คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : HOT PLAYBOY ll EP.01 ยั่ว(โมโห)เก่ง [100%]
EP.01
ยั่ว(โมโห)เก่ง
ผับ K
“สุขาเคลื่อนที่ชัด ๆ” ริมฝีปากที่ทาด้วยลิปสติกสีแดงสดเอ่ยสบถเบา ๆ
ท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดดังสนั่นไปทั่วทั้งร้าน ฉันยกยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปาก
ขณะเพ่งมองไปยังบุคคลตรงหน้า ซึ่งอยู่ห่างไม่ใกล้ไม่ไกลจากเก้าอี้ที่ตนเองนั่งอยู่มากนัก
แล้วจากนั้นฉันก็ยกค็อกเทลสีสันสดใสขึ้นจิกเบา ๆ พอให้ได้รู้รสชาติของมันเท่านั้น
ว่าแต่...ฉันมาที่นี่ทำไมกัน?
“พะพายอยากเข้าห้องน้ำเหรอ?” สาวร่างเล็กกว่าฉันมาก โดยเธอมีผมสองสีแถบซ้ายขวาไม่เหมือนกัน
ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน เธอเอนตัวขยับมาใกล้เพื่อเอ่ยถามฉัน แต่ว่าเธอเข้าใจผิดไปน่ะ
“อืม” แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามทีเถอะ
ฉันกลับตอบรับคำถามของเธออย่างนั้นออกไป ถึงแม้ว่าฉันไม่รู้ว่าตนเองจะไปทำไมก็ตาม
ก็ในเมื่อจริง ๆ แล้วฉันไม่ได้ปวดหนักปวดเบาสักหน่อย
ทว่าฉันก็ไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อยนะ หลังจากพยักหน้าส่ง ๆ ไปให้เธอคนนั้น
ฉันก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งทันที แล้วก้าวเดินตรงไปยังโซฟาตัวหนึ่งเพื่อหวังให้ได้เข้าใกล้เป้าหมายที่ตนเองหมายตา ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับคนที่ตนเองกำลังเพ่งมองไม่วางสายตาตั้งแต่เหยียบมาถึงที่นี่แล้วล่ะ
แต่ทว่าด้วยความที่ว่าบุคคลที่ฉันกำลังจ้องมองอยู่นั้นกำลังนัวเนียซบไซ้ซอกคออยู่กับสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่งอยู่ โดยที่ไม่แคร์สายตาใครต่อใครแม้แต่น้อย
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เห็นสีหน้าแววตาอย่างสนองสนใจของฉันที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาในทันที
ทว่าแต่แล้วไม่นานนักหลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ลืมตาขึ้นมาแล้วแอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นฉันยืนอยู่ใกล้
ๆ ก่อนคุณเธอจะปรับเปลี่ยนสีหน้าเสียใหม่ โดยการยกยิ้มเยาะเย้ยใส่ฉัน
นี่เธอคงกำลังคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงอีกคนของเขาสินะ
เธอถึงได้แสดงความเหนือกว่าอย่างนี้ออกมาให้ฉันได้เห็นน่ะ
เฮอะ บอกตามตรงเลยนะ พอฉันเห็นอย่างนั้นแล้ว
ฉันรู้สึกว่าคนอย่างเธอเนี่ย มันช่างน่าสมเพชเสียจริง ๆ เลยล่ะ
เพราะถ้าฉันเป็นเธอ ฉันไม่ลงทุนลดตัวทำตัวเปลื้องตัวเหมือนเธอหรอก มันไม่แพง
“ละ ลีโอ พอก่อน” ถึงปากของเธอจะเอ่ยบอกว่าพอ
แต่ฝ่ามือของเธอกลับกดขยำเส้นผมสีน้ำตาลเข้มให้ขยับเลื่อนต่ำลงจากซอกคอไปยังเนินอกของเธอแทน
นี่ถ้าหากว่าไม่มียางอายพอ คงทำไม่ได้นะเนี่ย
“หืม?” เมื่อถูกเรียกชื่อ
เจ้าของชื่อก็เลิกคิ้วขึ้นสูงพลางผละออกห่างจากอกโต ๆ เพียงเล็กน้อย แล้วหันไปมองตามสายตาของผู้หญิงในอ้อมแขนอย่างสงสัย และเมื่อเขาเห็นว่าฉันยืนอยู่ตรงหน้า
โดยมองมาอย่างไม่กะพริบตา คิ้วทั้งสองข้างของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นขมวด
ราวกับว่ากำลังมึนงงไม่มีผิด “เธอเป็นใคร?”
“ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะ” ฉันเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเขา
แล้วเอ่ยอย่างนั้นออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ในขณะที่สีหน้าเฉยชา ดูไร้ความรู้สึกในแบบฉบับฉัน
สายตาฉันหรี่มองเขาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกยาวแล้วส่ายศีรษะเบา ๆ
ฉันเปลี่ยนใจไม่เอ่ยถามออกไปดีกว่า
เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงหมุนกายกลับไปยังในกลุ่มเพื่อนของตนเองทันที
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่วายชำเลืองตามองพวกเขาสองคนเป็นระยะ ๆ อย่างเปิดเผย โดยไม่แคร์ว่าคนถูกมองจะมีสีหน้ามึนงงมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
คู่ที่ถูกขัดจังหวะเมื่อสักครู่มองหน้ากันอย่างงง ๆ
ลีโอเอียงคอมองฉันอย่างพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะเลิกสนใจไป
แล้วจากนั้นเขาก็หันกลับไปประกบริมฝีปากบดเบียดขยี้อย่างดูดดื่มใส่ผู้หญิงตรงหน้าต่อ
ราวกับว่าต้องการอวดฉันหน่อย ๆ ไม่มีผิด
ถ้าให้เดา อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
พวกเขาสองคนคงไปต่อกันที่ไหนสักแห่งแน่ ๆ ฉันมั่นใจเลย
“พะพาย
เมื่อกี้แกไปคุยอะไรกับลีโอเหรอ ไหนหงส์บอกว่าแกจะไปเข้าห้องน้ำไง” เจน ซึ่งเป็นเพื่อนที่ฉันสนิทที่สุดถามขึ้น เธอคงเห็นว่าเพื่อนคนนี้เดินตรงไปยังโซฟาของบุคคลที่ใคร ๆ ต่างก็ขนานนามว่าเป็นเสือผู้หญิงของแท้
เธอเลยเป็นห่วง...มั้ง
ไม่สิ ชื่อของเขาหมายถึงสิงโต งั้นฉันขอเรียกเขาว่าเจ้าป่าบ้ากามก็แล้วกัน
ผู้หญิงคนไหนอยากจะทอดกายให้เขาชมเชยก็เชิญไปได้เลย หากแต่ว่าพวกเธอสามารถมีอะไรกับเขาได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ
เพราะเขาคนนี้โคตรขี้เบื่อสุด ๆ เลยล่ะ ดังนั้นเขาเลยใช้ผู้หญิงเปลื้องเป็นบ้า
รู้อะไรไหม ตอนที่ฉันได้ยินฉายาแบบนั้นของเขาครั้งแรกน่ะ ฉันรู้สึกสมเพชและน่าขยะแขยงเขามากเลยจริง ๆ
นี่ไม่รู้ว่าเขามีปมอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงหรือเปล่านะ เขาถึงได้ยอมมีเซ็กส์กับใครก็ได้ที่เข้าตาน่ะ
ผู้ชายอย่างเขา
มันไม่ต่างอะไรจากสุขาเคลื่อนที่อย่างที่ฉันสบถเมื่อกี้นี้เลยจริง ๆ นะ ทุกคนว่าไหม?
ผู้ชายอย่างเขาเนี่ย มันหน้าไม่อายจริง ๆ
เขาเป็นผู้ชายสาธารณะที่คนอย่างฉันไม่ควรลดตัวไปยุ่งด้วยเลยแม้แต่น้อย
“พอดีฉันลืมถามแกไงว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน
ฉันก็เลยไปถามเขาแทน” ฉันโกหกหน้าตาย
ซึ่งฟังดูยังไงก็ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย
เพราะถึงแม้ว่าพวกเราสองคนจะเพิ่งเข้าผับแห่งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก่อนเข้าผับ
ตรงข้างประตูก็มีป้ายตัวโต ๆ
บอกทางเอาไว้แล้วว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน ซึ่งมันอยู่นอกร้านนั่นเอง
นี่ไม่รู้เหตุผลแก้ตัวของฉันพอจะเชื่อถือได้หรือเปล่านะ ทว่าฉันมั่นใจว่าคงไม่
อุปส์...แย่จัง ฉันคิดไม่ทัน ทำไงดี
แต่ก็ช่างเถอะเนอะ ข้ามเรื่องไปเถอะ
ผับแห่งนี้เป็นผับแบบกึ่งผับกึ่งร้านอาหารน่ะ
ภายนอกเปิดเป็นร้านอาหาร ส่วนภายในก็จะเป็นผับบาร์
ซึ่งภายในจะเปิดเพลงดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งร้าน
ในส่วนนี้มันเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสถานที่พบปะสังสรรค์แบบมีแอลกอฮอล์ครบทุกชนิด
มาที่นี่แล้วคงไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ใครที่เข้ามาครั้งแรกอาจจะหูอื้อไปบ้าง
ทว่าโดยรวม ๆ แล้วก็ถือว่าโอเคน่ะนะ
“แล้วทำไมแกไม่เดินกลับมาถามฉันล่ะ
นี่เดินแค่ไม่กี่ก้าวเองนะ” ทั้ง ๆ
ที่คำแก้ตัวของฉันโคตรฟังดูไม่ขึ้นเลยสักนิด แต่ว่าเจนก็ยังไม่วายตั้งคำถามขึ้นมาอีกจนได้ นี่ไม่จำเป็นเลยนะ
เธอสามารถตัดบทด้วยการเอ่ยคำว่า‘เหรอ’แบบลากเสียงยาว ๆ เพื่อเป็นการประชดประชันฉันก็ยังได้ ฉันขอสัญญาเลยนะว่าฉันจะไม่กลบเกลื่อนความหน้าแตกของตนเองด้วยการเหวี่ยงเธอน่ะ
เธอก็รู้นิสัยใจคอฉันดีอยู่แล้วนี่นา
หรือว่านี่คือการประชดในแบบของเธอล่ะ?
“ก็ฉันขี้เกียจไง” เมื่อฉันตอบส่ง ๆ ไปแบบนั้นในที่สุด เจนก็กลอกตามองบนใส่ทันที เธอทำหน้าเอือมระอาต่อนิสัยฉันสุด ๆ แต่ทว่าฉันไม่แคร์หรอก
เพราะสายตาของฉันตอนนี้มันยังคงไม่เลิกมองลีโอเลยด้วยซ้ำ
เห็นเขานั่งแนบชิดติดกับผู้หญิงคนนั้นจนแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันแบบนั้นแล้ว
มันก็ทำให้ฉันอดรู้สึกหน่วง ๆ
ในใจไม่น้อยเลยนะ แบบนี้เรียกว่าหึงใช่ไหม?
“...”
“ฉันก็แค่ไปทักทายเขา” เอ่ยจบก็ถอนหายใจเฮือกแรงอย่างเซ็ง ๆ แต่แล้วพอจู่ ๆ ฉันสารภาพออกไปแบบนี้นั้น
เจนและรวมทั้งพวกเพื่อน ๆ
ที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยกันก็พากันหันขวับมามองหน้าฉันแทบจะพร้อมเพรียมกันเลยทีเดียวแหละ ยิ่งโดยเฉพาะสาวผมสีทูโทน เธอดูจะตกใจเอามากเลยล่ะ
ทว่าเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นนะ
เธอก็รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเสียใหม่ให้ดูเป็นปกติตามเดิมอย่างรวดเร็ว
จริงด้วยสิ หงส์อยู่บ้านเดียวกับลีโอนี่นา
พวกเขาเป็นญาติที่สนิทกันมาก ๆ นี่ฉันลืมไปได้อย่างไรกัน
อ้อ และฉันก็เกือบลืมเรื่องสำคัญจริง ๆ แล้วด้วย คือจริง ๆ
แล้วการที่พวกเรานัดเจอกันในค่ำคืนนี้เนี่ย
นั่นเป็นเพราะว่าฉันคนนี้นี่เองแหละที่เป็นคนขอให้เจนช่วยนัดเจอหงส์นั่นเองแหละ
ซึ่งเพื่อเราจะได้ทำความรู้จักกัน เผื่อว่าในอนาคต
ฉันอาจจะขอให้หงส์ช่วยเป็นแม่สื่อให้ฉันกับลีโอไงล่ะ
อ่า ฉันลืมบอกทุกคนไปอีกอย่างนะ อันที่จริงแล้วทุกอย่างมันซับซ้อนเล็กน้อยน่ะ เอาเป็นว่าฉันเป็นคนวางแผนทุกอย่างเองแหละ
ว่าแต่นี่มีเรื่องอะไรน่าตกใจมากนักเหรอ สาว ๆ โต๊ะเราถึงได้พากันมองหน้าฉันด้วยสายตาแปลก ๆ กันแบบนี้น่ะ?
จะบอกว่าหมอนั่นมีแฟนแล้วก็ไม่น่าจะใช่
หรือว่าฉันแสดงความแรดออกมาตรง ๆ ล่ะ เพื่อน ๆ ทุกคนเลยพากันตกใจกันหมด?
อืม เหตุผลอย่างหลังนี้ก็มีความเป็นไปได้มากกว่านะ
ในกลุ่มนี้มีแต่ผู้หญิงทั้งสิ้น ฉันไม่ได้รู้จักคนอื่น ๆ
เลยนอกเหนือจากเจนและก็หงส์
ตอนแรกที่มาถึงทุกคนก็แนะนำชื่อเล่นตัวเองกันหมดแล้วแหละ
แต่ทว่าเพราะฉันขี้เกียจจดจำรายชื่อแต่ละคนใส่สมองมากนักไง ฉันก็เลยจำไม่ได้
“แกว่าไงนะ!” เจนตะโกนถามเสียงลั่นเหมือนว่าไม่ได้ยินคำพูดเมื่อกี้นี้ของฉัน ทั้ง ๆ ที่เธออยู่ใกล้ฉันที่สุด และพอดีที่ดีเจเพิ่งจะลดเสียงลงและเปลี่ยนเพลงเป็นเพลงเบา
ๆ ออกแนวอกหักแทนที่จากเพลงจังหวะมัน ๆ ล่าสุด
ดังนั้นเธอก็น่าจะได้ยินที่ฉันพูดแล้วนะ หรือว่านี่เธออุทานต่างหากล่ะ?
เฮ้อ...ก็คงใช่แหละ นี่ฉันไม่น่างงเลยนะ
“ฉันไปทักทายลีโอเพราะฉันอยากทำความรู้จักกับเขา” ในที่สุด ฉันก็ยอมสรุปให้เข้าใจกันไปตรง ๆ ก่อนจะยกค็อกเทลดื่มรวบเดียวหมดแก้วแล้ววางแก้วเปล่า ๆ
ลงบนโต๊ะทรงสูงที่พวกเรานั่งล้อมกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ “นี่ถ้าไม่ได้ลองเนี่ย ฉันคงไม่รู้รสชาติหรอกนะ
หึ” ว่าในขณะที่ปลายนิ้วเคาะเล่นเบา ๆ บนขอบแก้ว
ลองในที่นี้ ฉันหมายถึงค็อกเทลที่ดื่มเข้าไปเมื่อกี้นี้น่ะ
แต่ไม่รู้ว่าพวกเพื่อน ๆ เธอคิดลึกไปไกลว่าฉันอยากลองอย่างอื่นหรือเปล่านะ
อันนี้ก็ไม่แน่ใจ เพราะน้ำเสียงและคำพูดคำจาของฉัน มันมักจะเหมือนมีนัยยะแอบแฝงเสมอ
หากใครจะเข้าใจผิด มันก็ไม่แปลกนักหรอก
ซึ่งจริง ๆ
ฉันตั้งใจแหละ ฉันชอบให้ใครต่อใครเข้าใจฉันผิด เพราะตอนที่เห็นสีหน้าเหวอ ๆ แล้ว ฉันรู้สึกตลกเป็นบ้า
“แกเมาแล้วนะพะพาย
งั้นเราสองคนกลับบ้านกันเลยดีกว่านะ ต้องขอโทษด้วยนะทุกคน” เมื่อบรรยากาศรอบตัวเราแปลก ๆ
เจนจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งแล้วดึงแขนฉันขึ้นอย่างรีบร้อน
การที่เธอรีบชวนฉันกลับบ้านคงเป็นเพราะว่าสายตาของพวกเพื่อน ๆ ของเธอกำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลก ๆ กันแล้วนั่นเองแหละ “ลุกสิพะพาย”
“เฮ้อ...” ฉันจงใจประชดด้วยการถอนหายใจแรง ๆ ยาว ๆ แต่ถึงอย่างนั้น
ฉันก็ยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งแต่โดยดีนะ “แกพาฉันไปที่ห้องน้ำก่อนสิ
เมื่อกี้ฉันยังไม่ได้เข้าเลยนะ” ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน
แต่ฉันก็ยังอยากให้เจนเป็นคนเดินพาไปเป็นเพื่อนด้วยอยู่ดี
เพราะเมื่อเหลือบมองไปยังพวกผู้ชายรอบ ๆ
ตัวพวกเราแล้ว มันไม่น่าไว้ใจนัก หลายคนมองฉันอย่างสนองสนใจ
ซึ่งสายตาดูน่าเกลียดมากเกินความจำเป็น พวกเขาไม่เก็บอาการเลยไง
บ่งบอกว่าต้องการอะไรอยู่
จริง ๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเสื้อผ้าหน้าผมที่ฉันสวมใส่มาในคืนนี้ มันสื่อให้เข้าใจว่าอย่างนั้นจริง ๆ คือเหมือนมาเพื่อสอยผู้ชายสักคนหิ้วกลับบ้านด้วยน่ะนะ
เสื้อเดรสสั้นกอดอกสีดำเน้นสัดส่วนโดยเฉพาะ
แม้ใบหน้าจะดูไร้อารมณ์เป็นปกติ
แต่กลับแต่งเติมออกมาให้ดูจัดจ้านด้วยการทาปากสีแดงสด ฉันกรีดอายไลเนอร์คมเฉี่ยว
และส่วนอื่น ๆ
ก็แต่งเติมให้ออกมาในโทนเข้ม ๆ
ดูลุคเป็นสาวแรง ๆ อย่างไรอย่างนั้น
การที่ฉันแต่งตัวแบบนี้เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องแปลกนักหรอก ดังนั้นหากว่าในคืนนี้ทุกคนจะมองว่าฉันแรดและร่านหน่อย
ๆ ก็ไม่หรอก เพราะฉันตั้งใจแต่งตัวให้ออกมาให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไงล่ะ
ฉันแต่งมาเพื่อยั่วลีโอโดยเฉพาะ แต่ทว่าดูทรงแล้วเหมือนว่าการลงทุนเปลี่ยนลุคใหม่ของฉันในครั้งนี้เนี่ย มันจะสูญเปล่าไปหน่อยน่ะนะ
“ฉันรอแกในรถนะพะพาย เพราะยังไงซะตรงนี้มันนอกร้านแล้วไง
คงไม่มีพวกตะเข้ลากแกไปกินตับหรอกมั้ง”
“อืม ส่งแค่นี้ก็พอ” ฉันตอบเจนพลางกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณรอบ ๆ ไปด้วยเพื่อจับสังเกต
หน้าห้องน้ำตรงนี้มันสว่างไสวด้วยหลอดไฟนีออนทั่วสารทิศตั้งแต่ทางเดิน
ซึ่งดูแล้วปลอดภัยน่าหายห่วง
เพียงแต่ว่าเวลานี้ไม่มีใครเดินเข้าเดินออกห้องน้ำเลยสักคนไง
ห้องชายหญิงแยกกันเป็นส่วน ๆ
เวลาเดินเข้าเดินออกไม่ประจันหน้ากันแต่อย่างใด ซึ่งมันก็ดีมากเลยน่ะนะ
ทำให้รู้สึกปลอดภัยดีไม่น้อยเลยทีเดียวแหละ
“ว่าแต่ทำไมคืนนี้แกแต่งตัวแบบนี้ล่ะพะพาย ดูแล้วมันน่าฉุดจริง ๆ เลยนะ นี่ถ้าหากแกโดนพวกหื่นกามลากตัวไป
ฉันจะไม่แปลกใจเลยอะ”
“ก็อยากโดนอยู่นะ
ฉันถึงได้แต่งตัวล่อเป้าแบบนี้ไงล่ะ”
“ยัยนี่นิ!” ว่าแล้วเจนก็ตีแขนฉันแรง ๆ หนึ่งทีเป็นการสั่งสอน
ซึ่งนี่ถือว่าเบาสำหรับเธอแล้ว เพราะเธอเป็นคนมือหนักน่ะ ว่าแต่ว่านี่เธอกำลังทำตัวเหมือนเป็นแม่ฉันไม่มีผิดเลยนะ
“ฉันไม่คุยกับแกแล้วพะพาย มันน่าหงุดหงิดอะ
ฉันไปรอแกที่รถนะ เร็ว ๆ ล่ะ” สิ้นคำพูดรัว
ๆ เธอก็หมุนตัวสาวเท้าเดินเร็วไปยังรถของตัวเองทันที ซึ่งจอดทิ้งไว้อยู่บริเวณใกล้ ๆ นี้นี่เองแหละ
เธอปล่อยให้ฉันได้ทำธุระส่วนตัวตามลำพัง
เมื่อฉันเข้าไปในห้องน้ำแล้วพอได้มองตนเองในกระจกบานใหญ่ก็อดรู้สึกนึกสมเพชตนเองขึ้นมาไม่น้อย
นี่ฉันลงทุนไปไหม?
“ถ้าใช่แล้วยังไงเหรอพะพาย แกอยากให้ผู้ชายคนนั้นมารับผิดชอบจริง ๆ น่ะเหรอ?” ฉันพึมพำถามตนเองอย่างไม่มั่นใจนัก
แล้ววักน้ำเล่นอยู่ครู่หนึ่งเพื่อใช้ความคิด แต่แล้วจู่ ๆ
สายตาก็เหลือบไปเห็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในห้องน้ำหญิงเข้าพอดิบพอดี
ไม่ต้องเดาให้ยากคือผู้ชายเข้ามาในห้องน้ำหญิงยังไงล่ะ
ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือ...ลีโอ
ฉันมองลีโอนิ่ง ๆ ผ่านกระจกอย่างไม่นึกแปลกใจเท่าไรนัก
นัยน์ตาคู่นั้นมองมาอย่างไม่หลบหลีก ราวกับว่าเขาตั้งใจเข้ามาผิดห้องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ก็นะ เขาเดินมาพลางทำหน้าหื่นมาเลยไงล่ะ
“มองมาไม่วางสายตาแบบนี้
หมายความว่าเธอสนใจฉันมากเลยเหรอ?”
แววตาของฉันมองเขาอย่างที่เขาว่าจริงๆ
นั่นแหละ ไม่นานนักริมฝีปากของตนเองก็ยกขึ้นยิ้มรับเมื่อเขาเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาใกล้
ๆ ในที่สุด สรุปสุดท้ายแล้วที่ฉันลงทุนแต่งตัวเซ็กซี่ ๆ
เพื่อให้เข้าตาลีโอในคืนนี้ ก็ไม่สูญเปล่าสินะ “ว่าไงล่ะ?”
“...” พอฉันไม่ตอบ
ลีโอก็ขยับเข้ามาใกล้แบบประชิดตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะยกนิ้วชี้แตะบนริมฝีปากของฉันเบา ๆ
ซึ่งวันนี้ฉันทาด้วยลิปสติกสีแดงสดอย่างหนา ๆ เลยล่ะ
บอกตามตรง โดนรุกแบบนี้ ทำเอาฉันประหม่าไม่น้อยในทันทีเลยนะ
“ดีเหมือนกันนะที่ในนี้ไม่มีใครอยู่เลย
นอกจากเราสองคน...” นิ้วเรียวค่อย ๆ ขยับเลื่อนลงมาอย่างช้า ๆ จากริมฝีปากผ่านไปยังคาง
ต้นคอระหง จนกระทั่งลากไล้ไปจนถึงกระดูกไหปลาร้าอย่างถือวิสาสะ
ฉันไม่ได้ขยับตัวขัดขืนแต่อย่างใด
สายตาก็จับจ้องมองการกระทำของเขา ราวกับว่าตนเองไม่ได้รู้สึกรู้สาแม้แต่น้อย
“...” ที่ฉันเงียบเพราะฉันกำลังใจสั่นอยู่ยังไงล่ะ
อันที่จริงนี่เป็นครั้งที่สองแล้วแหละที่เขาแตะต้องตัวฉัน
“สีหน้าของเธอตอนนี้ดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยนะ
นี่ฉันอยากรู้จริง ๆ นะว่าเวลาเธอครางเนี่ย
สีหน้าของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนกัน?” น้ำเสียงลีโอแหบพร่าฟังดูเซ็กซี่ชวนให้ขนอ่อนบนตัวพร้อมใจกันลุกซู่
นี่ฉันต้องยอมรับเลยจริง ๆ นะว่าเขาทำฉันใจสั่นขึ้นมาอีกเท่าตัวเลยล่ะ แต่ไม่ได้สิ
ฉันต้องควบคุมร่างกายตนเองไม่ให้สั่นไหวไปมากกว่านี้สิ
เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงจับได้น่ะสิว่าฉันหวาดกลัวเขาไม่น้อยเลยทีเดียวแหละ
ทุกคนโปรดทำความเข้าใจเสียใหม่นะ ที่ฉันอยากเข้าหาเขาเนี่ย
นั่นเป็นเพราะว่าฉันมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงอยู่ต่างหากล่ะ
“นายพอจะมีญาติพี่น้องที่หน้าตาเหมือนตัวเองมั้ย
อย่างเช่น...ฝาแฝดน่ะ” ฉันเปลี่ยนเรื่องคุย โดยพยายามไม่สนใจมือกับสายตาที่กำลังลวนลามร่างกายของตนเอง
ลีโอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นละสายตาจากตัวฉันชั่ววินาทีหนึ่ง แล้วจากนั้นเชื่อไหมว่าเขากระทำทุเรศ
ๆ ขึ้นมา โดยการใช้ฝ่ามือหนาจับหมับตรงหน้าอกฉันเต็ม ๆ มือด้วยมือทั้งสองข้างของเขา
กึก!
‘ไอ้สารเลวเอ๊ย!’ ฉันสบถในใจอย่างโกรธเคืองฉับพลัน
ฉันแทบจะเก็บสีหน้าเรียบนิ่งเอาไว้ไม่อยู่ ลีโอมือไวไม่พอ
แถมยังหน้าด้านมากด้วย แต่ทว่าก็คลับคล้ายคลับคราเหมือนฉันไงล่ะ ขนาดว่าฉันอยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขาดัง ๆ แทบตาย แต่สุดท้ายตนเองกลับปิดปากเงียบแกล้งทำเป็นนิ่งเฉยอยู่ได้
“เธอถามทำไม?” จากตอนแรกที่แค่จับเฉย ๆ ลีโอก็ปรับเปลี่ยนเป็นบีบเคล้นขยำอย่างไม่รอช้า
โดยไม่สนสักนิดว่าฉันจะโมโหแล้ววีนแตกหรือไม่
เขาทำราวกับว่าเคยชินกับเรื่องพรรคนี้อยู่แล้ว ให้ตายเถอะ ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่กำหมัดแน่นข้างตัวเท่านั้นเพื่อไม่ให้ตนเองสติแตกไปสักก่อน ก่อนที่ตนเองจะได้รับคำตอบจากปากของเขา “หรือว่าเธอกำลังตามหาใครอยู่งั้นเหรอ?”
“คนที่หน้าตาเหมือนนายไง” ฉันตอบเขาไปตรง ๆ เพราะมีเรื่องสำคัญต้องจัดการกับคนคนนั้น
“นี่มุกที่ใช้ในเข้าหาฉันเหรอ เก่าดีนี่”
“สรุปไม่มีสินะ
งั้นก็แสดงว่าคนคนนั้นก็คือนายจริง ๆ ด้วยน่ะนะ” สุดท้ายแล้วฉันก็ได้รับการยืนยันในที่สุด
ซึ่งฉันก็รู้สึกไม่โอเคเอาเสียเลย
อันที่จริงฉันมั่นใจอยู่แล้วล่ะว่าผู้ชายในคืนนั้นใช่เขา
แต่ฉันก็ยังหลอกตนเองจนถึงวินาทีสุดท้าย
ฉันไม่อยากยอมรับเลยจริง ๆ
แต่ทว่าให้ตายเถอะ นี่ถ้าตอนนี้ฉันยังคงปล่อยให้เขาบีบหน้าอกเล่นนานกว่านี้
เชื่อสิว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเสื้อกอดอกคงได้ถูกเลื่อนลงถึงเอวอย่างแน่นอนเลย
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ให้ตาย
ผู้ชายที่หน้าตาดูเป็นคนดีอย่างนี้ จะมีสันดานแบบนี้น่ะ
ที่จริงจากที่ฉันสืบมา ข้อมูลที่ได้รับก็ตามนี้แหละ แต่ทว่าตอนที่เขาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยน่ะ ท่าทางของเขาดูเป็นคนละคนกับตอนนี้สุด
ๆ
ดูเผิน ๆ นิสัยของเขาออกจะดีมาก ๆ สไตล์ของเขาเป็นลุคเดียวเหมือนอย่างน้องชายของเขาเป๊ะ
ๆ นี่คงเป็นเพราะว่าเขาสร้างภาพสินะ
“คืนนี้ฉันพบถุงยางแค่ซองเดียวด้วยสิ
เอาไงดีล่ะ?” ลีโอแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องที่ฉันเอ่ยถามระคนพึมพำ
เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมออกมาอย่างหน้าตาเฉย
“แต่ช่างยัยนั่นก็แล้วกัน
ซองนี้ใช้กับเธอดีกว่า”
“...”
“เพราะเธอดูน่าสนใจกว่าเยอะ” ว่าจบก็ยื่นซองถุงยางอนามัยมาให้ฉัน
“...”
ถามหน่อย ถ้าผู้หญิงคนไหนโดนหยาบคายใส่อย่างนี้ จะทำอย่างไร
ตบเหรอ?
ไม่หรอก เพราะนั่นน่ะมันไม่ใช่วิสัยของคนอย่างฉันเลยสักนิด
ในเมื่อเขายื่นซองมาให้ ฉันก็ช่วยแกะออกให้น่ะสิ ง่ายจะตายไป
ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเลยล่ะ
“เฮ้...เข้าไปในห้องก่อนสิ แล้วตอนฉีกซองน่ะ ก็ระวังด้วย เดี๋ยวถุงชำรุด” ลีโอทักท้วงเสียงหลงพร้อมแตะแขนฉันเบา ๆ เพื่อให้เดินตามเขาเข้าไปด้านในห้องน้ำ
ซึ่งมันเป็นห้องมุมสุด แต่ยังไม่ทันที่เราสองคนจะเข้าไปด้านในสักก่อนหรอก
ฉันก็ปัดมือของเขาออกไปอย่างรวดเร็วสักก่อน
“บอกตรง ๆ นะว่าฉันไม่อยากให้นายใส่ถุงเลยอะ ขอเอากันแบบสด ๆ เลยได้มั้ย?” สีหน้าของฉันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าตนเองจะรู้สึกกระดากปากที่พูดออกไปอย่างนั้นมากก็ตามทีเถอะ
ก็นะ คำพูดคำจาแบบนี้นั้น
มันเหมือนกับว่าตนเองไร้ยางอายสิ้นดีไม่มีผิด
“...!” ลีโอเงียบ แต่แอบหน้าเหวอเล็กน้อย
ก่อนที่เขาจะรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเสียใหม่ให้เรียบนิ่ง ในขณะเดียวกัน เขาจ้องมองฉันนิ่ง ๆ พร้อมกับแสยะยิ้มเหมือนคนรู้ทันความคิดฉันหนักหนา
แต่เปล่าหรอก เขาเดาความคิดฉันผิดไปแล้วล่ะ
“ยิ่งกับนายเนี่ย
ฉันยิ่งอยากจะลองดูสักครั้ง เพราะได้ข่าวว่าเวลานายรุก
นายโคตรดุ ฉันอยากรู้ว่าตัวเองจะรับไหวรึเปล่า” ฉันเอ่ยเสียงยั่ว
แถมยังขยับเข้าใกล้เขาพลางเล่นหูเล่นตาอย่างคนหน้าไม่อายเลยสักนิด สำหรับฉันแล้ว
ตนเองรู้สึกตลกดีนะ และก็รู้สึกสนุกมากด้วยที่สามารถยั่วโมโหเขาได้จนสำเร็จ “ได้มั้ย ฉันอยากให้นายเป็นฝ่ายรุกและขอสด”
“ถ้าเธอคิดจะจับฉันด้วยวิธีนี้
ฉันขอบอกเลยว่ายาก!”
นี่ลีโอคงเข้าใจว่าฉันจะปล่อยให้ตนเองท้องสินะ
ต้องใช่แน่ ๆ เลยล่ะ
แต่ช่างเขาเถอะ เขาอยากเข้าใจแบบไหน ฉันก็จะปล่อยให้เขาเข้าใจไปเองแบบนั้น
บอกว่าไงการกวนประสาทเขา มันเป็นเรื่องสนุกสำหรับฉันไปแล้ว
หึ
“ยากเหรอ?” ว่าแล้วฉันก็เอียงคอเล็กน้อยพลางแสร้งกะพริบปริบ ๆ มองเขาอย่างเด็กสาวใสซื่อ
“ทำไมล่ะ
ลองกันสักครั้งคงไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา มันคงไม่น่าจะมีผลอะไรหรอกมั้ง”
“...”
“...จริงมั้ย?”
ทุกคนเห็นด้วยไหมว่าคนอย่างฉันมันน่าโดนตบเนอะ แหะ ๆ
“เธอคิดว่าฉันโง่มากนักหรือไง” ลีโอกัดฟันพูด ซึ่งเมื่อจบประโยค เขาก็รีบหมุนตัวหันหลังไปแล้วกำหมัดตัวเองแน่นเพื่อจะระงับอารมณ์เดือด
นี่ไม่รู้ว่าเขาโมโหเพราะอารมณ์ค้าง
หรือว่าเพราะกำลังโกรธจนอยากบีบคอฉันกันแน่นะ ซึ่งฉันเดาว่าทั้งสองอย่างนั่นแหละ
แต่ก็ช่างปะไร แค่ตอนนี้ฉันรู้สึกสนุกสุด ๆ ก็พอ
“งั้นเอากันแบบใส่ถุงก็ได้
ว๊าย!” และแล้วฉันก็อุทานเสียงดังลั่น
ฉันเสแสร้งแกล้งทำทีเป็นตกอกตกใจขึ้นมาฉับพลัน
ถุงยางอนามัยที่ถืออยู่ในมือ ฉันจงใจขว้างมันทิ้งจนมันกระเด็นตกหล่นอยู่บนพื้นกระเบื้องห้องน้ำ ซึ่งห่างจากจุดที่ฉันกับลีโอยืนอยู่พอสมควร
ที่ตลกคือลีโอหันขวับกลับมาเห็นตอนที่ฉันขย้ำและใช้เล็บยาว
ๆ จิกเข้าใส่บนสิ่งนั้นพอดิบพอดี ก่อนที่มันจะหลุดไปจากมือฉัน
เอาจริง ๆ คือฉันจงใจมาก ๆ เลยแหละ
ฉันตั้งใจให้เขาเห็นช็อตเด็ดช็อตนั้นเต็มตาน่ะ
“นี่เธอ...!”
“แย่จัง โดนจับได้ซะแล้ว
งั้นเราไม่ต้องกันแล้วก็ได้ อดกัน!” พูดจบ
ฉันก็ออกตัวเดินเร็วออกไปจากห้องน้ำไปทันที
เพราะเบื่อหน่ายที่จะมาเล่นอะไรไร้สาระเต็มทีแล้วล่ะ
ก็ในเมื่อทุกอย่างเคลียร์
ในที่สุดฉันรู้แล้วว่าคนที่ตนเองกำลังตามหาอยู่คือเขาแน่นอน เพราะฉะนั้นก็กระจ่าง
แต่ทว่าฉันรู้สึกผิดหวังกับคำยืนยันจากปากเขาสุด ๆ เลยล่ะ
คนคนนั้นไม่น่าเป็นเขาเลยนะให้ตายเถอะ
นี่ฉันยังหวังลึก ๆ ว่าอาจไม่ใช่เขาก็ได้ไง
บ้าจริง คืนนี้ฉันไม่น่าใส่รองเท้าส้นสูงเลยให้ตาย เพราะเวลาฉันเดินเร็ว ๆ
แบบนี้แล้ว รองเท้ามันกัดเท้าจนรู้สึกปวดไปหมดเลยน่ะสิ นี่กลับไป ฉันว่าเท้ามันระบมแน่
ๆ เลยล่ะ
“จะรีบวิ่งไปไหนวะ เฮ้...เธอชื่ออะไร!” ลีโอวิ่งไล่ตามหลังมาติด ๆ แต่ฉันทำเป็นไม่สนใจเขาพลางเร่งฝีเท้าเป็นการวิ่งไปที่รถของเจนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“แฮ่ก...ตามมาทำไมก็ไม่รู้” แม้ลมหายใจจะเปลี่ยนเป็นหอบแรงเสียแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่วายบ่นพึมพำเบา ๆ ออกมา
“เดี๋ยวสิ!”
หมับ!
แรงกระชากจากด้านหลังทำเอาฉันถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนไล่ตามทันที
ก่อนตนเองจะวิ่งไปถึงตัวรถของเจนเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
“ที่ตามมาเนี่ย
คือนายเปลี่ยนใจไม่ใส่ถุงแล้วใช่มั้ย ถ้างั้นฉันโอเคก็ได้นะ” ถึงแม้ว่าฉันจะแอบรู้สึกหวั่น ๆ
กับสีหน้าจริงจังระคนไม่พอใจของลีโอไม่น้อย แต่ฉันก็ยังไม่วายพูดจากวนประสาทเขาไม่เลิก
ทำไงได้ ฉันเป็นประเภทปากไวนี่นา แบบว่าพูดไม่คิดน่ะนะ
“เธอนี่แม่งตีมึนได้หน้าตายจริง
ๆ ว่ะ” ลีโอสบถ พร้อมเพิ่มแรงกอดรัดแน่นขึ้น
โดยไม่สนใจสักนิดว่าคนในวงแขนจะเจ็บและอึดอัดมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
ฉันเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขาอย่างไม่พอใจนัก สวนกลับจากคนตัวสูงมองมาด้วยสายตาหยาบคายไม่เปลี่ยน
แววตาของเขาดูน่ารังเกียจจนเห็นได้ชัด
ไอ้บ้า หื่นจนออกนอกหน้าจริง ๆ
“ถ้านายจะใส่ถุง นายก็ไปบริการคนอื่นเถอะ
ฉันขอผ่าน” ฉันกลอกตามองบนและเบะปาก
ใจจริงฉันอยากจะบิดตัวดีดดิ้นนะ แต่ถ้าหากทำอย่างนั้นขึ้นมา มันจะยิ่งทำให้โดนกอดแน่นมากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าน่ะสิ
จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่เราสองคนพูดคุยกันมาเนี่ย
ฉันว่ามันไม่มีความจำเป็นเลยด้วยซ้ำ
นี่ฉันงงตนเองอยู่เหมือนกันว่ามาอยู่ที่นี่ให้เสียเงินและเสียเวลาทำไมกัน ทั้งที่ความจริงแล้วฉันควรไปถามวาโยก็สิ้นเรื่อง
เขาเป็นน้องชายของลีโอ เรียนอยู่สาขาเดียวกับฉัน หรือไม่ก็ถามหงส์ไปเลยก็ได้
ฉันไม่น่าคิดอะไรซับซ้อนเลยนะ
ซึ่งมันก็จริงแหละที่ว่าฉันไม่อยากยอมรับความจริง
ฉันเลยอยากได้คำยืนยันจากปากของเจ้าตัวตรง ๆ
“นะ
นี่เธอหาว่าฉันเป็นผู้ชายขายตัวเหรอ!” เสียงตะคอกทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกและหลุดจากภวังค์ทันที
แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ฉันเอ่ยคำว่าขายเหรอ?
ฉันว่าไม่นะ
“ไม่ใช่เหรอ?” ฉันถามเขาพลางทำหน้ามึนงงครู่หนึ่ง แต่ในเมื่อเขาเข้าใจอย่างนั้น
ฉันก็ไม่คิดจะแก้ต่างใด ๆ ออกไป ฉันหรี่ตามองลีโอตรง ๆ อย่างดูถูกดูแคลน
ราวกับว่าเขาทำอาชีพอย่างนั้นจริง ๆ ดังนั้นฉันจึงพูดจากวนประสาทเขาอีกครา “ฉันได้ข่าวจากคนอื่นว่านายชอบเซ็กส์
ฉันก็นึกว่านายร้อนเงิน”
“เธอไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร!”
“นายก็คือสุขาเคลื่อนที่ไง”
“เธอว่าไงนะ?!”
“นี่ลีโอ นายอย่าลีลานักเลย
ฉันอยากมีประสบการณ์กับนายนะ นี่ไม่แน่นะ ถ้านายเด็ดจริงจนฉันร้องขอ ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะจ่ายให้หนะ...อื้อ!” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดจากวน
ๆ จนจบประโยคดีด้วยซ้ำ จู่ ๆ ลีโอก็โน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากเข้าหากันทันที
และด้วยความที่เมื่อกี้นี้ฉันกำลังปากดีใส่เขาอยู่ ลิ้นอุ่น ๆ ของเขาเลยสอดเข้ามาในโพรงปากของฉันอย่างง่ายดายนัก ก่อนเขาจะตวัดปลายลิ้นไปมาอย่างดุดัน
ซึ่งบ่งบอกถึงอารมณ์ในตอนนี้ได้ดี ฉันมัวแต่มึนงงยืนนิ่ง ยอมให้เขาบดขยี้ริมฝีปากตามอำเภอใจ
โดยลืมขัดขืนอยู่นานจนร่างกายรู้สึกใกล้จะขาดอากาศหายใจเต็มที ทว่าพอถึงจุดหนึ่ง ลีโอก็ยอมผละริมฝีปากออกไปและผลักตัวฉันให้ยืนออกห่างไปจากเขาอย่างรวดเร็ว
ทำให้ฉันที่ไม่ทันตั้งตัวเซจนแทบจะล่มลงพื้น
“...” ฉันมึนเบลอไปชั่วขณะ
รู้สึกไม่อิ่มอกอิ่มใจเท่าที่ควรนัก
เฮ้...เขาไม่ควรหยุดสิ
ฉันโคตรเสียดายสุด ๆ
เขาทำให้ฉันอยากแล้วจากไปน่ะ
“เธอ...ไร้ความรู้สึกจริง ๆ ด้วย ให้ตายเถอะ” เขาสบถอีกครั้ง
แล้วแค่นหัวเราะในลำคอเหมือนว่ากำลังรู้สึกสมเพชตัวเองเสียมากกว่าไม่มีผิด พร้อม ๆ กันนั้น
ดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนว่ากำลังโมโหไม่หาย
“...” ฉันเงียบ
สายตาเลื่อนมองริมฝีปากของเขาที่เปื้อนด้วยลิปสติกสีแดงสดของตนเองด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
สิ่งที่เขาพูดมานั้น มันไม่จริงเลยสักทีเดียว
ใครมันจะไร้ความรู้สึกขนาดนั้นกัน
ว่าแต่ลีโอเนี่ยก็จูบเก่งใช้ได้เลยนะ เขาไม่ได้รุนแรงกับฉันจนปากแตก แม้ว่าเขากำลังโมโหอยู่มากก็ตาม
จูบเมื่อกี้นี้
ทำเอาฉันตัวสั่นและหัวใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิด
ว่าแต่ว่าอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้นกันล่ะ?
หรือว่าสีหน้าฉันมันฟ้อง
แบบว่า...ตรงกับข้ามกับความรู้สึกจริง
ๆ ของฉันน่ะนะ
“แกจะกลับกับฉันมั้ยพะพาย
หรือจะไปต่อกับหมอนั่น!” เจนลดกระจกรถลงแล้วตะโกนถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
ฉันชะงักแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นลีโอมีท่าทีราวกับกำลังตกใจสุดขีด เขารีบขยับตัวยืนออกห่างจากฉันหลายก้าวและรีบยกมือหนาปกปิดใบหน้าตัวเองจากหลอดไฟที่ส่องมา
“กลับดีกว่า” ฉันหันไปบอกเจน
แล้วหันกลับมาพูดคุยกับลีโอต่ออีกครั้งเพื่อทิ้งท้าย “จูบอย่างเดียวถือว่าให้ฟรีก็แล้วกันนะ หรือว่าฉันต้องเสียตังค์จ่ายให้นายด้วยล่ะ?”
“เธออยากเสียตัวข้างถนนเลยมั้ยล่ะยัยบ้า
โธ่โว้ย!” ลีโอกัดฟันอย่างหัวเสียสุด
ๆ พลางหมุนตัวขยับข้างหลบหลีกแสงไฟ ฉันได้แต่กะพริบปริบ ๆ มองท่าทางของเขาด้วยความงุนงงสุด ๆ
นี่เขารู้จักเจนเหรอ?
ฉันได้แต่สงสัย แต่เลือกที่จะไม่เอ่ยถามออกไปในทันที แล้วแกล้งทำเป็นไขสือพูดจากวนเขาต่อ
“ไม่ได้เงินนี่ถึงกับต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ยัย...!”
“อ้อ จริง ๆ แล้วผู้ชายอย่างนาย ต่อให้เซ็กส์ฟรี ฉันก็ไม่เอาหรอก
กลัวติดเอดส์น่ะ” ฉันพูดรัว ๆ ทิ้งท้ายให้ลีโอเจ็บใจเล่น
และเมื่อพอเห็นลาง ๆ ว่าหัวไหล่ของเขาสั่น
ๆ ในมุมมืด
ตนเองก็ไม่ช้ารีบวิ่งเข้าไปในตัวรถของเจนทันทีอย่างรวดเร็ว เพราะฉันกลัวว่าตนเองจะโดนดีเข้าให้ในที่สุด
“เฮ้อ...กว่าจะเข้ามานะ!” ปิดประตูรถเสร็จ
เจนก็บ่นใส่ทันที
“เจน
แกรู้จักลีโอเป็นการส่วนตัวมั้ย?” ในเมื่อฉันสงสัย
ฉันก็ไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามออกไป ซึ่งคนคนนี้ต่างหากที่ต้องเป็นคนมาตอบคำถามฉัน
เจนมีอาการชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ายอมรับ “เขาเคยจีบฉันเมื่อไม่นานมานี่น่ะ แต่แกก็รู้นี่นาว่าฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” เจนมีท่าทีอึดอัดในตอนที่กำลังอธิบาย
เธอไม่หันมาสบตากับฉันตรง ๆ และเมื่อฉันปล่อยให้ความเงียบระหว่างเราสองคนนานเป็นนาที
เธอก็กลบเกลื่อนอาการด้วยการสตาร์ทรถแล้วขับออกไป “แกอย่าไปใส่ใจเลยพะพาย
แกก็รู้ดีไม่ใช่เหรอว่าหมอนั่นน่ะ เจ้าชู้จะตายไป หมอนั่นจีบผู้หญิงไปทั่วเลยงี้ ต่อให้ฉันไม่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว
ฉันก็ไม่สนใจหมอนั่นหรอก”
“ดี เพราะเขาเป็นของฉันแล้ว แกก็รู้” ฉันว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันไม่อยากใช้ผัวร่วมกับแก เพราะงั้นแกต้องทำความเข้าใจให้มาก
ๆ นะว่าฉันน่ะขี้หวงมากแค่ไหน”
บทจะกวน นางก็กวน
บทจะจริงจัง นางก็จริงนะเออ
นางเอกเรื่องนี้จะกวน ๆ แบบมึน ๆ นะคะ
บางทีด้าเองก็ไม่เข้าใจนางเหมือนกัน
เรื่องนี้ต้องแต่งตอนง่วงนอนเท่านั้น ฮ่า ๆๆ
เอาแล้ว รุกเลยจ๊ะ อย่างไวเลย ฮ่า ๆๆ
นี่เป็นการทักทายอย่างงง ๆ สุด ๆ
ไม่มีโมเมนต์อะไรทั้งสิ้น
นางอยากมาก็มา
นางอยากไปก็ไป ฮ่า ๆๆ
ความคิดเห็น