ผมหวังว่าพ่อคงไม่--..."
"แบคฮยอนจะต้องไปอยู่กับแกในฐานะคนคุ้มกันจนกว่าจะจับคิมฮีชอลได้ และนี่คือภารกิจแรกของแกไอ้ลูกชาย"
"พ่อก็รู้กฏขององค์กรดีว่าห้ามคนนอกเข้า"
"แบคฮยอนไม่ใช่คนนอก เค้าเป็นคนที่แกต้องดูแล ตกลงตามนี้ไปรับน้องที่มหาลัยด้วย อีกยี่สิบนาทีน้องคงเลิกเรียนพอดี"
ชานยอลกำลังหัวเสีย ให้ตายเค้าก็ไม่ยอมพาคนนอกเข้าไปในองค์กรเด็ดขาดแล้วนี่ยิ่งเป็นแบคฮยอนด้วยเด็กนั่นต้องวุ่นวายจนทำให้เค้าเสียการเสียงานแน่ๆ
มหาวิทยาลัยยอนเซ
ให้ตายเถอะไม่อยากจะเชื่อว่าผมขับรถมาถึงมหาลัยนี้จนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะคดีล่ะก็ ผมไม่ทำเรื่องบ้าๆแบบนี้แน่ ว่าแต่บยอนแบคฮยอนเด็กนั่นหน้าตาจะเหมือนตอนเด็กๆหรือเปล่าจะได้หาง่ายๆหน่อย เรียนคณะอะไรก็ไม่รู้ด้วยสิ นี่พ่อกะจะให้สืบเองทุกเรื่องในชีวิตเลยใช่มั้ย!
บยอนแบคฮยอน..ตอนเด็กๆชอบวาดรูปบ้าน อืม..สถาปัตย์หรอ? ไม่น่าจะใช่ เด็กนั่นวาดรูปห่วยจะตายไป
แล้วอะไรอีก..ช่างสังเกต,ขี้สงสัย หรือว่าจะเรียนวิทยาศาสตร์ไม่น่าใช่อีกนั่นแหละ..
โธ่ไอ้เด็กบ๊อง!นายกำลังทำให้การคาดคะเนของฉันสับสนนะ
"น้องๆรู้จักคนชื่อแบคฮยอนหรือเปล่า" ชานยอลตัดสินใจหาใครสักคนที่เค้ามองเห็นในบริเวณนั้นเพื่อสอบถามหาบยอนแบคฮยอนตัวยุ่งที่ทำให้การคาดคะเนของเค้าERRORไปแล้ว
"พี่รู้จักแบคฮยอนด้วยหรอฮ่ะ เค้าเป็นเพื่อนผมเองมีไรหรือเปล่าฮ่ะ"
"คยองซู~~~" เสียงหวานๆของใครสักคนดังมาแต่ไกลดูเหมือนน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมจะชื่อคยองซูอะไรสักอย่าง ร่างสูงหันตามเสียงก็ได้พบกับเด็กคนนึง...
เดี๋ยวนะ..ทำไม
น่ารัก
ผู้ชายอะไรทำไมหน้าสวยอย่างกับผู้ชายผมว่าลู่หานเพื่อนผมสวยแล้วนะ แต่คนนี้มองยังไงก็..น่ารัก..
"มึงมาก็ดีแล้ว พี่คนนี้เค้ามาตามหามึงอ่ะ..ว่าแต่ใครวะหล่อชิบหายเลย" คยองซูรีบวิ่งไปเกาะแขนแบคฮยอนพร้อมกับทำท่าระริกระรี้เวลาเห็นผู้ชายหล่อๆคยองซูมักจะเก็บอาการไม่ไหวอย่างที่เห็น
"กู..ไม่รู้จักอ่ะ" แบคฮยอนบอกคยองซูไปอย่างนั้นแน่นอนว่าเค้าจำชานยอลไม่ได้ เพราะตั้งแต่ชานยอลไปเรียนเมืองนอกก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ตอนนั้นแบคฮยอนก็ยังเด็กมาก อีกอย่างตอนนี้ชานยอลก็หล่อขึ้นด้วย
"บยอนแบคฮยอนสินะ..แม่ของนายให้ฉันมารับนายกลับ ไปกันได้แล้วฉันเสียเวลามามากกับการเดินตามหานายทั่วมหาลัย" พูดจบร่างสูงก็ฉุดข้อมือของแบคฮยอนทันที
"ปล่อยนะนายเป็นใคร! ทำไมแม่ไม่บอกอะไรฉันเลยล่ะ! นี่!บอกให้ปล่อยไง ฉันเจ็บนะ!" ชานยอลหันไปส่งสายตาพิฆาตใส่เป็นเชิงให้แบคฮยอนหยุดสะบัดตัวสักที
"ฉัน..ปาร์ค ชาน ยอล! ทีนี่จะไปกันได้หรือยังครับน้องบยอน?"
แบคฮยอนเบิกตากว้างทันทีเพื่อได้ยินชื่อของอีกฝ่าย ปาร์คชานยอลพี่ชายที่แบคฮยอนเฝ้ารอมาตลอด คนที่แบคฮยอนเพ้อให้คยองซูฟังทุกวันว่าคือเจ้าบ่าวในอนาคตของตัวเองจนคยองซูรำคาญถึงขั้นจะย้ายคณะหนี
"พ..พี่ชาน..หรอ..ฮ่ะ"
"เก็บของของนายซะ แล้วเดินตามฉันมา"
"ฮ่ะ..น้องบยอน เอ้ย!ผมจะรีบเก็บแล้วตามไปเดี๋ยวนี้เลยฮ่ะ/ คยองงงกูไปก่อนนะไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรหาาา"
แบคฮยอนลุกลี้ลุกลนเก็บของที่ทำหล่นเมื่อครู่มาหอบไว้ก่อนจะรีบโบกมือลาเพื่อนสนิทแล้ววิ่งตามพี่ชานของตัวเองไปทันที
"พี่ชานกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมน้องบยอนไม่รู้--..."
"นั่งเงียบๆฉันไม่มีสมาธิขับรถ"
พี่ชานก็ยังเหมือนเดิมขี้เก๊กและไม่เคยพูดดีกับแบคฮยอนมาแต่ไหนแต่ไรแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ หล่อ..หล่อมากด้วย
"เรียนคณะศิลปกรรมหรอ?" ชานยอลถามน้องชายตัวเล็กนั่งเงียบตั้งแต่โดนดุไปเมื่อสิบนาทีก่อน
"ใช่ฮ่ะ..ก็น้องบยอนชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆพี่ชานจำไม่ได้หรอฮ่ะ" แบคฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงสดใสและดีใจที่ชานยอลคุยด้วยแต่ก็ต้องเบะปากคว่ำทันทีเมื่อได้ยินคำตอบของชานยอล
"ไม่เห็นจะจำได้" ชานยอลตอบสั้นๆ
จ้าจำไม่ได้เลยสักนิด…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา..
ชานยอลขับรถเข้ามาในอาณาบริเวณขององค์กรจะวนขึ้นไปจอดรถที่ชั้นจอดรถของบุคลากรกิตติมาศักดิ์ชั้นP61 ซึ่งเป็นชั้นจอดรถประจำตำแหน่งของชานยอล
แบคฮยอนต้องตาโตอีกรอบเมื่อเห็นว่าทั้งลานจอดรถมีแต่รถสปอร์ตคันหรูจอดอยู่เป็นสิบๆคันและเป็นสีดำทั้งหมด
"พี่ชานพาน้องบยอนมาที่นี่ทำไมฮ่ะ"
"แทนตัวเองว่า'ผม'กับฉันในระหว่างที่อยู่ที่นี่ ไม่ต้องถามมากต่อไปนายจะต้องพักอยู่ที่นี่ ตามฉันมาเงียบๆก็พอ"
ชานยอลสั่งเฉียบขาดตามประสาหัวหน้าองค์กรใหญ่พอเข้ามาองค์กรแล้วเหมือนองค์มาประจำทันทีสินะ
แบคฮยอนเดินตามชานยอลต้อยๆเหมือนตอนเด็กๆไม่มีผิด ชานยอลได้แต่ชำเลืองมองด้วยหางตาผ่านกรอบแว่นเลนส์ใส แบคฮยอนเปลี่ยนไปมากก็จริงแต่ยังไงก็ยังเป็นแค่น้องบยอนในสายตาชานยอลอยู่ดี
"ปิดโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ถอดเครื่องประดับหรือนาฬิกาไว้ในล็อคเกอร์นี้ให้เวลาจัดการตัวเองสามสิบวินาที"
ร่างสูงกดพาสเวิร์ดเพื่อเปิดล็อคเกอร์ออกให้แบคฮยอนได้เก็บของไว้ในนั้นก่อนจะจูงมือเดินเข้าไปที่ระบบรักษาความปลอดภัยด้านต่อไป
"ใส่คอนแทคเลนส์หรือเปล่า ถ้าใส่ถอดนะจะได้สแกนม่านตา"
"ไม่ได้ใส่ฮ่ะ"
ชานยอลจับแบคฮยอนไปยืนอยู่ตรงหน้าเครื่องสแกนม่านตาก่อนจะจับท่าให้เครื่องสแกนจับภาพได้ตรงจุด
Complete !
"เอาล่ะ ต่อไปสแกนลายนิ้วมือ"
"ทำไมต้องทำอะไรพวกนี้ด้วย ยุ่งยากจัง"
"ทำแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละวันหลังไม่ต้องทำ เพราะเครื่องจะsaveข้อมูลทุกอย่างที่นายทำในวันนี้ไว้"
ในระหว่างที่ชานยอลกำลังพาแบคฮยอนไปสแกนในระบบต่างๆ กับมาสองสหายที่นั่งมองผ่านจอมอนิเตอร์อย่างสงสัย
"code88เรียกcode7 ไอ้ลู่มึงมาที่ห้องSecurity(รักษาความปลอดภัย)เร็ว กูมีไรเด็ดๆให้ดู"
"เออๆเดี๋ยวไป"
ไม่นานลู่หานก็มาพร้อมกับเฉินทั้งสี่กำลังจ้องไปที่จอมอนิเตอร์ที่ฉายภาพของชานยอลกับบุคคลปริศนาในนั้น
"คนนอกห้ามเข้าไม่ใช่หรอวะ" ไคว่า
"เด็กคนนั้นผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของกูมาได้ก็แสดงว่าไม่มีพิษมีภัยอะไร" เซฮุนที่ดูทึ้งกับคนในจอ เพราะปกติถ้ามีคนนอกป่านนี้เข้าสัญญาณบุกรุกคงดังลั่นไปนานแล้ว
"สงสัยจะไม่ธรรมดาแล้วว่ะ ไอ้ชานดูแลดีขนาดนี้" ลู่หานแสดงความคิดเห็นด้วยอีกคน
"กูว่าเรามาหาอะไรรับน้องใหม่กันดีกว่าวะ" ไคเสนอความคิดชั่วร้ายที่ผุดขึ้นในสมองอันชาญฉลาด
ในระหว่างที่นินทาชานยอลกันอย่างสนุกปากก็มีเสียงนึงดังขึ้น..
"พวกมึงจะแอบดูกูอีกนานมั้ย?" เสียงของหัวหน้าองค์กรที่รู้ตัวมาตั้งแต่ต้นดังไปทั่วห้อง ทำไมเค้าจะไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นกำลังดูเค้าและแบคฮยอนผ่านจอมอนิเตอร์
"เชี้ยละ..แยกย้ายๆ" ทั้งสี่แตกออกจากกันทั้งทีเมื่อถูกจับได้
"ถ้าอยากรู้มากก็ไปรอที่ห้องกู"
P.C.Y SIXTY1
แบคฮยอนสงสัยว่าชานยอลพูดกับใครทั้งๆที่ยินอยู่ด้วยกันแค่สองคนแค่กำลังจะอ้าปากถามก็โดนชานยอลเบรกซะหัวทิ่มไม่ทันได้ตั้งหลัก
"เดี๋ยวนายก็ชิน คนที่นี่ชอบพูดคนเดียวเป็นเรื่องปกติ"
"อือ..น้องบยอนก็นึกว่าพี่ชานคุยกับใคร"
"แล้วอยู่ที่นี่ อย่าสร้างปัญหาให้ฉันล่ะ"
"อือ..น้องบยอนจะไม่ดื้อกับพี่ชาน"
"ไม่สิ นายกำลังดื้อกับฉันอยู่นะบอกให้แทนตัวเองว่ายังไง?"
"ผมจะไม่สร้างปัญหาให้พี่ชาน!"
"ดีมากแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ไปกันเถอะ"
ชานยอลเดินนำแบคฮยอนไปที่ประตูขององค์กรก่อนจะหยิบคีย์การ์ดมาสแกนเพื่อให้ประตูเปิด
นับว่าแบคฮยอนเป็นผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลยกับองค์กรแต่สามารถผ่านระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างไม่มีปัญหา ชานยอลเองก็แปลกใจไม่น้อยแต่เค้าก็รู้ดีว่าแบคฮยอนไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรอยู่แล้ว
"ออฟฟิศพี่ชานสวยจัง" แบคฮยอนผู้ที่หลงใหลในศิลปะมองไปรอบๆอย่างชื่มชนในการออกแบบที่สวยงามแม้จะดูเรียบง่ายไปหน่อยแต่ก็ถือว่าสวยใช้ได้เลยล่ะ
"ว้าวดูสิหัวหน้าใหญ่ของเราพาใครมา" ไคจงใจกวนประสาทชานยอลทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไร
"อยู่กันครบก็ดี!จะได้แนะนำทีเดียว นี่บยอนแบคฮยอน เป็นลูกชายของคุณจุนมยอนต่อไปนี้จะมาอยู่ในความดูแลของกู"
ชานยอลแนะนำแบคฮยอนให้ทั้งสี่ได้รู้จักแค่คร่าวๆเพราะข้อมูลที่เหลือคงไม่ต้องบอก เพราะรู้แค่ชื่อเดี๋ยวไอ้ไคก็ไปหาเสือกเองจนได้
"ยินดีที่ได้รู้จักนะแบคฮยอน" ทั้งสี่ประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียงและยินดีต้อนรับแขกใหม่ผู้มาเยือน
คนตัวเล็กโค้งให้พี่ชายทั้งสี่ด้วยความเหนียมอาย ให้ตายเถอะนี่แบคฮยอนต้องมาอยู่ท่ามกลางผู้ชายหล่อๆตั้งห้าคนเชียวหรอ ถ้าคยองซูรู้มันต้องอิจฉาแน่ๆ อย่างนี้ต้องเม้าท์!
มือเล็กลวงหาโทรศัพท์ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าชานยอลบอกให้ใส่ไว้ในล็อคเกอร์แล้วแบบนี้จะเม้าท์ยังไงล่ะ -^-
"พี่ชาน แบคฮยอนขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ"
"ที่นี่ห้ามใช้โทรศัพท์"
"แต่ตอนเข้ามาแบคฮยอนไม่เห็นพี่ชานเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในล็อคเกอร์เลยนะ"
แบคฮยอนก็พูดออกไปด้วยความไร้เดียงสาแต่ดันเรียกเสียงหัวเราะจากพี่ชายทั้งสี่ได้ดังลั่น โดยเฉพาะไคที่จะดูสะใจกว่าคนอื่นที่เห็นชานยอลโดนแบคฮยอนยอกย้อนแบบนั้น
"รีบโทรแล้วรีบเอามาคืนฉันแล้วกัน!" ชานยอลจำใจต้องล้วงสมาร์ทโฟนเครื่องหรูยื่นให้แบคฮยอนอย่างเลี่ยงไม่ได้
"แต่แบคฮยอนจำเบอร์คยองซูไม่ได้ง่าพี่ชาน" ไม่ทันไรก็ทำตัวแล้วสินะแบคฮยอนเอ้ย..
"บอกชื่อจริงกับข้อมูลคร่าวๆมาสิเดี๋ยวพี่ช่วยหาเบอร์ให้" ไครีบเสนอตัวทันทีก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ชานยอลอย่างกวนประสาท
หลังจากได้เบอร์ของคยองซูด้วยวิธีของไคแล้วแบคฮยอนก็โทรไปเม้าท์กับคยองซูทันที ชานยอลลอบถอนหายใจอยู่หลายรอบนี่ขนาดเพิ่งจะมาถึงยังวุ่นวายขนาดนี้ไม่อยากจะคิดต่อเลย
"แบคฮยอนเป็นลูกชายของคุณจุนมยอนคนที่เกี่ยวกับคิมฮีชอลแล้วมึงพามาอยู่ที่นี่ไม่กลัวมาเป็นสปายหรอวะ?" ลู่หานถามตามนิสัยของคนทำงานในหน่วยข่าวกรองที่ช่างสังเกตและขี้สงสัยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
"แบคฮยอนเป็นเหยื่อรายต่อไปของคิมฮีชอล เป็นไปได้ว่าคุณจุนมยอนกำลังถูกคิมฮีชอลหลอกใช้เพื่อให้ได้ตัวแบคฮยอนง่ายขึ้น ดังนั้นแบคฮยอนจึงต้องมาอยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัย"
การคาดคะเนของชานยอลดูเหมือนจะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมแล้วหลังจากที่ERRORเพราะความน่ารักของแบคฮยอนไปก่อนหน้านี้
"เดี๋ยวนะกูสงสัยอยู่อย่าง แบคฮยอนนี่ใช่คนเดียวกันกับคนในรูปบนโต๊ะทำงานของมึงมั้ยวะ กูว่าโครงหน้าคล้ายๆ" เฉินกำลังประมวลผลจากโครงหน้าของคนตัวเล็กอย่างตั้งใจ
"เออหวะ ใช่เลยเฉินกูว่าใช่!" เซฮุนเห็นด้วยกับเฉินเพราะคราวที่ไปติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยในห้องทำงานของชานยอลเค้าก็สังเกตเห็นรูปบนโต๊ะทำงานที่ชานยอลถ่ายคู่กับใครสักคน
"จะใช่หรือไม่ ไม่มีผลต่อการทำงานอย่ามาจับผิดเพราะกูไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย และไอ้ไคอยู่ห่างๆแบคฮยอนไว้เค้าไม่ใช่คนที่มึงจะเล่นๆแล้วก็ทิ้งเหมือนผู้หญิงพวกนั้น! อีกสิบนาทีหกโมงเย็นได้เวลาจับตาดูปฏิกิริยาของคิมฮีชอล อย่าให้พลาด!" ชานยอลสั่งงานช้างก่อนจะรีบลุกออกจากห้องนั่งเล่นทันที
ชานยอลกำลังข่มความโกรธเอาไว้ไม่ให้ใครจับได้ เค้าไม่ได้หวงอะไรแบคฮยอนหรอกเพียงแต่ไม่อยากให้ใครมายุ่งก็เท่านั้นเอง
น้องบยอนกับพี่ชาน XD
สวัสดีค่า ฝากชานแบคเรื่องแรกด้วยนะคะแต่งสนองตัวเองเลยค่ะเรื่องนี้
สกรีมแท็ก #ชานแบคลับรัก
ด้วยรักและชานแบคค่ะ <3
ความคิดเห็น