คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2
My Fanboy, My Darling
Chapter 2
เสียงไขประตูเข้ามา ร่างบางที่นอนไม่ค่อยหลับจึงลุกออกไปดู ชานยอลเดินตัวเซนิดๆเข้าห้องมา กลิ่นแอลกอฮอล์ปนกับกลิ่นน้ำหอมจางๆเมื่อเดินเข้ามาใกล้แบคฮยอน คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน
นี่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมที่ชานยอลใช้ประจำ ไม่ใช่ขวดน้ำหอมที่เขาเป็นคนซื้อให้
“เดี๋ยว”มือขาวไปไวตามคำพูดสะกิดร่างสูงที่นอนอยู่ห้องติดกัน “ไหนบอกว่าไปไม่นาน”
“ผมไปส่งพี่ลู่หานมา แล้วก็ทำธุระส่วนตัวนิดหน่อย”เสียงใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงแข็ง ทำไมต้องตามจับผิดกันหนักหนา เขาแค่ไปส่งรุ่นพี่ถึงห้อง คอยดูแลให้หลับสนิทแล้วรีบกลับมา “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม งั้นขอตัวก่อนนะ” ร่างสูงดึงมือขาวที่รั้งตัวออกก่อนเดินเข้าห้องไป
ร่างบางปิดประตูห้องทรุดลงอยู่ข้างประตู ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันกลั้นสะอื้น น้ำใสไหลลงทันที่ที่ชานยอลเดินเข้าห้องส่วนตัวไป
เราเลือกให้มันเป็นแบบนี้เอง นายเลือกเองนะแบคฮยอน เรื่องแค่นี้เองนายต้องทนให้ได้นะ
คยองซูตื่นตั้งแต่แบคฮยอนมาปลุกรอบแรก ร่างเล็กอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนเดินอมยิ้มเข้าห้องครัวไปทำอาหารเช้าให้พี่ร่วมวงและผู้จัดการกินก่อนไปทำงานด้วยความเคยชิน พี่แบคฮยอนทำเก่งทุกอย่างยกเว้นทำอาหารนี่ ส่วนเขาก็ชอบทำอาหารสุดๆไปเลย ถ้าไม่เหนื่อยมากนัก เขาก็อยากทำให้พี่ๆที่เขารักเหมือนครอบครัวได้กิน
ออมเล็ตสีเหลืองน่ากิน ขนมปังทาเนยกลิ่นหอม พร้อมกาแฟสองแก้วข้างกับโกโก้รสเข้มถูกตั้งบนโต๊ะ คยองซูเดินไปเรียกแบคฮยอนที่กำลังคุยงานกับทางบริษัทด้วยน้ำเสียงเครียดๆ มือเล็กทำท่าทางบอกให้ไปกินข้าวเช้า แบคฮยอนพยักหน้ารับรู้ ร่างเล็กจึงมุ่งหน้าไปห้องพี่ชายร่วมวงที่ยังไม่ออกมาจากห้องนอน
“พี่ชานยอลครับ อาหารเช้าเสร็จแล้วครับ รีบออกมานะครับ วันนี้มีอัดรายการล่วงหน้าเดี๋ยวเราจะไปสายกัน”มือเล็กเคาะประตูเรียก ร่างสูงเดินออกมาจากห้อง มือใหญ่ขยี้หัวเนื่องจากอาการมึนๆค้างจากกเมื่อคืน ผมสีน้ำตาลฟู เสื้อเชิ้ตสีเทาที่ใส่ออกไปตั้งแต่ดึกยังไม่ถูกเปลี่ยน คยองซูย่นจมูกเมื่อได้กลิ่น
“นี่พี่ไปกินเหล้ามาเหรอเนี่ย.. ไหวไหม วันนี้มีออมเล็ตใส่หัวหอมเยอะ กับกาแฟดำเข้มๆให้พี่ด้วย”ร่างบางเข้ามาเกาะแขนอ้อนพี่ชายร่วมวงอย่างเคยชินทำให้ชานยอลที่อารมณ์ขุ่นมัวจากเมื่อคืนเกิดรอยยิ้ม
ชานยอลรับปากกับคยองซูรีบไปอาบน้ำ ร่างเล็กจึงเข้าไปในห้องครัวตั้งใจจัดการอาหารเช้าล่วงหน้าพี่ร่วมวงไปก่อน คยองซูเลือกนั่งตรงข้ามกับผู้จัดการที่ดวงตาเรียวสวยที่มักถูกประดับด้วยอายไลน์เนอร์วันนี้กลับดูแดงและบวมราวกับนัยน์ตาสวยถูกใช้งานมาทั้งคืน
“พี่แบคฮยอน เมื่อคืนนอนน้อยไปเหรอครับ ตาบวมเลย”
“อืม ช่วงนี้พี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ”แบคฮยอนเออออไปกับคยองซู ไม่อยากให้เด็กที่ดูแลต้องสงสัย
“งั้นพี่ต้องงดกาแฟหน่อยนะครับ มันอาจจะทำให้พี่นอนไม่หลับ”คยองซูสลับเปลี่ยนเอาแก้วโกโก้ของตัวเองให้กับผู้จัดการวงก่อนจะพร่ำบ่นว่าจะไม่ดื้อไม่ซน จะคอยช่วยดูแลชานยอลแทนด้วย ความสดใสของคยองซูทำให้แบคฮยอนขอบคุณที่ท่านประธานเลือกให้เขามาดูแลวง EXO KNIGHT ที่รักเขาเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆตั้งแต่ครั้งแรกที่เขามาทำงาน
‘สวัสดีครับ แบคฮยอนครับจะมาเป็นผู้จัดการของวง EXO KNIGHT’
‘พี่แบคฮยอนจะมาดูแลผมกับพี่ชานยอลเหรอครับ’ ดวงตากลมโตร่าเริงส่งแววตาตื่นเต้นมาให้ แบคฮยอนพยักหน้ารับพร้อมส่งรอยยิ้มหวานไปให้
‘เย้ เท่ากับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ ตอนนี้คยองซูก็จะมีพี่ชายสองคนแล้ว’ ร่างเล็กคว้ามือของพี่ชายร่วมวงทับกับมือของผู้จัดการคนสวยก่อนจะเอามือตัวเองทาบทับไป
‘We are One มาทำให้ความฝันเราเป็นจริงกันเถอะ’ คนร่าเริงตะโกนลั่นห้องซ้อม แบคฮยอนอมยิ้ม ก่อนจะหันมาหาอีกคนที่ต้องดูแล รอยยิ้มบางส่งมาให้จากปากสวย ร่างสูงส่งมือยื่นมาตรงหน้า
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับแบคฮยอน”
“ไปแย่งพี่แบคฮยอนทำงาน จะมาเป็นผู้จัดการแทนแล้วหรือเรา ทำทุกอย่างจนพี่เขาไม่ต้องทำอะไรแล้ว”มือใหญ่ขยี้หัวร่างบางที่กระตือรือร้นหาของบำรุงมาให้แบคฮยอนกิน ดวงตาเรียวเงยหน้ามองชานยอล ร่างสูงนั่งลงกินอาหารเช้า บรรยากาศในห้องครัวดูอึดอัดขึ้นมาทันที แบคฮยอนพึมพำขอตัวไปเตรียมชุดอะไรให้เรียบร้อย มีเพียงแววตาของร่างสูงมองตามไป
บรรยากาศอึมครึมตามมาจากหอพักจนถึงตึกสถานีโทรทัศน์เตรียมอัดเพลง คยองซูและชานยอลถูกโคดี้เร่งให้แต่งตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีคิวอัดเป็นกลุ่มแรกๆ ของวัน
“เป็นอะไรไปเนี่ย ชานยอลเงียบเชียว”วิตามินร่าเริงของวงที่ออกมาแนวเงียบกริบต่างจากทุกวันทำให้โคดี้ที่คอยดูแลอดที่จะทักไม่ได้ ก็ปกติแต่งตัวของ EXO Knight จะมีเสียงของร่างสูงคอยพูดชวนคุยอย่างร่าเริง โดยมีนักร้องนำอย่างคยองซูมาเป็นลูกคู่คอยหัวเราะ
“เมื่อคืนผมนอนน้อยอ่ะครับ ไม่ค่อยมีแรงเลย แต่เพราะนูนาทักนะ ผมเนี่ยมีพลังขึ้นมาเลย หายเพลียเลย”เสียงใหญ่อ้อนนูนา จนบรรดาพี่นูนากลับมาหัวเราะคนขี้อ้อนที่เหมือนจะมีพลังกลับมาอีกครั้ง
“อ้าวยุ่งอยู่หรอ”เจ้าของผมสีบลอนด์ผู้ดำรงตำแหน่งพิธีกรของรายการโผล่มาเพียงครึ่งหน้าให้เห็นนัยน์ตากลมสวย มือใหญ่โบกให้เข้ามาเพราะแต่งหน้าใกล้เสร็จแล้ว ร่างเล็กของเสี่ยวลู่หานจึงมาจับจอที่นั่งข้างแบคฮยอนที่กำลังนั่งทำงานอยู่
“พี่เข้ามากวนนายหรือเปล่าเนี่ย”ลู่หานในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ดูสดใสด้วยปกเสื้อสีชมพูกับกางเกงสกินนียีนส์ทักด้วยเสียงกังวล เมื่อชานยอลที่แต่งหน้าเสร็จแล้วมาจับจองนั่งโซฟาข้างๆลู่หาน
“เปล่าสักหน่อย อีกอย่างนะเมื่อคืนต่างหากที่เรียกว่ากวน”ชานยอลพูดหน้าตาย ลู่หานที่โดนแซวก็หมั่นไส้จนเอามือฟาดไปที่ไหล่หนาสองสามที
“ถ้ากวนแล้วมาทำไมเล่า”
“ก็ผมรักพี่ไง~~~”ใบหน้าหล่อทำหน้าอ้อนรุ่นพี่ในสังกัดด้วยการซบลงกับแขนเรียว เสียงใหญ่ที่พยายามดัดเสียงให้ดูน่ารัก เรียกเสียงแซวมาจากโคดี้รวมถึงคยองซูที่ส่งสายตาแซวผ่านกระจกมา
“ฉันก็รักนายนะ ชานยอลบ๊อง”ลู่หานหัวเราะกับนิสัยมองโลกในแง่ดีและขี้เล่นของรุ่นน้อง โดยไม่ทันได้เห็นสายตาของคนที่นั่งข้างกันที่กำลังเม้มปากแน่น
“เดี๋ยวมานะ”เสียงหวานบ่นพึมพำบอกข้ออ้างออกจากห้องไป ชานยอลปล่อยมือจากแขนขาวแล้วพยิบไอแพดขึ้นมาเล่นเกม แต่สายตากลับมองทางประตูห้อง ปล่อยให้คยองซูที่แต่งหน้าเสร็จแล้วมาคุยกับกระหนุงกระหนิง(?)กับลู่หานแทน
“กลับห้องได้แล้ว”เสียงเข้มจากผู้จัดการคนหล่อมาตามลู่หานถึงที่ คิ้วเรียวขมวดไม่พูดอะไรแล้วเดินฮึดฮัดออกจากห้องไป โดยมีคริสหรืออู๋อี้ฟานผู้จัดการที่เสียงเข้มใส่ลู่หานก้มโค้งให้บรรดาคนในห้องแต่งตัวขอโทษที่ทำให้บรรยากาศของห้องเสียไปแล้วตามร่างบางออกไป
“ช่วงนี้งานในบริษัทเราหนักมากไปหรือเปล่าพี่ ทั้งพี่แบคฮยอนทั้งพี่คริสดูเหมือนจะเหนื่อยมากเลย”คยองซูพูดบู้ปากไปทางประตูที่ปิดไล่หลังผู้จัดการสุดหล่อไป “โดยเฉพาะพี่แบคฮยอนตาบวมเลยเชียว สงสัยจะจัดตารางงานของเราจนดึก”
ไม่ใช่ชานยอลไม่รู้ว่าสาเหตุของดวงตาบวมของผู้จัดการคนสวย เพราะร่างบางมีอาการทุกครั้งที่เขาเงียบและทำปั้นปึ่งใส่ เขาแค่อยากให้ร่างเล็กเข้าใจในความรู้สึกของเขาบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่แบคฮยอนส่งสายตาตัดพ้อกลับมา อกซ้ายมันก็เจ็บแปลบทุกที
ผมทำตามที่คุณบอกแล้วทำไมถึงยังส่งสายตาอย่างนั้นอีก รู้ไหมมันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าคุณก็คิดแบบเดียวกันกับผม
ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนสงครามเงียบระหว่างชานยอลและแบคฮยอน ทั้งในห้องพัก หอ นั่งรถไปแฟนไซต์ต่างจังหวัด อัดรายการ บรรยากาศเงียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เว้นแต่ตอนทำงานที่ชานยอลกลับมาคุยเก่งๆ แต่พอกลับมาอยู่กับแบคฮยอน ความร่าเริงเหมือนโดนปิดสวิสซ์ ความอึมครึมทำคยองซูอึดอัด ร่างเล็กถามชานยอล ร่างสูงก็ตอบว่าไม่มีอะไร พอถามผู้จัดการคนสวย รายนั้นก็ส่ายหัวแล้วเปลี่ยนเรื่อง
ถึงใครจะว่าคยองซูซื่อ แต่เขาก็รู้นะว่าพี่ที่รักของเขาสองคนทะเลาะกัน รู้ด้วยว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เขาแกล้งไม่รู้ต่อไป น่าจะดีกว่า เพราะดูเหมือนพี่สองคนนั้นต้องการแบบนั้นนี่นะ
ตารางงานว่างในจันทร์ทำให้คยองซูตัดสินใจหนีบรรยากาศสงครามเงียบระหว่างพี่ร่วมวงกับผู้จัดการด้วยการหาเรื่องหนีเที่ยว ร่างเล็กหยิบเสื้อลายขวางสีฟ้าขาวตัวนิ่มมาใส่คู่กับกางเกงขาสามส่วน ผมสีน้ำตาลแดงสั้นปล่อยปรกหน้าผากมน ดวงตากลมโตมีแว่นสี่เหลี่ยมอันใหญ่บดบัง พร้อมด้วยกระเป๋าเป้ผ้าใบใหญ่ ทำให้ร่างบางดูอายุน้อยลงกว่าเดิมไปอีกหลายปี
“ไอซ์ ทอล มอคค่า เอ็กซ์ตร้าวิปครีมกับคาราเมล ( Iced tall mocca extra Wipcream & Caramel ) หนึ่งแก้วครับ” คยองซูแวะเพิ่มพลังงานหลังจากเดินช้อปปิ้งไปหลายชั่วโมง โชคดีที่วันจันทร์แฟนคลับในช่วงวัยนักเรียนไม่ค่อยมีมาตามเขาเหมือนเคย แต่โชคร้ายที่ยามบ่ายในร้านกาแฟมีคนจับจองที่นั่งกันหมด ร่างเล็กทำปากยื่น เขาเริ่มเหนื่อยและอยากได้ที่พักขาสักหน่อย ดวงตากลมโตเห็นโซฟาตัวหนึ่งว่าง มีชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ ในวินาทีนี้คยองซูยอมแชร์โต๊ะ ขอให้ขาเล็กๆได้พักครู่
“ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหมครับ”
เจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มที่ใช้งานโซฟาฝั่งตรงข้ามพยักหน้าทั้งที่หัวยังไม่เงยขึ้นจากไอแพดและเอกสารข้างตัว ร่างเล็กจึงจับจองโซฟาตัวแดงฝั่งตรงข้ามกันทันที ริมฝีปากรูปหัวใจดูดไอซ์มอคค่าคำโต ดวงตากลมก็สำรวจคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามไปด้วย
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำที่พับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์สีดำเข้ม ทำให้คนตรงหน้าดูมีเสน่ห์โดยเฉพาะนัยน์ตาคมและไหล่กว้างจนคยองซูกัดหลอดด้วยความอิจฉา
ทำไมคนตรงหน้าดูดีกว่าเขาที่เป็นไอดอลอีก เมื่อไหร่คยองซูจะมีหุ่นที่ดูดีแบบนี้มั่งนะ กลับบ้านไปยกเวทอีกรอบดีไหมนะ
คนตัวเล็กดูดกาแฟไปใบหน้าก็เปลี่ยนไปตามความคิดจนนัยน์ตาคมเงยหน้าขึ้นมามอง คยองซูจึงหันกลับมาจัดการแก้วกาแฟตัวเอง ริมฝีปากรูปหัวใจที่ยิ้มเพราะถูกใจในรสชาติของกาแฟในมือ ก่อนจะก้มไปกินวิปปิ้งครีมคำโตจนเหนือกลีบปากสวยเปื้อนครีมขาว ลิ้นสีชมพูกวาดวิปครีมเข้าปาก
คิมจงอินหัวใจจะวาย เมื่อเงยหน้ามามองคนร่วมโต๊ะ(ที่กินกาแฟได้เซ็กซี่มาก) เขาแวะมาคุยงานแถวนี้ แต่โดนแคนเซิลไป ร่างสูงจึงยกงานมาทำต่อในร้านกาแฟแทนที่จะกลับออฟฟิศ ทำให้เขาได้เจอกับคยองซู ร่างสูงทำตัวไม่ถูก จะว่าไปตลอดสองเดือนที่ผ่านมา เขาเคยทำมาทุกกระบวนการแฟนบอยมาหมดแล้ว ทั้งไปงานแฟนไซน์ แอบไปเกาะตู้กระจกถ่ายตอนที่ Exo Knight มีอัดรายการ ร่วมงานแฟนมีต และอื่นๆต่างๆนานา (ถึงจะไม่เคยตั้งรูปหน้าจอในมือถือเป็นคยองซูก็เถอะ) แต่ไม่มีใครเคยบอกเลยว่าถ้าได้เจอกันในร้านกาแฟแล้วแฟนบอยคนนี้ควรต้องทำยังไง
คิมจงอินประสาทจะแดกครับ ทำตัวไม่ถูก
นัยน์ตาคมได้แต่แอบมองคนตรงข้ามสังเกตร่างเล็ก เขาคุ้นเคยกับคยองซูในรูปแบบของนักร้องคนเก่ง คนขี้อายเวลาเจอแฟนคลับมากๆเข้ามารุม แต่คนตรงหน้าดูต่างออกไป ร่างเล็กตรงหน้าเหมือนเด็กน้อยวัยมัธยมต้นมากกว่า เสื้อตัวใหญ่จนไหล่ตกและกางเกงขาสั้นกับรองเท้าผ้าใบคู่โต ยิ่งตอนที่ร่างเล็กทำสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นด้วยแล้ว ยิ่งดูน่าหมั่นเขี้ยวเป็นที่สุด
“เฮ้ย” ร่างบางเสียงหลง เมื่อมือถือในมือตกลงไปในแก้วกาแฟที่เปิดฝาเอาไว้เมื่อสักครู่ ดวงตาโตเบิ่งกว้าง ไอโฟนสีดำตัวเก่าเปื้อนวิปปิ้งครีมที่กินเหลือ แถมยังชุ่มด้วยกาแฟอีกต่างหาก คิมจงอินหยิบมือถือขึ้นมาจากแก้วอย่างรวดเร็ว มือใหญ่ใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดแล้วส่งคืนให้คนตัวเล็กที่เหมือนจะช็อคไปเมื่อครู่คว้ามือถือมาจะเปิดเครื่องเช็คสภาพ
“อย่าเพิ่งเปิดนะครับ”ดูเหมือนจะไม่ทัน เพราะมือเล็กกดไปแล้ว หน้าจอขึ้นมาสักครู่แล้วดับวูบไป “คือเครื่องมันอาจจะมีน้ำอยู่ข้างในมันอาจจะช็อตนะครับ”
“แล้วมันจะพังไหมอ่ะครับ เมื่อกี้ผมเปิดขึ้นมาแล้วเป็นอย่างนั้นไปแล้ว”ร่างเล็กถาม เมื่อคนตรงหน้าดูมีความรู้เรื่องโทรศัพท์มากกว่าตัวเอง
“ไม่มั่นใจเหมือนกันครับ คืนนี้ลองเอาไปใส่ในถุงข้าวสารดูนะครับ มันจะช่วยดูดความชื้นได้”ร่างสูงนำโทรศัพท์ที่ดับไปห่อด้วยทิชชู่ที่มีอยู่แล้วหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลของเขาใส่โทรศัพท์แล้วส่งคืนเจ้าของ
“ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”
ร่างเล็กมองนาฬิกาบนผนังด้านหลังคิมจงอินแล้วตกใจ นี่เขาออกมาเกือบห้าชั่วโมงแล้ว ถึงจะมีข้อความเขียนบอก แต่พี่แบคฮยอนต้องโกรธเขาแน่เลยที่ออกมานานเกินไป แถมตอนนี้โทรศัพท์ของเขาก็ติดต่อไม่ได้อีกด้วย ร่างเล็กยิ้มเจื่อนให้ร่างสูง
“จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าผมจะยืมโทรศัพท์หน่อยน่ะครับ”ร่างสูงยื่นโทรศัพท์ให้ คยองซูกดโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เสียงโวยวายทะลุออกมา คยองซูจับโทรศัพท์ออกห่างก่อนจะบอกแก้ตัวผ่านตามสาย
“ผมไม่ได้หายไปไหนนานสักหน่อยนะ ผมเขียนบอกพี่แล้วนะครับ”
“ก็นี่ไง โทรศัพท์มาบอกแล้ว”
“โทรศัพท์ของคนในร้านกาแฟครับ ยืมเขามาโทร”
“รู้แล้วๆ ผมไม่ได้เชื่อใจใครง่ายๆ เขาเป็นคนดีนะ ให้คยองซูยืมโทรศัพท์ด้วย”
“ผมทำโทรศัพท์พัง มันหล่นในแก้วกาแฟ”
“จริงเหรอครับ ให้ผมซื้อใหม่จริงเหรอ งั้นผมขอรูดบัตรนะ ครับ ครับ ได้ครับ ขอบคุณครับ รักพี่แบคฮยอนจังเลย”ดวงตากลมยิ้มยิบหยี แถมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะวางสายแล้วคืนเครื่องสื่อสารให้จงอิน
“คุณๆ ผมถามหน่อยผมจะไปซื้อถือรุ่นไหนดี”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากผู้จัดการ ร่างเล็กก็เตรียมจะไปช้อปโทรศัพท์เครื่องใหม่แต่เขาไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเจ้าพวกนี้เท่าไหร่จึงเอ่ยปากถามคนตรงหน้าที่ดูน่าจะมีความรู้ในการแนะนำ
“จะใช้ทำอะไรบ้างล่ะครับ”
“ฟังเพลง ดูวิดีโอ เล่นเกมส์แล้วก็เล่นไลน์”ร่างสูงหัวเราะ เพราะคนตรงหน้าให้ข้อมูลแบบกว้างเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก
“หัวเราะอะไรเล่า”ปากสวยบู้ใส่คนตรงหน้าอย่างลืมตัว คยองซูลืมตัวจนทำตัวเหมือนเขากำลังอยู่กับพี่ๆหรือเพื่อนๆในบริษัท
“เปล่าครับๆ แล้วอยากได้อะไรเพิ่มเติมอีกไหม แล้วงบประมาณประมาณเท่าไหร่”ร่างเล็กจึงได้อธิบายรายละเอียดของโทรศัพท์ที่ตัวเองอยากได้ให้จงอินฟัง ร่างสูงใช้ไอแพดเช็คข้อมูลให้คนตรงหน้าได้ดู ก่อนจะบอกข้อมูลคร่าวๆ ถึงโทรศัพท์แต่ละรุ่น
ข้อมูลที่มากมายที่ได้รับฟังและเห็นจากไอแพด ทำเอาร่างเล็กงุนงงไป แค่โทรศัพท์ทำไมมันวุ่นวายจัง เขาเลือกไม่ถูกเลย จนคยองซูตัดสินใจเลือกที่จะ...
“ไปเลือกเป็นเพื่อนผมได้ไหม”นัยน์ตากลมมองช้อนคนที่เพิ่งรู้จักอย่างออดอ้อน
แล้วใครจะกล้าปฏิเสธ...
ใช้เวลาไปเกือบสองชั่วโมง คยองซูก็ได้ไอโฟนสีขาว(แบบเดียวกับที่คนร่างสูงมี)พร้อมเคสหนังสีดำมาครอบครอง คนตัวเล็กประทับใจเพื่อนร่วมโต๊ะที่เขาไม่รู้จักชื่อเข้ามาช่วยเขาตั้งแต่เลือกซื้อโทรศัพท์ เช็คโทรศัพท์ ช่วยตามหาเคสสวยตามที่ร่างเล็กอยากได้จนกระทั่งมายืนรอส่งเขาขึ้นรถแท็กซี่
“ขอบคุณนะครับที่มาช่วยซื้อโทรศัพท์วันนี้”
“ไม่เป็นไรครับ..”
“จริงสิ คุณชื่ออะไร คุณอยู่กับผมมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว เรายังไม่รู้จักกันเลย”
“จงอินครับ คิมจงอิน”
“ขอบคุณนะครับ คุณจงอิน”
ร่างบางดีใจที่ได้รู้จักคนตรงหน้า เขาไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก เพราะเป็นเด็กฝึกแต่ยังเด็ก อีกอย่างคนตรงหน้าใจดีกับเขามากๆอีกต่างหาก จะเป็นอะไรไหมนะถ้าเขาจะได้คนตรงหน้ามาเป็นเพื่อนอีกสักคน
“ผมขอไลน์คุณได้ไหม มาเป็นเพื่อนกัน ถ้าโทรศัพท์ผมมีปัญหาจะได้ถามคุณได้ไง ผมชื่อคยองซูนะ โดคยองซู”มือเล็กยื่นมาตรงหน้าริมฝีปากหยักส่งยิ้มหวานมาให้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคยองซู” ร่างสูงยื่นมือให้พร้อมส่งรอยยิ้มที่มุมปาก
นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน คิมจงอินก็ยังคงนอนไม่หลับ ในมือถือโทรศัพท์ที่เปิดหน้าแอพลิเคชั่นการสนทนาระหว่างเขากับคยองซู เขาคิดถึงเหตุการณ์โชคดีในวันนี้ ถึงแม้ว่าร่างเล็กตรงหน้าจะจำเขาไม่ได้ แต่เขากลับดีใจที่เป็นแบบนั้น เพราะ เขาได้เห็นคนตัวเล็กในมุมอื่นที่เขาไม่เคยได้เห็นในแฟนแคม ในรายการวาไรตี้ ยิ่งได้คุยกับคยองซู เขาก็ยิ่งรู้สึกดีคนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ
มันคงจะดี ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ไอดอลของทุกๆคน แต่เป็นคนน่ารักข้างตัวเขา มันผิดวิถีแฟนบอยหรือเปล่านะ ร่างสูงสงสัย แต่เขาชอบคยองซูในวันนี้มากกว่าคยองซูบนเวทีกว่ากันเยอะ
ให้ตายสิ เขากำลังตกหลุมรักคนที่เป็นไปไม่ได้อยู่หรือเปล่า
TBC....
Talk::
มาต่อแล้วววว คึคึ หายไปหลายวันมากเลย คิดถึงกันไหม(มโนโมเมเข้าข้างตัวเอง) พอดีเพิ่งได้งานใหม่ แถมยังไกลบ้านมากอีกต่างหาก (ทำมาหาเงินมาเลี้ยงดูผู้ชายเราค่ะ คึคึ) กลับถึงบ้านปุ๊บก็หลับ >////<
มาคุยกันถึงเรื่องนี้บ้างดีกว่า
จริงๆเรื่องนี้จะมีโหมดติ่งไม่ค่อยเยอะค่ะ เพราะจงอินเป็นมือใหม่หัดติ่งที่มาหลงรักน้องคยองเข้าเต็มเปา แถมเป็นติ่งดวงดีได้เป็นเพื่อนกับน้องอีกต่างหาก จบจากตอนนี้ไปจะมีพี่จงอินติ่งแบบประปราย แต่มีความน่ารักเข้ามาเต็มปรี่
ส่วนชานยอลกับน้องแบคฮยอนยังคงอึมครึมกันต่อไป ตอนหน้าคงจะเริ่มเคลียร์กันบ้างเรื่องบ้างแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อความเนือยๆของคู่นี้เลยนะคะ
อย่าลืมติชมให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ^^ ว่าสนุกไหม หรือไม่สนุกแล้ว จะได้ปรับปรุงกันต่อไป ไม่ค่อยได้เขียนเรื่องยาวสักเท่าไหร่เลยอาจจะดูแปลกๆไปบ้าง
รออ่านอยู่นะคะ ^^ (ขอเป็นคนอ่านบ้างนะคะ คิคิ)
MOCCA_CUP
ความคิดเห็น