[Fic HP/DM] I’m sorry, I love you (Y)
แฮร์รี่ทำหนังสือหลุดมือไปกระแทกถูกหัวเดรโกโดยไม่ได้ตั้งใจ เดรโกจึงตามรังความหาเรื่องแฮร์รี่ เมื่อแฮร์รี่ชักรำคาญเขาจึง....?!? เรื่องสั้นขนาดยาว Y นะคะ, NC-17, Humor, Fluff, Romance
ผู้เข้าชมรวม
18,258
ผู้เข้าชมเดือนนี้
23
ผู้เข้าชมรวม
Title: Im sorry, I love you [Beta'd by Rain]
Author: ichi2
Category: humor, fluff, romance
Pairing: HP/DM
Rating: NC-17
Spoilers: not spoil
Disclaimer: Harry is JKs. And even though she had been trying to distort, he actually is queer as well as Draco.
Summary: Harry accidentally threw a book onto Dracos head. The Slytherin boy gone mad and wanted a fight. So he kept bothering Harry, thats why the story went on.
Author notes: เราเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าชื่อเรื่องนี้ไปตรงกับชื่อหนังเกาหลีเรื่องหนึ่งเข้า - -" เราไม่รู้จริง ๆ และไม่ได้ตั้งใจให้ซ้ำนะคะ
เราโพสต์ลงอีกบอร์ดด้วยชื่อเรื่องนี้ไปแล้ว ฉะนั้นเราจะไม่เปลี่ยนชื่อใหม่ค่ะ ^ ^
ก่อนอื่นขอบอกว่านี่เป็นฟิค NC เรื่องแรกของเราค่ะ แรงที่สุดที่เคยเขียนมา (แต่ไม่ได้แปลว่าแรงอลังการนะคะ อย่าเพิ่งคาดหวังมากล่ะ ^ ^") แต่ก็ทำเอาเราพิมพ์ไปอายไปจริง ๆ ค่ะ >//////<
ขอบคุณ Rain เบต้าคนดีของเรา สำหรับความช่วยเหลือและไอเดีย Epilogue นะจ้ะ ^ ^
แนะนำติชมได้เต็มที่เลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ ^ ^
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
~ I’m sorry, I love you ~
“ชักไม้กายสิทธิ์ของนายออกมาพอตเตอร์!”
“มัลฟอย ฉันกำลังรีบ อย่ามากวนใจได้ไหม”
“คิดจะหนีเรอะ หันมาเดี๋ยวนี้!”
“มัลฟอย ฉันมีงานต้องทำ ไปไกล ๆ ไป”
“อย่ามาทำเมินฉันนะพอตเตอร์ คิดหรือว่าหาเรื่องฉันแล้วนายจะเดินหนีไปได้ง่าย ๆ!”
“นี่ฉันบอกนายไปสักสองร้อยครั้งแล้วมั้งว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“นายปาหนังสือใส่หัวฉันจากข้างหลัง แน่จริงเจอกันซึ่ง ๆ หน้าสิ!”
“ฉันไม่ได้ปา มัลฟอย พีฟส์มาก่อกวนฉันมันเลยหลุดมือ”
“ไม่ต้องมาแก้ตัว ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาเดี๋ยวนี้!”
“โอ๊ย น่ารำคาญจริง!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องขึ้นมาอย่างอดไม่ไหว เธอหันกลับไปจ้องหน้าเด็กหนุ่มผมบลอนด์ที่เดินตามพวกเขาอย่างกัดไม่ปล่อยมาตลอดทาง “นายว่างจัดหรือไงห๊ะมัลฟอย? งานการไม่มีทำเรอะ ถึงคอยมาตามเกาะแกะแฮร์รี่เป็นเหาฉลามอยู่ได้”
“หุบปาก ฉันไม่ได้พูดกับเธอ เลือดสีโคลน!”
เฮอร์ไมโอนี่กลอกตาด้วยความเหนื่อยหน่าย ราวห้านาทีก่อนเธอกับแฮร์รี่และรอนกำลังเดินอยู่ที่โถงทางเดินกลาง พวกเขาเพิ่งออกมาจากห้องเรียนวิชาคาถาซึ่งเป็นชั่วโมงสุดท้ายของวัน แล้วขณะที่กำลังจะเดินเลี้ยวหัวโค้ง พีฟส์ก็โฉบหัวเหม็น ๆ ของมันลงมาที่พวกเขา กระแทกหนังสือกับสัมภาระหล่นกระจาย และพยายามจะยื้อแย่งตำราปรุงยาของแฮร์รี่ พอแฮร์รี่รำคาญและปล่อยมือ หนังสือเล่มโตก็เลยลอยละลิ่วปลิวละล่องไปกระแทกหลังหัวเดรโก มัลฟอยที่บังเอิญมายืนอยู่แถวนั้นได้ยังไงไม่รู้เข้าเต็มเปา ผลที่ตามมาก็อย่างที่เห็น หมอนี่ก็เต้นเหยง ๆ ร้องท้าสู้แฮร์รี่มาตลอดทางจนถึงหน้าปราสาทอย่างนี้ไงล่ะ
“อย่าเรียกเธออย่างนั้น ไอ้เฟเร็ต!” รอนร้องอย่างเกรี้ยวกราด เด็กหนุ่มผู้ไม่ได้ถูกท้ากลายเป็นฝ่ายที่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาชี้ใส่หน้าคนท้าแทน “นายไปเถอะแฮร์รี่ ไอ้เฟเร็ตนี่ปล่อยพวกฉันจัดการเอง”
เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามาแล้วชี้ไม้กายสิทธิ์ใส่เดรโกเช่นกัน “แล้วเจอกันตอนมื้อเย็นนะแฮร์รี่” เด็กสาวบอก
“ฮื่อ ขอบใจนะ” แฮร์รี่รับคำแล้วกลับหลังหันทำท่าจะเดินไป
“หยุดนะ!” เดรโก มัลฟอยร้องตาม พยายามจะเข้าไปหยุดแฮร์รี่แต่ถูกขวางไว้เสียก่อน
“ถ้าอยากจะสู้นักล่ะก็ พวกฉันจะสู้กับนายเอง” รอนบอก
“หลีกไป อย่ามาแส่ไม่เข้าเรื่อง!” เดรโกพยายามหาทางแทรกในขณะที่สองคนก็พยายามกันเขาอย่างเต็มที่ เด็กหนุ่มส่งเสียงอย่างหัวเสีย “พอตเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่ทำได้แค่หลบอยู่หลังคนอื่นหรือไงหา ฉันท้านายได้ยินไหม ไอ้ขี้ขลาด! ”
แฮร์รี่ถอนหายใจแล้วหันหน้ากลับมา “ฉันไม่ได้ขี้ขลาดแต่ฉันมีงานต้องทำมัลฟอย ไม่มีเวลามาเล่นด้วย เป็นเด็กดีแล้วกลับไปทำการบ้านของนายซะ วันหลังจะเอาอมยิ้มมาฝาก” แฮร์รี่ไม่ทันได้สนใจดูว่าเดรโกมีท่าทีอย่างไรกับคำพูดของเขา ทันทีที่พูดจบเด็กหนุ่มก็โบกมือแล้วเดินจากมา เขาได้ยินเสียงแว่ว ๆ ตะโกนไล่หลังมาว่า หยุดนะกลับมาเดี๋ยวนี้ และอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสาปให้กลายเป็นหนอนหรือไงนี่แหละ เขาเดินมาไกลเกินกว่าจะฟังได้ถนัดเสียแล้ว
= = = = = = = =
แฮร์รี่ไม่ได้ถูกทำโทษ แต่เขาหลุดปากออกไปเองว่าจะช่วยทำงานแทนเนวิลล์ เนื่องจากเด็กหนุ่มต้องอยู่สะสางงานกองโตเท่าภูเขาที่หมกไว้ให้ทันส่งพรุ่งนี้ นี่เป็นเหตุผลให้แฮร์รี่ต้องมาอุดอู้อยู่ในเรือนกระจกอับ ๆ ในวันที่อากาศดีอย่างนี้
“ขอบคุณมากนะแฮร์รี่ ฉันไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงดีเลย ต้นไม้พวกนั้นน่ะไม่เอาลงกระถางวันนี้ไม่ได้ซะด้วย” เนวิลล์พูดน้ำเสียงซาบซึ้ง ทำเอาแฮร์รี่ปฏิเสธไม่ลงเข้าไปใหญ่
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ฉัน...ยินดีอยู่แล้ว” แล้วพอตอบไปอย่างนั้นปุ๊บก็เป็นอันจบข่าว
แฮร์รี่ถอนหายใจ เอาเถอะ ที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก เขานึกพลางหยิบต้นกล้าต้นสุดท้ายขึ้นมาปักลงกระถาง ตักดินใส่ ก่อนจะเดินเอาไปวางรวมกับกระถางอื่น ๆ ที่ตากแสงจันทร์อ่อน ๆ อยู่ตรงมุมเรือนกระจก
“เฮ้อ เสร็จซะที” แฮร์รี่พึมพำกับตัวเองหลังจากวางกระถางสุดท้ายลงบนโต๊ะไม้ เผลอแผล็บเดียวเท่านั้นเวลาล่วงเลยมาจนป่านนี้แล้ว คิดว่าจะเสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดินแต่ก็ล่อซะฟ้าเกือบมืด กินเวลาจริง ๆ ที่เหลือก็แค่รดน้ำตามปริมาณที่เนวิลล์บอกแล้วก็ทิ้งให้ตากแสงจันทร์หนึ่งคืนเท่านี้ก็เรียบร้อย “รีบทำให้เสร็จ ๆ ดีกว่า ชักหิวข้าวแล้ว” แฮร์รี่ผละจากโต๊ะไม้เพื่อจะเดินไปหยิบบัวรดน้ำที่เขาตั้งเตรียมเอาไว้ที่มุมอีกฝั่งหนึ่ง แต่มันกลับไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
“หาไอ้นี่อยู่เรอะ?”
แฮร์รี่หันมองยังต้นเสียง เด็กหนุ่มสลิธิรีนยืนประจันหน้ากับเขาด้วยท่าทางเอาเรื่อง มือข้างหนึ่งถือบัวรดน้ำชูขึ้นเบื้องหน้าเขา เด็กหนุ่มคว่ำกระบอกลง น้ำทั้งหมดสาดกระจายเต็มพื้น
แฮร์รี่ถอนหายใจ “นายนี่ตื้อจริง ๆ เลยให้ตาย”
“นายอย่าหวังนะว่าจะหนีไปได้ตลอด ฉันไม่ปล่อยนายแน่จนกว่านายจะยอมชักไม้กายสิทธิ์ออกมาแล้วสู้ตัดสินกับฉันซึ่ง ๆ หน้า” เขาโยนบัวรดน้ำทิ้งไปด้านหลัง
“ทำไมนายถึงอยากจะสู้กับฉันนักห๊ะ? อะไรทำให้นายคิดว่าจะชนะฉันได้ ในเมื่อนายยังสูงไม่ถึงไหล่ฉันด้วยซ้ำ มัลฟอย”
“เงียบนะ เรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฝีมือสักหน่อย!” เด็กหนุ่มแย้ง หน้าแดงขึ้นมาทันทีด้วยความโกรธ เขาไม่ชอบให้ใครพูดถึงเรื่องส่วนสูงของเขา ไม่ว่าจะเพื่อนหรือศัตรูก็ตาม “ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาพอตเตอร์!”
แฮร์รี่ถอนหายใจพลางส่ายหัว “ฉันไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะมัลฟอย หลีกไป เกะกะ” เขาตักน้ำใส่บัวรดน้ำอีกอันหนึ่งแล้วเดินไปรดลงบนต้นกล้าทีละกระถาง
เดรโก มัลฟอยกำมือแน่นอย่างโกรธจัด เขาไม่ชอบให้ใครมาเมินเขา ทำเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาอย่างนี้ หมอนี่ถือดียังไงถึงมาทำท่าทางอย่างนี้ใส่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ไอ้พอตเตอร์จอมโอหัง! เขาจะต้องทำให้ไอ้ขี้เก๊กนี่รู้สึก แฮร์รี่ พอตเตอร์จะต้องสำนึกเสียใจที่กล้ามาเมินเดรโก มัลฟอย!
เดรโกเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีกระถางต้นกล้าตั้งเรียงรายอยู่ แฮร์รี่ชำเลืองมองเขา แล้วหันกลับไปรดน้ำต่ออย่างไม่แยแส เดรโกกัดฟันกรอด เขาก้มมองต้นกล้าเล็ก ๆ ที่ชูกิ่งก้านรับแสงจันทร์อยู่ในกระถาง แล้วรวบคว้าสิ่งมีชีวิตสีเขียวนั้นไว้ด้วยกำมือแข็งแกร่ง ดึงกระชากทั้งต้นทั้งรากขึ้นมาจากดิน ได้ผล แฮร์รี่หันมามองเขาด้วยสีหน้าที่แข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“นายจะทำอะไรมัลฟอย” ร่างสูงมองต้นไม้เล็ก ๆ ถูกบีบบิดเบี้ยวอยู่ในกำมือเด็กหนุ่มตรงหน้า “ปล่อยมือซะ”
เดรโกยิ้ม “ได้แน่นอนอยู่แล้ว” เขากางมือออก ปล่อยต้นกล้าเล็ก ๆ ที่อ่อนแรงร่วงลงพื้น แล้วยกเท้าขยี้มัน ก่อนตวัดสายตากลับมามองแฮร์รี่อย่างท้าทาย
แฮร์รี่จ้องหน้าเดรโกนิ่ง “เล่นอะไรไม่เข้าเรื่องเลยนะ” เขาพูดเสียงเย็น
“แล้วไง” เด็กหนุ่มยิ้มเยาะ “จะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาได้รึยัง?”
“ออกไปซะมัลฟอย”
“ห๊ะ?”
“ออกไปได้แล้ว อย่าให้ต้องพูดซ้ำ” แฮร์รี่พูดเสียงห้วนแล้วหันหลังให้เดรโก ยกบัวรดน้ำทำงานต่อ สักพักเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นข้างหลังอีกครั้ง และเมื่อแฮร์รี่หันกลับไป เขาก็เห็นเด็กหนุ่มผมบลอนด์ยังคงยืนอยู่หน้าโต๊ะไม้ สองมือดึงกระชากต้นกล้าออกจากกระถางอย่างดุเดือด “มัลฟอย!” แฮร์รี่แผดเสียงแล้วพุ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่ม “หยุดเดี๋ยวนี้! นายอย่าหาเรื่องนะ!”
“ฉันมาหาเรื่องไงล่ะ!” เดรโกผลักแขนแฮร์รี่ออกแล้วคว้ากระถางดินใบใหญ่โยนใส่เขา กระถางกระแทกแฮร์รี่ล้มลงแล้วหล่นแตกกระจาย ร่างบางยิ้มกริ่ม แฮร์รี่ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นยืนมองเขาสีหน้านิ่ง “ทีนี้ก็เริ่มได้สัก...” เดรโกชี้ไม้กายสิทธิ์ชี้มาข้างหน้าแต่แฮร์รี่ปัดมือเด็กหนุ่มอย่างแรงจนไม้กระเด็นหลุดมือไป “อะไร พอตเตอร์ อย่าขี้โกงสิ ชักไม้กายสิทธิ์...” แฮร์รี่คว้าข้อมือเดรโกแล้วออกแรงเหวี่ยง ร่างบางเสียหลักล้มลงหลังกระแทกพื้น แฮร์รี่โยกตัวขึ้นคร่อมเขาอย่างรวดเร็ว ล็อกแขนทั้งสองตรึงไว้กับพื้น
เดรโกรู้สึกตกใจที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเตะขาไปมา แต่ร่างสูงกดไว้แน่น ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาอย่างแข็งกร้าว มันทำให้เดรโกรู้สึกหนาววาบ เขาเคยเห็นแฮร์รี่โกรธ เคยเห็นแฮร์รี่ตะโกนเสียงดัง แต่ไม่เคยเห็นแฮร์รี่เป็นแบบนี้ แฮร์รี่ที่ดูหมดความอดทนและราวกับจะไม่มีใครหยุดได้...
เดรโกไม่รู้ว่าแฮร์รี่กำลังจะทำอะไร...ไม่จนกระทั่งแฮร์รี่โฉบตัวลงมาและประกบปากกับเขา กระชากเนกไทกับเสื้อเขาออกแล้วสอดมือเข้ามาสำรวจหน้าอกเขาอย่างถือวิสาสะ เดรโกสะดุ้งตกใจ เด็กหนุ่มออกแรงทุบไหล่ร่างสูงและพยายามดันเขาออก เขากวาดมือไปรอบด้านค้นหาไม้กายสิทธิ์ แต่มันหล่นอยู่ไกลออกไป เดรโกส่งเสียงอู้อี้และดิ้นเร่า ๆ เสียงร้องของเขาไม่หลุดออกมาจากคอด้วยซ้ำ ลิ้นของแฮร์รี่คับอยู่ในปากเดรโก ตวัดไปมารุนแรงจนเขาแทบไม่มีพื้นที่พอให้หายใจ แฮร์รี่กระหน่ำจูบเขาไม่หยุด ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้วนเวียนเนินอกทั้งสองข้าง หัวใจเดรโกเต้นแรง เขาหายใจหอบและรู้สึกร้อนผ่าวไปจนถึงช่องท้อง เด็กหนุ่มเหยียดขาตึง พยายามขืน แฮร์รี่ไล่มือลงไปสัมผัสช่วงเอวของเขา ซุกไซ้ใบหน้าไปตามแก้มและใบหู เดรโกกลั้นหายใจและปิดตาแน่น อ้าปากเปล่งเสียง
“อย่า...”
เสียงที่ออกมานั้นสั่นและแหบพร่า แต่แฮร์รี่ได้ยินมันอย่างชัดเจน เด็กหนุ่มหยุดมือและเงยศีรษะขึ้นมองเดรโก ใบหน้าขาวแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นเทา แฮร์รี่ค่อย ๆ ลุกขึ้น ปล่อยมือและขยับตัวออกจากร่างบาง เดรโกรีบยันตัวขึ้นพร้อมกับดึงเสื้อกลับมาปกปิดร่างกายทันที ดวงตาสีเทาเหลือบมองแฮร์รี่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากเรือนกระจกไป
= = = = = = = =
เดรโกกลับมาที่หอสลิธิรีนและไม่ได้กลับออกไปอีก เขาเจอเบลสที่ดูเหมือนจะไม่ออกไปกินข้าวเย็นเช่นกันนั่งอยู่ในห้องนอน เด็กหนุ่มผมดำทักเขาจากสภาพที่เห็นว่าไปโดนข่มขืนที่ไหนมา เบลสคงคิดว่าเขาจะหัวเราะแล้วด่ากลับ แต่เขาเหนื่อยเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียง เดรโกหยุดมองหน้าเบลสเพื่อบอกให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับตลกร้าย แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป เบลสนั่งอึ้งเล็กน้อยอยู่บนเตียงของเขา
= = = = = = = =
แฮร์รี่เดินกลับมาที่ห้องโถงใหญ่หลังจากจัดการเก็บกวาดที่เรือนกระจกเรียบร้อยแล้ว เขาไม่เห็นเดรโกที่นั่นและไม่ได้เห็นเลยตลอดมื้อค่ำ มันทำให้แฮร์รี่รู้สึกกังวลใจลึก ๆ เมื่อกี้เขาทำเกินไปจริง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มันเลยเถิดไปถึงขนาดนั้น แต่เขาอารมณ์ขึ้น และกว่าจะรู้สึกตัวอีกทีเขาก็นั่งคร่อมเดรโกที่อยู่ในสภาพเปลือยครึ่งตัวแล้ว
แฮร์รี่คิดถึงดวงตาสีเทาที่จ้องมองมาเป็นครั้งสุดท้าย มันสั่นและมีแววตื่นตระหนก เขาอาจทำให้เจ้าของดวงตาคู่นั้นเจ็บปวดเสียแล้ว แต่เป็นเพราะเดรโกมาหาเรื่องเขาอยู่ได้นี่ ถ้าหมอนั่นไม่มายั่วเขาตั้งแต่แรกมันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก
แฮร์รี่ถอนหายใจ เขาไม่อยากปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้เลย รู้สึกแย่จริง ๆ สิให้ตาย ตอนนี้หมอนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ...
= = = = = = = =
เดรโกอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งหมกตัวอยู่ในห้องนอน เขารู้สึกใจสั่นและสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำไมพอตเตอร์ถึงทำแบบนี้? หมอนั่นคิดอะไรกันแน่ จนกระทั่งตอนนี้หัวใจเขาก็ยังเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกจากอกให้ได้ เดรโกทิ้งตัวลงบนเตียงและนอนขดอยู่อย่างนั้น เขารู้สึกร้อนไปทั้งตัว ร้อนและครั่นเนื้อครั่นตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุด มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเขาหรือเปล่า นี่เขาจะกลับเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เขาจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปหรือเปล่า...
เดรโกส่งเสียงครางและนอนบิดไปมา เหงื่อออกเต็มหน้าผากและหอบหายใจแรง หัวใจเร่งจังหวะเต้นเสียงดังอยู่ในหูของเขา เขาได้ยินเสียงเบลสถามอะไรสักอย่างพร้อมกับเขย่าไหล่เขา ไม่รู้ว่าทำไมมือของเบลสถึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวขนาดนั้น เขาสะบัดมันออกและส่ายหัวแทนคำตอบ สักพักหนึ่งแพนซี่ก็เดินเข้ามาพูดอะไรบางอย่างเช่นกัน แต่เดรโกฟังไม่ชัด เขารู้สึกถึงมือเย็น ๆ ของแพนซี่บนหน้าผาก ทั้งสองคนคุยอะไรกันสักอย่าง เขาเห็นใบหน้ากลมใหญ่ของแครบกับกอยล์ลอยอยู่เหนือเตียงเขาลาง ๆ เดรโกหลับตาลงเมื่อความร้อนจู่โจมเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบทนไม่ไหว เขารู้สึกเหมือนตัวกำลังลอยขึ้น รู้สึกโหวง ๆ ในท้อง แล้วเขาก็ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว...
= = = = = = = =
แฮร์รี่เดินเตร่อยู่คนเดียวบนโถงทางเดินหน้าประตูหอสลิธิรีน เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเดรโก มัลฟอยคงจะอยู่ในหอแน่ ๆ เพราะเขาไม่เห็นหมอนั่นอยู่ที่ไหนเลย แต่แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเขาใต้ผ้าคลุมล่องหน และแม้นักเรียนสลิธิรีนจะผลัดกันเดินเข้าเดินออกเปิดโอกาสให้แฮร์รี่แอบลอบเข้าไปข้างในได้สบาย ๆ นับสิบครั้ง แต่เขาก็ยังลังเลใจอยู่ดี
เขาจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ? แค่มัลฟอยไม่ได้มากินข้าวเย็นมื้อเดียวไม่ได้แปลว่าหมอนั่นจะต้องเป็นอะไรสักหน่อย บางทีอาจไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเขาเลยก็ได้ มัลฟอยอาจจะแค่ไม่หิว แล้วเลยกำลังนอนสบายใจอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ ก็ได้ เขายังไม่ได้ทำจนถึงขั้นสุดท้ายสักหน่อย...หรือต่อให้ถึง มันก็ไม่ทำให้หมอนั่นถึงตายหรอกน่า เฮ้อ เอายังไงดีว้า...
แล้วในขณะที่แฮร์รี่ยังคิดไม่ตกอยู่นั้น ประตูหอสลิธิรีนก็เปิดออกอีกครั้ง กลุ่มคนคุ้นตาทั้งหมดที่เดินออกมาทำให้แฮร์รี่ต้องหยุดเดินย่ำไปมาและหันมอง เขาเห็นแพนซี่กับเบลสท่าทางร้อนใจออกมา ตามมาด้วยแครบกับกอยล์ แครบอุ้มเดรโกที่ดูเหมือนจะมีไข้สูงและท่าทางน่าเป็นห่วงอยู่ เดรโกหอบหายใจแรง ใบหน้าแดงก่ำ แฮร์รี่ยืนนิ่งอึ้ง...เฮ้ย เป็นขนาดนี้เลยเรอะ!
“อุ้มดี ๆ สิแครบ” แพนซี่ว่าพลางเข้าไปพยุงศีรษะเดรโกที่เงยพับออกนอกแขนของแครบไป
“เดินมาเร็วเข้า รีบพาเดรโกไปหามาดามพอมฟรีย์ก่อน” เบลสร้องเร่งเพื่อน ก่อนที่ทั้งหมดจะรีบเร่งฝีเท้าจากไป...รวมทั้งแฮร์รี่ด้วย
= = = = = = = =
“เขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกจ๊ะ สบายใจได้ แค่อาจจะ...เหนื่อยมากไปหน่อย” มาดามพอมฟรีย์หันไปมองเด็กหนุ่มผมบลอนด์ที่ถูกหามมานอนอยู่บนเตียงพยาบาล ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้กลุ่มนักเรียนสลิธิรีน “ถ้ายังไงให้เขาพักอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าจะตื่นก็แล้วกัน”
เมื่อทั้งสี่คนกล่าวขอบคุณมาดามพอมฟรีย์และออกจากห้องพยาบาลแล้ว อาจารย์สาวก็เดินเข้ามาดูอาการคนไข้เพียงคนเดียวของเธอ เธอดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาแตะตัวเดรโกเบา ๆ เด็กหนุ่มค่อย ๆ ได้สติลืมตาขึ้นแล้วกวาดตามองรอบห้อง
“ไงจ๊ะหนุ่มน้อย ขอโทษที่ต้องปลุกนะ แต่ฉันคิดว่าปล่อยเอาไว้เธอก็คงหลับไม่สบายตัวอยู่ดี”
เดรโกมองหน้ามาดามพอมฟรีย์ แล้วเด็กหนุ่มจึงเลิกสำรวจสถานที่ อาจารย์สาวคนนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนที่สุดว่าเขากำลังอยู่ที่ห้องพยาบาล มาดามพอมฟรีย์ส่งยิ้มละไมให้เขาขณะใช้ผ้าชุบน้ำซับเหงื่อบนหน้าผากให้
“ฉันจะไม่ถามก็แล้วกันว่าเธอไปทำอะไรมาให้ฮอร์โมนไหลล้นขนาดนี้ แต่เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะกลับเข้าไปทำงานต่อข้างใน แล้วถ้าเธอต้องการจะจัดการตัวเองละก็...” เธอหยิบทิชชู่สองม้วนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงเขา “ดูแลให้เรียบร้อยด้วยนะจ๊ะ” เธอขยิบตาให้เขา เดรโกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที “เด็กหนุ่ม ๆ ก็ลำบากอย่างนี้ล่ะ แต่ยังไงก็อย่าลืมหาเวลาให้ตัวเองบ้างนะจ๊ะ สักสองอาทิตย์ครั้งก็ยังดี” แล้วมาดามพอมฟรีย์ก็เดินหายเข้าไปหลังประตูห้องทำงานของเธอ ทิ้งให้เดรโกนอนมองทิชชูหน้าแดงอยู่คนเดียว...หรือที่จริงแล้วสองคน
แฮร์รี่นั่งอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหนบนเตียงตรงข้ามเดรโก เขามองม้วนทิชชูที่หัวเตียงเด็กหนุ่มสลิธิรีนแล้วยกมือปิดปาก เชื่อเขาเลย คงมีเด็กหนุ่มวัยรุ่นไม่กี่คนนักหรอกที่จะถูกผู้หญิงแนะนำเรื่องแบบนี้ให้ ถ้าเป็นเขาคงขายขี้หน้าตายชัก แฮร์รี่เห็นเดรโกยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วยกมือปิดหน้า กัดริมฝีปาก หมอนั่นก็คงจะรู้สึกอายอยู่เหมือนกันละนะ
แฮร์รี่ยืนขึ้น สรุปว่าหมอนี่ไม่ได้เป็นอะไร ยังอยู่สบายดี แค่อารมณ์ค้างแล้วลงไม่ได้เท่านั้น...แสดงว่าเขาก็ลีลาเด็ดใช้ได้ใช้ม้า...ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วเขาก็คงได้เวลาต้องกลับหอสักทีเหมือนกัน แฮร์รี่คิด เขากำลังจะเดินออกจากห้องพยาบาลอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เหลือบกลับไปมองเดรโกอีกครั้งและเห็นเขากำลังปลดกางเกงตัวเองอยู่...เฮ่ย เฮ่ย เฮ่ย เอาจริงหรือเนี่ย!
= = = = = = = =
ตอนที่เดรโกตื่นขึ้นมาอีกครั้งเขาเห็นเพดานห้องเปลี่ยนไปเป็นสีขาว เขาเพ่งตามองสถานที่ที่เขาค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช้ห้องนอนของตัวเอง แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นที่ไหน แล้วเขาก็เห็นมาดามพอมฟรีย์ อา...ห้องพยาบาลนั่นเอง สงสัยพวกแพนซี่คงพาเขามาที่นี่แน่ ๆ ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริง ๆ
มาดามพอมฟรีย์ยิ้มมีเลศนัยแล้วพูดกับเขาเรื่องดูแลตัวเอง พร้อมกับหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาวางไว้ให้สองม้วน ก่อนจะขอตัวจากไป เดรโกอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีจริง ๆ เป็นเพราะพอตเตอร์คนเดียว เพราะไอ้บ้านั่นอยู่ดี ๆ ก็ผีเข้าแล้วก็มา...มาอะไร ๆ กับเขา เดรโกยกมือปิดหน้า ให้ตายสิ พอนึกถึงก็ชักจะร้อนขึ้นมาอีกแล้ว น่าขายหน้าชะมัด อย่าให้ใครรู้เชียวว่าคนที่ทำให้เขาเป็นขนาดนี้คือแฮร์รี่ พอตเตอร์
เดรโกถอนหายใจ บางทีจัดการตัวเองสักหน่อยอย่างที่มาดามพอมฟรีย์บอกก็ดีเหมือนกัน...
= = = = = = = =
แฮร์รี่ยืนกลั้นหายใจอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน มองเดรโกปลดกระดุมกางเกงตัวเองแล้วค่อย ๆ สอดมือเข้าไป ให้ตาย! หมอนี่ตั้งใจจะทำที่นี่ ในห้องพยาบาลที่อาจมีใครเปิดประตูเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้เนี่ยนะ หนำซ้ำแม้แต่ม่านก็ไม่รูดปิด มันจะชะล่าใจเกินไปแล้ว!
แฮร์รี่หันมองประตูห้องมาดามพอมฟรีย์สลับกับประตูห้องพยาบาล มันยังคงปิดสนิทอยู่ ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเปิดเข้ามา แต่ใครจะรู้ล่ะ
แฮร์รี่หันกลับมามองเดรโกอีกครั้งหนึ่ง เด็กหนุ่มผมบลอนด์ถอดกางเกงออกแล้วและกำลังเลื่อนกางเกงในลง แฮร์รี่นิ่งมองตาค้างเมื่อเห็นอวัยวะที่ถูกปิดซ่อนของเดรโกปรากฏแก่สายตา มัน...เอ่อ มันก็เล็กกว่าของเขานิดหน่อย แต่ก็ควรจะเป็นอย่างนั่นอยู่แล้วล่ะนะ เขาคงต้องโด๊ปยาขนานใหญ่แล้วล่ะถ้าเขายังเล็กกว่าเดรโก ก็หมอนี่เตี้ยกว่าเขาตั้งครึ่งฟุต
เดรโกจรดปลายนิ้วแตะส่วนปลายของตัวเอง ขยับมือสัมผัสมันก่อนจะกำรวบไว้ทั้งมือ แฮร์รี่ใจเต้นแรงและเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาเช่นกัน เขากลืนน้ำลายอย่างลืมตัว หันรีหันขวางมองประตูอย่างลังเลอีกครั้ง ก่อนจะรีบย่องไปล็อคประตูห้องพยาบาล เสกคาถาสงบเสียงใส่ประตูห้องมาดามพอมฟรีย์ แล้วกลับมาที่หน้าเตียงมัลฟอยอีกครั้ง เด็กหนุ่มกำลังครางเบา ๆ และขยับมือเป็นจังหวะ แฮร์รี่ค่อย ๆ นั่งลงที่ปลายเตียง มองอากัปกิริยาของร่างบางไม่วางตา เขาไม่เคยเป็นสักขีพยานในฉากช่วยตัวเองของใครใกล้ ๆ อย่างนี้มาก่อน นอกจากของตัวเอง และเขายอมรับว่ามันเร้าอารมณ์กว่ากันเยอะมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนคนนั้นคือเด็กหนุ่มที่ชื่อเดรโก มัลฟอย...
แฮร์รี่เลียริมฝีปากและกุมกางเกงตัวเองอย่างข่มใจ ได้ยินเสียงมัลฟอยหอบแรงขึ้น เขาเองก็ชักจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน แฮร์รี่ค่อย ๆ เลื่อนมือปลดกางเกงออก พยายามทำอย่างแผ่วเบาที่สุด แล้วสอดมือเข้าไปสัมผัสอวัยวะของตัวเองที่เริ่มตื่นตัวแล้ว
...โอ้ว...
แฮร์รี่กัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้เสียงเขาเล็ดลอดออกมา เขาเหลือบตามองเดรโก หมอนั่นกำลังขยับมือเร็วขึ้น หอบแรงขึ้น และครางเสียงดังขึ้น แฮร์รี่หลับตาลงและจินตนาการถึงร่างกายของเดรโก คิดถึงผิวขาวเนียนและริมฝีปากนิ่มที่เขาเพิ่งได้สัมผัสเมื่อตอนเย็น และมันจะรู้สึกอย่างไรหากร่างกายของเขาได้สัมผัสกับร่างบางโดยตรง
แฮร์รี่เร่งจังหวะขึ้น อ้าปากหอบหายใจ เสียงของเด็กหนุ่มสลิธิรีนลอยมาเข้าหู และทำให้แฮร์รี่เกือบจะส่งเสียงร้องออกมาเช่นกัน เขาเม้มปากไว้ ก้มตัวมาข้างหน้าแล้วขยับมือแรงขึ้นอีก เขาเกือบจะถึงแล้ว...เกือบจะถึงแล้ว...
“อื้อ...” แฮร์รี่ส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ เมื่อเขาเดินทางมาจนถึงจุดหมาย เขารีบเงยหน้ามองเดรโก แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะง่วนอยู่กับธุระของตัวเองและไม่ทันได้ยิน แฮร์รี่ถอนหายใจและเพิ่งรู้สึกว่าเขาอยู่ในจุดที่เสี่ยงมากขนาดไหน นั่งอยู่ปลายเตียงที่ห่างจากเดรโกแค่สามฟุต บางทีการที่เด็กหนุ่มไม่ผิดสังเกตเขาต่างหากที่เป็นเรื่องแปลก ว่าแต่หมอนี่ยังไม่เสร็จอีกหรือ ช้าจริง
“อะ อะ อา...” เดรโกร้องเสียงดังขึ้น ถี่ขึ้น ดูเหมือนกำลังจะเสร็จแล้วเหมือนกัน “พอตเตอร์...อื้อ...!” สิ้นเสียงสุดท้ายเดรโกก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาแล้วล้มตัวลงนอนหอบหายใจ
แฮร์รี่นั่งนิ่งตาค้าง เมื่อกี้มันอะไร เขาหูฝาดรึเปล่า เขาเพิ่งได้ยินเดรโกเรียกชื่อเขา...อันที่จริงต้องพูดว่าคราง ชื่อของเขา แถมยังขณะกำลังช่วยตัวเอง!
แฮร์รี่ยกมือปิดปากอย่างไม่อยากเชื่อ “อึ๊...” เขาสะดุ้งเมื่อฝ่ามือตัวเองสัมผัสกับใบหน้า แฮร์รี่ลืมไปว่าเขายังไม่ได้ทำความสะอาด มันเลยเลอะเทอะอยู่พอสมควร แต่นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่ มัลฟอยนึกภาพเขางั้นหรือ? หมอนี่ทำโดยนึกถึงเขามาตลอดเลยรึเปล่า หรือเป็นเพราะอารมณ์ค้างจากการโดนเขาจู่โจม เลยต้องนึกถึงเขาเพื่อต่อให้จบ?
แฮร์รี่กลืนน้ำลาย ยิ้มกับตัวเอง จะอะไรก็แล้วแต่ เขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉย ๆ แน่...
= = = = = = = =
เดรโกกำลังนอนหงายอยู่บนเตียงนอนในหอสลิธิรีนและคิดถึงแฮร์รี่ ตั้งแต่กลับจากห้องพยาบาลคราวนั้นสามสี่วันผ่านมาเขาต้องจัดการตัวเองทุกวัน ที่จริงมันคงไม่น่ากังวลเท่าไหร่หรอก ถ้าเขาไม่ต้องคิดถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์ทุกครั้งที่ทำ...
“อึ๊...” เดรโกขยับมือเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปล่อยออก กางแขนกางขานอนแผ่หลาหอบหายใจอยู่บนเตียง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำโดยคิดถึงแฮร์รี่มาก่อนหรอกนะ แต่ตอนนี้เขาพบว่าเขาทำโดยคิดถึงคนอื่นไม่ได้เลยนอกจากแฮร์รี่
เดรโกลองพยายามตั้งแต่ปัทมา พาติลไปจนถึงโอลิเวอร์ วู้ด แต่ไม่มีใครเวิร์คเท่าแฮร์รี่เลย เขาเริ่มคิดบ่อยครั้งขึ้นว่าต้องเป็นเพราะเหตุการณ์ในเรือนกระจกตอนนั้นแน่ ๆ ที่ทำให้ร่างกายเขาผิดเพี้ยนไป ให้ตายเถอะ โอลิเวอร์ วู้ดเชียวนะ! เขาไม่เคยคิดถึงโอลิเวอร์ วู้ดแล้วทำไม่ถึงมาก่อนเลย
เดรโกอยากเดินเข้าไปหาแฮร์รี่ กระชากคอเสื้อแล้วตะโกนด่าหมอนั่นให้หนำใจ แต่จะให้เขาพูดอะไรล่ะ? พอตเตอร์งี่เง่า เพราะนายกดฉันคราวนั้น เลยทำให้ฉันต้องช่วยตัวเองโดยคิดถึงนาย
เดรโกถอนหายใจแล้วดึงกางเกงนอนขึ้นมานุ่ง เห็นทีเขาคงทำอะไรไม่ได้มาก บางทีถ้าเขาปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้เรื่อย ๆ ก็คงไม่เป็นไรมั้ง ยังไงก็ไม่มีใครรู้สักหน่อยว่าเขานึกถึงแฮร์รี่อยู่ และเขาก็ไม่มีวันบอกใครแน่นอน ให้มันรู้ไปสิว่าเขาจะไม่เบื่อหน้าแฮร์รี่ พอตเตอร์เข้าสักวัน...
= = = = = = = =
หัวค่ำวันหนึ่ง เดรโกเดินออกมาจากห้องน้ำภายในหอสลิธิรีนหลังจากเสร็จธุระส่วนตัว...อีกหนึ่งวันสำหรับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้ซึ่งอาจจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองเป็นต้นเหตุให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากเดรโกจะไม่เบื่อหน้าแฮร์รี่สักทีแล้ว เขายังชักจะติดมากขึ้นจนไม่สามารถทำแค่วันละครั้งได้อีกต่อไป เด็กหนุ่มต้องแอบหาเวลาว่างในช่วงกลางวันหลบเข้าห้องน้ำ ถ้าเลวร้ายหนักหน่อยบางครั้งเกิดตื่นตัวในชั่วโมงเรียน เขาก็ต้องโกหกว่าปวดท้องเพื่อหลบออกมาข้างนอก และเดรโกยังพบว่าสายตาของเขาจะโฟกัสไปที่แฮร์รี่เสมอไม่ว่าหมอนั่นจะอยู่ท่ามกลางนักเรียนมากแค่ไหน เขาเคยถึงขนาดเผลอตัวเดินตามหมอนั่นไปจนเลยทางไปห้องเรียนของตัวเองด้วยซ้ำ พฤติกรรมประหลาดที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเริ่มทำให้เขากังวลใจและสมเพชตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ มันหนักข้อขึ้นจนเดรโกคิดว่าคงจะปล่อยเอาไว้เฉย ๆ ไม่ได้อีกแล้ว
เดรโกเช็ดมือที่เปียกน้ำกับกระเป๋ากางเกง ขณะกำลังจะเดินออกจากหอเพื่อไปหามาดามพอมฟรีย์...ก็เขาไม่รู้จะปรึกษาใครดีแล้วนี่...
“เดรโก นายจะไปไหนน่ะ?” เบลส ซาบินี่ร้องทักเด็กหนุ่มจากเก้าอี้นวมข้างเตาผิง
“ไปห้องพยาบาลน่ะ รู้สึกปวดท้องนิดหน่อย” เดรโกตอบ
“ปวดท้องอีกแล้วเรอะ? นายไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือไง พักนี้เข้าห้องน้ำบ่อยเป็นว่าเล่นเลย”
“อืม ก็นิดหน่อยน่ะ” เข้าห้องน้ำบ่อยน่ะถูก แต่เข้าไปทำอย่างอื่นต่างหาก...
“ถ้าไม่ไหวก็นอนห้องพยาบาลไปก็ได้นะ พวกฉันจะได้ปิดห้องฉลอง” เบลสพูด น็อตที่นั่งอยู่ด้วยกันชูกำปั้นสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ทำท่าไชโยโห่ร้อง
“ขอบใจนะ ไอ้เพื่อนเบื้อก” เดรโกยกนิ้วกลางขึ้นมาทำเป็นเกาหน้าผาก เบลสกับน็อตหัวเราะให้เขาก่อนหันกลับไปคุยกันต่อ
เดรโกปิดประตูหอเดินออกมา เมื่อมาถึงห้องพยาบาล เขาพบมาดามพอมฟรีย์กำลังจัดเตียงพยาบาลอยู่คนเดียว ไม่มีคนไข้ ดีล่ะ...เดรโกคิด
“อ้าว มัลฟอย ว่าไง เป็นอะไรมาอีกล่ะจ๊ะ?” อาจารย์พยาบาลทักเขาด้วยรอยยิ้ม เดรโกยิ้มบาง ๆ กลับไปเป็นมารยาท คำว่า ‘อีก’ ของมาดามพอมฟรีย์ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจแปลก ๆ เหมือนเด็กทำผิดถูกจับพิรุธได้ “ปวดหัว ปวดท้อง ปวดฟัน...หรือปวดใจ?”
“มะ...ไม่ใช่ครับ คือว่า ผมแค่มีเรื่องอยากปรึกษาอาจารย์หน่อย”
“อาฮะ ปวดอย่างสุดท้ายนั่นเอง” มาดามพอมฟรีย์ยิ้ม...หรือหัวเราะเบา ๆ เดรโกก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน “เอ้า นั่งก่อนสิจ๊ะ” เธอพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนจะลากเก้าอี้มาให้ เดรโกเดินไปนั่งอย่างว่าง่าย “อาวล่ะ ทีนี้มีเรื่องอะไรที่สาววัยกลางคนอย่างฉันพอจะช่วยหนุ่มน้อยได้บ้างเอ่ย”
“เอ่อ...คือผม” เดรโกหลีกเลี่ยงที่จะสบตากับมาดามพอมฟรีย์ เขารู้สึกอึดอัดบรรยากาศในแววตานั้น เหมือนกับเธอรู้อยู่แล้วว่าเขาจะพูดอะไร และกำลังรอให้เขาพูดออกมาจากปากตัวเอง มันทำให้เขาไม่อยากพูดเอาเสียเลย
เอาน่า เล่าไปเถอะ...เสียงหนึ่งในใจเขารบเร้า...นายมาถึงนี่แล้วนะเดรโก มาดามพอมฟรีย์อาจมีวิธีช่วยก็ได้ นายอยากกลับเป็นปกติไม่ใช่หรือ?
เดรโกพยักหน้า มาดามพอมฟรีย์เลิกคิ้ว เด็กหนุ่มถอนหายใจ “คือว่า ครั้งก่อนที่ผมมาห้องพยาบาลน่ะครับ”
อาจารย์สาวพยักหน้ารับ
“ผม...มีปัญหานิดหน่อยกับร่างกายตัวเอง คือเหมือนมันผิดปกติไป”
“ยังไงหรือจ๊ะ?”
“แบบว่าตั้งแต่ตอนนั้นบางทีมันก็รู้สึกร้อน ๆ แล้วก็...ไม่สบายตัวบ่อย ๆ”
มาดามพอมฟรีย์หัวเราะเบา ๆ “โอเค ฉันเข้าใจละ บ่อยแค่ไหนล่ะ?”
“เอ่อ...ก็ ประมาณสามครั้ง...”
“ต่ออาทิตย์?”
เดรโกส่ายหัวเขิน ๆ “...ต่อวัน”
“โอ้ว นั่น...อืม ถือว่าค่อนข้างบ่อยจริง ๆ นะเนี่ย” มาดามพอมฟรีย์ยกกำปั้นขึ้นปิดปากเหมือนกำลังไตร่ตรองอะไรสักอย่าง แต่เธอพลาดไปหน่อยที่ปิดมุมปากไม่มิด
เดรโกชักไม่อยากคุยแล้ว เขาไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกเลยสักนิดเดียว “ตกลงแล้วอาจารย์มีวิธีรักษา...”
“อาจารย์ครับ ไอ้นี่เอาไว้ไหน” เด็กหนุ่มร่างสูงผมดำคนหนึ่งหิ้วกระบะใส่ขวดยาเดินออกมาจากห้องทำงานของมาดามพอมฟรีย์ เขาสังเกตเห็นเดรโกแล้วยิ้มมุมปาก เดรโกมองเขาตาค้าง
“อ๋อ เอาวางไว้ที่โต๊ะนี่เลยจ๊ะ ขอบคุณมาก” มาดามชี้ไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ไกล แฮร์รี่ยกกระบะไปตั้งตามนั้น
“คุยอะไรกันอยู่หรือครับ?” เขาหันมาถามทั้งคู่ ทำหน้าสนใจใคร่รู้และยิ้มให้เดรโก
“นายเข้ามาได้ยังไง!” เดรโกถลึงตามองร่างสูง
แฮร์รี่เลิกคิ้วอย่างใสซื่อ “เฮ้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะ ฉันอยู่ในนี้อยู่แล้ว ข้างในห้องทำงานมาดามพอมฟรีย์” เขาชี้แจง
“นาย...!”
“เดี๋ยวก่อนใจเย็น ๆ จ๊ะมัลฟอย แฮร์รี่เขาพูดความจริง เขาอาสามาช่วยงานฉันอยู่ที่นี่ได้หลายวันแล้วจ๊ะ” มาดามพอมฟรีย์พูดอย่างใจเย็นพลางจับไหล่เดรโกไว้ “เขาไม่ได้เจตนาจะแอบฟังเธอหรอกนะจ๊ะ”
“แล้วทำไมอาจารย์ไม่บอกผมล่ะว่ามีคนอยู่ ทำยังงี้ได้ยังไง”
“มัลฟอย...”
“เงียบนะ ฉันไม่ได้คุยกับนาย!” เดรโกหันไปแว้ดใส่แฮร์รี่ แล้วหันมามองหน้ามาดามพอมฟรีย์อีกครั้งด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความผิดหวัง “ผมขอตัว” เขาถอนหายใจเสียงดังแล้วก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องไป ทิ้งให้อาจารย์พยาบาลได้แต่มองตาม
“ตายแล้ว ฉันทำให้เขาโกรธใหญ่เลย” มาดามพอมฟรีย์ยกมือขึ้นจับแก้ม
“อ๋อ เขาก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับ สักพักก็หาย อาจารย์ไม่ต้องห่วงหรอก” แฮร์รี่บอก มาดามพอมฟรีย์มองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยอยากเชื่อ “ถ้าอาจารย์กังวลใจเดี๋ยวผมไปคุยให้ก็ได้”
อาจารย์สาวเลิกคิ้ว “เอ๊ะ เธอกับมัลฟอยไม่ได้ทะเลาะกันบ่อย ๆ เหรอ?”
“โอ๊ย ไม่หรอกครับ คนส่วนใหญ่เข้าใจอย่างนั้น แต่จริง ๆ แล้วเราสนิทกันมากกว่าที่คิดนะครับ” เด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์ฉีกยิ้มมีเลศนัย “ไว้เป็นหน้าที่ผมเอง” แฮร์รี่ พอตเตอร์กล่าวลาอาจารย์แล้วเดินออกจากห้องพยาบาลมา
= = = = = = = =
การหาเดรโก มัลฟอยที่กำลังหัวเสียไม่ใช่งานที่ยากนัก ประการแรกเพราะหมอนั่นจะทำเสียงดังไปตลอดทางที่เดินผ่าน และบางทีก็อาจจะสะดุดขาตัวเองหกล้ม...
แฮร์รี่เร่งฝีเท้าไปตามระเบียงทางเดิน ไม่นานนักเขาก็เห็นเดรโกเดินฮึดฮัดอยู่ที่หัวโค้งเบื้องหน้า
“มัลฟอย” แฮร์รี่ตะโกนเรียก เดรโกหันมาเห็นเขาแล้วรีบเร่งฝีเท้าย่ำหนี แฮร์รี่เร่งตาม แล้วเดรโกก็สะดุดขาตัวเองหกล้มจนได้ “มัลฟอย” แฮร์รี่วิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่ม อยากหัวเราะเหมือนกัน แต่กลั้นไว้ “เฮ้ เป็นอะไรรึเปล่า?” เขาจับแขนเดรโกไว้เพื่อจะช่วยพยุง แต่ร่างบางสะบัดทิ้ง
“ไปให้พ้น!” เดรโกแยกเขี้ยวใส่แฮร์รี่ ยันตัวลุกขึ้นยืนเอง แต่เมื่อก้าวเท้าแรกออกไปเท่านั้นเขาก็ทรุดฮวบลงกับพื้นอีก “โอ๊ย...!”
“เฮ้ นายเท้าแพลงนี่” แฮร์รี่เข้าไปดูอาการเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งกุมเท้าตัวเอง “ถอดรองเท้าออกก่อน...”
“ไม่ต้องมายุ่ง” เดรโกปัดมือไล่เขาเหมือนไล่ยุงตัวใหญ่ ๆ “ออกไปเลยไป ชิ่ว!”
จะโกรธก็โกรธไม่ลง จะขำก็ไม่กล้า จะเวทนาก็ไม่เชิง แฮร์รี่ย่อตัวลงแล้วคว้าข้อมือเล็กกำไว้แน่น “เดินไม่ได้แล้วยังจะซ่าอีกนะ ไหนเอาเท้ามานี่ซิ” แฮร์รี่สั่งพร้อมกับคว้าข้อเท้าเดรโกมาดู เด็กหนุ่มตกใจรีบผลักไสร่างสูงที่เข้ามาใกล้จนหงายหลังล้มลงไปนั่งกับพื้น เดรโกสบโอกาสรีบตะกายลุกขึ้นกะเผลกหนีทันที ข้อเท้าที่แพลงมันปวดมากเลยทีเดียว เขาแทบจะทิ้งน้ำหนักลงไปไม่ได้เลย
งี่เง่าเอ๊ย ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้ด้วยวะ...!
แฮร์รี่ถอนหายใจด้วยความรำคาญ ก่อนลุกขึ้นเดินไปช้อนตัวร่างบางขึ้นมาอุ้มแล้วก้าวฉับ ๆ พาเข้าห้องเรียนว่างที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที
เดรโกที่ยังอยู่ในอารามตกใจกว่าจะทันได้ดิ้นสู้เขาก็ถูกพาเข้าห้องปิดประตูเรียบร้อยแล้ว...
“นายจะทำอะไรน่ะ!” และแล้วหนุ่มน้อยก็เริ่มต้นดิ้น “ปล่อยฉันนะ! นายจะทำอะไรฉัน ฉันสาปนายจริง ๆ ด้วย จะสาปนายให้กลายเป็นหนอน แล้วโยนทิ้งลงทะเลสาบ ฉันมีไม้กายสิทธิ์แล้วนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะพอตเตอร์ ฉันทำจริง ๆ ด้วย!”
“ถ้านายไม่หยุดโวยวายฉันจะปล้ำนายซะมัลฟอย” แฮร์รี่กอดไหล่เดรโกเข้ามาใกล้แล้วยื่นหน้าลงไปหา พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “นายก็รู้ว่าฉันทำจริง” เขายิ้มมุมปาก
เดรโกแข็งนิ่งในทันใด แฮร์รี่ชอบปฏิกิริยาแบบนี้จริง ๆ
แฮร์รี่วางเดรโกลงนั่งบนเก้าอี้แล้วย่อตัวลงนั่งข้างหน้า “เอาเท้ามานี่” เขาสั่ง
เดรโกไม่ขยับขา เขานั่งจ้องหน้าแฮร์รี่ด้วยสายตาค้อน
แฮร์รี่ถอนหายใจ คว้าเท้าร่างบางมาจัดการเอง “ถอดรองเท้าออกก่อน...”
“โอ๊ย!” เดรโกชักเท้ากลับแทบจะในทันทีที่แฮร์รี่จับรองเท้าของเขา “มันเจ็บนะไอ้งี่เง่า!”
“งั้นนายก็ถอดเองเอ้า”
เดรโกทำหน้าบึ้งแล้วหันหนี
“ถอดรองเท้า” เขาสั่งอีกครั้ง เสียงเข้มกว่าเดิม
ไม่ตอบ ไม่ทำ นั่งนิ่ง หน้าบึ้ง
แฮร์รี่ลุกขึ้นยืน “ไม่ทำใช่ไหม? ดี งั้นฉันทำเอง” ว่าแล้วก็จับไหล่ร่างบางกดลงนอนราบกับเก้าอี้ยาว แล้วตั้งท่าจะขึ้นคร่อม
เดรโกลนลานยกมือปัดป้องทันที “ก็ได้ ๆ ถอดรองเท้าใช่ไหม ตกลง ฉันรู้แล้ว” แฮร์รี่จึงยอมปล่อยเด็กหนุ่มแต่โดยดี เดรโกรีบยันตัวขึ้นนั่ง “ไอ้ทุเรศดีแต่ใช้กำลัง”
“นายว่าอะไรนะ?”
“เปล่านี่ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” เดรโกเชิดหน้ายืนยัน “แค่ถอดรองเท้าก็พอใจแล้วใช่ไหม” เด็กหนุ่มค่อย ๆ ก้มลงถอดรองเท้าออก มันบวมและแดงอย่างเห็นได้ชัดบนผิวสีขาวผ่องของเขา
แฮร์รี่ยกส้นเท้าเด็กหนุ่มขึ้นมาดูอย่างเบามือ “ดูสิ ถ้านายไม่ดิ้นไปดิ้นมามันก็ไม่บวมขนาดนี้หรอก”
เดรโกไม่พูดอะไรและพยายามไม่มองหน้าแฮร์รี่ ฝ่ามืออุ่นที่สัมผัสกับผิวเขาโดยตรงนั้นนอกจากจะให้ความรู้สึกจั๊กจี้แล้ว มันยังทำให้ใจเขาเต้นเร็วขึ้นด้วย
“ไปห้องพยาบาลไหม?”
“ไม่” สวนทันควัน “ฉันจะไม่ไปที่นั่นอีก นายก็เหมือนกัน จะไปไหนก็ไปเลยไป ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” เดรโกคว้ารองเท้ามาถือไว้แล้วเอามือยันเก้าอี้ยืนขึ้น
แฮร์รี่กดไหล่เขากลับลงมานั่งตามเดิม “ฉันรู้คาถารักษา” เขาพูดต่อโดยไม่ใส่ใจท่าทีของเดรโก...หรือบางทีอาจจะชินแล้ว “ลองดูก็แล้วกัน” แฮร์รี่ดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาแล้วชี้ไปที่เท้าบวมแดงของเดรโก
“เดี๋ยวก่อน นั่นนายจะทำอะไรน่ะ?”
“อยู่เฉย ๆ” แฮร์รี่พึมพำคาถาอะไรสักอย่างที่เดรโกไม่เคยได้ยิน ประกายแสงสีฟ้าไหลออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ชโลมเท้าเดรโกไว้ แล้วจากนั้น...
“โอ๊ยโอ๊ยโอ๊ย!!!” เดรโกร้องเสียงลั่น ยกขาอีกข้างถีบอกแฮร์รี่ออกไปด้วยความตกใจปนโกรธ ก่อนยกเท้าข้างเจ็บมากุมไว้ “ทำบ้าอะไรของนายไอ้พอตเตอร์งี่เง่าปัญญานิ่ม! เจ็บฉิบหายเลย!”
แฮร์รี่ยันตัวขึ้นนั่ง ทำท่าแปลกใจ “แปลกแฮะ มาดามพอมฟรีย์บอกว่าคาถานี้ใช้รักษาอาการปวดบวมได้นี่”
“รักษากะผีอะไร ทำให้ปวดกว่าเดิมสิไม่ว่า!”
“เฮ้ ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่ โทษทีน่า”
“พอเลย ไม่ต้องมายุ่งแล้ว...” เดรโกหยุดขมวดคิ้ว ทำจมูกฟุดฟิด “กลิ่นอะไรน่ะ?”
แฮร์รี่สังเกตตาม “จริงด้วย กลิ่นหอม ๆ เหมือน...เหมือน...ไอ้ที่เป็นแท่ง ๆ น่ะ”
“ซินนามอน”
“เออใช่ นั่นแหละ ๆ...กลิ่นมาจากไหนนะ” แฮร์รี่หันไปหันมา ก่อนสังเกตไปยังเท้าของเดรโก แล้วค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“เฮ้ยจะทำอะไรน่ะ” เดรโกชักเท้าเข้าหาตัวเมื่อเห็นพฤติกรรมของแฮร์รี่
“เอาเท้ามานี่ก่อนซิ”
“อะไรของนาย เฮ้ย! ปล่อยนะ”
“บอกว่าเอาเท้ามานี่ก่อน ดิ้นอยู่ได้เดี๋ยวก็ยิ่งบวมหรอก” แฮร์รี่จับขาเดรโกยกขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปดมสันเท้าเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มสลิธิรีนนั่งตัวเกร็ง “กลิ่นมาจากเท้านายจริง ๆ ด้วย” แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นบอก เดรโกขมวดคิ้วมองกลับด้วยสายตาที่เขาอ่านได้ว่า ‘บ้ารึเปล่า?’ “จริง ๆ” แฮร์รี่ยืนยัน “ไม่เชื่อนายลองดมดูสิ” ร่างสูงปล่อยเท้าเขากลับคืนไป
ด้วยสายตาแบบเดิมที่ยังคงจ้องหน้าอีกฝ่ายอยู่ เดรโกค่อย ๆ ก้มลงไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
...จริงด้วยแฮะ...
“ก็บอกแล้วไง” แฮร์รี่พูดอย่างมีชัย
“เพราะคาถาบ้าบอของนายเมื่อกี้นี้นั่นแหละ”
“เอ้า ไม่ดีหรือไง หอมดีออก”
“หอมแต่ไม่หายโว้ย” เดรโกทำหน้าเบ้ แฮร์รี่หัวเราะเบา ๆ “นี่อย่ามาทำมีอารมณ์ขันนะ ฉันไม่ตลกด้วย”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” แฮร์รี่พูดยิ้ม ๆ “เฮ้ เท้านายเริ่มหายบวมแล้วนี่”
เดรโกก้มลงมอง เอามือลองกด ๆ ดู แล้วขยับข้อเท้าไปมา
“เห็นไหมล่ะ ฉันก็ว่าฉันจำคาถาไม่ผิด”
แล้วทำไมต้องมีกลิ่นซินนามอนด้วย...? เดรโกนึกในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป “ก็ดีแล้วนี่” เขาพูดอย่างนี้ออกไปแทน
“นายควรจะพูดว่าขอบคุณมากกว่านะมัลฟอย”
“เรื่อง ฉันไม่ได้ขอให้นายช่วยสักหน่อย”
แฮร์รี่ยิ้ม ๆ ไม่ได้ถือสาหาความอะไร เดรโกเพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมาว่าเขาอยู่ในห้องนี้กับแฮร์รี่มานานแล้ว ร่างบางรีบใส่รองเท้าแล้วลุกขึ้นยืน
“ฉันจะกลับหอแล้ว” ว่าแล้วก็ก้าวฉับ ๆ ตรงไปที่ประตูทันที แต่ไม่ว่าเดรโกจะผลักจะดึงยังไงประตูก็เปิดไม่ออก
“นายนี่มารยาทไม่ดีเลยนะ เป็นผู้ดีซะเปล่า”
เด็กหนุ่มสลิธิรีนหันหน้ากลับมา “พอตเตอร์ ประตูมันเปิดไม่ออก”
แฮร์รี่เลิกคิ้ว “เรอะ?”
เดรโกยักหัว
“นายจำวิธีเปิดประตูได้รึเปล่า? นายต้องบิดลูกบิดก่อนนะ แล้วค่อยดึงเข้ามาแบบนี้...”
“ฉันรู้วิธีเปิดประตู พอตเตอร์ แต่ประตูนี้มันเปิดไม่ออก!” เดรโกพูดอย่างอารมณ์เสีย แฮร์รี่เดินเข้าไปลองดู มันเปิดไม่ออกจริง ๆ ด้วย ลูกบิดไม่ได้ล็อคอยู่ แต่บานประตูดึงไม่ออก เหมือนติดอะไรสักอย่างอยู่
เดรโกดึงไม้กายสิทธิ์ออกมา “อาโลโฮโมร่า!” เกิดแสงสว่างวาบขึ้น เดรโกเก็บไม้กายสิทธิ์แล้วลองดึงอีกครั้ง แต่ก็ยังเปิดไม่ออก
“ประตูมันไม่ได้ล็อคใช้คาถาปลดล็อคไม่ได้หรอก” แฮร์รี่ตั้งข้อสังเกต “มันเหมือนแค่ติดอยู่กับกรอบประตูเฉย ๆ”
“แล้วทำไมมันถึงเป็นอย่างงั้นล่ะ! ตอนเข้ามานายทำอะไรกับประตูรึเปล่า?”
“ฉันจะไปทำอะไรล่ะ”
“แล้วทำไมอยู่ ๆ มันถึงเปิดไม่ได้ล่ะ!”
“ฉันจะไปรู้เรอะ อาจจะมีใครนึกสนุกทำกับดักเวทมนต์ไว้ละมั้ง”
“ว่าไงนะ! ไม่ตลกเลยนะ พอตเตอร์ หาทางทำอะไรเข้าสักอย่างสิ!”
“จะให้ฉันทำอะไรล่ะ?”
“ทำอะไรก็ทำเหอะน่า! หาทางออกไปจากห้องนี้ ระเบิดประตูโง่ ๆ นั่นทิ้งไปเลยก็ได้!”
“นี่นายช่วยหยุดโวยวายสักห้านาทีได้ไหม?”
“นายก็ช่วยเดือดร้อนมากกว่านี้หน่อยได้ไหม!”
แฮร์รี่ถอนหายใจ “เสียใจด้วย ฉันก็รู้คาถาปลดล็อคแค่คาถาเดียวเหมือนนาย กับประตูที่โดนคาถาอะไรก็ไม่รู้ตรึงอยู่แบบนี้ ฉันก็จนปัญญา”
“อะไรวะ!” เดรโกสบถ ยกเท้าเตะประตูดังโครม ก่อนจะหดขาคืนแล้วยืนหนีบไว้
แฮร์รี่หัวเราะเบา ๆ
“ขำอะไร!”
“เจ็บล่ะสิ”
เดรโกหน้าแดงแปร๊ด เขารีบหันหลังให้แฮร์รี่ เดินเอียง ๆ กลับไปนั่งเก้าอี้ตามเดิม
“ให้ฉันใช้คาถารักษาให้อีกไหม?” แฮร์รี่เสนอยิ้ม ๆ
“ไม่ต้อง” เดรโกปฏิเสธเสียงดัง เด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์ยักไหล่แล้วเดินกลับมายืนพิงโต๊ะข้าง ๆ เดรโก เด็กหนุ่มเหล่มองเขา แต่ไม่ได้พูดว่าอะไร
“นี่ มัลฟอย”
“อะไร?”
“เราทะเลาะกันมาห้าปีเต็มแล้วนะ ไม่เบื่อบ้างหรือ?”
“ไม่เบื่อ ฉันจะทะเลาะกับนายไปจนตายเลยคอยดู”
“จริงง่ะ ขนาดนั้นเชียว?”
“เออ”
“ถ้าฉันตายไปจริง ๆ นายไม่เหงาหรือ?”
“ไม่เลย ฉันจะมีความสุขมาก”
“โห นายนี่ไม่น่าคบเลยจริง ๆ”
“แล้วไง ฉันไม่เคยคิดจะคบกับนาย”
“จริงเหรอ ฉันจำได้ว่านายเคยนะ ตอนปีหนึ่งไง แหม...ถ้าตอนนั้นฉันยอมจับมือกับนายจะเป็นยังไงนะ”
“นี่พอตเตอร์นายช่วยนั่งเงียบ ๆ ไปทีได้ไหม แค่นี้ยังเซ็งไม่พออีกหรือไง”
“นายนี่ขี้หงุดหงิดจริงนะ”
เดรโกถอนหายใจเสียงดัง แฮร์รี่เงียบไปสักพัก
“นี่ มัลฟอย”
“โอ๊ย อะไรกันนักกันหนาห๊ะพอตเตอร์ คราวนี้อะไรอีก?”
“นายเป็นอย่างนี้เพราะฉันใช่ไหม?”
“เออสิ นายมันเฮงซวย ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันก็ไม่ต้องมาติดอยู่ในห้องบ้า ๆ นี่หรอก!”
“ฉันหมายถึงเรื่องที่นายต้องทำทุกวันวันละสามครั้งน่ะ”
เดรโกหายใจสะดุดไปจังหวะหนึ่งเลยทีเดียว “นาย...นายพูดเรื่องอะไรของนาย?”
แฮร์รื่ถอนหายใจ “ไม่เอาน่า เลิกทำเหมือนฉันไม่รู้เรื่องสักที ฉันได้ยินเรื่องที่นายคุยกับมาดามพอมฟรีย์ทั้งหมดนั่นแหละ... เป็นเพราะเรื่องที่เรือนกระจกคราวก่อนใช่ไหม?”
เดรโกใจเต้นตูมตามอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาหวนนึกไปถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเขาก็รู้สึกร้อนขึ้นมาทันที ร้อนมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวันนี้เขาเพิ่งทำไปแค่ครั้งเดียวหรือเพราะแฮร์รี่มาอยู่ใกล้ ๆ เขากันแน่...บางทีอาจจะทั้งสองอย่าง เดรโกหนีบขาและพยายามหันลำตัวหนีออกจากแฮร์รี่เพื่อไม่ให้เขาสังเกตเห็นร่างกายที่เริ่มเปลี่ยนไปของเดรโก
...แฮร์รี่รู้แล้ว หมอนี่ตั้งใจจะทำอะไร จะแบล็กเมล์เขารึเปล่า? ทำยังไงดี นี่มันหายนะชัด ๆ...
เดรโกอยากวิ่งหนีออกไปจากห้องนี้...ห้องที่มีแฮร์รี่อยู่ กลับไปที่หอนอน ขึ้นเตียง รูดม่านปิด และอยู่กับตัวเองให้นานเท่าที่อยาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างบนโลกใบนี้กำลังกลั่นแกล้งเขา เขาติดอยู่ในห้องนี้กับแฮร์รี่สองคน ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด ไม่มีแม้แต่ห้องน้ำให้เข้าไปหลบ
เดรโกกัดริมฝีปาก เขารู้สึกตัวว่าเริ่มหายใจแรงขึ้น แม้เด็กหนุ่มจะพยายามปกปิดสัญญาณทุกอย่างอย่างเต็มกำลังเขาก็มั่นใจว่าแฮร์รี่ต้องเห็นอยู่ดี ปัญหาตอนนี้มันอยู่ที่ว่าหมอนี่ตั้งใจจะทำอะไรต่างหาก
“มัลฟอย” แฮร์รี่แตะไหล่เขา เดรโกอยากสะบัดหนี แต่ร่างกายเขาไม่ตอบสนองตามที่สมองสั่ง เพราะมันรู้ว่าเดรโกกำลังรู้สึกดีกับความอบอุ่นของฝ่ามือนี้ เพราะมันรู้ว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่เดรโกต้องการคืออะไร...
แฮร์รี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซอกคอเดรโก เด็กหนุ่มหลับตาปี๋
“พอตเตอร์...ได้โปรด” เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า
แฮร์รี่ยิ้ม “ตอนนี้นายหอมซินนามอนไปทั้งตัวแล้วรู้ไหม” เขาพูด แล้วกดริมฝีปากลงบนซอกคอขาว
เดรโกตัวสั่นเทิ้ม อ้าปากหอบหายใจด้วยไม่อาจปฏิเสธสัญชาตญาณตามธรรมชาติได้ “ยะ...อย่า” เด็กหนุ่มยังพยายามขืนแม้ว่าแทบจะไม่เป็นผลใด ๆ
แฮร์รี่โอบเอวบางไว้ ไซ้ริมฝีปากขึ้นไปจนถึงใบหูเดรโกแล้วกระซิบ “พูดอะไร นายไม่ไหวแล้วนะ ดูตัวเองสิ” เดรโกเอนหลังพิงวงแขนนั้นไว้อย่างไม่อาจต้าน เขามาไกลเกินจะหวนกลับแล้ว และแฮร์รี่เองก็คงไม่ยอมหยุดเช่นกัน เดรโกหันหน้ากลับไปเผชิญกับแฮร์รี่ เด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์ฉีกยิ้มให้เขา “ให้ฉันรับผิดชอบดีไหม?” เดรโกยังไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าคำถามนั้นหมายถึงอะไร ดวงตาสีเขียวคู่นั้นราวกับมีมนต์สะกด เด็กหนุ่มพยักหน้าช้า ๆ แล้วแขนแข็งแกร่งก็ดึงเขาขึ้นไปบนโต๊ะนักเรียนตัวยาว
เดรโกเพิ่งสังเกตเห็นว่าแฮร์รี่เองก็หายใจแรงขึ้นเช่นกัน แฮร์รี่รวบเอวร่างบางเข้ามาจนชิดแล้วจูบเขา เดรโกไม่มีท่าทีขัดขืน จูบที่ทั้งสองฝ่ายต่างเต็มใจให้ความรู้สึกแตกต่างกับจูบที่บังคับขืนใจอย่างสิ้นเชิงราวน้ำผึ้งกับน้ำเกลือ เดรโกไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมคนถึงพิศวาสสิ่งนี้กันนัก
แฮร์รี่สอดแขนเข้ามาใต้เสื้อของเขา สัมผัสกับแผ่นหลังเปลือยเปล่า ก่อนจะเลิกชายเสื้อขึ้นเพื่อจะถอดมันออก แต่เดรโกขยุ้มปกเสื้อเชิ้ตแฮร์รี่และยื้อจูบไว้ไม่ยอมปล่อย แฮร์รี่ดันไหล่ร่างบางออกแล้วยิ้ม “ติดใจฉันแล้วล่ะสิ”
“หุบปากไปเลยพอตเตอร์” เดรโกพยายามจะยื่นหน้าเข้าไปจูบอีกแต่แฮร์รี่ขืนไว้
“อยากให้ฉันใช้ปากทำอย่างอื่นให้ไหม?”
“ทำ...ทำอะไร?”
“ถอดเสื้อออกสิ”
เดรโกกอดแขนตัวเองไว้ “นายก็ถอดก่อนสิ”
“ไม่ยอมเสียเปรียบว่างั้น เอ้า ก็ได้” แฮร์รี่ว่าแล้วถอดเสื้อผ้าท่อนบนของตัวเองออก เดรโกกลั้นหายใจ...แฮร์รี่หุ่นดีจริง ๆ “ตานายแล้ว จะถอดเองหรือให้ฉันถอด?”
“ฉันถอดเองได้” เดรโกยืนยัน ยกชายเสื้อยืดแขนยาวที่สวมอยู่ขึ้นด้วยมือสั่นเทา ตั้งแต่อายุครบสิบสามเขาก็ไม่เคยเปลือยท่อนบนให้ใครเห็นมาก่อน แม้แต่แม่ของเขา แต่ตอนนี้เขากำลังจะเปลือยให้คู่อริของตัวเองดู เขายังแทบไม่อยากเชื่อตัวเองเลย... เดรโกยกเสื้อขึ้นเหนือศีรษะ แต่ยังไม่ทันจะถอดพ้นคอ แฮร์รี่ก็ก้มลงสัมผัสยอดอกเขาด้วยริมฝีปาก...และลิ้น เดรโกสะดุ้งและหลุดเสียงครางออกมา แฮร์รี่ดันตัวร่างบางนอนราบกับโต๊ะแล้วดึงเสื้อเขาออกทั้งตัว
“เสียงดีใช้ได้” แฮร์รี่ยิ้ม “ฉันจะทำให้นายร้องดังกว่านี้อีก”
“จะทำอะไรก็ทำสักทีเถอะน่า” เดรโกกล่าวอย่างขัดเคืองใจ แฮร์รี่ดึงกางเกงเขาลง โดยไม่ทันตั้งตัว เดรโกสะดุ้งตกใจ “เดี๋ยวก่อน ตรงนั้น...อ๊ะ” ร่างบางเกร็งกล้ามเนื้อเมื่อแฮร์รี่กุมส่วนของเขาไว้ทั้งมือ และเริ่มต้นสัมผัส เดรโกเม้มปาก ยกขาเกี่ยวหลังแฮร์รี่ไว้ แฮร์รี่ก้มตัวลงมาหาเดรโกและจูบเขาอีกครั้ง มือยังคงทำงานที่ด้านล่าง เดรโกกอดศีรษะแฮร์รี่และอ้าปากรับ จูบรุนแรงและหนักหน่วงกว่าครั้งก่อน เดรโกเลื่อนมือสัมผัสแผ่นหลังกว้างใหญ่ กดร่างสูงลงมาให้หน้าอกสัมผัสกัน พร้อมขยับสะโพกรับสัมผัสเบื้องล่างเร็วขึ้น...เร็วขึ้น แล้วอยู่ ๆ แฮร์รี่ก็ปล่อยมือออก “F**k! ทำบ้าอะไรของนายพอตเตอร์ หยุดทำไม!”
แฮร์รี่ยิ้มให้ร่างบางโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะเคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง ยึดตำแหน่งที่เคยเป็นของฝ่ามือด้วยริมฝีปาก เดรโกร้องคำว่า ‘F**k!’ เสียงดังกว่าเดิมและแอ่นตัวรับสัมผัสที่แตกต่าง
“ออออออ๊า...! พอตเตอร์” แฮร์รี่สัมผัสตลอดแนวด้วยลิ้น สัมผัสด้านล่าง สัมผัสส่วนปลาย...และดูด เดรโกสะดุ้ง แหงนหน้าและแอ่นตัวจนสุด กำขยุ้มผมของแฮร์รี่ไว้เต็มกำมือ แฮร์รี่จับสะโพกเดรโก ก่อนจะค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวภายใน เดรโกหนีบขาแน่นและขยับสะโพกไม่หยุด “อ๊าอ๊าอ๊าอ๊า!!! พอตเตอร์...อ๊ะ! ฉะฉันจะ...ฉันจะ... อออออ๊า...!!!” เดรโกแอ่นตัวครั้งสุดท้าย ก่อนทิ้งตัวลงนอนหอบ
เดรโกไม่เคยถึงได้เต็มที่ขนาดนี้มาก่อนเลย...บางทีอาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำกับคนอื่น...
แฮร์รี่ขยับตัวขึ้นมา ก้มลงจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากเขา เดรโกอยากยิ้มให้แฮร์รี่ แต่ตอนนี้เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะทำได้ ร่างบางจึงได้แต่เพียงกะพริบตาเท่านั้น
โต๊ะนักเรียนไม่มีที่พอให้ทั้งคู่นอนได้ แฮร์รี่จึงผลิกตัวเดรโกให้นอนบนอกเขา แล้วทิ้งตัวนอนเหยียดยาว ตัวของเดรโกอบอวลไปด้วยกลิ่นเหงื่อและซินนามอน แฮร์รี่ไม่เข้าใจว่าทำไมคาถาของเขาถึงทำให้มีกลิ่นซินนามอน แต่ดูเหมือนตอนนี้กลิ่นมันจะลามไปทั่วตัวเดรโกแล้ว และมันก็หอมรัญจวนใจมากเสียด้วย แฮร์รี่คิดถึงขนาดว่าอยากจะเสกคาถานี้ใส่เดรโกบ่อย ๆ ในอนาคต...ถ้าไม่โดนเดรโกสาปเป็นหนอนโยนลงทะเลสาบไปเสียก่อนน่ะนะ... แฮร์รี่ก้มลงสูดกลิ่นกายเดรโกอีกครั้ง ยกมือสางผมสีบลอนด์สวยที่เปียกไปด้วยเหงื่อ แล้วยิ้มบาง ๆ ให้ร่างที่หลับใหล
ครั้งแรกเอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ไว้ครั้งหน้ารับรองเต็มรูปแบบแน่...แฮร์รี่คิด มือยังคงลูบไล้ผิวเนียนนิ่มของร่างบาง แล้วหลับตาลงพักผ่อน
= = = = = = = =
เดรโกตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขานอนอยู่คนเดียวบนโต๊ะนักเรียนในห้องเดิม มีเสื้อคลุมของแฮร์รี่ห่มอยู่ เดรโกยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย
“ตื่นแล้วหรือ” แฮร์รี่ส่งเสียงมาจากเก้าอี้ที่ห่างออกไปเล็กน้อย เขานั่งชันเข่าข้างเดียวและยังคงเปลือยท่อนบนอยู่เหมือนเดิม
“พอตเตอร์...” เดรโกจับเสื้อคลุมของแฮร์รี่ขึ้นมาปิดตัวไว้
แฮร์รี่หัวเราะ “ไม่ต้องปิดหรอก ตอนนายหลับฉันดูจนเบื่อแล้ว”
ก็รู้ แต่มันเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบอัตโนมัตินี่น่า... “กี่โมงแล้ว?” เดรโกถาม
“ตีสี่” แฮร์รี่ตอบ ยิ้ม ๆ
เดรโกหันไปหันมารอบตัว “เสื้อผ้าฉันล่ะ?”
แฮร์รี่ชี้ไปที่กองเสื้อผ้าบนโต๊ะข้างตัว เดรโกลุกลงมาจากโต๊ะ ยังคงถือเสื้อคลุมของแฮร์รี่ปิดตัวไว้อยู่ เดินเข้าไปจะหยิบเสื้อผ้าตัวเอง แต่เมื่อเดรโกเดินเข้าไปใกล้แฮร์รี่ ร่างสูงก็ดึงเสื้อคลุมที่เด็กหนุ่มถือปิดตัวอยู่ออก เดรโกสะดุ้งตกใจ จะเอามือลงไปปิดร่างกาย แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่ามันคงจะเป็นภาพที่ตลกพิลึก นอกจากนี้แฮร์รี่ก็เห็นหมดแล้วด้วย...ไม่ใช่แค่เห็นนะ ยัง...สัมผัส...แล้วด้วย ก็อย่างที่หมอนี่บอกนั่นแหละ จะมาอายอะไรตอนนี้... เมื่อคิดได้ดังนี้เดรโกจึงขยับมือยืนเฉย ๆ แต่ก็ยังอดเกร็งนิด ๆ ไม่ได้อยู่ดี
แฮร์รี่ยิ้ม “เล็กนิดเดียวยังจะหวงอีก”
เดรโกหน้าแดงขึ้นมาทันที “ของนายใหญ่นักหรือไง?” เขาโต้
“เฮ้ นายยังไม่เคยเห็นของฉันนะ มาท้าอย่างนี้คิดว่าดีแล้วหรือ?”
“ก็เปิดมาให้ดูสิ”
แฮร์รี่หัวเราะ “ด้วยความยินดี” เขายืนขึ้นปลดกางเกงแล้วเลื่อนลง เดรโกกลืนน้ำลาย “เป็นไง เหมือนที่คิดไหม?” พูดยิ้ม ๆ
“ก็งั้น ๆ” เดรโกหันไปมองทางอื่น หน้าแดงจนถึงหูอย่างที่ตัวเองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แฮร์รี่ถือโอกาสฉวยตัวร่างบางเข้ามากอด จงใจให้อวัยวะสัมผัสกัน “ทำ...ทำอะไรของนาย” เดรโกตกใจรีบเอามือยันอกแฮร์รี่ออกห่าง แฮร์รี่จับสะโพกเขาไว้ เบียดแน่นขึ้น เดรโกจ้องหน้าร่างสูง “ปล่อยนะ”
“ไม่”
“ปล่อย”
“ไม่”
“จะปล่อยไม่ปล่อย”
“ไม่” เดรโกคว้าคอแฮร์รี่ลงมาจูบ แฮร์รี่ยิ้ม ไม่ขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว จนร่างบางผละออกไป เขายิ้ม “คิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะปล่อยหรือ?”
เดรโกจ้องหน้ากลับ “เปล่า...” เขากัดริมฝีปาก เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมานิด ๆ
แฮร์รี่กระชับเอวเดรโกเข้ามาชิดอีก “อยากต่อไหม หรืออยากกลับหอแล้ว?”
“เปิดประตูให้ได้ก่อนเหอะ” เด็กหนุ่มหลบสายตา
แฮร์รี่ยิ้มอีกครั้ง แต่ยิ้มคราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ...มันดูเจ้าเล่ห์ยังไงพิกล... ก่อนจะปล่อยมือออกจากเดรโก “ใส่เสื้อผ้าสิ” เขาบอก แล้วเดินไปหยิบเสื้อตัวเองมาสวม
เดรโกหันไปหาเสื้อผ้าของตัวเอง เขากำลังคิดว่าถ้าแฮร์รี่จะต่อจริง เขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก...
เมื่อแฮร์รี่สวมเสื้อผ้าเสร็จเขาหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาชี้ไปที่ประตูแล้วพึมพำคาถา เกิดเสียง ปึด! เบา ๆ แล้วประตูก็แง้มเปิดออก เดรโกหันไปมองอึ้ง ๆ ก่อนมองหน้าแฮร์รี่อีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปที่ประตู
“ประตูเปิดแล้ว...” เขาพูดเหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่าพูดกับแฮร์รี่ เด็กหนุ่มสำรวจบานประตู เปิดแง้มไปแง้มมา...มันเปิดได้แล้วจริง ๆ ด้วย “ทำไมอยู่ ๆ นายถึงเปิดประตูได้ล่ะ?” เดรโกหันกลับไปถามแฮร์รี่
“อ๋อ เมื่อกี้เพิ่งนึกคาถาเปิดขึ้นมาได้น่ะ”
“เพิ่งนึกได้เมื่อกี้เนี่ยนะ?”
“อือ” แฮร์รี่ตอบ “เอ้า ไปเถอะ ถ้านายอยากกลับถึงหอก่อนคนอื่น ๆ ตื่นล่ะก็นะ”
“เดี๋ยวก่อน หมายความว่าไง ถ้านายรู้คาถาเปิดทำไมไม่เปิดตั้งแต่แรก?”
“ก็บอกแล้วไงว่าเพิ่งนึกได้เมื่อกี้” แฮร์รี่พูดอย่างไม่อินังขังขอบ แล้วเดินเลี่ยงเดรโกออกประตูไป
“พอตเตอร์” เดรโกเรียกเสียงเย็น “เหตุผลฟังไม่ขึ้น”
แฮร์รี่หันกลับมามองร่างบาง เลิกคิ้วและยิ้มอย่างใสซื่อเสียจนมีพิรุธสุด ๆ แต่เมื่อเห็นสายตาเยือกแข็งที่ร่างบางส่งมาให้ แฮร์รี่ก็ถอนหายใจเบา ๆ “เอาน่า แหม ก็เปิดให้แล้วไง”
เดรโกลืมตากว้าง หน้าแดงจัดขึ้นมาทันทีด้วยความโกรธ “พอตเตอร์! นาย...นายเป็นคนทำให้ประตูเปิดไม่ออกงั้นเรอะ? นาย
“เปล๊า ฉันไม่ได้ทำสักหน่อย ทำซะที่ไหนล่ะ”
“พอตเตอร์! ไอ้...ไอ้เจ้าเล่ห์! ไอ้กะล่อน! ไอ้คนฉวยโอกาส!” เดรโกพุ่งเข้าใส่แฮร์รี่ แต่ร่างสูงหลบได้ เขาคว้าข้อมือขวาของเดรโกแล้วจับเด็กหนุ่มหมุนใต้วงแขน
“ว้าว นายไม่คิดจะเรียนลีลาศหรือ ต้องไปได้สวยแน่” แฮร์รี่แซว เดรโกเดือดกว่าเดิม เขาพยายามจะพุ่งเข้าใส่แฮร์รี่อีก แต่ร่างสูงก็หลบได้ “นี่ไม่เอาน่า อย่าทำโกรธไปหน่อยเลย” แฮร์รี่จับมือเดรโกจากข้างหลังแล้วล็อคไพล่หน้า ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หางตาเด็กหนุ่ม “จริง ๆ แล้วนายก็ชอบใช่ไหมล่ะ?” เดรโกหน้าแดง เขาดิ้นแต่ไม่หลุด “นี่เอายังงี้ไหม ถ้านายอยากให้ฉันเก็บเรื่องระหว่างเราเป็นความลับ นายต้องหาเวลามาเจอฉันบ้างเป็นครั้งคราวนะ ถือเป็นค่าปิดปากไง ดีไหม?” แฮร์รี่หอมแก้มร่างบางไปอีกหนึ่งฟอดก่อนจะปล่อยเขาออก “ตกลงตามนี้นะ?” แฮร์รี่ขยิบตา
เดรโกรีบยกมือปาดแก้มข้างที่โดนหอมทันที “ไอ้ทุเรศ! ฝันไปเถอะ!”
“ออ ลืมบอกไปอย่าง ฉันชอบกลิ่นซินนามอนมากเลย” แฮร์รี่ยักคิ้วแล้วยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหันหลังเดินล้วงกระเป๋าจากไปอย่างสบายอารมณ์
“ไอ้ทุเรศ! ไปไหนก็ไปเลยนะ ไอ้บ้าพอตเตอร์!” เดรโกตะโกนไล่หลังเด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์ไปอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง
หน็อยแน่ะ แผนสูงนักนะ ไอ้จอมเจ้าเล่ห์!... เดรโกฮึดฮัด...แต่เอาเถอะ จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่...
ใหม่ล่าสุด!!
กับผลิตภัณฑ์เพิ่มกลิ่นหอม เร้าใจ
..
A C T I V E C I N N A M O N
..
หวานละไม เพื่อคนที่คุณรักได้แล้ว...วันนี้
ที่ ร้านมาดามพุตตี้ฟุต
(สามารถออเดอร์ผ่านทางไปรษณีย์นกฮูกได้)
“ดูอะไรอยู่น่ะเดรโก อยากได้เหรอ?” แพนซี่ยื่นหน้ามาถามเสียงดัง ทำเอาหนุ่มน้อยผมบลอนด์แห่งตระกูลมัลฟอยผงะ เขาก้าวถอยหลังออกมาจากบอร์ดติดประกาศประจำบ้าน แล้วเลิ่กลั่กตอบกลับด้วยท่าทางมีพิรุธ
“เปล่าอยากได้ซักหน่อย”
“เหรอ...ฉันเห็นเธอจ้องไอ้นี่มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว นึกว่าสนใจ” นิ้วเล็ก ๆ ชี้ไปยังโปสเตอร์ขนาดใหญ่ซึ่งดูโดดเด่นกว่าป้ายประกาศอื่น ๆ ด้วยพื้นสีชมพูสดใสตัดกับตัวอักษรสีเหลืองสว่างบาดตา เด็กสาวมองข้อความในโปสเตอร์นั้นพลางพูดกับเดรโก “น้ำหอมยี่ห้อมาดามพุตตี้ฟุต...กำลังฮิตในหมู่สาว ๆ มากเลยล่ะ เห็นว่ารุ่นก่อนหน้านี้มียอดสั่งซื้อเยอะซะจนขาดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว แหม..น่าเสียดายที่ราคามันแพงระยับ ไม่งั้นฉันเองก็อยากได้ไว้สักขวดเหมือนกัน...” แพนซี่ถอนหายใจ “ช่างเหอะ ก็ใช่ว่าหนุ่ม ๆ แถวนี้จะชอบกลิ่นซินนามอนกันซะเมื่อไหร่”
แพนซี่เดินโฉบไปทางประตูทางออก โดยไม่ลืมเตือนเพื่อนซี้ว่า “รีบไปกินอาหารเช้าด้วยล่ะ วิชาสมุนไพรศาสตร์วันนี้เรียนกับพวกกริฟฟินดอร์นะ ฉันเป็นห่วง...เดี๋ยวจะไม่มีแรงไปชวนพอตเตอร์ทะเลาะต่อ” แพนซี่ขยิบตา แล้วจากไป ทิ้งให้เดรโกยืนจ้องโปสเตอร์ต่อไปด้วยแววตาสับสน
“เฮ้ย! เดรโก”
เดรโกสะดุ้ง หันไปมองผู้มาใหม่ที่เพิ่งตบไหล่เขาดังป้าบ...ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเขาก็ได้ยินชัดเจนอยู่แล้วว่ามีคนขานชื่อเขา...เบลส ซาบินี่นั่นเอง
“ดูอะไรอยู่น่ะ?” เบลสยื่นหน้าเข้ามาดูโปสเตอร์ “น้ำหอมมาดามพุตตี้ฟุตนี่? ออกกลิ่นใหม่แล้วหรือเนี่ย อืม...ซินนามอนเรอะ น่าสนแฮะ น้ำหอมของเขากลิ่นละมุนกำลังดีทุกกลิ่นเลยนะ ที่สำคัญใช้แล้วสาวติดตรึม!” เด็กหนุ่มพูดพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อน “นายสนใจเรอะ?”
“เปล่า...ว่าแต่นายใช้ด้วยเรอะ? เห็นแพนซี่บอกว่ามีแต่ผู้หญิงใช้” เดรโกเลิกคิ้ว
เบลสหัวเราะ “ผู้ชายก็มี แต่ที่ไม่ค่อยนิยมคงเพราะขวดมันสีชมพูแปร๋นละมั้ง”
“เห็นว่าแพงด้วยนี่?”
“อืม...ก็นิดหน่อย แต่ของเขาดีจริงนา” เบลสว่า “ถ้านายไม่สนใจก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันข้าวเช้า” เด็กหนุ่มว่าแล้วหันหลังเดินไปยังประตู
เดรโกยืนเม้มปากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะออกปากเรียกเพื่อนอีกครั้ง “นี่ ที่ว่าแพงน่ะ...มันขวดละประมาณเท่าไหร่เหรอ?”
ผลงานอื่นๆ ของ ichi2 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ichi2
"ติด Fic HP ไปเลย!!"
(แจ้งลบ)ชอบเนื้อหาของเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านแล้วสนุกมากๆ ไม่หน้าเบื่ออย่างที่คิด ปกติไม่ค่อยชอบอ่าน แฮร์รี่ซะเท่าไร แต่อ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่ออีก!! จะติดตามผลงานของไรเตอร์นะค่ะ สู้ๆนะค่ะไรเตอร์ ++แล้วนู๋เดรจะน้ำหอมกินชินามอนไหม++ ++แล้วแฮรี่จะแกล้งนู๋เดรอีกนานอ่ะเป่า++ ตื่นเต้น ยอมรับว่าคู่ แฮรี่กะคุณนู๋เดร ก็น่ารักไม่แพ้คู่อื่นที่อ่านมาค่ะ ^O^ ... อ่านเพิ่มเติม
ชอบเนื้อหาของเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านแล้วสนุกมากๆ ไม่หน้าเบื่ออย่างที่คิด ปกติไม่ค่อยชอบอ่าน แฮร์รี่ซะเท่าไร แต่อ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่ออีก!! จะติดตามผลงานของไรเตอร์นะค่ะ สู้ๆนะค่ะไรเตอร์ ++แล้วนู๋เดรจะน้ำหอมกินชินามอนไหม++ ++แล้วแฮรี่จะแกล้งนู๋เดรอีกนานอ่ะเป่า++ ตื่นเต้น ยอมรับว่าคู่ แฮรี่กะคุณนู๋เดร ก็น่ารักไม่แพ้คู่อื่นที่อ่านมาค่ะ ^O^ อ่านน้อยลง
น้องข้าวมัน | 25 เม.ย. 53
10
0
"ติด Fic HP ไปเลย!!"
(แจ้งลบ)ชอบเนื้อหาของเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านแล้วสนุกมากๆ ไม่หน้าเบื่ออย่างที่คิด ปกติไม่ค่อยชอบอ่าน แฮร์รี่ซะเท่าไร แต่อ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่ออีก!! จะติดตามผลงานของไรเตอร์นะค่ะ สู้ๆนะค่ะไรเตอร์ ++แล้วนู๋เดรจะน้ำหอมกินชินามอนไหม++ ++แล้วแฮรี่จะแกล้งนู๋เดรอีกนานอ่ะเป่า++ ตื่นเต้น ยอมรับว่าคู่ แฮรี่กะคุณนู๋เดร ก็น่ารักไม่แพ้คู่อื่นที่อ่านมาค่ะ ^O^ ... อ่านเพิ่มเติม
ชอบเนื้อหาของเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านแล้วสนุกมากๆ ไม่หน้าเบื่ออย่างที่คิด ปกติไม่ค่อยชอบอ่าน แฮร์รี่ซะเท่าไร แต่อ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่ออีก!! จะติดตามผลงานของไรเตอร์นะค่ะ สู้ๆนะค่ะไรเตอร์ ++แล้วนู๋เดรจะน้ำหอมกินชินามอนไหม++ ++แล้วแฮรี่จะแกล้งนู๋เดรอีกนานอ่ะเป่า++ ตื่นเต้น ยอมรับว่าคู่ แฮรี่กะคุณนู๋เดร ก็น่ารักไม่แพ้คู่อื่นที่อ่านมาค่ะ ^O^ อ่านน้อยลง
น้องข้าวมัน | 25 เม.ย. 53
10
0
ความคิดเห็น