สองหมื่น
บันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับมุมมองสองหมื่นวันของชีวิตค่ะ ยังไงก็ลองเข้ามาอ่านแนะนำและติชมกันได้เด้อ ^^
ผู้เข้าชมรวม
1,006
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
บทความนี้เป็นบันทึกที่ไอวิชเขียนลงในเฟสบุ๊คค่ะ
เป็นสิ่งที่เพื่อนขอให้เขียนให้อ่าน แต่พอเขียนออกมาแล้วก็รู้สึกชอบเอง ฮ่าๆ
ต้องขอขอบคุณ หนังสือของคุณนิ้วกลม และเพลงสองหมื่นของเฮียแตมป์ หรือ แสตมป์ อภิวัชร์
ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ไอวิชได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาค่ะ ^^
ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านรึเปล่า? แต่ก็หวังว่าจะมีใครซักคนหลงเข้ามาอ่าน
และก็หวังยิ่งกว่าว่าคนคนนั้นจะอ่านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้านะคะ ^^
ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยเน้อ ^^
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
มีใครคนหนึ่งขอให้ฉันเขียนฟิคเพลง "สองหมื่น" ให้อ่าน ^^
แต่ว่า...นี่ไม่ใช่ฟิค และฉันก็รู้ว่าฟิคในความหมายของใครคนนั้นมันคือแบบนี้ ไม่ใช่ฟิคแบบที่ฉันรู้จักและเขียนอยู่ทุกวัน ^^ (แต่ถ้าไม่ใช่ ก็คงต้องขออภัย)
ฉันได้แต่รับปากใครคนนั้นออกไปว่าจะเขียนให้ได้อ่าน แต่กลับไม่เคยคิดจะเปิดคอมขึ้นมาเพื่อที่จะเขียนมันเลยด้วยซ้ำ...จนกระทั่ง วันนี้อะไรบางอย่างทำให้ฉันคิดได้ว่า...ถ้าหากว่าวันนี้มันเป็นครั้งสุดท้าย ล่ะ?...ถ้ามันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต แล้วฉันจะมีโอกาสได้เขียนให้เค้าอ่านรึเปล่า?...
คงต้องขอบคุณใครอีกคนหนึ่งที่ทำให้ฉันคิดได้แบบนี้ แม้ว่าเค้าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม (และฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าจะรับรู้ได้ไหม?) แต่มันก็ทำให้ฉันมานั่งเขียนสิ่งนี้อยู่ในตอนนี้ ^^
คุณนิ้วกลมกับเฮียแตมป์และใครอีกหลายคนเคยบอกเอาไว้ว่า...
ตลอดชั่วชีวิตของคนเรานั้น เราทุกคนต่างก็มีเวลาเฉลี่ยเพียงแค่สองหมื่นวันเท่านั้น
แล้วคำถามก็คือ...เราจะใช้เวลาสองหมื่นวันนั้นกันยังไง?
แน่นอนว่าทุกคนก็ย่อมที่จะใช้มันแตกต่างกันออกไป...ตามแต่ความพอใจและความสุขของแต่ละคน
ในขณะที่ใครหลายคน...พยายามที่จะใช้สองหมื่นวันนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด (ตามที่ตัวเองคิดว่าแบบนี้มันคุ้มแล้ว)
แต่ ก็ยังมีใครอีกหลายคนเช่นกัน...ที่เลือกที่จะจบชีวิตของตัวเองลง แม้ในวันที่หนึ่งหมื่นเก้าพันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ...และหนึ่งในคนเหล่า นั้น...ก็คือคนที่ทำให้ฉันตัดสินใจมานั่งเขียนบันทึกอยู่แบบนี้ ^^
หลาย ครั้งที่ฉันถามตัวเอง (และบ่อยครั้งยิ่งกว่าที่เฝ้าถามใครคนนั้น) ว่าทำไมกันนะเค้าถึงเลือกที่จะจากไปเร็วนัก?...ทั้งๆที่เวลาของเค้าพึ่งจะ ถูกใช้ไปเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งของเวลาสองหมื่นวันด้วยซ้ำ?...
แต่ นั่นก็เป็นสิ่งที่เค้าได้ตัดสินใจแล้วเค้าเลือกที่จะใช้เวลาของตัวเองเพียงแค่นั้น…
แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ฉันก็ไม่ควรจะไปดูถูกการตัดสินใจของเค้า...เพราะแม้ว่า เค้าจะอยู่บนโลกใบนี้ไม่ถึงวันที่หนึ่งหมื่นเก้าพันของชีวิต แต่จำนวนวันที่ไม่ถึงหนึ่งหมื่นของเค้านั้นมันอาจจะเป็นวันที่เค้าใช้ไปได้ อย่างมีค่ามากกว่าฉันที่ใช้มาทั้งชีวิตเสียอีก
และมันก็มีบางเวลาที่แม้แต่ฉันเองก็ยังเคยคิดอยากจะทำแบบเค้า…เพียงแต่ว่าฉันไม่มีความกล้ามากพอ…ฉันยังรักเวลาสองหมื่นวันที่ฉันยังใช้ไม่หมดมากเกินกว่าที่จะทำแบบนั้นได้…
ฉันเชื่อว่าในเวลาสองหมื่นวันของคนทุกคนก็ต้องมีช่วงเวลาแบบนั้นเหมือนกันหมด…ช่วงเวลาที่คิดว่า ถ้าหลับไปแล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องตื่นขึ้นมาพบเจอกับความวุ่นวายหรือปัญหาที่ไร้ทางออกก็คงจะดี…
และเพราะว่าในตอนนี้คนที่ขอให้ฉันเขียนบันทึกนี้ให้อ่าน อาจจะกำลังพบเจอกับช่วงเวลาแบบนั้นอยู่ ฉันจึงนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้…
อะไรบางอย่างที่ฉันเองก็ลืมมันไปนานแล้ว…อะไรบางอย่างที่ตัวฉันในอดีตพยายามที่จะบอกตัวฉันในปัจจุบัน…
และตัวฉันในปัจจุบันก็อยากที่จะบอกมันต่อกับคนที่ฉันรักผ่านบันทึกนี้…
และนี่ก็คือข้อความจากหน้าแรกในสมุดเฟรนชิพของฉันเมื่อตอนม.6…ช่วงเวลาหนึ่งในสองหมื่นวันที่ฉันแสนจะคิดถึงมัน ^^
18 ม.ค.51
10.47 น.
ถึงตัวฉันในอีก ปี 2 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปีข้างหน้า
ถึงตัวฉันเองในอนาคต ฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอจะทำอะไรอยู่? ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน? รู้จักกับใคร? หรือว่าจะยังเป็นฉันคนเดิมเหมือนในตอนนี้รึเปล่า? แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง? ในเมื่อเธอหยิบเฟรนชิพเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอกำลังเหงาหรือว่าเหนื่อยอยู่ใช่มั๊ย? แต่ฉันว่าฉันเดาถูกนะ และฉันในตอนนี้ก็อยากให้ฉันในอนาคตซึ่งก็คือเธอเองนึกถึงช่วงเวลาที่จะจบ ม.6 นี้เอาไว้ให้มากๆ ฉันว่ามันคงจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการกำลังรู้สึกไม่แน่ใจกับก้าวต่อไป ในชีวิตและความรู้สึกแย่ที่ต้องจากกับเพื่อนที่เรารักมากหรอกนะ ไม่ว่าเธอจะเจอกับอะไรที่เลวร้ายก็แล้วแต่ อยากให้เธอรู้ว่ามันเทียบกับความรู้สึกเสร้าของฉันในตอนนี้ไม่ได้แน่ๆ เพราะฉะนั้นหลังจากที่เธออ่านเฟรนชิพเล่มนี้จบจนถึงหน้าสุดท้ายแล้วก็ขอให้ เธอรู้เอาไว้ว่า เธอได้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดไปแล้ว ดังนั้น ลุกขึ้นสู้ซะ!
ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องจำได้ จำทุกสิ่งทุกอย่างทุกเรื่องราวที่อยู่ในช่วง ม.ปรายนี้ได้ เพราะในเมื่อฉันตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่มีวันลืม ดังนั้น เธอก็ต้องไม่ลืม ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้มันเป็น 3 ปีที่มีความสุขสุดๆ สนุกสุดๆ แล้วก็ประทับใจที่สุด…ทั้งๆที่ไม่คิดว่าจะสนุกได้อย่างนี้แต่ก็เผลอสนุก ไม่คิดว่าจะมีความสุขได้มากมายขนาดนี้แต่ก็เผลอมีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็จำไม่ได้
ตัวฉันในอนาคต ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ว่า ครั้งหนึ่ง ที่นี่ ที่ที่ฉันอยู่ในตอนนี้ เธอและฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแต่ยังมีเพื่อนทุกคนเป็นพวกพ้อง เป็นคนที่เรารักและรักเราอยู่…แล้วเธอก็จะยิ้มได้
จากตัวเธอเอง
จากวันนั้นที่ฉันเขียนเอาไว้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันหยิบมันขึ้นมาอ่าน…ฉันไม่ได้อ่านเพราะฉันกำลังเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้าย แต่ฉันอ่านเพราะเพื่อนของฉันกำลังเจอกับมันต่างหาก (แปลว่าตัวฉันในอดีตเดาผิดไปเรื่องนึงสินะ ^^)
อ่านแล้วก็ให้รู้สึกว่าหมั่นไส้ตัวเองได้อย่างน่าประหลาด…เด็กหนอเด็ก อายุยังไม่ถึง 20 แต่อาจหาญจะมาสั่งสอนผู้ใหญ่วัย 22 อย่างฉันในตอนนี้ จะเรียกว่าหยิ่งยโสหรืออะไรดีนะ? ^^
แต่ข้อความเหล่านี้มันก็ทำให้ฉันนึกถึงเพลงสองหมื่นของเฮียแตมป์ได้พอๆกับที่เพลงสองหมื่นทำให้ฉันนึกถึงข้อความพวกนี้…
ในเมื่อฉันผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตมาแล้ว…แล้วจะกลัวอะไรกับอีกหนึ่งหมื่นกว่าวันข้างหน้าล่ะ จริงมั๊ย?
เวลาที่เหลืออีกไม่ถึงสองหมื่นวันนั้นฉันตอบไม่ได้หรอกว่าจะใช้มันได้คุ้มค่าแค่ไหน?...
แต่ที่แน่ๆก็คือ ฉันจะทำทุกๆวันให้เป็นวันที่ฉันหัวเราะได้กว้างๆ และยิ้มได้อย่างมีความสุข…จนกว่าวันที่หนึ่งหมื่นเก้าพันของชีวิตจะมาถึง
และฉันก็หวังว่าทุกคนที่ได้อ่านบันทึกนี้จะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน ^^
ผลงานอื่นๆ ของ I...wish ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ I...wish
ความคิดเห็น