คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
My Fanboy, My Darling
Chapter 1
จะมองหาอะไรวะ.. คิมจงอินหงุดหงิด ก็แค่ผู้ชายตัวสูงเกิน 180 เซนติเมตรนิดๆ ใส่เสื้อเชิ้ตทับด้วยสูทตัวหนา ผมสีน้ำตาลเข้มแสกกลางดูภูมิฐาน ดวงตาดุถูกบังด้วยแว่นตาเฉิ่มเชย(เพราะคอนแทคเลนส์ดันหมดอายุพอดี) นั่งอยู่ท่ามกลางแฟนเกิร์ลวงExoKnight พร้อมกับกล้องDSLR กับกระเป๋ากล้องใบใหญ่ในงานแฟนไซต์และถุงที่ใส่ของเตรียมมาให้EXO Knight มันจะแปลกตรงไหน เขาก็เป็นแฟนวงExoNightเหมือนกันเถอะ
ร่างสูงก้มมองดูการแต่งกาย พลางถอนหายใจถ้าเขาไม่ติดว่าเมื่อเช้าต้องไปเข้าร่วมประชุมเรื่องเกมตัวใหม่ที่ลูกน้องต้องนำเสนอ คงจะใส่ชุดที่ดูคล่องตัวกว่านี้หรอก บอกตรงๆเลยกางเกงสแลคและเสื้อเชิ้ตทำเอาเขาถ่ายรูปลำบากพอดู แต่เพื่อรูปสวยของคนน่ารักตาโตแล้วเขายอม
นี่เป็นงานแฟนไซน์ครั้งแรกที่คิมจงอินจะได้ไซน์กับ ExoKnight เลยนะ คุ้มค่าจริงๆที่เขาลงทุนซื้อซีดีถึง121แผ่นตามวันเกิดของคยองซู เพื่อลุ้นให้เขาได้เข้าไปงานไซน์ แล้วเก็บไว้เอง 11 แผ่นไว้ในตู้สะสมของรักของหวงของคิมจงอิน อีก 1 แผ่นไว้ข้างเตียงนอน เปิดฟังทุกคืน(?) ส่วนที่เหลือเอาไปแจกจ่ายให้คนรอบข้างตั้งแม่บ้านที่คอนโดส่วนตัว แม่บ้านที่บริษัท คนขับรถ ลูกน้องทีมกราฟฟิค เลขาของเขา จนทุกวันนี้คนในบริษัทเริ่มร้องเพลงตามกันได้หมดแล้ว...
แรงสั่นสะเทือนพร้อมกับเสียงเรียกเข้าเหมือนเสียงเตือนภัยดังขึ้นมาจากในกระเป๋ากางเกง มือหนาหยิบออกมาจากดรับอย่างรวดเร็ว ก็เสียงเรียกเข้านี้เขาตั้งให้คิมมินอาโดยเฉพาะ
“ย๊าาาา นายอยู่ไหนเนี่ย ฉันมาถึงนานแล้วนะ”
“ผมเพิ่งประชุมงานเสร็จ เพิ่งมาถึงสักพักเอง พี่อยู่ไหนล่ะ”
“อยู่ตรงโต๊ะที่เขาลงทะเบียนคนที่ได้รับสิทธิ์ไซน์ไง ขวามือๆ”ร่างเล็กของพี่สาวโบกมือรัวๆ จงอินจึงลุกขึ้นไปหาน้องสาวทันที ก็เขาเป็นแฟนบอยมือใหม่ คงต้องให้พี่สาวคอยเป็นเทรนเนอร์ให้
คิมมินอากุมขมับเมื่อเห็นน้องชายตัวเองในระยะที่ใกล้ขึ้น ใครจะไปคิดว่ามันจะมาในลุคผู้บริหารขั้นสุดอย่างนี้ ถ้ามีเด็กตัวเล็กๆ ตากลมๆ เดินควงมาด้วย คนคงคิดว่าเป็นอาเสี่ยเลี้ยงต้อยแน่ๆ
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดิ”กระเป๋าลายExoKnight ถูกยื่นให้ ภายในบรรจุเสื้อยืดตัวสวยกับกางเกงยีนส์ผู้ชายสีเข้ม คิมจงอินทำหน้างงใส่พี่สาว
“เอาไปใส่เหอะ ของพี่จงฮุน ฉันรับสภาพแกไม่ได้จริงๆ อย่างกับตาแก่อายุจะ 40 ปี ทั้งที่ยังไม่ถึงสามสิบ”คิมจงอินอยากจะเถียงว่าคนจะสี่สิบน่ะคนพูด ส่วนเขาเหลืออีกตั้งสองปีถึงจะอายุสามสิบ แต่ร่างสูงเลือกที่จะทำตามคำบอกของพี่สาว หยิบเสื้อผ้าของพี่เขยที่ขนาดตัวพอๆกันไปเปลี่ยน
คิมจงอินกลับมาหาพี่สาวในเสื้อยืดสีน้ำเงินคอวีขนาดพอดีตัว กางเกงขายาวยีนสีเข้มที่เข้ากับรองเท้าหนังสีดำหุ้มข้อที่ใส่ประจำ ผมสีน้ำตาลที่แสกกลางถูกเซ็ตด้วยเจลใส่ผมที่มีอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า สายตาหลายคู่จ้องมองมาที่ร่างสูง ด้วยความโดดเด่นทั้งความสูงและหน้าตาและการแต่งกายที่ต่างจากเมื่อครู่หน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้มีเสียงกระซิบโดยรอบ คิ้วหนาขมวด เขาไม่ชอบให้คนจ้องมองอย่างนี้สักเท่าไหร่ ขายาวเร่งฝีเท้าไปนั่งข้างๆพี่สาวที่กำลังนั่งคุยกับคนที่นั่งด้วยกัน
กระดาษโพสต์อิทสีเหลืองอ่อนถูกส่งมาจากแฟนคลับอีกคนวัยใกล้เคียงพี่สาวเขา ทันทีที่ได้จับจองที่นั่ง สีหน้าสงสัยจากชายหนุ่มทำเอาแฟนเกิร์ลกลั้นยิ้มให้กับแฟนบอยมือใหม่ถอดด้ามอย่างจงอินก่อนอธิบายให้ฟังพร้อมโชว์ตัวอย่างของตัวเองให้ดู
ดวงตาคมมองกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองเขียนด้วยลายมือน่ารักของคนตรงหน้า คำถามมีในหัวมากมาย
เป็นแฟนกับผมไหมครับ - - - ดูโรคจิตชอบกล
อย่ายิ้มมากนะครับ ผมหวง - - - ดูประสาทไป
ข้อความวิ่งวนในหัว..จนคำถามหนึ่งขึ้นมาอยู่ในใจ มือหนาเขียนไปอย่างใจคิดก่อนนับเวลารอที่จะได้ขึ้นไปบนเวทีเสียที
“พี่ชานยอลอ่ะ ไม่ทำไม่ได้เหรอ”เสียงของดูโอร่วมวงทำเสียงอ้อนเมื่อเกมไพ่ตรงหน้ากำลังจะแพ้ มือขาวเกาะแขนเก้าอี้คนที่อยู่ข้างกัน ชานยอลเอามือยีหัวคยองซูแล้วหัวเราะดังลั่นรถ ก่อนจะปฏิเสธแล้ววางแผนลงโทษในการเล่นเกมครั้งนี้
สายตาของแบคฮยอนมองศิลปินทั้งสองคนของตนผ่านกระจกมองหลัง ในใจของเขารู้สึกประหลาด อาจเป็นเพราะคำพูดของร่างสูงที่เป็นศิลปินอย่างชานยอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเข้ามารบกวนจิตใจผู้จัดการอย่างเขา ร่างบางไม่อยากเก็บเรื่องนั้นเขามาในหัว เขาไม่สามารถทำตามที่ชานยอลร้องขอได้
สายตาคมที่มองตอบกลับมาผ่านกระจก ทำเอาพยอนแบคฮยอนเบือนหน้าหนี แล้วออกรถเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว
“เดี๋ยวเตรียมตัวได้แล้วนะ อีก 15 นาทีจะถึงที่งานแล้ว ชานยอลเลิกเล่นผมน้องได้แล้ว”เสียงหวานเอ่ยย้ำศิลปินของตน
เสียงกรี๊ดดังทั่วบริเวณงาน เมื่อ Exo Knight มาถึง ร่างเล็กสวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อกั๊กหนังสีดำเดินจับมือมากับชานยอลที่แต่งตัวมาในรูปแบบเดียวกันเพียงแต่เสื้อยืดด้านในเป็นสีเทาขึ้นมาบนเวทีมาแนะนำตัว มือหนากดชัตเตอร์รัวเพื่อจับภาพร่างเล็กที่ยิ้มอย่างเขินอายตอนแนะนำตัว
“วันนี้คยองซูมีโชว์พิเศษจะมามอบให้กับทุกคนด้วยครับ”เสียงแหบเอ่ยเมื่อแนะนำตัวเสร็จ ส่วนโดคยองซูตาเบิ่งกว้างหนักขึ้น นึกไม่ถึงว่าบทลงโทษจากเกมบนรถจะมาถึงเร็วขนาดนี้ยังไม่ทันได้เตรียมใจเลย
งื้อ~~~~ พี่ชานยอลใจร้ายที่สุดเลย
“วันนี้คยองซูจะมาเต้นเพลง NO NO NO ให้ดูกันครับ ใครอยากดูตบมือหน่อยเร็ว”แฮปปี้ไวรัสพูดยิ้มๆ ก่อนจะดันให้น้องตัวเล็กมาหน้าเวที เสียงตบมือและเสียงกรี๊ดดังขึ้น ร่างบางเอามือขาวปิดหน้าแล้วหันหลังเป็นท่าเริ่มต้น ร่างสูงทำบีทบ๊อกซ์เป็นจังหวะให้กับคยองซูได้เต้น แฟนๆด้านล่างก็ร้องเพลงช่วยคลอ
슬퍼하지마 No No No
혼자가 아냐 No No No
언제나나나 내게 항상 빛이 돼 준 그대
내 손을 잡아요 이제 지금 다가와 기대
언제나 힘이 돼 줄게
พอจบท่อนชานยอลดึงคยองซูมาอยู่ตรงหน้าเอามือท้าวเอว แล้วกำกับทิศทางท่าเต้น
“ขยับไปทางซ้ายนะ”
มือเล็กท้าวเอวก้มหน้าบิดสะโพกไปมาเล็กๆ แล้วกระโดดไปทางซ้ายตามที่ชานยอลบอก ดวงตากลมโตยิ้มหวาน ริมฝีปากเม้มแน่น ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ด้วยท่าทางของพี่ชายร่วมวงที่เต้นด้วยกัน
“ขอบคุณมากครับ”เมื่อเต้นเสร็จทั้งคู่โค้งให้ทุกทิศ สัญญาณจากข้างเวทีบอกให้เริ่มต้นการแจกลายเซ็นเสียที
โต๊ะตัวยาวถูกนำมาตั้งกลางเวที เริ่มต้นด้วยชานยอลก่อน แบคฮยอนยืนด้านหลังคยองซูแล้วให้การ์ดอีกคนยืนข้างหลังชานยอล เท่าที่ผ่านมาในงานไซน์ของExoKnight ไม่เคยวุ่นวายจนควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แต่ผู้จัดการคนสวยอยากกันไว้ก่อน
แต่ละคนค่อยๆเดินขึ้นเวทีตามที่สตาฟฟ์บอก คิมจงอินซึ่งอยู่ในช่วงกลางๆของกลุ่มตื่นเต้น เขาเตรียมของมาให้ทั้งชานยอลและคยองซู ถุงใบใหญ่ถือในมือ ยิ่งแถวยิ่งใกล้ขึ้นมาคิมจงอินก็เริ่มประสาทเสีย จะพูดอะไรกับคนตัวเล็กดีนะ..
ให้ตายสิ!!! ให้เขาคิดเกมใหม่ๆลงตลาดยังง่ายกว่าสถานการณ์ตอนนี้อีก
คิมมินอาขึ้นไปบนเวทีแล้ว หญิงสาวทักทายอย่างร่าเริงกับชานยอล พร้อมยื่นซีดีให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ได้เซ็นชื่อ
“วันนี้ชานยอลหล่อจังเลยนะ”
“นูน่าก็สวยมากๆเหมือนเคยเลยนะครับ”
“ปากหวานจริงๆ เลยเชียว”เมื่อหยอกล้อกันเสร็จ คิมมินอาก็เขยิบมาทางคยองซูแล้วชวนคุย โดยคนตาหวานก็พูดคุยด้วยอย่างสนุกสนาน
คิมจงอินเดินขึ้นมาเป็นคนถัดไป ปาร์คชานยอลมองหน้าชายหนุ่มที่เดินขึ้นมา ดวงตาเบิ่งกว้าง เขารู้จักคนคนนี้ นี่คือคุณคิมจงอินเจ้าของบริษัทเกมคนโปรดของเขา แถมยังเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันตอนสมัยเรียนอีกด้วย แล้วทำไมเขาถึงมาทำอะไรที่นี่
มือหนาหยิบถุงกระดาษขนาดกลางขึ้นมาวางบนโต๊ะข้างๆ ซีดีอัลบั้มล่าสุด มือหนาเปิดโชว์ของภายในถุงที่ทำให้ชานยอลตาลุกวาว
“เคยอ่านเจอว่าชอบเล่นเกม นี่เป็นแผ่นเกมที่เพิ่งออกล่าสุดในเดือนนี้”เสียงทุ้มอธิบายแล้วยื่นให้ ชานยอลคว้าเอามาไว้ข้างตัวแทนที่จะให้สตาฟฟ์เก็บเหมือนของจากแฟนชิ้นอื่นๆ
“ขอบคุณมากครับคุณคิมจงอิน”ชานยอลเซ็นแล้วส่งยิ้มอย่างยินดีให้กับคนตรงหน้า “ผมเป็นแฟนเกมบริษัทของคุณเลยนะครับ”ชานยอลชวนคุยตามประสาคนช่างคุยกับจงอินอยู่หลายประโยค ทำเอาคนพูดไม่ค่อยเก่งได้แต่ยิ้มรับเมื่อชานยอลชม จนสตาฟฟ์งานเดินมาสะกิดให้จงอินเดินต่อมาทางคยองซูที่อยู่ถัดออกไป ร่างสูงจึงเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง
รอยยิ้มหวานถูกส่งมาทันทีที่ใบหน้าเล็กเงยหน้ามาเจอ มือใหญ่ส่งถุงใบใหญ่ให้พร้อมกับซีดี
“นึกว่าไม่อยากได้ลายเซ็นต์ของผมแล้ว เห็นคุยกับพี่ชานยอลนานมากเลยครับ” เจ้าตัวพูดทำตาโตแก้มป่องใส่คนพูดอย่างน่ารักแล้วหัวเราะออกมา
โอยยยย คิมจงอินต้องเป็นโรคหัวใจแน่เลย ใจเต้นแรงมากขนาดนี้ เก็บอาการหน่อยคิมจงอิน เจ้าตัวพร่ำบ่นกับตัวเอง
ร่างสูงเก๊กนิ่งไม่ตอบรับมีเพียงรอยยิ้มบางๆตอบกลับไป มือเล็กคว้าซีดีเปิดหาหน้าของตนเอง กระดาษโพสต์อิทสีสะท้อนแสงในหน้ากระดาษทำเอาริมฝีปากยกยิ้มเป็นรูปหัวใจ คยองซูสนุกและตื่นเต้นที่จะได้ตอบคำถามของแฟนๆเสมอ ยิ่งคนตรงหน้าเป็นแฟนบอยด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีแฟนบอยขึ้นมาในงานแฟนไซน์
Q: ผมเป็นแฟนบอยของคุณครับ รู้สึกยังไงบ้างครับ
A.ขอบคุณมากครับ
B.ชอบผมต่อไปนะครับ
C.เขินอาย
ลายมือหวัดๆกับดวงตาคมที่ดูจะคาดหวังในคำตอบ เรียกรอยยิ้มจากริมฝีปาก มือเล็กเขียนข้อความต่อลงในกระดาษ
D. ถูกทุกข้อ <3 <3 <3 <3
ใบหน้าเล็กเงยหน้ามอง ดวงตากลมโตช้อนมองร่างสูงที่ยืนอยู่ ริมฝีปากรูปหัวใจส่งยิ้มให้ คิมจงอินทำตัวไม่ถูกเลย เขาไม่กล้าชวนคุย แถมร่างเล็กก็คุยไม่เก่งเหมือนคู่ดูโอจึงได้แต่ส่งสายตาผลัดกันยิ้มให้กัน
“ขอบคุณที่มานะครับแล้วก็ขอบคุณสำหรับของด้วย” มือเล็กชี้ถุงใส่ของใบใหญ่ที่เต็มไปด้วของบำรุงและขนมของโปรดของเขารวมถึงตุ๊กตาสุนัขสีขาวตาโตในอ้อมกอดที่เขาหยิบมาจากในถุงด้วยความถูกใจ ก็เจ้าตัวนี้มันหน้าตาคล้ายๆกับเจ้ามอลล์ ลูกรักสายพันธ์มอลทีสที่บ้านของเขาเลย
สตาฟฟ์เดินมาสะกิดให้ร่างสูงลงจากเวที คิมจงอินเดินลงเวทีอย่างไม่อิดออด ได้แต่อมยิ้มเล็กๆเมื่อนึกถึงรอยยิ้มหวานจากร่างบางที่เฝ้ารอมาตลอดเกือบครึ่งวัน คิมจงอินเข้าเริ่มเข้าใจคิมมินอานิดๆแล้วว่าการรอคอยที่ยาวนานหลายชั่วโมงแล้วได้เจอในช่วงเวลาสั้นๆมันคุ้มค่าแค่ไหน เพราะตอนนี้ เขากำลังรู้สึกแบบนั้นเลย
“เหนื่อยจัง”ร่างเล็กนอนหอบหลังจากซ้อมเต้นสำหรับการขึ้นเวทีคัมแบคสเตจที่ยังมียาวอีกสองอาทิตย์ หน้าผากขาวเนียนมีผ้าคาดสีเทาคาดสำหรับกันเหงื่อเข้าตา เสื้อสีดำตัวโคร่งจนไหล่ตกทำให้ร่างเล็กยิ่งดูตัวเล็กมากขึ้นไปอีก
ชานยอลหยิบขวดน้ำมาเผื่อน้องร่วมวงที่นอนแผ่หลาอยู่กับพื้น แล้วนั่งข้างกัน พวกเขาซ้อมเสร็จแล้วเหลือแต่เพียงรอแบคฮยอนที่ไปจัดการงานและเตรียมมื้อดึกกลับมารับกลับหอ ร่างสูงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เขาโดนปฏิเสธ หนึ่งอาทิตย์ที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 1 ปีที่อยู่ด้วยกันมา เป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนเลือกที่จะไม่ฟังคำที่เขาขอ
“พี่แบคฮยอนวันนี้ช้าจังเลยนะครับ”เสียงห้าวของน้องร่วมวงปลุกชานยอลออกจากภวังค์
คยองซูบ่นๆ อาจเป็นเพราะวันนี้ตอนเช้าไปอัดรายการ บ่ายไปงานไซน์แล้วยังกลับมาซ้อมจนตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืน ทำให้ร่างบางที่อายุเกินยี่สิบมาเล็กน้อยเหนื่อยอ่อนจนอยากกลับไปนอนพักผ่อน
ชานยอลมองรุ่นน้องที่นอนกลิ้งตัวไปมา ยิ่งคิดถึงครั้งแรกที่บริษัทจับเขามาฟอร์มทีมดูโอคู่กับคยองซูมาเป็นExo Knight ไม่น่าเชื่อว่าเขากับคยองซูที่เขารักเหมือนน้องชายแท้จะเดินทางมาได้ถึงขนาดนี้ หนึ่งปีที่เดบิวต์ที่ว่าประสบความสำเร็จมากกว่าที่เขาคิด เพราะเขากับคยองซูไม่ใช่ไอดอลสไตล์เน้นการเต้น แต่เป็นไอดอลที่เน้นไปทางด้านการเล่นดนตรีสดมากกว่า
ดวงตากลมปิดสนิท คยองซูหลับไปอย่างรวดเร็วในขณะรอผู้จัดการมารับ ชานยอลจับน้องมานอนหนุนตัก
“หลับไปแล้วหรอ”ประตูห้องซ้อมถูกเปิดออก แบคฮยอนมาพร้อมถุงใส่อาหาร ดวงตาเรียวมองเด็กน้อยที่หลับสนิทอยู่ที่ตักชานยอลเกือบสิบนาที คิ้วสวยย่นเล็กน้อยก่อนจะทำตัวปกติโดยการปลุกให้คยองซูขึ้นมากินแล้วรีบกลับหอพัก
“ขอเวลาแป๊บนึง พี่มาย้ำถึงงานพรุ่ง มีต้องไปถ่ายรายการเพิ่ม…”แบคฮยอนร่ายรายการงานที่จะต้องทำในวันรุ่งขึ้น เมื่อExo Knight อาบน้ำกันเสร็จ คยองซูตอบรับงึมงัม ดวงตากลมหรี่ปรือ ปากสวยตอบรับงึมงำก่อนจะเดินถือผ้าขนหนูเช็ดหัวเข้าห้องนอนทันทีที่ผู้จัดการคนสวยพูดจบ
ห้องนั่งเล่นขนาดเล็กเหลือเพียงสองคน ชานยอลอยากจะเคลียร์กับแบคฮยอนให้รู้เรื่อง ต่างจากผู้จัดการร่างเล็กที่ต้องการหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าจึงตัดสินใจเดินเข้าห้องส่วนตัว มือใหญ่คว้าแขนเรียว
“เดี๋ยวก่อนสิ วันนั้นเรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ”
“ก็ให้คำตอบไปแล้วไง”เสียงหวานตัดประโยคห้วน บิดแขนออก เสียงโทรศัพท์เข้ามาขัดจังหวะการสนทนา ร่างสูงหัวเสีย แต่เมื่อดูหน้าจอที่โชว์ชื่อของคนที่โทรมาก็รีบรับสาย
“ว่ายังไงครับพี่ลู่หาน”
แบคฮยอนเดินช้าลง เมื่อได้ยินเสียงสนทนาของศิลปินของตนดูแลพูดคุยอย่างร้อนรนกับคนในสายที่ดูท่าทางจะเมาพอดู
“พี่อยู่ที่ไหนครับ ให้ผมไปรับไหม งั้นรออยู่ที่นั่นก่อน”
ร่างสูงรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ออกมาเจอกับสายตาคำถามจากผู้จัดการ เขาเลือกที่จะตอบประโยคสั้นๆ
“ผมขอออกไปรับพี่ลู่หาน ที่ร้าน…. เขาเมามาก แล้วจะรีบไปรีบกลับ”
เขามีสิทธิ์ที่จะห้ามในฐานะผู้จัดการ แต่สายตาที่ขอร้องจากคนตรงหน้าทำให้แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆ แล้วย้ำก่อนเข้าห้องนอนไป
“จะไปส่งที่ไหน ก็ระวังอย่าให้โดนถ่ายรูปล่ะ”
สายตาตัดพ้อจากชานยอลก่อนจะออกจากห้อง ทำแบคฮยอนกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ นาฬิกาตีบอกเวลาสามนาฬิกา ร่างสูงหายไปกับรุ่นพี่ไอดอลร่วมสังกัดเกือบสองชั่วโมงแล้วยังไม่กลับ เขาเป็นห่วงว่าศิลปินที่ต้องดูแลจะเกิดอุบัติเหตุ เแต่เหมือนในใจเขาจะรู้สึกมากกว่านั้น ในใจที่สั่นไหวเมื่อคนตรงหน้ารีบร้อนออกไปหาคนที่ชื่อลู่หาน
ถ้าไม่ได้คิดอย่างที่พูดจริงๆก็อย่ามาล้อเล้นกับความรู้สึกของฉันได้ไหมปาร์คชานยอล
ทูบีคอนตินิวววววว~~~~~
Talk :
หายไปหลายวันแล้วยังต่อไม่ครบบทเลย เหลืออีกนิดหน่อย ต้องขอโทษทีนะคะ จะมาลงให้จบภายในอาทิตย์นี้ล่ะ#กำหมัด ตาลุกเป็นไฟ เรื่องนี้เขียนยากตรงที่ต้องบิ้วต์อารมณ์ติ่งขึ้นมาสุดๆ 5555 เขียนไม่สนุก หรือตรงไหนมันเกินจริงไปอาจจะต้องขอโทษด้วยนะคะ แบบว่ายังไม่เคยไปงานไซน์จริงๆสักทีเลย >/////< เลยโทรถามเพื่อนที่เป็นแฟนคลับวงอื่นเอาแทน
เอาเป็นว่ามาติ่งน้องคยองเป็นเพื่อนพี่จงอินกันเต๊อะะะะ
ปล.พี่ชานยอลขี้แกล้งเนอะ...
MOCCA_CUP
ความคิดเห็น