ในสมัยโบราณ ต้นคริสต์มาส
หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า
| |
|
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคิสต์แสดงละครที่หน้าวัด
ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่ายที่สุดในประเทศเหล่านั้น
การแสดงละคร คริสต์มาสเหล่านี้มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี
จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดง นั้นกลายเป็นการเล่นลิเกล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมืองและศาสนาซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆแบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาวางไว้ที่บ้าน | |
|
เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด
ที่เขาเคยร่วมสนุกสนานกันหลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอ็ปเปิ้ล และแขวนแผ่นขนมปัง เพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่งมีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญ
| |
|
นอกจากนั้น
ชาวเยอรมันยังมีพิธีอีกอย่างหนึ่ง คือมีการจุดเทียน หลายเล่มเป็นรูปปิรามิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดอยู่ที่ยอดของปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญ และขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มา ของประเพณี
| |
|
ปัจจุบัน มีการแขวนของขวัญและไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของเดวิดไว้ที่สุดยอดประเพณีนี้เป็นที่นิยมของชาวตะวันตก อยู่มาก แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาสมีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ก็ยังนิยมทำกันอยู่เพราะเห็นว่ามีความหมาย ถึงพระเยซูเจ้าผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึงนิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า
และนอกจากนี้ยังหมายถึง
ความสว่างของพระองค์เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืดทั้งยังหมายถึงความชื่นชมยินดีและความสามัคคีที่พระเยซู เจ้า ประทานให้ เพราะต้นไม้เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนี้
| |
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
| | |
|
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น