NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : วิเคราะห์แรงที่เกิดขึ้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.67K
      117
      11 ก.ค. 66

    "หัวใจฉันยังเต้นตึกตัก
    เหมือน
    ครั้งแรกที่ฉันเจอพี่มิณทร์ไม่มีผิด"  
    SOL SAID



     

    EP 3 :  วิเคราะห์แรงที่เกิดขึ้น
     



    “สุดท้ายปีกนักบิน.. ก็ดีกว่าเกียร์”

          

             
    สถานะเศร้าๆประมาณจิ๊กโก๋อกหักที่ถูกอัพลงเฟสบุ๊คของ “พี่มิณทร์” ประหนึ่งคำคมวงเหล้าจนฉันรู้สึกถึงความเศร้าและความขี้เมาที่แผ่ออกมาพร้อมกัน  ความจริงก็ไม่อยากเดาให้ตัวเองเจ็บปวดหรอกนะ  แต่ฉันรู้ว่ามันอะไรเกิดขึ้นกับพี่มิณทร์
             



    ‘มิณทร์ ปันณพัชร’  รักครั้งแรกของฉัน พี่มิณทร์เป็นหนุ่มหล่อมาดกวนคณะวิศวะเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันตั้งแต่สมัยมัธยม  พี่มิณทร์หล่อเหลาและสะกดทุกสายตาแม้เขาจะแค่ยืนหายใจ  เขาก้าวเข้ามาเปลี่ยนโลกของฉันทั้งใบขณะเดียวกันก็ใจร้ายกับฉันสุดๆ  ร้าย.. แต่ฉันก็ยังรัก  
              



    “เฮ้ย เธอเอามาจากไหนน่ะ?” โฟล์คหน้าเจื่อนนิดๆก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อกลบเกลื่อนฉัน  
              




    “ฉันส่องเฟสพี่มิณทร์อยู่ตลอดฉันรู้น่ะ” ทุกการเคลื่อนไหวของพี่มิณทร์ไม่เคยรอดพ้นสายตาฉัน  ถึงแม้ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นฉันจะคอยหลบหน้าพี่มิณทร์มาตลอดก็เถอะ  ไม่เจอ ไม่พบ ไม่คุย แต่ก็ยังรัก..
              




    “พี่มิณทร์ก็ปกติดีนี่เธอคิดมากไปเองป่ะ?”
              




    “หึ.. นอกจากขี้บ่นเหมือนตุ๊ดแล้วยังขี้โกหกอีกนะ ตกลงเรื่องจริงใช่มั้ยล่ะที่พี่มิณทร์โดนยัยนั่นทิ้งไป” 
              




    “แล้วเธอจะถามฉันทำไม ถ้าข่าวไวขนาดนั้น”  โฟล์คส่ายหัวดิก  



              

    “ตกลงพี่มิณทร์เป็นไงบ้างอ่ะ” สี่ปีก่อนที่พี่มิณทร์เลือกยัยนั่น ความจริงฉันเจ็บมากนะแต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพี่มิณทร์มากกว่า พี่มิณทร์รักและอ่อนโยนกับยัยนั่นแค่ไหนฉันยังจำได้ดี  แต่ยัยนั่นกลับนอกใจพี่มิณทร์แถมยังทิ้งพี่มิณทร์ซะงั้น
             




    “เออ ก็น่าจะช้ำพอตัวอ่ะ”
              




    “แล้วพี่มิณทร์โอเคมั้ยอ่ะ ฉันไม่เห็นพี่มิณทร์อัพอะไรลงเฟสบุ๊คเลย ฉันไม่รู้ว่าพี่มิณทร์เป็นยังไง” พอพี่มิณทร์ไม่เคลื่อนไหวฉันเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับพี่มิณทร์ โชคดีที่โฟล์คจับผลัดจับผลูเป็นน้องสายรหัสของพี่มิณทร์ฉันถึงได้ลากโฟล์คออกมาเค้นคอเนี่ยแหล่ะ  

              



    “ช่วงนี้พี่มิณทร์คงวุ่นกับการทำโปรเจ็คจบอ่ะแหล่ะ เธอเป็นห่วงมากไปป่ะ” 

              



    “ฉันรู้มาว่าพี่มิณทร์ออกไปเมามาทุกวัน" 
              




    “พูดเหมือนรู้เลยนะ”

     

              

    “แล้วมันจริงใช่มั้ยล่ะ โฟล์คบอกฉันหน่อยนะฉันเป็นห่วงพี่มิณทร์” พี่มิณทร์เป็นคนสนุกสนานเฮฮาและมักจะจมอยู่ในวงสุราเวลามีเรื่องไม่สบายใจ  แล้วนี่โดนยัยนั่นทิ้งไป..พี่มิณทร์จะเละแค่ไหน ฉันวาดภาพไม่ออกเลย งานนี้ไม่กินเป็นน้ำก็น่าจะอาบได้อ่ะ
              



    “โอยย กุญแจซอลลเธอ การก๊งเหล้าเป็นเรื่องปกติของเด็กวิศวะ”
              



    “ตอนที่นายออกมาหาฉัน พี่มิณทร์ดีขึ้นแล้วหรือยัง”
             




     “เธอนี่.. จิกไม่ปล่อยเลยนะ เออ ยัง! ตอนฉันออกมาพี่มิณทร์ยังตั้งวงกินเหล้ากับพวกเพื่อนๆเขาอยู่เลย” สุดท้ายโฟล์คก็คายออกมาจนได้ว่าพี่มิณทร์ยังเฮิร์ทอยู่  ยิ่งได้รู้ฉันยิ่งเป็นห่วงพี่มิณทร์อ่ะ 
           



    “โฟล์คค ไปหาพี่มิณทร์เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” ฉันกอดแขนโฟล์คหมั่บแล้วช้อนสายตาสบตาโฟล์คอย่างอ้อนๆ “ฉันอยากเจอหน้าพี่มิณทร์” 
              



    “ฉันไม่เข้าใจเธอจะไปทำไม?” โฟล์คถอนหายใจแล้วมองฉันอย่างเอือมๆ "เพราะถึงไปเธอก็ไม่กล้าเข้าไปคุยกับพี่มิณทร์อยู่ดี" ใช่.. ฉันมักจะแอบมองพี่มิณทร์อยู่ไกลๆเสมอเพราะฉันได้รับอนุญาตให้ทำได้แค่นั้น 




    “เหอะน่าโฟล์ค ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยน่ะ” ถึงโฟล์คจะไม่เห็นด้วยแต่โฟล์คก็ไม่เคยปฏิเสธคำขอของฉัน  
             
            


     “เธอแน่ใจแล้วนะว่าครั้งนี้เธอจะกล้าเข้าไปพูดกับพี่มิณทร์?” 
               



    ถามว่ากล้าไหม คิดว่าไม่..แต่ใจมันอยากเจอ! ฉันเป็นห่วงพี่มิณทร์มากกว่าที่จะกลัวกับการกลับไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง ฉันหนีหน้าพี่มิณทร์ตั้งแต่เขากับผู้หญิงคนนั้นคบกัน การมองคนที่เรารักกับคนที่เขารักรักกัน เป็นอะไรที่โคตรเจ็บเลย และนั่นคือเหตุผลในการหนีหน้าของฉัน


              

    “เอาน่าา นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยเหอะนะ” 
              

    “กลับมาน้ำตาเช็ดหัวเข่าไม่รู้ด้วยล่ะ เออๆ อยากไปก็จะพาไปแล้วกันตามใจ!” 
             

    “กลัวที่ไหน  ฉันร้องไห้เรื่องพี่มิณทร์มาจนชินแล้ว” ฉันว่าอย่างปากเก่ง  ฉันทำเป็นใจนักเลงทั้งที่จริงๆโคตรฝ่อ! ฉันทั้งเป็นห่วงและอยากหนีจากเขาไปพร้อมๆกัน
              

    “โอเคงั้นตามใจเธอแล้วกัน” สุดท้ายโฟล์คก็ใจอ่อนในความดื้อและเอาแต่ใจของฉัน  คืนนี้เป็นไงเป็นกัน..อย่างร้ายก็แค่มีคนอกหักซ้ำๆเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน 
               

    ใจแข็งก็รอด..ใจกระจอกก็เจ็บ        

     

    วิศวะอย่างเรามือมันไม่นุ่มเหมือนพวกนักบินใช่ป่ะ?”
    MIN SAID

    ถนนหน้าร้านเหล้าข้างมหาลัย K
    ๔๐ นาทีต่อมา

     


    ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในรถของโฟล์คจนมาถึงถิ่นมหาลัยK ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของพี่มิณทร์และเป็นมหาลัยของโฟล์คซึ่งตั้งอยู่แถวบางเขน  ฉันขนลุกขนพองนิดหน่อยที่ได้มาเหยียบถิ่นพี่มิณทร์ครั้งแรกทั้งๆที่เตรียมใจมาแล้วแต่ก็อดป๊อดไม่ได้อยู่ดี
             

    เอ..นี่ฉันไม่ได้เจอพี่มิณทร์มานานแค่ไหนแล้วนะ?  
             

    ถ้าไม่นับรวมที่ฉันนั่งส่องเฟสพี่มิณทร์ก่อนนอนทุกวันเอาแบบที่เจอหน้ากันจังๆ นี่ฉันหลบหน้าพี่มิณทร์มานานกี่ปีแล้วก็ไม่รู้ เหอๆ หลบจนลืมไปเลยอ่ะ..  
            

    “ซะ ซอลชอบพี่มิณทร์ค่ะ”
            

    ฉันนึกถึงภาพตัวเองในวันนั้นแล้วอดยิ้มขำสมเพชตัวเองไม่ได้ ฉันในวันนั้นคงบูชาความรักมากไป เพราะจนถึงวันนี้ฉันก็ยังจดจำ “คำสัญญา” หลอกเด็กในวันนั้นได้เป็นอย่างดี         
            

    “ซอลว่าไงนะคะ?”             
                 

    ฉันนึกไปถึงคืนที่ฉันตัดสินใจสารภาพรัก คืนที่รักครั้งแรกสวยงามเหมือนฝันแต่มันก็เป็นห่วงผูกพันที่กักขังฉันไว้จนถึงวันนี้  ทุกอย่างมันเริ่มต้นตั้งแต่ฉันสารภาพรักกับพี่มิณทร์  เรื่องราวมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น
                 


    “ซอลเป็นน้องสาวเพื่อนสนิทพี่ พี่ว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกันแบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ” 
              

    รักครั้งแรกที่พอสารภาพปุ๊ปก็อกหัก  ฉันรู้อยู่แล้วแน่ๆล่ะว่าผู้ชายฮ็อตปรอทแตกแบบนั้นคงไม่มีทางเซย์เยสกับฉันง่ายๆ  เขามองฉันเป็นแค่เด็กคนนึงและขีดเส้นใต้ให้เป็นได้แค่น้องสาวเขาเท่านั้น  
             

    “แต่ซอลไม่อยากเป็นแค่น้องสาวนี่คะ!” 
               

    ตอนนั้นฉันก็เป็นแค่เด็กหัวรั้นที่พร้อมจะกระโจนลงไปในห้วงแห่งความรักเต็มๆ เหมือนแมลงกลางคืนที่หลงแสงสี  หลงไฟ.. ที่สุดท้ายไฟกลับมาเผาไหม้หัวใจฉันเอง
              

    “นี่หนูกำลังพูดอะไรอยู่ รู้ตัวมั้ยคะ?” 
              

    “งั้นถ้าซอลโตขึ้นเป็นสาวสวย ซอลขอเป็นแฟนพี่มิณทร์ได้มั้ยคะ?”  ฉันเอ่ยปากขอพี่มิณทร์เป็นแฟนในวันนั้น  ฉันไม่ยอมอกหักเพียงแค่เพราะเขามองฉันเป็นเด็ก  ฉันดื้อดึงเพื่อที่จะทำให้เขารู้ว่าความรักของฉันมั่นคงกว่าใครทั้งนั้น  
              

    “ซอล.. หนูอยากเป็นแฟนพี่จริงๆหรอคะ?” 
             

    คำถามทีเล่นทีจริงของพี่มิณทร์ทำให้ฉันมีความหวังและก็อดใจเต้นแรงไม่ ได้  ฉันมั่นใจว่าความรู้สึกของฉันมีไม่น้อยไปกว่าใครและเขาก็เป็นรักแรกของฉัน  
             

    “อืมม ถ้างั้นเราทำสัญญากันไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ไว้หนูโตเมื่อไหร่มานะคะเป็นสาวสวยเมื่อไหร่รีบมาเลยเดี๋ยวพี่เหมาเป็นแฟนให้เอง ตอนนี้อดใจรอไปก่อนนะคะ”  
                

    “ซอล.. นี่เธอจะเหม่อไปถึงไหนน่ะ อีกนิดก็จะถึงหน้ามหาลัยแล้วนะ เป็นไรเนี่ยนั่งเงียบเป็นเป่าสากตั้งกะออกมาจากกล้วยน้ำไทแล้ว” โฟล์คละสายตาจากถนนแล้วเอื้อมมือมาคลอนหัวฉันจนฉันสะดุ้ง 
              

    “ห้ะ นายว่าไงนะ” 


    คำสัญญา ของพี่มิณทร์ในวันนั้นดังชัดยิ่งกว่าเสียงของโฟล์คตอนนี้ซะอีก  โฟล์คหันมามองหน้าฉันอย่างงงๆ

     

    "พี่เป็นขนาดนี้เลยหรอคะ"
    SOL SAID

              
        
    “นี่เธอได้ยินที่ฉันพูดป่ะเนี่ยย  นี่เรากำลังจะถึงแล้วนะ” 


    ฉันได้สติกระพริบตามองวิวรอบๆอีกครั้ง  คุณพระ.. นี่ฉันเหม่อตั้งแต่แยกกล้วยน้ำไทจนมาถึงบางเขนเลยหรอเนี่ยย  รู้สึกตัวอีกทีก็มาโผล่แถวๆหน้ามอ K ซะแล้ว  หัวใจฉันเริ่มเต้นผิดจังหวะ 
            

    “เธอจะเหม่อถึงพี่มิณทร์ทำไมวะ อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอกันแล้ว”
              

    อูยย ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกวูบขึ้นมาจริงๆ  ฮืออ มาถึงนี่แล้วคงถอยไมได้แล้วสินะ
              

    “ว่าไง พร้อมยัง?” โอยยย  ไอ้หมาโฟล์คจะย้ำไปถึงไหนวะ แค่นี้แข้งขาฉันก็สั่นป้อแป้ไปหมดแล้ว  นี่ตกลงมันสั่นกลัวหรือสั่นสู้วะ?
              

    “มะ ไม่รู้เหมือนกัน” แน่ะ..แม้แต่เสียงก็สั่น
              

    “เธอแมร่งก็เจ็บไม่รู้จักจำ สวยขนาดเธอจะมีแฟนสักกี่สิบคนก็ได้ป่ะฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นพี่มิณทร์ด้วย” โฟล์คถอนหายใจอย่างเบื่อๆก่อนจะหักรถเข้าไปในซอยมืดๆซอยนึงที่มีร้านเหล้าเปิดกันละลานตาไปหมด  ทำไมต้องพี่มิณทร์น่ะหรอ.. ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
              

    “ได้ทีขยี้ใหญ่เลยนะ” 
              

    “ไม่ได้อยากจะขยี้ป่ะ ฉันก็แค่อยากเตือนสติเธอ” โฟล์คทิ่มรถไปจอดที่โคนต้นไม้หน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่งก่อนจะหันมานิ่วหน้าใส่ฉัน “ไม่ต้องมาทำหน้าเป็นหมาหงอยเลย รีบลงไปให้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยป่ะ” 
              

    ถึงจะปากหมาเลเวลสิบแต่ไอ้หมาโฟล์คก็เป็นคนเดียวที่ยอมทำทุกอย่างตามใจฉัน โฟล์คติดแหง่กอยู่ในเหตุการณ์ทุกครั้งตั้งแต่เริ่มตามเต๊าะพี่มิณทร์ยันฉันโดนเท  เรื่องราวความรักคลับฟรายเดย์โฟล์คไม่เคยพลาดเลยสักตอน  เกาะติดชีวิตรักกุญแจซอลก็ไอ้หมาโฟล์คเนี่ยล่ะ!
             

    “โฟล์ค.. ช่วยมองหน่อย พี่มิณทร์ยังอยู่มั้ยอ่ะ” ฉันกวาดสายตาไปรอบๆขณะหลบอยู่หลังเกาะโฟล์คเป็นตุ๊กแกเพราะกลัวจ๊ะเอ๋กับพี่มิณทร์  ขณะที่โฟล์คค่อยๆเดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ 
             

     “ไม่เห็นอ่ะ สงสัยจะกลับกันไปหมดแล้วมั้ง” โฟล์คชะเง้อไปรอบๆก่อนจะเอี้ยวตัวมากระซิบบอกฉัน  อุ้ยย จริงอ่ะ!! ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ยังไม่ได้ป๊ะกับพี่มิณทร์  ความจริงหัวใจฉันยังไม่เข้มแข็งอะไรขนาดนั้น
             

     “ดีๆ ถ้าไม่เจองั้นก็กลับ”          
              

    “เฮ้ยย เธอจะกลับง่ายๆงี้เนี่ยนะ แล้วจะหลอกฉันมาทำไมเนี่ย รถมันติดนะเฟ้ย” ไอ้หมาโฟล์คหันมาโวยวายใส่ฉัน  โว้ยย แล้วจะยืนโด่อยู่ตรงนี้หาพระแสงไรล่ะ  ขืนอยู่นานพี่มิณทร์ก็โผล่มาพอดี  สภาพหัวใจฉันตอนนี้โคตรของโคตรฝ่ออ่ะ  
              

    “อ้าว ไอ้โฟล์คมึงโผล่มาไงวะ?” พูดยังไม่ทันขาดคำ จู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงโผล่เข้ามาในร้านแล้วดิ่งมาทักโฟล์ค  ฉันรีบโดดดึ๋งหลบฉากแทบไม่ทัน
             

    “ไงพี่ กลับมาไมอ่ะ” โฟล์คหันไปทักผู้ชายคนนั้นในขณะที่ฉันแอบหลังอยู่หลัง โฟล์คเรียบร้อยแล้ว  พลางตัวเก่งยิ่งกว่ากิ้งก่า  เกาะหนึบยิ่งกว่าตุ๊กแกก็กุญแจซอลนี่ล่ะค่ะ            
              

    “พวกกูทำกุญแจรถหาย มึงเห็นบ้างป่ะ?” 
             

    “กุญแจซีวิคพี่อ่ะนะ?”
             

    “เฮอะ ป่าวอ่ะกุญแจรถS13ของไอ้มิณทร์ แม่งเมาเหมือนหมาแล้วยังเสือกทำกุญแจรถหายอีก ซวยฉิบเลยว่ะ” นั่นไง..คุณพระ ตัวละครเริ่มออกมาแล้ว ฉันขยำด้าน หลังเสื้อช็อปของไอ้โฟล์คแน่นเมื่อได้ยินชื่อของพี่มิณทร์หลุดออกมาจากผู้ชายคนนั้น
              

    “ตกลงพี่มิณทร์ทำกุญแจรถหาย  แล้วตอนนี้พี่มิณทร์อยู่ไหนอ่ะ”
              

    “เมาพับอยู่ที่ลานจอดรถข้างตึกอ่ะ” โฟล์คแอบถองศอกใส่ฉัน โอเคฉันรู้แล้วล่ะว่าตอนนี้พี่มิณทร์ตอนนี้เมาแอ๋อยู่ลานจอดรถ  แต่ขอโทษเพราะฉันไม่ใช่เด็กมอ K เพราะงั้นไอ้ลานจอดรถที่ว่ามันอยู่ไหนอ่ะ?
              

    “ลานจอดตรงข้างลานเกียร์อ่ะนะ”
              

    บร๊ะ!! ไอ้หมาโฟล์คนี่รู้ใจ  เหมือนฉันคิดอะไรก็อ่านใจฉันออกหมดเลย เดี๋ยวกลับไปฉันจะซื้อเพดดีกรีให้เป็นรางวัล
              

    “เออ ก็ตรงแถวที่ประจำของไอ้มิณทร์มันน่ะแหล่ะ แม่งกอดล้อหลับไปแล้วมั้งง”  
              

    “เอาดิพี่  งั้นเดี๋ยวผมช่วยหา” โฟล์คเอาศอกถองฉันเบาๆเพื่อส่งสัญญาณให้ฉันอีกครั้งพอฉันได้สัญญาณไล่ปุ๊ปฉันก็รีบวิ่งปรู๊ดออกมาจากตรงนั้นปั๊ป  ฉันรู้สึกคับคล้ายใบหน้าโอบป้าเกาหลีของผู้ชายคนนั้นมาก  แต่นึกไงก็นึกไม่ออกบอกตรงจนฉันต้องสะบัดความคิดกับความรู้สึกคุ้นๆนั้นออกไป
              

    ฉันวิ่งตูดปัดลัดเลาะและอ่านป้ายไปตามทางจนมาโผล่ที่ตึกๆนึงที่ด้านหน้ามีสัญลักษณ์เป็นตัวเฟืองอันใหญ่และขึ้นป้ายว่า “คณะวิศวะ” นี่ขนาดดึกแล้วนะฉันยังเห็นพวกผู้ชายใส่ช็อปเดินป้วนเปี้ยนกันไปมาอยู่เลย เอ.. ถ้าลานกว้างๆที่ฉันยืนหอบหายใจอยู่ตรงนี้เรียกว่าลานเกียร์แล้วลานจอดรถควรจะอยู่ไหนล่ะ?  


    ฉันกวาดสายตาไปรอบๆจนไปหยุดอยู่ที่รถสีขาวคันนึงที่จอดหลบๆอยู่ใต้โคนต้นไม้ข้างตึกคณะวิศวะโดยมีผู้ชายใส่เสื้อช็อปคนนึงเมาหมดสภาพนั่งกองอยู่ข้างรถ       
              

    พระเจ้า.. ขาฉันสั่นและหัวใจฉันก็ยังจำเจ้าของของมันได้ดี  เจอกันกี่ทีพี่ก็ประทับใจซอลทุกทีเลยนะคะ
             

    “พี่มิณทร์..” ฉันครางออกมาเสียงอ่อย

              

    (LOADING 100%)
     


    เฮลโหลลลลลล
    หายไปนานเบยยย  เค้าหายเฮดไปปั่นต้นฉบับมาค่ะ แฮ่ร 
    ตอนนี้ปั่นได้เยอะพอจะปล่อยในเว็บได้แล้วว
    จะเริ่มอัพทุกวันแล้วนะ <3

     

    กรละมุนแค่ไหน เจอมิณทร์เข้าไปความอยากครอบครองบังเกิดเลย

    ตอนนี้ไรท์ตกหลุมรักมิณทร์อย่างจังแล้วอ่ะ อร๊ายย
    >__<
     


    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×