คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : PHOTOS ; 04 { 100 per. }
04
บางที...พระเจ้าไม่ต้องใจดีกับจางอี้ชิงคนนี้มากก็ได้นะครับ!
อี้ชิงเขิน อี้ชิงอาย อี้ชิงไม่เป็นตัวของตัวเอง อี้ชิงคงจะแย่...ใช่! ท่าจะแย่มากๆ เลยล่ะ! งานชิ้นใหญ่ถูกโยนลงโครมทับตัวอี้ชิงทั้งที่ยังคงยืนช็อก ช่างภาพตัวขาวหลุบตาลงต่ำกัดริมฝีปากตัวเองอย่างประหม่า ในห้องประชุมเงียบกริบ ทุกคนดูลุ้นกับคำตอบของช่างภาพตัวขาว ทุกสายตากดดัน จะมีก็แต่คนต้นคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเท่านั้นแหละที่ยังยิ้มสบายใจคนเดียว
“ ว่าไงครับคุณช่างภาพคนเก่ง? ”
“ … ”
“ ไม่ตอบแสดงว่าตกลง ”
“ ทำไมคุณคริสถึงเลือกผมล่ะครับ ”
“ ผมเคยเห็นรูปของผม... ”
ดวงตาคมจ้องมองมาอี้ชิงก็ไม่กล้าจะหลบสายตา นอกจากจ้องตอบกล้าๆ กลัวๆ
“ ในแฟนไซต์ของแอดมินจางครับ ”
นี่มัน...
หน้าอี้ชิงไหม้หมดแล้ว!
“ ก็ได้ครับ...ผม...รับงานนี้ก็ได้ ”
“ จริงเหรอครับ ”
“ จริงครับ ”
เพราะฉะนั้นเลิกทำให้คนอื่นเค้าอายสักทีเถอะครับ!
ช่างภาพตัวขาวแทบปลิวออกมาจากห้องประชุมหลังจากคิมแทยอนยอมปล่อยให้กลับบ้านได้ อี้ชิงยังคงหน้าแดงหูแดงจากเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้นี้ ครางกับตัวเองอย่างอับอาย ในเมื่อคุณแรพเปอร์คนดังเขารู้มาตั้งนานแล้วว่าอี้ชิงเป็นแอดมินแฟนไซต์อันดับหนึ่งของตัวเอง แล้วที่อี้ชิงลงทุนปลอมตัว แอบถ่ายหลบๆ ซ่อนๆ ล่ะ? นึกแล้วอยากจะเขกหัวตัวเองจริงๆ เลย!
ต่อไปนี้อี้ชิงจะขอถ่ายรูปของคุณแรพเปอร์คนดังอย่างกล้าหาญ เข้าหาตรงๆ ไม่มีเคอะเขิน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ต่อให้ไม่อยากถ่ายอี้ชิงก็จะบังคับถ่ายให้ดู…อย่างงั้นเหรอ?
...ไม่มีทาง ไม่มีทางแน่ๆ
แอบถ่ายแบบเดิมน่ะดีแล้ว แค่ต้องปลอมตัวเพิ่มเท่านั้นเองเนอะ
แขนอี้ชิงถูกดึงเอาไว้ก่อนที่จะทันได้ก้าวต่อ ช่างภาพตัวขาวหันขวับมามองการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตื่นๆ และยิ่งตื่นตกใจมากไปอีกเมื่อเห็นหน้าคนทำเต็มสองตา คุณแรพเปอร์คนดังส่งยิ้มหวานให้อี้ชิงก็หน้าแดงเถือกไปหมด
“ จะรีบไปไหนล่ะครับจางอี้ชิง ”
“ กลับบ้านครับ ”
“ เย็นชาจังนะคนเรา เมื่อวันก่อนยังบอกว่าไม่มีใครสู้ผมได้เลยสักคน มาวันนี้ลืมไปแล้วงั้นสิ ท่าทางจะลืมผมไปแล้วสินะ จางอี้ชิงหาคนที่ดีเท่าผมได้แล้วรึไงครับ ”
คริสช่างตัดพ้อได้น่ารักเกินกว่าผู้ชายตัวโตๆ คนนึงจะทำได้ พออี้ชิงเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตกว่าก็ทำปากยื่นใส่ ไม่อยากจะพูดหรอกนะ...แต่คริสทำแล้วมันน่ารักมาก ไอ้ท่าทางยกมือขึ้นกอดอกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นนี่ก็ทำได้น่าเอ็นดูจนอี้ชิงต้องยิ้มกว้าง
“ คุณคริสงอนเหรอครับ? ”
“ เปล่าครับ ผมรู้ว่ายังไงจางอี้ชิงคงไม่ง้อ ”
แน่ะ มีประชดกันด้วยนะคนเรา
“ แล้วถ้าผมง้อล่ะครับ? ”
“ ผมก็หายงอน ”
“ งั้น...ผมจะง้อแล้วนะครับ ”
ตามตรงเลยนะ อี้ชิงไม่รู้เลยว่าจะง้อคุณแรพเปอร์คนดังยังไงดี ในตึกค่อนข้างปลอดจากสายตาของคนข้างนอกเลยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาเห็นแล้วเกิดเป็นเรื่องใหญ่ ช่างภาพตัวขาวถึงยอมขยับไปใกล้ร่างสูง กระซิบเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ ผมจะรักคุณให้มากขึ้นครับ ”
“ อะไรนะครับ? ”
“ ผมจะรักคุณให้มากกว่าเดิม... ”
“ จริงนะ? ”
“ ในฐานะแฟนคลับตัวยงเลยครับ! ”
ใบหน้าของคริสยิ้มแย้มราวกับพอใจกับการง้อของช่างภาพตัวขาวซะเหลือเกิน ปล่อยให้อี้ชิงขยับตัวออกไปยืนเขิน ใบหน้าหวานละมุนขึ้นสีจัด อี้ชิงไม่กล้ามองคริสเลยเอาแต่ก้มมองปลายเท้าตัวเอง หัวใจมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมากองข้างนอก อาการชักจะหนักเกินไปแล้ว
“ แฟนคลับผมมีเยอะแล้วล่ะ ”
“ ครับ? ”
“ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั้ยครับ ”
อี้ชิงกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม มองอีกคนผ่านดวงตาของตัวเอง มองรอยยิ้มของคุณแรพเปอร์คนดังในระยะใกล้ให้หนำใจ อี้ชิงควรจะขอถ่ายรูปคุณแรพเปอร์คนดังสักสองสามรูปดีมั้ยนะ?
“ มีคนเคยบอกจางอี้ชิงมั้ยครับว่าตัวเองน่ะน่ารัก ”
“ ...ไม่...มี... ”
“ ถ้ายังงั้นผมจะบอกให้จางอี้ชิงรู้ตัวไว้ก่อนนะครับ ”
“ จะได้พัฒนาตัวเองให้น่ารักกว่าเดิม ”
อี้ชิงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งบนม้าหมุน
และกระโดดลงมาเหยียบก้อนเมฆ
“ คุณคริส...จะแกล้งให้ผมเขินใช่มั้ยครับ ”
“ แล้วเขินรึเปล่าครับ ”
“ เขินครับ ”
“ จางอี้ชิงพัฒนาตัวเองน่ารักกว่าเดิมได้เลเวลสองแล้วนะเนี่ย ”
“ เฮ้ยอีซองยอล! หน้ามึงไปโดนอะไรมา! ”
รอยช้ำตรงมุมปากกับโหนกแก้มที่เคยเป็นสีชมพูเลือดฝาดตอนนี้กลับม่วงช้ำดูน่ากลัว แบคฮยอนเบะปาก ค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วของตัวเองแตะเบาๆ บนรอยช้ำของเพื่อนรัก แค่ได้ยินเสียงร้องซี๊ดก็เจ็บแทนแล้ว
“ อู้หู แหกหมดเลยมึง ”
“ แหกพ่อง! ช้ำเฉยๆ เว้ย! ซี๊ดด เจ็บชิบ ”
“ แล้วตกลงไปทำอะไรมา? ”
“ เคลียร์กับไอ้ศัตรูเก่ามา มันหยามกู ลูกผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้! ”
มันเป็นคติประจำใจของแบคฮยอนและอีซองยอลเองล่ะ ท่าทางไอ้ศัตรูเก่าของอีซองซอลจะเก่งเอาเรื่องเลยด้วยอีซองซอลถึงได้หน้าช้ำปากแตกกลับมาแบบนี้ แล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันไม่ให้หม่าม๊าของมันทำแผลมาจากบ้าน ทำไมต้องมาใช้แบคฮยอนด้วย!
“ นี่ๆ แล้วมันหยามมึงว่ายังไงวะ แล้วมึงชกมันป้ะ? ”
“ เออดิแม่ง! กูก็ล่อมันจนหน้าแหก แต่หม่าม๊าอ่ะดิไอ้แบค...แม่งเข้าข้างมัน พอหม่าม๊าเงื้อมือจะตีกูนะกูงี้วิ่งหนีแทบไม่ทัน ดันซวยสะดุดขาตัวเองล้มหน้าทิ่มขอบโต๊ะแล้วเอาหน้ากระแทกพื้นอีก... ”
อ่อ...สรุปมันไม่ได้ตัวต่อตัวกับไอ้ศัตรูเก่าของมันแบบลูกผู้ชาย
แต่ดันสะดุดขาหัวเองหน้าฟาดพื้นนี่เอง
ไม่น่าเกิดมาเลยจริงๆ
“ แล้วแผลบนหน้ามึง? ”
“ กูบอกว่าล้มหน้าฟาดไงสัด! ”
“ ถุย! ”
หลังจากทะเลาะตบตีกับอีซองยอลจนสาแก่ใจแล้วแบคฮยอนก็ต้องแวบมาตรงหน้าตึก EXO PLANET มาดักรอคุณปาร์ค กล้องพร้อมหน้าตาทรงผมพร้อม แบคฮยอนไม่รู้ว่าปาร์คชานยอลจะซ้อมเสร็จกี่โมงก็เลยได้แต่เดินเล่นไปทั่ว ซื้อขนมมากินบ้าง นั่งดูดน้ำกัดหลอดไปพลางๆ บ้าง
หน้าจอโทรศัพท์บอกว่าตอนี้แบคฮยอนรอปาร์คชานยอลมาสามชั่วโมงได้แล้ว ประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมกับร่างสูงเดินออกมาแบคฮยอนก็กดชัตเตอร์รัวไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ ปาร์คชานยอลหันขวับมามองอย่างตกใจก่อนจะหัวเราะเหอะในลำคอ
“ นายอีกแล้วเหรอเนี่ย ”
“ ช่ายยยย พยอนแบคฮยอนเองแหละ ”
“ เหอะ แล้วมาทำไม? อย่าบอกนะว่ามาตามถ่ายรูปคนอื่นเขา ”
แบคฮยอนไม่ตอบแต่ดีดนิ้วดังเป๊าะ ใบหน้าจิ้มลิ้มลอยไปลอยมาอย่างน่าหมั่นไส้ แบคฮยอนเดินตามหลังปาร์คชานยอลไปเรื่อยๆ เห็นแผ่นหลังกว้างของอีกคนแล้วก็อดยกกล้องขึ้นมาถ่ายไม่ได้ ที่จริงความฝันของแบคฮยอนก็อยากจะเป็นผู้ชายเท่ๆ กับเค้าบ้าง เวลาตามถ่ายรูปใครจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนพี่อี้ชิง แต่มันก็แค่ตลกร้าย...แบคฮยอนไม่โตมาตั้งสามปีแล้ว
“ ที่จริงไม่ได้มาแค่ถ่ายรูปหรอก ”
“ แล้วมาทำไม? ”
“ เอาผ้าเช็ดหน้ามาคืน ”
ปาร์คชานยอลหยุดเดิน ดวงตากลมโตแต่แฝงความดุดันตวัดกลับมามองแล้วแบคฮยอนก็ใช้ดวงตาแป๋วๆ ของตัวเองจ้องกลับ ผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่ถูกยื่นให้คนตัวสูง
“ ผ้าเช็ดหน้าฉันอยู่ไหน ”
“ อยู่ที่บ้านฉันเองแหละ จะเก็บไว้อย่างดีเลย! ”
คนตัวสูงยักไหล่ก่อนจะยอมรับผ้าเช็ดหน้าจากแบคฮยอนเก็บใส่กระเป๋ากางเกง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แบคฮยอนกลับบ้านค่ำ ปล่อยเวลาผ่านไปเอื่อยเฉื่อยด้วยการเดินตามหลังปาร์คชานยอลทีละก้าวสองก้าว จ้องมองแผ่นหลังอีกคนอย่างผ่อนคลาย แล้วก็ยกกล้องขึ้นถ่ายเสี้ยวใบหน้าของปาร์คชานยอลบ้าง
แบคฮยอนเริ่มปลื้มคุณปาร์คของตัวเองทีละนิด
เพราะคุณปาร์คเท่...ขนาดมองจากข้างหลังยังเท่
“ คุณปาร์คเหนื่อยป้ะ ฉันเห็นคุณปาร์คซ้อมจนค่ำทุกวันเลย ไหนจะมีเรียนอีก ”
“ ก็เหตุผลเดียวกับนายที่มาตามฉันนั่นแหละ ”
“ งั้นแสดงว่า ไม่ - เหนื่อย - เลยยยยย ”
“ ไม่เหนื่อยจริงเหรอ? ”
ปาร์คชานยอลย้อนถามน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ไอ้การพูดเน้นทีละคำของแบคฮยอนมันก็น่ารักดีอยู่หรอก ถึงแบคฮยอนจะเดินขาลากแถมยังโซเซไปมาเหมือนซอมบี้ตามหลังเขาแทบทุกเย็นแต่ดวงตาเรียวรีคู่นั้นกลับเป็นประกายระยิบระยับอยู่เสมอ เขาถึงเชื่อว่าแบคฮยอนไม่เหนื่อยอย่างที่เจ้าตัวว่า
แบคฮยอนสดใส มองแล้วก็รู้สึกสดชื่น
ถ้าไม่ชอบทำหน้าตากวนๆ ก็คงจะน่ารักมากทีเดียวล่ะ
“ ที่จริงก็เหนื่อยแหละ... ”
“ แต่พี่อี้ชิงเคยบอกว่าถ้าเราชอบอะไรสักอย่าง ต่อให้ต้องเหนื่อยต้องพยายามเราก็จะยอมทำ ”
“ นายชอบฉันรึไง? ”
แบคฮยอนเหมือนจะคิดออกแต่กลับไม่ยอมบอกให้ปาร์คชานยอลรู้ชัดเจน
“ ฉันชอบถ่ายรูป ฉันอยากหยุดเวลาได้เหมือนพี่อี้ชิง ”
“ ... ”
“ และเพราะต้องมีแรงบันดาลใจฉันถึงเลือกคุณปาร์ค ถึงจะกะทันหันไปหน่อยก็เถอะ ”
“ แบบนี้นี่เอง... ”
“ คุณปาร์คไม่คิดบ้างเหรอว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้นะ! ”
พรหมลิขิต...?
แบคฮยอนกำลังสารภาพรักกับเขารึไง
“ แค่มองคุณปาร์คฉันก็อยากถ่ายรูปแล้ว มันต้องเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ ”
“ ดูหนังมากไปป่ะเนี่ย พรหมลิขิตมีที่ไหน ”
“ พี่อี้ชิงบอกว่าที่ได้เจอกับคุณแรพเปอร์คนนั้นก็เป็นเพราะพรหมลิขิตเหมือนกัน ”
“ ห๊ะ? ”
“ คนบนฟ้าอาจจะอยากให้เราเจอกันก็ได้นะ ”
แบคฮยอนยิ้ม...ยิ้มที่ปาร์คชานยอลได้แต่นิ่งและจ้องมอง มันเป็นรอยยิ้มแสนใสซื่อและเต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน แบคฮยอนเหมือนเด็ก แบคฮยอนยังไร้เดียงสา ปาร์คชานยอลไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอจ้องมองอีกคนไปนานเท่าไหร่จนกระทั่งถูกสะกิดตรงแขน
“ ดูท้องฟ้านั่นสิ... ”
“ ... ”
“ มีดวงดาวเป็นพันๆ ล้านๆ ดวงเลยใช่มั้ยล่ะ? ”
“ ...ก็ใช่ ”
“ แต่มีอยู่หนึ่งดวงที่พิเศษและเจิดจ้ากว่าใครๆ เลยนะ ”
แบคฮยอนยิ้มกว้างตอนวาดมือบนท้องฟ้าราวกับกำลังเลือกสรรดวงดาวที่เจิดจ้าที่สุด
...มือเล็กอบอุ่น
ปาร์คชานยอลกระชับมือตอบกลับโดยไม่รู้ตัว
“ หลับตาหน่อย ”
“ ทำไมต้องหลับตาด้วย ”
“ แบมือ ”
หลับตาและแบมือออกช้าๆ
“ ... ”
“ ขอบคุณสำหรับผ้าเช็ดหน้านะคุณปาร์ค ”
สิ่งที่แบคฮยอนให้คือโหลแก้ว มีลูกกวาดสีสันสดใสอัดแน่นเต็มไปหมด และปาร์คชานยอลคิดว่ามันสดใสพอๆ กับรอยยิ้มของแบคฮยอนเลย...
“ ลูกกวาด? ”
“ หนึ่งเม็ดต่อล้านคำขอบคุณ เป็นไง? เจ๋งดีใช่ป่ะ? ”
คนตัวสูงไม่ตอบแต่รับโหลแก้วลูกกวาดสีสดใสมาถือไว้เอง
“ ว่าแต่ดาวดวงไหนที่เจิดจ้าที่สุดนะ? ”
ดวงตากลมโตมองตามปลายนิ้วของแบคฮยอนชี้ขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่ปลายนิ้วเล็กจะค่อยๆ เลื่อนมาหยุดตรงหน้าของเขา ปาร์คชานยอลสงสัย...แต่แบคฮยอนก็คลี่คลายคำถามให้อย่างรวดเร็ว
“ ...ดวงนี้ ”
“ ปาร์คชานยอลเจิดจ้าที่สุด ”
บางทีถ้าเขามีแฟนคลับ...
มันก็ดีเหมือนกันนะ
ช่างเป็นวันหยุดที่แสนวุ่นวายอะไรแบบนี้นะ คิมแทยอนท่าทางอารมณ์เสียไม่น้อยเลยที่ทริปพักผ่อนของตัวเองพังไม่เป็นท่า มองไปกระจกด้านหลังก็รู้สึกหมั่นไส้ใครบางคนขึ้นมาตะหงิดๆ คุณแรพเปอร์คนดังของจางอี้ชิงทำตัวเหมือนลูกหมาเชื่องๆ ขนาดเธอจงใจจับอี้ชิงมานั่งข้างหน้าคริสยังพยายามแทรกตัวมาตรงกลางเรียกร้องให้อี้ชิงสนใจ
ทีคนอื่นล่ะเก๊กหน้าขรึมใส่จัง
จางอี้ชิงคงมีสิทธิ์พิเศษได้รอยยิ้มอ้อนจากคริสคนเดียวเลยงั้นสิ
...น่าหมั่นไส้ชะมัด!
อาการคันไม้คันมือเกิดขึ้นกะทันหัน คิมแทยอนเกลียดคริสโหมดนี้ มันขัดหูขัดตา ไม่รู้เธออิจฉาคริสหรือหวงอี้ชิงกันแน่ แต่ก็นะ...ถ้าเกิดได้เผลอฟาดคริสจริงๆ คงโดนอี้ชิงงอนหลายวันแน่ๆ
“ จางอี้ชิงครับ...จางอี้ชิง... ”
“ ครับ ”
“ จางอี้ชิงอ่า... ”
“ ครับ? ”
สงสารก็แต่ช่างภาพคนเก่งล่ะนะ หน้าแดงเถือกไปถึงลำคอขัดเขินสุดๆ จางอี้ชิงครางฮื่อในลำคอก่อนจะทำตัวเล็กลีบติดกับเบาะ แต่ไม่ว่าจะทำวิธีไหนคนที่แขนยาวกว่าก็สามารถเอื้อมมาหาได้สบายๆ คิดว่าไม่มีใครเห็นงั้นสิคริสอู๋? ไอ้รอยยิ้มแปลกๆ นั่นมันอะไร!
“ ให้ตายสิคริส! กลับไปนั่งที่ตัวเองซะ มันอันตราย! ”
“ อ่า ใช่ครับคุณคริส ถ้าเกิดเบรกขึ้นมาคุณจะเจ็บตัวได้นะครับ ”
“ เจ็บกายไม่เท่าไหร่หรอกครับ ”
“ … ”
“ แต่กลัวเจ็บใจเพราะกระดูกตรงหน้าอกมันเปราะ ”
อี้ชิงหน้าแดง...หน้าแดงมาก
หน้าแดงเพราะมุกเสี่ยวๆ ของคริสเนี่ยนะ!?
“ คริส!!! เอาเป็นหลังหักแทนอกได้มั้ย!!! ”
“ โอเค โอเค จะกลับไปนั่งที่แล้วน่า ”
รถกลับมาสงบสุขอีกครั้ง เมื่อคริสเลิกหยอดนั่นนี่ใส่ช่างภาพคนเก่ง เมื่ออี้ชิงนั่งเงียบๆ โดยที่ใบหน้าคืนสีเป็นปกติแล้ว เสียงเพลงคลอเบาๆ คริสก็ร้องตามอย่างสบายใจ ภารกิจไปรับตัวคุณนางแบบจากอเมริกาของคิมแทยอนวุ่นวายมากเป็นเท่าตัวตั้งแต่คริสก้าวเข้ามาในรถ
คิมแทยอนเลี้ยวรถเข้ามาจอดในสนามบินอย่างชำนาญ กำชับนักหนาว่าให้คุณแรพเปอร์คนดังของจางอี้ชิงนั่งรอในรถ ตอนแรกอี้ชิงเค้าตั้งใจว่าจะมาเก็บรูปนางแบบดังสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ถูกคริสล็อกตัวเอาไว้โดยใช้ข้อต่อรองน่าสนใจสุดๆ!
“ ถ้าจางอี้ชิงไปกับคิมแทยอนนี่พลาดมากนะ ”
“ จางอี้ชิงต้องไม่มีรูปของผมไปลงอวดคนอื่นในแฟนไซต์แน่ๆ เลย ”
แฟนตัวยงอย่างจางอี้ชิงคงจะปฏิเสธอยู่หรอก!
หลอกเด็กงานถนัดสินะคริสอู๋
คริสคงไม่ยอมปล่อยอี้ชิงมาแน่ๆ คิมแทยอนเลยต้องรับงานหนักคนเดียว หญิงสาวตัวเล็กแต่งตัวกระฉับกระเฉงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่เกสต์ขาออกของผู้โดยสาร เสียงประชาสัมพันธ์สาวบอกว่าผู้โดยสารกำลังทยอยพากันลงมา คิมแทยอนชะเง้อมองได้ไม่นานเท่าไหร่ก็เจอคนที่คุ้นตาพอดี
เจสสิก้าจองสวมแว่นกันแดดอันโตมากพอที่จะปกปิดใบหน้าของตัวเองได้ สไตล์การแต่งตัวดีเยี่ยมสมกับเป็นนางแบบจากอเมริกา เจ้าหล่อนไม่ได้หน้าตาฝรั่งจ๋าแต่ความมั่นใจน่ะใช่เต็มๆ คิมแทยอนเข้าประชิดตัวนางแบบสาวทันทีไร้ความลังเล
“ คุณเจสสิก้าจอง ”
เจ้าหล่อนหันมามองก่อนจะเลิกคิ้วน้อยๆ มองแทยอนตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะชะงักนิ่งไปซะหลายนาทีจนต้องเรียกซ้ำ
“ คุณเจสสิก้าจองใช่มั้ยคะ? ”
“ ...ใช่ ”
“ ฉันคิมแทยอน ตัวแทนจาก EXO PLANET มารับคุณไปที่พักนะคะ ”
“ คิมแทยอน...คุณชื่อคิมแทยอนงั้นเหรอคะ? ”
ท้ายประโยคเจสสิก้าจองขึ้นเสียงสูงคล้ายกับไม่แน่ใจ เจ้าหล่อนดึงแว่นกันแดดลงต่ำแล้วใช้ดวงตาของตัวเองมองคิมแทยอนแปลกๆ นางแบบสาวยิ้มเอียงอายเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหา
“ ขอโทษทีค่ะ ฉันแค่คิดว่า... ”
“ คะ? ”
“ คุณคิมนี่...หน้าคล้ายแฟนในอนาคตของฉันเลยค่ะ ”
“ อะไรนะคะ? ”
“ คิมแทยอน...สเป็กฉันเลยค่ะ! ”
...อืม
จะทำหน้าแบบไหนดี(วะ!)
ชักจะแปลกๆ แล้วสิ...
ภายในรถคันหรูของคิมแทยอนมีแขกคนสำคัญยึดที่นั่งประจำตัวของอี้ชิงไปแล้วล่ะ ไม่โชคดีก็โชคร้ายที่คริสยินยอมพร้อมใจให้ช่างภาพตัวขาวย้ายมานั่งเบาะหลังด้วยกัน เสียงพูดคุยเบาๆ ของอี้ชิงกับคุณแรพเปอร์คนดังกับเสียงหัวเราะคิกคักของนางแบบสาวจากอเมริกาดังไปตลอดทาง เจสสิก้าไม่ใช่คนหยิ่งและถือตัว เธอออกจะเฟรนด์ลี่มากด้วยซ้ำไป ทำเอาอี้ชิงประทับใจตั้งหลายรอบ
“ คุณดูไม่เหมือนที่ใครๆ เขาพูดกันเลยนะครับ ”
เป็นอีกครั้งที่อี้ชิงชื่นชมนางแบบสาวอย่างปลาบปลื้ม
“ ฉันดูเป็นคนแบบไหนเหรอ? ”
“ ตอนนี้คุณน่ารักมากๆ เลยล่ะครับ ดูเป็นกันเอง ”
เจสสิก้าจองหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ เธอทำท่าป้องปากกระซิบกระซาบกับอี้ชิง แต่มันยังดังเกินไปอยู่ดีเมื่อคิมแทยอนยิ้มประหลาดๆ พิลึกชอบกล
“ คุณคิมชอบคนแบบไหนเหรอ? ”
“ อันนี้ต้องถามเจ้าตัวเองนะครับ ”
...ถึงจะเป็นผู้หญิงที่แปลกไปสักหน่อยก็เถอะ
“ คิมแทยอนคงจะชอบแบบน่ารักๆ สดใสนั่นแหละ...ใช่มั้ย? ”
คริสจงใจล้อเลียนหญิงสาวตัวเล็กและได้รับสายตาจิกกัดผ่านกระจกด้านหลัง คิมแทยอนท่าทางจะหัวเสียไม่น้อยทีเดียว ผิดกับนางแบบสาวที่ตอนนี้ยิ้มกริ่มพอใจกับคำตอบ เจสสิก้าจองจ้องหน้าคนขับรถชั่วคราวด้วยสายตาแพรวพราว
“ อันที่จริงใครๆ ก็บอกว่าฉันนิสัยน่ารักนะ แล้วฉันก็เป็นคนสดใสร่าเริงมากด้วย ”
“ จริงครับ! คุณเจสสิก้าน่ารักแล้วก็สดใสมากเลย ”
“ ตรงสเป็กคุณคิมเลยใช่มั้ยคะ! ”
“ ตรงสุดๆ เลยครับ ”
เป็นครั้งแรกที่คิมแทยอนอยากจะให้อี้ชิงนั่งเงียบๆ ไม่ใช่เอาแต่สนับสนุนนางแบบประหลาดคนนี้ ดูสายตาเจ้าหล่อนสิ! มันน่าขนลุกจริงๆ นะ! รอยยิ้มหวานๆ ก็พาลทำให้คิมแทยอนรู้สึกเสียววาบชอบกล คริสเอาแต่ยิ้มขำคอยสนับสนุนเจสสิก้าจองเป็นระยะ
“ ฉันไม่ได้ชอบคนแบบนั้นสักหน่อย ”
“ แล้วคุณคิมชอบคนแบบไหนคะ? ”
“ ... ”
พอเมินเข้าหน่อยเจ้าหล่อนก็ทำหน้าง้ำใส่ยังกับสนิทกันมาสิบปี
“ คุณคิมคง...ไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกนะ ”
“ คิมแทยอนน่ะเหรอครับ? ...กับผู้ชาย? ”
“ ...ไม่มีทาง! ”
เงียบไปเลยเถอะทั้งสามคน!!!
“ แล้วจะทำไม? ”
“ ฉันจะจัดการผู้ชายคนนั้นไม่ให้ได้เกิดเลยคอยดูเถอะ! ”
“ … ”
“ … ”
“ … ”
เงียบกริบ...ก่อนที่บรรยากาศจะแปลกประหลาดไปมากกว่านี้เหมือนคุณแรพเปอร์คนดังจะคิดอะไรออกสักอย่าง ริมฝีปากกระตุกยิ้มร้าย คริสหันขวับมองช่างภาพตัวขาวก่อนจะจงใจใช้สายตาเป็นประกายระยิบระยับมองอีกคนอย่างสื่อความหมาย
“ แล้วจางอี้ชิงล่ะครับ...ชอบผู้ชายหรือผู้หญิง ”
“ ผม... ”
“ ผู้หญิงปล่อยพวกเธอไปเถอะครับ ”
“ หา? ครับ? ”
“ จางอี้ชิงเหมาะกับผู้ชายมากกว่านะ ”
ไม่ต้องเห็นอนาคตก็รู้ได้
...จางอี้ชิงหน้าแดงเถือกประกาศความพ่ายแพ้ในที่สุด
อาเมน
ความคิดเห็น