ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [AUFic_KagerouProject] The Debtor [KuroMary]

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ความต้องการ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 221
      8
      27 เม.ย. 58


      
     

                   ทุกคนนั้นมามองทางฉัน พร้อมเสียงหัวเราะฉัน แม้โมโมะจังจะบอกฉันว่าไม่เป็นไรแต่ฉันก็อดที่จะอายไม่ได้

                “เธอช่วยพูดใหม่อีกครั้งนะ แต่ค่อยๆพูดล่ะ” อาจารย์ที่ปรึกษาพูดแบบติดตลก ทำให้ฉันไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี

                ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากกลับบ้านชะมัดเลย!!

                ฉันเปร่งเสียงออกมา แต่เพราะความมั่นใจที่เสียไปตอนแรกทำให้ฉันพูดเบาจนไม่มีใครได้ยิน

                “อะไรนะ เธอช่วยพูดให้ดังกว่านี้หน่อยสิ”

                “ฉันชื่อ โคซากุระ...” ฉันพูดออกมามันไม่แตกต่างจากตอนแรก และตอนนี้ฉันรู้สึกว่าทั้งใบหน้าและขอบตาของฉันมันร้อนผ่าวไปหมด

                ทว่า ในตอนนั้นก็มีคนพูดแทรกขึ้นมา...

                “เธอชื่อ โคซากุระ มารี วันนี้เธอไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เลยไม่ค่อยมีเสียง ผมขอพูดแทนละกัน”ชายที่นั่งอยู่ด้านหลังพูด นี่เขาช่วยฉันหรอ

                   “อ๋อ ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร” อาจารย์ที่ปรึกษาพูด ก่อนจะให้คนต่อไปแนะนำตัว

                บางทีฉันว่าตอนแรกเราอาจเริ่มต้นกันไม่ดีเท่าไหร่ เขาเองก็เป็นคนดีกว่าที่ฉันคิดแฮะ อ๊ะ ฉันต้องขอบคุณที่เขาช่วยฉันไว้สินะ

                “เอ่อ โคโคโนเสะคุง...” ฉันเรียกเขาเบาๆ

                “อะไร”

                “ขอบคุณที่ช่วยเมื่อกี้นะ”

                “หึ ก็แค่เรื่องพื้นๆ” เขาพูดด้วยท่าทางอวดดีและมั่นมาก อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปนะ


     

                เพราะว่าวันนี้เปิดเทอมวันแรกเลยไม่มีการเรียนการสอนใดๆ ฉันกับเพื่อนร่วมห้องเลยตั้งใจจะไปเที่ยวกันซักหน่อย พวกเราเลยกลับไปที่ห้องพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน

                “พวกเธอที่อยู่ตรงนั้นน่ะ ช่วยมาทางนี้หน่อยสิ” คุณผู้ดูแลหอที่อยู่ไม่ไกลเรียกพวกเรา

                “มีอะไรหรอคะ” คิโดะจังเป็นคนเข้าไปพูดกับเธอ

                “ฉันมีงานจะให้พวกเธอทำ”

     

     

                “ฉันจะแบ่งหน้าที่ให้พวกเธอทำความสะอาดแต่ละ...”

                คุณผู้ดูแลหอร่ายยาวเกี่ยวกับการทำความสะอาด นักเรียนส่วนมากที่อยู่ตรงนี้คือนักเรียนที่ไม่ได้ออกไปไหนกับนักเรียนที่หลบหนีไม่พ้น

                “สองคนตรงนั้นให้ไปทำความสะอาดหน้าโรงอาหารแล้วกัน ที่ไม่กว้างเท่าไหร่ทำสองคนก็พอ” เธอพูดจับคู่ให้ฉันอย่างเสร็จสรรพ คนที่ไปกับฉันเป็นผู้ชายผมสีดำ มีกิ๊บอันเล็กๆติดที่ผมด้วย

                “ฝากตัวด้วยนะครับ มารี” เขาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน เขารู้จักฉันได้ยังไงกัน ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าฉันงงว่าเขารู้จักฉันได้ยังไงเลยพูดออกมาว่า

                “ผมเซโตะ โคสุเกะ ที่อยู่ห้องเดียวกับเธอไง”

                “อ๊ะ จริงด้วย ขอโทษนะคะที่จำไม่ได้”

                จู่ๆความรู้สึกผิดก็แล่นเข้าสู่หัวใจ คนที่ถูกลืมน่ะน่าสงสารจะตาย

                “ไม่เป็นไรหรอก ยังไงผมก็ถูกลืมบ่อยๆอยู่แล้ว” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม นั่นทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ ขอโทษนะฉันจะจำคุณให้ได้ เซโตะ โคสุเกะคุง!!

                ฉันมาถึงหน้าโรงอาหารกับเซโตะคุง เขาชวนฉันคุยตลอดทาง เขาเป็นผู้ชายคนแรกเลยที่ฉันไม่รู้สึกกลัวแถมอยู่ด้วยยังรู้สึกสนุกอีก

                ดูจากที่คุณผู้ดูแลหอบอกว่าโรงอาหารมีที่ไม่กว้างฉันก็คิดว่าฉันโดยคุณผู้ดูแลหอหลอกซะแล้ว

                “งั้นเรามากวาดเศษใบไม้ก็พอแล้วเนอะ ที่นี่ก็ดูสะอาดอยู่แล้ว” เซโตะคุงบอกกับฉันพร้อมกับส่งไม้กวาดทางมะพร้าวให้ฉัน ไม้กวาดนี่ดูสูงพอกับฉันเลยแฮะ ฉันว่าฉันไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นนะ!

                “ไม้กวาดนี่สูงเท่ามารีเลยนะครับ” เซโตะคุงพูดพร้อมหัวเราะออกมา นี่เขาตั้งใจจะแหย่ฉันหรอเนี่ย~

                “มะ..มันแค่สูงเกินไม้กวาดทั่วไปต่างหาก” ฉันพูดออกไป ฉันไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าออกไปแบบไหน แต่รู้ว่าทั่วใบหน้าของฉันกำลังร้อนผ่าวไม่ต่างอะไรจากตอนที่เป็นเมื่อเช้า ต่างกันแค่ว่าฉันกลับรู้สึกดีกับมันมากกว่า

                “ฮะ ฮะ โอเค ไม้กวาดนี่มันสูงเกินไปแล้วกัน” เซโตะคุงพูดพร้อมกับพยายามหยุดหัวเราะ เพราะฉันทำท่าไม่พอใจ

                   “...”

                “ฮ...เฮ้ มารีเธอโกรธผมหรอ” เซโตะคุงทำท่าไม่ดีที่เห็นฉันเงียบ

                “...”

                “ถ้าทำให้เธอโกรธผมต้องขอโทษด้วยนะ แต่อย่าเงียบแบบนั้นสิ” เซโตะพูดด้วยเสียจริงจัง จนทำให้ฉันใจอ่อน ทั้งๆที่จริงๆแล้วฉันแค่อยากแกล้งเขากลับเท่านั้น

                “ไม่ๆๆๆ ฉันไม่ได้โกรธ...นะคะ ดูสิฉันยังยิ้มอยู่เลย” ฉันพูด พร้อมกับทำหน้าตลกๆ จนเขาหัวเราะออกมา

                “ครับ”เขาพูดก่อนจะเอามือมาลูบหัวของฉันเบาๆ “อ๊ะ เอ่อ ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจจะไปลูบหัวมารีแบบนั้น...” เขารีบชักมือออก และก้มหัวให้ฉัน... ฉันเลยเอามือไปลูบหัวของเขาบ้าง

                “เฮ้ย มารีเธอทำอะไรน่ะ” ดูเขาจะตกใจกับการที่ฉันทำแบบนั้นนะ

                “ก็ลูบหัวเซโตะคืนไง ทีนี้เราก็หายกันแล้วนะ” ฉันยิ้มให้เซโตะคุง ทำแบบนี้เราจะได้ไม่รู้สึกผิดต่อกันไงล่ะ J

                   ฉันกวาดในส่วนของฉันไปได้นิดหน่อยก็โดนเซโตะแย่งไปหมด ฉันไม่ได้ช้าขนาดนั้นหรอกนะ แต่ว่าเซโตะคุงทำเร็วต่างหาก

                “โถ่ เซโตะคุงแย่งฉันกวาดหมดเลย รู้สึกเหมือนฉันเอาเปรียบนายยังไงไม่รู้” ฉันพูดออกไปตามตรง เซโตะคุงเลยยิ้มและบอกว่า

                “มารีเองก็ช่วยผมกวาดแล้วนี่นา เพราะงั้นไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก”

                “อื้อ”

                เมื่อเซโตะคุงพูดแบบนี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข เขาไม่ทำให้ฉันเป็นกังวลหรือรู้สึกกลัวเลยผิดจากใครบางคน (ฉันไม่ได้ว่าใครนะ ><)

                “อ่าว มัวแต่จู๋จี๋กัน แล้วมันจะเสร็จได้ยังไง” เสียงมาร(?) เข้ามาผจญ(?) “ถ้าตรงนี้เสร็จแล้วเธอก็มาช่วยฉันทางนี้หน่อยสิ” โคโคโนเสะ คุโรฮะ ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้พูด ตอนนี้เข้ามายืนระหว่างฉันกับเซโตะแล้ว

                “อ๋อ คุโรฮะคุง เดี๋ยวผมจะไปช่วย...” เซโตะคุงเสนอตัวแต่ว่า

                “ไม่ใช่นาย ฉันหมายถึงเธอต่างหาก” เขาพูดแล้วชี้มาทางฉัน

                ขณะที่ฉันกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเขาก็จับข้อมือฉันแล้วลากไป

                “ขอยืมตัวยัยขนแกะนี่หน่อยละกัน” พูดแล้วเขาก็ไปทิ้งให้เซโตะคุงยืนเหวออยู่คนเดียว ฉันไม่ใช่ขนแกะนะ!!

                “นี่นายจะพาฉันไปที่ไหน”

                ฉันร้องโวยวายแล้วดิ้นไม่หยุด ถึงจะสู้แรงฉุดกระชากลากถูของเขาไม่ได้เลยก็ตามที จนทำให้เขาหันมาโวยวายใส่ฉัน

                “หยุดดิ้นซักที ฉันไม่ได้จะพาหล่อนไปฆ่านะเฟ้ย!!!!

                   น่ากลัว น่ากลัวชะมัด

                ในที่สุดฉันก็ยอมเงียบแล้ว(โดนลาก)ตามเขาแต่โดยดี

                เขาพาฉันมายังห้องหนึ่ง มีกล่องมากมายวางทับซ้อนกันอยู่ ดูไม่ต่างอะไรไปจากห้องเก็บของ เขาคงต้องการให้ฉันช่วยย้ายของสินะ

                “เราจะเริ่มจากตรงไหน...”

                คุณแม่หรือคนรอบตัวมักจะบอกว่าฉันนั้นซื่อและโดนหลอกง่ายๆ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะทำให้ฉันเสียใจรึเปล่า แต่ตอนนี้ฉันชักจะเสียใจแล้วล่ะที่ฉันเป็นแบบนี้

                “ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันสองคนซักทีนะ...” โคโคโนเสะคุงพูดขึ้นมา

                “มันหมายความว่าไง โคโคโนเสะคุง” ฉันถามออกไป

                “เรียกฉันว่าคุโรฮะ...” เขาพูด

                “อะไรนะ โคโคโนเสะคุง...”

                “บอกว่าให้เรียกคุโรฮะ!!!” เขาตวาดฉันเสียงดัง แค่เรียกนามสกุลแค่นี้ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ

                “เอ่อ ก็ได้ คุโรฮะคุง เราจะเริ่มทำตรงไหน...” ฉันพยายามควบคุมไม่ให้เสียงของฉันสั่นเพราะความกลัว คนตรงหน้าดูอารมณ์แปรปรวนเหมือนผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำอย่างไงอย่างงั้นเลย

                “หึ  เริ่มงั้นหรอ” เขายิ้มออกมา ทำเอาฉันใจคอไม่ดี “ถ้างั้นกลับมาเข้าเรื่องของเรากันเถอะ แม่แกะน้อย”

                นั่นไงฉันว่าแล้ว ฉันไม่น่าเชื่อใจคนอย่างเขาเลยให้ตายเถอะ(เพราะเธอซื่อเกินไปต่างหาก : ไรท์)

                “ตะ ต้องการอะไร” ฉันถามออกไปแบบนั้น เผื่อจะใช้ต่อรองกับเขาได้

                “ตอนนั้นฉันช่วยเธอไว้นะ...คิดว่าฉันต้องการอะไรล่ะJ

                “เอ่อ ขอบคุณที่ช่วยฉันนะ” ฉันว่าตอนนั้นฉันคงกลัวคงกลัวเกินไปเลยไม่ทันได้ขอบคุณ อะไรจะสำคัญไปกว่าคำว่าของคุณล่ะ มารีเธอนี่แย่จริงๆ

                “ฉันไม่ต้องการของพรรค์นั้นหรอก” เอ้า! เป็นคนที่เรื่องมากจัง

                “แล้วนายอยากได้อะไร” ฉันถาม

                “ฉันต้องการ...” เขายิ้มที่มุมปากเล็กๆก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันช้าๆ ทำให้ฉันต้องเดินถอยหลัง

                “อะไร...” ฉันถาม แต่แล้วฉันก็ต้องจนมุมเมื่อหลังของฉันชนกำแพงซะแล้ว

                เขาไม่พูดอะไรพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างกั้นทางออกของฉันไว้ ตอนนี้ฉันนั้นอยู่ใต้อ้อมแขนของเขาและไร้ทางหนีเรียบร้อย มันใกล้เกินไปแล้วนะ!!

                “การที่ผู้ชายพาผู้หญิงมาอยู่ในที่แบบนี้สองต่อสอง เธอคิดว่าฉันต้องการอะไรล่ะ” เขาเหยียดยิ้มออกมา

                “หยะ...อย่าทำอะไรฉันเลยนะ จะให้ทำอะไรฉันก็ยอมแล้ว!”ฉันร้องออกมา ทำให้คนตรงหน้ายิ้มกริ่ม

                “ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจละนะ” เขาพูดและเข้าใกล้ฉันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้ฉันได้เห็นหน้าของเขาชัดขึ้น ดวงตาสีเหลืองอำพันของเขากำลังจ้องมองฉันอยู่


     

    เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ฉันนึกเสียใจกับคำพูดของตัวเอง









     

    ตอนนี้เขียนแล้วรู้สึกว่า เซโตะมารีเนี่ยหวานโน๊ะ หุหุ

    ขนาดเขียนหวานไม่เป็นยังรู้สึกว่าหวานเลย //เขียนไปฟินไปมดไต่จอเลย

    รู้สึกว่ามันให้บรรยากาศแตกต่างจากคู่หลักไงไม่รู้ (คู่หลัก คุโระมารี นะอย่าลืม)

    ส่วนตอนต่อไปจะเป็นยังไงก็ขอให้ติดตามด้วยนะคะ ^^

    เม้น & แชร์ แล้วไรท์เตอร์จะดีใจมากๆเลยค่ะ ><


    。SYDNEY♔

     
    Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×