คำเตือน : ฟิคเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวซีรีย์แต่อย่างใด
หลังจากที่กีฬาสีถูกยกเลิก ความสัมพันธ์ของบอสและคนในสภาก็ดูจะแย่ลงไป กับเจ๊เกรียงที่แต่เดิมก็ดูไม่ค่อยจะชอบในตัวเค้าซักเท่าไหร่ก็ดูเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก แถมยังคอยจิกกัดทุกครั้งที่สบตาเลยมั้ง
เต้อเพื่อสนิทตั้งแต่ม.ต้น ตอนนี้ก็ปันใจถอยห่างออกไป และหันไปสวามิภักดิ์กับเพื่อนใหม่ที่ดูท่าว่ามันจะหลงรักหัวปักหัวปำทั้งๆที่เพิ่งโดนหักอกมา
ถึงอย่างนั้นบอสก็ไม่ได้ออกจากสภา ยังทำงานของตัวเองต่อไป เขาไม่ใช่คนที่จะหนีปัญหาที่ตัวเองเป็นคนก่อแบบใครบางคน
บอสเหล่ตามองอดีตประธานนักเรียนอย่างณัฐชนน แม้ตอนนี้จะออกไปแล้วแต่ก็ยังมาป้วนเปี้ยนอยู่ในห้องสภาตลอด ทำให้เขาได้ยินเสียงเจ๊เกรียงและเพื่อนๆผีเจาะปากคอยเเขวะตลอดเวลาว่าคนที่ควรจะออกจากสภาไม่ใช่นน ควรจะเป็นคนอื่นมากกว่า…
คนอื่นที่ว่าเนี่ย
ถ้าไม่ได้หมายถึงหมาที่ไหนก็คงเป็นเขาละมั้ง…
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจซักนิด…
เอ๊ะ
รู้ตัวอีกทีก็อยู่คนเดียวในห้องสภาแล้ว…
บอสเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารที่ทำค้างไว้อยู่ ในนั้นมีเรื่องต่างๆที่ยังไม่เคลียร์จากงานกีฬาสีเต็มไปหมด และนอกจากบอสแล้วก็คงไม่มีใครจะใส่ใจมันด้วย
ดูเวลาแล้วก็เลยเวลาเลิกเรียนไปแล้วเหมือนกัน บอสจึงเก็บของของตัวเองเพื่อกลับบ้านบ้าง
ระหว่างที่กำลังจะเปิดประตู ประตูก็ถูกเปิดจากอีกด้านโดยใครบางคน…
“...”
“...”
ทั้งคู่สบตาอีกครู่หนึ่ง แววตาที่เคยขี้เล่นของนนดูเรียบเฉย รอยแผลที่คนตัวเล็กได้สร้างไว้ยังคงอยู่บนใบหน้า เพียงไม่กี่วินาทีที่ทั้งสองคนประจัญหน้ากันบรรยากาศมาคุก็ลอยเข้ามา ก่อนจะเเยกย้ายกันไปตามทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และราวกับว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ตั้งแต่หลังที่มีเรื่องกันวันนั้น ท่าทีของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป สังเกตได้ชัดเจนจากท่าทางของนนที่ปกติมักจะเป็นมิตรกับคนทั่วไป…
มันจะเป็นมิตรกับใครก็ช่างสิ ไม่ใช่พ่อ…
ร่างของบอสเดินไปยังที่เก็บจักรยานตามเดิม ปลดล็อกจักรยานแล้วขึ้นขี่กลับบ้านตามทางปกติที่ทำอย่างทุกๆวัน
ทำอย่างที่ทำทุกๆวัน…
ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ แมวสีดำตัวหนึ่งก็โผล่พรวดพราดเข้ามาขวางทางจักรยานอย่างกระทันหัน
“!!!!”
มันใกล้เกินไปที่จะแตะเบรกบอสจึงหักหลบไปข้างทางแทน แต่….
ปี๊นนนนนนนนนนนนน
โครม!
แมวดำตัวนั้นไม่รู้หรอกว่ามันได้ทำให้ชีวิตของใครบางคนได้เปลี่ยนแปลงไป
- - - - - - - - - - - - - - -
เสียงผู้คนกำลังวิ่งวุ่นวายอยู่รอบๆตัวของเขา
บอสลืมตาขึ้นมาในห้องสีขาว มีกลิ่นยาคละคลุ้งเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน บุคคลากรในชุดสีขาวกำลังวิ่งวุ่น ดูเหมือนว่าจะมีเคสร้ายแรงรออยู่ บอสยันตัวเองขึ้นนั่งและทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตะกี้นี้…
ดูเหมือนว่าเขาจะหักหลบลูกแมวตัวนั้น...แล้วเข้าสู่ถนนใหญ่...มีเสียงบีบแตรดังลั่น...หลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้สึกตัวอีก...จนกระทั่งตอนนี้
โดนรถชน?
บอสสำรวจตัวเองก็พบรอยฟกช้ำดำเขียวไม่กี่แห่งในร่างกาย ชุดนักเรียนก็ยังอยู่ครบดีไม่เป็นไร ตอนแรกว่าจะรอให้พยาบาลเข้ามาก่อน แต่รอตั้งนานก็ไม่มีใครมา เสียงวิ่งวุ่นวายก็สงบลงแล้วด้วย แต่ที่น่าแปลกใจที่ด้านนอกห้องก็ไม่มีใครอยู่เช่นกัน ทั้งๆที่โรงพยาบาลควรจะมีคนอยู่เข้าเวรตลอดเวลาแท้ๆ
อยากกลับบ้าน…
บอสสำรวจร่างกายตัวเองอีกรอบ นอกจากรอยฟกช้ำแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วจริงๆ บางทีเขาควรกลับบ้านไปซะดีกว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายค่อยบอกให้แม่ของเขามาจัดการทีหลัง ตอนนี้รู้สึกอยากกลับไปนอนที่บ้านมากถึงมากที่สุด โชคดีที่ทรัพย์สินของเขาถูกวางไว้ไม่ไกลนัก ทั้งประเป๋านักเรียนและโทรศัพท์
พอออกมาด้านนอกก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่รู้ว่าจักรยานของเขาอยู่ที่ไหน เวรกรรมจริงๆนายปราชญ์…
บอสเดินหาตรงที่จอดรถจักรยานของโรงพยาบาล แต่ก็ไม่พบ หรือบางทีอาจจะถูกเก็บเป็นเศษเหล็กจากอุบัติเหตุเมื่อครู่นี้แล้วก็ไม่รู้
เอาเป็นว่าเดินเอาแล้วกัน…
นี่เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากที่บ้านนัก คิดว่าเดินไปไม่นานก็น่าจะถึง แต่ว่ามันต้องผ่านโรงเรียนด้วยสิ…
แค่ผ่านโรงเรียนเอง ไม่มีอะไรหรอกน่า…
จู่ๆก็รู้สึกไม่อยากเดินผ่านหน้าโรงเรียนซะอย่างนั้น ที่โรงเรียนมันไม่น่ากลัวเเต่กลัวจะไปเจอคนที่หอพักอยู่ใกล้โรงเรียนซะมากกว่า
ก็แค่ไอ้นน ถ้าเดินผ่านก็ทำอย่างทุกที…
แล้วทำไมจะต้องรู้สึกอย่างนั้นด้วย สงสัยหัวของเขาจะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเลยละมั้งเนี่ย บางทีอาจจะได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่คิด...บอสสำรวจตัวเองอีกครั้ง ก็พบรอยฟกช้ำอยู่ที่เดิม…
บอสส่ายหัวให้กับตัวเองก่อนจะเดินออกมา...จะว่าไปใช้แท็กซี่ก็ได้นี่นา… ท่าทางเขาจะเป็นเอามากจริงๆแฮะ ว่าแล้วก็เดินไปโบกรถเรียกแท็กซี่อยู่ตั้งนาน แต่กลับไม่มีคันไหนจอดให้เลย ทั้งๆที่เปิดว่างอยู่แท้ๆ
เห็นว่าเป็นนักเรียนเลยไม่ยอมจอดให้รึไง
บอสบ่นอุบอยู่ในใจ
สุดท้ายเพราะขี้เกียจรอจึงเลือกที่จะเดินเหมือนเดิม อย่างน้อยก็ดีกว่ามารอพวกแท็กซี่ไร้น้ำใจพวกนี้ ถ้าเกิดว่าโบกรถได้แล้วดันมาบอกว่าจะไปส่งรถบอสคงปรี๊ดแตกแน่ๆ
แม้ว่าตอนนี้เวลาจะยังไม่ค่ำมาก แต่ว่าท้องฟ้าก็เริ่มมืดเร็วกว่าทุกที…
- - - - - - - - - - - - - - -
ร่างสูงเดินออกมาจากหอพักของตน เพราะว่าลืมการบ้านไว้ที่ห้องสภา แถมยังต้องส่งพรุ่งนี้อีก ณัฐชนนจึงต้องออกมาเอาในเวลาแบบนี้
ถ้าไม่ติดว่าครูประจำวิชาโหดล่ะก็คงไม่ออกมาเอา…
ข้างทางเริ่มมืดสนิท บ้านเรือนต่างๆเริ่มเปิดไฟ ไฟตามข้างทางยังพอเป็นแสงสว่างที่ทำให้มองเห็นทางอยู่บ้าง…
- - - - - - - - - - - - - - -
เพราะอะไรไม่รู้จึงทำให้บอสนึกถึงงานที่ตัวเองยังสะสางไม่เสร็จ ขายาวนั้นมายืนหยุดอยู่ที่หน้าโรงเรียน
อยากจะทำต่อให้เสร็จจัง…
บอสคิด สมองยังไม่ทันได้สั่งการเจ้าตัวก็แอบเข้ามาในโรงเรียนเสียแล้ว ถ้าทำเสร็จแล้วเขาก็คงจะออกจากสภาไม่ให้คอยรกหูรกตาคนพวกนั้น
เอกสารเมื่อตอนกลางวันถูกกางลงบนโต๊ะ บอสเริ่มจับปากกาก่อนจะขีดเขียนลงในกระดาษอย่างที่ทำทุกครั้ง พอรู้ตัวอีกทีแสงจากดวงอาทิตย์ก็เริ่มหายไป ห้องทั้งห้องมืดไปเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
บอสวางปากกาลงก่อนจะบิดขี้เกียจซักที แต่ประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้น ร่างบางสะดุ้งเฮือก จนเผลอทำกระดาษบนโต๊ะร่วงลงมาทั้งหมด ดูท่าทางผู้มาใหม่เองก็ดูจะตกใจ ไม่คาดฝันว่าจะมีคนอยู่ในเวลาแบบนี้
ไฟในห้องถูกเปิดขึ้น เผยให้เห็นร่างของบอสที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บเอกสารที่พื้น คนสวมแว่นเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเก็บเอกสารต่อ ทางด้านนนตอนแรกก็ว่าจะเอาการบ้านเสร็จแล้วกลับเลย แต่พอมาเจอบอสที่ยังคงทุ่มเททำงานให้สภาอยู่แบบนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรซักอย่าง…
“มา...บอสกูช่วย” นนเปิดปากพูด ก่อนจะนั่งยองๆลงเพื่อช่วยคนที่ตัวเล็กกว่าเรียงเอกสาร
“ไม่ต้อง…” บอสพูด พร้อมกับสายตาจิกแบบทุกที นนพอโดนพูดแบบนั้นใส่ก็ใช่ว่าจะลดละความพยายาม
“เออ มาเถอะน่า” เขาไม่ฟังที่คนร่างเล็กพูด ก่อนจะนั่งลงแล้วช่วยเรียงเอกสารนั่น บอสมองคนตรงหน้าอย่างเเปลกใจ ทั้งๆที่ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งคู่ต่างก็หลีกเลี่ยงกันมาโดยตลอดแท้ๆ
ก็ดี ไหนๆก็ไหนๆจะได้เสร็จเร็วๆ
บอสคิด เพราะถึงห้ามยังไงมันก็คงไม่ฟัง
เมื่อรวบรวมเสร็จบอสก็กลับมานั่งประจำที่เก้าอี้ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานอีกครั้ง…
“โห พวกเอกสารนี่มันเยอะกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย” นนที่ได้การบ้านมาแล้วนั่งมองบอสด้วยสายตาใสแป๋ว บอสมองก่อนจะตอบสไตล์จิกกัดแบบเดิม
“ก็เป็นงานแบบที่พวกมึงไม่ชอบกันนี่” บอสพูด ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าที่ตัวเองพูดนั้นแรงเกินไปรึเปล่าเพราะว่านนนั้นเงียบไปตั้งนานแล้ว
“เอ่อ...ที่กูพูดไปตะกี้…” บอสพูดกับนนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ แต่ก็ถูกขัดขึ้นมา
“ขอโทษ…” นนพูดออกมา บอสติดสตั๊นเล็กน้อย ก่อนจะนิ่งและฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูด “...กูขอโทษที่ต่อยมึงวันนั้น” นนพูดออกมา แม้บอสดูจะเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆ พอได้ฟังแบบนั้นก็อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้
“จริงๆวันนั้นกูเองก็ปากไม่ดีเองแหละ” บอสกล่าว “กูเองก็ต้องขอโทษจริงๆ” บอสพูด เพียงเท่านี้ทั้งคู่ก็เข้าใจกัน ทุกอย่างดูง่ายไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ดีแล้วที่เข้าใจกัน
แม้หลังจากนั้นบอสจะไม่ได้พูดอะไรออกมาหรือรั้งนนไว้ ร่างสูงก็ยังนั่งเฝ้าอยู่ไม่ไปไหน จนบอสเริ่มรู้สึกอึดอัดที่ถูกนนจ้องมาตั้งนาน
“จริงๆมึงกลับไปก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เอาอะ”
“นั่งดูกูทำงานนี่มันน่าสนุกตรงไหนเนี่ย” บอสพูด นนได้แต่หัวเราะแฮะๆ
“มาเห็นมึงตั้งใจทำงานแบบนี้ กูก็อยากจะทำอะไรซักอย่างที่กูพอจะทำได้บ้าง…” นนยิ้ม “...แต่ถ้ารำคาญกูกลับก็ได้นะ” นนว่า พลางทำเสียงน้อยใจน่าหมั่นไส้
“เออ ถ้าอยากจะอยู่ก็ตามใจ” บอสว่า เกือบรู้สึกเอ็นดูไปกับท่าทางลูกหมาแบบนั้นแล้ว
“เอ้อ บอส!”
“อะไร”
“ขอโทษ…” เอาอีกแล้วคำขอโทษออกมาจากปากณัฐชนนอีกแล้ว
“ถ้าจะพูดเรื่องเดิม คือไม่ต้องพูดอีกแล้วล่ะ” บอสพูด เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะขอโทษที่ต่อยเขาไปอีกครั้ง
“ไม่ใช่…” นนพูด ทำให้บอสตั้งใจที่จะพูดอีกฝ่ายพูดมากขึ้น “คือจะบอกว่า กูขอโทษที่ทิ้งมึงไว้ แล้วก็ปล่อยให้คนอื่นเอาแต่ว่ามึง” นนพูด
“แค่นั้นเอง กูชินละ” บอสพูด
“...แล้วก็ทำให้เต้อกับมึงทะเลาะกันอีก” นนพูด บอสนิ่งไปซักพัก อันที่จริงแล้วเขากับเต้อไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อย เพียงเเค่เลือกที่จะห่างๆกันไปเท่านั้น ต่างคนต่างก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง และอีกอย่างเต้อมันคงเลือกอยู่กับคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขมากกว่าอยู่กับเขาอยู่แล้ว มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่จะเลือกอะไรก็ตามที่ทำให้ตัวเองมีความสุข
“เฮ้ย พวกกูไม่ได้ทะเลาะกัน...แค่ห่างๆกัน” บอสพูดเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้น “อย่าคิดมากน่า” บอสพูด “ว่าแต่ทำไมมึงไม่รับรักเต้อวะ” บอสพูดติดตลก แต่อีกฝ่ายก็ท่าไม่ตลกด้วย เลยพูดแก้ตัว
“น้องนนไม่ได้ชอบเต้อซะหน่อย” ณัฐชนนพูด “...อันที่จริงน้องนนก็คิดนะว่าจริงๆเต้อน่าจะเป็นแฟนบอสมากกว่า” ว่าแล้วก็ทำหน้ากวนตีน
“บ้ารึไง กูยังไม่มีแฟนแล้วก็ไม่มีวันคบกับไอ้เต้อแน่ๆ” บอสโวยวายขึ้นบ้าง น้องนนหัวเราะ
ดีจัง บอสยังไม่มีแฟน…
เดี๋ยว แล้วกูจะดีใจทำไม
นนส่ายหน้าแรงๆสองสามทีจนบอสหันมามอง
“ไม่มีอะไรจ้ะ”
- - - - - - - - - - - - - - -
เมื่อเวลาล่วงเลยไปมากพอสมควร ก็ถึงเวลาที่บอสและนนควรจะกลับบ้านเสียที
“กูว่ากูกลับบ้านก่อนดีกว่า เอาไว้ค่อยทำต่อพรุ่งนี้” บอสพูดก่อนจะเก็บเอกสารใส่แฟ้มเเล้วเอาไปวางไว้บนชั้นอย่างเดิม นอกจากที่เขาที่อยากจะกลับบ้านเต็มแก่แล้ว คนที่นั่งรออยู่ก็ดูท่าว่าอยากจะกลับแล้วเช่นกัน
“จะกลับแล้วหรอ” นนลุกขึ้นบิดขี้เกียจ การบ้านเมื่อกี้ก็ทำเสร็จแล้วด้วยความช่วยเหลือจากบอสนี่แหละ “...ค่ำแล้วให้น้องนนไปส่งมั้ย กลับคนเดียวมันอันตรายนะ” นนว่าด้วยรอยยิ้มทะเล้น
“เอ่อ ไม่ต้องล่ะ กูกลับเองได้” บอสลุกขึ้นหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายหลัง ทำให้นนได้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าซะแล้ว
“บอส...ตัวมึงไปโดนอะไรน่ะ” นนมองไปยังรอยฟกช้ำที่ดูมากกว่าเดิมด้วยท่าทางเป็นห่วง แน่นอนว่ามันไม่ใช่รอยที่เขาทำแน่ๆ
“ไม่รู้ดิ จำไม่ได้” บอสโกหกออกไป แค่ก็แค่ส่วนหนึ่ง เพราะเรื่องบางส่วนเขาเองก็จำไม่ได้นี่นา “อาจจะเผลอไปเดินชนนู้นชนนี่ละมั้ง”
นนหลุดขำออกมานิดหน่อย “คนที่รอบคอบอย่างมึงอะนะจะเดินชนนู้นนี่ได้”
“แล้วไม่ได้หรอ?” บอสมองหน้า คิดว่าคนอย่างเค้าเป็นอะไรกันแน่เนี่ย
“ก็ได้สิ มึงเองก็คน กูเองก็คน มันก็มีบ้างที่จะทำผิดพลาด มึงไม่ใช่หุ่นยนต์ซักหน่อยที่จะต้องเป๊ะตลอดเวลา”
ได้ยินอย่างนี้ก็ทำให้บอสรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
พอออกมาจนถึงทางแยก เนื่องจากว่าบ้านของแต่ละคนนั้นไปคนละทางกัน
“งั้นกูไปก่อนนะ” บอสพูด
“บอส~” นนเรียกบอสไว้
บอสหันขวับมามอง “อะไร”
“พรุ่งนี้เจอกันนะ” พูดจบก็ยิ้มซื่อๆแบบลูกหมา ตามประสาน้องนน
“เออ เจอกัน”
พอแยกออกมา ก็พบรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของบอส อยู่กับไอ้นนแล้วก็สนุกดี มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแต่คนชอบมัน
- - - - - - - - - - - - - - -
ระหว่างทางบอสก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คฟีดข่าว การติดตามให้ทันข่าวสารอยู่ตลอดก็เป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันของบอส ดูเหมือนว่าหลังจากที่ไม่ได้เข้าไปดูนานหลายชั่วโมงก็ดูจะมีข่าวสารมากมายที่เขาต้องอัพเดต และแล้วสายตาของเขาก็สะดุดไปเจอกับข่าวหนึ่งเข้า
“นักเรียนจากโรงเรียนดังถูกรถชน ดับสยอง..”
เพราะสถานที่ตั้งของโรงเรียนมันอยู่ในแถวๆนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนในโรงเรียนก็ได้ พอเปิดข่าวเข้าไป แน่นอนว่าตามนิสัยสื่อไทย มีรูปศพของผู้เสียชีวิตติดอยู่ในข่าวด้วย เพียงแต่มีเซ็นเซอร์อยู่ด้วย ทำให้ไม่รู้สึกระคายตามากเท่าที่ควร
ดูจากสถานที่ มันเป็นระหว่างทางที่บ้านของเขากับโรงเรียนซะด้วย บางที่อาจจะเป็นช่วงไล่เลี่ยกับตอนที่เขาหมดสติไป…
ยังไม่ทันได้อ่านรายละเอียดของข่าว ในตอนนั้นเองก็เหลือสายตาไปเห็นลูกแมวดำตัวเดิม ตัวที่เขาเกือบจะเหยียบมันเข้าไปแล้ว ดวงตาสีเหลืองอำพันของมันตัดกับขนที่ดำเรียบ ทำให้เเมวตัวนี้ดูน่าหลงไหลอย่างบอกไม่ถูก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
“นี่เจ้าเหมียว” บอสเดินเข้าไปใกล้ ก็แปลกดีที่มันไม่ได้วิ่งหนี สงสัยอาจจะเป็นแมวมีเจ้าของ
“คราวหน้าคราวหลังอย่าตัดหน้ารถอีกนะ มันอันตราย” บอสพูดพลางลูบเข้าที่ลำตัวของเจ้าแมว ถ้ามีใครมาเห็นคงตกใจกับรับไม่ได้กับท่าทีของเขา แล้วไง เขาก็คนเหมือนกันนะ เจ้าแมวมันส่งเสียงครางเมี๊ยว ก่อนจะพรวดพราดเดินไปอีกทาง
เพราะกลัวว่ามันจะไปทางถนนใหญ่อีก
บอสตามมันไปจนถึงทางที่ดูคุ้นๆตา
“ตรงนี้มันเป็นตรงที่ฉันเจอแกนี่เจ้าแมว” บอสพูดขึ้นกับเจ้าแมว นี่ตอนนี้มันนั่งสงบตรงข้างทางแล้ว ตรงถนนยังมีกรวยจราจรกั้นไว้ รอยเลือดยังเปรอะเปื้อนถนนอยู่ พร้อมกับเศษซากชิ้นส่วนของรถจักรยานบางส่วน
ดูท่าทางคงเป็นอุบัติเหตุใหญ่น่าดู…
บอสสะกิดใจ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเปิดข่าวเมื่อครู่อีกครั้ง
“นักเรียนจากโรงเรียนชื่อย่อ น.บ.ด.” ใช่โรงเรียนของเขาเอง
“ผู้พบเห็นเหตุการณ์บอกว่า เด็กนักเรียนคนนั้นปั่นจักรยานมาก่อนจะเสียหลักลงที่ถนนใหญ่ เคราะห์ร้ายมีรถสิบล้อมาผ่านมาด้วยความเร็ว…” บอสไม่กล้าที่จะอ่านข่าวต่อ มือที่กำโทรศัพท์กำลังสั่นเครือ
ร่างบางนั้นออกตัววิ่งไปด้วยความสับสน
- - - - - - - - - - - - - - -
ณัฐชนนฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเมื่อมาถึงห้องพัก
ความขุ่นมัวทั้งอาทิตย์มลายหายไปทั้งหมด ได้ปรับความเข้าใจกับบอสแล้ว เขายอมรับเลยว่าที่ผ่านมานั้นเขาผิดกับบอสมาเยอะเหมือนกัน ผิดที่ไม่ชอบฟังที่มันพูดเลย
วันนั้นเขาเองก็เลือดขึ้นหน้าไปนิดหนึ่ง เรื่องถึงได้ลงเอยแบบนั้น
แต่ตอนนี้น้องนนสบายใจแล้ว
Rrrrrrrrrrrrrr~
‘เต้อ’
โทรศัพท์ของนนดังขึ้น พอรู้ว่าปลายสายเป็นใคร นนก็รับโทรศัพท์ทันทีด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
“ฮาโหลววว” นนใช้เสียงทะเล้น “ว่างัยเต้อ…”
แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาเล่นๆ
“มึงฟังกูดีๆนะ…”
ปลายสายพูดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อออกมา จนวางสาย ก่อนจะรีบออกไปยัง ‘โรงพยาบาล’ ในทันที
- - - - - - - - - - - - - - -
ไม่ เป็นไปไม่ได้…
บอสวิ่งกระหืดกระหอบกลับมายังโรงพยาบาลเดิม แม้จะวิ่งด้วยความเร็วเพียงไหน ความร้อนรนในใจก็ทำให้ลืมความเหนื่อยไปทั้งสิ้น
เมื่อมาถึงที่ห้องฉุกเฉิน บอสก็เห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ ท่าทางของเขาดูเศร้าสร้อยเกินบรรยาย แม่ของเขาผู้ที่ไม่เคยแสดงด้านที่อ่านแอให้เขาเห็นนั้นกลับมีน้ำตา ส่วนพ่อของเขาได้แต่กอดแม่ไว้เน้น เสียงสะอื้นของแม่นั้นทำให้ใจบอสนั่นเองแทบสลาย
“บอสไปสบายแล้ว อย่าร้องไห้เลยนะคุณ” พ่อของเขาพูดปลอบโยนแม่ แม้ดูจากสีหน้าแล้วพ่อจะดูจะเสียใจไม่ต่างไปจากแม่ แต่ในเวลานี้เขาต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้คนในครอบครัว
“พ่อครับ แม่ครับ” บอสส่งเสียงเรียก พ่อกับแม่ แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่ได้ยินเลยซักนิด ถัดไปจากนั้นไม่ไกลยังมีนนกับเต้อที่อยู่ไม่ห่าง นอกนั้นก็มีเฟิสต์และพละที่ดูท่าว่าจะตามนนมา
“เป็นไปไม่ได้!” นนทำลายความเงียบก่อนจะโวยวายขึ้นมา “เมื่อกี้กูยังอยู่กับบอสอยู่เลย” นนที่ดูท่าจะคลั่งไปแล้ว
“มึงใจเย็นๆสิวะนนะ” เต้อรีบปราม “มึงทำใจซะเถอะ บอสมันจากเราไปแล้ว” เมื่อมาพูดถึงตอนนั้นแล้วเต้อเสียงลั่นลงเล็กน้อย
บอสมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้น นี่เขาตายแล้วจริงๆหรอ
ถามไปงั้นแหละ จริงๆเขาก็พอรู้อยู่แก่ใจ คงไม่มีใครคิดวิปริตอยากจะแกล้งเขาแบบนี้หรอ
แต่ก็อยากให้มันเป็นเรื่องตลกอยู่เหมือนกัน…
ถ้ามันเป็นเรื่องตลกเขาก็อยากจะหัวเราะให้กับมัน อยากจะกอดคนที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา อยากจะกอดทุกคนอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น
พยาบาลชุดขาวเข็นรถเข็นออกมา มีคนนอนอยู่ตรงนั้นผ้าสีขาวที่ปกคลุมทำให้บอสรู้ว่ามันเป็นอะไร แม่ของเขากอดซากเนื้อตรงนั้นพร้อมกับร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ ไม่นานนักทุกคนก็ทยอยออกไปจนเหลือเพียงแต่นนที่ยังนั่งเหม่อลอยมองไปยังที่ไกลแสนไกล
“บอส…” นนเรียกหา บอสสะดุ้งเล็กน้อย
หรือว่าไอ้นนมันจะมองเห็นเขากัน แต่ดูจากสายตาที่ไม่ได้จับจ้องเขาอยู่ ไอ้นนมันคงไม่เห็นเขาจริงๆ
ใบหน้าที่ดูเศร้าหมองของมันทำให้บอสรู้สึกผิด แต่ตอนนั้นเอง…
“บอส…” นนเรียกเขาอีกครั้ง
“มึงอยู่แถวนี้รึเปล่า?”
“เออ กูอยู่” บอสตอบกลับ เพียงแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน เขาจึงนั่งลงข้างๆนน เขาไม่รู้ว่าไอ้นนมันจะทำอะไร
“...ถ้ามึงยังอยู่ตรงนี้นะกูอยากจะบอกมึง…”
นี่มันจะมาพูดอะไรไม่เข้าท่าอีกรึไง
บอสขมวดคิ้วเล็กๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่นั่งฟัง
“ถ้ามึงยังอยู่แถวนี้นะ กูอยากจะบอกมึง…”
มึงจะพูดซ้ำทำไมอีกอะนน
บอสที่ตอบโต้อะไรไม่ได้ ได้แต่เถียงอยู่ในใจ
“กูอยากจะบอกมึงว่า กูดีใจนะที่ได้เจอกับมึง กูดีใจนะที่มึงชวนกูมาทำสภา กูดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับมึง…” ดวงตาของนนจะดูแดงก่ำ บอสหัวเราะในลำคอตลกกับท่าทีของนน บอสไม่รู้หรอกว่าผีจะส่องกระจกได้มั้ย แต่สภาพของเขากับนนก็คงไม่ต่างกัน
“แล้วก็...สภาของมึงอะ กูจะดูแลต่อเอง ถึงกูจะออกจากสภาแล้วก็เถอะ กูจะทำทุกอย่างต่อเอง เพราะงั้นมึงไว้ใจพวกกูได้เลย…”
“มึงไม่ต้องห่วงนะ บอส”
“...”
“แล้วอีกอย่าง…”
ยังไม่หมดอีก
“กูชอบมึงนะ”
บอสไม่รู้ว่าที่นนบอกว่า ‘ชอบ’ นั่นหมายถึงชอบแบบไหน แต่แค่นี้มันก็มากพอแล้ว สำหรับคนอย่างเค้า
“ไอ้เหี้ย มึงมาบอกอะไรกูตอนนี้” บอสพูด ปกติแล้วเค้าไม่น่ามารู้สึกดีกับคำพูดของคนป็อปๆแบบนี้เลย
อย่างน้อยเค้าก็รู้สึกสบายใจขึ้น ร่างทั้งร่างก็รู้สึกเบาหวิวขึ้นมาซะอย่างนั้น คนเราเนี่ยจะเห็นค่าของสิ่งนั้น ก็ต่อเมื่อเราได้เสียมันไปแล้ว
“...ขอบใจมึงมากนะนน” คำกล่าวเสียงเเผ่วเบานั้นล่องลอยออกไป แม้จะไม่ได้ยิน แต่ก็สามารถที่จะสัมผัสได้
...อยากน้อยตอนนี้ก็ไม่มีอะไรห่วงแล้ว
- - - - - - - - - - - - - - -
ลมนั้นพัดพาควันที่ลอยออกจากเมรุไปยังที่ไกลแสนไกล
ในงานศพของบอสมีคนมาร่วมงานไม่มากนัก มีญาติจากครอบครัวของบอส เพื่อนร่วมห้อง อาจารย์ พวกสภา รวมถึงนนด้วย
ทางด้านพวกสภา แม้ว่าจะมีคนไม่ชอบบอส หมั่นไส้บอส แต่ว่าพวกนั้นก็ไม่ได้เกลียดจนถึงขั้นที่จะยินดีที่เห็นบอสตาย
หลังจากที่ฌาปนกิจเสร็จ นนก็กำลังจะกลับบ้าน แต่ก็ไปสะดุดกับแม่ของบอสที่ยังนั่งอยู่ สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่คงใจสลายเมื่อลูกของตัวเองต้องจากไป
“หนูชื่อนนใช่มั้ยจ๊ะ?” แม่ของบอสถาม แม้จะดูซีดๆแต่ก็ถือว่าดีกว่าวันอื่นๆ
“ใช่ครับ”
“ตอนอยู่ที่โรงเรียน บอสเป็นยังไงบ้างล่ะ” อันที่จริงเรื่องแบบนี้ควรถามเต้อนะ เพราะเค้าก็ไม่รู้รายละเอียกเกี่ยวกับบอสมาก จึงบอกเรื่องเกี่ยวกับบอสในสิ่งที่รู้
“บอสเป็นคนเก่งนะครับ ทั้งขยัน แล้วก็ทุ่มเทกับงานมากๆ” นนพูด เขาเล่าถึงบอสที่ช่วยเย็บผ้าในกีฬา ช่วยน้องที่เป็นลม ไหนจะเรื่องที่บอสทำอีกสารพัด แต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่ต่อยปากกันวันนั้นและเรื่องที่เขาเจอบอสเมื่อคืนก่อน
แม่ของบอสที่ได้ฟังเรื่องของลูกตัวเองก็ดูสดใสขึ้น
“ตั้งแต่บอสทำสภานะ แม่เห็นบอสดูร่าเริงขึ้นเยอะ” แม่ของบอสพูด “ปกติบอสไม่ค่อยเล่าเรื่องของเพื่อนที่โรงเรียนให้ฟังหรอกนะ”
“หรอครับ”
ชักอยากรู้ซะแล้วสิว่าเพื่อนที่บอสพูดถึงจะเป็นใคร
“บอสน่ะเล่าเรื่องของเราให้แม่ฟังบ่อยๆนะ” ได้ยินดังนั้นนนก็นรู้สึกใจชื่นมากขึ้น บอสพูดถึงเขาด้วยล่ะ
“บอกว่านนเป็นคนแปลกๆ บางทีก็ไม่เข้าใจนนเหมือนกัน” นนหุบยิ้มลงนิดหนึ่ง
‘ก็สมกับเป็นบอสดีแฮะ’ ว่าแล้วก็กลับมาอมยิ้มเล็กๆ
“เด็กคนนั้นน่ะ ก็เป็นคนแบบนั้นแหละ ถ้าสนิทกับใครแล้วก็จะยอมเล่าเรื่องคนนั้นให้แม่ฟัง…”
จากที่ยิ้มเล็กๆนั้นก็กลับมายิ้มหน้าบาน
เขาคุยกับแม่ของบอสไปซักครู่ ก็ได้เดินทางกลับบ้านซักที
บางทีนนก็คิดนะ…
ว่า...เสียดาย
เสียดายที่น่าจะรู้จักบอสให้มากกว่านี้
น่าจะรู้จักให้มากกว่านี้ ให้สมกับที่เพิ่งบอกคำว่าชอบออกไป
หลับให้สบายนะ บอส…
คนที่เขาแอบชอบ
- - - - - - - - - - - - - -
อย่าๆ อย่าทำร้ายเรานะทุกคน เราแค่อยากแต่งสนองนี้ดเท่านั้น 55555
ตอนเขียนก็ต้องเปิดเพลงบิ้วอารมณ์เอา
เขียนเองเศร้าเอง 55555
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกแบบเรารึเปล่า และขอบคุณที่อ่านจนมาถึงตอนนี้นะคะ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการแต่งค่ะ พกพาสะดวก //โดนลากไปเก็บ
เจอกันในฟิคเรื่องใหม่นะคะ บรัยส์ >w<
อ้อ เอาไว้ล้างตานะคะ
ตุ๊กตากระดาษบอส ปริ้นๆแล้วตัดๆ สนุกดี 555555
https://goo.gl/i636yy https://
เราใช้ One drive ฝากไฟล์ให้ดาวน์โหลดกันนะคะ
ชุดอาจจะมีน้อย แต่ก็จะทำเพิ่มเร็วๆนี้แหละค่ะ
สามารถมาพูดคุยกับเราได้ที่ทวิตเตอร์ @IBBerry96 ได้เลยนะคะ
บรรยายดีมากอ่ะ เข้าใจความรู้สึกของนนเลย แงงงง
ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ ทำไมมาพูดเอาวันที่สายแบบนี้
แง
เศร้าแทนน้องนนทำไมบอสไปเร็ว
นี่สินะเขาถึงบอกว่าชอบใครให้รีบพูด
ก่อนที่จะไม่มีโอกาสแม้กระทั่งพูดคำว่ารัก..
จุกเลยอ่ะไรท์ได้อ่านแนวนี้ ไรท์สื่ออารมณ์ของนนออกมาได้ดีมากค่ะ
อยากร้องไห้ตามเลยอ่ะ ไม่มีบอสอยู่แล้ว ฮือ....
มันหน่วงๆเหมือนในความเศร้าของการจากไป มันก็ยังมีความสุขเล็กๆที่ทั้งคู่ได้สะสางเรื่องคาใจ แต่ว่ามันก็สายไปแล้ว ฮือ...
มีใบชุบมั้ย ใครเอาใบชุบมาให้บอสที
มันหน่วงๆเหมือนในความเศร้าของการจากไป มันก็ยังมีความสุขเล็กๆที่ทั้งคู่ได้สะสางเรื่องคาใจ แต่ว่ามันก็สายไปแล้ว ฮือ...
มีใบชุบมั้ย ใครเอาใบชุบมาให้บอสที
พอเราย้อนกลับไปอ่านอีกที เจอที่บอสคิดว่าอยสกทำงานสภาที่ค้างให้เสร็จนี่เราน้ำคลอเลย เหมือนมันเป็นความค้างคาใจสุดท้าย แล้วก็เรื่องของนนด้วย ฮื้อ
ทำไมมันเศร้ายังเง้