หิ่งห้อยตัวน้อย พระจันทร์ดวงโต กับลมหนาวแรกของปี - หิ่งห้อยตัวน้อย พระจันทร์ดวงโต กับลมหนาวแรกของปี นิยาย หิ่งห้อยตัวน้อย พระจันทร์ดวงโต กับลมหนาวแรกของปี : Dek-D.com - Writer

    หิ่งห้อยตัวน้อย พระจันทร์ดวงโต กับลมหนาวแรกของปี

    หิ่งห้อยตัวน้อย…พระจันทร์ดวงโต…ทุ่งนากว้างใหญ่กับลมหนาวแรกของปี

    ผู้เข้าชมรวม

    993

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    993

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 พ.ย. 54 / 08:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      หิ่งห้อยตัวน้อยพระจันทร์ดวงโตทุ่งนากว้างใหญ่กับลมหนาวแรกของปี

       

      หมู่บ้านของฉันเป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบท

      เป็นหมู่บ้านกลางทุ่งที่ไร้ความเจริญอย่างเมืองใหญ่

      หมู่บ้านของฉันไม่มีแสงของสปอร์ตไลท์ที่เปิดสว่างทั้งคืน ไม่มีร้านเบเกอร์รี่ให้ซื้อเค้กอร่อยๆ ไม่มีโรงหนังฉายหนังไซด์ไฟล์

       

      แต่หมู่บ้านของฉันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างหลายสิ่งหลายอย่างที่เมืองใหญ่ไม่มี

       

      งานลอยกระทงในหมู่บ้านของฉัน

      ไม่มีการประกวดนางนพมาสผู้งดงาม ไม่มีวงมโหรี ไม่มีวงดนตรีหรือเครื่องเสียงดังกระหึ่ม

       

      แต่ที่นี่ก็มีการประกวดกระทง

      การประกวดกระทงที่ทุกคนในหมู่บ้านเอากระทงที่ตัวเองแสนจะภูมิใจขึ้นไปตั้งวางประกวด

      กระทงใหญ่งดงามไปด้วยใบตองสีเขียว พลับพลึงสีขาว และดอกไม้หลายสีที่ทุกคนในคุ้มช่วยกันทำตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น

       

      กระทงอันเล็กที่เด็กตัวน้อยทำกันขึ้นมาเอง บิดไปหน่อยเบี้ยวไปบ้าง แต่มันก็สวยงามยิ่งนักในความรู้สึกของคนทำ

       

      แล้วกระทงอันใหญ่ กระทงอันน้อย กระทงแสนสวย กระทงบู้บี้ ก็ถูกนำขึ้นไปวางบนชั้นประกวดทุกอันอย่างที่ไม่มีใครน้อยหน้าใคร

       

      กระทงอันใหญ่แสนสวยที่คนทั้งคุ้มช่วยกันทำได้รางวัลชนะเลิศ

      แต่กระทงอันน้อยบิดๆเบี้ยวๆก็ได้รางวัลความพยายาม

      เงินสิบยี่สิบบาทกับลูกอมไม่กี่เม็ดที่ถูกหย่อนลงในกระทงทุกอัน

      แม้มันจะไม่มาก อาจจะดูน้อยค่าในสายตาของคนเมือง แต่สำหรับเด็กน้อยผู้เป็นเจ้าของกระทงนั้น มันกลับเป็นสิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจ ^^

       

      หมู่บ้านของฉันไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่

      แต่หมู่บ้านของฉันก็เต็มไปด้วยแสงของโคมไฟดวงน้อยในวันลอยกระทง ^^

      โคมไฟดวงน้อยที่ท่านเจ้าอาวาสวัดเข้าไปซื้อในเมืองใหญ่เพื่อให้ทุกคนในหมู่บ้านได้ปล่อยกันด้วยรอยยิ้ม

      ให้เด็กตัวน้อยได้กระโดดโลดเต้นเมื่อโคมไฟนั้นลอยขึ้นไปบนฟ้ากว้าง

       

      หมู่บ้านของฉันไม่มีสระน้ำกว้างในวัด

      ทุกคนในหมู่บ้านจึงต้องออกเดินเดินด้วยระยะทางกว่าสามกิโลเมตรเพื่อที่จะไปลอยกระทงในฝายใหญ่

      แล้วระหว่างทางที่เดินล่ะ?...ระหว่างทางที่เดินจะเห็นอะไรในหมู่บ้านของฉัน?...

       

      ระยะทางสามกิโลเมตรที่คนหนุ่มคนสาว เด็กเล็ก วัยรุ่น พี่ป้าน้าอา คุณตาคุณยาย ทุกคนในหมู่บ้านเดินไปพร้อมๆกัน

       

      สิ่งแรกที่เห็น คือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำทักทายและเสียงหยอกล้อที่ทุกคนมีให้กัน

      นั่นทำให้ฉันเห็นความสุข ^^

       

      ฉันเห็นพระจันทร์ดวงโต ที่ส่องสว่างจนเห็นรวงข้าวในทุ่งนาริมสองข้างทางได้อย่างชัดเจนทุ่งนาในตอนกลางคืนที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปี

       

      ฉันเห็นความพยายามของเด็กๆ

      ที่แม้ระยะทางจะไกล แม้จะเหนื่อย แม้จะล้มลุกคลุกคลานกลิ้งไปตามพื้นถนนจนกระทงคว่ำแล้วคว่ำอีก

      แต่ทุกครั้งที่มันคว่ำเขาก็จะเก็บมันขึ้นมาใหม่ด้วยเสียงหัวเราะแล้วก็จะเริ่มต้นก้าวเดินอีกครั้ง

       

      ฉันเห็นแสงไปวิบวับดวงน้อยที่เกาะอยู่บนยอดหญ้าริมทาง

      แสงไฟดวงน้อยที่แม้จะมีเพียงแค่ดวงเดียว

      แต่มันก็เป็นแสงไฟหนึ่งดวงที่ทำให้เด็กๆหลายคนได้รู้จักกับเจ้าตัว หิ่งห้อยเป็นครั้งแรก ^^

       

      ฉันเห็นคำว่าน้ำใจ

      น้ำใจของเด็กชายวัยรุ่นที่ถอดเสื้อลงไปแหวกหญ้ารกในหนองน้ำใหญ่

      แม้อากาศจะหนาว สายลมแรงจะพัด น้ำจะเย็นซักแค่ไหนเขาก็เต็มใจทำเพื่อให้กระทงของทุกคนในหมู่บ้านมีโอกาสได้ลอยออกไปแสนไกล

       

      ฉันเห็นอาการงอนที่แสนจะน่ารัก

      วัยรุ่นจุดประทัดเสียงดังจนทุกคนต้องสะดุ้งจนป้าๆน้าๆต้องค้อนให้วงโต

      อาการค้อนที่มาพร้อมกับคำบ่นภาษาถิ่นยาวเหยียดที่สร้างเสียงหัวเราะใสๆให้กับคนฟังทุกคน

       

      ฉันได้พบกับลมหนาวแรกของปี

      ลมหนาวแรกที่พัดมาทักทาย ต้องผิวเนื้อให้รู้สึกเย็นจนอยากจะเข้าไปนอนซุกในผ้าห่มหนาๆ

      แต่รอยยิ้มของทุกคนที่เดินอยู่รอบข้างก็ทำให้อุ่นได้ยิ่งกว่าผ้าห่มผืนไหนๆ

       

      ฉันเห็นกลุ่มดาวนายพรานที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า

      ส่องสว่างให้เห็นชัดเจนแม้ว่าจะเป็นคืนเดือนเพ็ญก็ตาม

       

      เวลาสามชั่วโมงท่ามกลางทุ่งนา ลมหนาว หิ่งห้อย และพระจันทร์

      ฉันได้สัมผัสกับคำว่า ความสงบสุข

      ความสงบสุขที่ฉันไม่ได้พบกับมันมานานแสนนานนานจนแทบจะลืมความรู้สึกนั้นไปแล้วด้วยซ้ำ

      แต่วันนี้ฉันก็ได้พบกับมันอีกครั้งให้ฉันได้ยิ้มได้กว้างๆ ได้หัวเราะเสียงดังๆและได้มานั่งเขียนบันทึกอยู่แบบนี้

       

      มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของฉันที่จะได้พบกับสิ่งเหล่านี้

      แต่ฉันก็ดีใจที่ได้พบกับมันก่อนที่วันพรุ่งนี้จะมาถึง

      วันพรุ่งนี้ที่ฉันต้องกลับไปยังเมืองใหญ่ที่ฉันจากมากลับไปใช้ชีวิตที่แสนจะวุ่นวายนั้นอีกครั้ง

       

      หมู่บ้านของฉันเป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบท

      เป็นหมู่บ้านกลางทุ่งที่ไร้ความเจริญอย่างเมืองใหญ่

      ไม่มีแสงของสปอร์ตไลท์ที่เปิดสว่างทั้งคืน ไม่มีร้านเบเกอร์รี่ให้ซื้อเค้กอร่อยๆ ไม่มีโรงหนังฉายหนังไซด์ไฟล์

       

      แต่หมู่บ้านของฉันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เมืองใหญ่ไม่มี

      หลายสิ่งหลายอย่างที่เรียกว่าความสุข ^^

       

       

       



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×