คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Four ✿ Everyday love
04
Everyday love.
ด้วยความรักที่มีอยู่ในวันจันทร์ วันอังคารผมเลยต้องไปอยู่ใกล้ๆ เขา
วันพุธ วันพฤหัส ผมยิ่งรักเขามากขึ้นไปอีก
วันศุกร์ วันเสาร์แล้วก็วันอาทิตย์ มันเกินกว่าที่จะบอกได้แล้วว่าผมรักเขามากแค่ไหน
มีคนอยู่สองสามประเภทที่ชานยอลรู้จัก ประเภทแรกคือคนที่รักแล้วรักน้อยลงทุกวัน คนประเภทที่สองคือรักแล้วก็ยังรักเท่าเดิม และคนประเภทที่สามก็คือรักแล้วยังรักได้อีก ชานยอลรู้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้ตัวว่าเขารักแบคฮยอนของเขาเลยล่ะว่าเขาต้องเป็นคนประเภทที่สามแน่ๆ และไม่มีทางเป็นคนประเภทแรกแน่นอน การรักใครสักคนอย่างจริงจังแค่ชั่วโมงเดียว วันเดียว ปีเดียว สิบปีเดียว ร้อยปีเดียวมันไม่พอหรอก หรือต่อให้ร้อยปีเดียว พันปีเดียว พันล้านๆๆๆๆ ปีเดียวก็ยังไม่พออยู่ดีนั่นแหละ
ในกรณีของชานยอล...ก็ใช่ ความรักของเขามันมีเพิ่มขึ้นทุกวัน จนบางครั้งเขาก็คิดว่าตัวเองอาจจะเป็นบ้าเข้าสักวัน เขาหมายถึงบ้ารักน่ะ...บ้ารักแบคฮยอน อาจถึงขั้นหลงใหลขั้นพีคสุดหรือคลั่งไคล้กระวนกระวายเวลาไม่ได้เจอหน้าแค่ครึ่งของวินาทีเดียว ชานยอลอาจจะเป็นแบบนั้นเข้าสักวัน
แบคฮยอนของชานยอลน่ะไม่ได้เป็นคนซับซ้อนอะไรเลย คิดยังไงก็แสดงออกยังงั้น ชานยอลน่ะรู้จักแบคฮยอนของเขาทุกซอกทุกมุมในชีวิตเลยด้วยซ้ำ ไม่มีใครจะรู้จักแบคฮยอนได้เท่าชานยอลคนนี้อีกต่อไปแล้ว ต่อให้มองหาบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินเขียวใบนี้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว
แต่ชานยอลเองก็ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแบคฮยอนอยู่เหมือนกัน
บางครั้งคำตอบมันชัดเจนแต่ก็ไม่ชัดเจนซะงั้น
“ ทำไมน่ารักขึ้นทุกวันล่ะเนี่ย? ”
เขาไม่ได้หยอดให้เจ้าคนน่ารักเขินเล่น เขาไม่ได้ทำปากหวานไปงั้นๆ แต่ชานยอลถามจริงๆ สงสัยจริงๆ จากใจเลยล่ะ ไม่มีคำตอบจากแบคฮยอนนอกจากริ้วแดงบนแก้มและริมฝีปากที่กลั้นยิ้ม ดวงตาเรียวรีของแบคฮยอนมองเผินๆ มันเหมือนเส้นขีดเส้นเดียวบนใบหน้า แต่พอดวงตาคู่นั้นพราวระยับขึ้นมา...ชานยอลก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง
“ แน่ะ ถามไม่ตอบยังจะมาทำหน้าตาน่ารักใส่อีก ”
“ ไอ้บ้า! ไอ้เสี่ยว! ”
พอเขินแล้วก็เกิดอาการทำเสียงดังกลบเกลื่อน แบคฮยอนที่นั่งตัวกลมบนตักของชานยอลนั่งดูหนังมาได้เกือบสามสิบนาทีเริ่มดิ้นขลุกขลัก มือเล็กฟาดเพี๊ยะๆ ลงบนไหล่ของเขา
“ เงียบไปเลยป่ะ! เราจะดูหนังอย่ามากวน ”
หนังที่แบคฮยอนของชานยอลบ่นมาเป็นอาทิตย์ว่าอยากดูอยากได้ ถึงกับลงทุนซื้อแผ่นแท้รุ่นพิเศษมีจำนวนจำกัดแถมยังแพงกระเป๋าฉีกมาเปิดดูสบายใจเฉิบ แบคฮยอนดูพออกพอใจกับหนังที่เพิ่งได้มาใหม่แต่ชานยอลไม่...เขาไม่ชอบดูหนังแต่กลับต้องควักตังค์เป็นพันซื้อเจ้าแผ่นดีวีดีนั่นมาเพียงเพราะแบคฮยอนของเขาอยากดู พระเอกหน้าตางั้นๆ นางเอกก็น่ารักน้อยกว่าแบคฮยอน ประโยคเลี่ยนๆ ฟังกี่ครั้งก็ไม่เห็นจะหวานสู้คำบอกรักของชานยอลได้เลยสักเสี้ยว
ชานยอลซบหน้าลงกับแผ่นหลังของแบคฮยอน เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นตุบตับ ได้กลิ่นหอมของแป้งเต็มปอด ชานยอลถูไถใบหน้ากับแผ่นหลังเล็ก ใช้จมูกคลอเคลียสูดกลิ่นหอมๆ ของเจ้าคนน่ารักจนชุ่มปอด แบคฮยอนขยับเล็กน้อยแล้วหัวเราะคิกคัก ไม่รู้เพราะชานยอลหรือฉากกุ๊กกิ๊กในหนังกันแน่
“ ...ไหน? ”
“ อะไร ”
“ ไหนล่ะรางวัล? ”
“ ไม่มี ”
“ ไม่มีได้ไงอ่ะ ไม่ยอมนะ ”
อย่ามาแกล้งลืมไปหน่อยเลย! ทีตอนจะซื้ออ้อนนั่นอ้อนนี่สัญญาซะดิบดีว่าจะยอมตามใจทุกอย่าง พอเขาหลงกลยอมใจอ่อนซื้อให้มาทำเป็นลืมนะคนเรา คนขี้ลืม(?)โวยเสียงเบาตอนที่ชานยอลยืดตัวกัดหูไปหนึ่งทีอย่างนึกหมั่นเขี้ยว แบคฮยอนทำเมินได้น่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
“ อื้อออ ไม่เอา...ไอ้ลามก! ”
“ ลามกกับแฟนคนเดียวอ่ะ จะทำไม? ”
แบคฮยอนของชานยอลตัวก็แค่เนี้ยะ จะเอาอะไรมาสู้ถ้าจะโดนลวนลามอยู่แบบนี้ ชานยอลพลิกตัวเล็กๆ ไปนอนแผ่บนโซฟาก่อนจะนอนทับลงไป แบคฮยอนของเขาหน้าแดง ดวงตากลอกลิ้งไปมาเมื่อถูกต้อนจนมุม ชานยอลทนความน่ารักแบบนี้ไม่ไหวเลยต้องลงไปฟัดแก้มนิ่มให้ช้ำกันไปข้าง
“ อื้อ...ชานยอลอ่า ”
เจ้าคนน่ารักเริ่มจะเคลิบเคลิ้มบ้างแล้ว แบคฮยอนเผลอเอียงคอให้ชานยอลจูบโดยไม่รู้ตัว(หรือรู้ตัวนะ?) แถมยังมาทำตาปรอย เผยอปากให้ได้ใจสั่นกันเล่นๆ อีก แขนเล็กโอบรอบคอดึงโน้มให้ลงไปรับจูบแผ่วเบาพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นๆ ที่ตามมา ชานยอลบีบจมูกเด็กซนไปทีนึง
ไอ้ป๋ายตัวแสบของทุกคนกำลังยั่วชานยอลอยู่...ชัด – ชัด – เลย!
เดี๋ยวโดนชานนี่ยั่วกลับแล้วจะไม่รอด
“ อย่าชักช้าซี่... ”
“ ไม่อยากให้ชักช้าแบคฮยอนก็ต้องช่วยให้ชักเร็วขึ้นนะ ”
“ ไอ้หื่นนนน ”
...แล้วพวกเขาก็จูบกันอีกหน แบคฮยอนหลุดเสียงหัวเราะตอนที่ชานยอลผละริมฝีปากออกมาแล้วก็หลับตาพริ้มตอนที่ชานยอลแนบริมฝีปากลงไปใหม่ ทีวีจอใหญ่ไม่มีใครสนใจจะหันไปดู หนังเรื่องใหม่ของแบคฮยอนดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นสุด
ชานยอลเป็นหนึ่งในมนุษย์บนโลกใบนี้ที่มีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากับคนอื่น แต่เวลาของชานยอลมันกลับไม่ใช่ของเขาตั้งแต่มีแบคฮยอนเข้ามา เจ้าคนน่ารักนั่นน่ะ...ได้เวลาของชานยอลไปจนหมด นั่นเป็นเหตุให้ทุกวันของชานยอลต้องมีแบคฮยอนอยู่ด้วยเสมอ
โพสอิทสีเหลืองถูกแปะไว้ที่หน้ากระจก ทุกเช้าที่ตื่นมาชานยอลจะพบข้อความที่ตัวเองวางแผนเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน มันเป็นลิสต์รายการสิ่งที่จะทำกับแบคฮยอนในวันนั้น
‘ ทำให้แบคฮยอนรักชานยอลมากขึ้นกว่าเมื่อวาน... ’
...ข้อความบนโพสอิทก็ไม่ต่างไปจากทุกวัน
“ หนึ่งอาทิตย์มีกี่วัน? ”
คนที่นอนเกยอกชานยอลโดยมีผ้าห่มคลุมโปงอีกทีโผล่แค่ตาออกมาถามคำถาม เขาลูบหัวของแบคฮยอนอย่างนึกเอ็นดู ก็ใครบอกให้ทำหน้าตาน่ารักอีกแล้วล่ะ
“ เจ็ดวัน ”
“ เจ็ดวันของชานยอลอยากจะทำอะไรบ้างเหรอ? ”
“ ก็... ”
เขาเหลือบมองแบคฮยอนนิดหน่อย แรงสะกิดตรงขาเร่งเร้าให้ชานยอลตอบคำถาม
“ อาทิตย์นี้ฉันอยากจะรักแบคฮยอน อาทิตย์หน้าฉันก็อยากจะรักแบคฮยอน อาทิตย์ถัดไปฉันก็อยากจะรักแบคฮยอน อาทิตย์ของอาทิตย์ถัดไปฉันก็อยากจะรักแบคฮยอน แล้วก็อาทิตย์ของ... ”
“ รักนะ ”
โพล่งบอกรักตาใสซะงั้น แบคฮยอนของชานยอลโถมกอดชานยอลอย่างแรงจนพากันล้มหงายไปบนเตียงกับทั้งคู่ ชานยอลหัวเราะเสียงดังกับเจ้าคนน่ารักที่เกาะเขาแน่นเป็นลูกลิงในคราบลูกหมา จู่ๆ ก็มาบอกรักกันซะอย่างงั้น แบคฮยอนไม่คิดถึงใจของเขาบ้างเลย
น่ารักจะแย่แล้ว
“ รักชานยอลที่สุดในโลกเลย! ”
กลายเป็นว่าพวกเขานอนกอดกันกลมบนเตียง เจ้าคนน่ารักถูกชานยอลจับม้วนใส่ในผ้าห่ม ดุกดิกๆ ดูน่ารักน่าฟัดจนอดใจไม่ไหวระดมหอมแก้มไปตั้งหลายครั้ง นอกจากแบคฮยอนจะไม่ขัดขืนให้โดนจับปล้ำเล่นๆ แล้วยังมีหน้ามายื่นแก้มให้หอมง่ายๆ อีก
“ หอมเราแล้วอย่าลืมให้แม่มาขอนะ คิก! ”
ร้ายกาจมากอ่ะ...ร้ายกาจจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
แต่ชานยอลก็กอดแบคฮยอนของเขาเอาไว้หลวมๆ แล้วจุ๊บหน้าผากมนหนึ่งที
“ พูดงี้ไม่ต้องให้แม่ไปขอหรอก...เดี๋ยวปาร์คชานยอลจะไปขอแต่งเองถึงบ้านเลย ”
ชานยอลรักวันหยุด...ไม่สิ...เขารักทุกๆ วันที่มีแบคฮยอน
แต่รักวันหยุดมากกว่าเพราะเขาได้อยู่กับแบคฮยอนทั้งวัน
แต่วันหยุดอาทิตย์นี้ติดจะวุ่นวายนิดหน่อยตอนที่คุณนายปาร์คพาเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนนึงมาที่บ้าน บอกว่าเธอชื่ออินฮยอง เป็นเด็กผู้หญิงเรียบร้อยดูขี้อายแต่ก็มีดวงตาที่วาววับไม่น้อย ชานยอลรู้สึกกระวนกระวายนิดหน่อยเพราะอินฮยองทำให้การไปเจอหน้าแบคฮยอนของเขาถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ เด็กสาวถูกฝากฝังให้ชานยอลดูแลโดยที่คนพามารีบร้อนออกไปทำธุระ
“ พี่ชานยอลชอบเล่นดนตรีเหรอคะ ดีจัง...อินฮยองก็ชอบเล่นเปียโนค่ะ ”
“ อ๋อครับ ปกติบ้านพี่มีเปียโนก็จริงแต่พี่ไม่ได้เป็นคนเล่นหรอกครับ ”
“ แล้ว...พี่ชานยอลซื้อมาให้ใครเล่นเหรอคะ? ”
ชานยอลเพียงแค่ยิ้มตอบให้เด็กสาว ปกติชานยอลชอบเล่นกีต้าร์มากกว่า ส่วนเปียโนก็จะโดนแบคฮยอนยึดไปเล่น บางครั้งแบคฮยอนของชานยอลก็ชอบขนโน้ตเพลงมาเป็นปึก แต่เล่นได้จริงๆ คือเพลงสำหรับเด็กเท่านั้นแหละ แต่เขาไม่เบื่อนะที่จะฟังแบคฮยอนเล่นเพลงหนูมาลีกับแฮปปี้เบิร์ดเดย์
“ เมื่อปีก่อนอินฮยองเคยมาที่บ้านนี้ค่ะ ตอนนั้นพี่ชานยอลออกไปค้างข้างนอก อินฮยองได้ยินคุณป้าบอกว่าเปียโนนี้พี่ชานยอลเก็บเงินซื้อเป็นของขวัญให้...คนพิเศษ ”
“ ครับ แฟนของพี่เองครับ ”
“ …เหรอคะ ”
เด็กสาวหน้าหมองลงเล็กน้อยโดยที่ชานยอลไม่ได้สังเกตอะไรมากมายนัก จิตใจของเขาลอยไปหาแบคฮยอนโน่นแล้ว อยากจะวิ่งไปบ้านหลังตรงข้ามใจจะขาดแต่เขาสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่ทิ้งให้แขกแถมยังเป็นผู้หญิงให้อยู่บ้านคนเดียวแน่นอน
“ อินฮยองอยากกินอะไรมั้ยครับ เดี๋ยวพี่เอามาให้ ”
“ เอ่อ...พี่ชานยอลเอาอะไรมาอินฮยองก็กินอันนั้นค่ะ ”
ชานยอลสำรวจตู้เย็นในครัว ให้ตายเถอะ มันมีแต่ของชอบของแบคฮยอนทั้งนั้น แต่ละอย่างมีโพสอิทแปะคำว่า ‘ ของแบคฮยอน ห้ามกิน! ’ จนเกือบครึ่งตู้ คุณนายปาร์คเองก็เอ็นดูเจ้าคนน่ารักนั่นจนต้องซื้อขนมของโปรดแบคฮยอนมายัดไว้เต็มตู้ เหลือก็แค่น้ำส้มเท่านั้นที่ไม่ใช่ของโปรดของแบคฮยอน
“ พี่มีแต่น้ำส้ม อินฮยองชอบน้ำส้มมั้ยครับ? ”
“ อินฮยองชอบน้ำส้มค่ะ ”
เด็กสาวตอบรับเสียงใสก่อนจะรับแก้วน้ำส้มไปจากมือของชานยอล ปลายนิ้วของเธอแตะโดนนิ้วชานยอลเล็กน้อย เธอยิ้มเขินจิบน้ำส้มไปนิดหน่อยก่อนจะนั่งเรียบร้อยเหมือนเดิม
“ พี่ชานยอลคะ ”
“ ครับ? ”
“ อินฮยองอยากไปเดินเล่นจะได้มั้ยคะ? ”
มีโอกาสเสี่ยงสูงทีเดียว...
อินฮยองขยับมาเกาะแขนเขาแน่นแล้วทำท่าออดอ้อนให้ชานยอลใจอ่อน ชานยอลถอนหายใจเบาๆ แต่นั่นกลับทำให้ดวงตาของเด็กสาวมีน้ำตาคลอหน่วย เธอกลั้นสะอื้นแล้วถอยกลับไปนั่งตรงที่เดิม มือบางถูกยกขึ้นเช็ดน้ำตาชานยอลก็อ่อนใจจะปฏิเสธ
“ ก็ได้ครับ พี่จะพาอินฮยองไปเดินเล่นรอบๆ นะ ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่ชานยอลไม่สะดวกใจ... ”
“ พี่สะดวกครับ ไปกันเถอะ ”
เขาไม่ได้เป็นคนใจร้ายนี่! ถึงจะไม่อยากไปแต่ก็ต้องพาเธอไปตามหน้าที่นั่นแหละ อินฮยองยิ้มได้อีกครั้งก่อนที่เธอจะชวนพูดคุยอย่างร่าเริง แขนของซ้ายของชานยอลถูกจับจองเอาไว้ไม่ยอมห่าง แต่หลังที่ก้าวออกจากบ้านมันเป็นความคิดที่ผิด...ผิดมากๆ เลยล่ะ
ลมหายใจชานยอลสะดุดกึกจังหวะเดียวกับการเดิน ในเขากระวนกระวายกับสายตาของแบคฮยอนที่จ้องมองมาจากถนนสายเล็กฝั่งตรงข้าม ชานยอลเห็นมือแบคฮยอนกำแน่นเหมือนกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่เหยเกและเป็นสีแดงเข้ม น่ารักเหมือนเดิมแต่เขาแอบใจหายน่ะนะ แบคฮยอนทำท่าจะพุ่งมาทางชานยอลกับอินฮยองแต่การปรากฏตัวของใครบางคนทำให้ทุกอย่างพลิกผันไปหมด
“ แบคฮยอนครับ! ”
ไอ้ห่าพี่คริส!!!
“ เห็นบอกว่าไม่ว่างพี่เลยมาหาที่บ้าน ไม่ว่ากันนะ ”
แบคฮยอนไม่ว่าแต่ชานยอลมีปัญหาป่ะ!? แฟนเขายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้แต่ยังมาทำหน้าตาออดอ้อนใส่อีก นี่คิดว่าน่ารักมากป่ะ? มีธุระอะไรกับแฟนคนอื่นเขาไม่ทราบ!
“ ไม่เป็นไรครับ...ผม ‘ ว่าง ’ พอดีเลย... ”
“ พี่มีเรื่องสำคัญจะพูดกับเรานะ ”
“ ได้สิครับ ผมจะยอมรับฟังทุกเรื่องของพี่คริสเลย ยิ่ง ‘ สำคัญ ’ มากผมก็ยิ่ง ‘ สนใจ ’ ”
แบคฮยอนตวัดสายตามามองชานยอลด้วยตาแดงๆ และเสียงสูดจมูกฟุดฟิด
“ ไปกันเถอะครับ อยู่นี่ที่มันมี ‘ คนอื่น ’ อยู่ ”
“ ได้สิ รถพี่อยู่ทางนี้ ”
ชานยอลเผลอสบถคำหยาบโดยไม่ได้สนใจว่าจะทำให้คนข้างตัวตกใจรึเปล่า แบคฮยอนเดินลิ่วไปทางอื่นแล้วกับไอ้ห่าพี่คริสที่ชานยอลแอนตี้ ไม่ทันไรก็เข้าไปอยู่ในรถของมัน ชานยอลออกวิ่งแล้วตะโกนเรียกแบคฮยอนเสียงดังลั่นถนน
“ แบคฮยอน!!! ”
“ ไปตายซะ!!! ”
เจ้าคนน่ารักทำตัวดื้อดึงด้วยการตะโกนกลับมาแบบนั้น...
“ พี่ชานยอลคะ? ”
เด็กสาวหอบน้อยๆ เพราะเธอดันเกาะแขนชานยอลไม่ปล่อยตอนที่เขาวิ่งตามรถไอ้ห่าพี่คริส ชานยอลพยายามระงับอารมณ์หงุดหงิดหันไปยิ้มฝืดๆ ให้เธอ ตอนนี้เขาร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว ถ้าต้องอดทนไปมากกว่านี้ชานยอลจะไม่ทนนี่บอกไว้เลย
“ พี่มีธุระจริงๆ ครับอินฮยอง คงไม่มีเวลาทั้งวันดูแลอินฮยอง ”
“ แต่คุณป้าบอกว่าพี่ชานยอลต้องดูแลอินฮยองทั้งวันนะคะ ”
“ เดี๋ยวพี่จะพาอินฮยองไปส่งที่บ้านนะครับ ”
หลังจากนั้นน่ะเหรอ? อินฮยองนั่งร้องไห้มาตลอดทางที่ชานยอลขับรถไปส่งเธอที่บ้าน ไม่รู้ว่าร้องไห้เพราะอะไรแต่ชานยอลเพียงแค่ส่งทิชชู่ให้เธอซับน้ำตาเท่านั้น เด็กสาวตัดพ้อว่าเขาใจร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ ชานยอลกะว่าจะโทรไปบอกคุณนายปาร์คอย่างจริงจังว่าทีหลังอย่าพาใครมาให้ดูแลอีกเลยเถอะ!
แบคฮยอนงอนตุ้บป่องไปกับไอ้ห่าพี่คริสโน่นแล้ว!
งานนี้เห็นทีคงต้องง้อแบบทุ่มสุดตัวและหัวใจอีกแน่ๆ
“ ไอ้ปาร์ค! ไอ้โง่! ฟัคยู! ไอ้...ไอ้...ฮือออออออออออ ”
“ ใจเย็นๆ นะแบคฮยอน ”
“ มันกล้าดียังไงพาคนอื่นเข้าบ้านอ่ะจื่อเทา! ฉัน...ฮึก...ไม่ยอมนะ! ”
“ มันอาจจะไม่ได้เป็นยังงั้นก็ได้นี่ ปาร์คชานยอลรักนายจะตายไป ”
จื่อเทาทำหน้าเหยเกตามแบคฮยอนไปโดยอัติโนมัติ ตอนแรกไปไหนมาไม่รู้กับพี่คริสปีสามแล้วอยู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาซบอกจื่อเทาร้องห่มร้องไห้จนถึงตอนนี้ ปลอบเท่าไหร่ก็ไม่หยุดร้อง แบคฮยอนซุกหน้าลงกับผ้าห่มผืนโปรดของจื่อเทาแล้วร้องไห้ไปตะโกนด่าปาร์คชานยอลไปจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง
“ ทำไมไม่ฟังปาร์คชานยอลอธิบายก่อนล่ะ ”
“ เห็นอยู่เต็มตา! จับแขนกันอย่างเนี้ยะ! เนี้ยะ! ”
มีการสาธิตให้ดูด้วยนะ...
“ ไอ้คนเจ้าชู้! มีคนเดียวแล้วจะตายใช่มั้ย! คิดแล้ว...ฮึก...ของมันขึ้นอ่ะ! ”
“ พอเหอะน่า เดี๋ยวผ้าห่มฉันเปื้อนน้ำลายหมด ”
“ นี่จื่อเทา!!! ”
ชอบทำเสียงดังนี่จื่อเทาไม่ไหวจะเคลียร์นะ หอของจื่อเทาคือเขาไม่ได้พักอยู่คนเดียวป่ะ? ไอ้ลูกหมานี้วิ่งมาจากไหนไม่รู้มาเคาะประตูห้องคนอื่นตึงตังแล้วกระโจนยึดเตียงจื่อเทาไปหน้าตาเฉยมาก ร้องไห้ฟูมฟายจนกลัวว่าจะสำลักอากาศตายซะก่อนที่ปาร์คชานยอลจะมาง้อน่ะสิ!
“ ร้องไห้ให้หนำใจไปเลย! เออ! ร้องไห้เสร็จแล้วเดี๋ยวจะพาไปส่งบ้านแล้วกัน ”
“ ไม่กลับ! ”
“ ไม่กลับไม่ได้นะ เดี๋ยวแม่นายเป็นห่วง ”
“ ก็โทร...ฮึก!...บอกแม่ฉันไปสิ! จะต้องให้บอกหมดทุกอย่างเลยรึไง! ”
ทำอะไรไม่เคยถูกใจอ่ะนี่พูดเลย! เขาก็อัดอั้นตันใจเป็นเหมือนกันนะ! เดี๋ยวจะได้เป่าปี่กันมันทั้งคืนนี่แหละ จื่อเทาถอนหายใจเหนื่อยหน่ายแต่ก็ยอมกดโทรศัพท์ต่อสายไปหาคุณนายพยอน(ที่โอ๋ลูกชายยิ่งกว่าอะไรดี) ไม่นานนักปลายสายก็รับพร้อมกับเสียงรอดไรฟันทุ้มต่ำฟังดูขนลุก
[ ...หวงจื่อเทา ]
“ คุณน้าครับ ”
[ จับแบคฮยอนขังไว้ในห้องนายซะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาแบคฮยอนกลับ ]
“ ปาร์คชานยอล? ”
[ ถ้าฉันไปถึงแล้วไม่เจอแบคฮยอนที่ห้องนาย...ตายแน่! ]
“ เฮ้ย! ”
จื่อเทาสะดุ้งโหยงกับเสียงตะคอกตรงประโยคสุดท้าย เผลอทำโทรศัพท์หลุดมือเสียงดังจนคนที่นอนขดตัวร้องไห้หันมามองเคืองๆ
“ อะไรอีกล่ะจื่อเทา! อยู่เงียบๆ ไปเลยป่ะ! ฮือออ...ฮึก! ”
“ แม่นายบอกว่าเดี๋ยวจะมารับ... ”
“ ก็ดีสิ! ฉันไม่อยากเจอหน้าไอ้ปาร์คแล้ว! ”
ขอโทษนะแบคฮยอน...
คิดว่าตัวเองจะหนีพ้นจริงๆ ใช่มะ?
ปัง! ปัง! ปัง!
ไม่ต้องทายเลยว่าใครมันจะมาเคาะประตูห้องคนอื่นรุนแรงขนาดนี้น่ะ จื่อเทาละสายตาจากหน้าจอทีวีมามองประตูที่สั่นสะเทือนน้อยๆ แล้วกลอกตาขึ้นมองเพดาน ปาร์คชานยอลเบียดตัวเข้ามาในห้องจังหวะเดียวที่เขาเปิดประตูให้
“ แบคฮยอนอยู่ไหน ”
“ ในห้องโน่น ”
กระชากประตูห้องคนอื่นเปิดออกนี่ไม่เกรงใจเจ้าของห้องที่ยืนเอ๋อตรงนี้เลย จื่อเทาได้แต่แอบเมียงมองเข้าไปดูเหตุการณ์ในห้อง เขาเห็นปาร์คชานยอลล้มตัวนอนกอดแบคฮยอนที่นอนคลุมโปงตัวสั่น พูดอะไรสักอย่างที่ทำให้แบคฮยอนร้องไห้หนักกว่าเก่า
“ แบคฮยอนอ่า...กลับบ้านเรากันนะ ”
“ ไม่เอา! ฮึกก เราจะรอที่นี่รอหม่าม๊ามารับกลับ! ”
“ ฉันตั้งใจมารับแบคฮยอนนะ กลับไปปรับความเข้าใจกัน ฉันอธิบายได้จริงๆ ”
แบคฮยอนมันเล่นตัวมากเลยขอบอก ไอ้ดวงตารีๆ ที่โผล่มามองปาร์คชานยอลดูไกลๆ ยังรู้ว่าใจอ่อนเข้าแล้วแต่ยังทำท่าขัดขืน เป็นจื่อเทานี่จับจูบแม่ง! เอาให้ระทวยแล้วลากมันกลับบ้านก็จบ เพราะปาร์คชานยอลมัวแต่โอ๋แบบนี้นี่ไงแบคฮยอนถึงเอาแต่ใจแบบนี้น่ะ
“ ฮืออออ เราไม่กลับ! ชานยอลจะกลับไปหาใครก็เชิญเลย! ”
“ ฉันจะกลับไปหาใครได้ล่ะหืมม? ก็คนที่อยากกลับไปเจอน่ะ...ดันมาอยู่หอพักจื่อเทานี่ ”
เอาร้อยคูณล้านเลยเถอะ
ร้อยเปอร์เซ็นต์ยังไงแบคฮยอนก็ใจอ่อนอ่ะ
ก็รักเขาไปแล้วนี่เนอะ?
“ แบคฮยอนอ่า ”
“ แบคฮยอนครับ ”
“ แบคฮยอน... ”
ไม่มีเสียงตอบรับนอกจากแบคฮยอนของชานยอลที่เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถและทิ้งร่องรอยสะอื้นไว้เจือจาง ชานยอลเลื่อนมือไปกุมมือแบคฮยอนเอาไว้หลวมๆ สลับกับการบีบแน่นๆ แล้วก็เปลี่ยนมาสอดประสานนิ้วแทน
“ ชานยอลผิดไปแล้ว แบคฮยอน...ชานยอลขอโทษนะครับ ”
“ ไม่...ฮึก...ไม่ยกโทษให้หรอก! ”
แบคฮยอนพูดไปสะอื้นไป แก้มเลอะไปด้วยน้ำตาที่ชานยอลไม่รู้ว่าเอามาจากไหนมากมาย แบคฮยอนเอาแต่ขยับหนีไปติดประตูไม่ยอมมองหน้ากันเลย เล่นทำเอาชานยอลใจหายไปทั้งดวง
“ ...ไม่ยกโทษให้ก็ไม่เป็นไร ”
“ … ”
“ แต่อย่าร้องไห้เลยนะ ”
“ … ”
“ … ”
“ …ฮือออออ ฮึก ฮือออออ ชานยอลอ่าาา ”
ชานยอลรีบเลี้ยวรถเข้าเทียบตรงข้างทางอย่างรวดเร็วตอนที่แบคฮยอนปล่อยโฮ ตัวเล็กๆ สั่นไปทั้งตัวเห็นแล้วปวดใจเป็นบ้า แบคฮยอนสะอื้นฮักแล้วยื่นมือยื่นแขนมาหาชานยอลจนต้องดึงรวบทั้งตัวขึ้นมานั่งเกยบนตัก กอดปลอบคนขี้งอนแล้วหอมแก้มเบาๆ
“ จะ...จะฟ้องหม่าม๊า ฮึก! ”
“ ยอมรับผิดแล้วครับ แบคฮยอนอยากลงโทษยังไงยอมทุกอย่างเลย ”
ขู่ไปสะอื้นไปใครก็ทำได้น่ารักไม่เท่าแบคฮยอนของชานยอลหรอก ชานยอลเกลี่ยน้ำตาเม็ดโตออกจากแก้มแดงๆ แบคฮยอนทำเสียงฟุดฟิดก่อนจะเริ่มสะอื้นอีกครั้งจนเจ้าตัวรีบซุกหน้าลงกับคอของเขา
“ ยัยคนนั้น... ”
“ ยัยคนนั้นชื่ออินฮยอง เป็นลูกสาวเพื่อนของแม่ แม่รีบไปธุระเลยเอามาฝากดูแล ”
“ แล้วต้องจับมือถือแขนด้วยรึไง! ”
“ ก็มันเป็นหน้าที่ ไม่ได้คิดอะไร ”
คราวนี้ไม่รู้ไปพูดอะไรผิดหูอีท่าไหน ชานยอลโดนตีไปหลายที แบคฮยอนถลึงตาแดงๆ จ้องหน้าเขาอย่างขัดอกขัดใจ ชานยอลร้องครางเล็กน้อยตอนที่ถูกฟันคมๆ งับลงมาตรงหัวไหล่
“ กับเราก็เป็นหน้าที่อีกล่ะสิ! ”
“ ใช่ เป็นหน้าที่อีกนั่นแหละ ”
“ … ”
“ แต่เป็นหน้าที่ของตรงนี้นะ ”
ดวงตาเรียวรีหลุบมองตามที่ชานยอลชี้ไปตรงอกด้านซ้าย ...ตรงกับหัวใจพอดี
“ ไอ้บ้า! ”
บ้าแล้วรักป่ะล่ะ?
ขนาดนี้ถ้าไม่รักเดี๋ยวพ่อจับปล้ำ
สามทุ่มแล้วกับท้องฟ้าที่มีดวงดาวเกลื่อนกระจาย เสียงเพลงหวานๆ ดังคลอเบาๆ ชานยอลเอื้อมมือไปปิดไฟในรถให้เหลือแค่แสงสลัวจากไฟข้างทางเท่านั้น แบคฮยอนยังสะอื้นอยู่นิดหน่อยแต่ก็ไม่ขัดขืนแล้วไม่ว่าเขาจะแตะจะจูบจะหอมตรงไหน
“ ชานยอลรักเรามากเท่าไหน เท่าฟ้า? เท่าดวงดาว? เท่าดวงอาทิตย์? เท่าดาวพลูโต? หรือว่า... ”
ชานยอลปิดปากแบคฮยอนของเขาด้วยจูบแผ่วๆ หนึ่งที
“ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก... ”
“ ฉันรักแบคฮยอนเท่าที่ฉันจะรักได้นั่นแหละ ”
แบคฮยอนอาจไม่รู้หรืออาจจะรู้อยู่แล้ว
ดวงตาของแบคฮยอนสวยงามยิ่งกว่าดาวดวงไหนบนฟ้า
“ นอนดูดาวก่อนแล้วค่อยกลับแล้วกันนะ ”
แบคฮยอนยิ้มกว้าง ชานยอลเองก็ยิ้ม พวกเขายิ้มให้กันเงียบๆ ก่อนที่เหมือนว่าริมฝีปากจะถูกดึงดูดเข้าหากันช้าๆ แบคฮยอนเป็นฝ่ายรุกจูบก่อนแบบมึนๆ งงๆ ชานยอลก็ใจดียอมให้อีกฝ่ายกวาดต้อนเขาซะให้พอ ลิ้นเล็กให้ความรู้สึกที่ว่ามันหวาน...หวานมาก บางทีแบคฮยอนอาจจะหวานไปทั้งตัว?
“ ไม่เอาแบบนี้สิแบคฮยอน... ”
“ ทำไมอ่ะ? ไม่ชอบเหรอ? ”
“ ชอบ ”
“ … ”
“ แต่กลัวทนไม่ไหว ”
ทียังงี้มาทำหน้าแดง
ทีรุกจูบคนอื่นล่ะเก่งเชียว
“ หรือว่าแบคฮยอนอยากจะลองเมคเลิฟกับฉันในรถดีล่ะ? ”
“ ไอ้...ไอ้บ้า! ไอ้ลามก! ”
“ แล้วรักมั้ย? ”
“ รัก! ”
ฮอลลล อัพช้ามากค่ะ ยอมรับแต่โดยดี 5555555
แล้วก็อัพร้อยเปอร์เลยด้วย
ใครสอบอยู่ก็ขอให้โชคดีนะคะ คะแนนมันก็มีสูงมีต่ำนั่นแหละค่ะ
ใครเป็นโซวอนจงไปโหวตให้เชร้กับพี่แทซะ เฮ้!
ความคิดเห็น