คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Fifteen ✿ Thinking about you
15
Thinking about you.
คิดจะรัก คิดถึงแบคฮยอน
(คิทแคทไม่ได้กล่าวแต่ชานยอลนี่แหละกล่าว)
เข้าสู่ช่วงสายของวันหยุดที่อากาศดีอย่างนี้สวนสาธารณะก็เต็มไปด้วยผู้คน ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้นถ้าคุณมองดีๆ พิจารณาคนที่เดินผ่านคุณไปมาคุณจะเจอกับคนคู่หนึ่ง คนคู่หนึ่งประกอบไปด้วยผู้ชายสองคน ในผู้ชายสองคนนั้นคนนึงตัวสูง หน้าตาหล่อเหลาดี และผู้ชายอีกคนตัวเล็กนิดเดียว หน้าตาจิ้มลิ้มดูขี้งอนหน่อยๆ
คุณเห็นหรือยัง? ถ้าคุณเห็นแล้วคุณจะพบรายละเอียดยิบย่อยอีกว่าผู้ชายตัวสูงกำลังมองผู้ชายตัวเล็กที่กำลังเลียไอศกรีมแผล่บๆ เขายิ้มออกมาเล็กน้อยและยังไม่ยอมหุบยิ้มตั้งแต่ตอนที่คุณเห็นพวกเขาในระยะห้าร้อยเมตรจนตอนนี้จะห้าสิบเมตรแล้ว
ผู้ชายตัวสูงที่คุณสังเกตเขาอยู่กำลังจับจ้องใบหน้าของผู้ชายตัวเล็ก คุณเห็นเขากระพริบตาบ้างมั้ย? ...บางทีเขาอาจจะลืมการกระพริบตาไปแล้วก็ได้ คุณเห็นเขาหุบยิ้มลงแล้วหรือยัง? ...บางทีเขาอาจจะลืมการทำหน้าบึ้งไปแล้วก็ได้ คุณเห็นมือพวกเขาที่สอดประสานกันมั้ย? ...บางทีคงจะไม่มีอะไรมาแยกพวกเขาจากกันได้อีกแล้ว โอเค คุณกำลังมองพวกเขาอยู่
ผู้ชายตัวสูงคนนั้น...ครับ นั่นคือผมเอง
ปาร์คชานยอลของผู้ชายตัวเล็กข้างผมJ
แปะ!
มือเล็กตะปบลงบนหน้าแสบใช่เล่นเรียกสติของชานยอลให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง แบคฮยอนเหล่มองมาอย่างสงสัยขณะที่ยังคงเลียไอศกรีมในมือแผล่บๆ ดวงตาเรียวรีจ้องมองมาทางชานยอลอย่างไร้เดียงสา เอียงคอนิดนึงให้พอดูน่ารัก
“ เหม่อทำไม ”
“ ครับ? ”
“ แน่ะ ทำไมต้องเหม่อ ”
เป็นคำถามที่คล้ายกับไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ชานยอลยังเอาแต่มองใบหน้าจิ้มลิ้ม ขานรับอีกคนไปงั้นแต่ตายังจับจ้องใบหน้าของแบคฮยอนอยู่
“ มอง? มองทำไม? ”
“ ไม่มีอะไร ”
“ แน่ะ ก็เห็นอยู่ว่ามอง ”
พวกเขาจำต้องหยุดเกิดเมื่อแบคฮยอนเดินมาตัดหน้าชานยอลทั้งที่มือพวกเขายังจับกันอยู่ ตาชานยอลก็ยังไม่ละจากแบคฮยอนของเขาไปไหน เจ้าคนน่ารักขมวดคิ้วแป๊บๆ ก็กลับมายิ้มตาหยีเหมือนเดิม
ขยับไปทางซ้าย...ชานยอลก็มองตามไปทางซ้าย
ขยับไปทางขวา...ชานยอลก็มองตามไปทางขวา
“ แน่ะ มองเราจริงๆ ด้วย ”
“ มองเราทำไมอ่ะ เราน่ารักขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
ใครใช้ให้น่ารักขึ้นทุกวัน
“ พอเราขยับไปทางซ้าย ตาชานยอลก็มองไปทางซ้าย ”
“ พอเราขยับไปทางขวา ชานยอลก็ยังมองตามมาทางขวาอีก ”
มีการกัดกรวยไอศกรีมแล้วเอียงคอไปมาต่อหน้าต่อตาชานยอลอีก จะทำอะไรจะพูดอะไรก็ไม่เคยปรึกษาหัวใจเขาบ้างเลย แค่นี้ยังหลงแฟนไม่พออีกหรือไง? จะล่อลวงให้รักให้หลงไปไหน?
“ …แล้วยังมองเราตาไม่กระพริบอีก ”
แบคฮยอนของเขาหัวเราะคิกๆ คักๆ ฮัมเพลงงึมงำไปพร้อมกับการละเลียดไอศกรีมในมือ ดวงตาคู่นั้นใสปิ๊ง มือที่จับกันอยู่ก็ถูกแกว่งไปมาสลับการบีบเบาๆ ชานยอลหัวเราะก่อนจะลูบหัวฟูๆ อย่างเอ็นดู
“ ใส่เสื้อยืดมา น่ารักไง...ก็เลยมอง ”
“ ใส่กางเกงสามส่วนมา น่ารักไง...ก็เลยมอง ”
“ ใส่รองเท้าผ้าใบมา น่ารักไง...ก็เลยมอง ”
ส่งยิ้มให้คนแก่นเซี้ยวในตอนแรกก็ถึงกับหลบสายตาไปทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ไม่เนียนหรอก แก้มแดงแจ๋ขนาดนั้นน่ะยังไงก็ไม่เนียน พาแฟนมาเดินเล่นทั้งที่สงสัยจะได้เดินอวดแก้มแดงๆ นี่รอบสวนสาธารณะซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย
ตอนเที่ยงคุณนายพยอนมีธุระด่วนต้องออกไปทำ มันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนักหนาหรอกถ้าไม่ติดว่าเธอพาแมวของเพื่อนที่จะไปทำธุระด้วยกันมาฝากเลี้ยง แมวเปอร์เซียหน้าตาเหวี่ยงๆ และท่าทางจะหยิ่งเอาการมาอยู่ในอ้อมแขนชานยอลแล้วเรียบร้อย
“ ยังไงช่วยอาบน้ำให้จีจี้ด้วยนะจ้ะ รบกวนไปหรือเปล่า? ”
ชานยอลเหล่มองตะกร้าสารพัดแชมพูแมวบำรุงโน่นนี่นั่นที่วางใกล้ๆ แล้วยิ้มให้พวกเธอวางใจ เขาน่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเจ้าแมวตัวนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ ผมจะจัดการให้ครับ ”
“ ขอบคุณมากนะจ้ะ หนูชานนี่นี่น่ารักดีจริงๆ ”
“ ไว้ตอนเย็นเจอกันนะเด็กๆ ”
เสียงรถแล่นห่างออกจากบ้านไปแล้ว...ยังไร้วี่แววของแบคฮยอน ชานยอลมองไปรอบบ้านก็แล้วร้องเรียกก็แล้วยังไม่โผล่มาแม้แต่เงา ไม่รู้เหมือนกันว่าไปซ่อนอยู่ตรงไหน
แบคฮยอนไม่ชอบแมว
ไม่ชอบเอามากๆ
เขาปล่อยเจ้าจีจี้ลงบนพื้นเมื่อมั่นใจแล้วว่าปิดประตูไว้แน่นหนาพอแล้ว ชานยอลหยิบแชมพูแมวขึ้นมาพิจารณาวิธีการใช้แล้วอดถอนหายใจไม่ได้ อาบน้ำแมวเนี่ยนะ...คงจะได้สักสามสี่แผลเป็นอย่างต่ำล่ะวันนี้ แมวน่ะมันชอบน้ำซะที่ไหนกันล่ะ
โครม!
เมี้ยวววว!!
“ ชานยอลลลลลลลลล!!!!! ”
“ อ๊ากกกกกกกกกก!!!! ”
เสียงโครมครามดังมาจากชั้นบนดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวีดร้อง ชานยอลรีบผุดลุกขึ้นจากโซฟาเดินพุ่งไปตรงบันไดทันที เขาได้ยินเสียงวิ่งตึงตังแล้วแบคฮยอนก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลอาบแก้มร้องเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่น เลยไปจากด้านหลังแบคฮยอนอีกนิดคือเจ้าแมวจีจี้ที่กำลังวิ่งตามมา
“ ชานยอลอ่า!!! ”
“ เฮ้ย! ”
ตัวเล็กๆ ของแบคฮยอนกระโดดจากขั้นบนสุดของบันไดลอยละลิ่วลงมาหาชานยอลที่ยืนข้างล่าง พวกเขาพากันล้มกลิ้งไปตามพื้น ดีนะที่ชานยอลเซฟทั้งตัวเองและแบคฮยอนของเขาเอาไว้ได้ นอกจากความปวดตามเนื้อตัวแล้วก็ไม่มีอาการบาดเจ็บอื่นๆ อีก
“ ฮืออออออ ”
ชานยอลค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งโดยไม่ลืมดึงแบคฮยอนที่กำลังขวัญเสียเข้ามากอดปลอบ แบคฮยอนของชานยอลกำลังซบหน้าร้องห่มร้องไห้กับหัวไหล่ ตัวสั่นระริกน่าสงสาร
“ ชู่ววว ไม่เป็นไร จีจี้ไม่ทำอะไรแบคฮยอนหรอก ”
“ มะ...มันกระโดดเกาะหลังเราง่าาา ฮือออ ชานยอลอ่าาา ”
ร้องไห้กระซิกๆ แต่ยังไม่ทิ้งลายช่างออดอ้อนตามสไตล์เขาล่ะ แบคฮยอนร้องเสียงหลงอีกครั้งเมื่อเจ้าแมวจีจี้เดินนวยนาดมาใกล้ เจ้าคนน่ารักพยายามตะเกียกตะกายขึ้นบนตัวชานยอลแล้วฟ้องเสียงสั่น
“ มันมองหน้าเราด้วยนะชานยอลอ่า ฮือออ ”
“ อย่าให้มันใกล้เรานะชานยอลอ่า ฮึก! ”
“ อ๊ากกกกกกกกก!!! ”
จะว่าขำก็ขำนะ จะว่าน่ารักมันก็น่ารักแหละ นี่ไม่รู้จะสนใจใครดีระหว่างแบคฮยอนที่ครางหงิงๆ ข้างหูหรือเจ้าแมวจีจี้ที่ทำหน้าเหม็นเบื่อ ชานยอลตัดสินใจอุ้มเจ้าคนน่ารักลอยจากพื้นไปนั่งตรงโซฟา แบคฮยอนยังคงเกาะเขาแน่นขยับตัวยุกยิกไปมาตามประสาคนขี้ระแวง
“ ใจเย็นๆ หน่อยสิแบคฮยอน จีจี้ไม่ทำอะไรหรอกถ้าแบคฮยอนไม่แกล้งมัน ”
“ ก็เราไม่ชอบอ้ะ! ”
“ ไม่ชอบก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องสนใจ ”
“ เมื่อเช้ายังชมว่าเราน่ารักทำไมตอนนี้มาดุเราอีกอ้ะ! ”
ดุ? เขาไปดุอะไรยังไงตอนไหน? ชานยอลหัวเราะเบาๆ กับท่าทางแง่งอนแล้วคว้าเจ้าแมวจีจี้ขึ้นมาอุ้ม แบคฮยอนทำหน้าแหยงๆ นิดหน่อยแต่ก็ยอมลุกเดินตามหลังเขาต้อยๆ
“ รออยู่ข้างนอกนะ เดี๋ยวจะพาจีจี้อาบน้ำก่อน ”
“ ไม่เอา เราจะเข้าไปข้างในกับชานยอล ”
“ ไหนว่าไม่ชอบแมวไง ”
“ ยังไงเราก็ชอบชานยอลนะ! เพราะงั้นเราจะเข้าไปกับชานยอล! ”
แมวน่ะน่ารักนะ
แต่ชานยอลว่าคนแถวนี้ก็ยังน่ารักกว่าแมวล่ะ
น้ำอุ่นถูกเปิดใส่หนึ่งส่วนสี่ของอ่างอาบน้ำ แชมพูกลิ่นลาเวนเดอร์ของเจ้าแมวจีจี้ก็พร้อมแล้วจะเหลือก็แค่จับแมวอาบน้ำ แบคฮยอนยืนถือฝักบัวหน้าตึงอยู่ใกล้ๆ ชานยอลก็ทำใจไว้แล้วล่ะว่าเขาต้องได้เจ็บตัวแน่ๆ ซึ่งไม่ผิดคาดนักหรอก...ทันทีที่อุ้มเจ้าแมวจีจี้ลงในอ่างมันก็ดีดดิ้นรุนแรงร้องหง่าวๆ เสียงดังลั่นห้องน้ำไปหมด
“ จีจี้อยู่นิ่งๆ! ”
ฟ่ออออ
กรงเล็บมันตะปบหลังมือชานยอลจนเลือดซิบก่อนจะกระโจนเข้าใส่แบคฮยอนที่อยู่ใกล้กันจนล้มลงไปบนพื้นโดนฝักบัวที่ถืออยู่รดตัวจนเปียกเป็นลูกหมา
“ แค่กๆๆ ”
“ แบคฮยอนเป็นอะไรมั้ย!? ”
“ ปะ...เปียกหมดเลยชานยอลอ่า ฮือออ ”
ไม่รู้ไปล้มอีท่าไหนให้เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า ดีหน่อยที่ชานยอลปิดประตูห้องน้ำแล้วเจ้าแมวจีจี้เลยหนีไปไหนไม่ได้นอกจากติดแหง็กตรงมุมห้อง ชานยอลพยุงตัวเล็กๆ ขึ้นยืนก่อนจะพยายามลากเจ้าแมวจีจี้ออกมาตรงอ่าง แต่มันขู่ฟ่อๆ แล้วข่วนแขนเขาเต็มแรง
“ ซี้ดดด เจ็บชะมัด ”
แง้ววววววว!!
“ หน็อย...แมวบ้านี่! ”
“ เฮ้ยแบคฮยอน! ”
แบคฮยอนของชานยอลเดินดุ่มๆ ไปมุมห้องหิ้วคอเจ้าแมวจีจี้ออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง เดินลงไปในอ่างแล้วจับเจ้าแมวจีจี้ให้อยู่ในน้ำ มันดีดดิ้นจนน้ำกระเซ็นไปหมดแต่แบคฮยอนกลับไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ผ่านไปสิบนาทีกว่าความพยายามก็สำเร็จเมื่อในที่สุดเจ้าแมวจีจี้ก็ยอมอยู่เฉยๆ ไม่กลัวน้ำแล้ว
“ ฮะๆ ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้นะ เก่งจังแฟนใครเนี่ยJ ”
“ มันทำชานยอลของเราเจ็บอ่ะ! ไม่ยอมหรอก! ”
“ ออกมาล้างตัวก่อนเร็วเข้า ”
“ แล้วแมว... ”
“ มันไม่กลัวน้ำแล้วเห็นมั้ย ”
เขาดันตัวเล็กๆ ของแบคฮยอนไปอยู่ใต้ฝักบัว มองผมเปียกลู่ติดกรอบหน้าจิ้มลิ้มแล้วก็เอ็นดูไม่น้อย แบคฮยอนเงยหน้ามาส่งยิ้มตาหยีตอนที่ชานยอลลูบหยดน้ำออกจากใบหน้าให้
“ เราเก่งใช่มั้ย? ”
“ อื้อ เก่งมาก ”
“ เราทำเพื่อชานยอลเลยนะ...! ”
ชานยอลจะไม่ปล่อยปากแดงๆ ตรงหน้าให้ขยับเจื้อยแจ้วอีกต่อไปแน่ เขารั้งต้นคอเล็กเข้ามาใกล้แล้วบดจูบลงไป น้ำจากฝักบัวไหลลงมาอาบร่างพวกเขาทั้งคู่ ชานยอลประคองใบหน้าจิ้มลิ้มให้รับจูบถนัดมากขึ้น แบคฮยอนยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขาก็โอบเอวเล็กเข้ามาใกล้
แบคฮยอนของชานยอลรับจูบตาปรอย การตอบสนองจูบที่เป็นธรรมชาติ ชานยอลขบเม้มกลีบปากล่างของอีกคนเรื่อยไปจนถึงจูบไล้ตามแนวกรามเล็กจนถึงกกหู เพียงแค่จูบผะแผ่วแบคฮยอนก็ระทวยซะแล้ว ตัวเล็กๆ ครางงี้ดแล้วซบอกชานยอลไร้เรี่ยวแรง พวกเขาต่างหอบหายใจถี่
“ มันจะ...มันจะเป็นปอดบวมนะ ”
เสียงเบาหวิวเรียกสติชานยอลที่กำลังซุกไซร้แนวไหล่เล็ก เขาพรูลมหายใจยาวมองใบหน้าแดงระเรื่อของแบคฮยอนแล้วก็อดเสียดายไม่ได้ แต่เจ้าแมวจีจี้ที่นั่งหน้าสลอนในอ่างต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างหยุดลงเพราะนานกว่านี้มันคงเป็นปอดบวมพอดี
หลังจากภารกิจอาบน้ำให้เจ้าแมวจีจี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอาการกลัวแมวของแบคฮยอนก็เหมือนจะหายเป็นปลิดทิ้ง พวกเขานั่งๆ นอนๆ อยู่บนเตียงของแบคฮยอน ปล่อยเจ้าแมวจีจี้เดินเล่นไปมาบนพื้นห้องแล้วล็อกประตูเอาไว้ก็หมดห่วง ถึงต่อให้มันกระโดดขึ้นมาบนเตียงก็คงไม่มีใครตกใจอีกเพราะเจ้าของเตียงนอนกำลังวุ่นวายอยู่กับการปีนป่ายไปบนตัวชานยอลอยู่นั่นเอง
สักพักพอขยับตัวจนเหนื่อยก็เนียนมานอนกระแซะด้วย หัวกลมซุกเข้าหาชานยอลราวกับขาดความอบอุ่นเสียเต็มประดา คางเรียวเกยอยู่ตรงช่วงหน้าอก ดวงตาใสแจ๋วมองชานยอลตาปริบๆ แฟนใครไม่รู้แหละชอบทำตัวน่าฟัดตลอด
“ มาอ้อนนี่กลัวน้อยหน้าจีจี้เหรอหื้ม? ”
“ เปล่าสักหน่อยยย ”
ทำหน้ามุ่ยใส่เมื่อโดนเอาไปเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ชอบ แบคฮยอนของชานยอลส่งเสียงงุ้งงิ้งไปตามประสา พวกเขานอนพิงกันบนเตียงนิ่งๆ มาได้สิบนาทีกว่าๆ แล้วแต่ไม่ยักจะมีใครเบื่อ นี่แหละนะเขาว่ากันว่าอยู่กับคนที่เรารักอะไรก็ว่าดี
“ มือชานยอลใหญ่จัง... ”
มือของพวกเขาเกาะเกี่ยวกันไปมากลางอากาศ มันก็จริงอย่างที่แบคฮยอนพูดนั่นแหละ...มือเขาใหญ่กว่ามือแบคฮยอนจนกุมได้มิดทั้งมือ เพราะอย่างนี้แบคฮยอนมุมไหนก็ตัวนิดเดียวในสายตาชานยอลไปหมด
ชานยอลมั่นใจว่าเขาเกิดมาเพื่อพยอนแบคฮยอนคนนี้แหละ
พวกเขาดูเหมาะกันไปหมด ไม่ว่าจะตรงนี้หรือตรงนั้น
เหมือนเกิดมาเพื่อกันและกัน
“ บอกแล้วไม่จำนะ มือฉันใหญ่เพราะอะไรล่ะ ”
“ หู้ยย ใครจะไปจำได้เล่า! มันตั้งแต่สิบสองขวบโน่นแล้ว ”
“ หัดโกหกแฟนเหรอ? ”
พอโดนจับได้ก็รีบเข้ามากอดมาออดอ้อนเลยนะ แบคฮยอนของเขาทำสายตาปิ๊งๆ น่ารักมากแต่ไม่ใจอ่อนหรอก หัดเป็นเด็กขี้โลภตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ โลภมากนะเราน่ะ ต้องให้บอกกี่ครั้งถึงจะพอใจหืม? ”
“ อะไรอ่ะ ทีตัวเองยังโลภให้เราบอกรักวันละหลายครั้งเลย มาบ่นได้ไง ”
กำปั้นขนาดเล็กทุบปั้กๆ ลงบนอกชานยอลอย่างขัดอกขัดใจ ทำหน้าบึ้งไปแล้วนะแต่ตานี่เป็นประกายใสปิ๊ง ปลายนิ้วเล็กสะกิดชานยอลจึ้กๆ ก่อนจะขยับดุ๊กดิ๊กเลียนแบบหนอนไปเรื่อยมาจนถึงแก้มเขา
“ เลี้ยงแบคฮยอนห้ามใจร้าย ”
“ ใจร้ายเพราะคนแถวนี้ดื้อ ”
“ ลูกเขยใจร้ายหม่าม๊าคงไม่อยากได้หรอกเนอะ ”
แน่ะ มีการเอาแม่มาขู่ตาใส
ตามใจไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวเอาเรื่องนี้ไปฟ้องคุณนายพยอนเป็นตุเป็นตะแล้วเธอไม่ยอมยกลูกชายคนเดียวของบ้านให้ก็คงแย่ ชานยอลไม่ยอมให้เป้นแบบนั้นหรอก ดูแลมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกในไส้เรื่องอะไรจะปล่อยไปง่ายๆ
“ พูดมาซี่! ”
แล้วก็ทุบอกชานยอลปั้กๆ ไปอีกชุด ใจร้อนจริง...
“ มือชานยอลใหญ่เพราะจะได้ปกป้องแบคฮยอนคนนี้ได้ยังไงล่ะครับ ”
บางที...การที่เขาพูดอะไรหวานซึ้งออกไปแต่ละครั้งมันก็เหมือนการแสดงความรักในรูปแบบคำพูด มันทำให้แบคฮยอนของเขาพอใจและยิ้มออกมาได้น่ารักที่สุดในโลก ชานยอลคิดว่าต่อให้เขาต้องพูดเป็นพันๆ ครั้งเขาก็ว่ามันคุ้มค่ามากพอที่จะทำ
“ ดีจังเลยเนอะ ”
“ อื้ม ดีสุดๆ เลยล่ะ ”
ชานยอลงัวเงียตื่นขึ้นมาตอนห้าโมงเย็น
เจ้าคนน่ารักนอนหลับปุ๋ยขดตัวอยู่ใกล้กันนี่เอง เสียงหายใจฟี้ๆ ดังสม่ำเสมอดูก็รู้ว่าคงจะหลับยาวไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ได้เลย ชานยอลได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดเขาก็ก้มจูบหน้าผากมนแผ่วเบา ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่ให้แบคฮยอนสะดุ้งตื่น
เจ้าแมวจีจี้ที่นอนตรงปลายเตียงถูกชานยอลอุ้มเดินลงมาข้างล่าง เขาโค้งให้ผู้หญิงสองคนอย่างสุภาพและยื่นเจ้าแมวจีจี้ให้เจ้าของตัวจริงสักที เธอขอบคุณเขายกใหญ่ วันที่แสนสุขและแสนเหนื่อย(เพราะภารกิจอาบน้ำให้แมวนี่แหละ)จบไปร่างกายชานยอลก็ผ่อนคลายขึ้นมา
เขาช่วยคุณนายพยอนขนข้าวของเข้าไปในครัวอย่างคล่องแคล่ว ก็นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย ตั้งแต่เล็กจนโตชานยอลก็สามารถทำให้คุณนายพยอนรักเขาไม่ต่างจากลูกในไส้ได้
นี่แหละเขาเรียกว่าการวางแผนเผื่ออนาคตJ
“ ป๋ายไปไหนล่ะจ้ะหนูชานนี่ ทำไมเงียบกริบเลย ”
“ หลับปุ๋ยไปแล้วล่ะครับ ”
“ ดีจังน้าาา ”
เธอป้องปากหัวเราะชอบใจ ลงมือทำอาหารมื้อเย็นโดยมีชานยอลเป็นลูกมืออยู่ใกล้ๆ ไม่มีบรรยากาศอึดอัดหรือเคอะเขินใดๆ
“ ป๋ายน่ะ...ติดหนูชานนี่เป็นตังเมเลยนะจ้ะ คงไม่ได้งอแงหรือเอาแต่ใจใช่มั้ยจ้ะ? ”
ชานยอลหัวเราะเบาๆ มือก็หั่นผักไปด้วย
“ ที่จริงผมชอบที่แบคฮยอนเป็นแบบนั้นนะครับ ”
“ ป๋ายขี้งอแงไปหน่อยแต่น่ารักนะจ้ะ หม่าม๊าเลี้ยงมาเองกับมือ ”
ชานยอลเข้าใจเรื่องนี้ดีเลยล่ะ
คุณนายพยอนมองหน้าเขาพลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเธอคล้ายกับแบคฮยอนเพียงแต่ไม่ได้สดใสเท่าลูกชายของเธอที่แก่นเซี้ยว ดวงตาของเธอเป็นประกายความอบอุ่น
“ หนูชานนี่ดูแลป๋ายมาก็หลายปีแล้ว...รู้สึกเบื่อหรือยังจ้ะ? ”
“ ผมไม่เคยเบื่อนะครับ ผมมีความสุขที่ได้ทำมันครับ ”
“ ก็ลูกชายคุณแม่น่ะ...เขาทำให้ผมรักมากขึ้นทุกวัน จะให้เบื่อได้ยังไงล่ะครับ ”
กลิ่นอาหารมื้อเย็นหอมฉุยไปทั่วบ้าน น้ำซุปในหม้อกำลังเดือดปุดๆ คุณนายพยอนยิ้มให้ชานยอลเล็กน้อย เธอดูมีความสุขเวลาที่ถามเรื่องราวของแบคฮยอนจากเขา เธอกำลังคาดหวังบางอย่างจากตัวเขา และชานยอลอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่า...เขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวังแม้แต่นิดเดียว
“ หลายปีที่ผ่านมาผมแน่ใจของผมแล้ว ”
“ แบคฮยอนคือครึ่งชีวิตของผม เขาเป็นส่วนหนึ่งของความฝันของผม ”
ชานยอลสบตาคุณนายพยอนอย่างแน่วแน่ ในชีวิตเขาไม่เคยมั่นใจในอะไรขนาดนี้มาก่อน
“ ถ้าคุณแม่ให้ผมได้ดูแลแบคฮยอน ผมจะไม่ไม่วันทำให้ผิดหวัง ”
” หลายปีที่ผ่านมาผมพิสูจน์ตัวเองได้มากพอหรือยังครับ? ”
อาหารถูกตักใส่ถ้วยสวยงามพร้อมรับประทาน คุณนายพยอนยังคงยืนยิ้ม เธอเดินเข้ามากอดชานยอลไว้หลวมๆ กระซิบขอบคุณและคำพูดที่ทำให้หัวใจชานยอลเต้นระรัวอย่างยินดี
“ มากพอจะชนะใจแม่ยายคนนี้จ้ะ ”
#ฟิคพาโบ
ไม่ไหวละ แบคอ้วนไม่ไหวละนะ แบบนี้พิชานจะแบกขึ้นหลังยังไงไหว
ความคิดเห็น