ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Photos 」krislay chanbaek ft.myeongyeol

    ลำดับตอนที่ #19 : PHOTOS ; 15 { 100 per. }

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.99K
      12
      3 เม.ย. 57














    15


     

    Q : ตอนนี้คุณชอบทำอะไรเป็นพิเศษ?

    K : ผมเพิ่งได้กล้องใหม่ กำลังสนุกกับการถ่ายรูปครับ ผมมีรูปสวยๆ เยอะแยะเลย

     

    เจ้าของคำตอบยิ้มบางเบาให้กับกล้อง ดวงตาเป็นประกายวิบวับพึงพอใจมากซะจนคนที่นั่งดูนอกจอทีวีอย่างอี้ชิงยังอดหัวเราะไม่ได้ ก็เพราะเขาเป็นแฟนคุณแรพเปอร์คนดังนี่นา...ทำไมจะไม่รู้ว่าช่วงนี้คุณคริสน่ะเห่อกล้องใหม่ขนาดไหน ถึงแม้มันจะเป็นสีชมพูอ่อนแบบที่พวกเด็กสาวชอบใช้กันแต่คุณคริสก็ไม่เคยอายที่จะถือมันไปไหนมาไหนด้วยเลย จากที่เป็นคนโดนถ่ายแล้วมาเป็นคนถ่ายซะเอง คงจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สนุกสนานสำหรับคุณคริสไม่น้อย

     

    จนตอนนี้...บ้านของอี้ชิงแทบจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว

     

    แล้วอี้ชิงก็ต้องหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อได้มองไปรอบตัวเต็มตา ผนังบ้านที่เคยเป็นสีขาวสะอาดในเวลาไม่ถึงเดือนกลับมีแต่รูปถ่ายโพลารอยด์ติดเต็มไปหมดจนแทบไม่มีพื้นที่สีขาวให้เห็นเลย ปัญหาไม่ใช่ว่าอี้ชิงไม่ปลื้มไม่ชอบหรอกนะ เขาเป็นช่างภาพต้องชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือรูปที่คุณคริสถ่ายมันเยอะมาก...มากจนตอนนี้ไม่มีที่ติดสมใจคุณแรพเปอร์คนดังเขาแล้วนี่สิ

    คุณแรพเปอร์คนดังถ่ายรูปทุกวันเท่าที่จะถ่ายได้ พอถ่ายแล้วก็เอามาแปะแปะแปะแล้วก็แปะ แล้วก็เขียนข้อความอะไรไม่รู้ลงไปในรูปถ่ายทุกใบ อี้ชิงเคยแอบอ่านอยู่บ้างแต่หลังจากนั้นก็ไม่อ่านอีกเลย

     

    เพราะเขาเขินเกินกว่าจะอ่านจนหมด

     

    ความปวดเมื่อยตามเนื้อตัวทำให้คนที่นั่งทำงานมาโต้รุ่งขยับลุกอย่างยากลำบาก อี้ชิงพบว่าตัวเองทั้งไอและเจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมด เวียนหัวจนต้องทิ้งตัวลงไปนอนตรงโซฟาใกล้ตัวที่สุดอย่างหมดแรง มือขาวแตะตามใบหน้าตัวเองรู้สึกได้เลยว่าร้อนผิดปกติ สงสัยจะเป็นไข้แล้วสิ...

    มีงานที่ต้องทำอีกเยอะซะด้วยสิ...

    แต่จะให้ฝืนลุกไปทำต่อคงจะไม่ไหวแล้วล่ะ อี้ชิงซุกใบหน้าลงกับหมอนอิงใบใหญ่ ความง่วงงุนแล่นเข้าโจมตีส่งผลให้เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงเชื่องช้า โทรศัพท์ตกลงบนพื้นพรมแต่เจ้าของก็ไม่ได้ให้ความสนใจจะเก็บมันขึ้น อี้ชิงขดตัวอยู่บนโซฟาก่อนจะได้หลับสนิทจริงๆ





     

    หลังจากไปออกรายการวิทยุตั้งแต่เช้ามืดตอนสิบโมงครึ่งคริสก็มายืนยิ้มอยู่ตรงหน้าบ้านของ แฟน ตัวเองได้สักที บ้านทั้งหลังเงียบสนิทแต่ยังเปิดไฟเอาไว้ อากาศวันนี้หิมะตกทั้งวันท้องฟ้าขมุกขมัวไม่เหมือนหัวใจคริสที่เบิกบานแจ่มใส เพราะยังไงวันนี้เขาก็ไม่มีงานอะไรอีกแล้ว

    กุญแจดอกเล็กที่อ้อนเอามาจากเจ้าของบ้านได้ช่วยให้คริสได้เข้าไปสัมผัสความอบอุ่นข้างในบ้านได้เร็วทันใจ แรพเปอร์คนดังถอดเสื้อโค้ทแขวนเอาไว้หน้าประตู สอดส่องสายตามองหาคนตัวขาว

    จางอี้ชิงครับ?

    เมื่อไม่มีเสียงตอบรับผิดวิสัยของช่างภาพตัวขาวที่กระตือรือร้นคริสก็เหวี่ยงกระเป๋าเป้สีดำไว้ตรงเคาน์เตอร์ทันที และเขาเกือบจะเดินเลยขึ้นบันไดไปแล้วถ้าไม่ติดว่าเหลือบไปเห็นใครบางคนนอนนิ่งอยู่ตรงโซฟาพอดีนั่นแหละ คริสพรูลมหายใจก่อนจะยิ้ม จางอี้ชิงเกือบทำให้เขาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มซะแล้ว

    จางอี้ชิงครับ?

    ไอ้ใบหน้าตอนหลับตาพริ้มแบบนี้คริสเพิ่งจะเคยเห็น แรพเปอร์คนดังเผลอยืนมองตั้งนานสองนานกว่าจะตั้งสติได้ คริสแตะมือเย็นๆ ของตัวเองลงบนผิวแก้มสีระเรื่อน่ารักน่าชัง อุณหภูมิผิวที่อุ่นผิดปกติทำให้เขาขมวดคิ้ว คริสทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาเดียวกับจางอี้ชิงแล้วดึงร่างอ่อนปวกเปียกของอีกคนขึ้นมาพิงอกตัวเอง คนตัวขาวครางประท้วงก่อนจะหลับคอพับคออ่อนไปอีก

    เป็นไข้นี่ครับ

    มือใหญ่ยกขึ้นแตะหน้าผากอีกคนสลับกับแนบหน้าผากตัวเองลงไป ตัวของจางอี้ชิงอุ่นมากจริงๆ ท่าทางไข้จะขึ้น ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนถึงได้มานอนป่วยแบบนี้ น่าจับมาตีก้นให้เข็ด! นี่ถ้าคริสไม่มาวันนี้มีหวังจางอี้ชิงได้นอนแห้งบนโซฟาไปทั้งวันแน่ๆ

    คุณคริส...?

    เสียงแหบแห้งเรียกชื่อเขาพร้อมกับดวงตาหวานใสที่เหลือบขึ้นมองคล้ายไม่แน่ใจ คริสดึงมือเล็กมาแนบกับแก้มตัวเองแล้วส่งยิ้มให้คนป่วย คนป่วยก็ทำตัวน่ารักด้วยการยิ้มกลับจนตาหยี

    นอนพักก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปหายามาให้

    คนป่วยพยักหน้ารับรู้ พูดพึมพำจนคริสก็โน้มตัวลงไปใกล้กว่าปกติเพื่อจับใจความ

    ตู้ยา...อยู่ตรงทางขึ้นบันไดครับ

    แป๊บนึงนะครับ

    คริสต่อสายหาผู้จัดการคนสนิท พี่เฮนรี่ไม่เคยปล่อยให้เขารอสายนานเกินหนึ่งนาทีอีกฝ่ายก็กดรับพร้อมกับเสียงเนิบนาบแสนจะขี้เกียจ

    พี่...เวลาเป็นไข้พี่กินยาอะไรบ้าง

    [ นายเป็นไข้เหรอ!? ]

    ไม่ได้เป็น

    [ อ้าว? เอ่อก็...ยาพาราสักสองเม็ด เจลลดไข้ แล้วก็ดื่มน้ำเยอะๆ หลับเยอะๆ วันเดียวคงดีขึ้น ]

    ขอบคุณมากครับพี่ แค่นี้นะ

    แรพเปอร์คนดังรื้อในตู้ยาก็พบยาพาราอยู่สองแผงแต่ไม่มีเจลลดไข้ ตรงดิ่งไปห้องครัวรินน้ำใส่แก้วทรงสูงแล้วแกะยาสองเม็ดอย่างเร่งรีบ จางอี้ชิงกลับไปนอนซุกหน้ากับหมอนเหมือนเดิมแล้ว แต่พอส่งเสียงเรียกช่างภาพตัวขาวก็ปรือตามองแล้วยิ้มให้

    คุณคริส...

    ทำเสียงอ้อนๆ แบบนั้นได้ยังไงกัน...

    กินยาหน่อยนะครับจางอี้ชิงจะได้หายไวๆ ไปตามถ่ายรูปผมไงครับ

    อื้อ...ครับ...

    มันน่ารักมากเลยนะตอนที่จางอี้ชิงยิ้มหวานตาปรือพยายามยันตัวเองลุกขึ้นนั่งแบบเป็นเด็กดีสุดๆ ทำท่าจะหลับอยู่ตลอดจนคริสต้องจับหัวมาพิงไหล่ตัวเองเอาไว้ จางอี้ชิงกลืนยาสองเม็ดไปตบท้ายด้วยน้ำเกือบครึ่งแก้ว คริสแนบมือลงบนแก้มนิ่มและดูเหมือนว่าจางอี้ชิงจะชอบเป็นพิเศษ

    มือเย็นจังเลยครับ...

    ผมเพิ่งไปทำงานมาน่ะสิครับ ข้างนอกหนาวมากเลย

     

    อย่าเอาแก้มมาคลอเคลียฝ่ามือคนอื่นหน่อยเลย

    มันไม่น่ารักไปหน่อยเหรอ?

     

    เจ็บคอจังเลยครับ...คุณคริส

    งั้นต้องกินน้ำเยอะๆ แล้วพักผ่อนนะครับ

    ...ใจดี

    คนป่วยคลอเคลียออดอ้อนเอาใจซะจนคริสใจสั่น ปากอิ่มแดงพูดงุ้งงิ้งๆ อยู่ข้างหูตบท้ายด้วยรอยยิ้มตาหยีแทบทุกครั้ง คริสทนมอง...และทนไม่ให้ตัวเองก้มลงไปฟัดแก้มแดงๆ นั่น จางอี้ชิงตอนป่วยน่ารักคูณล้านเชียวล่ะ คริสปัดปอยผมอีกคนออกไป แนบหน้าผากลงชิดกับหน้าผากอุ่นจัด มองอีกคนหลับตาพริ้มอยู่ใกล้แค่ลมหายใจก็อดจะแอบจุ๊บเบาๆ ตรงปากแดงๆ นั่นไม่ได้

    ปล่อยให้ช่างภาพตัวขาวนอนต่อตัวเองก็เดินไปหาผ้าผืนเล็กกับกะละมังใส่น้ำ คริสยกกะละมังมาวางไว้ตรงโต๊ะเล็กใกล้ๆ โซฟา บิดผ้าให้พอหมาดวางบนหน้าผากคนป่วยก่อนจะดึงฟูกนุ่มที่สอดอยู่ใต้โซฟาออกมากางบนพื้นพรมเพราะโซฟามันแคบเกินไปที่จะนอนได้สองคน แรพเปอร์คนดังเดินหายไปชั้นบนได้ผ้าห่มมาหนึ่งผืนก็จัดแจงอุ้มคนป่วยลงมานอนบนฟูกตามด้วยตัวเองที่สอดตัวเข้าไปซุกในผ้าห่มผืนเดียวกัน จางอี้ชิงนอนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กๆ ทำตัวน่ารักได้แม้กระทั่งเวลานอน

    ฝันดีนะครับ

    คริสโอบร่างนุ่มนิ่มมาซบอกตัวเอง กอดอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเต็มที่ ถึงตอนป่วยจางอี้ชิงจะไม่หน้าแดงให้เขาชื่นใจก็เถอะนะ แต่แขนเล็กที่กอดตอบกับการซุกใบหน้าเข้าหาแบบนี้ก็ถือทดแทนได้แล้วกัน

     

    คริสรู้สึกว่าแบบนี้มันช่างดีจริงๆ

    การมีใครสักคนให้กอดไว้แบบนี้มันดีมากจริงๆ นะ

     

    แล้วการที่ใครคนนั้นเป็นจางอี้ชิง

    ...มันดีที่สุดเลย J



     








     

    การทำอาหารคนป่วยมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็น ถึงแม้ว่าเขาจะมีโจ๊กสำเร็จรูปอยู่ตรงหน้าก็เถอะ...แรพเปอร์คนดังรู้สึกอายนิดหน่อยที่พบว่าตัวเองโง่อย่างเหลือเชื่อ กาน้ำร้อนเดือดปุดๆ แต่คริสก็ยังเอาแต่เพ่งอ่านตัวหนังสือบนซองโจ๊ก อ่านแล้วอ่านอีกถึงได้เข้าใจว่าต้องเทไอ้นี่ลงในถ้วยก่อนแล้วค่อยใส่น้ำในปริมาณที่พอดี หลังจากนั้นก็รออีกประมาณสามนาทีกว่าๆ

    คริสชะเง้อคอมองเข้าไปในห้องรับแขกเห็นเจ้าของป่วยนอนหลับปุ๋ยก็หมดห่วง เขาหันมาสนใจโจ๊กแทน เกิดมาเพิ่งเคยต้มโจ๊กให้ใครทานตัวเขาเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารสชาติหน้าตามันเป็นยังไง คริสเปิดฝาถ้วยเซรามิกลายสดใสออกมาก็ได้กลิ่นหอมฉุย(ถึงเขาจะเติมน้ำเยอะไปก็ตาม) พอหันหลังกลับมาก็เจอดวงตาแป๋วๆ มองมาอย่างสะลึมสะลือ จางอี้ชิงยืนยิ้มหวานเกาะขอบประตู

    ลุกมาทำไมครับ เดี๋ยวล้มไปจะทำยังไง

    ปกติว่าจางอี้ชิงพูดน้อยแล้วนะ มาเจอตอนป่วยนี่แทบไม่พูดเลยเอาแต่ยืนยิ้มอยู่นั่น คริสวางถ้วยโจ๊กไว้ที่เดิมก่อนจะก้าวขายาวๆ ไปประชิดตัวคนป่วย หัวเราะชอบใจตอนที่จางอี้ชิงตัวอ่อนซบอกเกลือกกลิ้งใบหน้าไปมา แขนเล็กสอดรอบเอวของคริสเริ่มทำเสียงงุ้งงิ้งๆ

    ฮื้อออ คุณคริส...

    เดี๋ยวกินข้าวกันนะครับ ผมจะป้อนเองนะ

    จริงเหรอ?

    คริสไม่ได้ตอบคำถามคนป่วยช่างสงสัยนอกจากยิ้มแล้วก้มลงไปจูบหน้าผากอุ่นของอีกคนสองสามที ช่างภาพตัวขาวหัวเราะคิกคักแล้วยิ้มหวานกระแทกเต็มตาของคริส

     

    นี่ถ้าไม่ได้ป่วยอยู่ล่ะก็นะ...

     

    ฟู่ววววว

    คนป่วยทำเสียงล้อเลียนคริสตอนเป่าโจ๊กร้อนๆ ตัวอ่อนปวกเปียกซบกอดคนอื่นอยู่อย่างนี้แต่ยังมีแรงหัวเราะ มีแรงยิ้ม คริสยิ้มให้กับท่าทางเด็กน้อยแบบนั้นก่อนจะเลื่อนช้อนไปจ่อปากอิ่มที่อ้ารับอย่างว่าง่าย ดูเหมือนว่าความอุ่นของโจ๊กจะทำให้จางอี้ชิงสบายคอขึ้นถึงได้เงยหน้ามายิ้มให้กันอีกแล้ว

    อย่ายิ้มบ่อยสิครับ

    ครับ?

    มันน่ารัก

    จางอี้ชิงพยักหน้าหงึกๆ กับแก้มที่เหมือนจะขึ้นสีแดงอีกเล็กน้อย กว่าจะกินโจ๊กจนหมดคริสนี่แทบละลายตายไปกับรอยยิ้มแบบนั้นเต็มแก่แล้ว จางอี้ชิงนี่ก็ขยันอัพเลเวลความน่ารักจริงจังเลยนะ

    อร่อยมั้ยครับ?

    อื้อ อร่อยครับ

    มีการยกนิ้วโป้งประกอบซะน่ารักอีกนะคนเรา

    งั้นเดี๋ยวกินยาตามอีกทีแล้วนอนหลับดีกว่าเนอะ

    จางอี้ชิงก็ว่าง่ายซะเหลือเกิน...บอกให้ทำอะไรก็ทำ ไม่งอแงไม่ขัดขืน เอายาใส่มือสองเม็ดก็เข้าปากกลืนกินน้ำตามจบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆ กับตาปรือๆ เจ้าเดิม น่ารักมาก...น่ารักมากซะจนคริสต้องจับมาฟัดก่อนจะปล่อยให้คนป่วยได้ล้มตัวนอนบนฟูกนุ่มตามเดิม

    พวกเขาได้กลับมานอนกอดกันอีกครั้งในรอบวัน เตาผิงอุ่นๆ ในวันที่หิมะตกหนักทำให้หลับสบาย คริสปิดมือถือแล้วโยนไว้ที่ไหนสักที่ เขาขยับดึงร่างนุ่มๆ หอมๆ เข้ามากอดมาหอมให้หนำใจโดยที่เจ้าของนี่แทบจะหลับอยู่แล้ว ส่วนไอ้ปากแดงๆ ก็ล่อตาจนต้องก้มลงไปแตะเบาๆ ก่อนจะจับหัวอีกคนให้ซุกเข้าหาอกตัวเองแล้วตวัดผ่าห่มคลุมร่าง คริสลืมตามองเพดานสีครีมก่อนจะหัวเราะออกมา

     

    นี่หรือเปล่าคือสิ่งที่เขาต้องการ...?

     

     

    คริสเดบิวท์ในวงการเพลงตอนอายุยี่สิบปีกับเพลงของตัวเองที่มีเวลาแค่สามสี่นาทีกว่าๆ ลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงเกาหลีเพื่อความฝัน ฝึกหนักจนดึกดื่น มันทั้งล้าและทั้งเหงา เขาต้องฝึกซ้อมอยู่หลายปีกว่าจะได้ออกมาพิสูจน์ความสามารถให้ทั้งโลกรับรู้ด้วยเพลงๆ เดียวแถมยังมีความยาวไม่ถึงห้านาที เป็นนักร้องเดี่ยวที่สนิทกับแค่ผู้จัดการของตัวเอง

    เขาประสบความสำเร็จในความฝันของตัวเอง เขาแตะดาวได้แล้ว ผู้คนมากมายมอบความรักให้อย่างล้นหลาม มีคอนเสิร์ตมีทัวร์ มีเงินทองมีรถและมีบ้านเป็นของตัวเองด้วย มันเป็นสิ่งที่เขาเคยใฝ่ฝันและตอนนี้เขาก็ทำมันได้แล้ว

     

    หลังจากผ่านมาหลายปีคริสก็เพิ่งรู้ว่า...

    เขามีความฝันสูงสุดอยู่อีกอย่างนึง

     

    คนทุกคนต้องมีจุดอิ่มตัวเป็นของตัวเอง นั่นแหละ...คริสก็ไม่ต่างจากคนเหล่านั้น เขาอยู่ในวงการมานานพอสมควร อีกไม่กี่ปีคริสก็จะอายุสามสิบปีกลายไปเป็นนักร้องรุ่นพี่เหมือนกับรุ่นพี่ Rain คนดังนั่นไง ถ้าเขาเด็กกว่านี้ก็อาจจะกังวลเรื่องฐานแฟนคลับหรือยอดขาย...แต่เขาโตพอแล้วล่ะ  

     

    แฟนคลับให้ความรักที่บริสุทธิ์และเสียสละกับคริส

    แต่คุณรู้ใช่มั้ย? ว่านั่นยังไม่ใช่ความรักในแบบที่เขาตามหา

     

    อาจจะมีคนเป็นร้อยหรือเป็นล้านรักเขาแต่คริสต้องการแค่คนเดียวเอง...คนเดียวที่สามารถเข้ามาเติมเต็มทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาได้ คนที่จะมาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตของเขา คนที่จะยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ และกุมมือกันไปจนแก่

     

    มันเป็นฝันที่เหมือนกับไม่ใช่ฝัน ( หัวเราะ )

     

    ตอนนี้คริสกำลังอยู่ในบ้านหลังอบอุ่นในขณะที่ข้างนอกนั่นหิมะตกและหนาวเหน็บ เขานอนอยู่บนฟูกนุ่มหน้าเตาผิงที่อุ่นกำลังพอดี พอหันไปด้านซ้ายของตัวเองก็จะพบกับใครคนนึงนอนหลับตาพริ้มซุกอยู่ตรงอก แล้วคริสก็ยิ้มออกมา ยิ้มออกมาจากใจจริงๆ

     

    เพราะมันเป็นความจริงแล้ว...

     

    อุ่นมั้ยครับ...

    ...อุ่น

    เขาปัดปอยผมที่คลอเคลียกับตาคู่นั้นออกแผ่วเบา เสียงครางงึมงำบอกได้ว่าจางอี้ชิงกำลังหลับสบายแค่ไหน คริสหลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจอย่างเป็นสุข

     

    คริสไม่มั่นใจหรอกว่าจางอี้ชิงคืออีกอีกครึ่งชีวิตที่เหลือรึเปล่า?

     

    ...อย่างน้อยเขามั่นใจแค่ 99.99 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง


















     

                “ ผมรบกวนคุณคริสมากไปใช่มั้ยครับ!? ผมจะไม่ทำตัวแบบนี้อีกแล้วครับ! ”

                แรพเปอร์คนดังที่กำลังนอนหลับพักผ่อนสะดุ้งโหยงเพราะเสียงตะโกนตื่นตกใจของคนป่วยที่อยู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นนั่งไม่บอกไม่กล่าว คริสค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งตามอีกคนด้วยความมึนงง จางอี้ชิงนั่งหลังตรงเกร็งตัว ดวงตากลมลอกแลกไปมาเหมือนคนทำความผิด แต่ผมฟูๆ ยุ่งๆ กับหน้าตาเหรอหราแบบนั้นก็ทำให้คริสพอจะเข้าใจได้ว่าจางอี้ชิงแค่ละเมอนั่นเอง

                ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะครับ

                คริสขำ เขาพยายามจับจางอี้ชิงนอนลงเหมือนเดิมเพราะท่าทางอีกฝ่ายจะยังไม่สร่างไข้ เพียงเท่านั้นคนป่วยก็แทบจะฟุบหลับทันทีที่หัวถึงหมอน ก่อนจะหลับตาลงจางอี้ชิงยังไม่ลืมดาเมจคริสแรงๆ สักทีด้วยดวงตาหวานฉ่ำและรอยยิ้มเผล่น่าหมั่นเขี้ยว

                มองทำไมครับ?

                คนป่วยกระพริบตาปริบๆ แล้วซุกตัวเข้าหาคริสแทนการตอบคำถาม จางอี้ชิงโหมดอ้อนนี่ทำให้คริสอยากจะจับฟัดให้ช้ำกันไปข้าง เนื้อตัวอุ่นจัดคริสเลยได้กอดสบายในวันที่หิมะตกหนักแบบนี้ไง ไปๆ มาๆ มันเหมือนกับว่าคริสได้ตุ๊กตาเพิ่มมาอีกหนึ่งตัวซะแล้ว

                เขาจับมือเล็กมาวางทาบไว้บนแก้มตัวเองให้ความอบอุ่นแผ่กระจาย ปลายนิ้วนุ่มกับสัมผัสนิ่มนวล คริสจับมือสอดประทานกับมือของอีกคน จางอี้ชิงตัวเล็กยังกับผู้หญิงเลยนะ

     

                แต่น่าทะนุถนอมกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยเจอ

     

                ช่างภาพตัวขาวยิ้มหวานนอนนิ่งมองดูคริสเกี่ยวปลายนิ้วพัวพันกันไปมา มองดูปลายนิ้วของตัวเองถูกจูบเบาๆ ไล่ไปจนครบทั้งห้านิ้ว คริสแนบหน้าผากตัวเองกับหน้าผากร้อนผ่าว ใช้ปลายจมูกคลอเคลียกับปลายจมูกของจางอี้ชิงอย่างรักใคร่

                มาอยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะนะ...

              “ ผมสัญญาครับ ผมจะไม่มองหาใครอีกแล้ว

                มือเล็กแตะแผ่วเบาไปตามใบหน้าของคริสไม่ว่าจะเป็นคิ้ว ตา จมูก ปาก แรพเปอร์คนดังยิ้มบางแล้วจับมืออีกคนให้มาวางทาบบนหน้าอกซ้ายของตัวเองแทน เขาพบว่าหัวใจเต้นเองเต้นแรงราวกับอยากจะออกมากองแทบเท้าจางอี้ชิง

                อื้อ...คุณคริส

               

                มันอ่อนหวาน นิ่มนวล ละมุนละไม

              ...ริมฝีปากของจางอี้ชิง

     

                เขาไม่ได้อยากจะรังแกคนป่วยหรอกนะ แต่จางอี้ชิงนี่ก็เหลือเกิน...มาทำตัวน่ารักใส่คริสแบบนี้คงทนไม่ไหว เขาแนบริมฝีปากลงไปบดขยี้กับปากแดงๆ ของคนป่วยหมดใจจะปราณีคนขี้อ้อน จางอี้ชิงขยุ้มเสื้อของคริสแน่นก่อนจะดันตัวขึ้นแนบชิดกับคริสโดยไม่รู้ตัว ลิ้นเล็กๆ ดูอ่อนแรงให้คริสกวาดต้อนแต่กลับให้รสซาบซ่าน ตัวอุ่นๆ กับปากนิ่มๆ กำลังดึงดูดคริสลงไปในห้วงอะไรสักอย่างที่อ่อนหวาน

                คริสดูดกลีบปากอิ่มแดงเบาๆ ก่อนจะผละออกมาให้อีกคนได้หายใจ คนป่วยหมดแรงนอนหอบหายใจถี่ทั้งที่ยังสบตาคริสไม่ละไปไหน ส่งเสียงประท้วงเบาๆ ในลำคอเมื่อคริสใช้นิ้วโป้งเคล้นคลึงริมฝีปากล่าง เอาอีกแล้ว...จางอี้ชิงเผยอปากเซ็กซี่ทำไมอีก?

                ไม่อยากจะสนใจอะไรอีกแล้วล่ะ แรพเปอร์คนดังช้อนตัวคนป่วยลอยขึ้นจากฟูกเล็กน้อยแล้วบรรจงป้อนจูบร้อนๆ ให้ คราวนี้คนป่วยให้การตอบสนองด้วยการไล้ฝ่ามือไปทั่วแผ่นหลังจนคริสต้องกระชับร่างอีกคนแนบชิดกันมากขึ้นแล้วดูดปากจางอี้ชิงแรงๆ ให้หายหมั่นเขี้ยว

                คุณคริส...ฮื่ออออ

                คนป่วยผวากอดเขาแน่นแล้วประท้วงข้างหู คริสเพิ่งจะรู้ว่าเขาเลิกเสื้อไหมพรมอีกคนมาถึงครึ่งตัวแล้ว จางอี้ชิงคงตกใจ แรพเปอร์คนดังถอนหายใจพรูอย่างรู้สึกผิดเลยต้องจูบปลอบอีกคนเบาๆ

                น่ารักแบบนี้ผมก็แย่น่ะสิครับ วันนี้น่ารักพอแล้วนะ...ไม่ต้องน่ารักอีกแล้วนะครับ

                “ ผมเจ็บปาก...

                “ อ่า...ผมไม่ได้ตั้งใจนะ

                คริสพยายามจะไม่มองปากแดงๆ เจ่อๆ นานเกินไป เดี๋ยวได้มีใครสักคนขาดใจตายกันไปข้างอีกน่ะสิ จางอี้ชิงยอมนอนนิ่งๆ อยู่ใต้ผ้าห่มผืนอุ่น กระพริบตาปริบมองคริสกินยากับน้ำอย่างสนใจ

                คุณคริสป่วยเหรอครับ?

                “ ก็เพิ่งจูบคนป่วยมานี่นา

                คนป่วยหัวเราะคิกคักสักพักก็อ้าปากหาวตาปรือซะแล้ว นี่มีการกวักมือเรียกคริสให้ล้มตัวลงมานอนด้วยกันอีก ร่างเล็กขยับมาเบียดซุกคริสขดตัวจนแทบจะจมหายไปในผ้าห่มผืนหนา สงสัยว่าคราวนี้คริสจะได้ตุ๊กตาตัวนิ่มมาเพิ่มอีกหนึ่งตัวจริงๆ นะเนี่ย

                จังหวะที่คริสกำลังจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองบ้าง คนที่คิดว่าน่าจะหลับไปแล้วกลับยังลืมตาแป๋วมองเขาอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงตาคู่นั้นมันทำให้คริสนึกถึงกระต่ายสีขาวปุกปุย...จางอี้ชิงเหมือนมันซะจนแยกไม่ออกเลย แรพเปอร์คนดังยิ้มแล้วจับอีกคนให้ขยับขึ้นมานอนบนหมอนด้วยกันดีๆ

                อยากฟังนิทานก่อนนอนมั้ยครับ?

                “ ...มีเหรอ?

                “ ตั้งใจฟังดีๆ นะครับ

                มือใหญ่เกี่ยวเส้นผมปรกหน้าปรกตาจางอี้ชิงออกแผ่วเบา ดวงตาแป๋วแหววคู่นั้นถึงจะปรือลงเรื่อยๆ แต่ก็ฉายชัดเจนว่าสนใจนิทานของเขาซะเต็มประดา

                หลายปีก่อนผมได้เจอกับคนๆ นึงในคอนเสิร์ตเล็กๆ ตอนที่เพลง Call you mine เริ่มต้นและจบลงผมก็ยังเห็นคนๆ นั้นนั่งอยู่ที่เดิมแล้วเขาก็ปรบมือให้ด้วย ผมได้มองเขาแค่บางวินาที...แบบว่าแค่เสี้ยววินาทีน่ะครับ เขาทำให้ผมรู้สึกประทับใจกับท่าทางปลื้มอกปลื้มใจซะขนาดนั้นกับอีแค่ร้องเพลงๆ นึงเองครับ

                “ อือ...เขาคงชอบคุณ...

                คนป่วยตอบเสียงแหบแห้ง คริสหัวเราะแล้วพยักหน้าเห็นด้วย

                ยังกับพรหมลิขิตเลยครับจางอี้ชิง...คนๆ นั้นกลับเป็นแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้ขอพรกับผม อืมม...ดูใกล้ๆ แล้วเขาดูน่ารักดีนะครับ หน้าของเขางี้แดงเหมือนมะเขือเทศเลย แล้วเขาก็พูดว่า...

     

                  ผม...ผมขอนั่งมองคุณสักสองนาทีได้มั้ยครับ? 

     

                “ คำขอประหลาดดีนะครับว่ามั้ย? แค่สองนาที...แค่สองนาทีแท้ๆ แต่ผมกลับจดจำทุกอย่างบนใบหน้าของเขาได้จนหมดเลยนะครับ ชนิดที่แบบว่าหลับตาปุ๊บหน้าลอยมาปั๊บเลย เขาดู...น่ารัก? เขาน่ารักดีจนผมถึงกับต้องลุกขึ้นกอดเลยครับ จะเรียกว่าฉวยโอกาสก็คงงั้น

                “ ผมบอกเขาไปว่าผมชื่ออู๋อี้ฟ่านนะ แล้วเขาก็บอกว่าเขาชื่อ...อะไรประมาณนั้น หลังจากจบงานนั้นผมคิดว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก เพราะผมน่ะงานยุ่งมาก...ส่วนเขาก็เป็นใครไม่รู้ ต่างคนต่างเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน พวกไอดอลน่ะเดินบนถนนแบบคนธรรมดายังไม่ได้เลยครับ นับประสาอะไรกับเรื่องความรัก

                “ แต่เขาก็ทำให้ผมประหลาดใจได้อีก...

             

              ประหลาดใจจนถึงขั้นต้องแอบไปหัวเราะในห้องน้ำเหมือนคนบ้า

     

                ผมเจอเขาอีกครั้งหลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ครับ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นช่างภาพมืออาชีพล่ะมั้ง? หลายคนอาจจะคิดว่าพวกไอดอลน่ะจำแฟนคลับตัวเองไม่ได้หรอก จริงๆ มันก็ไม่ถูกเสมอไปนะครับรู้มั้ย คนที่รักและสนับสนุนเราทำไมจะจำไม่ได้ล่ะเนอะ อ่าใช่ครับ...คนๆ นั้นเขาเป็นแฟนคลับของผมล่ะ ตอนแรกๆ ผมคิดว่าบังเอิญแต่พอเจอหลายครั้งเข้าเลยคิดว่าใช่เลย ไม่ผิดแน่ๆ

                “ จางอี้ชิงรู้มั้ยครับว่าผมแอบขำเขาตลอดเลยนะ ตัวเล็กๆ แบบนั้นถูกเบียดไปเบียดมา กลัวหลงจะแย่ เขามีกล้องตัวโตคล้องคอตลอดเลยครับแล้วเขาก็เอาแต่ถ่ายรูปผม เขาตามผมไปแทบทุกที่เลยครับ ผมจำเขาได้แม่นมากๆ เลยถึงเขาจะใส่ผ้าปิดปากก็เถอะ

                “ แอดมินจางกับ KRISma เป็นอะไรที่ดีนะครับ ผมบอกไปแล้วว่าชอบคนทุ่มเท

                ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาที่มองผม แต่ผมก็มองเขาด้วย

                “ จางอี้ชิงคิดว่ายังไงครับ?

                จางอี้ชิงหลับตาพริ้มจมสู่ห้วงความฝันลึกเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมาตอบคำถามของคริสได้ แรพเปอร์คนดังยิ้มอ่อนโยนให้คนที่หลับปุ๋ยอย่างรักใคร่ ไล้ปลายนิ้วไปบนแก้มนิ่มแผ่วเบาก่อนที่อีกคนจะมุดหน้าลงกับหมอนหนีสัมผัสรบกวนแล้วครางงึมงำ

     

                เปลือกตาบางปิดสนิท...แต่คริสก็รู้ว่าดวงตาคู่นั้นสุกใสขนาดไหน

     

                ผมจะ...ตกหลุมรักเขาจริงจังแล้วนะครับ

               

                จะตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นแล้วนะ











     

              อี้ชิงรู้สึกแปลกออกไปจากเดิม...

     

                อย่างแรกคือเขารู้สึกว่าตัวเองรู้สึกดีขึ้น ไม่ครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ตัวร้อน ถึงเสียงจะยังแหบแห้งน่าเกลียดอยู่ก็เถอะ อย่างที่สองคืออี้ชิงมานอนบนฟูกมีหมอนมีผ้าห่มครบเซ็ตแบบนี้ได้ยังไง? จำได้ว่าอี้ชิงแต่นอนบนโซฟาเฉยๆ เองนะ ช่างภาพตัวขาวค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นเชื่องช้าก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นอีกนิดเมื่อเห็นว่ามีใครคนนึงกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาติดกับฟูกที่อี้ชิงนอนเปิดดูอัลบั้มรูปสบายใจ

                ดวงตาคมเหล่มองอี้ชิงนิดหน่อยก่อนที่อี้ชิงจะได้เห็นรอยยิ้มมุมปากของคุณแรพเปอร์คนดัง แบบว่า...กระชากใจ ตั้งตัวไม่ทันจนอยากจะแกล้งหลับไปตอนนี้เลย

                หายไข้แล้วเหรอครับหืม? นอนต่อก็ได้นะครับ

                “ คุณคริส...มาเมื่อไหร่ครับ?

                “ ตอนประมาณสิบโมงครึ่งครับ

                “ อ่า...

                ช่างภาพตัวขาวครางรับเสียงเบาด้วยใบหน้าที่แดงขึ้นเล็กน้อย ความทรงจำก่อนหน้านี้ลอยมาทีละฉากคล้ายกับความฝันแต่มันชัดกว่ากันเยอะ อี้ชิงพยายามหดคอกลับไปซุกผ้าห่มเมื่อโดนจ้องหนักเข้า เสียงหัวเราะอารมณ์ดีกับรอยยิ้มสื่อความหมายของคุณแรพเปอร์คนดังยิ่งทำให้แก้มอี้ชิงร้อน

                ผม...เอ่อ...ไม่ได้ทำอะไรน่าอายใช่มั้ยครับ?

                คุณคริสส่ายหน้าอี้ชิงก็แอบถอนหายใจโล่งอก

                ไม่นี่ครับ...จางอี้ชิงน่ารักจนลืมอายเลยล่ะครับ

                “ ...อะไรนะครับ?

                “ จางอี้ชิงก็แค่อ้อนแค่นอนกอดแค่จูบกับผมเองครับ ไม่มีอะไรน่าอายสักหน่อย...เนอะ

                เราจูบกันด้วยเหรอครับ!?! ”

                “ ไม่ใช่แค่แตะกันนะครับแต่เป็นดีพคิสเลยล่ะ

                “ คุณคริส! ”

                ช่างภาพตัวขาวขึ้นเสียงสูงลั่นห้องรับแขกก่อนจะตวัดผ้าห่มคลุมร่างตัวเองจนมิดแล้วลงไปนอนขดบนฟูกตามเดิม วันนี้อากาศหนาวนะ...แต่ตอนนี้อี้ชิงร้อนซะจนแทบระเบิดออกมาเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว! เสียงหัวเราะของคุณแรพเปอร์คนดังทำอี้ชิงอายหนักกว่าเดิม คนบ้า!

                “ ทำไมจางอี้ชิงเวอร์ชั่นปกติถึงขี้อายนักล่ะครับ?

                “ ฮื้ออออ คุณคริสอย่าพูดสิครับ! ”

                แรงโถมทับตามมาทำให้อี้ชิงหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่างกายของคุณแรพเปอร์คนดังกับท่อนแขนที่สอดเมากอดเอวอี้ชิงเอาไว้หลวมๆ

                สนใจจูบกันหน่อยมั้ยครับ?

                “ … ”

                “ สัญญาว่าคราวนี้จะไม่ทำให้เจ็บปากอีก...นะครับ

                รู้สึกเหมือนใกล้จะสำลักอากาศตายเลย...แบบนี้มันไม่ดีต่ออี้ชิงเลยจริงๆ นะ! ช่างภาพตัวขาวอิดออดไม่ยอมให้คุณคริสพลิกตัวกลับไปนอนหงายสักที เอาแต่หลับหูหลับตากอดหมอนตีขาถ่วงน้ำหนักตัวเอง คล้ายกับการเล่นมวยปล้ำเข้าไปทักทีแล้ว

                ไม่เอานะครับ...ฮื่อออ ผมยังไม่พร้อมนะครับ

                “ จูบเดียวเองน้าาา

                “ คุณคริสแกล้งผม… ”

                “ จูบเดียวเองครับ

                “ ไม่เอา...คุณคริส...อื้ออออ

                อี้ชิงเพิ่งรู้ว่าคุณแรพเปอร์คนดังจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ พออี้ชิงไม่ยอมนอนหงายดีๆ ก็จัดการจับอี้ชิงเงยหน้าเอี้ยวตัวไปรับจูบจากตัวเองจนได้...

                คุณคริสเริ่มจากการจูบเบาๆ บนริมฝีปากของอี้ชิง จูบย้ำๆ ซ้ำๆ ให้ความรู้สึกอุ่นวาบและนุ่มนวลเหมือนมาร์ชเมลโล่ อี้ชิงเผลอสบตากับอีกคนแล้วก็รีบหลับตาทันที ปล่อยให้คุณคริสจูบเบาๆ อยู่อย่างนั้น ขณะนึงคุณคริสพยายามใช้ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวลิ้นอี้ชิงเอาไว้ช่างภาพตัวขาวก็หอบหนัก มือของพวกเขาประสานกันแน่น ลิ้นอี้ชิงถูกดูดดุนจนหวามไปหมดทั้งร่าง

     

                คุณคริสไม่เห็นเคยบอกเลยว่าเก่งเรื่องนี้...

     

                ชอบมั้ยครับ?

                “ อื้ออออออ

                ริมฝีปากอี้ชิงถูกบดขยี้ร้อนแรงสลับกับเนิบนาบอ่อนโยนจนแทบปรับลมหายใจไม่ทัน ช่างภาพตัวขาวทำใจกล้าค่อยๆ ลืมตามองคุณแรพเปอร์คนดัง ตาสบตา...อี้ชิงก็เหมือนจะถูกดูดเข้าไปในห้วงพิศวง ล่องลอยและโบยบิน ไอร้อนจากตัวคุณคริสทำให้รู้สึกเหมือนเปิดฮีตเตอร์สักสามสี่เครื่อง อยู่ๆ คุณคริสก็ลุกขึ้นนั่งโดยไม่ลืมดึงอี้ชิงขึ้นมานั่งบนตักด้วย...ทั้งที่ยังไม่ได้ละริมฝีปากออกจากกันด้วยซ้ำ

               

                แต่มันก็...

     

                ย๊า!!! คริส!!!! ”

                เสียงตะโกนลั่นบ้านของผู้มาใหม่ทำให้คุณแรพเปอร์คนดังยอมถอนริมฝีปากออกไปโดยดี...แต่ก็เชื่องช้าเหลือเกิน อี้ชิงตกใจนะ...แต่ตอนนี้เขาไม่มีแรงแม้แต่จะประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้น คุณคริสจัดท่าให้ซบอกอี้ชิงก็ซบอยู่ท่านั้นไม่อิดออดงอแง

                ทำอะไรอี้ชิง...

                “ จูบ

                “ จูบ? จูบได้ยังไง? ทำอย่างนี้มันไม่ถูกต้องนะคริส! พี่ทำให้ฉันโมโหมากเลยนะ! ”

                “ คุณคิมใจเย็นๆ สิคะ! อย่าเพิ่งเงื้อหมัดซี่! ”

                ทุกอย่างมันโกลาหลไปกันหมดแล้ว อี้ชิงสบตาคุณคริสสลับกับคิมแทยอนที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างตื่นตระหนก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คิมแทยอนคนขรึมจะระเบิดขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่าคุณเจสสิก้าจับแขนเธอไว้อยู่ล่ะก็...คุณคริสคงเจ็บแย่

                คริสรังแกอี้ชิง! จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไงคะ! นั่นเพื่อนฉันทั้งคนนะ! ”

                “ ฟังก่อนสิคะค่อยตัดสินใจ...นะคะ

                “ จางอี้ชิง! ลุกมานี่เลย! ”

                “ ฮื้อออ ลุกไม่ไหวแล้ว...

                “ ไอ้พี่คริส!!! ”

                “ คุณคิมคะ!!! ”

                “ อย่าตีกันสิ!!! ”

               

                โอ๊ย...!!!

              อี้ชิงจะร้องไห้แล้วนะ!

     

                


     





     

     




     
    #ฟิคโฟโต้kl

     



       

    ไม่มีอะไรจะพูด แต่...ซารังแง *กอดขา*
    คิดถึงฟิคโลกสวย คิดถึงไรท์คนนี้ นะจ้ะ นะจ้ะ
     






    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×