คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : PHOTOS ; 05 { 100 per. }
05
คริสอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเหลือบไปเห็นคุณช่างภาพตัวขาวเดินถือกล้องเข้ามาเก้ๆ กังๆ แกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วอาสาช่วยพี่ทีมงานยกของว่างไปจากคนอื่นๆ อาสาช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ บ้างก่อนจะถึงเวลาถ่ายแบบจริง คริสแทบต้องกุมท้องกลั้นขำตอนที่จางอี้ชิงเหลือบมองมาเป็นระยะเม้มปากแน่นคล้ายลังเลปนประหม่า กล้องในมือขาวคริสก็เดาออกแล้วว่าจางอี้ชิงต้องการทำอะไร
คุณช่างภาพคนเก่งนี่จะทำยังไงให้ได้ภาพของเขาในวันนี้น้าาา
ความจริงคริสก็รู้อยู่แก่ใจล่ะ แค่แกล้งถามไปงั้นๆ คุณแรพเปอร์คนดังหลบไปหัวเราะคนเดียวตอนเหลือบไปเห็นหัวของคุณช่างภาพแวบไปแวบมาตรงข้างกล่องเก็บของขนาดใหญ่ ก่อนจะมาโผล่อีกทีตรงฉากถ่ายแบบไม่ห่างจากตัวคริสสักเท่าไหร่
คริสแกล้งยืนส่องกระจกมองคนที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังก่อนจะยิ้มออกมา
แชะ!
คริสแกล้งจัดเนกไทตัวเองเชื่องช้าแล้วก็ยิ้มออกมาอีก
แชะ!
คริสยิ้ม...ยิ้ม...ยิ้ม...
แชะ!
ดูเหมือนจางอี้ชิงจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกจ้องมองผ่านกระจก พอถ่ายจนหนำใจแล้วคุณช่างภาพตัวขาวก็รีบหลบหนีไปทางอื่น เข้าไปรวมกลุ่มคุยกับคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนทีเดียวล่ะ แต่ไม่วายมีการแอบมองด้วยนะคนเรา พอคริสยิ้มให้จางอี้ชิงก็หลบตาพัลวันพร้อมกับแก้มที่แดงขึ้น
“ คริส! เตรียมตัวเร็วเข้าเดี๋ยวจะต้องเข้าฉากแล้ว ”
คริสพยักหน้าง่ายดายแม้ใจจริงอยากจะยืนตรงนี้ให้ใครบางคนแอบมองก็ตามเถอะนะ แต่ยังไงซะจางอี้ชิงก็ต้องได้ถ่ายรูปเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้นคริสไม่ต้องรีบร้อนอะไรเลย แรพเปอร์คนดังผิวปากอารมณ์ดีปล่อยให้เสื้อผ้าหน้าผมถูกจัดการโดยทีมงานมืออาชีพ
คอนเซ็ปต์วันนี้คือ Charisma Hot ที่เน้นความเซ็กซี่และเสื้อผ้าหวาบหวิว คริสมั่นใจว่าวันนี้คงมีคนเขินจนตัวแตกสักคนแถวนี้แหละ จางอี้ชิงดูตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ถูกถ่ายซะอีกตอนที่พี่เฮนรี่บอกว่าคอนเซ็ปต์วันนี้ค่อนข้างหวาบหวิว
ไม่รู้จินตนาการไปถึงหน้าถึงได้แดงขนาดนั้น
เดี๋ยวปั๊ดแกล้งให้หน้าแดงกว่าเดิมซะเลยนี่
“ Hi Kris! ”
“ Hi Jesica ”
เจสสิก้าจองสมเป็นนางแบบจากอเมริกาในชุดเน้นสัดส่วนแบบนี้ เธอทักทายคริสยังกับรู้จักกันมานานหลายปีในขณะที่มืออีกข้างล็อกแขนคิมแทยอนเอาไว้แน่น ไม่มีท่าทางเขินอายแม้แต่น้อยแม้ว่าตัวเองจะแต่งชุดแหวกนั่นแหวกนี่ให้คนอื่นดู
“ คุณก็ดูดีนะเนี่ย ”
“ คุณก็ดู...เซ็กซี่ดี ”
ภาษาเกาหลีถูกโต้ตอบกันอย่างคล่องแคล่ว เจสสิก้าจองเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมาเต็มไปด้วยความมั่นใจมองเธอแล้วก็นึกถึงคุณช่างภาพตัวขาวที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จางอี้ชิงเป็นคนขี้อายนะ แต่ในขณะเดียวกันกลับเปิดเผยได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
“ อี้ชิงถือกล้องรออยู่นู่นแล้ว อย่าให้คนอื่นเขารอนานนักสิ ”
คิมแทยอนเตือน จางอี้ชิงของคริสกำลังถือกล้องเอาไว้จริงๆ ท่าทางคงพร้อมที่จะเริ่มงานแล้วถ้าไม่ติดตรงที่แก้มแดงๆ นั่นน่ะนะ คริสจงใจเดินเฉียดเข้าไปใกล้คุณช่างภาพตัวขาวก็เบิกตาโต ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงพร้อมกับสีแดงเข้มแต้มบนใบหน้า
แหงล่ะ แหวกเสื้อโชว์ขนาดนี้ไม่เขินก็ให้มันรู้ไปสิ
ปกติคริสใส่เสื้อเชิ้ตไม่ก็เสื้อยืดตลอดนี่
“ ช่างภาพจางทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะครับ! โอเครึเปล่า!? ”
“ เปล่า...เปล่าครับ! ”
“ ถ้าไม่โอเคบอกได้นะ! หน้าคุณแดงมากเลยล่ะครับ! ”
“ หน้าผมไม่ได้แดงขนาดนั้นสักหน่อยนะครับ... ”
ช่างภาพตัวขาวพูดเสียงอ้อมแอ้ม พอเห็นคริสจ้องหน้าก็รีบหมุนตัวหนีไปทางอื่น...น่ารักดี
จางอี้ชิงอัพเลเวลความน่ารักเป็นระดับสามได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย?
“ จางอี้ชิงครับ ”
“ ...ครับ ”
“ จางอี้ชิงอย่าเขินจนทำกล้องตกนะครับ ”
“ ผมเป็นช่างภาพนะครับ! …ไม่ทำกล้องตกง่ายๆ หรอก ”
คริสหัวเราะร่วน เอื้อมมือไปลูบหัวอีกคนเบาๆ ยิ่งจางอี้ชิงยืนเกร็งแบบนี้มันยิ่งดูเหมือนตุ๊กตา คุณแรพเปอร์คนดังจงใจใช้สายตาหลอกล่อให้แฟนคลับตัวยงของตัวเองเขินอายอีกครั้ง
“ ตอนนี้อาจจะไม่...แต่ตอนผมโพสต์ท่าเซ็กซี่นี่ไม่แน่นะครับ ลองคิดดูสิ ”
“ …เซ็กซี่ ”
ลามกเหมือนกันนะเนี่ย
บอกให้คิดตามไม่ได้บอกให้คิดลึกสักหน่อย
“ จางอี้ชิงลามก ”
“ อะไรนะครับ? ผมเปล่าลามกนะ ”
“ คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วทำหน้าเคลิ้มแบบนั้นน่ะ ”
“ ผมไม่ได้ทำหน้าเคลิ้มนะครับ! ”
“ แล้วคิดอะไรอยู่? ”
“ ก็... ”
“ ก็? ”
“ แต่ยังไง...ผมก็ไม่ได้คิดลามกนะครับ! ”
ดวงตาคมกริบดุดันแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนในแววตา
ร่างกายที่ซ่อนในเสื้อสมบูรณ์แบบกว่าที่เคยจินตนาการ
...กับรอยสักตรงแขน
อี้ชิงแข้งขาอ่อนไปหมดตอนที่คุณแรพเปอร์คนดังตวัดสายตามองกล้อง มันดูเซ็กซี่ ยั่วเย้า และขี้เล่น หน้าอี้ชิงแทบไหม้ตอนที่ร่างอ้อนแอ้นของคุณเจสสิก้าถูกคริสโอบกอดเอาไว้ แถมเสื้อผ้าของคนทั้งคู่ยังจัดว่าวับๆ แวมๆ แต่ไม่ยักจะมีใครเขินอายสักคน
อี้ชิงสั่งให้คนทั้งคู่ขยับจัดท่าไปเรื่อยๆ โดยมีผู้กำกับช่วยอีกทาง ช่างภาพตัวขาวกดชัตเตอร์อย่างคล่องแคล่ว เคลื่อนตัวเปลี่ยนมุมเพื่อให้ได้ภาพที่สวยที่สุดแต่ไม่พยายามใกล้มากเกินไปเพราะอี้ชิงเขิน ไม่ว่าจะถ่ายภาพไปหลายเซ็ตพร้อมกับใบหน้าแดงเถือกแต่อี้ชิงก็ยังคงรู้สึกสนุกกับงานนี้
“ ดีมาก! ทุกคนทำได้ดีมาก! ”
คุณเจสสิก้ารีบลุกจากตักของคุณแรพเปอร์คนดังพุ่งไปเกาะแขนคิมแทยอนที่ยืนถือขวดน้ำอยู่ไม่ไกลก่อนจะพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้คิมแทยอนยิ้มแปลกๆ อี้ชิงหันมาเช็คกล้องตัวเองอีกครั้ง รู้สึกขัดเขินไม่น้อยที่ได้เห็นคุณแรพเปอร์คนดังขวัญใจของตัวเองแหวก...อะ...อก
“ ก็...เซ็กซี่ดีนะ ”
พูดเองแล้วเขินเองนี่มันจริงๆ เลย!
“ จางอี้ชิงเอาขนมหน่อยมั้ย! อร่อยนะร้านนี้! ”
เสียงตะโกนของพี่เฮนรี่อี้ชิงก็หันไปมองก่อนจะส่งยิ้มและพยักหน้าไปให้ ช่างภาพตัวขาวรีบเก็บกล้องใส่กระเป๋าแต่ยังไม่ทันไรแขนอี้ชิงก็ถูกคว้าเอาไว้ซะก่อน อี้ชิงยืนตัวแข็งเบิกตากว้างตอนที่ถูกประชิดตัวรวดเร็ว กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ คุ้นเคยอี้ชิงก็ตัวแข็งอีกรอบ
“ ขอดูรูปหน่อยได้มั้ย ”
“ ... ”
เสื้อแหวก...แหวก...อะ...อก
เหวอ...เหวอ!!!
เสื้อแหวกอก!!!!
“ คุณคริสควรจะติดกระดุมเสื้อก่อนนะครับ! ”
ตายล่ะ อี้ชิงพูดอะไรออกไปเนี่ย! ช่างภาพตัวขาวผงะออกห่างคุณแรพเปอร์คนดังอย่างลนลาน ทุกคนหันมามองอย่างสงสัยยิ่งทำอี้ชิงอายหนัก ใบหน้าร้อนจัดเหมือนจะระเบิด
“ เป็นอะไรครับ? ผมทำจางอี้ชิงตกใจเหรอ? ”
ร่างกายอี้ชิงมันขยับไปเองอัติโนมัติ อี้ชิงไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะ! คริสเอียงคอมองมาอย่างสงสัยแต่ยังไม่ยอมติดกระดุมเสื้อ อี้ชิงเขินแทนน่ะเข้าใจมั้ย ช่างภาพตัวขาวแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองไปหลบอยู่หลังฉากเรียบร้อยแล้ว
“ ขอโทษครับ...แต่...แต่คุณคริสไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ ”
“ อ๋อ มันไม่ได้โป๊อะไรมากนี่ครับ ”
“ ไม่นะครับ! มันเห็นอะ...อก ”
รีบติดกระดุมสักทีเถอะครับ!
เดี๋ยวมีคนเป็นลมให้อายคนอื่นเล่นๆ
ก่อนที่คริสจะทันได้พูดอะไรทีมงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามา อี้ชิงมองตามแทบจะร้องห้ามไม่ทันตอนที่ทีมงานคนนั้นทำหน้าตายพูดประโยคชวนขัดเขินแบบในนิยายโรแมนซ์กับคริส
“ ถอดเสื้อออกซะ ”
ไม่! ไม่นะ! ห้ามถอดนะครับ!
พระเจ้า! ตลอดเวลาสามสี่ปีที่ติดตามคริสมาตลอดรู้ตัวอีกทีอี้ชิงก็คุ้นตากับเสื้อเชิ้ตที่คริสชอบใส่ประจำ แต่ตอนนี้คุณแรพเปอร์คนดังของอี้ชิงกำลังถอดเสื้อออกต่อหน้าต่อตาเขาเนี่ยนะ! อี้ชิงเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นซะแล้ว ช่างภาพตัวขาวกลายร่างเป็นกาน้ำร้อน โลกเริ่มหมุนคว้าง หายใจติดขัด
อี้ชิงทรุดลงนั่งกับพื้น เข่าอ่อนสุดๆ ไปเลยตอนนี้...
“ จางอี้ชิง! จางอี้ชิง! ”
“ … ”
“ คุณจางอี้ชิงเป็นอะไรคะ!? ไม่สบายตรงไหน? ”
“ … ”
อี้ชิงส่ายหน้าก่อนจะชะงัก รู้สึกถึงความผิดปกติกับจมูกของตัวเอง ช่างภาพตัวขาวยกมือขึ้นแตะตรงจมูกแล้วพบว่ามีของเหลวสีแดงสดติดปลายนิ้วมาด้วย...
“ คุณจางอี้ชิงเลือดกำเดาไหล!!! ”
“ ...ครับ? ”
…เลือดกำเดา?
“ ทำไมจู่ๆ เลือดกำเดาไหลล่ะคะ!? ”
“ ผม...ก็คุณคริส... ”
“ คะ? ”
อี้ชิงเห็นคุณคริสโป๊แถมเลือดกำเดายังมาไหลอีก...
นี่มัน...นี่มันน่าอายที่สุดในโลกเลย!
“ ก็คุณคริส...ฮึก...ปะ...โป๊อยู่นี่นา ฮืออออ ”
ช่างภาพตัวขาวปล่อยโฮอย่างอับอาย มีที่ไหนเห็นคนอื่นโป๊แล้วเลือดกำไหลเป็นทางแบบนี้ เกิดมาอี้ชิงยังไม่เคยอายเท่านี้มาก่อน แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากพวกโรคจิตชอบคิดลึกน่ะสิ คุณแรพเปอร์คนดังของอี้ชิงจะมองอี้ชิงเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย!
“ ฮึก...ผะ...ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับ! ”
“ หา? ”
“ กะ...ก็ที่ผมเลือดกำเดาไหล ฮืออ ผมไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับคุณคริสนะครับ! ”
“ คิดอะไรไม่ดี?...กับผม? ”
“ ผมแค่ไม่เคยเห็นคุณคริสโป๊มาก่อน ก็ปกติคุณใส่แต่เสื้อเชิ้ตนี่ครับ! ”
“ เดี๋ยวนะครับจางอี้ชิง... ”
“ ฮึก...ครับ ”
“ จางอี้ชิงคิดลึกเหรอเนี่ย? ”
ไม่ได้คิดนะไม่ได้คิด!
พอเถียงอะไรไม่ได้บวกกับความกลัวอี้ชิงก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการปล่อยให้น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม กลิ่นคาวเลือดตรงจมูกคละคลุ้งอี้ชิงอยากจะอ้วก ทำไมมันแย่แบบนี้นะ
“ จางอี้ชิงครับ... ”
“ ฮือออออ ”
“ ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ร้องไห้แบบนี้ผมก็ผิดน่ะสิเนี่ย ”
อี้ชิงยังคงร้องไห้สะอื้นเหมือนเด็กๆ แม้ตัวเองจะถูกคุณแรพเปอร์คนดังโอบเอาไว้ กระดาษทิชชู่ไม่รู้กี่แผ่นต่อกี่แผ่นที่หมดไปกับเลือดกำเดาของตัวเอง อี้ชิงอับอายมากถึงมากที่สุดจนไม่กล้าแม้จะหันไปมองคนใจดีที่กำลังเอากระดาษทิชชู่ซับเลือดกำเดาให้
“ หันมามองกันหน่อยสิครับ... ”
“ ... ”
“ เอ๊ะ? ไม่มองเหรอ...เดี๋ยวหอมซะเลย ”
“ คะ...คุณคริสครับ!! ”
“ อะไรครับ? ”
คนบ้า มาแกล้งคนอื่นเขาแบบนี้ได้ยังไงกัน
“ เมินแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ ”
“ ก็ผม...อายนี่ครับ มันน่าอายจะตายไป ”
“ เลือดกำเดาไหลนี่ไม่เห็นจะน่าอายเลยนะครับ จางอี้ชิงบอกเองว่าไม่ได้คิดลึก ”
“ … ”
“ เงียบ? งั้นแสดงว่าแอบคิดลึกล่ะสิ ”
“ ผมเปล่าคิดลึกนะครับ! ”
อี้ชิงหน้าซีด หวั่นใจว่าทำไมคุณแรพเปอร์คนดังต้องหัวเราะแบบนั้นด้วย ตอนนี้อี้ชิงกังวลไปหมดทุกอย่าง ช่างภาพตัวขาวน้ำตาคลออีกรอบอย่างท้อใจ
“ ฮึก...ผมอาย ”
คริสยิ้ม ช่างเป็นรอยยิ้มที่เข้าใจยากจริงๆ
“ จริงๆ จะคิดลึกก็ไม่เป็นไรหรอกครับ...ถ้าเป็นจางอี้ชิงนะ ”
“ ผมบอกว่าเปล่า... ”
“ ถ้าคิดลึกมันหมายถึงคิดถึงเรื่องของผมอยู่ล่ะก็... ”
“ ผมก็อยากให้จางอี้ชิงคิดลึกๆ บ่อยๆ เหมือนกัน ”
คนเราทำผิดก็ต้องขอโทษ คริสถือคตินั้นประจำใจมาตลอดนั่นแหละ และตอนนี้ทำไมคนที่ทำผิดให้คนอื่นร้องไห้กับอับอายถึงได้ยิ้มร่า ในขณะที่อีกโดนทำผิดกลับนั่งนิ่งชิดประตูรถแบบนั้นกัน? ที่จริงมันก็มีเหตุผล เพราะคนขี้อายแถวนี้ทำท่าจะชิ่งกลับบ้านลูกเดียว ถูกใครต่อใครจะพากันปลอบก็แล้ว ชวนไปเลี้ยงของอร่อยๆ ก็แล้ว สุดท้ายคริสเลยหิ้วคุณช่างภาพตัวขาวติดมือขึ้นรถมาด้วย
ดูสิ...ขนาดนั่งนิ่งไม่ขยับยังน่าฟัดขนาดนี้
พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปร้านอาหารดังอีกร้อยเมตร พี่เฮนรี่กลายเป็นคนขับรถชั่วคราวไม่ได้หันมาสนใจอีกสองคนที่นั่งอยู่ข้างหลังสักเท่าไหร่ ต้องขอบคุณเจสสิก้าจองคนนั้นนะเนี่ยที่เกาะติดคิมแทยอนทำให้คุณช่างภาพตัวขาวต้องระหกระเหินมานั่งรถคนเดียวกับคริสอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ … ”
“ … ”
“ … ”
“ จางอี้ชิงครับ... ”
คุณช่างภาพตัวขาวกอดกระเป๋ากล้องแน่นขึ้นแม้จะไม่ยอมหันมามองกันตรงๆ ผิวแก้มซับสีระเรื่อน่าชัง พอคริสหลุดหัวเราะจางอี้ชิงก็เม้มปากแน่น
“ เมื่อไหร่จะหายอายล่ะครับ ”
“ ... ”
“ ไม่ตอบ? ”
“ ฮื้ออออ ก็ผมอายนี่ครับ! ”
แน่นอนว่ายังไม่ได้พูดจบประโยคแบบจริงๆ จังๆ จางอี้ชิงก็เข้าใจสิ่งที่คริสจะสื่อทันที คุณช่างภาพตัวขาวทำหน้าเบ้ก่อนจะรีบเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ร่างขาวๆ เบียดชิดประตูจนไม่รู้จะชิดยังไงแล้ว
“ ก็เรื่องแบบนั้น...มันน่าอายนี่ครับ! ”
“ เรื่องที่จางอี้ชิงคิดลึกน่ะเหรอครับ ”
“ คุณคริสอย่าพูด... ”
เหมือนว่าการพามาเลี้ยงของอร่อยๆ จะทำให้จางอี้ชิงงอนหนักกว่าเดิม ยังไม่ทันไรน้ำตาเม็ดโตก็คลอเบ้าซะแล้ว จางอี้ชิงกลั้นสะอื้นแล้วฟุบหน้าลงกับกระเป๋ากล้องของตัวเอง คริสกำลังทำคุณช่างภาพคนเก่งของทุกคนปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
จะหาว่าเขาโรคจิตอะไรก็ช่าง
แต่เวลาจางอี้ชิงร้องไห้มันน่ารักมากจนยอมเลวเลยเอ้า!
ก่อนที่พี่เฮนรี่จะหันมาเห็นจางอี้ชิงร้องไห้แล้วเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา คุณแรพเปอร์คนดังขวัญใจคนขี้อายก็รั้งร่างขาวๆ เข้าหาตัว กดหัวทุยให้ซุกลงกับอกตัวเองแล้วลูบหลังคนขี้อายเบาๆ จางอี้ชิงโหมดร้องไห้งอแงเป็นเด็กดีซะจนคริสย่ามใจ คนตัวโตกว่าถือโอกาสกดจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่มหอม สูดกลิ่นหอมจนสุดปอดอย่างสบายอารมณ์ ใช้ปลายนิ้วม้วนผมนุ่มๆ เล่นอย่างเพลิดเพลิน
“ ชู่ววว อย่าร้องไห้ครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ล้อจางอี้ชิงอีกแล้ว ”
คริสสบตาผู้จัดการของตัวเองผ่านกระจกหลัง พี่เฮนรี่เลิกคิ้วมองมาคล้ายจะสงสัย คริสยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเป็นเชิงบอกว่าให้เงียบไว้ พี่เฮนรี่เลยยักไหล่แล้วหันไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ
ใช้เวลาไปราวๆ เกือบชั่วโมงก็มาถึงภัตตาคารหรูในย่านที่เต็มไปด้วยแสงสีและความครึกครื้น ข้างตัวคริสมีจางอี้ชิงยืนปาดน้ำตาตัวเองป้อยๆ ยังมีร่องรอยเจือสะอื้นอยู่เล็กน้อย คริสดึงร่างขาวเข้าหาตัวแต่ครั้งนี้กลับถูกปฏิเสธ จางอี้ชิงเริ่มดื้ออีกแล้ว
“ ไม่ได้นะครับ ถ้าใครมาเห็นมันจะดูไม่ดี ”
“ จางอี้ชิงอยากให้ผมไปเดินกับเจสสิก้าแล้วก็คิมแทยอนงั้นเหรอครับ แบบนั้นพวกเธอจะตกเป็นข่าวเอานะ จางอี้ชิงคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นหรอกใช่มั้ย? ”
น่ารักเกินจะบรรยายเชียวล่ะ พอเขายกเหตุผลมาอ้างจางอี้ชิงก็เบิกตาโตราวกับเพิ่งคิดอะไรได้ จากที่เดินไปซะห่างก็ขยับมาใกล้ซะชิด สุดท้ายคริสก็ลอบยิ้มสมใจ แขนยาววาดกอดคอคุณช่างภาพตัวขาวเนียนๆ โดยที่คนขี้อายไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธอะไรเลย
อาหารหน้าตาน่าทานเรียงรายเต็มโต๊ะตัวยาวกว้างขวาง มีแต่ของแพงๆ และดีต่อสุขภาพทั้งนั้นเลย คนที่พออยู่พอกินอย่างอี้ชิงเลยได้แต่เบิกตากว้างมองอย่างตื่นตาตื่นใจ ทุกคนเริ่มลงมือกินอาหาร มีเสียงพูดคุยเป็นระยะปะปนกับเสียงหัวเราะสนุกสนาน อี้ชิงคลี่ยิ้มน้อยๆ เมื่อคิมแทยอนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือคีบเนื้อปูใส่จานให้
“ กินเยอะๆ หน่อยนะอี้ชิง ช่วงนี้ไม่เห็นออกจากบ้านเลย ”
“ พูดยังกับฉันอยู่แบบอดอยากงั้นแหละ ”
“ ถึงนายจะทำอาหารเป็นแต่ใช่ว่านายจะทำกินทุกวันนี่ใช่มั้ย ”
อี้ชิงได้แต่หัวเราะ ก็เป็นจริงอย่างที่คิมแทยอนว่านั่นแหละ ปกติเขาไม่ค่อยจะสนใจหาอะไรดีๆ ให้ตัวเองกินสักเท่าไหร่ บางวันมีวัตถุดิบเต็มตู้แต่ก็ไม่ได้กินข้าวก็มี
“ คุณคิม...ฉันอยากกินกุ้งอ่ะ ”
“ ค่ะ เดี๋ยวฉันเอาให้ ”
“ แกะให้ด้วยนะ ”
“ … ”
ตลกจริงๆ ที่เห็นคิมแทยอนทำหน้าตาแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยอมแกะเปลือกกุ้งให้ตามคำเรียกร้องของคุณเจสสิก้าแถมยังได้รอยยิ้มหวานๆ เป็นของตอบแทนด้วย แรงสะกิดตรงแขนเบาๆ ทำให้อี้ชิงหันไปมอง คุณแรพเปอร์คนดังกำลังมองมาพร้อมกับรอยยิ้มบาง
“ จางอี้ชิงอยากกินอะไรอีกมั้ย เดี๋ยวผมเอาให้ ”
หา!?
อี้ชิงเป็นแค่แฟนคลับธรรมดาเองนะ จะไปกล้าใช้ขวัญใจตัวเองได้ยังไง
“ อ๊ะ! คุณคริสไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมตักเอง ”
“ ถือว่าชดเชยที่ผมทำจางอี้ชิงร้องไห้แล้วกันนะ ”
อี้ชิงรู้สึกร้อนๆ ตรงผิวแก้ม คุณแรพเปอร์คนดังดูแลเขายังกับว่าเป็น...แฟนกันเลย อี้ชิงได้แต่นั่งเขิน รู้สึกประทับใจไม่น้อยที่ถูกเอาใจใส่ขนาดนี้ คริสที่ใจดี คริสที่ชอบเทคแคร์ คริสที่ชอบยิ้มหวานๆ อ่า...อี้ชิงรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองกำลังใจสั่นมากมายเลยล่ะ
เพราะยังไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้นของที่คุณแรพเปอร์คนดังตักให้จึงมีทั้งของที่อี้ชิงชอบและไม่ชอบปนอยู่ด้วยกัน ช่างภาพตัวขาวสะงักเมื่อเห็นเนื้อปลาแซลม่อนบนจานตัวเอง อี้ชิงเกลียดปลา ทีแรกตั้งใจจะเขี่ยออกแต่ก็หันไปเจอคริสมองมาซะก่อน
ทำยังไงดีล่ะ...เนื้อปลาชิ้นนี่คุณแรพเปอร์คนดังตักให้ด้วยสิ
แถมยังบอกอีกว่าอะไรนักหนา ถ้าอี้ชิงเขี่ยทิ้งต้องไม่ใช่เรื่องควรทำแน่ๆ
“ จางอี้ชิงไม่ชอบกินปลาเหรอครับ? ”
อี้ชิงสะดุ้งเฮือกที่ถูกจับได้แต่ก็ยังส่ายหน้าแข็งขัน พยายามไม่ทำตัวให้มีพิรุธและยิ้มกลับให้อีกคนอย่างปกติ(ซะที่ไหน) ดวงตาคมหรี่ลงน้อยๆ อี้ชิงก็รีบคีบเนื้อปลาแซลม่อนขึ้นมากลั้นใจกัดไปนิดหน่อย
แต่ว่านะ...
“ ... ”
รสชาติแปลกๆ แบบที่อี้ชิงไม่ชอบกำลังกระจายไปทั่วทั้งปาก กัดไปแค่นิดเดียวก็ทิ้งเนื้อปลาที่เหลือไว้ในจานตัวเอง มันรสชาติแย่มากซะจนไม่อยากจะกินอีก คุณแรพเปอร์คนดังมองมา เห็นทุกอย่างว่าอี้ชิงทำอะไร อี้ชิงถือตะเกียบค้างไว้ในมือ
นั่นมัน...เนื้อปลาที่คริสอุตส่าห์คีบให้เลยนะ...
ทำอะไรลงไปจางอี้ชิง...คุณคริสต้องเสียใจมากแน่ๆ!
“ ฮึก... ”
ไม่ได้อยากจะร้องไห้สักหน่อย! แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง อี้ชิงก้มหน้าต่ำ ทั้งรู้สึกผิดทั้งเสียใจทั้งละอายใจ ก็คนมันไม่ชอบปลานี่นา!
“ โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ ไม่ชอบกินปลาทำไมต้องฝืนกินล่ะครับหืม? ”
“ ฮึก...ฮึก ”
“ จางอี้ชิงนี่น้าาาา ”
คุณคริสดึงตะเกียบไปจากมืออี้ชิงก่อนจะใช้มันคีบเนื้อปลาที่โดนกัดไปแล้วเข้าปากตัวเอง อี้ชิงมองตาค้าง รู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มร้อนๆ อีกแล้ว ช่างภาพตัวขาวหลับตาปี๋ตอนที่ถูกเคาะหน้าผากเบาๆ
“ ทีหลังไม่ชอบก็บอกนะครับ ”
“ ผมรู้สึกผิดนี่ครับ...ก็คุณคริส...อุตส่าห์คีบให้ ”
“ แล้วจางอี้ชิงก็ร้องไห้เนี่ยนะครับ? ”
“ ผมรู้สึกผิดนี่ครับ ”
ตอนที่คุณแรพเปอร์คนดังหัวเราะโลกของอี้ชิงก็หมุนคว้างอีกครั้ง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มานั่งข้างๆ คอยให้คุณแรพเปอร์คนดังตักนู่นตักนี่ให้ นี่มันวิเศษจริงๆ เลย อี้ชิงจ้องมองอีกคนด้วยสายตาชื่นชม เขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ยกย่องเทิดทูนผู้ชายคนนี้
คุณคริสที่ใจดีไม่สิ้นสุด
“ บอกผมหน่อยสิว่าปกติจางอี้ชิงชอบกินอะไร ”
“ กินได้หมดทุกอย่างเลยครับ แต่ผมไม่ชอบกินปลา ”
“ งั้นผมจะเลือกอันที่ไม่มีปลาให้แล้วกันนะครับ ”
“ เอ่อ...แล้ว... ”
อยู่ๆ อี้ชิงก็อึกอัก รู้สึกเขินชอบกล ดวงตาหวานซึ้งช้อนขึ้นสบตาคุณแรพเปอร์คนดังอายๆ นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้เพราะหัวใจที่เต้นแรง แต่ถึงอย่างนั้นก็รวบรวมความกล้าข่มความอายพูดไปจนได้
“ แล้วคุณคริสชอบกินอะไรครับ... ”
“ ผมก็กินได้ทุกอย่างครับ แต่ผมชอบกินปลานะ ”
“ ... ”
“ จางอี้ชิงถามแบบนี้จะตักให้ผมเหรอครับหืม? ”
ก็ในเมื่อคุณคริสใจดีกับอี้ชิงขนาดนี้
อี้ชิงจะใจดีบ้างก็ไม่แปลกนี่
“ จากใจเลยนะครับ...ก็เพราะคุณคริสใจดีกับผมมากเลย ”
“ จางอี้ชิงอยากตอบแทนเหรอครับ ”
“ ครับ ผมเองก็รับมามากไปแล้ว ”
“ จางอี้ชิงไม่ต้องห่วงนะครับ ยังไงจางอี้ชิงต้องได้ตอบแทนผมแน่ๆ ”
“ ครับ? ”
“ อีกไม่นานหรอกครับ ”
อี้ชิงพยักหน้าช้าๆ อย่างเขินอาย ค่อยๆ คีบเนื้อปลาวางบนจานของคริสทีละชิ้น เนื้อปลาถูกจัดวางเป็นระเบียบบนจานที่ว่างเปล่า อี้ชิงตั้งแต่จะวางเนื้อปลาชิ้นสุดท้ายบนจานแต่จู่ๆ มือใหญ่กลับคว้าข้อมือตัวเองเอาไว้แล้วอ้าปากงับเนื้อปลาที่คีบอยู่ไปกินหน้าตาเฉย
“ ….!? ”
“ จางอี้ชิงนี่...ชอบทำให้ชื่นใจอยู่เรื่อยเลยนะครับ ”
“ ขะ...ขอบคุณครับ ”
“ เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้นะ แต่ไม่เป็นไร...อย่างน้อยเราก็ได้เจอกันแล้วนี่เนอะ ”
“ เห? ครับ? ”
สายตาแบบนั้นอี้ชิงเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
...ลืมไม่ได้เลยแฮะ
มือใหญ่ยังคงจับข้อมือช่างภาพตัวขาวค้างเอาไว้ราวกับต้องการจะยืดเวลา
“ คริส!!! นายจะทำอะไรอี้ชิง!!! ”
“ เฮ้ยยย! คริส! ”
ฝ่ามือใหญ่ค่อยปล่อยออกอย่างอ้อยอิ่ง อี้ชิงหน้าแดงหูแดง คนขี้อายรีบขยับกลับไปนั่งที่ตัวเองหลังจากจำได้ว่าตัวเองเบียดใกล้กับคุณแรพเปอร์คนดังมากเกินไปแล้ว
“ โลกนี้ไม่ได้มีแค่พวกนายสองคนนะเฟ้ย! ”
อี้ชิงไม่รู้หรอก...ว่าจริงๆ แล้วเก้าอี้ตัวเองยังอยู่ที่เดิม
ผิดจากเก้าอี้ใครอีกคนที่ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ทีละนิดอย่างแนบเนียน
จนกระทั่งเก้าอี้พวกเขาติดกัน
…สามารถโน้มเข้ามาใกล้ได้สบายๆ เลยล่ะ
“ จางอี้ชิงคีบเนื้อปลาให้ผมอีกนะ ”
ความคิดเห็น