ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Photos 」krislay chanbaek ft.myeongyeol

    ลำดับตอนที่ #5 : PHOTOS ; 04 { 100 per. }

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 56











    04

     

           บางที...พระเจ้าไม่ต้องใจดีกับจางอี้ชิงคนนี้มากก็ได้นะครับ!

     

                อี้ชิงเขิน อี้ชิงอาย อี้ชิงไม่เป็นตัวของตัวเอง อี้ชิงคงจะแย่...ใช่! ท่าจะแย่มากๆ เลยล่ะ! งานชิ้นใหญ่ถูกโยนลงโครมทับตัวอี้ชิงทั้งที่ยังคงยืนช็อก ช่างภาพตัวขาวหลุบตาลงต่ำกัดริมฝีปากตัวเองอย่างประหม่า ในห้องประชุมเงียบกริบ ทุกคนดูลุ้นกับคำตอบของช่างภาพตัวขาว ทุกสายตากดดัน จะมีก็แต่คนต้นคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเท่านั้นแหละที่ยังยิ้มสบายใจคนเดียว

                ว่าไงครับคุณช่างภาพคนเก่ง?

                “ … ”

                “ ไม่ตอบแสดงว่าตกลง

                “ ทำไมคุณคริสถึงเลือกผมล่ะครับ

                ผมเคยเห็นรูปของผม...

                ดวงตาคมจ้องมองมาอี้ชิงก็ไม่กล้าจะหลบสายตา นอกจากจ้องตอบกล้าๆ กลัวๆ

                ในแฟนไซต์ของแอดมินจางครับ

     

                นี่มัน...

              หน้าอี้ชิงไหม้หมดแล้ว!

     

                “ ก็ได้ครับ...ผม...รับงานนี้ก็ได้

                “ จริงเหรอครับ

                “ จริงครับ

     

                เพราะฉะนั้นเลิกทำให้คนอื่นเค้าอายสักทีเถอะครับ!

     

                ช่างภาพตัวขาวแทบปลิวออกมาจากห้องประชุมหลังจากคิมแทยอนยอมปล่อยให้กลับบ้านได้ อี้ชิงยังคงหน้าแดงหูแดงจากเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้นี้ ครางกับตัวเองอย่างอับอาย ในเมื่อคุณแรพเปอร์คนดังเขารู้มาตั้งนานแล้วว่าอี้ชิงเป็นแอดมินแฟนไซต์อันดับหนึ่งของตัวเอง แล้วที่อี้ชิงลงทุนปลอมตัว แอบถ่ายหลบๆ ซ่อนๆ ล่ะ? นึกแล้วอยากจะเขกหัวตัวเองจริงๆ เลย!

                ต่อไปนี้อี้ชิงจะขอถ่ายรูปของคุณแรพเปอร์คนดังอย่างกล้าหาญ เข้าหาตรงๆ ไม่มีเคอะเขิน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ต่อให้ไม่อยากถ่ายอี้ชิงก็จะบังคับถ่ายให้ดูอย่างงั้นเหรอ?

     

                ...ไม่มีทาง ไม่มีทางแน่ๆ

              แอบถ่ายแบบเดิมน่ะดีแล้ว แค่ต้องปลอมตัวเพิ่มเท่านั้นเองเนอะ

     

                แขนอี้ชิงถูกดึงเอาไว้ก่อนที่จะทันได้ก้าวต่อ ช่างภาพตัวขาวหันขวับมามองการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตื่นๆ และยิ่งตื่นตกใจมากไปอีกเมื่อเห็นหน้าคนทำเต็มสองตา คุณแรพเปอร์คนดังส่งยิ้มหวานให้อี้ชิงก็หน้าแดงเถือกไปหมด

                จะรีบไปไหนล่ะครับจางอี้ชิง

                “ กลับบ้านครับ

                “ เย็นชาจังนะคนเรา เมื่อวันก่อนยังบอกว่าไม่มีใครสู้ผมได้เลยสักคน มาวันนี้ลืมไปแล้วงั้นสิ ท่าทางจะลืมผมไปแล้วสินะ จางอี้ชิงหาคนที่ดีเท่าผมได้แล้วรึไงครับ

                คริสช่างตัดพ้อได้น่ารักเกินกว่าผู้ชายตัวโตๆ คนนึงจะทำได้ พออี้ชิงเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตกว่าก็ทำปากยื่นใส่ ไม่อยากจะพูดหรอกนะ...แต่คริสทำแล้วมันน่ารักมาก ไอ้ท่าทางยกมือขึ้นกอดอกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นนี่ก็ทำได้น่าเอ็นดูจนอี้ชิงต้องยิ้มกว้าง

                คุณคริสงอนเหรอครับ?

                “ เปล่าครับ ผมรู้ว่ายังไงจางอี้ชิงคงไม่ง้อ

     

                แน่ะ มีประชดกันด้วยนะคนเรา

     

                แล้วถ้าผมง้อล่ะครับ?

                “ ผมก็หายงอน

                “ งั้น...ผมจะง้อแล้วนะครับ

                ตามตรงเลยนะ อี้ชิงไม่รู้เลยว่าจะง้อคุณแรพเปอร์คนดังยังไงดี ในตึกค่อนข้างปลอดจากสายตาของคนข้างนอกเลยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาเห็นแล้วเกิดเป็นเรื่องใหญ่ ช่างภาพตัวขาวถึงยอมขยับไปใกล้ร่างสูง กระซิบเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน

                ผมจะรักคุณให้มากขึ้นครับ

                “ อะไรนะครับ?

                ผมจะรักคุณให้มากกว่าเดิม...

                “ จริงนะ?

                ในฐานะแฟนคลับตัวยงเลยครับ! ”

                ใบหน้าของคริสยิ้มแย้มราวกับพอใจกับการง้อของช่างภาพตัวขาวซะเหลือเกิน ปล่อยให้อี้ชิงขยับตัวออกไปยืนเขิน ใบหน้าหวานละมุนขึ้นสีจัด อี้ชิงไม่กล้ามองคริสเลยเอาแต่ก้มมองปลายเท้าตัวเอง หัวใจมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมากองข้างนอก อาการชักจะหนักเกินไปแล้ว

                แฟนคลับผมมีเยอะแล้วล่ะ

                “ ครับ?

                “ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั้ยครับ

                อี้ชิงกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม มองอีกคนผ่านดวงตาของตัวเอง มองรอยยิ้มของคุณแรพเปอร์คนดังในระยะใกล้ให้หนำใจ อี้ชิงควรจะขอถ่ายรูปคุณแรพเปอร์คนดังสักสองสามรูปดีมั้ยนะ?

                มีคนเคยบอกจางอี้ชิงมั้ยครับว่าตัวเองน่ะน่ารัก

                “ ...ไม่...มี...

                ถ้ายังงั้นผมจะบอกให้จางอี้ชิงรู้ตัวไว้ก่อนนะครับ

              “ จะได้พัฒนาตัวเองให้น่ารักกว่าเดิม

               

                อี้ชิงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งบนม้าหมุน

              และกระโดดลงมาเหยียบก้อนเมฆ

     

                คุณคริส...จะแกล้งให้ผมเขินใช่มั้ยครับ

                “ แล้วเขินรึเปล่าครับ

                “ เขินครับ

               

                จางอี้ชิงพัฒนาตัวเองน่ารักกว่าเดิมได้เลเวลสองแล้วนะเนี่ย

                            














     

                “ เฮ้ยอีซองยอล! หน้ามึงไปโดนอะไรมา! ”

                รอยช้ำตรงมุมปากกับโหนกแก้มที่เคยเป็นสีชมพูเลือดฝาดตอนนี้กลับม่วงช้ำดูน่ากลัว แบคฮยอนเบะปาก ค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วของตัวเองแตะเบาๆ บนรอยช้ำของเพื่อนรัก แค่ได้ยินเสียงร้องซี๊ดก็เจ็บแทนแล้ว

                อู้หู แหกหมดเลยมึง

                “ แหกพ่อง! ช้ำเฉยๆ เว้ย! ซี๊ดด เจ็บชิบ

                “ แล้วตกลงไปทำอะไรมา?

                “ เคลียร์กับไอ้ศัตรูเก่ามา มันหยามกู ลูกผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้! ”

                มันเป็นคติประจำใจของแบคฮยอนและอีซองยอลเองล่ะ ท่าทางไอ้ศัตรูเก่าของอีซองซอลจะเก่งเอาเรื่องเลยด้วยอีซองซอลถึงได้หน้าช้ำปากแตกกลับมาแบบนี้ แล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันไม่ให้หม่าม๊าของมันทำแผลมาจากบ้าน ทำไมต้องมาใช้แบคฮยอนด้วย!

                “ นี่ๆ แล้วมันหยามมึงว่ายังไงวะ แล้วมึงชกมันป้ะ?

                “ เออดิแม่ง! กูก็ล่อมันจนหน้าแหก แต่หม่าม๊าอ่ะดิไอ้แบค...แม่งเข้าข้างมัน พอหม่าม๊าเงื้อมือจะตีกูนะกูงี้วิ่งหนีแทบไม่ทัน ดันซวยสะดุดขาตัวเองล้มหน้าทิ่มขอบโต๊ะแล้วเอาหน้ากระแทกพื้นอีก...

     

                อ่อ...สรุปมันไม่ได้ตัวต่อตัวกับไอ้ศัตรูเก่าของมันแบบลูกผู้ชาย

              แต่ดันสะดุดขาหัวเองหน้าฟาดพื้นนี่เอง

              ไม่น่าเกิดมาเลยจริงๆ

     

                แล้วแผลบนหน้ามึง?

                “ กูบอกว่าล้มหน้าฟาดไงสัด! ”

                “ ถุย! ”

               

                หลังจากทะเลาะตบตีกับอีซองยอลจนสาแก่ใจแล้วแบคฮยอนก็ต้องแวบมาตรงหน้าตึก EXO PLANET มาดักรอคุณปาร์ค กล้องพร้อมหน้าตาทรงผมพร้อม แบคฮยอนไม่รู้ว่าปาร์คชานยอลจะซ้อมเสร็จกี่โมงก็เลยได้แต่เดินเล่นไปทั่ว ซื้อขนมมากินบ้าง นั่งดูดน้ำกัดหลอดไปพลางๆ บ้าง

                หน้าจอโทรศัพท์บอกว่าตอนี้แบคฮยอนรอปาร์คชานยอลมาสามชั่วโมงได้แล้ว ประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมกับร่างสูงเดินออกมาแบคฮยอนก็กดชัตเตอร์รัวไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ ปาร์คชานยอลหันขวับมามองอย่างตกใจก่อนจะหัวเราะเหอะในลำคอ

                นายอีกแล้วเหรอเนี่ย

                “ ช่ายยยย พยอนแบคฮยอนเองแหละ

                “ เหอะ แล้วมาทำไม? อย่าบอกนะว่ามาตามถ่ายรูปคนอื่นเขา

                แบคฮยอนไม่ตอบแต่ดีดนิ้วดังเป๊าะ ใบหน้าจิ้มลิ้มลอยไปลอยมาอย่างน่าหมั่นไส้ แบคฮยอนเดินตามหลังปาร์คชานยอลไปเรื่อยๆ เห็นแผ่นหลังกว้างของอีกคนแล้วก็อดยกกล้องขึ้นมาถ่ายไม่ได้ ที่จริงความฝันของแบคฮยอนก็อยากจะเป็นผู้ชายเท่ๆ กับเค้าบ้าง เวลาตามถ่ายรูปใครจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนพี่อี้ชิง แต่มันก็แค่ตลกร้าย...แบคฮยอนไม่โตมาตั้งสามปีแล้ว

                ที่จริงไม่ได้มาแค่ถ่ายรูปหรอก

                “ แล้วมาทำไม?

                “ เอาผ้าเช็ดหน้ามาคืน

                ปาร์คชานยอลหยุดเดิน ดวงตากลมโตแต่แฝงความดุดันตวัดกลับมามองแล้วแบคฮยอนก็ใช้ดวงตาแป๋วๆ ของตัวเองจ้องกลับ ผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่ถูกยื่นให้คนตัวสูง

                ผ้าเช็ดหน้าฉันอยู่ไหน

                “ อยู่ที่บ้านฉันเองแหละ จะเก็บไว้อย่างดีเลย! ”

                คนตัวสูงยักไหล่ก่อนจะยอมรับผ้าเช็ดหน้าจากแบคฮยอนเก็บใส่กระเป๋ากางเกง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แบคฮยอนกลับบ้านค่ำ ปล่อยเวลาผ่านไปเอื่อยเฉื่อยด้วยการเดินตามหลังปาร์คชานยอลทีละก้าวสองก้าว จ้องมองแผ่นหลังอีกคนอย่างผ่อนคลาย แล้วก็ยกกล้องขึ้นถ่ายเสี้ยวใบหน้าของปาร์คชานยอลบ้าง

               

                แบคฮยอนเริ่มปลื้มคุณปาร์คของตัวเองทีละนิด

              เพราะคุณปาร์คเท่...ขนาดมองจากข้างหลังยังเท่

               

                คุณปาร์คเหนื่อยป้ะ ฉันเห็นคุณปาร์คซ้อมจนค่ำทุกวันเลย ไหนจะมีเรียนอีก

                “ ก็เหตุผลเดียวกับนายที่มาตามฉันนั่นแหละ

                “ งั้นแสดงว่า ไม่ - เหนื่อย - เลยยยยย

                “ ไม่เหนื่อยจริงเหรอ?

                ปาร์คชานยอลย้อนถามน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ไอ้การพูดเน้นทีละคำของแบคฮยอนมันก็น่ารักดีอยู่หรอก ถึงแบคฮยอนจะเดินขาลากแถมยังโซเซไปมาเหมือนซอมบี้ตามหลังเขาแทบทุกเย็นแต่ดวงตาเรียวรีคู่นั้นกลับเป็นประกายระยิบระยับอยู่เสมอ เขาถึงเชื่อว่าแบคฮยอนไม่เหนื่อยอย่างที่เจ้าตัวว่า

               

              แบคฮยอนสดใส มองแล้วก็รู้สึกสดชื่น

              ถ้าไม่ชอบทำหน้าตากวนๆ ก็คงจะน่ารักมากทีเดียวล่ะ

     

                ที่จริงก็เหนื่อยแหละ...

                “ แต่พี่อี้ชิงเคยบอกว่าถ้าเราชอบอะไรสักอย่าง ต่อให้ต้องเหนื่อยต้องพยายามเราก็จะยอมทำ

                “ นายชอบฉันรึไง?

                แบคฮยอนเหมือนจะคิดออกแต่กลับไม่ยอมบอกให้ปาร์คชานยอลรู้ชัดเจน

                ฉันชอบถ่ายรูป ฉันอยากหยุดเวลาได้เหมือนพี่อี้ชิง

                “ ...

                “ และเพราะต้องมีแรงบันดาลใจฉันถึงเลือกคุณปาร์ค ถึงจะกะทันหันไปหน่อยก็เถอะ

                “ แบบนี้นี่เอง...

                คุณปาร์คไม่คิดบ้างเหรอว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้นะ! ”

               

              พรหมลิขิต...?

              แบคฮยอนกำลังสารภาพรักกับเขารึไง

     

                แค่มองคุณปาร์คฉันก็อยากถ่ายรูปแล้ว มันต้องเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ

                “ ดูหนังมากไปป่ะเนี่ย พรหมลิขิตมีที่ไหน

                “ พี่อี้ชิงบอกว่าที่ได้เจอกับคุณแรพเปอร์คนนั้นก็เป็นเพราะพรหมลิขิตเหมือนกัน

                “ ห๊ะ?

                คนบนฟ้าอาจจะอยากให้เราเจอกันก็ได้นะ

                แบคฮยอนยิ้ม...ยิ้มที่ปาร์คชานยอลได้แต่นิ่งและจ้องมอง มันเป็นรอยยิ้มแสนใสซื่อและเต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน แบคฮยอนเหมือนเด็ก แบคฮยอนยังไร้เดียงสา ปาร์คชานยอลไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอจ้องมองอีกคนไปนานเท่าไหร่จนกระทั่งถูกสะกิดตรงแขน

                ดูท้องฟ้านั่นสิ...

                “ ...

                “ มีดวงดาวเป็นพันๆ ล้านๆ ดวงเลยใช่มั้ยล่ะ?

                “ ...ก็ใช่

                “ แต่มีอยู่หนึ่งดวงที่พิเศษและเจิดจ้ากว่าใครๆ เลยนะ

                แบคฮยอนยิ้มกว้างตอนวาดมือบนท้องฟ้าราวกับกำลังเลือกสรรดวงดาวที่เจิดจ้าที่สุด

               

                ...มือเล็กอบอุ่น

              ปาร์คชานยอลกระชับมือตอบกลับโดยไม่รู้ตัว

     

                หลับตาหน่อย

                “ ทำไมต้องหลับตาด้วย

                “ แบมือ

               

                หลับตาและแบมือออกช้าๆ

               

                ...

                “ ขอบคุณสำหรับผ้าเช็ดหน้านะคุณปาร์ค

                สิ่งที่แบคฮยอนให้คือโหลแก้ว  มีลูกกวาดสีสันสดใสอัดแน่นเต็มไปหมด และปาร์คชานยอลคิดว่ามันสดใสพอๆ กับรอยยิ้มของแบคฮยอนเลย...

                ลูกกวาด?

                “ หนึ่งเม็ดต่อล้านคำขอบคุณ เป็นไง? เจ๋งดีใช่ป่ะ?

                คนตัวสูงไม่ตอบแต่รับโหลแก้วลูกกวาดสีสดใสมาถือไว้เอง

                ว่าแต่ดาวดวงไหนที่เจิดจ้าที่สุดนะ?

                ดวงตากลมโตมองตามปลายนิ้วของแบคฮยอนชี้ขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่ปลายนิ้วเล็กจะค่อยๆ เลื่อนมาหยุดตรงหน้าของเขา ปาร์คชานยอลสงสัย...แต่แบคฮยอนก็คลี่คลายคำถามให้อย่างรวดเร็ว

                ...ดวงนี้

              “ ปาร์คชานยอลเจิดจ้าที่สุด

     

              บางทีถ้าเขามีแฟนคลับ...

              มันก็ดีเหมือนกันนะ

     









     

                ช่างเป็นวันหยุดที่แสนวุ่นวายอะไรแบบนี้นะ คิมแทยอนท่าทางอารมณ์เสียไม่น้อยเลยที่ทริปพักผ่อนของตัวเองพังไม่เป็นท่า มองไปกระจกด้านหลังก็รู้สึกหมั่นไส้ใครบางคนขึ้นมาตะหงิดๆ คุณแรพเปอร์คนดังของจางอี้ชิงทำตัวเหมือนลูกหมาเชื่องๆ ขนาดเธอจงใจจับอี้ชิงมานั่งข้างหน้าคริสยังพยายามแทรกตัวมาตรงกลางเรียกร้องให้อี้ชิงสนใจ

     

              ทีคนอื่นล่ะเก๊กหน้าขรึมใส่จัง

              จางอี้ชิงคงมีสิทธิ์พิเศษได้รอยยิ้มอ้อนจากคริสคนเดียวเลยงั้นสิ

              ...น่าหมั่นไส้ชะมัด!

     

                อาการคันไม้คันมือเกิดขึ้นกะทันหัน คิมแทยอนเกลียดคริสโหมดนี้ มันขัดหูขัดตา ไม่รู้เธออิจฉาคริสหรือหวงอี้ชิงกันแน่ แต่ก็นะ...ถ้าเกิดได้เผลอฟาดคริสจริงๆ คงโดนอี้ชิงงอนหลายวันแน่ๆ

                “ จางอี้ชิงครับ...จางอี้ชิง...

                “ ครับ

                “ จางอี้ชิงอ่า...

                “ ครับ?

                สงสารก็แต่ช่างภาพคนเก่งล่ะนะ หน้าแดงเถือกไปถึงลำคอขัดเขินสุดๆ จางอี้ชิงครางฮื่อในลำคอก่อนจะทำตัวเล็กลีบติดกับเบาะ แต่ไม่ว่าจะทำวิธีไหนคนที่แขนยาวกว่าก็สามารถเอื้อมมาหาได้สบายๆ คิดว่าไม่มีใครเห็นงั้นสิคริสอู๋? ไอ้รอยยิ้มแปลกๆ นั่นมันอะไร!

                “ ให้ตายสิคริส! กลับไปนั่งที่ตัวเองซะ มันอันตราย! ”

                “ อ่า ใช่ครับคุณคริส ถ้าเกิดเบรกขึ้นมาคุณจะเจ็บตัวได้นะครับ

                “ เจ็บกายไม่เท่าไหร่หรอกครับ

                “ … ”

                “ แต่กลัวเจ็บใจเพราะกระดูกตรงหน้าอกมันเปราะ

               

              อี้ชิงหน้าแดง...หน้าแดงมาก

              หน้าแดงเพราะมุกเสี่ยวๆ ของคริสเนี่ยนะ!?

     

                “ คริส!!! เอาเป็นหลังหักแทนอกได้มั้ย!!! ”

                “ โอเค โอเค จะกลับไปนั่งที่แล้วน่า

     

                รถกลับมาสงบสุขอีกครั้ง เมื่อคริสเลิกหยอดนั่นนี่ใส่ช่างภาพคนเก่ง เมื่ออี้ชิงนั่งเงียบๆ โดยที่ใบหน้าคืนสีเป็นปกติแล้ว เสียงเพลงคลอเบาๆ คริสก็ร้องตามอย่างสบายใจ ภารกิจไปรับตัวคุณนางแบบจากอเมริกาของคิมแทยอนวุ่นวายมากเป็นเท่าตัวตั้งแต่คริสก้าวเข้ามาในรถ

                คิมแทยอนเลี้ยวรถเข้ามาจอดในสนามบินอย่างชำนาญ กำชับนักหนาว่าให้คุณแรพเปอร์คนดังของจางอี้ชิงนั่งรอในรถ ตอนแรกอี้ชิงเค้าตั้งใจว่าจะมาเก็บรูปนางแบบดังสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ถูกคริสล็อกตัวเอาไว้โดยใช้ข้อต่อรองน่าสนใจสุดๆ!

                “ ถ้าจางอี้ชิงไปกับคิมแทยอนนี่พลาดมากนะ

                “ จางอี้ชิงต้องไม่มีรูปของผมไปลงอวดคนอื่นในแฟนไซต์แน่ๆ เลย

     

                แฟนตัวยงอย่างจางอี้ชิงคงจะปฏิเสธอยู่หรอก!

              หลอกเด็กงานถนัดสินะคริสอู๋

     

                คริสคงไม่ยอมปล่อยอี้ชิงมาแน่ๆ คิมแทยอนเลยต้องรับงานหนักคนเดียว หญิงสาวตัวเล็กแต่งตัวกระฉับกระเฉงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่เกสต์ขาออกของผู้โดยสาร เสียงประชาสัมพันธ์สาวบอกว่าผู้โดยสารกำลังทยอยพากันลงมา คิมแทยอนชะเง้อมองได้ไม่นานเท่าไหร่ก็เจอคนที่คุ้นตาพอดี

                เจสสิก้าจองสวมแว่นกันแดดอันโตมากพอที่จะปกปิดใบหน้าของตัวเองได้ สไตล์การแต่งตัวดีเยี่ยมสมกับเป็นนางแบบจากอเมริกา เจ้าหล่อนไม่ได้หน้าตาฝรั่งจ๋าแต่ความมั่นใจน่ะใช่เต็มๆ คิมแทยอนเข้าประชิดตัวนางแบบสาวทันทีไร้ความลังเล

                คุณเจสสิก้าจอง

                เจ้าหล่อนหันมามองก่อนจะเลิกคิ้วน้อยๆ มองแทยอนตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะชะงักนิ่งไปซะหลายนาทีจนต้องเรียกซ้ำ

                คุณเจสสิก้าจองใช่มั้ยคะ?

                “ ...ใช่

                “ ฉันคิมแทยอน ตัวแทนจาก EXO PLANET มารับคุณไปที่พักนะคะ

                “ คิมแทยอน...คุณชื่อคิมแทยอนงั้นเหรอคะ?

                ท้ายประโยคเจสสิก้าจองขึ้นเสียงสูงคล้ายกับไม่แน่ใจ เจ้าหล่อนดึงแว่นกันแดดลงต่ำแล้วใช้ดวงตาของตัวเองมองคิมแทยอนแปลกๆ นางแบบสาวยิ้มเอียงอายเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหา

                ขอโทษทีค่ะ ฉันแค่คิดว่า...

                “ คะ?

                คุณคิมนี่...หน้าคล้ายแฟนในอนาคตของฉันเลยค่ะ

                “ อะไรนะคะ?

                คิมแทยอน...สเป็กฉันเลยค่ะ! ”

     

                ...อืม

              จะทำหน้าแบบไหนดี(วะ!)         











     

              ชักจะแปลกๆ แล้วสิ...

               

                ภายในรถคันหรูของคิมแทยอนมีแขกคนสำคัญยึดที่นั่งประจำตัวของอี้ชิงไปแล้วล่ะ ไม่โชคดีก็โชคร้ายที่คริสยินยอมพร้อมใจให้ช่างภาพตัวขาวย้ายมานั่งเบาะหลังด้วยกัน เสียงพูดคุยเบาๆ ของอี้ชิงกับคุณแรพเปอร์คนดังกับเสียงหัวเราะคิกคักของนางแบบสาวจากอเมริกาดังไปตลอดทาง เจสสิก้าไม่ใช่คนหยิ่งและถือตัว เธอออกจะเฟรนด์ลี่มากด้วยซ้ำไป ทำเอาอี้ชิงประทับใจตั้งหลายรอบ

                คุณดูไม่เหมือนที่ใครๆ เขาพูดกันเลยนะครับ

                เป็นอีกครั้งที่อี้ชิงชื่นชมนางแบบสาวอย่างปลาบปลื้ม

                ฉันดูเป็นคนแบบไหนเหรอ?

                “ ตอนนี้คุณน่ารักมากๆ เลยล่ะครับ ดูเป็นกันเอง

                เจสสิก้าจองหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ เธอทำท่าป้องปากกระซิบกระซาบกับอี้ชิง แต่มันยังดังเกินไปอยู่ดีเมื่อคิมแทยอนยิ้มประหลาดๆ พิลึกชอบกล

                คุณคิมชอบคนแบบไหนเหรอ?

                “ อันนี้ต้องถามเจ้าตัวเองนะครับ

               

                ...ถึงจะเป็นผู้หญิงที่แปลกไปสักหน่อยก็เถอะ

                “ คิมแทยอนคงจะชอบแบบน่ารักๆ สดใสนั่นแหละ...ใช่มั้ย?

                คริสจงใจล้อเลียนหญิงสาวตัวเล็กและได้รับสายตาจิกกัดผ่านกระจกด้านหลัง คิมแทยอนท่าทางจะหัวเสียไม่น้อยทีเดียว ผิดกับนางแบบสาวที่ตอนนี้ยิ้มกริ่มพอใจกับคำตอบ เจสสิก้าจองจ้องหน้าคนขับรถชั่วคราวด้วยสายตาแพรวพราว

                อันที่จริงใครๆ ก็บอกว่าฉันนิสัยน่ารักนะ แล้วฉันก็เป็นคนสดใสร่าเริงมากด้วย

                “ จริงครับ! คุณเจสสิก้าน่ารักแล้วก็สดใสมากเลย

                “ ตรงสเป็กคุณคิมเลยใช่มั้ยคะ! ”

                “ ตรงสุดๆ เลยครับ

                เป็นครั้งแรกที่คิมแทยอนอยากจะให้อี้ชิงนั่งเงียบๆ ไม่ใช่เอาแต่สนับสนุนนางแบบประหลาดคนนี้ ดูสายตาเจ้าหล่อนสิ! มันน่าขนลุกจริงๆ นะ! รอยยิ้มหวานๆ ก็พาลทำให้คิมแทยอนรู้สึกเสียววาบชอบกล คริสเอาแต่ยิ้มขำคอยสนับสนุนเจสสิก้าจองเป็นระยะ

                ฉันไม่ได้ชอบคนแบบนั้นสักหน่อย

                “ แล้วคุณคิมชอบคนแบบไหนคะ?

                “ ...

                พอเมินเข้าหน่อยเจ้าหล่อนก็ทำหน้าง้ำใส่ยังกับสนิทกันมาสิบปี

                คุณคิมคง...ไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกนะ

                “ คิมแทยอนน่ะเหรอครับ? ...กับผู้ชาย?

                “ ...ไม่มีทาง! ”

     

                เงียบไปเลยเถอะทั้งสามคน!!!

     

                “ แล้วจะทำไม?

                “ ฉันจะจัดการผู้ชายคนนั้นไม่ให้ได้เกิดเลยคอยดูเถอะ! ”

     

                “ … ”

                “ … ”

                “ … ”

     

                เงียบกริบ...ก่อนที่บรรยากาศจะแปลกประหลาดไปมากกว่านี้เหมือนคุณแรพเปอร์คนดังจะคิดอะไรออกสักอย่าง ริมฝีปากกระตุกยิ้มร้าย คริสหันขวับมองช่างภาพตัวขาวก่อนจะจงใจใช้สายตาเป็นประกายระยิบระยับมองอีกคนอย่างสื่อความหมาย

                แล้วจางอี้ชิงล่ะครับ...ชอบผู้ชายหรือผู้หญิง

                “ ผม...

                ผู้หญิงปล่อยพวกเธอไปเถอะครับ

                “ หา? ครับ?

                จางอี้ชิงเหมาะกับผู้ชายมากกว่านะ

     

                ไม่ต้องเห็นอนาคตก็รู้ได้

              ...จางอี้ชิงหน้าแดงเถือกประกาศความพ่ายแพ้ในที่สุด

              อาเมน

                











     

    :) Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×