คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วิเคราะห์แรงที่เกิดขึ้น
EP 3 : วิเคราะห์แรงที่เกิดขึ้น
“สุดท้ายปีกนักบิน.. ก็ดีกว่าเกียร์”
สถานะเศร้าๆประมาณจิ๊กโก๋อกหักที่ถูกอัพลงเฟสบุ๊คของ “พี่มิณทร์” ประหนึ่งคำคมวงเหล้าจนฉันรู้สึกถึงความเศร้าและความขี้เมาที่แผ่ออกมาพร้อมกัน ความจริงก็ไม่อยากเดาให้ตัวเองเจ็บปวดหรอกนะ แต่ฉันรู้ว่ามันอะไรเกิดขึ้นกับพี่มิณทร์
‘มิณทร์ ปันณพัชร’ รักครั้งแรกของฉัน พี่มิณทร์เป็นหนุ่มหล่อมาดกวนคณะวิศวะเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันตั้งแต่สมัยมัธยม พี่มิณทร์หล่อเหลาและสะกดทุกสายตาแม้เขาจะแค่ยืนหายใจ เขาก้าวเข้ามาเปลี่ยนโลกของฉันทั้งใบขณะเดียวกันก็ใจร้ายกับฉันสุดๆ ร้าย.. แต่ฉันก็ยังรัก
“เฮ้ย เธอเอามาจากไหนน่ะ?” โฟล์คหน้าเจื่อนนิดๆก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อกลบเกลื่อนฉัน
“ฉันส่องเฟสพี่มิณทร์อยู่ตลอดฉันรู้น่ะ” ทุกการเคลื่อนไหวของพี่มิณทร์ไม่เคยรอดพ้นสายตาฉัน ถึงแม้ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นฉันจะคอยหลบหน้าพี่มิณทร์มาตลอดก็เถอะ ไม่เจอ ไม่พบ ไม่คุย แต่ก็ยังรัก..
“พี่มิณทร์ก็ปกติดีนี่เธอคิดมากไปเองป่ะ?”
“หึ.. นอกจากขี้บ่นเหมือนตุ๊ดแล้วยังขี้โกหกอีกนะ ตกลงเรื่องจริงใช่มั้ยล่ะที่พี่มิณทร์โดนยัยนั่นทิ้งไป”
“แล้วเธอจะถามฉันทำไม ถ้าข่าวไวขนาดนั้น” โฟล์คส่ายหัวดิก
“ตกลงพี่มิณทร์เป็นไงบ้างอ่ะ” สี่ปีก่อนที่พี่มิณทร์เลือกยัยนั่น ความจริงฉันเจ็บมากนะแต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพี่มิณทร์มากกว่า พี่มิณทร์รักและอ่อนโยนกับยัยนั่นแค่ไหนฉันยังจำได้ดี แต่ยัยนั่นกลับนอกใจพี่มิณทร์แถมยังทิ้งพี่มิณทร์ซะงั้น
“เออ ก็น่าจะช้ำพอตัวอ่ะ”
“แล้วพี่มิณทร์โอเคมั้ยอ่ะ ฉันไม่เห็นพี่มิณทร์อัพอะไรลงเฟสบุ๊คเลย ฉันไม่รู้ว่าพี่มิณทร์เป็นยังไง” พอพี่มิณทร์ไม่เคลื่อนไหวฉันเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับพี่มิณทร์ โชคดีที่โฟล์คจับผลัดจับผลูเป็นน้องสายรหัสของพี่มิณทร์ฉันถึงได้ลากโฟล์คออกมาเค้นคอเนี่ยแหล่ะ
“ช่วงนี้พี่มิณทร์คงวุ่นกับการทำโปรเจ็คจบอ่ะแหล่ะ เธอเป็นห่วงมากไปป่ะ”
“ฉันรู้มาว่าพี่มิณทร์ออกไปเมามาทุกวัน"
“พูดเหมือนรู้เลยนะ”
“แล้วมันจริงใช่มั้ยล่ะ โฟล์คบอกฉันหน่อยนะฉันเป็นห่วงพี่มิณทร์” พี่มิณทร์เป็นคนสนุกสนานเฮฮาและมักจะจมอยู่ในวงสุราเวลามีเรื่องไม่สบายใจ แล้วนี่โดนยัยนั่นทิ้งไป..พี่มิณทร์จะเละแค่ไหน ฉันวาดภาพไม่ออกเลย งานนี้ไม่กินเป็นน้ำก็น่าจะอาบได้อ่ะ
“โอยย กุญแจซอลลเธอ การก๊งเหล้าเป็นเรื่องปกติของเด็กวิศวะ”
“ตอนที่นายออกมาหาฉัน พี่มิณทร์ดีขึ้นแล้วหรือยัง”
“เธอนี่.. จิกไม่ปล่อยเลยนะ เออ ยัง! ตอนฉันออกมาพี่มิณทร์ยังตั้งวงกินเหล้ากับพวกเพื่อนๆเขาอยู่เลย” สุดท้ายโฟล์คก็คายออกมาจนได้ว่าพี่มิณทร์ยังเฮิร์ทอยู่ ยิ่งได้รู้ฉันยิ่งเป็นห่วงพี่มิณทร์อ่ะ
“โฟล์คค ไปหาพี่มิณทร์เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” ฉันกอดแขนโฟล์คหมั่บแล้วช้อนสายตาสบตาโฟล์คอย่างอ้อนๆ “ฉันอยากเจอหน้าพี่มิณทร์”
“ฉันไม่เข้าใจเธอจะไปทำไม?” โฟล์คถอนหายใจแล้วมองฉันอย่างเอือมๆ "เพราะถึงไปเธอก็ไม่กล้าเข้าไปคุยกับพี่มิณทร์อยู่ดี" ใช่.. ฉันมักจะแอบมองพี่มิณทร์อยู่ไกลๆเสมอเพราะฉันได้รับอนุญาตให้ทำได้แค่นั้น
“เหอะน่าโฟล์ค ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยน่ะ” ถึงโฟล์คจะไม่เห็นด้วยแต่โฟล์คก็ไม่เคยปฏิเสธคำขอของฉัน
“เธอแน่ใจแล้วนะว่าครั้งนี้เธอจะกล้าเข้าไปพูดกับพี่มิณทร์?”
ถามว่ากล้าไหม คิดว่าไม่..แต่ใจมันอยากเจอ! ฉันเป็นห่วงพี่มิณทร์มากกว่าที่จะกลัวกับการกลับไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง ฉันหนีหน้าพี่มิณทร์ตั้งแต่เขากับผู้หญิงคนนั้นคบกัน การมองคนที่เรารักกับคนที่เขารักรักกัน เป็นอะไรที่โคตรเจ็บเลย และนั่นคือเหตุผลในการหนีหน้าของฉัน
“เอาน่าา นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยเหอะนะ”
“กลับมาน้ำตาเช็ดหัวเข่าไม่รู้ด้วยล่ะ เออๆ อยากไปก็จะพาไปแล้วกันตามใจ!”
“กลัวที่ไหน ฉันร้องไห้เรื่องพี่มิณทร์มาจนชินแล้ว” ฉันว่าอย่างปากเก่ง ฉันทำเป็นใจนักเลงทั้งที่จริงๆโคตรฝ่อ! ฉันทั้งเป็นห่วงและอยากหนีจากเขาไปพร้อมๆกัน
“โอเคงั้นตามใจเธอแล้วกัน” สุดท้ายโฟล์คก็ใจอ่อนในความดื้อและเอาแต่ใจของฉัน คืนนี้เป็นไงเป็นกัน..อย่างร้ายก็แค่มีคนอกหักซ้ำๆเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
ใจแข็งก็รอด..ใจกระจอกก็เจ็บ
“วิศวะอย่างเรามือมันไม่นุ่มเหมือนพวกนักบินใช่ป่ะ?”
MIN SAID
ถนนหน้าร้านเหล้าข้างมหาลัย K
๔๐ นาทีต่อมา
ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในรถของโฟล์คจนมาถึงถิ่นมหาลัยK ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของพี่มิณทร์และเป็นมหาลัยของโฟล์คซึ่งตั้งอยู่แถวบางเขน ฉันขนลุกขนพองนิดหน่อยที่ได้มาเหยียบถิ่นพี่มิณทร์ครั้งแรกทั้งๆที่เตรียมใจมาแล้วแต่ก็อดป๊อดไม่ได้อยู่ดี
เอ..นี่ฉันไม่ได้เจอพี่มิณทร์มานานแค่ไหนแล้วนะ?
ถ้าไม่นับรวมที่ฉันนั่งส่องเฟสพี่มิณทร์ก่อนนอนทุกวันเอาแบบที่เจอหน้ากันจังๆ นี่ฉันหลบหน้าพี่มิณทร์มานานกี่ปีแล้วก็ไม่รู้ เหอๆ หลบจนลืมไปเลยอ่ะ..
“ซะ ซอลชอบพี่มิณทร์ค่ะ”
ฉันนึกถึงภาพตัวเองในวันนั้นแล้วอดยิ้มขำสมเพชตัวเองไม่ได้ ฉันในวันนั้นคงบูชาความรักมากไป เพราะจนถึงวันนี้ฉันก็ยังจดจำ “คำสัญญา” หลอกเด็กในวันนั้นได้เป็นอย่างดี
“ซอลว่าไงนะคะ?”
ฉันนึกไปถึงคืนที่ฉันตัดสินใจสารภาพรัก คืนที่รักครั้งแรกสวยงามเหมือนฝันแต่มันก็เป็นห่วงผูกพันที่กักขังฉันไว้จนถึงวันนี้ ทุกอย่างมันเริ่มต้นตั้งแต่ฉันสารภาพรักกับพี่มิณทร์ เรื่องราวมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น
“ซอลเป็นน้องสาวเพื่อนสนิทพี่ พี่ว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกันแบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ”
รักครั้งแรกที่พอสารภาพปุ๊ปก็อกหัก ฉันรู้อยู่แล้วแน่ๆล่ะว่าผู้ชายฮ็อตปรอทแตกแบบนั้นคงไม่มีทางเซย์เยสกับฉันง่ายๆ เขามองฉันเป็นแค่เด็กคนนึงและขีดเส้นใต้ให้เป็นได้แค่น้องสาวเขาเท่านั้น
“แต่ซอลไม่อยากเป็นแค่น้องสาวนี่คะ!”
ตอนนั้นฉันก็เป็นแค่เด็กหัวรั้นที่พร้อมจะกระโจนลงไปในห้วงแห่งความรักเต็มๆ เหมือนแมลงกลางคืนที่หลงแสงสี หลงไฟ.. ที่สุดท้ายไฟกลับมาเผาไหม้หัวใจฉันเอง
“นี่หนูกำลังพูดอะไรอยู่ รู้ตัวมั้ยคะ?”
“งั้นถ้าซอลโตขึ้นเป็นสาวสวย ซอลขอเป็นแฟนพี่มิณทร์ได้มั้ยคะ?” ฉันเอ่ยปากขอพี่มิณทร์เป็นแฟนในวันนั้น ฉันไม่ยอมอกหักเพียงแค่เพราะเขามองฉันเป็นเด็ก ฉันดื้อดึงเพื่อที่จะทำให้เขารู้ว่าความรักของฉันมั่นคงกว่าใครทั้งนั้น
“ซอล.. หนูอยากเป็นแฟนพี่จริงๆหรอคะ?”
คำถามทีเล่นทีจริงของพี่มิณทร์ทำให้ฉันมีความหวังและก็อดใจเต้นแรงไม่ ได้ ฉันมั่นใจว่าความรู้สึกของฉันมีไม่น้อยไปกว่าใครและเขาก็เป็นรักแรกของฉัน
“อืมม ถ้างั้นเราทำสัญญากันไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ไว้หนูโตเมื่อไหร่มานะคะเป็นสาวสวยเมื่อไหร่รีบมาเลยเดี๋ยวพี่เหมาเป็นแฟนให้เอง ตอนนี้อดใจรอไปก่อนนะคะ”
“ซอล.. นี่เธอจะเหม่อไปถึงไหนน่ะ อีกนิดก็จะถึงหน้ามหาลัยแล้วนะ เป็นไรเนี่ยนั่งเงียบเป็นเป่าสากตั้งกะออกมาจากกล้วยน้ำไทแล้ว” โฟล์คละสายตาจากถนนแล้วเอื้อมมือมาคลอนหัวฉันจนฉันสะดุ้ง
“ห้ะ นายว่าไงนะ”
คำสัญญา ของพี่มิณทร์ในวันนั้นดังชัดยิ่งกว่าเสียงของโฟล์คตอนนี้ซะอีก โฟล์คหันมามองหน้าฉันอย่างงงๆ
"พี่เป็นขนาดนี้เลยหรอคะ"
SOL SAID
“นี่เธอได้ยินที่ฉันพูดป่ะเนี่ยย นี่เรากำลังจะถึงแล้วนะ”
ฉันได้สติกระพริบตามองวิวรอบๆอีกครั้ง คุณพระ.. นี่ฉันเหม่อตั้งแต่แยกกล้วยน้ำไทจนมาถึงบางเขนเลยหรอเนี่ยย รู้สึกตัวอีกทีก็มาโผล่แถวๆหน้ามอ K ซะแล้ว หัวใจฉันเริ่มเต้นผิดจังหวะ
“เธอจะเหม่อถึงพี่มิณทร์ทำไมวะ อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอกันแล้ว”
อูยย ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกวูบขึ้นมาจริงๆ ฮืออ มาถึงนี่แล้วคงถอยไมได้แล้วสินะ
“ว่าไง พร้อมยัง?” โอยยย ไอ้หมาโฟล์คจะย้ำไปถึงไหนวะ แค่นี้แข้งขาฉันก็สั่นป้อแป้ไปหมดแล้ว นี่ตกลงมันสั่นกลัวหรือสั่นสู้วะ?
“มะ ไม่รู้เหมือนกัน” แน่ะ..แม้แต่เสียงก็สั่น
“เธอแมร่งก็เจ็บไม่รู้จักจำ สวยขนาดเธอจะมีแฟนสักกี่สิบคนก็ได้ป่ะฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นพี่มิณทร์ด้วย” โฟล์คถอนหายใจอย่างเบื่อๆก่อนจะหักรถเข้าไปในซอยมืดๆซอยนึงที่มีร้านเหล้าเปิดกันละลานตาไปหมด ทำไมต้องพี่มิณทร์น่ะหรอ.. ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ได้ทีขยี้ใหญ่เลยนะ”
“ไม่ได้อยากจะขยี้ป่ะ ฉันก็แค่อยากเตือนสติเธอ” โฟล์คทิ่มรถไปจอดที่โคนต้นไม้หน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่งก่อนจะหันมานิ่วหน้าใส่ฉัน “ไม่ต้องมาทำหน้าเป็นหมาหงอยเลย รีบลงไปให้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยป่ะ”
ถึงจะปากหมาเลเวลสิบแต่ไอ้หมาโฟล์คก็เป็นคนเดียวที่ยอมทำทุกอย่างตามใจฉัน โฟล์คติดแหง่กอยู่ในเหตุการณ์ทุกครั้งตั้งแต่เริ่มตามเต๊าะพี่มิณทร์ยันฉันโดนเท เรื่องราวความรักคลับฟรายเดย์โฟล์คไม่เคยพลาดเลยสักตอน เกาะติดชีวิตรักกุญแจซอลก็ไอ้หมาโฟล์คเนี่ยล่ะ!
“โฟล์ค.. ช่วยมองหน่อย พี่มิณทร์ยังอยู่มั้ยอ่ะ” ฉันกวาดสายตาไปรอบๆขณะหลบอยู่หลังเกาะโฟล์คเป็นตุ๊กแกเพราะกลัวจ๊ะเอ๋กับพี่มิณทร์ ขณะที่โฟล์คค่อยๆเดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ
“ไม่เห็นอ่ะ สงสัยจะกลับกันไปหมดแล้วมั้ง” โฟล์คชะเง้อไปรอบๆก่อนจะเอี้ยวตัวมากระซิบบอกฉัน อุ้ยย จริงอ่ะ!! ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ยังไม่ได้ป๊ะกับพี่มิณทร์ ความจริงหัวใจฉันยังไม่เข้มแข็งอะไรขนาดนั้น
“ดีๆ ถ้าไม่เจองั้นก็กลับ”
“เฮ้ยย เธอจะกลับง่ายๆงี้เนี่ยนะ แล้วจะหลอกฉันมาทำไมเนี่ย รถมันติดนะเฟ้ย” ไอ้หมาโฟล์คหันมาโวยวายใส่ฉัน โว้ยย แล้วจะยืนโด่อยู่ตรงนี้หาพระแสงไรล่ะ ขืนอยู่นานพี่มิณทร์ก็โผล่มาพอดี สภาพหัวใจฉันตอนนี้โคตรของโคตรฝ่ออ่ะ
“อ้าว ไอ้โฟล์คมึงโผล่มาไงวะ?” พูดยังไม่ทันขาดคำ จู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงโผล่เข้ามาในร้านแล้วดิ่งมาทักโฟล์ค ฉันรีบโดดดึ๋งหลบฉากแทบไม่ทัน
“ไงพี่ กลับมาไมอ่ะ” โฟล์คหันไปทักผู้ชายคนนั้นในขณะที่ฉันแอบหลังอยู่หลัง โฟล์คเรียบร้อยแล้ว พลางตัวเก่งยิ่งกว่ากิ้งก่า เกาะหนึบยิ่งกว่าตุ๊กแกก็กุญแจซอลนี่ล่ะค่ะ
“พวกกูทำกุญแจรถหาย มึงเห็นบ้างป่ะ?”
“กุญแจซีวิคพี่อ่ะนะ?”
“เฮอะ ป่าวอ่ะกุญแจรถS13ของไอ้มิณทร์ แม่งเมาเหมือนหมาแล้วยังเสือกทำกุญแจรถหายอีก ซวยฉิบเลยว่ะ” นั่นไง..คุณพระ ตัวละครเริ่มออกมาแล้ว ฉันขยำด้าน หลังเสื้อช็อปของไอ้โฟล์คแน่นเมื่อได้ยินชื่อของพี่มิณทร์หลุดออกมาจากผู้ชายคนนั้น
“ตกลงพี่มิณทร์ทำกุญแจรถหาย แล้วตอนนี้พี่มิณทร์อยู่ไหนอ่ะ”
“เมาพับอยู่ที่ลานจอดรถข้างตึกอ่ะ” โฟล์คแอบถองศอกใส่ฉัน โอเคฉันรู้แล้วล่ะว่าตอนนี้พี่มิณทร์ตอนนี้เมาแอ๋อยู่ลานจอดรถ แต่ขอโทษเพราะฉันไม่ใช่เด็กมอ K เพราะงั้นไอ้ลานจอดรถที่ว่ามันอยู่ไหนอ่ะ?
“ลานจอดตรงข้างลานเกียร์อ่ะนะ”
บร๊ะ!! ไอ้หมาโฟล์คนี่รู้ใจ เหมือนฉันคิดอะไรก็อ่านใจฉันออกหมดเลย เดี๋ยวกลับไปฉันจะซื้อเพดดีกรีให้เป็นรางวัล
“เออ ก็ตรงแถวที่ประจำของไอ้มิณทร์มันน่ะแหล่ะ แม่งกอดล้อหลับไปแล้วมั้งง”
“เอาดิพี่ งั้นเดี๋ยวผมช่วยหา” โฟล์คเอาศอกถองฉันเบาๆเพื่อส่งสัญญาณให้ฉันอีกครั้งพอฉันได้สัญญาณไล่ปุ๊ปฉันก็รีบวิ่งปรู๊ดออกมาจากตรงนั้นปั๊ป ฉันรู้สึกคับคล้ายใบหน้าโอบป้าเกาหลีของผู้ชายคนนั้นมาก แต่นึกไงก็นึกไม่ออกบอกตรงจนฉันต้องสะบัดความคิดกับความรู้สึกคุ้นๆนั้นออกไป
ฉันวิ่งตูดปัดลัดเลาะและอ่านป้ายไปตามทางจนมาโผล่ที่ตึกๆนึงที่ด้านหน้ามีสัญลักษณ์เป็นตัวเฟืองอันใหญ่และขึ้นป้ายว่า “คณะวิศวะ” นี่ขนาดดึกแล้วนะฉันยังเห็นพวกผู้ชายใส่ช็อปเดินป้วนเปี้ยนกันไปมาอยู่เลย เอ.. ถ้าลานกว้างๆที่ฉันยืนหอบหายใจอยู่ตรงนี้เรียกว่าลานเกียร์แล้วลานจอดรถควรจะอยู่ไหนล่ะ?
ฉันกวาดสายตาไปรอบๆจนไปหยุดอยู่ที่รถสีขาวคันนึงที่จอดหลบๆอยู่ใต้โคนต้นไม้ข้างตึกคณะวิศวะโดยมีผู้ชายใส่เสื้อช็อปคนนึงเมาหมดสภาพนั่งกองอยู่ข้างรถ
พระเจ้า.. ขาฉันสั่นและหัวใจฉันก็ยังจำเจ้าของของมันได้ดี เจอกันกี่ทีพี่ก็ประทับใจซอลทุกทีเลยนะคะ
“พี่มิณทร์..” ฉันครางออกมาเสียงอ่อย
(LOADING 100%)
เฮลโหลลลลลล
หายไปนานเบยยย เค้าหายเฮดไปปั่นต้นฉบับมาค่ะ แฮ่ร
ตอนนี้ปั่นได้เยอะพอจะปล่อยในเว็บได้แล้วว
จะเริ่มอัพทุกวันแล้วนะ <3
กรละมุนแค่ไหน เจอมิณทร์เข้าไปความอยากครอบครองบังเกิดเลย
ตอนนี้ไรท์ตกหลุมรักมิณทร์อย่างจังแล้วอ่ะ อร๊ายย
>__<
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น