ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #22 : ฝากบอก 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.13K
      37
      28 ส.ค. 60



    เบญจาวางสายจากนายเริ่มแล้วรีบเดินกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ เธอเตรียมอาหารเที่ยงไว้เรียบร้อยแล้ว แต่คงต้องนำไปอุ่นในไมโครเวฟสักนิด คนเป็นเจ้านายจะได้รับประทานอาหารร้อน ๆ หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือแล้วคอยฟังเสียงว่าเจ้านายของเธอมาถึงหรือยัง เพราะเขาจะมาถึงราวเที่ยงสิบห้านาทีทุกวัน

    หญิงสาวอุ่นอาหารแล้วนำมาวางบนโต๊ะจนครบ เสียงรถก็มาถึงราวกับตั้งเวลาได้อย่างนั้น เขาเคยบอกเธอว่าที่ทำงานของเขาอยู่ห่างจากที่นี่ไปเพียงไม่กี่ซอย แต่เธอก็ไม่เคยกล้าถามละเอียดนักว่าเขาทำงานอะไรที่ไหน เพราะไม่ใช่ธุระของลูกจ้างที่จะไปซักประวัติเจ้านาย

    เพียงไม่นานเขาก็เดินเข้ามาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นกางเกงสแล็กสีดำ ดูออกว่าตัดเย็บด้วยผ้าเนื้อดีมีราคา เมื่อเห็นเธอเขาก็คลี่ยิ้มหวานส่งให้ จนคนที่รอรับอยู่อดเสไปชวนพูดเรื่องอื่นไม่ได้ เพราะเธอแก้มร้อนผ่าวทุกทีที่เห็นรอยยิ้มและประกายบางอย่างในดวงตาคู่นั้น

    “เอ่อ ทานข้าวเลยไหมคะ เบญตั้งโต๊ะไว้แล้ว”

    “ครับ แล้วเจ้านิลไปไหนเอ่ย” ถามพลางกวาดตามองหา

    “ก็คงอยู่แถว ๆ นี้ละค่ะ เมื่อกี้เห็นนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพรมอยู่เลย” หญิงสาวหันไปมองพรมขนฟูที่วางไว้หน้าทีวีตรงโต๊ะรับแขก

    “ผมตื่นเต้นอยากเห็นเจ้านิลใส่ชุดใหม่เต็มทนแล้ว” เขาเอ่ยอย่างขำขัน

    “นั่นไงคะ มาแล้ว” เธอชี้ไปยังเจ้านิลที่กำลังก้าวลงบันได

    “โอ๊ะ โอ ลูกชายป๊าหล่อจริงเลยวันนี้ ใส่สูทผูกเนกไทเชียว” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปอุ้ม เจ้านิลทำหน้าไม่สู้ชอบใจนักกับชุดหล่อของมัน

    “กว่าจะยอมใส่ได้ เบญเหนื่อยเลยค่ะ ท่าทางเขาจะไม่ชอบนะคะ คงรำคาญ” หญิงสาวว่าพลางไปยืนใกล้ ๆ

    “ครับ เขาเคยอยู่สบาย ๆ เอาอะไรไปห่อไว้ก็คงรำคาญอยู่บ้าง แต่คุณเบญตัดได้สวยจังเลย แบบก็เก๋มาก” เขาจับเจ้านิลมาหมุนดูชุด ซึ่งออกแบบเหมือนชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเสื้อคอปกสีขาวแล้วมีเนกไทสีเหลือง

    “ขอบคุณค่ะ เบญชอบงานฝีมือ”

    “งั้นตัดให้ผมบ้างสิครับ” หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้น

    “ตัดแบบชุดเจ้านิลเหรอคะ”

    “โธ่ คุณเบญก็...ตัดแบบเจ้านิลผมจะใส่ได้ยังไงละครับ” เบญจาหัวเราะขำ  

    “คุณดลก็พูดเป็นเล่น ไปทานข้าวเถอะค่ะเดี๋ยวจะกลับไปไม่ทันเริ่มงาน” หญิงสาวไม่รับคำแต่เดินนำเข้าไปในครัว

    “ผมพูดจริงนะครับ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครตัดเสื้อให้ผมใส่สักที มีแต่ซื้อมาใส่ แบรนด์เนมแต่แบบมันก็ซ้ำ ๆ คนอื่นอยู่ดี”

    “งั้นถ้ามีเวลาเบญจะลองตัดให้ค่ะ” เธอรับคำไปอย่างนั้น เพราะไม่คิดว่าเขาจะจริงจังอะไรนัก คงพูดเล่นไปตามประสา

    “ปกติคุณเบญตัดเสื้อผ้าเป็นด้วยหรือเปล่าครับ”

    “ค่ะ เมื่อก่อนเบญรับตัดเสื้อผ้านี่ละค่ะ ส่งหลานสาวเรียนจนจบปริญญา แต่ช่วงหลังคนนิยมเสื้อผ้าสำเร็จรูปกันมาก งานตัดเย็บพวกนี้ก็น้อยลงเบญเลยไปทำอย่างอื่น พอน้องแพรเรียนจบมีงานทำเขาก็ไม่ให้เบญทำงานแล้วค่ะ เขาไม่ชอบให้เบญเย็บจักร”

    “อ้าว ทำไมหรือครับ”

    “เขากลัวว่าเบญจะเหนื่อย บอกว่าอยู่กันสองคนค่าใช้จ่ายไม่เยอะมาก เขาหาคนเดียวได้ เบญก็ไม่อยากขัดใจเขาค่ะ แต่ก็ยังแอบตัดชุดน้องหมาไปฝากร้านขาย แต่ต้องแอบทำนะคะ เห็นทีไรเป็นต้องโดนดุ” เธอเล่าให้ฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำให้เขารับรู้ถึงความรักระหว่างน้าหลานได้ชัดเจนขึ้น

    “หลานสาวคุณเบญกตัญญูดีนะครับ”

    “ค่ะ เป็นโชคดีของเบญ” เธอยิ้มปลื้มใจ

    “เห็นคุณเบญบอกว่าเย็บชุดน้องหมาฝากร้าน...” เขาเอ่ยขึ้น

    “ค่ะ ตอนนี้ยังมีเหลืออยู่หลายกล่องเลยค่ะ แอบเย็บเล่นแก้เหงา แต่เบญเอาซ่อนน้องแพรไว้ค่ะ พอดีป่วยซะก่อนเลยยังไม่ทันได้เอาไปฝากขาย”

    “ป่วย” เขาทวนคำ

    “อ้อ เบญเป็นความดันต่ำน่ะค่ะ นี่ละที่น้องแพรไม่ชอบให้เบญเย็บจักร กลัวว่าจะหน้ามืดขึ้นมาอีก แต่ตอนนี้หายแล้วละค่ะ เพราะไม่มีอะไรให้เครียดแล้ว น้องแพรก็มีครอบครัวที่ดี เบญก็ไม่ต้องลำบากเหมือนแต่ก่อน มาทำงานกับคุณดลก็มีรายได้ดี งานก็ไม่หนักมาก คงหายหน้ามืดไปอีกนานเลยค่ะ” เธอแกล้งหัวเราะขำขันไปอย่างนั้น แต่จริง ๆ แล้วเธอยังยึดติดอยู่กับบ้านหลังนี้

    เพียงแต่เมื่อได้กลับเข้ามาอยู่ที่นี่ไม่ว่าด้วยในตำแหน่งใดก็ตาม มันก็ทำให้เธออบอุ่นและมีความสุขขึ้น มีความหวังอยู่กับการรอคอยการติดต่อกลับมาของพี่สาวที่จะนำเงินก้อนใหญ่มาขอซื้อคืน

    การที่เธอสนิทสนมกับเขา อาจทำให้เมื่อสักวันหนึ่งเขาต้องการขายบ้านหลังนี้จริง ๆ เธอจะได้รับรู้เป็นคนแรก และเขาอาจจะขายให้เธอในราคาที่เธอพอมีจ่าย เธอหวังไว้อย่างนั้น จึงพยายามทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อให้เขาเห็นแก่มิตรภาพที่มีต่อกัน

    “ถ้าอย่างนั้น ผมคงไม่กล้าใช้งานคุณเบญเยอะแล้วละครับ เดี๋ยวคุณเบญป่วยขึ้นมาอีกหลานสาวคุณเบญเอาผมตายแน่”

    “ไม่มีงานอะไรหนักสักหน่อย แค่ทำงานบ้าน เบญทำไปเรื่อย ๆ ก็เพลินดีค่ะ ให้อยู่ว่าง ๆ สิคะ เครียดตายเลย ความดันคงได้กลับมาอีกแน่ ๆ” เธอว่าอย่างนั้น ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง

    “ผมว่าหลังบ้านเรารกจัง ยังคิดอยู่ว่าจะเอาพื้นที่ที่เหลือไปทำอะไรดี”

    “เมื่อก่อนด้านหลังบ้านเป็นแปลงผักค่ะ เป็นสวนดอกไม้ และมีสระบัวด้วยค่ะ เบญอยากให้กลับมาเป็นแบบเดิมจัง” เธอว่า

    “หรือครับ นั่นสินะครับ คุณเบญเคยเข้ามาที่นี่เมื่อตอนเด็ก ๆ นี่นา งั้นเราทำให้มันกลับไปเป็นแบบเดิมดีไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมาปรึกษาด้วยท่าทีจริงจัง

    “ดีค่ะ” เธอรับคำยิ้มแย้ม

    “แต่คุณเบญคนเดียวคงทำไม่ไหว พื้นที่เยอะแยะขนาดนั้น ส่วนนายมั่นก็คงแค่ใช้งานให้มาตัดมาโค่นต้นไม้ได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น งานที่บ้านโน้นก็เยอะพอดูเหมือนกัน”

    “งั้น ให้นายมั่นแค่มาตัดโค่นแล้วปรับพื้นที่ก็พอค่ะ ที่เหลือเบญจะค่อย ๆ ทำไปดีไหมคะ”

    “ไม่ดีครับ ผมให้คุณเบญทำตำแหน่งที่ปรึกษาและช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ไม่ยอมให้ไปเป็นคนสวนแน่นอน จริง ๆ แล้วผมควรจ้างคนสวนสักคน มอง ๆ หาอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้ารับใครเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะคนสมัยนี้ไว้ใจยาก คุณเบญก็เป็นอยู่หญิงอยู่คนเดียวผมกลัวจะอันตราย” คิดถึงคนงานที่ปล้นฆ่าเจ้านายซึ่งออกข่าวบ่อย ๆ แล้วเขาก็ยังขยาด แล้วประกายวูบในดวงตาของเธอก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

    “เอ่อ เบญรู้จักนายเริ่ม ที่เขาเคยเป็นคนสวนที่นี่ ตอนนี้เขาไปทำงานก่อสร้างอยู่แถวฝั่งธน เราลองชวนเขากลับมาไหมคะ นายเริ่มไว้ใจได้ทีเดียวค่ะ ทำงานบ้านนี้มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อเขาเชียวค่ะ” หญิงสาวเสนอเพราะในใจก็อยากให้คนงานเก่าแก่กลับมาอยู่ด้วยกันเร็ว ๆ

    เธอเห็นคนงานเหมือนญาติสนิทคนหนึ่ง จึงไม่อยากให้ไปอยู่ทำงานลำบากลำบน ไหนจะอายุก็น่าจะสี่สิบห้าเข้าไปแล้วจะมีแรงทำงานก่อสร้างได้นานแค่ไหนกันเชียว

    “หรือครับ เอาสิครับ ถ้าคุณเบญรู้จักจะได้ทำงานร่วมกันได้ง่ายหน่อย ห้องแถวเล็ก ๆ ด้านหลังห้องครัวนั่นคงเป็นที่อยู่คนงานเก่าใช่ไหมครับ” เขาเอ่ยถึงห้องแถวชั้นเดียวสามคูหาซึ่งตอนนี้ผุพังเต็มที ประตูหน้าต่างหลุดลุ่ยสึกกร่อนไปตามกาลเวลา เหลือเพียงผนังปูนกับหลังคาที่ตอนนี้เถาวัลย์เลื้อยคลุม

    “ใช่ค่ะ แต่ทรุดโทรมมากทีเดียว” เธอว่า

    “งั้นถ้านายเริ่มตกลงมาอยู่กับเรา ก็ให้นายเริ่มมาอยู่ที่นั่น เขาเป็นช่างก่อสร้างอยู่แล้ว คงจะพอซ่อมแซมได้อยู่มั้งครับ ผมจะให้เงินคุณเบญสำหรับซ่อมแซมที่พักของนายเริ่ม จะจ้างใครมาช่วยนายเริ่มซ่อมบ้านก็ตามแต่คุณเบญแล้วกัน ส่วนตอนนี้คุณเบญจัดให้เขาพักอยู่ห้องชั้นล่างไปก่อนจะซ่อมบ้านเสร็จก็แล้วกันครับ” คนเป็นเจ้านายสั่งการ

    “ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วยิ้มน้ำตาซึม ที่คนเก่าคนแก่ของเธอจะได้กลับเข้ามาแล้ว ราวกับมีอะไรดลจิตดลใจให้เธอคิดถึงนายเริ่มขึ้นมาในวันนี้ ทำให้หญิงสาวหวนคิดถึงบิดาไม่ได้ ที่บางอย่างทำให้เธอรู้สึกเหมือนท่านยังอยู่ด้วยตลอดเวลา

    “เอ่อ แต่นายเริ่มมีเมียและลูกอีกหนึ่งคนค่ะ” เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านายเริ่มไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยเหมือนเมื่อก่อน คนเป็นเจ้านายเงยหน้าขึ้นมายิ้มสดใส

    “ก็ดีสิครับ มาอยู่กันหลาย ๆ คน ถ้าเมียนายเริ่มขยันขันแข็งผมก็จะได้จ้างมาช่วยคุณเบญทำงานบ้าน”

    “เอ่อ แต่เบญทำไหวค่ะ คุณดลจะสิ้นเปลืองเงินเสียเปล่า ๆ” เธอนึกเกรงใจที่ได้เงินค่าจ้างก้อนใหญ่แล้วเขายังจะเปลืองเงินจ้างคนทำงานบ้านมาช่วยเธออีก ทั้งที่บ้านนี้มีเขาเป็นเจ้าของบ้านอยู่คนเดียว แค่นี้ก็แทบจะไม่มีอะไรให้ทำแล้ว

    “ไม่เป็นไรครับ อยู่กันหลายคนก็อบอุ่นดี” เขาว่าอย่างนั้น พูดตรง ๆ ก็คือมีคนอยู่เยอะ ๆ มันก็ทำให้เขาอุ่นใจแถมลดความกลัวได้อีก ถือว่าได้โชคสองชั้นทีเดียวถ้านายเริ่มที่เธอบอกจะมาอยู่ที่นี่จริง ๆ

    <-------------------------------------------->


    ตอนเมื่อวานไม่มีพี่ดลกับเจ้านิล เรตติ้งตกมากมีคนคอมเมนต์เค้าแค่คอมเมนต์เดียวเอง วันนี้เลยพาทั้งพี่ดลทั้งเจ้านิลมาเรียกเรตติ้งต่อ รักพี่ดลรักเจ้านิลขอเสียงหน่อยนะคะ ส่วนคนเขียนรักคนอ่านทุกคนค่า ไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์หรือนักอ่านเงา เรายินดีต้อนรับหมดเลย ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ติดตามอ่านค่ะ...ทิพย์ทิวา 6/3/2015 21.18


    <------


    อ้อ..พ่อจ๋าแม่จ๋า ไรท์ขอใช้พื้นที่ขายของนิดนึงนะคะ ขอฝากอีบุ๊คเรื่องเงารักในม่านฝนด้วยนะคะ ใครไม่เคยอ่านเข้าไปโหลดอ่านตัวอย่างได้ตามลิงก์นี้ได้เลยนะคะ เงารักในม่านฝน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×